~ สายใย .. ไฟรัก ~
~ สายใย .. ไฟรัก ~


เส้นสายใย .. ใครกันหนอ .. ที่ทอถัก
เส้นสายรัก .. ใครจักสาน.. ขานคำขอ
เส้นทางเดิน .. ใครเหินห่าง .. ต่างเฝ้ารอ
ไฟรักพอ .. ต่อหัวใจ .. ให้อุ่นอิง




เธอ .. คือ เพื่อนสนิทของน้องสาวเพื่อนรัก

เขา .. คือ ผู้บริหารโรงแรมจอมเผด็จการ แต่กลับเป็นเพื่อนรักพี่ชายของเพื่อนสนิท

ทว่า ..

เธอ .. ในสายตาของเขา .. คือ คนอวดดี ยโส ที่ใช้เพื่อนเป็นทางผ่านไปสู่ความสำเร็จของตัวเอง

เขา .. ในสายตาของเธอ .. คือ ผู้ชายไร้เหตุผล เอาแต่ตนเองเป็นใหญ่

ที่สำคัญเหนืออื่นใด .. ทั้งเธอและเขา .. กำลังตกหลุมรักคนที่ไม่ควรจะรัก!




***************************
Tags: ความรัก ครอบครัว เพื่อน

ตอน: ใยเส้นที่ 9 .. ยากเกินจะหยั่งถึง




มัสลินถึงกับยิ้มไม่หุบทีเดียวเมื่อก้าวพ้นประตูขาออก หลังจากเครื่องบินโดยสารในประเทศลงจอดได้ไม่นาน แล้วเธอพบว่า พายพัดกับรัศมิทัตมายืนรอรับจริงๆแม้เจ้าตัวจะบอกปฏิเสธเพื่อนไปแล้วก็ตาม

ระหว่างทางกลับบ้านพายพัดขอให้รัศมิทัตจอดส่งเธอที่สำนักงานสาขาของวิริยา ไทยทัวร์ แต่ให้ชายหนุ่มเพียงคนเดียวไปส่งมัสลินจนถึงที่หมาย ก่อนที่จะกลับมารับเธออีกครั้งเพราะตกลงกันไว้ว่า จะเดินทางต่อไปยังบ้านของสองเพื่อนสนิทที่ต่างจังหวัด

มัสลินได้ฟังก็เก็บความคิดที่ว่า จะเข้าบริษัทกับเพื่อนสาวโดยปริยาย ยินยอมให้หนุ่มสถาปนิกมาส่งถึงบ้าน ซึ่งเคยแวะมาบ่อยครั้งอยู่แล้ว

“ขอบใจนะทัต อุตส่าห์เสียเวลาไปรับ นี่ยังจะพามาส่งถึงบ้านอีก”

“เรื่องเล็ก .. แล้ว .. คุณฟ้า .. เป็นยังไงบ้าง”

รัศมิทัตเอ่ยถามไม่รีรอเมื่อสบโอกาสที่ได้อยู่ตามลำพัง เขาคิดว่า พายพัดไม่อยู่ก็ดีเหมือนกัน เพราะเมื่อเช้าก็โดนเพื่อนตำหนิไปไม่ใช่น้อย แต่ด้วยความอยากรู้ทำให้ไม่อาจระงับใจเอาไว้ได้

“ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เมื่อเช้าถึงกับต้องให้พี่ชาย .. คุณเพลิงกัลป์มาส่งที่กระบี่”

“คุณฟ้าเป็นอะไร”

คำตอบคลุมเครือของมัสลิน กระตุ้นความใคร่รู้พอๆกับความห่วงใยที่มีมาก .. มากเสียจนจุกอกเมื่อคิดได้ว่า เขาอาจเป็นต้นเหตุเหล่านั้น

“ใครทำอะไรไว้ .. น่าจะรู้อยู่กับใจนะ”

วาจาที่เชือดเฉือนไม่ต่างจากมีดแหลมและคม สามารถที่จะทิ่มแทงแล้วกรีดความรู้สึกของคนฟังเป็นริ้วๆได้ในคราวเดียว สีหน้าของชายหนุ่มในวัย ๒๔ เศษดูเผือดไป จนมัสลินได้แต่ปรายสายตาคว้างค้อนแถมไปวงใหญ่

“ไม่ต้องมาทำหน้าสลด .. นี่ถ้าพายไม่เล่าให้ฟังก่อน ฉันคงไม่รู้หรอกว่า นายลงมาที่ลาลัล แล้วนึกยังไง ถึงไปลองใจพี่ฟ้าแบบนั้น .. ไร้หัวคิดจริงๆ”

“ก็ .. แค่ ..”

