กำราบรักจอมเผด็จการ
'กฎของเราคือห้ามรัก' ชัคไม่คิดว่าจะพาอันนามาสู่อันตราย ร่วมมือกันเพื่อหาคนร้ายคือทางออกเดียวที่เธอจะออกไปจากวังวนของมาเฟียอย่างเขาได้
Tags: ความรัก อดีต ซาบซึ้ง

ตอน: ตอนที่ 13

ตอนที่ 13

รถมอเตอร์ไซค์ของแมสเซนเจอร์เพิ่งขี่ออกไป ชาญมองของที่ชัคอุตส่าห์ส่งมา คนปากแข็ง แต่ใจไม่ได้แข็งเลยสักนิด อันนาลงมาจากตึกพอดี แต่สีหน้าดูเหมือนไปโกรธใคร แต่ตาดูบวมๆ อย่างกับร้องไห้มา อาจเพราะดวงตาที่ดูเศร้าทำให้ชาญยิ้ม ทว่าคนยิ้มบ่อยกลับทำหน้าเฉยเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ สายตาเหม่อมองไปเหมือนไม่ได้อยู่ตรงนี้ด้วยกัน
ชาญเข้าไปนั่งเบาะคนขับแล้วส่งถุงใส่โทรศัพท์เครื่องใหม่ แต่ซิมเดิมให้อันนา หญิงสาวรับไปเปิดเครื่องเหมือนหาอะไรทำ มากกว่าสนใจจริงๆ
“คุณชัคเพิ่งสั่งให้คนส่งมาให้ครับ บอกว่าคุณคงต้องใช้ แต่ว่าถ้าเป็นพวกนักข่าวอย่าตอบอะไรเด็ดขาด”
“ค่ะ”
“ไปไหนต่อครับ กลับบ้านดีไหม” รถเลื่อนออกจากช่องจอดกำลังออกสู่ถนนใหญ่
“มีคนที่อยากพบน้ำอีกค่ะคุณชาญ ไปที่นี่...ให้ทีค่ะ สัญญาได้ไหมคะว่าจะเป็นความลับ ไม่บอกคุณชัคเด็ดขาดว่าน้ำอยู่ที่ไหนกับใคร”
ชาญรับโทรศัพท์มาดูข้อความที่ลิลลาเพิ่งส่งมา แต่ไม่รับปากเรื่องชัค อันนาเหม่อมองไปนอกรถซึ่งไม่พ้นคนช่างสังเกต ตอนมายังเบิกบานสดใส ทำไมตอนนี้เหมือนดอกไม้ถูกแดดเผา ไร้ชีวิตชีวา

หน้าตาของลิลลาดูซีดเซียวเมื่อจงใจแต่งให้เหมือนไม่ได้นอนมาทั้งคืน นักข่าวตามมาอย่างที่ต้องการ แน่ล่ะเธอสู้อุตส่าห์ออกมาจากโรงพยาบาลอย่างคนที่น่าสงสารอย่างที่แม่วางแผนไว้ ไปทำงานตามตารางงานทำตัวให้เป็นนักแสดงที่มีสปิริต แล้วนัดให้อันนามาพบกัน ท่ามกลางข่าวมโนไปเองว่าชัคจะมาหมั้นหมายเงียบกริบ แทนที่ด้วยสาวช้ำรัก ทุกข์ระทม ถึงจะเสียหน้าไปบ้าง แต่กระแสสำคัญในโลกโซเชียลเสมอ
นั่นไงนังตัวดีมาแล้ว ลิลลาเดินไปหาแล้วรั้งมือให้เดินตามมาที่โต๊ะ นักข่าวงงกันยกใหญ่นึกว่าจะมีตบกันเสียแล้ว อันนามองอย่างไม่วางใจ มาหวานเยิ้มแบบนี้ยิ่งอันตรายคูณสอง
“มาแล้วเหรอยัยตัวนี่ เธอแย่งแฟนฉันถึงขนาดเอาตัวเข้าแลก หน้าของเธอทำด้วยอะไร จะแก้แค้นฉันใช่ไหม” ลิลลายื่นหน้าเข้าไปกระซิบใกล้ๆ
“มาเป็นชุดเลย ฉันไม่ได้เอาตัวเข้าแลก แต่มีคนจัดฉาก”
“ก็เธอไงล่ะที่จัดฉากเพื่อจับพี่ชัค ทำไมแบบนี้ทำไม เธอก็รู้ว่าฉันกับพี่ชัครักกันมาสักพักแล้ว ฉันขาดพี่ชัคไม่ได้ ได้โปรดอย่าทำแบบนี้กับฉันเลยนะ” น้ำเสียงของลิลลาดังขึ้น น้ำตามาพร้อมกับหน้าตาโคตรน่าสงสาร
อันนาเบิกตากว้าง ไม่นึกว่าลิลลาจะมาแบบในละครนางเอกลุกขึ้นมาคุกเข่าร้องขอให้นางร้ายยอมปล่อยพระเอกไป คนเริ่มหันมามองกันใหญ่ แล้วนั่นกล้องถ่ายกันพรึบ นี่มันฉากหนึ่งในละครชัดๆ
“ดราม่าขนาดนี้เลยหรือ ลุกขึ้นได้แล้ว มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด”
