ลองรัก
ศิญาดา...หญิงสาวโลกส่วนตัวสูง

กับ

เจค...หนุ่ม(ที่เคย)มาดขึม

เมื่อสวิตซ์หัวใจถูกเปิดเพียงแค่สบตา ชายหนุ่มพยายามทุกอย่างเพื่อให้ได้ครอบครองหัวใจเธอ ส่วนหญิงสาวกลับตั้งมั่นที่จะรักษากำแพงโลกส่วนตัวเอาไว้ให้ตลอด

...สุดท้าย ระหว่าง "เขา" กับ "เธอ" จะลงเลยกันได้อย่างไร ติดตามได้ใน...

~~~~ ลองรัก~~~~
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ทำตามเสียงของหัวใจ 100%

หวังว่าคุณจะไม่ปฏิเสธน้ำใจจากผม
ผมรออยู่หน้าออฟฟิศ
เจค
ประโยคสั้นๆ สามบรรทัดที่ลงชื่อมาชัดเจนทำให้หญิงสาวมั่นใจว่าเธอคือเจ้าของกาแฟแก้วนี้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ศิญาดาก็ยังลังเลที่จะออกไปพบเขาตามโน้ตที่เขาส่งมาให้เพราะเธอไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไรจากเธอกันแน่ แต่ถ้าเธอไม่ออกไปพบเขาแล้วเขาเป็นฝ่ายที่เข้ามาหาเธอเองอะไรจะเกิดขึ้น นั่งตัดสินใจสักพักศิญาดาก็ตัดสินใจเดินออกไปพบเขาตามโน๊ตที่ได้รับ เพียงแค่ก้าวพ้นเขตของบริษัทเธอก็มองเห็นเขา เจคยื่นอยู่ใต้ร่มของกิ่งหูกวางซึ่งเป็นต้นไม้ต้นเดียวกันกับที่เธอนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ก่อนหน้านี้ ชายหนุ่มสวมกางเกงยืนส์สีซีดกับเสื้อคอโปโลสีน้ำเงินเข้มยืนพิงรั้วเหล็กโดยทิ้งน้ำหนักไปที่ขาข้างเดียวส่วนอีกข้างยกขึ้นงอไปข้างหลังเพื่อยันกับฐานรั้วเหล็ก มือทั้งสองข้างถูกเก็บไว้ในกระเป๋า โอ้..นี่มันนายแบบชัดๆ ในความคิดของศิญาดา หลังจากที่ยืนพินิจผู้ชายตรงหน้าโดยเว้นระยะห่างไว้เพื่อไม่ให้เขารู้สึกว่ามีคนมองได้สักพักหญิงสาวก็ตัดสินใจเดินเข้าไปหาเขา
“คุณต้องการพบฉันหรอคะ” ประโยคคำถามแรกถูกปล่อยออกจากปากบางทันทีที่เดินไปถึงเขา
“ขอบคุณที่คุณยอมออกมาพบผม” เจคหันมายืนประชันหน้ากับเธอ รอยยิ้มดีใจอย่างปิดไม่มิดเปิดเผยให้หญิงสาวเห็นทันที ทันทีที่เห็นหน้าเธอความกลัวที่ว่าเธออาจจะไม่ออกมาพบเขาก็หายไปทันที
“ขอโทษที่ผมรบกวนเวลางานของคุณ แต่ผมจำเป็นที่จะต้องพบคุณอีกครั้ง” ชายหนุ่มหยุดพูดไปสักพัก “ผมมีธุระด่วน ต้องเดินทางกลับอเมริกาวันนี้” เจคบอกเหตุผลของการนัดเธอออกมาในวันนี้
“คุณใช้วิธีนี้กับทุกคนรึเปล่าคะ” แม้จะรู้สึกแปลกๆ ในใจที่เขาจะเดินทางกลับแต่ศิญาดาก็ยังเลือกที่จะสร้างกำแพงล้อมตัวเองให้หนาขึ้นอีกชั้น
“มันอาจจะเร็วเกินไปสำหรับคุณ แต่สำหรับผม” เจคเว้นจังหวะพูด สายตาที่จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเธอทำให้ศิญาดาเสมองไปทางอื่น “ผมจะไม่ทำอะไรในสิ่งที่ผมไม่มั่นใจ” คำตอบที่มั่นคงทำให้เธอหันกลับมามองเขาอีกครั้ง สายตาที่แน่วแน่ของเขาทำให้หญิงสาวกลัวว่าสิ่งที่เธอกำลังคิดมันจะเกิดขึ้นจริง