รัศมิทัตเลียริมฝีบางที่จู่ๆก็แห้งผากขึ้นมา ยามได้ฟังคำต่อว่ารอบสองในตอนบ่าย ระยะเวลาห่างกันไม่กี่ชั่วโมง แต่ดูจะรุนแรงกว่าพายพัดหลายเท่าตัว

“ก็แค่อะไร .. อย่าบอกนะว่า นายจะปล่อยมือจากพี่ฟ้าไปจริงๆ .. เหอะ เชื่อเลย ผู้ชายก็แบบนี้”

ไม่รู้เหมือนกันว่า อะไรดลจิตดลใจให้มัสลิน นึกเปรียบเทียบไปยังใครบางคน .. จากพฤติกรรมที่ได้พบเห็น

ชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันครางเสียงอ่อย ราวกับว่าหนหางที่เลือกและกระทำไปแล้ว ล้วนแต่สร้างรอยขีดข่วนจนเนื้อตัวพอกแผลยับเยิน ให้แก้ต่างอย่างไรก็คงฟังไม่ขึ้น เพราะถูกตีโต้กลับมาได้หมด

“โธ่ .. ลินิน แล้วจะให้เราทำยังไง ในเมื่อพี่ฟ้าเขายังทำใจรับเราไม่ได้ เราน่ะไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ติดแค่นิดเดียวว่าเราดันเกิดช้ากว่าปีสองปีเท่านั้นเอง”

“อ้าว .. เริ่มโทษคนอื่นอีก .. แมนๆหน่อยนายทัต .. ดูอย่างคุณตามพ์สิ ตั้งกี่ปีมาแล้วที่รอพายของเราน่ะ ฉันว่า สถานะของนายตอนนี้ ก็ไม่ได้แตกต่างกับคุณตามพ์เลยนะ .. โอเค เรื่องอายุเราไปเปลี่ยนแปลงในข้อนี้ไม่ได้ แต่นายทำอย่างอื่นได้นี่ .. ทำให้พี่ฟ้าเชื่อใจ .. มั่นใจว่านายน่ะ เป็นลูกผู้ชาย ไม่ใช่ลูกแหง่”

“อูย .. เจ็บ”

มัสลินรู้ตัวดีว่า ถ้อยคำที่ใช้ตำหนิเพื่อนชายคนสนิทรุนแรงไม่น้อย แต่เพราะคบหากันมานาน เธอจึงไม่หวั่นสักนิดว่า รัศมิทัตจะตีความผิดแล้วแปรเป็นโทสะขุ่นเคือง

“ขอโทษนะ ถ้าฉันพูดตรงไป .. เพราะความเป็นห่วงทั้งนั้น นั่นก็รุ่นพี่ที่แสนดี นายก็ถือเป็นเพื่อนที่ไว้วางใจได้ แล้วถ้าคนที่พวกเรารู้เห็นกันมาตลอดว่า เป็นคนดี ต้องมาเลิกร้างหมางใจจากการกระทำโง่ๆ .. มันจะไม่ยิ่งทำให้คนถูกกระทำเสียใจมากกว่าเหรอทัต”

หญิงสาวทันได้เห็นคนมีน้ำใจขับรถมาส่งเธอ ชำเลืองหางตาเรียวใต้คิ้วเข้มเฉียงชี้บอกลักษณะนิสัยกล้าคิดกล้าตัดสินใจได้เป็นอย่างดี .. หากแต่ว่า ครั้งนี้ เป็นความกล้าที่ดูจะผิดที่ผิดทางไปหน่อย

“ขอบใจนะลินิน .. ที่เตือนสติ เรารู้ตัวดีและยอมรับผลจากสิ่งที่ทำลงไป เราอยากให้คุณฟ้าเป็นอย่างที่ลินินบอก ให้มั่นใจในตัวเรา เชื่อในความรู้สึกของเรา .. แต่ .. มันคงจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าคุณฟ้ายังไม่มั่นใจในความรู้สึกของตัวเอง”

ผิดคาด! .. มัสลินได้ยินความคิดของรัศมิทัตที่ตั้งใจถ่ายทอดออกมา เหมือนกับที่เขาตั้งใจควบคุมพวงมาลัยและการขับขี่ตลอดเส้นทางเพื่อให้มีแต่ความปลอดภัย

