ยกเลิก
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: 2
เรื่องมันนานมาแล้ว ตั้งแต่ฉันยังอายุ 14 ปี ตอนนั้นฉันยังไม่รู้ว่าเราจะมีวันนี้ แอนดี้..ซุปเปอร์สตาร์ ดาวดวงใหม่บนฟากฟ้าอันไกลโพ้น แค่เห็นหน้าเขาครั้งแรกในทีวี ฉันถึงกับเก็บไปฝัน ฉันฝันว่ามีงูสีเลื่อมทองเข้ามารัดตัวฉันจนมิดหัว! ชีวิตจริงไม่กลัวงูอยู่แล้วจึงไม่อะไรมากมายแค่เดาได้เลยว่า คนนี้คือเนื้อคู่ของฉัน..ชัวร์! แต่ดาวบนฟ้าหรือจะร่วงลงมาสู่ดิน วันเวลาที่ผันผ่านทำให้ภาพของเขาเลือนจางไป และหัวใจของฉันก็เลือกที่จะอยู่กับโลกของความจริง ฉันเลือกที่จะชอบคนที่สามารถจับต้องได้ ฉันตกหลุมรักเพื่อนร่วมรุ่นคนหนึ่ง ซึ่งคิดว่าเขาคู่ควร! ความรักทำให้ฉันตาบอด มีคนเคยพูดว่า ผู้หญิงชอบคนเลว รักคนดี แต่เลือกแต่งงานกับคนรวย ฉันคงอยู่ในข่ายชอบคนเลวโดยไม่รู้ตัว โดม..เพื่อนใหม่ย้ายมาจากกรุงเทพ ตอนมอหก คนเลว!...ที่มีดี เขาเป็นเพื่อนที่คอยเป็นคู่สอบวิชาวอลเลย์ให้ฉันเสมอ ตอนนั้นสาวๆในโรงเรียนต่างอิจฉาฉันกันทั้งนั้น มีหลายคนที่ยอมแลกทุกอย่าง!เพียงเพื่อได้อยู่ใกล้ๆกับเขา ซึ่งไม่ใช่ฉัน เราสนิทกันมาก จนถึงช่วงสอบเอ็นทรานซ์ เส้นทางที่เราเลือกมันคงไม่ใช่เส้นทางเดียวกันทำให้ไม่เข้าใจกัน ฉันพยายามที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยในกรุงเทพให้ได้ แต่เขาไม่!..แล้วเขาก็ย้ายอีกครั้งฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาแต่ก็จนปัญญาจะหาทางติดต่อ จนกระทั่งฉันสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่เลือกไว้ได้จริงๆ และย้ายมาอยู่บ้านแอนดี้แล้ว ฉันเจอเขาด้วยความบังเอิญ เราจึงกลับมาติดต่อกันอีกครั้ง เพราะคิดว่าเขายังเหมือนเดิม และไม่เฉลียวใจสักนิดว่าความรู้สึกเหมือนเดิมมันคือสิ่งที่ฉันคิดว่าเขาเป็นหรือไม่ก็คือสิ่งที่เขาทำให้เราคิดว่าเขาเป็น ฉันยังจำความเจ็บปวดตอนที่รุ้ว่าเขาจากไปแล้วตอนนั้นได้ ทำให้การคบกันครั้งนี้ฉันจึงเป็นฝ่ายยอมตามเขาทุกอย่าง ไปทุกที่ที่เขาอยากให้ไป ยอมทุกอย่างขอเพียงมีเขาอยู่