“อะไรทำให้คุณมั่นใจขนาดนั้นคะ ทั้งที่คุณไม่รู้จักฉันเลยด้วยซ้ำ” คำถามที่ส่งมาพร้อมกับสายตาที่ไม่ยอมหลบเหมือนครั้งแรก
“ผมเชื่อในสิ่งที่ตัวเองรู้สึก” คำตอบของเขาชัดเจนจนหญิงสาวต้องถอนหายใจ
“คุณไม่รู้จักฉัน ฉันไม่รู้จักคุณ แถมเรายังอยู่คนละประเทศ ความแตกต่างหลายๆ อย่างที่เรามีฉันคิดว่ามันคงไม่มีทางเป็นไปได้หรอกค่ะ” แม้เขาจะไม่บอกออกมาตรงๆ เธอก็รู้ว่าเขาคิดยังไงกับเธอ
“เป็นไปได้แน่นอนเพียงแค่คุณไม่ปิดกั้นตัวคุณเอง” คำพูดนี้ของเจคกระทบใจเธอเข้าอย่างจังจนหญิงสาวถึงกับพูดไม่ออก
“ผมแค่อยากขอโอกาสที่จะได้ทำความรู้จักกับคุณ” ยิ่งชายหนุ่มพูดก็ยิ่งทำให้เธอนิ่งจนเขาเริ่มใจไม่ดี คำว่าเธออาจจะมีคนรักแล้ววิ่งเข้ามาในความคิดของเขา “หรือว่า...คุณมีคนรักแล้ว!” ประโยคสุดท้ายของชายหนุ่มแผ่วลงทันที
อาการเงียบนิ่งของเธอยิ่งทำให้ชายหนุ่มพาลคิดไปแล้วว่าเธอคงมีคนที่เธอรักแล้วจริงๆ เจคมองแก้วกาแฟในมือของเธอที่เขาเป็นคนฝากให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนั้นเอาไปให้เธอ จากที่ถือด้วยมือเดียวตอนนี้เธอใช้สองมือประคองแก้วกาแฟนิ่ง หยดน้ำที่เกาะพราวอยู่รอบตัวแก้วเพราะอากาศร้อนเริ่มหยดลงพื้นคล้ายกับว่าเขาได้ยินเสียงของหยดน้ำที่ตกกระทบพื้นดังก้องอยู่ในหัวทั้งๆ ที่บริเวณที่เขาและเธอยืนคุยกันอยู่นั้นคือข้างถนนของกรุงเทพฯ ที่มีการจราจรหนาแน่นที่สุดติดอันดับโลกเลยด้วยซ้ำ
“ศิญาดา” ชายหนุ่มเรียกชื่อเธออย่างแผ่วเบาแต่มันกลับชัดเจนนักในความคิดของเธอ เสียงเรียกชื่อเธอที่หลุดออกมาจากริมฝีปากหนาราวกับกำลังเร่งเอาคำตอบกับเธอ
“ฉัน..ยังไม่มีใครหรอกค่ะ” ชั่วเสี้ยววินาทีที่เธอเว้นจังหวะในการพูดมันแทบทำให้หัวใจเขาหยุดเต้น กว่าจะประมวลผลของประโยคเต็มได้ราวกับเขาใช้เวลาไปนับชั่วโมงเลยทีเดียว ‘เธอยังไม่มีใคร’ เมื่อสมองสามารถประมวลผลได้สมบูรณ์รอยยิ้มที่หายไปก็กลับมาอีกครั้งแถมครั้งนี้ยังกว้างกว่าครั้งไหนซะอีก
“อุ๊ย!!” ศิญาดาร้องออกมาอย่างตกใจเมื่ออยู่ๆ เขาก็เข้ามาสวมกอดเธออย่างรวดเร็วแถมยังกอดเธอซะแน่นจะแทบหายใจไม่ออก ด้วยความสูงเกือบร้อยเก้าสิบเซ็นติเมตรของเขาทำให้เธอถึงกับคอตั้งบ่าเลยทีเดียว
“คุณทำอะไรของคุณ!” ทันทีที่ดันตัวเองออกจากอ้อมกอดของเขาได้น้ำเสียงที่เข้มขึ้นไม่แน่ใจว่ามาจากความอายหรือความโกรธแต่ที่แน่ๆ คือไม่ได้มีความรังเกียจแน่นอนก็ทำให้เจคถึงกับยิ้มเมื่อมองหน้าเธอ
