แก้วขวัญวันรัก "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"
เป็นเรื่องราวต่อยอดมาจาก แก้วขวัญวันรัก
โดยเรานำเรื่องราวของนางเอกทั้งสี่แบ่งพาสเป็นเรืองของตัวเองประกอบไปด้วย
"ประกาสิตรักแก้วกัลยา"
"พันธนาการรักขวัญชีวัน"
"ละลายรักวันวิวาห์"
"กลบ่วงรักรักจิรา"

โดยเรื่องแรกของ แก้วขวัญวันรักที่นำมาให้ได้อ่านกันคือ "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"

แก้วกัลยาพี่สาวของโตของบ้านสิทธิทรัพย์อาภา
เมื่อถูกกดดันให้คลุมถุงชนกับเจษฎา เธอจึงต้องหาทางดิ้นให้พ้นบ่วงนี้
เธอจึงออกปากท้าอากง ว่าจะหาสามีที่ดีมาโชว์ให้ได้
แก้วกัลยาเลือก "เพทาย" ประธานหนุ่มแห่งวินัสมีเดีย
ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ ผู้ชายที่เธออยากจะเอาชนะใจ
ผู้ชายที่ติดอยู่ในความทรงจำของเธอมาตลอดเจ็ดปี

แก้วกัลยาจะพิชิตใจเพทายได้หรือไม่ติดตามได้ใน "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"
Tags: แก้วกัลยา เพทาย ความรัก เดิมพัน

ตอน: ตอนที่ 17 เพื่อนรักเพื่อนร้าย

17
เพื่อนรักเพื่อนร้าย





ห้าวันต่อมา

ทุกอย่างผ่านไปอย่างเชื่องช้า และเงียบสงบจนน่ากลัว แม้อธิชาติจะฟื้นแล้ว แต่ผลจากอาการโคม่าทำให้ร่างกายยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร ไม่สามารถตอบคำถามใด ๆ กับทางตำรวจได้ แก้วกัลยาและเพทายจึงไม่ได้เรื่องราวที่คืบหน้าไปกว่าเดิม ได้แต่ปล่อยเรื่องให้ยืดเยื้อออกไป

หลายวันมานี่เกิดแต่เรื่องรวมถึงเมื่อสองวันก่อนรักจิราโดยลอบทำร้ายตำรวจสันนิษฐานว่าอาจเกี่ยวพันกับเรื่องที่รักจิราเอาหลักฐานมัดตัวเสี่ยพงษ์ศักดิ์ออกมาด้วยและส่งมันให้กับตำรวจ ในตอนนี้เสี่ยพงษ์ศักดิ์ยังคงหนีลอยนวลไปได้ และเขาแค้นรักจิรามากที่ทำให้ธุรกิจผิดกฎหมายที่สร้างมาหลายสิบปีต้องพินาศ จึงส่งคนมาทำร้ายรักจิรา แต่คนรับเคราะห์แทนรักจิราก็ไม่ใช่ใครอื่น ซึ่งก็คือปรัชญาว่าที่คู่หมั้นในอนาคตของรักจิราที่เข้ามารับเคราะห์ไปเต็ม ๆ เหตุการณ์นี้ทำให้แก้วกัลยาคิดว่าที่บ้านคงไม่ปลอดภัยอีกแล้ว พวกมันอาจย้อนกลับมาทำร้ายรักจิราและเธอได้อีก เธอจึงฝากน้องไว้กับอัสนีเป็นการชั่วคราวระหว่างตำรวจกำลังตามจับเสี่ยพงษ์ศักดิ์

ส่วนเธอก็ย้ายสำมะโนครัวมาอยู่ที่คอนโดของคุณมงกุฎเป็นการชั่วคราว แก้วกัลยากำลังนั่งตรวจบัญชีรายรับรายจ่ายของสปาเดือนนี้ รวมถึงยอดขายครีมสปาตัวใหม่ที่ทางสปาของเธอได้คิดสูตรขึ้นและกำลังขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น แก้วกัลยาคว้าหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะข้าง ๆ ตัว และกดรับโดยที่ไม่ได้มองเบอร์ที่โทรเข้ามา

(แก้ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว) น้ำเสียง สำเนียงอังกฤษที่ฟังดูตื่นตนกผ่านออกมาจากปลายสายทำให้แก้วกัลยาต้องยื่นโทรศัพท์ออก

“อะไรกันเทรซ ไฟไหม้ที่ร้านหรือไง” เสียงที่ดังจาดปลายสายเป็นเสียงของเทเรซ่า เครย์ลีย์ทำให้แก้วกัลยารู้สึกได้ว่ามันต้องใหญ่มากจนเทเรว่าเองก็แก้ปัญหาเองไม่ได้