หญิงสาวเริ่มคิดตามคำพูดของเพื่อน ซึ่งจะว่าไป ทั้งเธอและพายพัดมองเห็นแต่ความรู้สึกของรัศมิทัต ซึ่งมั่นใจได้เต็มร้อยว่า สถาปนิกหนุ่มคนนี้คิดอย่างไรกับรุ่นพี่ของพวกเธอ

แต่ว่า .. ถ้ายอมรับกันโดยสัตย์จริง พวกเธอ .. แม้แต่รัศมิทัตเอง ก็ยังไม่เคยเข้าใจได้ลึกซึ้งเลยว่า สถานะความสัมพันธ์ระหว่างเวหากับชายหนุ่มรุ่นน้อง .. สาวรุ่นพี่วางไว้ในระดับใดกันแน่




รถเอสยูวีที่เคยเป็นรุ่นล่าสุดเมื่อ ๔ ปีก่อนจอดส่งผู้โดยสารที่หน้ารั้วบ้านหลังขนาดกะทัดรัด หากดูร่มรื่นในสายตาของผู้มาเยือน

เนื่องจากมัสลินรู้ทราบว่าเพื่อนต้องเดินทางต่อ จึงไม่ต้องการให้รัศมิทัตเสียเวลามากไปกว่านี้ เพราะจะต้องย้อนกลับไปรับพายพัดที่สำนักงานสาขา พวกเขาถือโอกาสขอบคุณและร่ำลากันแต่เพียงหน้าบ้าน

หญิงสาวมองส่งจนรถยนต์ลับตา แล้วตวัดกระเป๋าเป้สะพายไหล่ให้กระชับ หันหลังกลับพลางใช้มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงยีนส์ มือควานหาลูกกุญแจครู่หนึ่งก่อนนำมาไข

ขณะนั้นมัสลินได้ยินเสียงฝีเท้าก้าวเดินเข้ามาใกล้ๆ แต่คิดว่าคงเป็นใครที่เดินผ่านไปผ่านมา กระทั่งเงียบลงข้างหลังจนเธอผิดสังเกต

“ลินิน”

ชื่อของหญิงสาวถูกเปล่งมาจากน้ำเสียงโทนต่ำกังวานลึก แต่มันกลับเรียบเบาราวกับเกรงอกเกรงเจ้าของชื่อนัก ในการเอ่ยปากแต่ละครั้ง

คนถูกเรียกตัวแข็งทื่อหยุดการเคลื่อนไหวทันใด มือถือลูกกุญแจชะงักค้าง กระทั่งได้ยินใครคนนั้นย้ำชื่อของเธอซ้ำ เมื่อยังไม่มีปฏิกิริยาใดตอบสนอง

“ลินิน ..”

มัสลินยังไขกุญแจไม่สำเร็จเพราะมือไม้สั่นไปหมด จนต้องกำลูกกุญแจไว้แน่น

หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกพยายามไม่ให้ใครจับอาการ ที่มาจากความรู้สึกประเดประดังหลากหลายภายในได้

เรือนร่างเพรียวแลปราดเปรียวคล่องแคล่ว หันกลับมาช้าๆเพื่อเผชิญหน้ากับบุคคลที่เธอ .. ไม่ต้องการพบเจอ

“มาทำไมคะ .. พ่อ”

สายตาคมสวยที่ปกติก็ดูดุอยู่แล้ว ยิ่งแข็งกร้าวยามสบนัยน์ตาหลังแว่นใส ที่สวมอยู่บนใบหน้าเรียวผอมอุดมร่องรอยกาลเวลา ยิ้มกว้างขวางจืดเจื่อนจนแทบจางหาย เพราะ ‘ลูกสาว’ ไม่เต็มใจที่ได้เห็นทอทิว

“พ่อมารอลินิน .. ป่านบอกพ่อว่า ลูกจะกลับวันนี้”

มัสลินนิ่วหน้าคล้ายไม่พอใจยามได้ยินชื่อของอาหนุ่ม ตอนที่ออกมาจากปากบิดา ทั้งๆที่กำชับนักหนาแล้วว่า อย่าเอ่ยหรือเล่าอะไรเกี่ยวกับเธอให้ผู้เป็นพ่อฟัง

แต่อาของเธอก็ยังเห็นพี่ชาย .. ดีกว่าหลานสาวจริงๆ

ทอทิวอ่านสายตาฉายแสงเรืองของมัสลินออก ว่ากำลังคิดอย่างไรกับเขาและบุคคลที่สาม

“อย่าไปโกรธอาป่านเลยลูก .. พ่อเคยฝากเขา ให้ช่วยดูแลลินิน ในส่วนที่พ่อ .. ทำไมได้”

