แก้วขวัญวันรัก "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"
เป็นเรื่องราวต่อยอดมาจาก แก้วขวัญวันรัก
โดยเรานำเรื่องราวของนางเอกทั้งสี่แบ่งพาสเป็นเรืองของตัวเองประกอบไปด้วย
"ประกาสิตรักแก้วกัลยา"
"พันธนาการรักขวัญชีวัน"
"ละลายรักวันวิวาห์"
"กลบ่วงรักรักจิรา"

โดยเรื่องแรกของ แก้วขวัญวันรักที่นำมาให้ได้อ่านกันคือ "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"

แก้วกัลยาพี่สาวของโตของบ้านสิทธิทรัพย์อาภา
เมื่อถูกกดดันให้คลุมถุงชนกับเจษฎา เธอจึงต้องหาทางดิ้นให้พ้นบ่วงนี้
เธอจึงออกปากท้าอากง ว่าจะหาสามีที่ดีมาโชว์ให้ได้
แก้วกัลยาเลือก "เพทาย" ประธานหนุ่มแห่งวินัสมีเดีย
ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ ผู้ชายที่เธออยากจะเอาชนะใจ
ผู้ชายที่ติดอยู่ในความทรงจำของเธอมาตลอดเจ็ดปี

แก้วกัลยาจะพิชิตใจเพทายได้หรือไม่ติดตามได้ใน "ประกาศิตรักแก้วกัลยา"
Tags: แก้วกัลยา เพทาย ความรัก เดิมพัน

ตอน: ตอนที่ 21 เด็กผู้อยู่ในเหตุการณ์ (ตอนต้น)

21
เด็กผู้อยู่ในเหตุการณ์



ภายในห้องมืดสนิทร่างเด็กหนุ่มรูปร่างสูงเก้งก้างกำลังนอนขดตัวอยู่บนพื้นตัวของเขาถูกมัดด้วยเชือกเส้นใหญ่ ปากถูกปิดด้วยเทปกาว ตามเนื้อตัวมีร่องรอยของการถูกทำร้ายทารุณ ดวงตากลมโตดูอ่อนแรง เขาไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน เขาไม่รู้ว่าเวลานี้เป็นเวลากลางวัน หรือกลางคืน เขาไม่ได้เห็นแสงสว่างมาร่วมสัปดาห์ทุกวันจะมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาทรมานเขา ร่างกายของเขาจะทนได้อีกนานแค่ไหนเขาก็ไม่รู้ รู้สึกความตายรออยู่ตรงหน้าทุกเมื่อ อยากหนีก็หนีไม่ได้ เขากลัว กลัวเหลือเกิน

แอ๊ด

เสียงประตูเปิดแง้มออกพร้อมกับการเคลื่อนไหวของใครบางคนที่เข้ามาหยุดตรงหน้า ปรากฏแสงสว่างแสบตาที่ทำให้เขาต้องหลบตาหนีแสงนั้น เขาอยากจะขยับตัวหนีเพราะกลัวแขกผู้มาเยือนคนนี้ แต่แรงมันไม่เหลืออยู่แล้ว อาหาร น้ำไม่ได้ตกถึงท้องเขามาสามวันหลังจากผู้หญิงคนนั้นสั่งห้ามไม่ให้นำอาหารมาให้

“นี่...นาย” แม้ดวงตาของเขาจะปิดสนิทลืมไม่ขึ้น แต่ฟังจากเสียงแหบห้าวเบา ๆ นั่นเป็นเสียงของเด็กผู้ชายที่น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา มือของเด็กคนนั้นสะกิดแขนเขาเบา ๆ คล้ายเรียกสติ

“กินน้ำไหม” เด็กคนนั้นเอ่ยถาม

“อือ...” เขาส่งเสียงครางอืออาเบา ๆ

“ผมลงจากรถไม่ได้ นายอ้าปากหน่อยสิ ผมจะเทน้ำให้” เขาทำตามที่เด็กคนนั้นบอก น้ำค่อย ๆ เทเข้าปากเว้นจังหวะให้เขาได้กลืนน้ำ

“ผมเอามาได้แค่ขนมปัง นายกินได้ไหม” เด็กหนุ่มที่นอนอยู่บนพื้นพยักหน้า ขนมปังถูกส่งเข้าปากเข้าช้า ๆ จนหมดชิ้นทุกอย่างกลับมาเงียบ

“ทนอีกนิดนะ ผมกำลังหาทางช่วยนาย ผมต้องไปแล้ว พรุ่งนี้ผมจะแอบเข้ามาอีก” แล้วเด็กคนนั้นก็ออกไป ประตูปิดลงอีกครั้ง เปลือกตาที่ปิดสนิทพยายามเปิดแต่มันฝืนแรงต่อไปไม่ไหวก่อนจะหมดสติภาพ ๆ หนึ่งก็ฉายชัดเข้ามาในห้วงความคิด ภาพสุดท้ายก่อนที่เขาจะถูกจับมาที่แห่งนี้




“เธอเรียกฉันมาทำไม” เด็กหนุ่มดันกระโปรงรถเปิดออกและลงมายืนอยู่บนพื้น เขาชะโงกหน้ามองผู้หญิงสองคนที่กำลังสนทนากัน คนหนึ่งคือแม่ของเขา อีกคนคือผู้หญิงที่เขาจำได้ไม่ลืม แม้จะยืนหันหลังเขาก็จำได้ ผู้หญิงที่ถือปืนยิงบิดาของเขาต่อหน้าต่อตา

“คุณทวีปว่ายังไงบ้าง” ชนกนาถเอ่ยถามเพื่อนสาวที่เรียนมหาวิทยาลัยมาด้วยกันด้วยสีหน้าเฉยชา แต่ดวงตากลมกำลังสั่นไหวออกมาแต่เพื่อนสาวคนนี้คงไม่สังเกตเห็น