(ฉันไม่อยากให้เธออาวะลาดใส่ฉันแทน อีกห้านาทีรอดูเมล์ที่ฉันส่งไปให้นะ) แก้วกัลยากดตัดสายและเปิดอีเมล์ที่เทรเซ่าส่งมาให้ ทันทีที่เปิดออกดู แก้วกัลยาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะโทรกลับหาเทเรซ่าทันที

“เรื่องอะไร”

(แก้วมองแบบที่เธอวาด กับเสื้อผ้าชุดนั้นดี ๆ สิ) แก้วกัลยามองอีกครั้ง ก่อนดวงตาจะเบิกกว้าง

“นี่มันชุดฉัน แต่มันไม่เหมือนซะทีเดียว เปลี่ยนสีกระโปรง เปลี่ยนลายชุด เดี๋ยวนะ...ใครมันก๊อบแบบฉัน” แก้วกัลยาตะโกนเสียงดังลั่น เทเรซ่าเองก็ตกใจอยากจะวางสายโทรศัพท์แต่กลัวแก้วกัลยาจะรีบบินตรงมาอาละวาดใส่เธอแทน แก้วกัลป์ยาจ้องแบบเสื้อพวกนั้นด้วยแววตาโกรธจัด ยิ่งมองอารมณ์ก็ยิ่งขึ้น แบบเสื้อพวกนี้เป็นเสื้อคอลเล็คชั่นใหม่ของเดือนหน้าดังนั้นชุดจึงยังอยู่ในขั้นตอนการตัดชุด ยังไม่มีการวางขายแต่ว่าตอนนี้มีใครบางคนกำลังเล่นตลกกับเธอ

“มันเป็นไปได้ยังไง ใคร ไอ้เสื้อผ้าพวกนี้มันเป็นของห้องเสื้อไหน”

(ใจเย็น ๆ นะแก้ว)

“เทรซ!!!”

(พิตต้า)

“ยัยงูพิษ ยัยนั่นอยู่ที่ไทย ฉันจะไปจัดการยัยนั่น ส่วนเธอลองตรวจเช็คดูว่าแบบเสื้อผ้าเราหลุดไปกี่ชุด นี่ฉันพึ่งส่งไปเมื่ออาทิตย์ก่อนเอง ก่อนอื่นฉันต้องจัดการตัวต้นเหตุก่อน เดี๋ยวฉันโทรกลับ” แก้วกัลยากดตัดสาย เธอจัดการปริ้นรูปที่เทเรซ่าส่งมาให้ และรับลุกขึ้นคว้ากระเป๋าของตัวเองออกจากห้องไป

“จะไปไหนคะคุณแก้ว”

“ไปหาแมท” แก้วกัลยารีบขับรถออกไป ใจตอนนี้ร้อนเป็นไฟ แบบเสื้อผ้าพวกนั้นเธอใช้เวลาเป็นเดือน แต่ก๊อบกันง่าย ๆ มันไม่จบแค่นี้แน่นอน แก้วกัลยาคิดและเหยียบเกียร์รถแทบมิด จะต้องมีคนรับผิดชอบ แต่คนแรกที่รับผิดชอบต้องเป็นคนต้นเหตุ แก้วกัลยาจอดรถลงที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง วันนี้แมทธิวมีนัดคุยการซื้อขายที่ดินที่โรงแรม มิลาโทรมาบอกเธอเมื่อเช้า แก้วกัลยาวิ่งไปที่ร้านอาหารด้านในของโรงแรม เธอกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก่อนจะเจอเป้าหมาย แก้วกัลยากดโทรศัพท์โทรออก เธอรอสักพักก็มีคนรับสาย

“ตามฉันมาคุยด้านนอก” แก้วกัลยาเอ่ยและเดินออกไปรอที่สวนด้านข้างของโรงแรมที่เงียบสงบ แก้วกัลยาเดินมานั่งในศาลาอย่างใจเย็น แต่ใครจะรู้ว่าตอนนี้ใจเธอมันร้อนระอุ แก้วกัลยามองผู้หญิงที่เดินเข้ามาหาเธอในศาลา ใบหน้ากลมเล็กดูเหมือนจะหวาดกลัวบางอย่าง

“คุณแก้ว คุณ”

ฟึบ แก้วกัลยาโยนกระดาษเอสี่ที่ปริ้นออกมาลงบนโต๊ะ

“ดูแล้วบอกฉันว่านี่มันอะไร” แก้วกัลยาเอ่ยเสียงเย็น น้ำเสียงเหมือนกับเค้นออกมามากกว่า มิลาตัวสั่น มือสั่นก่อนจะคว้าหยิบกระดาษเหล่านั้นขึ้นมาดู และเหมือนจะยังไม่เข้าใจ