“หนูอยู่คนเดียวได้ ดูแลตัวเองได้ค่ะ .. ไม่ต้องให้ใครมาดูแล”

เมื่อเห็นว่าลูกสาวไม่ยอมอ่อนลงเลย บิดาจึงลอบผ่อนลมหายใจแผ่วเบา ท่าทางเขาคงได้แค่เห็นหน้าลูก แต่ไม่อาจเข้าใกล้ได้มากกว่านี้

ความผิดของเขาโดยแท้ .. ที่ปล่อยปละละเลยครอบครัว กว่าจะรู้ตัว .. สายใยผูกพันพ่อลูก ก็แทบจะขาดวิ่น

หรือมัน อาจจะขาดไปตั้งแต่ภรรยาของเขา .. แม่ของลูกเสียชีวิตในวันที่การงานก้าวหน้าไปไกล

ทอทิวยังไม่ละความพยายาม .. นึกถึงเรื่องเมื่อครู่ที่มีรถเอสยูวีมาส่งหน้าบ้าน จึงชวนคุยอย่างต้องการรับรู้เรื่องราวรอบตัวของมัสลิน

“ใครมาส่งลินินเหรอลูก ..รึว่าลูกสาวพ่อ โตจนมีหนุ่มมาจีบ เทียวรับเทียวส่งแล้ว”

“ทำไมเหรอคะพ่อ .. พ่อกลัวว่าหนู จะเจอผู้ชายที่เป็นอย่างพ่อเหรอคะ”

“ลินิน”

ความเจ็บช้ำของแม่ที่มัสลินรับรู้ กระทั่งป่วยแล้วเสียชีวิต โดยไม่ทันได้เห็นความสำเร็จของลูกสาวคนเดียว และยังไร้ซึ่งเงาของผู้เป็นบิดา ยิ่งทำให้เธอเชื่อมั่นอย่างสุดใจว่า แม่และเธอถูกเขาทอดทิ้งไปมีชีวิตใหม่ที่ดีกว่า

ตลอดเวลาที่ทอทิวยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่าย มัสลินไม่เคยทำใจยอมรับและใช้มันได้เลย เธอปล่อยให้มันอยู่ในบัญชีธนาคารอย่างนั้น แลกกับการใช้ชีวิตตามลำพัง .. ไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องพึ่งพาใครอื่น

“พ่อกลับไปเถอะค่ะ หนูเหนื่อย .. อยากพัก”

หญิงสาวลดเสียงอ่อนลง เมื่อเห็นสายตาสะท้อนความเสียใจ ผิดหวังเต้นระริกในแววตาคู่นั้น เธอจะไม่ยอมใจอ่อนเหมือนแม่ ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็มักจะคอยตักเตือนอยู่เสมอว่า อย่าคิดร้าย .. คิดทางลบกับพ่อ

เธออาจจะยอมฟัง .. แต่ไม่มีวันเชื่อและปฏิบัติตามได้แน่ๆ เพราะแม่ไม่ได้มารู้มาเห็นกับตาอย่างเธอ ว่าคนที่แม่ปกป้อง ทำร้ายแม่อย่างไม่มีทางให้อภัยได้

มัสลินลากสังขารที่อิดโรยกับหัวใจอันแห้งโหย เข้าบ้านมาหลังจากพ่อของเธอยอมกลับไปแต่โดยดี

ความอัดอั้นน้อยใจเอ่อท้นความรู้สึก .. และสำนึกแห่งความเสียใจ ก็กำลังกลุ้มรุมเล่นงานเธออย่างหนัก จนไม่อาจก้าวเดินต่อไปได้ จำต้องทิ้งร่างกับเก้าอี้ตัวใหญ่ที่แม่ของเธอชอบเอนหลัง ยามมีชีวิตอยู่แล้วเธอก็มักจะคลานมานอนซบตักเสมอๆ

น้ำตาหลั่งรินไม่อาจห้าม พร้อมกับเสียงร่ำไห้สะอึกสะอื้น รู้สึกผิดบาปในสิ่งที่ทำต่อพ่อบังเกิดเกล้าด้วยข้อหาร้ายแรง และมันจะสลักฝังแน่นไม่มีวันถอดถอนได้

ลูกอกตัญญู!