ลิลลาคว้ามือเพื่อน(แค้น) มากุมไว้ เอาหน้าซบน้ำตาไหลพรากๆ อย่างกับสั่งได้ ให้ตายเถอะ อันนาอยากร้องไห้มากกว่าเสียอีก
“ไม่ผิดหรอก เรากำลังจะหมั้นกันจริงๆ”
สองสาวหันไปตามเสียงเช่นเดียวกับนักข่าวที่พากันรัวชัตเตอร์ไม่ยั้ง วินาทีประจันหน้าของรักสามเศร้ามาถึงแล้ว ลิลลาปล่อยมืออย่างกับเททิ้งรีบเดินไปหาชัค ทว่าเขากลับเดินผ่านเธอไปแล้วโอบไหล่ของอันนาต่อหน้าต่อตา แต่แม่นั่นกลับเล่นตัวเขยิบห่างออกหันไปมองผู้ชายที่เธอใฝ่ฝันตาขวาง
“มาได้ยังไงน่ะคุณ”
ชัคหันมามองแล้วคว้ามือให้นั่งลงด้วยกัน ส่วนลิลลาไม่ต้องบอกรีบกลับมานั่ง ท่าทางห่างเหินที่อันนาแสดงออกทำให้เริ่มเชื่อ จัดฉาก...แล้วใครทำล่ะ
คนยิ้มยากกลับยิ้มง่ายแถมยังกว้าง อันนาตวัดมองรู้ทันหรอกว่ายิ้มไปงั้นๆ แหละ
“ตลอดเวลาที่ผ่านมาลิลรู้อยู่แล้วว่าพี่คิดกับลิลอย่างน้องสาว แล้วพี่ก็จะรักน้องสาวคนนี้ตลอดไป” ชัคบอกเสียงไม่เบา ให้นั่งถัดไป 5 โต๊ะรวดยังไงก็ต้องได้ยิน
“พี่ชัค...”
หน้าของลิลลาซีดจริงล่ะคราวนี้ มือบางยื่นมาคว้ามือหนาน้ำตาเริ่มปริ่มไม่ใช่แสดงละคร
“แต่ลิลไม่ได้รักพี่ชัคอย่างพี่ชาย ลิลมาก่อนผู้หญิงคนไหนๆ ทำไมพี่ชัคไม่เคยมองเห็นลิลในสายตาบ้าง”
นักข่าวมองกันเลิกลั่ก จากรักสามเศร้าจะกลายเป็นรักเขาข้างเดียวเสียกระมัง อันนาเลื่อนเก้าอี้ให้ห่างออกมา แต่ว่าคนมือยาวยังอุตส่าห์ดึงให้กลับมานั่งชิดๆ กันได้
“เพราะพี่ไม่อยากทำให้ลิลเสียใจน่ะสิ” ใบหน้าคร้ามเลื่อนเข้าไปใกล้ลิลลา ตวัดมองนักข่าวอย่างรู้ทัน “นักข่าวที่แม่ของลิลจ้างมาคงไม่ได้อะไรมากไปกว่านี้แล้วล่ะ”
ลิลลาหน้าเจื่อนไม่รู้แล้วว่ารู้สึกยังไงบ้าง อกหัก เสียใจ เสียหน้า อยากร้องกรี๊ด แต่สุดท้ายทำไม่ได้เพราะนักข่าวมากันตรึม ชัคยิ้มอย่างจริงใจ เนื้อแท้แล้วลิลลาไม่คนเจ้าเล่ห์ แต่ภารดีต่างหากที่ตีกรอบให้ลูกเลี้ยงทุกอย่าง
“สำหรับน้องสาว บ้านของพี่ยังเปิดรับเสมอ ชวนคุณป้าไปด้วยล่ะ จะได้รู้จักสมาชิกคนใหม่ของเราสองครอบครัว”
อันนาชักสงสารเพื่อน หน้ากากนางเอกหลุดแล้วก็เหลือแค่หญิงสาวที่เสียใจในความรักเท่านั้นเอง ชัคลุกขึ้นแถมยังโอบเอวว่าที่คู่หมั้นที่ยังทำหน้างงๆ อยู่ขึ้นมาแล้วเดินไปด้วยกัน หากกล้องซูมมาสักนิดคงเห็นว่าเอวถูกแขนยาวรัดแน่นขนาดไหน
ลิลลาได้เศร้าเพียงไม่กี่วินาทีก็ถูกนักข่าวรุมรัวคำถามใส่ เธออยากร้องไห้ออกมาแต่ทำไม่ได้ สมองมึนชาไม่แน่ใจว่าเสียใจที่อกหักหรือทำให้แม่ผิดหวังกันแน่

นักข่าวยังตามพอเห็นชัคพาอันนามาที่รถก็พากันถ่ายรูปกันยกใหญ่ จน CEO หนุ่มหันมองแล้วยิ้มสยองให้ถึงได้ล่าถอยไป หญิงสาวอึดอัดจนอยากตะโกนให้รู้เรื่อง ‘คุณรู้เรื่องที่พ่อฉันตายหรือเปล่า’ แต่ถามแล้วจะได้อะไรในเมื่อเขาไม่รู้ว่าพ่อของเธอเป็นใคร เกี่ยวกับคุณชรันยังไง ร่างเพรียวเขยิบห่างมองหา สายตาคมมองตามพลางเปิดประตูรถให้ รถอีกคันกำลังขับเข้ามาจอดข้างๆ
“ขึ้นรถสิ”