“เสื้อผ้าพวกนั้นเป็นของพิตต้า” แก้วกัลยาเอ่ย

“เธอจำได้ไหมว่าแบบพวกนี้เธอเคยเห็นจากที่ไหน” มิลาส่ายหน้า แก้วกัลยายิ่งตาลุกวาว แทบอยากจะลุกขึ้นไปกระชากมิลาเหวี่ยงลงพื้น แต่ก็พยายามสงบสติอารมณ์ไว้ เพราะเธอจะจัดการคนที่ทำมันออกไป และคน ๆ นั้นจะต้องเสียใจที่กล้าทำแบบนี้กับคนอย่างแก้วกัลยา

“ดิฉัน...ไม่ทราบค่ะ”

“มิลา!!!” เสียงหวีดแหลมจนรู้สึกหูแทบจะระเบิดขึ้นของแก้วกัลยาดังขึ้น มิลามองภาพนั้นอีกครั้ง ก่อนจะพยายามนึก มือไม้เริ่มสั่น แก้วกัลยาลุกขึ้นยืน ดวงตาวาวโรจน์ทำให้มิลาไม่กล้าขยับ

“ฉันจะบอกให้ แบบพวกนี้มันเป็นแบบที่ฉันให้เธอไปเอาเมื่ออาทิตย์ก่อน แบบที่ฉันเป็นคนร่างเอง แต่ตอนนี้มันกลายเป็นเสื้อผ้าของห้องเสื้อยัยพิตต้า เธอรู้ไหมว่ามันเพราะอะไร”

“ดิฉัน...ดิฉันไม่ได้...”

“เธอต้องนึกให้ออกก่อนฉันจะฆ่าเธอ ตอบฉันมาว่าแบบเสื้อผ้าฉันหลุดไปถึงมือยัยพิตต้าได้ยังไง ถ้าเธอนึกไม่ออก คนที่ตายคือเธอไม่ใช่ยัยพิตต้า บอกฉันมา”

“เกิดอะไรขึ้นแก้ว” แมทธิววิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา เขาสังเกตตั้งแต่มิลารับโทรศัพท์ และเดินออกมา มิลาหน้าซีดมากจนเขาเองก็คิดว่ามันต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นแน่ เขารีบคุยธุระและรีบตามออกมา และเสียงตะโกนดังลั่นสวนของแก้วกัลยาก็ทำให้คนที่จะเดินมาหนีหาย ส่วนเขาก็รีบเดินตามเสียงไป เพราะคิดว่ามิลากำลังเจอกับพายุลูกใหญ่

“มิลา มิลา มิลาเธอจะทำตัวเป็นลูกหนูมุดรูไม่ได้ เลิกตัวสั่นและจ้องหน้าฉัน มิลาฉันสั่งให้มองหน้าฉัน แล้วตอบคำถาม เลิกก้มหน้าทำตัวขี้ขลาดได้แล้ว” แก้วกัลยาคล้ายจะพุ่งเข้ามาขย้ำมิลา แต่แมทธิวที่มองภาพนั้นอยู่สงสารจึงเดินมาขวางหน้าไว้ก่อน

“แก้วใจเย็น ๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้น”

“เงียบไปเลยแมทนายไม่ต้องมายุ่ง มิลา!!!”

“ดิฉันไม่รู้ค่ะ วันนั้นดิฉันกลับไปเอาแบบ แล้วแวะไปซื้อซูชิให้คุณแก้ว แล้ว...แล้ว” มิลาเหมือนกำลังพยายามนึกแก้วกัลยาพุ่งตัวเข้าไปจับต้นแขนทั้งสองข้างของมิลาและออกแรงเขย่าร่างเล็กบอบบางที่มีแรงเทียบแก้วกัลยาไม่ได้

“มองหน้าฉันแล้วตอบว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

“ดิฉันเดินชนกับคุณสุจิราที่หน้าร้านค่ะ แบบที่ถืออยู่เลยหล่นกระจาย แต่ดิฉันเก็บทุกรูปมาครบแล้วนะคะ”

“แล้วยัยซูซี่แตะต้องแบบฉันหรือเปล่า”

“คุณซูซี่...ค่ะ คุณซูซี่ช่วยเก็บส่งมาให้ดิฉัน ตอนนั้นเพราะรีบก็เลยไมได้สังเกตอะไรเพียงนับว่าแบบครบและก็รับกลับมาบ้านคุณแก้ว” แก้วกัลยาแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว รอยยิ้มของแม่มดที่เมื่อไม่พอใจจะร่ายคำสาปใส่เป้าหมายในทันที ดวงตาที่จ้องมองดูโกรธจัดพร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ

“ฉันจะไล่เธอออก” มิลาทำหน้าตาตื่น ใบหน้าซีดขาว น้ำตาคลอที่เบ้าตาเหมือนจะไล่มาอยู่รอมร่อ ยิ่งเห็นสายตาดุ ๆ ของแก้วกัลยา น้ำตาที่กักเก็บไว้ก็พาลจะไหลออกมา แต่เพราะกลัวจะโดนแก้วกัลยาโกรธไปมากกว่านี้ จึงพยายามกลั้นมันไว้ เธอจะร้องไห้ต่อหน้าแก้วกัลยาไม่ได้ แก้วกัลยาไม่ชอบให้ใครมาร้องไห้ต่อหน้ามันยิ่งทำให้แก้วกัลยาโกรธ