เพลิงกัลป์ต้อนรับขับสู้ศิราเป็นอย่างดีในฐานะตัวแทนของโรงแรมมณเฑียร สวีท โฮเทล และมันคงเป็นเรื่องธรรมดาที่ทางรู้ค จะดูแลคู่สัญญาในระดับเท่าเทียมกัน

แต่คราวนี้มีความต่างอย่างเห็นได้ชัด เพราะแทนที่ศิราจะได้พักห้องรับรองหลังเดียวกับที่คนของวิริยา ไทยทัวร์ เช็คเอาท์ไปตั้งแต่เช้า

ชายหนุ่มผู้เป็นนายหัว .. เป็นเจ้าของอาณาจักรแห่งนี้ กลับยกบีชฟร้อนท์ หรือ ห้องพักหน้าหาดที่สวยที่สุด วิวดีที่สุด ให้แขกคนสำคัญได้พัก

แม้ศิราจะไม่เห็นด้วย แต่เธอก็ไม่สามารถขัดความต้องการของเพลิงกัลป์เป็นได้ และเพราะข้อตกลงระหว่างกันของเธอกับเวหา ยิ่งทำให้น้ำท่วมปากที่จะบอกเขาว่า แท้จริงแล้วพวกเธอเป็นเพื่อนรักกัน

สิ่งหนึ่งที่ศิราต้องยอมรับคือ ที่นี่สวยงามกว่าที่คาดไว้จริงๆ ยิ่งที่พักกว้างขวางโอ่โถงเป็นสัดส่วน โลเคชั่นเบื้องหน้า มีแผ่นฟ้าและผืนน้ำ ราวกับม่านฉากผนวกพื้นเวทีการแสดง

หญิงสาวตื่นตาตื่นใจไปกับความเหมือนที่แตกต่าง ถึงจะเป็นท้องทะเลมีคลื่นลมเหมือนกัน ทว่า สัมผัสของสายลม กลิ่นไอทะเลยังรู้สึกได้ว่าผิดแผกจากสถานที่ที่เธอทำงานมาหลายปี

“เป็นยังไงบ้างครับ คุณศิรา .. จะให้คะแนนรู้คสักเท่าไหร่ดี”

“เกินกว่าที่คาดไว้ .. เต็มสิบ .. ให้สิบบวกเลยค่ะ คุณเพลิงกัลป์”

ผู้จัดการฝ่ายต้อนรับส่วนหน้า ของว่าที่คู่สัญญารายใหม่ตอบตามตรง ซึ่งชายหนุ่มผู้เป็นประธานของรู้ค รีสอร์ท แอนด์ สปา ก็เชื่อว่า นั่นคือความรู้สึกชื่นชมอย่างจริงใจ

ก็ดูดวงตาเป็นประกายอ่อนโยนบนดวงหน้าละมุนหวาน ที่ล้อมกรอบด้วยผมลอนยาวของศิราสิ ช่างชวนมองน่าหลงใหล ไม่เหมือนกับแม่ตัวดีที่ถึงดวงตาจะสวยคมแต่ดุวับวาว แล้วมักจ้องมองราวกับเขาน่ารังเกียจเสียเต็มประดา

บ้าน่า .. แกกำลังอยู่กับคนที่พึงพอใจ ทำไมต้องไปคิดไปนึกถึง .. ‘ยัยเด็กกะโปโล’ นั่นด้วย .. นายไฟเอ๊ย

“เรียกผมว่า .. ไฟ เฉยๆก็ได้ครับ ระหว่างนี้ผมจะทำหน้าที่แนะนำทุกอย่างเกี่ยวกับรู้ค แทนคุณเวหา ผู้จัดการฝ่ายต้อนรับของเราเอง”

“จริงสิ .. น้ำ เอ่อ .. ดิฉันก็มัวแต่ตื่นเต้น ลืมถามถึงคุณเวหาเลยค่ะ เห็นว่าไม่สบาย ดิฉันขอไปเยี่ยมเธอหน่อยได้ไหมคะ”

ศิราหวังเต็มเปี่ยมว่าเพลิงกัลป์จะเข้าใจและอนุญาต เพื่อที่หญิงสาวจะได้พูดคุยกับเพื่อนรักให้สมใจอยาก

“คงต้องรอสักวันสองวันครับ ฟ้า .. ยังต้องพักผ่อนอีกสักหน่อย”

ชายหนุ่มยิ้มกริ่มราวกับน้องสาวป่วยได้ประจวบเหมาะกับจังหวะและเวลา ซึ่งทำให้เขาได้ใกล้ชิดกับศิรา โดยไม่ต้องชักคลื่นน้ำทั้งมหาสมุทรมาอ้าง

หญิงสาวเสียดายพอสมควร แต่ยังคงรักษาอากัปกิริยาไว้ได้แนบเนียน คิดเสียว่า นับแต่วันพรุ่งนี้ไปอีกสองวัน เธอก็แค่ปฏิบัติภารกิจให้ลุล่วง หลังจากนั้น .. จะเป็นวันพักกายพักใจอย่างแท้จริง

“เย็นนี้ เชิญคุณศิรา .. ผมขอเรียกคุณน้ำนะครับ .. ดูกันเองดี .. ขอเชิญคุณน้ำมาดินเนอร์ริมสระตอนทุ่มหนึ่งนะครับ .. เอาล่ะ คุณมาเหนื่อยๆ พักผ่อนก่อนดีกว่า ..”