"แอนนา วันนี้เจอกันที่เดิมนะ ผมอาจไปช้าหน่อย..รอผมนะ"
เขามักจะนัดเจอฉันที่สวนหลังมอเสมอ แต่วันนี้เขานัดเจอฉันดึกกว่าทุกครั้ง แต่ความไว้ใจทำให้ไม่เฉลียวคิด สวนสมุนไพรหลังมหาวิทยาลัยถึงจะรกทึบด้วยพืชสมุนไพรมากมายแต่บรรยากาศก็ร่มรื่นโรแมนติกนัก มีคู่หนุ่มสาวหลายคู่ที่อาศัยที่นี่เป็นจุดนัดพบตอนเลิกเรียน ฉันรอเขาจนมืดเขาก็ยังไม่มา ความมืดที่โรยตัวเข้ามาทำลายความโรแมนติกไปหมดสิ้น ลางสังหรณืบางอย่างมันบอกให้ฉันไม่ควรรอเขาต่อ แต่..ความเชื่อใจ ไว้ใจ มันรั้งให้ฉันอยู่ต่อ..นานจนไม่รู้เวลา ฉันกอดตัวเองโดยไม่รู้ตัวเมื่อเห็นเงาลางๆของกลุ่มคนสองสามคนเดินตรงมาทางนี้ พวกเขาเดินตรงมาที่ฉันเหมือนนัดไว้ เหมือนเงามัจจุราช กว่าจะรู้ว่าควรจะวิ่งไปให้พ้นจากตรงนี้ก็เมื่อแขนสองข้างถูกกระชากอย่างแรง พวกมันไม่พูดพรำ่ทำเพลง ช่วยกันลากฉันลงไปในดงใกล้ๆ เสื้อผ้าชองฉันถูกกระชากขาดวิ่น ฉันไม่มีเวลาแม้แต่จะอ้อนวอนขอความเมตตาจากพวกมัน เรี่ยวแรงต่อสู้อ่อนล้าพร้อมกับสติที่ขาดผึงลงทันทีที่มันชกลงมาที่ท้องน้อย....
...กรี๊ด!!!...........
เสียงกรีดร้องแห่งความเจ็บปวดดังขึ้นพร้อมๆกับมีร่างของใครบางคนถลามาหาฉันแทบทันที
...กรี๊ดๆๆๆ...หัวใจแตกสลายไปพร้อมกับร่างกายที่แหลกเหลว มันเป็นความเจ็บปวดที่ไม่มีทางลืม เป็นตราบาปที่ไม่มีวันลบเลือน ความรวดร้าวตามร่างทุกครั้งที่ขยับยิ่งยำ้เตือนให้ฉันทุกข์ทรมาน.. ฉันร้องไห้อย่างไม่คิดว่าชีวิตจะร้องได้ขนาดนี้รู้แต่ว่ามันเจ็บ!...ใครคนนั้นรั้งฉันเข้าไปหา กดศีรษะของฉันลงแนบอกของเขา ปลอบประโลมและเรียกสติฉันอย่างอ่อนโยน ฉันร้องไห้อยู่แบบนั้นนานแสนนาน จนลดลงเหลือเพียงเสียงสะอื้นเบาๆ หลังจากสติสตังค์กลับคืนมาแล้วบ้าง ฉันถึงได้รู้ว่าอ้อมอกที่อบอุ่นนี้ไม่ใช่ของดาวที่อยู่ไกลเกินเอื้อมอีกแล้ว ดาวฤกษ์ดวงนั้นกำลังเผื่อแผ่ลำแสงให้แก่ดาวเคราะห์น้อยผู้อ้างว้าง...