“พอเธอออกไปฉันก็เข้าไปคุยกับเขา เขาโวยวายนิดหน่อย แต่เขาตกลงจะหย่ากับเธอ เธอเรียกฉันมาไกลขนาดนี้เพื่อคุยเรื่องแค่นี้เนี่ยนะ ฉันมีธุระต้องทำ ถ้าเธอจะถามฉันเรื่องแค่นี้โทรมาก็ได้” ผู้หญิงผมบ็อบสั้นรูปร่างสูงเพรียวเดินกลับไปที่รถกำลังจะเปิดประตูรถกลับขึ้นไป

“แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน” สาวผมบ็อบหันหน้ากลับมามองเพื่อนสาว ใบหน้าฉายแววไม่พอใจ

“ก็คงอยู่ที่บ้านนั่นแหละ”

“ฉันจะกลับไปดูเขาที่บ้าน ฉันจะไปคุยกับเขา” สาวผมบ๊อบหมุนตัวเดินกลับมา ใบหน้าสวยฉายแววหงุดหงิด ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

“เธอจะบ้าหรอ กลับไปตอนนี้เกิดคุณทวีปไม่พอใจขึ้นมาเธอจะแย่เอานะ วันนี้เขาก็ทำร้ายเธอกับคุณเพชรไม่ใช่หรอ เธอรออีกสักสองสามวันค่อยกลับก็ได้”

“น่าแปลกที่เขาไม่ทำอะไรเธอ ยอมตกลงง่าย ๆ ปกติเขาไม่ยอมอะไรง่าย ๆ แบบนี้ เธอพูดกับเขายังไงเขาถึงยอม” สาวผมสั้นริมฝีปากอวบหนาที่ทาลิปสติกสีแดงจนเกิดรอย

“ไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องรู้ว่าฉันพูดยังไง รู้แค่เขาตกลงยอมหย่าก็พอแล้ว ฉันมีธุระต้องไปแล้ว ถ้าเธอไม่อยากให้คุณเพชรต้องเดือดร้อนตอนนี้ก็อย่าพึ่งไปพบเขา” สาวผมบ็อบเดินไปเปิดประตูเตรียมจะขึ้นรถ

ปัง

“แกไม่มีสิทธิ์ออกจากบ้านนี้ แกจะออกได้ก็แค่วิญญาณของแกเท่านั้น”

สาวผมบ็อบหันหลังกลับไปทันทีเมื่อได้ยินเสียงออกมาจากโทรศัพท์เมื่อหันไปมองก็เจอภาพคลิปที่ชนกนาถกำลังเปิดอยู่ ใบหน้าสวยฉายแววไม่พอใจเดินก้าวเท้าเข้ามาจะแย่งโทรศัพท์ในมือของชนกนาถ แต่ชนกนาถชักมือกลับไปหลบด้านหลัง
“แก...แกไปได้มันมาจากไหน”

“จากไหนมันไม่สำคัญหรอก สำคัญที่ว่าเธอฆ่าเขาทำไม เธอฆ่าคุณทวีปทำไม”

“นก ฉันกำลังช่วยเธอนะ ผู้ชายคนนี้ไม่ยอม เขาจะทำร้ายฉัน ฉันก็แค่ป้องกันตัว เธอเข้าใจฉันนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ เธอส่งคลิปมาให้ฉันนะ”

“ไม่ใช่ป้องกันตัว แต่เธอฆ่าเขา ทำไมเมย์ เธอฆ่าเขาทำไม” หญิงสาวผมบ็อบคนนี้ชื่อเมย์ หรือเมทิตามองชนกนาถ ใบหน้าเศร้าเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นเฉยชาก่อนจะแสยะยิ้มออกมา

“แกน่าจะพอใจผมงานฉันนะ ฉันกำลังจะช่วยแกไง กำลังช่วยแกให้สมหวัง แกอยากกลับไปหาชายชู้แกไม่ใช่หรอ ถ้าไอ้ทวีปมันยังอยู่แกไม่มีทางได้กลับไป ฉันแค่ช่วยแก สมใจแกแล้วนี่ ถ้ามันตายแกกับชู้ก็จะได้กลับไปคบกันได้”

“เพชรไม่ใช่ชู้ แล้วฉันก็ไม่ต้องการแบบนี้”

“ไม่ใช่ชู้ แต่สายตาแกตอนมองไอ้เพชรของแกน่ะ มันแสดงออกมาชัดมาก แกคิดว่าฉันไม่รู้หรือไงว่าแกอยากกลับไปหามันใจจะขาดแกถึงไม่เคยเลิกติดต่อมัน พยายามดึงมันมาให้เป็นมือที่สามของแก”

“ฉันกับเพชรเราเป็นแค่เพื่อนกัน ฉันกับเขามันจบกันไปแล้ว แต่สิ่งที่ฉันต้องการรู้คือเธอฆ่าเขาทำไม เธอหลอกฉันทำไม เธอกำลังจะทำอะไรกันแน่ เธอโกรธเกลียดอะไรฉันหรือเขา ทำไมทำแบบนี้ ทำไมล่ะเมย์”

“ฉันก็ไม่ได้โกรธเกลียดอะไรแกหรอกนะ แกเป็นเพื่อนรักฉันเชียวนะ”

“แล้วเธอฆ่าเขาทำไม”

“นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องรู้ ส่งคลิปที่เธอมีมาให้ฉัน”

“ไม่ ฉันจะส่งคลิปนี้ให้ตำรวจ เธอต้องชดใช้ ฉันเสียใจมากที่มองเธอผิดไป ไปชดใช้ความผิดในคุกเถอะนะเมย์ ฉันผิดหวังในตัวเธอมาก” ชนกนาถกำลังจะเดินกลับไปที่รถ