อันนาหันมามอง “ฉันยังไม่อยากกลับ คุณกลับไปก่อนได้ไหม มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย มันเร็วจนฉันรับมือไม่ไหวในตอนนี้”
“แล้วคุณจะไปไหนล่ะ” ชัคถาม ประตูรถอีกคนเปิดออก นาวินก้าวออกมายืนข้างอันนาอย่างกับนัดกันไว้
“วินมาแล้ว ตอนนี้ไม่มีอะไรต้องปิดบัง นักข่าวรู้ว่าฉันเป็นผู้ในรูปนั้น คงไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ อีก”
สายตาคมแฉลบมองนาวินผ่านๆ ดาราหนุ่มถึงกับหน้าตึงด้วยความหมั่นไส้เลยยื่นมือไปจับแขนเรียวของอันนาไว้แสดงความเป็นเจ้าของ นักข่าวฮือฮาอีกรอบ ไม่มีตบจากลิลลา แต่อาจมีต่อยจากทางนี้
“ชาญจะไปกับคุณด้วยเพื่อความปลอดภัย ขับรถตามกันไป แต่ถ้าไม่ยอม ผมจะไปเอง”
คนกลางยกมือห้าม “ไม่ต้องค่ะ บางทีคุณอาจอันตรายกว่าใครทั้งหมดก็ได้”
นาวินยิ้มกวนเบื้องล่างใส่ศัตรูหัวใจรีบเปิดประตูให้อันนาเข้าไป ยามเดินกลับมาประตูฝั่งคนขับยังแกล้งยักคิ้วใส่สะใจไม่น้อย วันนี้เขาไม่ได้ทำงานเพราะใครล่ะที่ชกจนปากช้ำ
ชาญรีบขับรถตามไปมองนายแบบไม่เข้าใจนัก หากชัคไม่ยอมแล้วมีหรืออันนาจะไปไหนกับใครได้ บางทีเขาอาจจะมองพลาด นายไม่ได้คิดอะไรกับเด็กคนนั้น แต่เอาตัวเองไปพัวพันเสนอเรื่องหมั้นทำไม ไม่มีการวางมวยอย่างที่นักข่าวหวัง วันนี้ข่าววืดไม่มีอะไรจะเขียนแล้ว

นาวินขับรถมาเงียบๆ ทั้งที่อยากคุยกับอันนาจะขาด แต่สีหน้าเหมือนกำลังคิดหนักทำให้ไม่กล้ารบกวน จนกระทั่งมาถึงบ้านของธีรา สองสาวกอดกันกลมจนเขาอิจฉา พอจะขอทำบ้างกลับถูกมองมาตาเขียวจากยัยเพื่อนที่ตีเขาเกือบช้ำในไปเมื่อวาน ทั้งสามเดินมาที่ซุ้มข้างบ้าน นั่นล่ะคนห่วงถึงได้กล้าถาม
“เป็นยังไงบ้าง อีตาชัคทำอะไรน้ำหรือเปล่า บอกมาคำว่าเดียวว่าอยากให้มันกระอักเลือด วินจะไปจัดการมันเดี๋ยวนี้เลย”
ธีราหันมาถลึงตาใส่ นาวินยกมือยอมแพ้ ลืมไปตัวเองก็เป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้อันนามานั่งถอนใจอาลัยโลกอยู่ในตอนนี้
“น้ำถูกจัดฉากจากผู้ไม่หวังดี คุณชัคกำลังหาตัวคนทำอยู่ แต่เรื่องนั้นไม่สำคัญเท่าสิ่งที่น้ำจะเล่าให้ทั้งสองคนฟัง ฟังแล้วถ้าคิดว่าน้ำบ้าก็ช่วยพาไปส่งโรงพยาบาลที”
นาวินยิ้มกว้างเพราะยังมีหวัง แหมถ้ารู้ก่อนหน้านี้เขาจะย้อนชัคให้หน้าหงาย ธีราเห็นแล้วทนไม่ได้เพื่อนกำลังทุกข์ใจทำมาฟินเดี่ยวเลยตบหลังจนเพื่อนสะดุ้ง แต่ไม่กล้าหือ
อันนาค่อยยิ้มออกก่อนเล่าเรื่องที่ทำให้วันนี้ยาวนานและยากลำบากกว่าเคย มีเพียงสองคนที่เธอไว้ใจมากพอจะเล่าเรื่องของพ่อได้ เธอเล่าทุกอย่างยกเว้นคนที่น่าสงสัยมันยังเร็วไปที่จะปักใจเชื่อไปแบบนั้น สองเพื่อนพากันหน้าสลดเข้ามาปลอบใจแม้จะรู้ว่าอันนาทำใจได้แล้ว แต่การที่รู้ว่าพ่อถูกฆ่า ไม่ใช่หัวใจวาย ไม่ใช่เรื่องยอมรับกันได้
“เดี๋ยววินขอให้ลุงเมศเช็คให้ เผื่อจะได้ข้อมูลอะไรเพิ่มดีไหม เรื่องมันผ่านมา 8 ปีแล้ว หลังฐานหลายๆ อย่างจะยังอยู่หรือเปล่าไม่รู้ วินอยากให้น้ำเตรียมไว้บ้างนะ” นาวินโทรหาลุงทันที คุยกันไม่นานก็วางสาย “ลุงเมศบอกว่าจะดูให้ อีกวันสองวันจะโทรมาบอก”