“ใจเย็น ๆ สิแก้ว นั่นมันเหตุสุวิสัย ไม่มีใครคิดว่ามันจะเกิด แล้วมิลาก็ไม่ได้ผิดขนาดต้องไล่ออก มิลาทำงานให้เธอมาสามปีแล้วนะ ซื่อสัตย์ต่อเธอมาก เธอสั่งอะไรก็ทำ ให้เธอกดขี่ไม่เคยปริปากบ่นสักคำ ยังเทิดทูลเธออย่างกับพระเจ้า ฉันแอบว่าเธอนิดเดียว ยัยนี่มองฉันตาเขียวเหมือนถ้าเอาไม้มาตีฉันได้ก็ทำไปแล้ว”

“นายกล้าแอบด่าฉัน”

“เอ่อ...ประเด็นไม่ใช่ตรงนั้น เอาเป็นถ้าเธอไล่ยัยนี่ออกฉันรับมาทำงานกับฉันต่อนะ” แก้วกัลยาส่งสายตาค้อนใส่แมทธิว และมองไปที่มิลา

“เธออยากไปทำงานกับแมทหรอมิลา”

“มะ...ไม่ค่ะ ดิฉันอยากทำงานกับคุณแก้ว ดิฉันไม่ทำที่อื่นนะคะ อย่าไล่ดิฉันออกนะคะ”

“เอาล่ะฉันจะให้โอกาสเธออีกครั้ง เทรซบอกฉันมาว่าแบบที่ถูกก๊อบไปมีห้าชุด เธอต้องออกแบบมันขึ้นมาใหม่ให้ฉัน เธอจบออกแบบแฟชั่นมานำความรู้ที่ได้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ ฉันให้เวลาเธอสองอาทิตย์ ถือว่าฉันใจดีกับเธอแล้ว ถ้าสองอาทิตย์เธอทำไม่ได้ ก็เก็บของกลับบ้านนอกเธอไป ฉันไม่รับคนไร้ความสามารถมาทำงานกับฉัน” แก้วกัลยาหันไปมองแมทธิวคล้ายจะหาเรื่องเป็นรายต่อไป

“ยัยพิตต้าอยู่ที่ไหน”

“ฉันไม่...”

“ถามหาฉันหรอ” แก้วกัลยาหันไปมองเจ้าของเสียง ใบหน้าสวยครุกรุ่นไปด้วยความโกรธ หญิงสาวสวยตรงหน้าเธอคือ โสภิตตา อดีตเพื่อนสาวสุดสนิทของแก้วกัลยา ก่อนทั้งสองจะกลายมาเป็นศัตรูกัน โสภิตตาถอดแบบแก้วกัลยามาทุกอย่างไม่ว่าจะความสวย ความร้าย ความแรง โสภิตตาเป็นสาวสวยมั่นผิวเข้ม ดวงตากมกริบดูเจ้าเล่ห์ ใบหน้าสวยแต่งแต้มสีสันเข้ากับสีผิวไม่ดูโดด เอกล้าแต่งตัวสีแรง ๆ แบบไม่อายใคร เสื้อผ้าสีตัดกับผิว แต่มันก็ทำให้โดดเด่น เรือนผมตัดสั้นก็ช่วยทำให้ใบหน้าของเอเก๋ไก๋ ดูแล้วโสภิตตาดูสวยแบบเก๋ไก๋ ไม่ได้สวยมีมนต์ขลังแบบแก้วกัลยา และความร้ายกาจของผู้หญิงตรงหน้าก็ไม่ได้ด้อยกว่ากัน ทั้งสองเคยเป็นเพื่อนกัน แต่เมื่อถึงเวลาที่ห้ำหั่นกัน มันคือความเดือดร้อนของบรรดาเพื่อนคนอื่น ๆ

“ไม่ได้เจอกันนานนะ แก้วกัลยา”

“ยัยงูพิษ” แก้วกัลยาพุ่งตัวเข้าไปหวังจะจัดการโสภิตตา แต่แมทธิวเข้ามาจับตัวแก้วกัลยาไว้ก่อน ส่วนโสภิตตาก็ทำสีหน้ายิ้มเยาะท้าทายแก้วกัลยาอย่างไม่กลัวเกรงความร้ายกาจของเธอ

“อะไรกัน โตจนป่านนี้แล้วยังระงับอารมณ์ตัวเองไม่ได้ วุฒิภาวะทางอารมณ์ต่ำไม่เคยเปลี่ยน ผู้ใหญ่เขาไม่ทำแบบนี้หรอกนะ เพราะผู้ใหญ่เขาคุยกับด้วยเหตุผล”