“แกรู้ไหมผัวแกมันไม่เคยมีแกคนเดียว” ชนกนาถยืนนิ่งมือที่จับประตูรถค้าง

“เธอพูดอะไร” ชนกนาถหันกลับไปมองเมทิตาด้วยแววตาสับสนไม่เข้าใจ

“แกรู้ไหมว่าต่อหน้าแกนอกจากมันจะชั่วทำร้ายตกตีแก แกอาจจะคิดว่ามันไม่เคยนอกใจแก แกถึงยอมมันมาตลอด แต่ฉันจะบอกให้ว่ามันมีบ้านเล็กบ้านน้อยเป็นสิบบ้าน ที่มันยื้อแกไว้ก็เพราะมันหวงก้างแกก็แค่นั้น”

“ไม่จริง คุณทวีปอาจจะไม่ใช่คนดี แต่เขาไม่มีทางทรยศฉันแน่”

“เพราะแกมันโง่แบบนี้ไงล่ะ แกถึงโดนมันหลอกมาตลอด แกรู้ไหมผัวแกมันเคยมานอนกับฉันตอนแกหนีออกจากบ้านไปด้วย ตอนแกโทรมาร้องไห้กับฉัน ฉันอยากจะบอกแกเหลือเกินผัวแกมันนอนอยู่กับฉัน”

เพียะ!!!

“ไม่จริง ฉัน...เธอทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง”

“แกไปถามผัวแกสิทำแบบนี้ได้ยังไง”

“เธอทำกับฉันที่เป็นเพื่อนเธอแบบนี้ เธอเคยเห็นว่าฉันเป็นเพื่อนหรือเปล่า ทำไมเมย์ ฉันไปทำอะไรให้เธอ”

“เพราะฉันไม่เห็นแกเป็นเพื่อนไงล่ะ ไม่เคยเห็น แกก็แค่เครื่องมือในแผนการใหญ่ของฉัน แผนการที่ฉันวางมานานมากเพื่อวันนี้”
“แผนอะไร”

“นั่นไม่ใช่สิ่งที่แกต้องรู้”

“เธอฆ่าเขาทำไมกันแน่ เธอวางแผนอะไรอยู่เมย์”

“มันไม่ใช่เรื่องที่แกต้องรู้ ส่งคลิปมาได้แล้ว” เมทิตาตะคอกใส่หน้าชนกนาถ ชนกนาถมองหน้าคนที่เป็นเพื่อน คนที่เธอปรึกษาปัญหา เธอไม่เคยสงสัยเลยสักนิดว่าเพื่อนคนนี้มักจะแนะนำให้เธอเลิกกับทวีป และเมทิตาเป็นคนที่ให้เธอนัดเพทายมาคุยที่บ้าน เพราะเพทายเป็นคนเดียวที่จะช่วยได้ เธอเชื่อมาตลอดและไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นหนึ่งในเหตุฆาตกรรมครั้งนี้

“ถ้ามันไม่ใช่สิ่งที่ฉันควรรู้ ถ้าอย่างนั้นตำรวจก็อาจจะรู้ ฉันจะเอาคลิปนี่ไปให้ตำรวจ ให้เธอรู้ไว้ที่ฉันทำเพราะฉันยังเห็นเธอเป็นพื่อน เธอจะได้ไม่ทำผิดไปมากกว่านี้ ไปชดใช้ความผิดในคุกเถอะเมย์” ชนกนาถหันหลังกำลังจะเดินกลับขึ้นรถไป โดนไม่รู้ว่ามัจจุราชกำลังมารอรับเธอให้อีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

“แกคิดว่าฉันจะยอมให้แกทำแผนที่ฉันวางมาทั้งหมดพังหรอ”

“แม่ระวัง” เด็กหนุ่มตะโกนขึ้นเมื่อเห็นเมทิตาถือไม้ที่วางอยู่บนพื้นวิ่งเข้ามาฟาดที่กลางศีรษะชนกนาถ ชนกนาถที่รู้ตัวช้าไปล้มลงไปนอนกับพื้น เมทิตาหันไปมองเด็กหนุ่มที่ยืนจ้องมองอยู่หลังรถ

“แก...แกฆ่าพ่อ แกฆ่าแม่ฉัน แกเป็นฆาตกร” เด็กหนุ่มหันหลังจะวิ่งหนี

“ถ้าแกวิ่งฉันจะฆ่าแม่แก” เด็กหนุ่มยืนนิ่งและหันหน้ากลับไปมองผู้หญิงที่เอ่ยเสียงขู่

“นะ...หนีไป” ชนกนาถที่ยังไม่สลบไปยังมีแรงเหลือเอ่ยขึ้น “แจ้งตำรวจ หนีไปอาร์ม” เด็กหนุ่มมองแม่เป็นครั้งสุดท้ายและออกตัววิ่งไปทันที เมทิตามองตามไปก่อนจะก้มมองผู้หญิงที่นอนหมอบไร้เรี่ยวแรง

“ฉันจะกลับมาจัดการแกทีหลัง แกได้ไปเจอยมบาลกับผัวแกแน่”

พลั่ก

เมทิตาฟาดไม้ลงไปที่ศีรษะของชนกนาถอีกครั้ง มองจนแน่ใจว่าร่างของชนกนาถนอนแน่นิ่งไม่มีสติมาอีก เธอลากตัวชนกนาถไปไว้ในพงหญ้ากันคนผ่านมา ก่อนจะรีบวิ่งตามลูกชายของชนกนาถไปทันที แต่กลับไม่เห็นเขาของเด็กหนุ่มอีกแล้ว เมทิตากวาดตามองไปรอบ ๆ มองเห็นตะปูบนพื้นและรอยเลือด เมทิตาแสยะยิ้มและหันหน้ากลับไปก่อนจะเอ่ยตะโกนเสียงดัง