“ขอบใจนะวิน” อันนาวางมือบนไหล่เพื่อนยิ้มให้จากใจจริง
นาวินยิ้มตอบแม้จะวืดไปบ้าง ถ้ากอดขอบใจเขาจะยอมให้ยัยมดซ้อมทั้งวันยังได้เลย
“ถ้างั้นก็ให้คุณชัคช่วยอีกทางดีไหม เขากว้างขวางจะตาย น่าจะช่วยได้แบบเงียบๆ แถมคนของเขาเป็นโขยงยังไงก็ต้องได้เรื่องบ้างหรอกน่า” ธีราเสนอเลยถูกเพื่อนชายทำหน้ามุ่ยใส่
“อย่าดีกว่า น้ำไม่ไว้ใครมากกว่าวินกับน้ำ”
นาวินยิ้มกว้างชื่นใจสุขล้นปรี่ อันนาไม่อยากกลับบ้านเร็วนักเลยกินข้าวกับเพื่อนๆ จนค่ำ ชาญก็ไม่ไปไหนทำตามคำสั่งนาย จน 3 ทุ่มนั่นล่ะ เธอถึงได้ยอมขึ้นรถของเขากลับ ไม่อยากให้นาวินไปเสี่ยงถูกมาเฟียยิงแสกหน้า ทำได้หรือเปล่าไม่รู้ แต่กันไว้ก่อน

ความร่าเริงและรอยยิ้มหายไปเมื่อรถขับออกมาจากบ้านหลังนั้น ชาญรู้สึกได้แต่ไม่รู้สาเหตุ อันนาเหม่อมองไปนอกหน้าต่างอีกแล้ว เธอต้องคิดวางแผน เมื่อคืนเขาบอกวิธีที่จะกู้ชื่อเสียงของเราและบริษัทคืนกลับมาว่ายังไงนะ ใช่ล่ะ นึกออกแล้ว
‘เราจะหมั้นกัน แต่เพียงให้สังคมรู้เท่านั้น เมื่อทุกอย่างคลี่คลาย ผมจะออกข่าวว่าถูกคุณถอนหมั้น คุณจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่พร้อมเงินหนึ่งก้อน ไม่ได้จะใช้เงินฟาดหัวหรอกนะ แต่เพราะการหมั้นกับผมจะทำให้คุณต้องลาออกจากงานสักระยะหนึ่ง หลังจากนั้นผมจะหางานใหม่ให้คุณเอง’
‘อีกสักพักนักข่าวก็เลิกตามแล้ว’ เธอจำได้ว่าแย้งไปแบบนี้ละมั้ง
‘นั่นก็เรื่องหนึ่ง แต่คนที่จัดฉากล่ะ คุณไม่อยากให้ผมสืบหรือว่ามันเป็นใคร ถ้ามันทำผมไม่ได้ก็ต้องทำคุณอยู่ดี การห่างกันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา’
เธอจะตัดสินใจยังไงดี บอกลาแล้วหาหลักฐานไปจับพ่อของเขา หรือว่ายอมรับข้อตกลงแล้วหาประโยชน์จากมัน เขาหาคนร้ายที่จัดฉาก ส่วนเธอได้คนร้ายตัวจริงไปเข้าคุก แต่จะแน่ใจได้ยังไงว่าคนร้ายเป็นพ่อของชัคจริงๆ
รถแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้านซึ่งมีรถสปอร์ตสีดำของชัคจอดอยู่ อันนาเริ่มไม่แน่ใจว่าควรก้าวลงจากรถหรือเปล่า แต่เมื่อตัดสินใจแล้วอย่าเดินถอยหลังอีกเด็ดขาด โอกาสมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น สูทสีครีมวางอยู่ที่โซฟาห้องรับแขก แต่ชัคล่ะไปอยู่ที่ไหน อันนามองหาแต่ไม่เจอ แม่บ้านชี้ไปที่สวนหย่อมข้างบ้าน เธอเดินผ่านสนามหญ้าเล็กๆ แสงไฟดวงน้อยไม่ช่วยอะไรมากนัก
“ผมมารอคุณ เรื่องที่บอกให้ตัดสินใจ คุณตัดสินใจว่ายังไง”
เกือบสะดุ้ง อันนารวบรวมสมาธิก่อนหันไปมองชัคที่นั่งบนสนามหญ้า ขาทั้งข้างเหยียดออกไปไร้มาดน่าเกรงขาม วันก่อนเขาดูเหมือนคนปากร้ายใจดี แต่วันนี้ปากร้าย ใจร้ายคงเหมาะสมกับเขามากกว่า
“กฎระหว่างเราสองคน คุณห้ามรักผมเด็ดขาด ถ้ายังหาคนร้ายไม่ได้ คุณต้องไม่รักผม ถ้ามันเกิดขึ้น ผมจะส่งคุณไป ที่ที่ไม่ใครตามหาพบ”