แอนดี้เล่าทุกอย่างให้ฉันฟัง ตอนนั้นเขาแวะไปรับฉันที่หอเพราะอยู่ๆก็รู้สึกเป็นห่วงฉันอย่างประหลาด ทั้งๆที่ความจริงแล้วถึงเราจะอยู่บ้านเดียวกันแต่ก็ไม่เคยเจอกันจังๆสักครั้ง เพราะว่าฉันพักที่หอในมอจะกลับบ้านเฉพาะวันหยุด ส่วนแอนดี้ก็่มีงานถ่ายละครทุกเสาร์อาทิตย์ เวลาที่จะเจอกันจึงไม่มี แต่แทนที่เขาจะขับรถเข้ามาทางหน้ามอเขากลับขับมาเข้าทางหลังมอ และทันเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี วิชาแม่ไม้มวยไทยที่ได้จากการซ้อมคิวบู้ทำให้ฉันรอด!มาได้
"ขอบคุณนะ" ฉันบอกจากใจจริง ดีใจที่เป็นเขาเพราะจำจิตสำนึกสุดท้ายจำได้ว่าขอให้เขามาช่วยฉัน อยากมีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเหมือนในนิยายที่ไม่ว่านางเอกจะอยู่ที่ไหนๆแต่ถ้าเกิดอันตรายพระเอกจะโผล่มาช่วยได้ทันเสมอๆ
"ทำไมจู่ๆนายถึงคิดถึง..เอ่อ..หมายถึงคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายกับฉันล่ะ..ตั้งแต่มาอยู่บ้านนายเราก็ไม่ค่อยจะได้เจอกันอยู่แล้วคุยกันก็แทบจะนับคำกันได้"
เขาไม่ตอบแต่หันมามองฉันตรงๆ บังคับกลายๆให้ฉันต้องมองตอบนัยน์ตาสีสนิมเหล็กคู่นั้น ฉันคงไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไปใช่มั้ยที่มองเห็นความรักความห่วงใยในแววตาของเขา
"ฉันเป็นหนี้ชีวิตนายสองครั้งแล้ว"
"แล้วเธอจะตอบแทนฉันยังไง"
ตอนฉันอายุ 14 ปีเคยถูกงูกัดจนเกือบตายตอนไปเข้าค่ายลูกเสือที่ศรีราชา ตอนนั้นเป็นการเข้าค่ายเฉพาะโรงเรียนของฉันแต่มีอาสาสมัครจากลูกเสือในโรงเรียนจากกรุงเทพมาช่วยดูแลด้วย ระหว่างเข้าผจญภัยตามฐานต่างๆฉันก็ถูกงูกัด ทุกคนตกใจยืนตะลึงกันหมด แต่ ท่ามกลางความเป็นความตาย มีนายกองลูกเสือคนหนึ่งรีบเข้ามาช่วยอย่างไม่คิดชีวิต วิชาลูกเสือทำให้เขารู้ว่าจะช่วยฉันยังไง ฉันมองดูเขาดูดเลือดจากปากแผลรอบแล้วรอบเล่าจนเขามั่นใจว่าพิษลดลงแล้วจึงหยุด แล้วรีบตามครูมาช่วยและนำฉันส่งโรงพยาบาล มารู้ทีหลังว่างูที่กัดฉันคืองูเห่า และถ้าไม่ได้เขาฉันก็คงตายไปแล้ว เขาคนนั้นก็คือคนคนเดียวกันที่ช่วยฉันในวันนี้
"นายช่วยชีวิตฉันขนาดนี้..ตอบแทนยังไงก็คงไม่หมด แล้วแต่นายก็แล้วกัน" ฉันพูดยังไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงเขาแทรกขึ้นมา
"ชีวิตเธอเป็นของฉัน" เขาพูดมั่นคง ฉันนิ่งอึ้งไปสามสิบวิ มองเขาตาปริบๆ เขาดูหนังจีนเยอะไปรึเปล่า แต่โอกาสที่จะได้ใกล้ชิดเขาอยู่แค่เอื้อมแล้วถ้าฉันไม่คว้าไว้ฉันอาจจะไม่มีโอกาสอีกแล้วก็ได้
"ตกลง..จากนี้ไปชีวิตของแอนนาเป็นของแอนดี้"
"จากนี้และตลอดไป" เขาต่อให้ ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะมีความมุ่งมั่นอะไรขนาดนี้ แต่ก็ได้ยินเสียงตัวเองตอบว่า"ตกลง"
หลังจากสบายใจแล้วฉันจึงได้หันมาสำรวจตัวเอง อาการเจ็บระบมตามร่างกายทุเลาลงอย่างเห็นได้ชัดหลังจากได้ยินความจริงจากปากเขา คงเหลือก็แต่อาการจุกท้องเล็กน้อยจากที่โดนต่อยเท่านั้น ชุดนอนตัวนี้ก็เป็นชุดที่ฉันใส่ประจำ..แต่!..ใครกันที่..ที่เปลี่ยนชุดนี้ให้ฉัน
"คิดแบบที่เธอสบายใจเถอะ" เขาบอก เมื่อสังเกตเห็นเลือดฝาดบนแก้มของฉัน
"นายคงจะให้แม่บ้านเป็นคนมาเปลี่ยนชุดให้ฉันใช่มั้ย"
เขาเงียบไม่ตอบ ก็จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไงในเมื่อบ้านนี้ไม่มีแม่บ้าน พ่อแม่ของเขาก็กลับต่างประเทศไปแล้ว จะเหลือก็แต่หมาๆแมวๆสามสี่ตัวที่เขาเลี้ยงไว้ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่พวกมันจะมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉัน แล้วก็คนสองคนคือฉันกับเขา!!