“หมดเวลาเกมซ่อนหาแล้ว ออกมาเดี๋ยวนี้ ฉันรู้ว่าแกอยู่แถวนี้” เมทิตามองไปตามรอยเลือดที่วิ่งหายไปในพงหญ้าข้างทาง เมทิตามองไล่ไปที่พงหญ้ารกชันและไปหยุดอยู่ที่ต้นไม้

“ฉันให้โอกาสแกครั้งสุดท้ายถ้าฉันจับแกได้ ฉันจะฆ่าแกอย่างทรมาน แต่ถ้าแกยอมออกมาฉันจะฆ่าแกให้ตายแบบไม่เจ็บตัวมาก” อธิปที่แอบอยู่หลังต้นไม้ยืนนิ่งในมือถือไม้ เขาจะต้องหนีไปให้ได้ เขาจะต้องจับฆาตกรเข้าคุกเขาจะไม่มีทางให้แม่ของเขาตายเปล่า เขาพลาดที่เห็นเหตุการณ์และไม่แจ้งตำรวจในทันทีเลือกจะไปพบแม่เพื่อบอกเรื่องนี้ และความผิดพลาดจะไม่มีทางเกิดอีก เขาต้องรอดไปให้ได้

“หมดเวลาของเกมซ่อนแอบ” เมทิตาเดินไปที่ต้นไม้กลับไม่มีเงาของเด็กหนุ่ม พลันเสียงเหยียบกิ่งไม้ก็ทำให้เธอหันหลังกลับไปมอง เด็กหนุ่มที่อยู่หลังต้นไม้อีกต้นถือไม้ฟาดเข้าที่ตัวของเมทิตา จนเมทิตาล้มลง อธิปทิ้งไม้และวิ่งหนีย้อนกลับไปทางเก่า
“ไอ้เด็กบ้า ฉันจะฆ่าแกตามพ่อกับแม่แก” เมทิตาฝืนความเจ็บวิ่งตามไป อธิปวิ่งตรงไปหวังจะเจอคนที่ผ่านทางมา แต่เพราะเวลานี้ท้องฟ้ามืดแล้ว รถที่ผ่านทางมาก็มีน้อย อาหารบาดเจ็บที่เท้าทำให้การวิ่งช้าลง เขาหันไปมองเมทิตาที่กำลังวิ่งไล่ตามหลังมา ขาของเขาแรงแทบจะหมดแล้ว พลันแสงไฟจากรถคันหนึ่งก็ปรากฏขึ้น เขารีบวิ่งไปขวางรถคันนั้นไว้ รถมอเตอร์ไซต์คันนั้นเบรกอย่างกะทันหัน และมองเด็กหนุ่มที่วิ่งมาขวางหน้ารถไว้

“ลุงช่วยผมด้วย ลุงครับ ช่วยผมด้วย”

“มีอะไรหรือไอ้หนุ่ม”

“ผมขอติดรถไป...”

“อาร์ท ทำไมหนีมาแบบนี้ หนีออกจากบ้านแบบนี้รู้ไหมว่าทุกคนที่บ้านเป็นห่วง” เมทิตาวิ่งมากอดเอวอธิปไว้ สีหน้าโมโหแปลเปลี่ยนเป็นเสียใจได้ในทันที เธอกอดอธิปไว้แน่นมือที่ไว้เล็บยาวจิกเข้าที่เอวของอธิป

“ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่พี่ผม ลุงครับช่วยผมด้วย นังบ้านี่จะทำร้ายผม นังบ้านี่จะ...” เมทิตาปิดปากอธิปไว้ก่อนจะยิ้มให้กับลุงผู้ผ่านทางมากำลังจะกลับบ้าน

“ทำไมพูดกับพี่แบบนี้ พี่เสียใจมากนะ อาร์ทหายไปหลายวันแบบนี้มีแต่คนเป็นห่วงรู้ตัวไหม”

“มีอะไรกันหรือเปล่าหนู”

“คือว่าที่บ้านมีปัญหาแล้วน้องชายหนูเขาหนีออกจากบ้านมามั่วสุมกันเพื่อนอยู่แถวนี้ ตอนนี้ที่บ้านเป็นห่วงมาก หนูต้องพาน้องกลับแล้วขอบตัวนะคะ”

“อ้อ ๆ แถวนี้มีแต่พวกนักเลง ไม่ใช่สนามวิ่งเล่น รีบกลับกันได้แล้วนะ ไอ้หนุ่มพี่สาวเป็นห่วงขนาดนี้อย่าทำแบบนี้อีกล่ะ” อธิปพยายามสะบัดตัวเมทิตาออก เมทิตายิ้มและมองรถที่ขับผ่านไปก่อนจะผลักร่างอธิปล้มลงไปนั่งกับพื้นเธอเดินมาเหยียบเท้าข้างที่อธิปวิ่งไปเหยียบตะปู

“โอ๊ย!!!”