“เหตุผลหรอ แล้วเหตุผลนี่มันพอไหม” แก้วกัลยาดึงกระดาษออกมาจากมือมิลาและปาใส่หน้าโสภิตตา โสภิตตาเบิกตากว้าง และมองกระดาษที่หล่นกระจายก่อนจะพยายามระงับความโกรธลงและยิ้ม

“อ้อ...แบบเสื้อคอลเลคชั่นใหม่ของเดอะควีน สวยใช่ไหมล่ะ ขายดีมากเลยนะ”

“นังงูพิษ!!!” แก้วกัลยาแผดเสียง และพุ่งเข้าไปอีกครั้งพร้อมกับมือที่ง้างขึ้นตบลงใบหน้าของโสภิตตา แก้วกัลยากระชากคว้าหัวของโสภิตตา โสภิตตาเองก็ไม่ยอมกระชากหัวแก้วกัลยาไว้เช่นกัน

“ปล่อย / ปล่อย” สองสาวเอ่ยขึ้นเสียงประสานกัน

“แกปล่อยก่อนสิ” สองสาวเอ่ยขึ้นพร้อมกับอีกครั้ง แมทธิวกับมิลามองหน้ากัน อยากเข้าไปห้ามแต่กลัวลูกหลง สายตาของทั้งคู่บ่งบอกว่าอย่าเข้ามายุ่ง เขาและมิลาไม่อยากโดนหางพายุคงต้องหาคนมาหยุดพายุลูกนี้

“นังงูพิษ”

“แกนั่นแหละงูพิษ แย่งแฟนฉัน ขโมยงานฉัน หักหลังฉันสารพัด คนอย่างแกมันต้องโดนหนักกว่านี้”

“ก็แกมันโง่ โดนมันหลอกแล้วยังไม่รู้ มีแฟนกี่คนก็โง่ให้พวกมันหรอก”

“แกมันชั่ว / แกมันโง่” สองสาวส่งเสียงพร้อมกับ มิลามองหน้าแมทธิวที่พึ่งวางโทรศัพท์ พลันสองสาวก็ปล่อยมือจากกันก่อนจะวิ่งเข้าตะลุมบอนกันอีกครั้ง เสียงมือที่ฟาดกระทบลงบนผิวหน้าดังถี่รัว

“ฉันจะแย่งทุกอย่างของแกมาให้หมดเลยคอยดู”

“แกคิดว่าจะทำได้อย่างนั้นหรอ นังโง่ขี้แพ้ โดนผู้ชายสวมเขายังคิดว่าเขารัก นังโง่ขี้แพ้ตาบอด ได้ยินไหมนังโง่” แก้วกัลยาเอ่ย โสภิตตาก็ยิ่งโกรธ

“เหอะ อย่าน้อยก็ดีกว่าแกแล้วกันนังหน้าหนอนทรยศ แค่ผู้ชายคนเดียวยังจีบไม่ติด ที่เขาไม่สนใจแกก็เพราะแกมันเน่าเฟะไง ไม่มีผู้ชายที่ไหนอยากได้หนอนเน่าเฟะอย่างแกหรอก สุดท้ายแกก็แก่ตายหงำเหงือกอยู่คนเดียว” แก้วกัลยาตาลุกวาว ถลาเข้าไปจะตบโสภิตตาอีกครั้ง

“พอแล้วแก้ว”

เพียะ!!!

ทุกอย่างรอบ ๆ ตัวคล้ายเงียบลง แก้วกัลยาเองก็ชะงัก ไม่คาดคิดว่าจะมีคนปรากฏตัวขึ้นขวางระหว่างเธอและโสภิตตาไว้ แก้วกัลยามองรายเล็บที่ปรากฏบนใบหน้าที่มีเลือดซึมไหลมา

“เฮียเจต”

“พอได้แล้วแก้ว คนมองเต็มไปหมดแล้ว แก้วไม่อายเขาหรอ” แก้วกัลยาหันไปมอง อย่างที่เจษฎาว่าคือมีไทยมุงปรากฏตัวขึ้น บางคนถือโทรศัพท์อัดคลิปไว้ โสภิตตากับแก้วกัลยามองหน้ากันก่อนจะ

“ไม่มีอะไรทำกันหรือไง หรือไม่เคยเห็นคนตีกัน” สองสาวเอ่ยขึ้นพร้อมกัน พลันเหล่าไทยมุงก็สลายตัวไปในทันที โสภิตตาก้มลงเก็บกระเป๋าขึ้นมา

“กลับเถอะพิตต้า”