ตอนนี้ใบหน้าของศิญาดาแดงราวกับลูกมะเขือเทศ ยิ่งเขาจ้องเธอหน้าเธอก็ยิ่งยิ่งอาย ยิ่งอายหน้าเธอก็ยิ่งแดงเข้าไปอีกจนชายหนุ่มถึงกับหลุดขำออกมาเบาๆ
“มีอะไรน่าขำนักหนา” หญิงสาวใช้น้ำเสียงให้เข้มขึ้นเพื่อปกปิดความอาย
“ก็ผมดีใจที่คุณยังไม่มีใคร” ถึงแม้ว่าเธอจะหลบสายตาของเขาเพราะความอายแต่เขาก็พอใจที่จะได้มองหน้าเธออยู่แบบนี้
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวนะคะ” พูดจบศิญาดาก็หันหลังกลับเตรียมตัวเดินไปจากเขาเพื่อหนีความอายจากสิ่งที่เขาทำทันทีแต่ก็ไม่มันจะได้ก้าวเท้าก็มีมือของเขาคว้าแขนเรียวเพื่อรั้งตัวไว้ซะก่อน
“เดี๋ยวก่อนสิครับ” ถ้าเธอคิดจะเดินจากเขาไปเสียดื้อเหมือนเมื่อวานล่ะก็ ไม่มีทางเสียล่ะ
“ฉันออกมานานแล้วนะคะ เดี๋ยวทุกคนจะสงสัย”
“ผมช่วยให้ทุกคนหายสงสัยได้นะครับถ้าคุณต้องการ”
“ยังไงคะ” ศิญาดามองใบหน้ายิ้มๆ ของเขาอย่างสงสัย
“ผมจะไปอธิบายกับทุกคนเองว่าคุณออกมาทำอะไร รับรองทุกคนหายสงสัยแน่นอน” เมื่อสบโอกาสชายหนุ่มก็ไม่พลาดที่จะเสนอตัว
“ไม่ได้นะคะ” ศิญาดารรีบค้าน “ขืนคุณทำอย่างนั้นฉันคงโดนซักจนขาวแน่” แค่คิดว่ารมิตาจะต้องซักเธอจนขาวถ้ารู้ว่าเธอมีคนมาจีบเธอก็ขนลุกแล้ว
“ใจคอคุณจะให้ผมเดินทางกลับทั้งที่ไม่มีทางติดต่อคุณได้อย่างนี้หรอ” ชายหนุ่มทำหน้าเศร้าได้เนียนมาก
เพราะเมื่อวานเธอปฏิเสธที่จะให้เบอร์โทรศัพท์ของเธอกับเขาเขาถึงได้ทำหน้าเศร้าที่ยังหาวิธีติดต่อเธอหลักจากกลับอเมริกาแล้วไม่ได้นั่นเอง
“เอาโทรศัพท์ของคุณมาสิคะ” หญิงสาวยื่นมือไปรอรับโทรศัพท์จากเขา ทำเอาเจคอยากจะกระโดดด้วยความดีใจที่เธอยอมให้เบอร์โทรศัพท์กับเขาเสียที เมื่อได้โทรศัพท์ของเขามาแล้วศิญาดาก็เลื่อนหาเมนูพิมพ์อะไรสักอย่างเพื่อพิมพ์ข้อความ หลังจากใช้เวลาอยู่สักพักเธอก็ส่งโทรศัพท์คืนให้เขา ชายหนุ่มรับมาอย่างดีใจ
“อีเมล์!” เมื่อเห็นข้อความที่เธอพิมพ์ไว้ในเครื่องมือสื่อสารสุดทันสมัยของเขาแล้วถึงกับอึ้ง “อย่าบอกนะว่าคุณจะให้ผมส่งอีเมล์ติดต่อคุณ” คิ้วที่ขมวดเข้าหากันของเขาทำให้เธอถึงกับยิ้ม
“ฉันให้คุณได้แค่นี้ล่ะค่ะ ถ้าคุณไม่ต้องการเดี๋ยวฉันลบออกให้ก็ได้นะคะ” ไม่พูดเปล่าเพราะเธอยื่นมือออกไปรอรับโทรศัพท์จากเขาเพื่อทำอย่างที่เธอบอก แถมด้วยรอยยิ้มที่ส่งมาให้เขาราวกับเธอมีอำนาจต่อรองที่เหนือกว่าเขามากมาย
“ไม่มีทาง” เจคยกโทรศัพท์ในมือขึ้นสูงระดับบ่าของตัวเอง “ถึงแม้มันจะเป็นวิธีการติดต่อที่ไม่ค่อยสวยเอาซะเลย แต่มันก็เป็นวิธีเดียวที่ผมจะใช้ติดต่อคุณได้ รับปากผมได้มั๊ยว่าคุณจะตอบอีเมล์ของผมทุกฉบับ” น้ำเสียงและแววตาที่จริงจังของเขาทำให้เธอเลิกล้อเขา
“ได้ค่ะ ถ้าคุณส่งมาฉันก็จะตอบ”
