พันธกานต์สิเน่หา
งานเขียนนี้เคยตีพิมพ์ในนามปากกาทิตภากร ปัจจุบันต้นฉบับได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อความสมบูรณ์ของเนื้อเรื่องและวางจำหน่ายในรูปแบบ e-book เท่านั้น!!


(เปิดให้ทดลองอ่านบางส่วน)
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 11

เพนนีตื่นขึ้นในเช้าวันใหม่พร้อมกับอาการปวดศีรษะตุบๆ จนต้องลุกขึ้นนั่งเอามือกุมขมับ ไวน์ที่ดื่มเข้าไปเมื่อคืนยังแผลงฤทธิ์ให้หล่อนเมาค้าง ซ้ำท้องไส้ก็ปั่นป่วนกระอักกระอ่วนไปหมด จนต้องรีบวิ่งเข้าไปโก่งคออาเจียนในห้องน้ำ

ครั้นเงยหน้าขึ้นมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกแล้วพบว่ามีรอยหมองคล้ำใต้ขอบตา หล่อนโทษว่าเป็นความผิดของอันโตนิโอ กล่าวหาเขาว่าตามมารังควานแม้ในยามหลับเลยฝันร้ายนอนกระสับกระส่ายทั้งคืน

เพนนีเกลียดความฝันบ้าๆ บอๆ ที่มีคนไม่ชอบขี้หน้ามาไล่ตาม การพักผ่อนเมื่อคืนจึงกลายเป็นเรื่องที่เหนื่อยที่สุด ในความฝัน...หล่อนต้องวิ่งหนีเขาหัวซุกหัวซุน หาที่หลบซ่อนจนเหนื่อยหอบ แม้กระมั่งตอนตื่นหัวใจก็ยังเต้นรัว

เพนนีพ่นลมหายใจออกมา จัดการธุระส่วนตัวเสร็จก็ย่องอย่างเงียบกริบออกจากห้อง ตั้งใจจะออกไปหาอะไรร้อนๆ มาแก้อาการเมาค้าง ถึงกระนั้นก็ภาวนาขออย่าให้อันโตนิโอตื่นขึ้นมาตอนนี้ หล่อนไม่อยากพบเขา เพราะยังตะขิดตะขวงใจเรื่องเมื่อคืน

ครั้นก้าวเข้าไปในห้องครัว เพนนีก็ต้องชะงัก ทอดถอนใจออกมา เมื่อเห็นอันโตนิโอกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารหน้าเคาน์เตอร์ พระเจ้าไม่เข้าข้างหล่อนเอาเสียเลย คำภาวนาเมื่อครู่ถึงไม่สัมฤทธิ์ผล

“อ้าว...ตื่นแล้วเหรอที่รัก”

แม้คำทักทายจะนุ่มหู แต่เพนนีทำหน้าไม่ถูกเอาเสียเลย เคอะๆ เขินๆ ครั้นจะหันกลับก็กระไรอยู่ หล่อนก็เลยเดินเข้าไปหาเขา

“นั่งก่อนสิ ผมกำลังจะไปปลุกคุณอยู่พอดี” อันโตนิโอเลื่อนเก้าอี้พลางผายมือเชื้อเชิญ ครั้นเห็นเพนนีนั่งลงอย่างว่าง่าย เขาก็เดินไปหยิบถ้วยซุปกับตะกร้าขนมปังมาวางตรงหน้า

“ซุปร้อนๆ แก้อาการเมาค้างได้นะ ทานเสียหน่อยสิ อ้อ...มีอีกอย่าง” อันโตนิโอดีดนิ้ว พูดเองเออเองแล้วเดินไปเปิดตู้เย็น ปล่อยให้เพนนีนั่งมองตาปริบๆ

วันนี้อันโตนิโอสวมเสื้อยืดพอดีตัวกับกางเกงยีนส์แลแปลกตาไปกว่าที่เคย เนื้อผ้าที่แนบกับลำตัวอวดสรีระที่อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อของบุรุษ หล่อนเพิ่งสังเกตเห็นก็อดอิจฉาไม่ได้ ผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์เหลือร้าย ไม่ว่าจะสวมใส่เสื้อผ้าสไตล์ไหนก็ดูดีไปเสียหมด

หากตัดความร้ายกาจออกไป อันโตนิโอก็จัดว่าเป็นผู้ชายในฝันของสาวๆ เขาสุภาพ อ่อนโยน มีน้ำใจ เอาใจใส่คนรอบข้าง ซ้ำยังชอบทำอาหารและรู้จักวิธีเอาอกเอาใจผู้หญิง เขาเป็นผู้ชายสมบูรณ์แบบอย่างนี้นี่เล่า สาวๆ ถึงได้กล่าวขวัญถึง