“อวดดีกับฉัน คืนนี้ฉันจะฆ่าแกกับแม่แกพร้อมกัน” เมทิตาพูดและเหยียมซ้ำไปที่เท้าอีกครั้ง

“แกนังฆาตกร แกฆ่าพ่อกับแม่ฉันทำไม”

“ไม่ใช่เรื่องที่แกต้องรู้ รู้แค่ว่าเดี๋ยวแกก็จะได้ไปอยู่กับแม่แกแล้ว แกกับแม่แกมันแส่หาเรื่อง ถ้าแกไม่รีบกลับมาจากอเมริกาก่อน ก็ไม่ต้องมาตายแบบนี้ จะโทษก็โทษตัวเองเถอะนะ” อธิปไม่ยอมจำนวนเขาใช้จังหวะที่เมทิตาไม่ได้ระวังตัวพลักเมทิตาล้มลง และวิ่งหนีไปอย่างทุลักทุเล เขามองเห็นมอเตอร์ไซต์คันหนึ่งกำลังวิ่งมา เขาทำแบบเดิมอีกครั้ง คือวิ่งไปขวางกลางถนน แต่รถมอเตอร์ไซต์ที่วิ่งมาไม่มีทีท่าว่าจะเบรกหรือชะลอตัวกับบิดรถหวังจะชนเขา อธิปโยกตัวหลบวิถีรถที่พุ่งมาไปนอนกับพื้นหญ้า

เอี๊ยด

เสียงรถเบรกอย่างหมุนตัวกลับมา เจ้าของรถจอดรถลง เขาผงะตัวถอยหลังทันทีเมื่อเห็นเจ้าของรถที่คิดว่าจะช่วยเขาได้กลายเป็นมัจจุราช เมทิตาเดินตามมาสมทบและหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ ชายคนนั้น

“แกเตรียมตัวตายได้เลย เอามีดมา ฉันจะฆ่าไอ้เด็กนี่หั่นเนื้อทีละชิ้นและโยนลงบ่อให้ปลากิน” ผู้ชายที่เป็นพวกเดียวกับเมทิตายื่นมีดพอให้กับเมทิตา เมทิตาแสยะยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ไม่ต่างจากฆาตกรโรคจิต อธิปจะลุกขึ้นหนี แต่ผู้ชายคนนั้นก็เดินมากดร่างเขาไม่ให้ลุกยืน

“แก...แกมันชั่ว”

“ฉันก็ไม่เคยบอกใครว่าฉันเป็นคนดี แม่แกมันก็คิดไปเองว่าฉันเป็นคนดี หมดเวลาแล้ว ฉันเสียเวลากับแกและแม่แกมามากพอแล้ว”

“แกคิดจะฆ่าแม่ฉันอยู่แล้ว” อธิปเอ่ยขึ้น เขาไม่คิดว่าการนัดคุยกันจะนัดมาสถานที่เปลี่ยว ๆ แบบนี้ ถ้าเขารู้เร็วกว่านี้เขาจะห้าม เพราะเขารู้ตัวช้าไป เขาเกือบจะปล่อยให้แม่เขามาคนเดียว แต่มีอะไรบางอย่างดลใจให้เขาตามมาโดยแอบเข้าไปซ่อนที่กระโปรงหลังรถ แต่เขากลับจะไม่สามารถช่วยพ่อแม่ได้ ไม่สามารถจับตัวฆาตกรไปลงโทษ ฆาตกรกำลังจะลอยนวลไปพร้อมกับการตายของเขา

“ฉลาดนี่ แต่ฉลาดตอนนี้ก็สายไปแล้ว โง่กันทั้งบ้าน เอาล่ะจะเริ่มเฉือนจากตรงไหนก่อนดีนะ เอาจากหูไหม ปลาในบ่อน้ำน่าจะชอบ” เมทิตายิ่นมีดไปจ่อที่ใบหูของอธิป

“ถ้าแกฆ่าฉัน คลิปจะถูกส่งให้ตำรวจให้อีกสิองวันข้างหน้า” อธิปเอ่ยขึ้นทันทีที่มีดจรดลงที่ใบหูแต่ยังไม่ทันได้เฉือน เลือดจึงไหลออกมาเพียงเล็กน้อยตามรอยบาดของมีด

“แกพูดอะไรไอ้เด็กบ้า”

“แกคิดว่าคลิปนั่นใครถ่าย”

“อ๋อ แกเองสินะมือถ่ายคลิป แกสินะเจ้าของรอยเท้าในห้องครัว” เมทิตาเอ่ยถึงรอยเท้า ใบหน้าโกรธจนแดงก่ำเมื่อสิ่งที่เธอทำกฃับโดนเด็กตัวแสบมาทำพัง

“ใช่ แกเตรียมตัวติดคุกได้เลย แล้วคลิปนั่นไม่ได้มีคลิปเดียว ฉันเอาคลิปไปฝากไว้ให้คน ๆ หนึ่งก่อนจะมาที่นี่ ถ้าฉันไม่ติดต่อเขากลับไปภายในสองอาทิตย์นี้ ฉันบอกให้เขาเปิดคลิปดูได้ เมื่อเขาเห็นคลิปเขาจะต้องเอาส่งตำรวจแน่นอน”

“แกโกหกเพื่อเอาตัวรอด”

“เอาสิถ้าคิดว่าฉันโกหก เพราะอีกไม่นานคลิปนั่นก็จะถึงมือตำรวจ เพราะนิสัยคนเราเวลาอยากรู้ว่าให้เปิดทำไมจะต้องเปิดก่อนแน่ บางทีเขาอาจจะเปิดแล้วก็ได้”

“ใคร” เมทิตาใช้มีดจี้ที่คอของอธิป “แกส่งคลิปนั่นให้ใคร”

“ฉันไม่บอก แกเตรียมตัวไปชดใช้ความผิดในคุกได้เลย”

“ไอ้เด็กเวร” เมทิตากดมีดไปที่คออธิปจนเลือดไหลออกมา อธิปไม่มีท่าทีกลัวเกรง เมทิตายิ้มออกมาอย่างเหี้ยมเกรียม เธอเดินไปหยิบท่อนไม้ที่พงหญ้ามาก่อนจะ

“ฉันจะกลับไปจัดการแม่แก แล้วแกจะเป็นรายต่อไปแน่นอน ฉันสาบาน”

พลั่ก!!!