อันนานั่งลงบ้างห่างไปพอสมควร “ถ้าไม่ตกลงคุณจะฆ่าฉันหรือเปล่าคะ”
“ผมดูโหดร้ายในสายตาของคุณมากนักหรือ”
“คุณเคยฆ่าใครที่ไม่ใช่แค่ขู่บ้างหรือเปล่า”
ชัคผินหน้ามามองคนถาม “ไม่เคย”
คำตอบมาเร็วจนคนรอหันมามองอย่างแปลกใจ ช้าหรือเร็วบ่งบอกได้ไหมว่าใครกำลังโกหกอยู่ แต่ความสงสัยยังไม่หมดลงเท่านั้น
“แล้ว...พ่อของคุณล่ะคะ”
“อย่าก้าวร้าวถึงพ่อของผม” ความรื่นเริงหายไปจากน้ำเสียง “วันนี้คุณคงเหนื่อย พักผ่อนได้แล้ว พรุ่งนี้ผมจะส่งคนมาดูแลเรื่องการงานหมั้นที่เกิดขึ้นจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ถึงจะหมั้นเพื่อตามหาคนร้าย แต่ผมต้องแน่ใจว่าทุกอย่างดูดีและสมเกียรติ”
อันนาลุกขึ้นเดินมายืนค้ำมองคนเอาแต่ใจอย่างเหลืออด “ฉันยังไม่ได้บอกว่าตกลงสักคำ”
ชัคลุกขึ้นยืนบ้าง ความสูงของเขาทำให้ร่างเพรียวเล็กจ้อยเพียงไหล่ อันนาก้าวถอยหลังไป ทว่ามือหนาที่เร็วปานงูฉกคว้าเอวไว้ เอียงหน้าเข้ามาพูดใกล้ๆ
“ทางเลือกของคุณมีแค่ทางนี้เท่านั้น ผมไม่ชอบรอ หนึ่งวันพอแล้วสำหรับการเตรียมใจ”
มือทั้งสองยกขึ้นมาผลักอกหนาออกไป เสียงหัวเราะราวกับการเย้ยหยัน ไม่ใช่ คำตอบของเธอไม่ใช่แบบนี้ คำลาควรเป็นสิ่งสุดท้ายที่คนอย่างชัคควรได้ยิน ทว่าเรียวปากหนากลับยิ้มแล้วพลันก้าวจากไป อันนาวิ่งไปตะโกนไล่หลังว่าไม่ตกลง แต่เขาฟังเสียที่ไหนเข้าไปนั่งรถแล้วขับจากไป คืนนี้เธอจะหนีจากที่นี่ให้ได้

คนเจ้าเล่ห์ดันรู้ทันสั่งให้แม่บ้านมานอนหน้าห้อง อันนานั่งรอจนหลับไปยันเช้าพร้อมกระเป๋าเดินทางใบเดิม หน้าห้องสะดวกแล้วเธอรีบเดินย่องๆ มาทางประตูด้านหลังบ้าน พอเปิดออกไปก็พบคนของคนบ้าอำนาจยืนเฝ้าอย่างกับหุ่นยนต์ไม่หลับไม่นอนกันเลยหรือไง หน้าบ้านยิ่งไม่ต้องหวัง สุดท้ายก็กลับมาตั้งหลักที่ห้องนอน
โทรหาวินดีไหม? อันนาส่ายหน้าให้ตัวเอง แค่นี้เพื่อนก็เดือดร้อนเป็นข่าวจนตามแก้ไม่หวาดไหว แล้วถ้าโทรหาตำรวจล่ะ ก็ไม่ดีอีก เธอยังไม่อยากถูกสืบประวัติ แล้วจะทำยังไงดี
มีเสียงรถขับเข้ามาอันนารีบวิ่งไปเพราะมั่นใจว่าเป็นชัค แต่กลับไม่ใช่ ชาญเดินรี่มาบอกก่อนว่าผู้ชายสองคนที่กำลังลงจากรถเป็นใคร ความกลัวเป็นสิ่งแรกที่เธอรู้สึก ทว่ามันน้อยนิดเมื่อความโกรธถาโถมเข้าใส่ นี่เองหรือคุณชรัน เคยเห็นแต่รูป วันนี้ได้พบเสียที หน้าตาดูใจดี แต่เหี้ยมโหดสั่งฆ่าคนได้จริงๆ น่ะหรือ
“คุณชรันใจดีครับ ถ้ามีอะไรไม่สบายใจ คุณชัคฝากบอกว่าบอกคุณชรันได้ ส่วนคุณภาคิน ไม่เอาเรื่องเอาราวกับใคร ชอบทำอาหาร ถ้าเบื่ออาหารแม่บ้าน คุณอันนาปรึกษาน่าจะได้”
อันนามองชาญแล้วยิ้มบางๆ ถึงข้อมูลของเขาจะไม่ช่วยให้ความร้อนในอกลดลงได้เลย มือทั้งสองข้างเย็นเฉียบ มันก็แค่ครั้งแรกเท่านั้น ต่อไปนี้เธอจะไม่หนี คนทำผิดไม่มีทางปิดบังไปได้ตลอดชีวิตได้หรอก
“กำลังขายอะไรหรือชาญ ทำอย่างกับฉันพกระเบิดพลีชีพมาด้วย” ชรันทักทายพร้อมกับรับไหว้จากผู้หญิงในข่าว