“ฉันกลับแน่ แต่ฉันลืมบอกไป ว่าอีกสองอาทิตย์จะมีงานหมั้นของฉันกับแมท อย่าลืมมาล่ะ อ้อ...อย่าลืมนัดเราล่ะ ฉันจะเตรียมเท้าไว้รอ” โสภิตตาเดินไปแล้ว แก้วกัลยามองตามด้วยสายตาโกรธเกลียดอยากจะวิ่งเข้าไปกระชากหัวอีกครั้ง แต่เพราะเจษฎาจับแขนเธอไว้ไม่ให้ไป แก้วกัลยาสะบัดแขนออกด้วยท่าทีฉุนเฉียว

“กลับบ้านเถอะ ถ้าอากงรู้ว่าแก้วมาอาละวาดแบบนี้จะโกรธเอานะ” แก้วกัลยาหันไปมองมิลา

“มิลา นอกจากร่างแบบใหม่มาคืนฉัน เธอต้องหาทางจัดการยัยซูซี่ เอาให้ยัยนั่นหางานหางานการทำไม่ได้ ถ้าเธอไม่ทำฉันไล่เธอออก” แล้วแก้วกัลยาก็เดินไปพร้อมกับเจษฎา ทิ้งให้มิลายืนก้มหน้าอยู่ข้างหลัง

“ฉันทำให้คุณแก้วโกรธ”

“แก้วแค่โกรธเอง อีกอย่างแก้วไม่คิดจะไล่เธอออกอยู่แล้ว มองในมุมกลับกันแก้วกำลังให้โอกาสเธอได้แสดงฝีมือนะ เธออยากทำงานกับห้องเสื้อพีโอเนียร์ เป็นโอกาสของเธอแล้ว แก้วให้โอกาสแล้วก็คว้าไว้ให้ดี แสดงฝีมือให้เต็มที่ แก้วดุก็เพราะอยากให้เธอรอบคอบกว่านี้”

“ฉันไม่ได้ตั้งใจ”

“แก้วรู้ ไม่อย่างนั้นเธอคงมีสภาพเดียวกับพิตต้าไปแล้ว ไม่ต้องคิดมากหรอก แก้วไม่ได้โทษเธอ”

“แล้วเรื่องคุณซูซี่”

“ไม่ต้องห่วง เรื่องแค่นี้ แค่โทรไปแบล็คลิสต์รายชื่อไว้ ฉันจัดการให้ ไม่ต้องคิดมาก” แมทธิววางมือลงบนไหล่เล็กที่กำลังสั่นเพราะร้องไห้ เขาส่ายหน้ากับท่าทีตื่น ๆ กลัว ๆ โชคดีเท่าไหร่แล้วที่แก้วกัลยาเอ็นดูมิลามากพอควรไม่อย่างนั้นคงโดยหนักกว่านี้แล้ว ก็นะลูกแมวเชื่อง ๆ แบบนี้แก้วกับยาชอบนักแหละ







“เจ็บไหมคะ” แก้วกัลยาถามและช่วยทายาให้ เธอพยายามที่จะเบามือมาก ๆ เพราะแก้วกัลยารู้ตัวว่าตัวเองมือหนักแค่ไหน เจษฎายิ้มและส่ายหน้า

“ไม่หรอก แค่นี้เอง เฮียไม่อยากให้แก้วทำแบบนี้ แก้วจะสามสิบแล้วนะ โอ๊ย!!!” เจษฎาร้องอย่างเก็บไม่อยู่เมื่อแก้วกัลยาตั้งใจจี้สำลีที่ชุบแอลกอฮอล์มาที่แผล

“เฮียแค่จะบอกว่า แก้วเป็นผู้ใหญ่ไม่ใช่วัยรุ่นที่จะทำอะไรเพราะขาดความยั้งคิดแบบนั้น แก้วควรจะรู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้ ทำแบบนี้คู่แข่งเขาก็รู้กันหมดว่าแก้วไฟติดง่าย ทีนี้เขาก็จะใช้จุดอ่อนนี้มาเล่นงานเรา”

“สมเป็นนักธุรกิจจริง ๆ เลยนะคะ แต่ใครจะทนได้ ยัยงูพิษรู้แน่ ๆ ว่ายัยซูซี่เอาแบบของแก้วไปให้ แต่ยัยนั่นยังกล้าตัดหน้าแก้วแบบนี้ คอยดูนะ แก้วจะทำให้ยัยนั่นมาก้มกราบเท้าแก้ว”

“เรื่องมันก็นานมากแล้ว”

“แก้วจบแล้ว แต่ยัยพิตต้าไม่ยอมจบ ทั้งที่แก้วไม่ได้ผิด แฟนยัยนั่นมายุ่งกับแก้ว ใคร ๆ ก็รู้ว่าไอ้หมอนั่นอ่ะเจ้าชู้ขนาดไหน แก้วแค่จะกระชากหน้ากากแฟนยัยพิตต้า แต่กลายเป็นว่าแก้วไปแย่งแฟนยัยนั่น หลงผู้ชายจนไม่เป็นอันทำอะไรยังจะมาว่าแก้วอีก”