อธิปที่โดนไม้ฟาดเข้าที่ศีรษะเพราะไม่สามารถหลบได้ค่อย ๆ ล้มลง ภายทุกอย่างพร่าเลือน เขามองไม่เห็นอะไรอีกได้ยินเสียงย่ำเดือนร่างของเขาถูกยกขึ้นและสติของเขาก็ขาดหายไปในทันที





แก้วกัลยานั่งอ่านแผ่นกระดาษในมือที่พึ่งได้รับมาสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อเช้า เป็นข้อมูลของ อธิป อมรกุล บุตรชายคนเดียวของทวีปและชนกนาถ ที่พ่ออายุสิบสามก็ถูกส่งไปเรียนอยู่อเมริกา ไปอยู่กับญาติทางฝ่ายแม่ ปีนี้อายุสิบห้าปี จากข้อมูลเขาพึ่งเดินทางกลับมาประเทศไทยในวันที่เกิดเหตุฆาตกรรมนายทวีป ก่อนจะหายตัวไป ข้อมูลเหล่านี้ตำรวจยังไม่ได้สืบสวนไปถึง และถ้าเธอไม่บังเอิญเจอกระเป๋าสตางค์ใบนี้ก่อนเธอก็อาจจะไม่รู้ แก้วกัลยาเดาว่าเด็กหนุ่มอธิปคนนี้อาจจะเห็นการฆาตกรรมครั้งนี้ หรืออาจจะไม่เห็น แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ต้องการพบตัวเด็กหนุ่มคนนี้

“ฮัลโหลว่าไงคะคุณเพชร” แก้วกัลยากดรับสายทันที

(ผลเลือดบนปืนออกมาแล้ว) เพทายเอ่ย

“ฉันรู้เรื่องแล้วค่ะ พอดีฉันคุยกับผู้กองติเมื่อสาย ๆ ตอนนี้ฉันกำลังได้หลักฐานบางอย่างกำลังจะส่งไปให้ผู้กองนวัช อาจจะช่วยอะไรได้บ้าง แล้วเรื่องคุณชนกนาถเป็นยังไงบ้างค่ะ คุณโอเคไหม” แก้วกัลยาเอ่ยถาม

(ผมอยากโอเค แต่คงต้องบอกว่าไม่ค่อยโอเค ผมไม่คิดว่าจะเป็นนก นกไม่ควรต้องมาตายแบบนี้ ที่สำคัญปืนที่คนร้ายใช้ยิงเป็นปืนของผม)

“เราต้องจับคนที่ทำเรื่องพวกนี้ให้ได้ ฉันอยากรู้จริง ๆ มันแค้นอะไรคุณเป็นการส่วนตัวกันแน่ ถึงลงทุนฆ่าคนไปหลายศพแบบนี้”

(ถ้ามีคนแค้นผมทำไมเขาไม่มาทำผม ไปฆ่าคนอื่นทำไม เพื่อใส่ร้ายผมต้องทำขนาดนี้เลยหรอ ผมไม่เข้าใจว่าผมไปทำอะไรให้พวกเขากัน)

“เราจะได้รู้แน่ค่ะ ฉันคิดว่าเราเข้าใกล้คนร้ายแล้ว คนร้ายมันคงยังไม่รู้ตัว ฉันอยากให้เรื่องนี้เงียบที่สุด เพราะมันอาจจะเป็นอย่างที่คุณสงสัยว่าเป็นคนในบริษัท”

(วันนี้ตอนเที่ยงผู้กองนวัชนัดผมไปคุยคดีที่โรงพัก)

“ฉันก็จะไปพบผู้กองติที่นั่นเหมือนกัน เราไปเจอกันที่นั่นนะคะ อีกอย่างคุณนกหายออกไปตอนเย็นในวันที่คุณไปเดทกับฉัน แล้วเราก็ไปที่โรงพยาบาลต่อตอนคุณอยู่ที่โรงพยาบาลน่าจะมีคนเป็นพยานให้คุณได้ว่าคุณไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลจนค่ำ”
(แต่ยังไม่มีการสรุปแน่นอนว่านกเสียชีวิตวันไหน)

“เชื่อสิคะ เรื่องคุณนกคุณต้องรอดแน่นอน”

(คุณดูมั่นใจ)

“มั่นมาก อีกไม่นานเราจะกระชาหน้ากากคนร้ายออกมาแน่นอนค่ะ เหลือแค่คุณจัดการตัวปัญหาในบริษัทที่ยังเหลืออยู่”
(เขาเป็นเพื่อนพ่อผม)

“แต่เขาอาจจะเป็นตัวการใหญ่ในเรื่องนี้ หรืออาจเป็นหนึ่งในคนร่วมมือในแผนนี้ เขาไม่หวังดีกับคุณ ๆ ก็รู้นี่คะ คุณจะเก็บงูร้ายให้มันหาทางฉกคุณไม่ได้”

(ผมรู้)

“ตอนนี้หลักฐานที่คุณมีมากพอแล้ว คุณต้องจัดการเขาก่อนที่เขาจะจัดการคุณ”

(เรื่องของผมทำให้หุ้นในบริษัทตกลงทุกวัน แล้วยังมาเรื่องของเขาอีก บริษัทเรามีเรื่องไม่โปร่งใส่แบบนี้จะเป็นผลเสียมาก)

“แต่จะมีคนโดนผลกระทบมากที่สุดอีกคนแน่นอน คุณเพชรฉันรู้นะว่าคุณเครียด บริษัทคุณจะไม่มีทางล่มเพราะเรื่องแค่นี้ คุณประคองบริษัทมาได้ขนาดนี้ เหลืออีกแค่นิดเดียวมันก็จะจบแล้ว ฉันกำลังหาทางช่วยคุณเรื่องคดี คุณก็ต้องหาทางจัดการทางบริษัทด้วย เรื่องบริษัทฉันช่วยคุณไม่ได้มากไปกว่าแต่เรื่องมันมาไกลแล้ว ขอให้คุณมั่นใจว่าฉันจะช่วยคุณให้ถึงที่สุด คุณเองก็พยายามให้ถึงที่สุดเหมือนกัน ถ้าไม่มีอะไรที่คนอย่างแก้วกัลยาทำไม่ได้ ก็ไม่ไม่อะไรที่คนอย่างเพทายทำไม่ได้ได้เหมือนกัน เหมือนที่คุณพิสูจน์ตัวเองตอนนั้นคุณยังทำได้แค่นี้ไม่คณามือคุณหรอกน่า”

(คุณแก้ว...ผม...)