เพลิงกัลป์อารมณ์ดีกว่าวันไหนๆ โดยเฉพาะวันนี้ .. ไม่มีใครมาก่อความรำคาญให้หงุดหงิดใจ

เขาทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มที่คิดว่า มีคนที่พิเศษเท่านั้น ที่จะได้เห็น .. และนั่นคือ หญิงสาวที่อยู่ต่อหน้าเขาในขณะนี้

“ผมคิดโปรแกรมไว้ให้คุณน้ำเยอะเลย .. ค่ำนี้พบกันนะครับ”

ศิราได้แต่ยิ้มตอบกล่าวขอบคุณ หลังจากเพลิงกัลป์ลับสายตา หญิงสาวคลายสีหน้าแช่มชื่นแปรเป็นหม่นหมอง ราวกับกำลังหมดแรงจะแบกโลกนี้ไว้


โทรศัพท์ในกระเป๋าถือสั่นจนเธอรู้สึกได้ แล้วเสียงเพลงก็ตามมา รู้ได้ทันทีว่าคนป่วยคงรออยู่

“ฟ้า .. น้ำมาถึงแล้วนะ .. พี่ชายฟ้าให้น้ำพักบีชฟร้อนท์เลย .. เกรงใจจะแย่”

“ดีแล้ว .. วิวนั้นสวยสุด น้ำจะได้อธิบายลูกค้าได้ถูก ว่ามันให้ความรู้สึกยังไง”

“เสียงไม่ดีเลย .. ไม่สบายมากเหรอฟ้า .. เมื่อเช้ายังไม่ขนาดนี้นี่นา”

ศิราฟังน้ำเสียงแหบๆแห้งๆ ก่อนที่เวหาจะไอเบาๆ บวกกับคำตอบก็โรยแรง คล้ายเพื่อนโดนไข้หวัดเล่นงาน จึงพอจะเข้าใจแล้วว่า เพลิงกัลป์คงไม่อยากให้เธอป่วยไปอีกคน

“อืม .. จะไปส่งลินินยังไม่ไหวเลย ถึงต้องให้พี่ไฟไปรับไปส่ง .. เดี๋ยวฟ้าพักวันนี้เต็มวัน คืนนี้เต็มคืน พรุ่งนี้ก็คงไม่มีไข้แล้วล่ะ .. น้ำก็ไม่ต้องเป็นห่วงนะ เดี๋ยวพี่ไฟจะสงสัย .. แต่ตอนนี้ฟ้าง่วงมากเลย .. ค่อยคุยกันนะน้ำ”

“จ้ะ .. พักผ่อนเถอะ .. น้ำขอทำงานระหว่างฟ้าป่วยไปก่อน หายดีแล้วน้ำมีเรื่อง .. อยากคุยด้วยเยอะแยะเลย”

ศิราละหัวข้อที่เกี่ยวกับคนสำคัญไว้ แต่เป็นที่รู้กันกับเวหาว่าหมายถึงใคร ก่อนจะวางสายให้เพื่อนรักพักผ่อน

นี่ขนาดอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกัน .. หญิงสาวต่างถิ่นที่ก็ยังไม่สามารถเข้าไปเยี่ยมเพื่อนที่นอนป่วยได้

แล้วนับประสาอะไรกับคนที่ห่างไกล .. เธอจะรับรู้ได้อย่างไรว่าเขา .. ยังมั่นคงต่อเธอ และความรักที่มี




ศรตฤณรับฟังพี่ชายคนสนิทเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับมัสลินด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก ซึ่งน้องชายตามศักดิ์และลำดับไม่คิดว่า หลานสาวของเขาจะใจแข็งขนาดนี้

นับจากที่เขาไปอยู่ต่างประเทศ แม้จะได้ติดต่อกับมัสลินไม่ขาด แต่ก็ไม่ได้บ่อยถึงขั้นที่ว่า รู้ละเอียดทุกซอกทุกมุม

มันต้องมีบางช่วงเวลาที่พลาดไป และเขารู้เพียงแค่จากที่ทอทิว ลูกผู้พี่เล่าให้ฟัง แต่ไม่เคยได้ฟังจากมัสลินเลย

“พี่ทิวใจเย็นๆก่อนเถอะครับ ยัยนินอาจจะเหนื่อยอยู่ ทำให้หงุดหงิด ..”