“ผมส่งแน่นอน” เจคยืนยันอย่างหนักแน่น
“ฉันต้องไปทำงานแล้วล่ะค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะ” พูดจบก็หมุนตัวเดินเข้าอาคารไปอย่างรวดเร็ว
คำอวยพรธรรมดาทั่วไปแต่เมื่อมันออกมาจากปากของเธอทำไมถึงทำให้เขารู้สึกอบอุ่นได้ขนาดนี้ เจคยืนมองตามร่างของศิญาดาที่เดินเข้าไปในตัวอาคารอย่างรีบเร่งราวกับกำลังหนีอะไรบางอย่างด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า นับว่าการได้พบและพูดคุยกับเธอในวันนี้ไม่สูญเปล่า ยิ่งได้พูดคุยก็ยิ่งรู้ว่าเธอไม่เหมือนกับผู้หญิงคนไหนที่เขาเคยพบมาตลอดอายุ 36 ปีเลยสักคน ถ้าจะบอกว่าเป็นเพราะเธอไม่รู้จักเขาเธอถึงไม่ได้พยายามที่จะทำตัวเพื่อให้เขาสนใจก็คงไม่ใช่เพราะจากที่เห็นมาผู้หญิงบางคนไม่เคยรู้จักเขาเลยด้วยซ้ำยังกล้าเสนอตัวเพื่อให้ได้เข้าใกล้เขาก็มี แล้วยิ่งไม่ต้องนับรวมกับคนที่รู้จักว่าเขาเป็นใครด้วยแล้วหญิงสาวเหล่านั้นยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เขาสนใจเพียงเพราะประโยชน์ที่จะได้จากเขาไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงแน่ล่ะเพราะเขาเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอันดับต้นๆ ของอเมริกานี่สาวไหนจะไม่อยากแนบชิดกับเขาบ้าง รวมถึงเงินทองหรือของมีค่าที่เขาจะตอบแทนให้หลังจากที่ได้เป็นคู่ควงของเขาแล้วอีก แถมวิธีการติดต่อสื่อสารที่เธอให้เขาอีกยิ่งน่าขันเข้าไปใหญ่ อีเมล์! สมัยนี้ยังมีใครเขาใช้อีเมล์จีบกันอยู่อีกหรือนี่ รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่นเลยว่าคนอย่าง เจค เลาท์เนอร์ ใช้อีเมล์จีบสาว แค่คิดก็ขำแล้ว แต่ก็ยังมีบางอย่างที่เขาสัมผัสได้จากตัวเธอที่ทำให้เขาต้องนำมาครุ่นคิดนั่นก็คือกำแพงที่เธอสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวเอง มันชัดเจนมากจนเขารู้สึกได้ราวกลับว่าเธอเคยผิดหวังกับความรักมาก่อนถึงกับต้องสร้างมันขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวเอง ถึงแม้ว่าเธอจะสร้างกำแพงขึ้นสูงแค่ไหนหรือสร้างมันหนาสักเท่าไหร่เขาก็จะเป็นคนทำลายมันเอง เขายอมให้เธอสร้างมันขึ้นมาเพื่อป้องกันคนอื่นได้แต่เขาจะไม่ยอมให้เธอสร้างมันขึ้นมาเพื่อป้องกันเขาอย่าแน่นอน!



ศิริรตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ก.ค. 2558, 19:32:41 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ก.ค. 2558, 19:32:41 น.

จำนวนการเข้าชม : 1072





<< ทำตามเสียงของหัวใจ 50%   ห่างไกล..ใจโหยหา >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account