เพนนีมองร่างสูงที่เคลื่อนไหวอย่างทะมัดทะแมง เขาจะเอาใจผู้หญิงทุกคนอย่างนี้หรือเปล่าหนอ? หล่อนมัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย อันโตนิโอเดินกลับมายืนฉีกยิ้มกว้างตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทันเห็น จนกระทั่งเขายื่นแก้วน้ำผลไม้มาตรงหน้า

“น้ำฝรั่งมีวิตามินซีสูง ดื่มสิ...จะช่วยให้คุณดีขึ้น”

“ขอบคุณค่ะ”

เพนนีรับมาทำตามอย่างว่าง่าย ซาบซึ้งในน้ำใจ ปกติเวลาหล่อนเจ็บป่วยจะมีก็แต่สาวใช้เท่านั้นที่มาคอยดูแล กอร์ดอนพี่ชายตัวดีของหล่อนจะโผล่หน้ามาบ้างเป็นครั้งคราว เรื่องจะให้เขามาคอยดูแลเอาใจเหมือนคนตรงหน้า อย่าได้หวัง! นอกเสียจากหล่อนจะเจ็บหนักจริงๆ

“คุณลืมอะไรหรือเปล่าที่รัก”

“เอ๋...?” เพนนีมองคนท้วงเสียงนุ่มอย่างนึกฉงน

“นึกแล้วเชียวว่าคุณต้องลืม”

“ฉันลืมอะไรเหรอคะ?” เพนนีเอียงคอถามอย่างน่ารัก แต่อันโตนิโอกลับทำแก้มป่องยื่นหน้าเข้ามาใกล้เป็นคำตอบ เพนนีก็อยากจะทวงความรู้สึกดีๆ คืน เมื่อพลันนึกขึ้นมาได้ว่าต้องปฏิบัติตนเช่นไรเวลาจะขอบคุณเขา

นี่หล่อนลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไรกัน ไม่น่าเลย...

เพนนีนึกตำหนิตัวเองในใจ ถึงกระนั้นก็หลับหูหลับตาหอมแก้มสากๆ อยากตัดปัญหาเลยไม่เกี่ยงงอน แต่ก็ไม่วายดักคอออกมา

“ฉันขอบคุณคุณแล้วนะคะ หวังว่าจะไม่ทวงอะไรอีก”

“แน่นอนที่รัก เพราะผมจะสอนเรื่องต่อไป” อันโตนิโอบอกหน้าตาย ครั้นเห็นเพนนีมองเขาตาปริบๆ ก็ยิ้มขำ

“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ ไม่อยากรู้เหรอว่าถ้าผมโกรธต้องขอโทษยังไง”

“ไม่ค่ะ ไม่อยากรู้ คุณไม่ต้องสอนอะไรฉันอีก” เพนนีปฏิเสธทันควัน แค่เห็นสายตากรุ้มกริ่มก็อ่านความคิดเขาออก แน่นอนว่าคงไม่พ้นเรื่องเอาเปรียบ แต่คนเจ้าเล่ห์ก็ยังไม่ละความพยายาม

“ไม่ได้หรอก ก็คุณบอกเองนี่นาว่าเรายังไม่รู้จักกันดีพอ ถ้าไม่สอน...แล้วคุณจะรู้ไหมว่าต้องทำยังไงเวลาผมโกรธ”

เพนนีพูดอะไรไม่ออก จนมุมเพราะคำพูดของตัวเองก็เลยแกล้งนิ่งเสีย ไม่อยากต่อปากต่อคำกับเขา แต่อันโตนิโอกลับยึดเอาความเงียบเป็นคำตอบ ซ้ำยังเปิดการเรียนการสอนว่าด้วยเรื่องการขอโทษ โดยเดินไปดึงมือเพนนีให้ลุกขึ้นแล้วรั้งเอวบางเข้าหาตัวก่อนจะนั่งลงแทนที่บนเก้าอี้ของหล่อน

เพนนีนั้นตั้งตัวไม่ทัน หล่อนไม่มีโอกาสปฏิเสธเสียด้วยซ้ำ เวลานี้ก็ได้แต่นั่งใจเต้นตุ๋มๆ ต่อมๆ บนตักเขา อยากจะลุกหนี แต่ก็ติดลำแขนแกร่งที่กอดรัด ซึ่งความใกล้ชิดนั้นก็ทำให้หล่อนไม่กล้าขยับตัว นอกจากนั่งนิ่งฟังเขา

“วิธีขอโทษผมง่ายนิดเดียว ก็แค่นั่งบนตักแบบนี้แล้วพูดหวานๆ ผมก็จะอารมณ์ดีขึ้นมานิดหนึ่ง ถ้าอยากให้หายโกรธ คุณต้องกอดผมแบบนี้ ผมก็จะหายโกรธทันที” อันโตนิโอจับสองมือของเพนนีโอบรอบคอเขาประกอบคำพูด