“ลูก .. จะตั้งกำแพงกับพ่อยังไง .. อย่างน้อยให้คนเป็นพ่อได้รู้ต้นสายปลายเหตุสักนิดก็ยังดี”

ทอทิวเปรยอย่างสิ้นหวัง หนทางดูมืดมนไปหมด เขาเคยมุ่งประเด็นไปที่ว่า การหักโหมทำงานหนักอาจเป็นสาเหตุของเรื่องนี้ มากกว่าการมีครอบครัวใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นเมื่อไม่นานมานี้

“พี่แน่ใจนะครับ .. ว่าไม่ใช่คนใกล้ตัว .. ไปทำเรื่อง”

“นายหมายความว่ายังไง .. ป่าน .. อย่าพูดอะไรโดยไม่มีหลักฐานนะ”

“ครับ .. หลักฐานไม่มี ถึงทำได้แค่สันนิษฐานไง”

ศรตฤณพยายามควบคุมอารมณ์ให้มันสงบ เขาพอจะเข้าใจบ้างแล้วว่า ก่อนที่จะไปแก้ไขปัญหาที่ใคร บางที .. อาจต้องปรับแก้ที่ตนเองเสียก่อน

ปากรึก็อยากจะบอกออกไปตามใจคิด แต่ดูท่าทอทิวคงไม่พร้อมจะรับฟังความจริง เห็นที่นอกจากมัสลินแล้ว ก็มีพ่อของหลานนี่ล่ะ .. ที่เรียกได้ว่า เป็นต้นตอปมปัญหาของมัสลิน

“ซายน์คะ .. ยุ่งอยู่รึเปล่า เจ้านายของงามลงมาที่เกาะแล้วนะ .. ภายในสองสามวันนี้ เตรียมตัวให้พร้อมก็แล้วกัน .. งามจะขอคิวพิเศษให้คุณได้เข้าพบคุณนาคินทร์”

เพชรงามสาวเท้าเข้ามาในห้องนอนของศรตฤณ นำข่าวดีมาแจ้งให้ทราบ พลันต้องชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นคนที่เธออยู่ด้วยทั้งวันทั้งคืน ยามไม่ต้องไปทำหน้าที่ ‘เลขาฯ’ ทำหน้าตาเคร่งเครียด แต่ไม่ว่าใบหน้าแสดงอารมณ์ไหนของเขา ล้วนน่ามองและหลงใหลไม่สร่างซาสำหรับเธอ

“เร็วขนาดนั้นเชียว .. ผมเพิ่งคุยกับคุณเอง .. ทำไม?”

“ไม่ต้องสงสัยหรอกค่ะ .. คุณต้องการอะไร ถ้างามทำได้ .. งามพร้อมจะทำเพื่อคุณ .. ทุกอย่าง”

หญิงสาวพาร่างอ้อนแอ้นพราวจริตเย้ายวน ก้าวเข้ามาใกล้จนชิดแล้วนั่งเบียดชายหนุ่มที่วางสายจากญาติสนิทไปเรียบร้อยแล้ว

ถึงเวลางานของเขา .. เรื่องส่วนตัว .. ค่อยหาทางจัดการอีกที

“คุณน่ารักกับผมเสมอเลย .. งาม”

“น่ารัก .. แล้วรักบ้างไหมล่ะคะ”

กายก่ายเกยแนบชิดสะดวกที่วงแขนเรียวข้างขวาจะโอบเอวของศรตฤณไว้ มือข้างขวาไล้แก้มค้างเชิญชวน ดวงตาเป็นประกายลุ้นในคำตอบอย่างมีความหวัง

“อย่าบอกนะครับ .. ว่า คุณหลงรักผมน่ะ”

“ก็ถ้าเป็นอย่างนั้น .. คุณจะรักฉันตอบมั้ย .. ซายน์”

โชคดีที่พอจบคำถามนี้เพชรงามก็ซบศีรษะที่หัวไหล่ของเขา ชายหนุ่มทำได้เพียงวาดวงแขนรั้งกายบอบบางให้แนบชิดกว่าเก่า .. แทนคำตอบ

“สักวัน .. คุณก็อาจจะเกลียดผมก็ได้ .. เพชรงาม”