“สวัสดีค่ะ คุณชรัน คุณภาคิน” เรียวปากสวยแสร้งยิ้มและฝืนไหว้ โชคดีแล้วที่คนพวกนี้ไม่รู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของใคร ต้องนิ่งที่สุด ไม่เช่นนั้นการเสี่ยงจะนำมาซึ่งชีวิต
“มือไม้อ่อนดี ไม่ต้องเกร็งหรอกนะ วันนี้ลุงมาทำความรู้จักเท่านั้น ได้ข่าวเจ้าชัคมันจะหมั้นกับหนู ไปคบหากันเมื่อไหร่ ทำไมลุงไม่เคยเห็นชัคพาไปหาที่บ้านมาก่อนเลย” สายตาคมๆ ของคนพ่อมองอันนาจนกลายเป็นจ้อง
“หน้าของหนูมีอะไรติดหรือเปล่าคะ”
“เปล่าหรอก เห็นหน้าหนูแล้วทำให้ลุงคิดถึงใครสักคนในอดีตน่ะ ว่าไหมคิน” ภาคินเลยจ้องหน้าอันนาอีกคน แต่ยังดีที่ส่ายหน้า “ถ้ายังมีชีวิตอยู่คงอายุพอๆ กับหนูกระมัง ช่างเถอะ ว่าไง ไปคบกับลูกชายของลุงตั้งแต่เมื่อไหร่”
“เอ่อ...” ทำยังไงดี?!? เธอเคยพบผู้ชายคนนี้มาก่อนหรือเปล่าหลังจากแม่ตาย เมื่อไหร่จะจำอะไรได้เสียที
“ว่าไงล่ะ”
“3 เดือนก่อนครับ” เสียงชัคนำมาก่อนตัวที่เดินมานั่งบนที่วางแขนตรงเก้าอี้ของอันนา แถมยังก้มหน้าลงมาใกล้ เธอเบี่ยงหน้าหลบ “เราพบที่สวนดอกไม้ มีวัยรุ่นจะยิงกันน่ะครับ แต่อันนาก็กล้าหาญเข้ามาช่วย พ่อจะมาก็น่าบอกผมก่อน”
“หวงหรือไงชัค จะเก็บไว้ให้เห็นตอนวันหมั้นเลยใช่ไหม” ภาคินแซ็วน้องชาย
“ผมไม่อยากให้อันนาตกใจแล้วหนีไปก่อนน่ะสิครับ ผมไม่มีใครมานาน ตอนนี้มีแล้วก็ไม่อยากให้หนีหายไปไหนอีก ผิดด้วยหรือครับ” ใบหน้าของเขาดูจริงจังจนอันนาอยากยกนิ้วให้ เรื่องแสดงละครเขาก็เก่งหยอกเสียที่ไหน
ชรันหัวเราะ“เป็นเอามาก แล้วแน่ใจนะ ถ้าพ่อจะเสียเพื่อน ก็อย่ามารักๆ เลิกๆ แก่แล้ว ผมเหลือให้ถอนหงอกอีกไม่กี่เส้น”
“ครับ การศึกษา เกรด ชาติตระกูลผมไม่สนใจ แต่ถ้าพ่อต้องการผมจะส่งไปให้”
อันนาหันขวับปากเฉี่ยวแก้มชัคไปแบบหวุดหวิด เขายังมีแก่ใจยิ้มใส่ทั้งๆ ที่เธอหน้าบึ้งงอก็มันเรื่องอะไรที่ประวัติของเธอจะถูกเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต เอามาจาก Resume ที่เธอใช้สมัครงานล่ะสิท่า ถ้างั้นก็น่าห่วงน้อยลงไม่มีอะไรให้สงสัยได้
“ไม่ต้องหรอกเจ้าชัค” ชรันมองลูกชายอย่างกับกำลังอ่านหนังสือ ก่อนจะมองผู้หญิงแปลกหน้าที่กำลังกลายเป็นคนรักของลูกชาย “ถ้าลูกชายของลุงมันตัดสินใจแล้ว ลุงคงบอกได้ว่ายินดีต้อนรับ”
“ขอบคุณค่ะ” อันนายกมือไหว้ไม่ได้ยินดีอะไรด้วย
“หลังจากหมั้นแล้วก็อยากให้ศึกษานิสัยใจคอกันอีกสักพักแล้วค่อยแต่งได้ไหมชัค”
“ครับ ผมตั้งใจทำแบบนั้นอยู่เหมือนกัน”
ภาคินยกนิ้วโป้งให้น้องชายอย่างน้อยก็โชคดีที่ได้เลือก ต่างจากเขาที่พ่อหาผู้หญิงที่เหมาะสมให้ ชรันกับภาคินขอตัวกลับไปพร้อมๆ ชัคที่ต้องกลับไปทำงาน อันนายังคงนั่งอยู่ที่เดิมรู้สึกตัวเองช่างกระจ้อยร่อย ไร้ซึ่งพิษสง ทำยังไงถึงจะได้เบาะแสของพ่อเพิ่ม ไม่ได้การณ์ล่ะ เธอต้องหาทางให้ตัวเองจำได้ก่อน แม้จะไม่ค่อยมีหวังเท่าไหร่