“แต่วิธีนี้ฉันเสียเปรียบทั้งขึ้นทั้งล่อง ไม่มีวิธีอื่นแล้วหรือไงคะ” เพนนีประท้วง พลางชักมือกลับแล้วตวัดสายตาค้อน

“วิธีนี้ดีแหละใช้ได้ผลที่สุด ว่าแต่คุณเถอะ...จำที่ผมสอนได้หรือเปล่า”

“จำได้ค่ะ ถ้าคุณโกรธเมื่อไหร่ฉันจะรีบทำทันทีเลย”

“ดีมาก” อันโตนิโอมองริมฝีปากช่างจำนรรจาที่อยู่ห่างไม่ถึงคืบ พลางไล้ปลายนิ้วไปตามเรียวปาก สัมผัสเร้าอารมณ์นั้นทำให้คนบนตักหนาวๆ ร้อนๆ ขึ้นมา

“ถ้าสอนจบแล้วก็ปล่อยเสียทีสิคะ ฉันอึดอัดจะแย่อยู่แล้ว”

“อยากให้ปล่อยก็ต้องผ่านการทดสอบให้ได้ก่อนสิ”

เพนนีช้อนตาขึ้นมองคนตั้งเงื่อนไข ครั้นสบเข้ากับนัยน์ตาคมเข้มที่สะท้อนความปรารถนาออกมาอย่างเปิดเผย ใจของหล่อนก็เต้นโครมคราม หลงลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าการหายใจทำกันยังไง ถึงกระนั้นก็บังคับตัวเองไม่ให้สั่นทำตามที่เขาสอน เพราะอยากให้เขาหยุดเล่นเกมบ้าๆ ที่ทำให้จิตใจสั่นไหวระรัวนี้เสียที

“ขอโทษค่ะ อย่าโกรธฉันนะคะอันโตนิโอ”

“ผมโกรธคุณไม่ลงหรอกที่รัก มีแต่จะรักมากขึ้นทุกนาที” อันโตนิโอเชยคางมนของคนที่ซบหน้าแนบอกเขา จ้องมองกลีบปากอิ่มแล้วโน้มหน้าลงมอบรางวัลให้ลูกศิษย์หัวไวอย่างแสนหวาน จนคนบนตักอ่อนระทวยไปทั้งร่าง

“ผมอยากชวนคุณไปขี่จักรยานชมวิวรอบเกาะ สนใจจะไปด้วยกันไหม?”

เพนนีมองคนที่ถอนริมฝีปากออกตาปริบๆ ยังหลงวนกับจุมพิตหวามหวานเลยตามอารมณ์เขาไม่ทัน แต่ก็พอจะจับใจความได้

“ขี่จักรยานเหรอคะ?” แม้น้ำเสียงกับสีหน้าจะแปลกประหลาดใจ แต่ดวงตาที่เต้นระริกก็สะท้อนความตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่จำเป็นต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าตัวหลงลืมไปแล้วว่ายังนั่งอยู่บนตักและถูกเขาจูบเมื่อครู่

“อืม...คุณขี่จักรยานเป็นไหม”

“ก็พอได้ค่ะ แต่ไม่เก่งเท่าไหร่” เพนนียิ้มเอียงอาย

“ถ้าอย่างนั้น...กระหม่อมจะทำหน้าที่สารถีให้เจ้าหญิงเองขอรับ” อันโตนิโอแตะหน้าอกตัวเองแล้วโค้งศีรษะเชิงล้อเลียนไม่ต่างจากข้ารับใช้ที่จงรักภักดีต่อคนเป็นนาย ซึ่งเพนนีก็นึกสนุกที่จะรับบทเจ้าหญิงที่เขาโยนมาให้

“ได้เลยอันโตนิโอ ข้ายกหน้าที่นี้ให้เจ้า...”

เสียงหัวเราะใสๆ กับดวงตาสุกสกาวราวกับดวงดาวบนฟากฟ้าช่างไม่ต่างจากเด็กที่ได้ของเล่นถูกใจ แม้มิตรภาพที่เพนนีมอบให้อย่างหลงลืมตัวจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็ทำให้หัวใจของอันโตนิโอพองโตได้อย่างประหลาด จนอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปบีบปลายจมูกเล็กๆ และหัวเราะอย่างมีความสุขไปพร้อมกับหล่อน...

หลังจากตอนนี้ เหลืออีก 4 ตอนนะคะที่ผู้เขียนจะอัพงานเรื่องนี้ นักอ่านท่านใดสนใจสามารถโหลดมาอ่านได้ที่...
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNTE5MzI4IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMjc5OTUiO30



กันต์ระพี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ก.ค. 2558, 00:24:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ก.ค. 2558, 00:24:04 น.

จำนวนการเข้าชม : 1231





<< ตอนที่ 10   ตอนที่ 12 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account