“ทำไมคะซายน์ .. รู้ได้ยังไง .. หรือว่า ที่ผ่านมาคุณหลอกใช้งาม”

เพชรงามผละออกจากการซุกซบเงยหน้าถาม ก่อนจะหัวเราะเบาๆ ราวขำขันกับคำพูดของศรตฤณ ที่ทำท่าตกใจตอนที่เธอพูดล้อเล่นแบบนั้น

“คุณ .. คุณรู้แล้วเหรอเนี่ย .. ว่าผม .. หลอก .. คุณ”

ชายหนุ่มเออออไปกับเธอ ก่อนกดร่างกลมกลึงลงบนที่นอนเหย้าหยอกประหนึ่งคนรักพึงกระทำต่อกันก็ไม่ปาน เพื่อกลบร่องรอยความจริงที่ไม่มีวันให้เธอได้รู้

เสียงหัวเราะสดใสที่ศรตฤณได้ยิน ฟังแล้วทำให้เขาสะทกสะท้านหวั่นใจ .. รู้ดีว่า ผู้หญิงอย่างเพชรงามเป็นอย่างไร

หากผู้หญิงยอมทุ่มเทได้ทุกอย่าง ยามหลงใหลในรสรัก .. เธอย่อมตอบแทนใครคนนั้นอย่างสาสม ยามเมื่อถูกทรยศหักหลัง .. ด้วยฤทธิ์แค้นเสมอกัน





นาคินทร์ พี. เซอร์เพนท์ ก้าวลงจากลีมูซีนที่ทางโรงแรมคิงเซอร์เพนท์ ออฟ เดอะ เซาท์ ซี โฮเทล จัดไปรับผู้บริหารระดับสูงทายาทคนเดียวของท่านประธานบริหารผู้ก่อตั้ง

หนุ่มใหญ่วัย ๔๐ ยังดูภูมิฐานและสง่างาม สมกับเป็นผู้ที่จะได้รับการสืบทอดธุรกิจ ที่มีมากมายในภาคพื้นเอเชีย

ความสามารถในการทำงาน ฝีไม้ลายมือถูกแสดงผ่านคิงเซอร์เพนท์ จนได้รับการไว้วางใจจากบิดาผู้ชุบเลี้ยงเขามาจวบจนวันนี้

แม้ตำแหน่งจะเป็นเพียงรองประธารฯ แต่เนื้อในแท้จริง .. นาคินทร์ คือ ตัวจริงของเดอะ เซอร์เพนท์

พนักงานถูกเกณฑ์มาตั้งแถวรอรับ ราวกับบุคคลสำคัญระดับประเทศกำลังมาเยือน ซึ่งก็ไม่ผิดไปจากคำเปรียบเปรย คำว่า ‘คนสำคัญ’ ไม่ใช่คำที่เกินจริง สำหรับนาคินทร์

รองประธานฯคิงเซอร์เพนท์ สาวเท้าผ่านเหล่าพนักงานไปอย่างรวดเร็ว เขาไม่ต้องการเป็นจุดสนใจของใคร เห็นทีงานนี้คงต้องเรียกบุคคลที่เจ้ากี้เจ้าการ ทำเรื่องไม่เป็นเรื่องเช่นนี้

“ติดต่อคุณเพชรงาม”

คำสั่งเรียบง่ายแต่เฉียบขาดกล่าวเพียงสั้นๆ คนติดตามก็เข้าใจได้ว่า นาคินทร์กำลังรอรายงานทุกอย่าง ระหว่างที่เขาไม่อยู่ที่นี่

คนติดตามโค้งรับ ถอยห่างออกมาปล่อยให้หนุ่มใหญ่ร่างสมาร์ท ก้าวไปขึ้นลิฟท์ตัวพิเศษ ก่อนจะเกิดเรื่องโกลาหลขึ้น เมื่อคล้อยหลังนาคินทร์

“ตายแล้ว .. แม่เพชรเม็ดงาม ไปอยู่ไหนเนี่ย ..

หญิงผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายต้อนรับที่จัดเตรียมคนมาต้อนรับ รำพึงรำพันออกมา เพราะไม่รู้ว่าจะไปตามคนสนิทของเจ้านายได้ที่ไหน








***************************************************************






โปรดติดตามตอนต่อไป ...


ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามฮะ ..



แรมรติ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ก.ค. 2558, 14:06:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ก.ค. 2558, 14:06:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 1241





<< ใยเส้นที่ 8 .. ความคิด ที่สวนทาง   ใยเส้นที่ 10 .. บางสิ่ง ที่ยิ่งกว่าแรงดึงดูด >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account