“ว่าไงคะ”

(ผม...ขอบคุณคุณแก้วมากนะครับ ถ้าไม่มีคุณแก้ว ผมอาจจะต้องนั่งเครียดอยู่คนเดียว ผมเคยคิดว่าผมโชคร้ายที่ดึงคุณเข้ามายุ่งกับชีวิตผม แต่วันนี้ผมคิดว่าผมโชคดี ในตอนที่ผมหันไปไม่เจอใคร คุณกลับอยู่ข้างผม)

“เก็บคำขอบคุณของคุณไว้เถอะค่ะ เพราะฉันไม่ชอบคำขอบคุณที่เป้นคำพูด ขอบคำขอบคุณที่เป็นการกระทำจะดีกว่า เจอหน้าฉันจูบฉันฟอดหนึ่งถือว่าเป็นการตอบแทนที่คุ้มค่ามาก”

(ครับ) แก้วกัลยาตาโต

“คุณว่าไงนะ ฉันได้ยินไม่ชัด”

(ครับไงครับ) แก้วกัลยาขมวดคิ้ว

“ครับ หมายความว่ายังไงคะคุณเพชร” แก้วกัลยาถามต่อ เพราะไม่มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน

(ก็เจอกันผมจะทำตามคำแนะนำของคุณแก้วไงครับ) คราวนี้แก้วกัลยานิ่งค้าง ใบหน้าสวยแดงขึ้นมาทันทีเมื่อนึกภาพว่าเขาจะจูบเธอก่อน มือที่ถือกระดาษกำแน่น

“เอ่อ...แน่ะ อย่ามาล้อเล่นกับฉันนะ เดี๋ยวคุณไม่จูบฉันฉันจูบคุณก่อนแล้วจะมาว่าฉันไมได้นะคุณเพชร” แก้วกัลยาพยายามควบคุมเสียงไม่ให้เขาจับได้ว่าเธอกำลังประหม่า

(ถ้าผมจูบคุณ คุณก็อย่าหนีผมแล้วกัน)

“เอ่อ...คุณเพชร...ฉันมีธุระไว้เจอกันที่โรงพักนะคะ บายค่ะ” แก้วกัลยาตัดสายทิ้งทันที เขาไม่เคยย้อยเธอกลับ เขาไม่เคยแม้แต่จะพูดหยอดเธอ เธอตั้งรับมุขใหม่ของเขาไม่ทัน จึงต้องหลบหนีมาตั้งตัว คณะที่กำลังเหม่อลอย

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“คุณแก้วค่ะ” มิลาเดินเข้ามา ขาข้างขวาดูเหมือนจะยังเจ็บไม่เห็นจากเหตุการณ์ณ์เมื่อคืน

“ขายังไม่หายมาทำไม เดี๋ยวแมทก็มาแหกอกฉัน เดี๋ยวนี้เธอไม่ใช่หนูของฉันแล้ว”

“คุณแก้ว...” มิลาเอ่ยเสียงอ่อน “ตอนคุณแก้วโทรสั่งเมื่อคืน มิลาก็รีบโทรตามหาข้อมูลให้เลย คุณแก้วบอกว่าเรื่องด่วน” แก้วกัลยานิ่งไปพักหนึ่งเหมือนจะพึ่งนึกออกว่าตัวเองโทรไปสั่งมิลาเพราะสงสัยเรื่องกลิ่นน้ำหอมในตู้

“แล้วทำไมเธอไม่ท้วงฉัน”

“มิลาอยากทำค่ะ” แก้วกัลยามองใบหน้าที่ดูกระตือรือร้นของมิลาก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงให้พูดในสิ่งที่หามาได้

“น้ำหอม DKNY Delicious Delights พึ่งเปิดตัวไปเมื่อเดินก่อนที่ฝรั่งเศส เป็นน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น ผลิตออกมาในจำนวนหนึ่งพันขวด แต่ที่เข้ามาไทยมีเพียงสิบสองขวดเท่านั้น ขายอยู่ที่ร้านคุณเทียร่า คุณแก้วได้มาขวดหนึ่งค่ะ”

“แล้วทางร้านขายหมดหรือยัง”

“ค่ะจำหน่ายออกไปหมดแล้ว แต่มีรายชื่อผู้ซื้อด้วยเพราะผู้ซื้อใช้บัตรเครดิตทำให้ตรวจสอบได้ ดิฉันติดต่อทางร้านและได้รายชื่อมาค่ะ” มิลาส่งกระดาษให้กับแก้วกัลยา แก้วกัลยาไล่มองรายชื่อทีละชื่อ

“แล้วตรวจสอบไหมว่าคนพวกนี้มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณเพชรหรือเปล่า”

“รายชื่อสิบเอ็ดชื่อ ตัดคุณแก้วไปคนหนึ่ง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณเพชรเลยค่ะ มีบางส่วนมีรูปด้วยนะคะ เพราะส่วนใหญ่เป็นไฮโซซื้อมาค่ะจะมีรูป ส่วนคนที่ไม่มีรูปเป็นคนที่ไม่ใช่คนในสังคมไฮโซค่อนข้างหารูปยาก” แก้วกัลยาพยักหน้าและมองรูปที่ไม่เข้าข่ายคนร้าย เพราะบางคนเธอก็รู้จักในวงสังคม และไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวกับเพทาย ไว้ว่างใจมาได้ พลันแก้วกัลยาก็นึกบางอย่างออก รีบไปหยิบรูปที่ได้จากอติพงษ์เมื่อวันก่อนมา และหยิบมาเทียบตามรูปของแต่ละชื่อ