ชาญขับรถมาส่งอันนาที่บ้านของธีราซึ่งถูกขอให้ทำเหมือนว่าเราสองคนนัดกัน แล้วปักหลักไม่ไปไหน นาวินขับรถอ้อมไปจอดท้ายหมู่บ้านไม่นานนักเพื่อนสนิทที่เขาคิดไม่ซื่อก็เดินแกมวิ่งมา เขารีบขับรถออกไปแล้วมุ่งหน้าไปตามแผนที่ซึ่งอยู่แถวๆ อ่างศิลา ระหว่างทางอันนาโทรหาใครบางคน ดูมีความลับมากมาย พอวางสายถึงได้พอยิ้มออก
“ออกมาแบบนี้คุณชัคไม่ว่าเอาหรือ นักข่าวยังเล่นข่าวยัยลิลลาอยู่เลย”
“ช่างเค้าเถอะ ตอนนี้น้ำอยากไปจุดที่เกิดเหตุ วินพาน้ำไปที่นั่นก็พอแล้ว ถ้าจะมีปัญหาอะไรตามหา น้ำรับผิดชอบเอง” ป่านนี้ชาญคงคิดว่าเธออยู่กับยัยมด หวังว่าเขาจะไม่เอะใจสงสัย
นาวินสุขอยู่ในใจ ใช้เวลาเดินทางเกือบสองชั่วโมงรถก็แล่นเข้ามาจอดตรงจุดชมวิวของเขาสามมุก อันนาเดินลงเขาไปเพื่อหาจุดที่เห็นตามข่าว จนกระทั่งเห็นโค้งหักศอกที่ตอนนี้มีเหล็กกั้นดูปลอดภัย ไม่มีร่องรอยว่าเคยถูกชนจนราวกันหัก รถร่วงลงไปแล้วระเบิดเมื่อ 8 ปีก่อน
อันนานั่งลงมองพยายามนึกให้ทุกอย่างมาเป็นความทรงจำของตัวเอง ใช้สิ่งที่ได้ฟังมา เปลือกตาทั้งสองข้างปิดลงล่องลอยรากลับไปสู่ความฝันที่ยังแวะเวียนมาเธอบ่อยๆ
รถกำลังเคลื่อนที่ เธอร้องหาพ่อ ทว่าไม่มีเสียงตอบ เบาะข้างๆ ยวบลง มือใหญ่ที่อันนาจำได้กุมมือสั่นเทาของเธอไว้ รถแล่นเร็วขึ้น พ่อคว้าเธอเข้าไปกอด
‘พ่อรักน้ำมากนะลูก’
เธอพยักหน้ากอดพ่อเอาไว้แน่น กลัวสุดขีด ร่างถูกดันไปจนชิด เสียงประตูถูกปลดล็อคดังกึก คนขับรถหันมาแสยะยิ้มกระชากปืนออกมาแล้วยิง พร้อมกับร่างของเธอหงายหลังกระเด็นออกมาจากรถเมื่อประตูถูกดันออก ร่างละลิวลอยคว้างอยู่ชั่ววินาทีก็ตกลงกระแทกพื้น ตายังลืมเปิดรับรู้ในเวลาอันสั้น พยายามตะโกนเรียกพ่อ แต่ร้องออกมาไม่เป็นคำ แสงไฟสว่างสาดเข้าใส่ ใครสักคนมาอุ้มไว้ เธอพยายามองแต่ช่างยากเย็น
...โครม?!?
อันนาสะดุ้งโหยง มองรอบตัวด้วยความตื่นตระหนก นาวินจับมือบางเขย่าแล้วดึงเข้าไปกอด สายตาราวกับเด็กเพิ่งตื่นจากฝันร้าย เธอตั้งสติแล้วดึงตัวเองออกมา กะพริบตาเพื่อไม่ให้น้ำตาไหล
“นึกอะไรออกบ้างไหมน้ำ”
“ก็...นิดหน่อย น้ำเคยฝันว่าตัวเองถูกผลักออกมาจากรถ แล้วก็ได้ยินเสียงระเบิด ตอนนั้นคิดว่าฝัน แต่มันกลายเป็นความจริง น้ำควรไปหาจิตแพทย์ หมอสะกดจิตดีไหม”
“ก็น่าจะลองดูนะ” เขาเคยอ่านหนังสือขนาดว่าระลึกชาติได้ 8 ปีคงไม่น่าจะนานจนทำให้ความทรงจำหายไปหมด
สายลมพัดมาเบาๆ แต่สม่ำเสมอ อันนาเดินสำรวจไปตามแนวบันได คุณภีมบอกว่ามาช่วยเธอไว้ แต่ทำไมเธอจำได้รางๆ ว่าถูกอุ้มมาไว้ข้างทาง มีเสียงใครสักคนพยายามเรียกให้เธอลืมตาแล้วก็จากไป ให้พยายามมองเท่าไหร่ก็พร่าเลือนจนไม่เห็นสิ่งใดอีก
บ่ายคล้อยมากแล้ว อันนาเดินกลับมาที่รถพร้อมนาวินแล้วเดินทางกลับ หากรถไม่ติดอะไรคงถึงบ้านของธีรก่อน 6 โมงเย็น ทว่ายังไม่ทันได้ขับรถออกจากเขาสามมุก รถสปอร์ตสีดำแสนคุ้นก็ขับตามมา เป็นเรื่องแล้ว!