"ชีวิตของเธอเป็นของฉัน อย่าลืมสิ..ก็ในเมื่อเป็นแบบนั้นแล้วมันจะแปลกอะไรถ้าฉันจะทำกับเธอเหมือนทำกับตัวเอง"
ไม่นะ..ความสาวนี้..ร่างกายนี้...ที่ฉันอุดส่าห์หวงแหนเอาไว้ (ให้เขาในวันแต่งงาน) กลับถูกเขาเห็นหมดแล้ว ก่อนเวลาอันสมควรด้วย
"ฉันดีใจนะที่เธอไม่ได้ปล่อยให้อะไรอะไรมันเกินเลย..ทั้งๆที่เธอกับโดมก็..ออกจะ..สนิทกันดี" จู่ๆเขาก็เปลี่ยนเรื่อง
"??"
"จากนี้ไปฉันขอสั่งห้ามเธอไม่ให้ไปไหนมาไหนกับผู้ชายสองต่อสองอีกเป็นอันขาดเข้าใจมั้ย"
"อือๆ" ฉันรับคำแบบยังงง เขารู้ได้ยังไงว่าฉันไม่เคยทำอะไรเกินกว่าเพื่อนกับโดมเลย ถึงฉันจะชอบโดมแค่ไหน กลัวสูญเสียเขาไปยังไงแต่จริงๆแล้วฉันรู้แก่ใจตัวเองดีว่าฉันทำไปเพื่อลบภาพใครบางคนที่อยู่ในส่วนลึกที่สุดในหัวใจออกไปเท่านั้น แล้วตอนนี้เขา..คนที่อยู่ในซอกใจกลับค่อยๆก้าวออกมาให้จับต้องได้อยู่ตรงนี้แล้ว ฉันก็ไม่ควรลังเลอีก
"ฉันจะคุยกับโดมวันหลังเรื่องความสัมพันธ์ของเรา..แต่ฉันขอถามนายได้มั้ยว่า..นายคิดยังไงกับฉัน..ฉันแค่ไม่อยากคิดไปเอง..ตอบมาเถอะไม่ต้องกลัวฉันเสียใจ"
"ฉันก็ไม่แน่ใจ รู้แต่ว่าฉันปล่อยให้เธอเป็นอะไรไปไม่ได้"
"นายรู้สึกแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่"
"ก็..ตั้งแต่วันที่เธอถูกงูกัด"
"แต่เราก็ไม่ได้พบกันอีกเลยนะตั้งแต่วันนั้น"
"อาจจะเป็นเพราะรสเลือดของเธอในปากของฉันก็ได้มั้งที่ทำให้เป็นแบบนั้น"
"นายรู้มั้ยว่าฉันดีใจมากที่ได้ยินคำนี้ มันอาจจะดูไม่น่าเชื่อแต่ฉันก็อยากจะบอกนายว่า ฉันก็ไม่เคยลืม..ความรู้สึกตอนนั้นเลย"
"ฉันขอกอดนายได้มั้ย"
เขายิ้ม และอ้าแขนออก "ได้สิ..เธอกอดฉันได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว" ฉันโผเข้าหาเขา นำ้ตาไหลด้วยความตื้นตัน บทมันจะยากก็ยากจนไม่กล้าจะคิด แต่พอบทมันจะง่ายก็ง่ายเสียจนราวกับเป็นแค่ความฝัน ฉันรั้งแขนตัวเองเพิ่มขึ้นเพื่อจะได้กอดเขาให้แน่นขึ้นให้สมกับการเฝ้าฝันมานาน.."จะเป็นไรมั้ยถ้าเด็กอายุสิบเก้าจะจูบกัน" ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะกล้าถามออกไป