“บางทีถ้าคนเหล่านี้ซื้อไปฝากมันก็อาจจะไปตกในมือคนอื่นก็ได้นะคะ”

“แต่ไฮโซพวกนี้ก็อยากได้อะไรที่คนใช้น้อย ๆ ไว้อวดกันในงานสังคม ถ้าเป็นอย่างที่ฉันว่าตัดพวกนี้ทิ้งไปได้เลย ก็จะเจออยู่ห้าคนที่ไม่มีรูป แต่ถ้าเป็นอย่างที่เธอว่าเราต้องเริ่มหาใหม่อีก แต่ตอนนี้คนกลุ่มนี้เป็นหนึ่งในคนที่ฉันกำลังสงสัย เหลือแค่รอให้ผู้กองติเอากลิ่นน้ำหอมในห้องคุณชนกนาถมา ถ้าคุณชนกนาถไม่ได้ใช้กลิ่นนี้ แสดงว่าบ้านนั้นอาจจะมีคนอยู่ก่อนแน่ ๆ และเจ้าของน้ำหอมกลิ่นนี้แหละอาจจะเป็นคนฆ่าคุณทวีป”

“ถ้ามันไม่เป็นอย่างที่เราคิดล่ะคะ”

“ก็เริ่มใหม่ก็เท่านั้น แต่ฉันมั่นใจเลยล่ะว่ามันต้องเกี่ยว เธอกลับไปพักเถอะ ว่าแต่ใครมาส่ง”

“เอ่อ...”

“เอ่อ..ทำไมพูดอะไรก็พูดถ้าไม่มีฉันจะแวะไปส่ง”

“ไม่ต้องหรอกฉันมาส่งก็พากลับได้ ตอนนี้หนูน้อยของเธอเป็นของฉัน”

“ชั่วคราว” แก้วกัลยาเอ่ย “รู้ไว้นะฉันไม่ยกมิลาให้นายแน่ กว่าฉันจะขุนมิลาได้ขนาดนี้ ถ้าฉันจะยกมิลาให้ใครสักคน ชื่อนายไม่ได้อยู่ในหัวฉันสักนิด”

“แก้ว...เธอสัญญาตอนปฏิเสธคำขอแต่งงานฉันไว้ว่า ฉันขออะไรก็ได้นอกจากความรักของเธอได้หนึ่งอย่าง ยังจำได้ใช่ไหม” แก้วกัลยานิ่งและเงียบไป

“ใช่ แต่นายได้อภิสิทธิ์จากฉันมาขอมิลาน่ะหรอ” มิลาหันไปมองแมทธิวทันที แมทธิวตีหน้าขรึมใส่

“ใครบอก ฉันก็แค่ทวนความจำ ไปกันเถอะมิลา เธอบอกว่าถ้าฉันช่วยหาข้อมูลให้วันนี้เธอจะพาฉันไปเที่ยว หมดเวลากับเรื่องของแก้ว ไปได้แล้ว” แมทธิวลากมิลา หรือจะเรียกแทบจะอุ้มมิลาออกไปให้พ้นจากหน้าห้อง แก้วกัลยามองบานประตูที่ยังไม่ถูกปิด แมทธิววิ่งกลับมาที่หน้าห้อง

“เลิกใช้งานมิลาได้แล้ว เธอเตรียมหาผู้ช่วยใหม่เลย ฉันอยากได้ผู้ช่วยพิเศษคนใหม่กลับไปอเมริกาด้วย”

“ผู้ช่วยหรือเมีย”

“ผู้ช่วยสิ”

“ไปถามเจ้าตัวก่อนเถอะ อ่อ ฝากบอกให้มิลาส่งแบบเสื้อผ้าไปให้เทรซด้วยนะ” แมทธิวชักสีหน้าใส่เพื่อนและเดินออกไป แก้วกัลยายิ้มและส่ายหน้ากลับความปากแข็งของเพื่อน ทั้งที่การกระทำก็บอกหมดแล้วว่าเจ้าตัวน่ะสนใจมิลา สนใจมานานมากแล้วด้วย ตั้งแต่เธอให้มิลาเลื่อนมาเป็นผู้ช่วยพิเศษ แต่เธอยังไม่ได้ตกลงจะยกมิลาให้ เธอจะแกล้งทรมานแมทธิว อยากจะรู้ว่าจะปากแข็งไปอีกเมื่อไหร่กัน



....ติดตามตอนต่อไป...


หายไปหลายวันติดลมบนช่วงทำบุญ คืนนี้ก็มาดึก รีบมาลงให้พรุ่งนี้ไรเตอร์เปิดเทอมจะมีเวลาน้อยลงไปอีก
เข้าสู่ครุ่งสุดท้ายเหลืออีกประมาณเก้าตอน ก็จะจบแล้ว

เราจะมารู้กันว่าเมทิตานางเป็นใครทำไมทำร้ายคนเยอะแยะแบบนี้ รอติดตามกันนะคะ



พัชรีพร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 ส.ค. 2558, 23:20:32 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ส.ค. 2558, 22:42:58 น.

จำนวนการเข้าชม : 912





<< ตอนที่ 20 แกะรอยสืบรัก   ตอนที่ 22 เด็กผู้อยู่ในเหตุการณ์ (ตอนปลาย) >>
นักอ่านเหนียวหนึบ 3 ส.ค. 2558, 17:50:44 น.
ขอกดปุ่ม next รัวๆ อยากรู้ใจจิขาดดดด


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account