“แต่แก้วก็ควรเตือนเพื่อนตั้งแต่แรก ไม่ใช่เอาตัวเองเข้าไปยุ่ง”

“คนอย่างยัยพิตต้าไม่มีหลักฐานก็ไม่เชื่อหรอก ชอบคิดว่าตัวเองฉลาด ทั้งที่จริงโง่มาก”

“แล้วตอนนี้เป็นยังไง ทำอะไรก็แข่งกันไปหมด แก้วก็ไม่มีความสุข พิตต้าก็ไม่มีความสุข”

“ใครบอก แก้วมีความสุขที่เอาชนะมันได้”

“หลอกตัวเองแล้วมีความสุขก็ทำไปเถอะ” เจษฎาเอ่ย แก้วกัลยาวางสำลีลง และมองรอยเล็บที่ฝากไว้บนใบหน้าเจษฎา ก่อนจะลูกเบา ๆ

“เฮียไม่โกรธแก้วบ้างหรอ แก้วทำเฮียเจ็บอีกแล้ว”

“อยากโกรธแต่โกรธไม่ลง” แก้วกัลยายิ้มบาง ๆ ออกมา “แล้วเรื่องคุณเพชรเป็นเป็นยังไงบ้าง เขาดีกับแก้วไหม” แก้วกัลยายิ้ม

“คุณเพชรเขาหายโกรธแก้วแล้ว เขาดีกับแก้วมาก แก้วคิดว่าเขาเองก็เริ่มชอบแก้วบ้างแล้ว อีกไม่นานเขาก็จะหลงรักแก้ว และอีกไม่นานเราก็จะเป็นแฟนกัน คุณเพชรถ้าเขารักใครสักคน เขาจะมีมีทางเปลี่ยนใจ แก้วโชคดีที่ได้เจอคุณเพชร”

“แต่เขาก็เป็นสาเหตุให้แก้วเจ็บตัว”

“ไม่เกี่ยวกับคุณเพชรหรอกค่ะ แก้วทำตัวเอง แก้วแค่อยากพิสูจน์ตัวเอง ลืมดูขีดจำกัดของตัวเอง มันอาจดูโง่ แต่สำหรับแก้ว การที่แก้วรักใครสักคน แก้วอยากจะเป็นหนึ่งในชีวิตของเขา อยากอยู่กับเขาในช่วงเวลาทั้งทุกข์และสุข” แก้วกัลยาเอ่ย

“เพราะเวลาแก้วรักใครแก้วทุ่มหมดใจแบบนี้ ทุกคนถึงห่วง ห่วงว่าแก้วจะต้องเจ็บอยู่คนเดียว”

“แก้วทำทุกอย่างดีที่สุดแล้ว อีกไม่นานจะครบกำหนดแล้ว จะหมดเวลาแล้ว แก้วจะทำจนถึงวินาทีสุดท้าย เขาอาจจะเห็นความสำคัญของแก้วขึ้นมาบ้าง แค่ที่เล็ก ๆ ในใจเขาก็ยังดีกว่ามันไม่มีเลย”

“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เฮียอยู่ข้างแก้ว”

“แก้วรู้ เฮียไม่เคยทิ้งแก้ว ทั้งที่แก้วอยากให้เฮียทิ้งแก้วบ้าง เฮียห่วงแก้วจนลืมห่วงตัวเอง ว่าแก้วอายุจะสามสิบ เฮียก็อายุมากแล้ว ป่านนี้ยังไม่มีใครเลย เฮียทำให้แก้วรู้สึกผิด เหมือนแก้วเห็นแก่ตัวดึงเฮียไว้”

“เข้าข้างตัวเอง” เขาเอ่ยขึ้น “ที่เฮียยังไม่มีแฟน เพราะเฮียยังเลือกผู้หญิงที่ดีพอจะเป็นแม่ของลูกไม่ได้ก็แค่นั้น ไม่ต้องมาห่วงเฮียหรอก ห่วงตัวเองเถอะ”

“แก้วห่วงเฮียจริง ๆ นะ ถ้าแก้วรักเฮียได้ก็ดีสินะ” แก้วกัลยาเอ่ย

“แก้วก็รักเฮียอยู่นี่ไง หรือแก้วไม่รักเฮีย” แก้วกัลยายิ้ม

“ไม่มีใครดีกับแก้วเท่าเฮีย” แก้วกัลยาเอ่ย “แม้แต่คุณเพชรก็ไม่ได้ดีกับแก้วเท่าเฮีย แก้วอยากรักเฮียแบบที่ไม่ใช่พี่ชาย แก้วเคยลองคิดแล้ว แต่แก้วทำไม่ได้ แก้วให้เฮียไม่ได้ เหมือนกับที่แมทเองก็อยากให้แก้วรักเขาแบบนั้น แต่แก้วก็ให้เขาไม่ได้ เพราะแก้วกลัว แก้วไม่อยากให้ความรู้สึกดี ๆ ที่เฮียกับแมททำให้แก้วต้องพังลงด้วยการผูกมัดเหล่านั้น”