"เป็นสิ ยังไงฉันก็เป็นผู้ชายนะ ถ้าเราปล่อยให้มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น ฉันก็ไม่แน่ใจว่าจะห้ามใจไม่ไปต่อได้หรือเปล่า"
นั่นสิ เขาพูดถูก "ถ้างั้นฉันขอกอดนายไว้อย่างนี้นานๆได้มั้ย"
แทนคำตอบเเขากระชับอ้อมแขนเข้าหาตัว..ถึงแม้จะมีเรื่องน่ากลัวเกิดขึ้นก่อนหน้า แต่ฉันก็จำได้ว่าคืนนั้นฉันนอนหลับได้สนิท เคียงข้างเจ้าชายของฉัน จากนี้ไปดาวฤกดิ์ดวงนี้จะมีดาวเคราะห์น้อยคอยเป็นบริวารแล้วนะ "ฉันจะขอเธอมากไปมั้ยถ้าหากเธอจะสาดแสง ขอเพียงฉันคนเดียวเท่านั้นที่มีโอกาสจะได้รับแสงจากเธอ"
"แอนนา วันนี้เจอกันที่เดิมนะ ผมอาจไปช้าหน่อย..รอผมนะ"
เขามักจะนัดเจอฉันที่สวนหลังมอเสมอ แต่วันนี้เขานัดเจอฉันดึกกว่าทุกครั้ง แต่ความไว้ใจทำให้ไม่เฉลียวคิด สวนสมุนไพรหลังมหาวิทยาลัยถึงจะรกทึบด้วยพืชสมุนไพรมากมายแต่บรรยากาศก็ร่มรื่นโรแมนติกนัก มีคู่หนุ่มสาวหลายคู่ที่อาศัยที่นี่เป็นจุดนัดพบตอนเลิกเรียน ฉันรอเขาจนมืดเขาก็ยังไม่มา ความมืดที่โรยตัวเข้ามาทำลายความโรแมนติกไปหมดสิ้น ลางสังหรณืบางอย่างมันบอกให้ฉันไม่ควรรอเขาต่อ แต่..ความเชื่อใจ ไว้ใจ มันรั้งให้ฉันอยู่ต่อ..นานจนไม่รู้เวลา ฉันกอดตัวเองโดยไม่รู้ตัวเมื่อเห็นเงาลางๆของกลุ่มคนสองสามคนเดินตรงมาทางนี้ พวกเขาเดินตรงมาที่ฉันเหมือนนัดไว้ เหมือนเงามัจจุราช กว่าจะรู้ว่าควรจะวิ่งไปให้พ้นจากตรงนี้ก็เมื่อแขนสองข้างถูกกระชากอย่างแรง พวกมันไม่พูดพรำ่ทำเพลง ช่วยกันลากฉันลงไปในดงใกล้ๆ เสื้อผ้าชองฉันถูกกระชากขาดวิ่น ฉันไม่มีเวลาแม้แต่จะอ้อนวอนขอความเมตตาจากพวกมัน เรี่ยวแรงต่อสู้อ่อนล้าพร้อมกับสติที่ขาดผึงลงทันทีที่มันชกลงมาที่ท้องน้อย....
...กรี๊ด!!!...........