รถเจ้ากรรมนายเวรขับแซงแล้วปากหน้าให้หยุด เช่นเดียวกับรถอีกคนที่ขับตามประกบหลัง นาวินบีบแตรใส่เสียงดังลั่น พอเห็นว่าใครลงมาจากรถก็เหวออึ้งไป
“ถ้าวินถูกซ้อมปางตาย น้ำช่วยถ่ายคลิปไปบอกตำรวจกับนักข่าวด้วยนะ”
อันนามองชัคแล้วสยองพอกัน ก่อนที่จะเป็นเรื่องใหญ่ให้เพื่อนเดือดร้อนประตูถูกปลดล็อค นาวินร้องห้าม แต่ไม่ทันเมื่อเธอก้าวลงไปแล้ว แค่มานั่งรถเล่นกับเพื่อนไม่เห็นจะผิดตรงไหน
“เที่ยวเล่นนานแล้ว ก็กลับกันเสียที” ชัคบอกเสียงเรียบๆ หันไปมองแมวขโมยเหี้ยมๆ “ขอบใจที่พาอันนาออกมาเปิดหูเปิดตา”
“เดี๋ยวผมไปส่งน้ำเองก็ได้ครับ” นาวินเสียงเข้มใส่แม้จะหวาดไม่น้อย 4 ต่อ 1 ไม่รวมชัค เขาคงรอดยาก
“ไม่ต้อง มันไม่ใช่หน้าที่ของคุณ เข้าใจตรงกันนะ”
“ขอบใจนะวิน ขับรถกลับบ้านดีๆ แล้วน้ำจะโทรหา”
สายตาคมๆ ตวัดมองไม่ชอบใจรั้งข้อมือเล็กให้เดินตามไปที่รถ อันนาเข้าไปนั่งทำหน้าบึ้ง เรียวปากบางเม้มปิด ชัคเข้ามานั่งหันมามองซีกแก้มเนียนที่ยังมองไปยังนาวินอย่างร้อนกรุ่นๆ ในอก รถมุ่งหน้ากลับเข้ากรุงเทพฯ บรรยากาศอึมครึมเงียบกริบ
“คุณมาที่นี่ทำไม มันไม่เปลี่ยวเกินไปสำหรับผู้หญิงที่จะหมั้นสักเท่าไหร่ ถ้าผมเข้ามาขัดจังหวะก็ขอโทษด้วย ไม่คิดว่าคุณจะอยากมารำลึกความหลัง”
อันนาหันมาค้อนใส่ “คิดสกปรก ฉันไม่ได้ทำแบบนั้น แต่ฉันไว้ใจวิน มากกว่าคุณจนเทียบไม่ได้ต่างหาก”
ชัคหันมามาเพียงหางตา ถ้ามีคนร้ายตามมา ไอ้หน้าหล่อนั่นจะช่วยอะไรได้ไหม
“ก็ทนๆ เอาหน่อย จะทำอะไรชะลอไว้ รอให้เราถอนหมั้นกันก่อน หลังจากนั้นผมจะไม่ตามไปเห็นว่าคุณทำอะไร กับใคร ที่ไหน”
“จอดรถ” รถยังคงแล่นต่อไป อันนาโมโหปรี๊ดตะเบ็งเสียงใส่ “บอกให้จอดไง”
“ถ้าโมโหผม ก็ชกมาสักทีก็ได้ ถือว่าที่ผมพูดไปไม่ใช่เรื่องจริง”
“ป่าเถื่อน รุนแรง”
น้ำเสียงคนโมโหทำไมเหมือนจะร้องไห้ ชัคหันมามองถอนใจยาว เขาจะมาทะเลาะกับเด็กทำไมเมื่อเหตุผลที่ตามมาไม่ใช่เพราะเธอมากับนาวินสักหน่อย
“ถ้างั้นหอมสักฟอด กอดเบาๆ สักทีก็ได้นะ” ชายหนุ่มเย้าเสียงอ่อนลง
อันนาค้อนใส่ “ไม่ทำอะไรทั้งนั้นแหละ คนเจ้าเล่ห์ วายร้าย ยังไงก็ทำเรื่องดีๆ อย่างที่คนอื่นทำไม่ได้”
“นั่นล่ะตัวตนของผมในสายตาของคุณ” ชัคกดยิ้มที่มุมปากมองอันนาราวกับตัดพ้อ หญิงสาวมองตอบก่อนจะเสมองข้างทาง
แค่ก้าวแรกของความร่วมมือในการหาตัวคนร้ายก็พังภินท์ผิดพลาดไปหมด ภายในรถกลับมาเงียบกริบจนแสงไฟสาดเข้าสู่บ้าน อันนาก้าวลงไปโดยไร้คำลา เช่นเดียวกับชัคที่มองเฉยราวกับเห็นอากาศ รถแล่นออกไปทันทีทิ้งให้ความเข้าใจผิดกองอยู่ที่เดิม หญิงสาวรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งหนักๆ มาทับที่อก ไม่สบายใจอยากร้องไห้ เธอพูดแรงเกินไปหรือเปล่า

แล้วจะมา up ต่อถึงตอนที่ 15 นะคะ ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านค่ะ มีจำหน่ายในรูปแบบหนังสือและ e-book แล้วค่ะ



บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 ก.ค. 2558, 06:47:01 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ก.ค. 2558, 06:47:01 น.

จำนวนการเข้าชม : 1173





<< ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง   ตอนที่ 14 ครึ่งแรก >>
แว่นใส 7 ก.ค. 2558, 11:45:50 น.
ความไม่เชื่อใจแผ่ขยายกว้างขวาง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account