“อะไรสาวเก่งทำไมน้ำตาซึม เฮียไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย เป็นพี่น้องกันก็ดีแล้ว เฮียก็พอใจแบบนี้ แล้วไม่ต้องห่วงวันหนึ่งเฮียเจอใครสักคนเป็นอาซ้อเราได้ เฮียจะมาแนะนำแน่นอน รับรองน่ารัก นิสัยดี เฮียว่านี่ก็จะเที่ยงแล้ว เราไปหาอะไรทานกันดีกว่าไหม”

“ค่ะ”

“วันนี้แก้วอยากทานอะไร”

“ตามใจเฮียค่ะ”

“แน่ะมาแปลก ตามใจเฮียด้วย ถ้าอย่างนั้นไปกินข้าวบ้านเฮียแล้วกัน” แก้วกัลยาส่ายหน้าทันที

“แก้วไม่อยากเจออากงของเฮีย เดี๋ยวเอาไปเล่าต่อกับอากงแก้ว แล้วทีนี้ก็มโนกันจับคู่เราอีก แก้วว่าเราไปหาอะไรทานแถว ๆ นี้ดีกว่า แก้วอยากกลับบ้านแล้วด้วย”

“โอเค” ขณะที่กำลังจะเดินไป เสียงโทรศัพท์แก้วกัลยาก็ดังขึ้น แก้วกัลยามองโทรศัพท์และมองหน้าเจษฎา เจษฎาพยักหน้าเป็นเชิงให้รับเถอะ แก้วกัลยากดรับ

“ว่าไงคะคุณเพชร”

(ผมกำลังจะไปเยี่ยมคุณแม่ ผมเลยจะชวนคุณไปด้วยกัน) แก้วกัลยาหันไปมองเจษฎาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ คงได้ยินเสียงเอ่ยชวนนี้แล้ว เจษฎายิ้มให้และพยักหน้าเป็นการอนุญาต

“ไปค่ะ”

(ตอนนี้จะบ่ายแล้ว ผมยังไม่ทานข้าว เราแวะไปทานข้าวก่อนค่อยแวะไปโรงพยาบาลดีไหมครับ)

“เอ่อ...ได้ค่ะ แก้วรอที่โรมแรมแชงกรีรานะคะ”

(ครับเดี๋ยวผมไปรับ ผมอยู่ไม่ไกลจากที่นั่น) แก้วกัลยายิ้มเมื่อสายตัดไป เธอหันไปมองเจษฎา

“เดี๋ยวเฮียรอเป็นเพื่อน วันนี้เฮียจะกลับระยองอยู่แล้ว กลับมาอีกทีก็อาทิตย์หน้า”

“เฮียจะกลับจีนเมือไหร่คะ”

“คงเป็นสิ้นเดือนหน้า เฮียมาดูโรงงานทางนี้เลยอยู่นานหน่อย แต่ดูเสร็จก็คงกลับไปสาขาใหญ่ต่อ อย่าทำให้เฮียเป็นห่วงบ่อย ๆ ลดความซ่าลงบ้าง เกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะมีกี่คนที่เสียใจ”

“แก้วจะดูแลตัวเองค่ะ”

“มีอะไรโทรหาเฮียนะ”

“รู้แล้วน่า ไปหาอาซ้อมาโชว์แก้วดีกว่าไม่ต้องห่วงแก้วหรอก คุณเพชรโทรมาแล้ว แก้วไปนะคะ แล้วคราวหน้าไว้ชดเชยให้ เดี๋ยวแก้วนัดสาว ๆ ที่บ้านก่อน เราไปเลี้ยงฉลองกันดีกว่า” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น แก้วกัลยามองเจษฎาอีกครั้ง

“เรายังเจอกันอีกนานค่อยนัดกันใหม่ คุณเพชรคงมาแล้ว เดี๋ยวกล้องพยาบาลเฮียเอาไปคืนที่ล็อบบี้เอง แก้วไปเถอะ” แก้วกัลยาทำสีหน้าลังเลก่อนจะเดินจากไป เจษฎาที่แอบเดินตามออกไปทำได้เพียงแอบมองแก้วกัลยาขึ้นรถไปกับผู้ชายที่แก้วกัลยารักสุดหัวใจ เขาจะปล่อยมือแก้วกัลยาแต่คงไม่ใช่ตอนนี้ เขาหวังแค่ว่าเพทายจะดูแลแก้วกัลยาได้


...ติดตามตอนต่อไป...



พัชรีพร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ก.ค. 2558, 22:02:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ก.ค. 2558, 22:03:00 น.

จำนวนการเข้าชม : 872





<< ตอนที่ 16 ก่อนพายุจะมา   ตอนที่ 18 ฆาตกร ฆาตกรรม >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account