เสียงกรีดร้องแห่งความเจ็บปวดดังขึ้นพร้อมๆกับมีร่างของใครบางคนถลามาหาฉันแทบทันที
...กรี๊ดๆๆๆ...หัวใจแตกสลายไปพร้อมกับร่างกายที่แหลกเหลว มันเป็นความเจ็บปวดที่ไม่มีทางลืม เป็นตราบาปที่ไม่มีวันลบเลือน ความรวดร้าวตามร่างทุกครั้งที่ขยับยิ่งยำ้เตือนให้ฉันทุกข์ทรมาน.. ฉันร้องไห้อย่างไม่คิดว่าชีวิตจะร้องได้ขนาดนี้รู้แต่ว่ามันเจ็บ!...ใครคนนั้นรั้งฉันเข้าไปหา กดศีรษะของฉันลงแนบอกของเขา ปลอบประโลมและเรียกสติฉันอย่างอ่อนโยน ฉันร้องไห้อยู่แบบนั้นนานแสนนาน จนลดลงเหลือเพียงเสียงสะอื้นเบาๆ หลังจากสติสตังค์กลับคืนมาแล้วบ้าง ฉันถึงได้รู้ว่าอ้อมอกที่อบอุ่นนี้ไม่ใช่ของดาวที่อยู่ไกลเกินเอื้อมอีกแล้ว ดาวฤกษ์ดวงนั้นกำลังเผื่อแผ่ลำแสงให้แก่ดาวเคราะห์น้อยผู้อ้างว้าง...
แอนดี้เล่าทุกอย่างให้ฉันฟัง ตอนนั้นเขาแวะไปรับฉันที่หอเพราะอยู่ๆก็รู้สึกเป็นห่วงฉันอย่างประหลาด ทั้งๆที่ความจริงแล้วถึงเราจะอยู่บ้านเดียวกันแต่ก็ไม่เคยเจอกันจังๆสักครั้ง เพราะว่าฉันพักที่หอในมอจะกลับบ้านเฉพาะวันหยุด ส่วนแอนดี้ก็่มีงานถ่ายละครทุกเสาร์อาทิตย์ เวลาที่จะเจอกันจึงไม่มี แต่แทนที่เขาจะขับรถเข้ามาทางหน้ามอเขากลับขับมาเข้าทางหลังมอ และทันเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี วิชาแม่ไม้มวยไทยที่ได้จากการซ้อมคิวบู้ทำให้ฉันรอด!มาได้
"ขอบคุณนะ" ฉันบอกจากใจจริง ดีใจที่เป็นเขาเพราะจำจิตสำนึกสุดท้ายจำได้ว่าขอให้เขามาช่วยฉัน อยากมีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเหมือนในนิยายที่ไม่ว่านางเอกจะอยู่ที่ไหนๆแต่ถ้าเกิดอันตรายพระเอกจะโผล่มาช่วยได้ทันเสมอๆ
"ทำไมจู่ๆนายถึงคิดถึง..เอ่อ..หมายถึงคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายกับฉันล่ะ..ตั้งแต่มาอยู่บ้านนายเราก็ไม่ค่อยจะได้เจอกันอยู่แล้วคุยกันก็แทบจะนับคำกันได้"
เขาไม่ตอบแต่หันมามองฉันตรงๆ บังคับกลายๆให้ฉันต้องมองตอบนัยน์ตาสีสนิมเหล็กคู่นั้น ฉันคงไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไปใช่มั้ยที่มองเห็นความรักความห่วงใยในแววตาของเขา
"ฉันเป็นหนี้ชีวิตนายสองครั้งแล้ว"
"แล้วเธอจะตอบแทนฉันยังไง"
ตอนฉันอายุ 14 ปีเคยถูกงูกัดจนเกือบตายตอนไปเข้าค่ายลูกเสือที่ศรีราชา ตอนนั้นเป็นการเข้าค่ายเฉพาะโรงเรียนของฉันแต่มีอาสาสมัครจากลูกเสือในโรงเรียนจากกรุงเทพมาช่วยดูแลด้วย ระหว่างเข้าผจญภัยตามฐานต่างๆฉันก็ถูกงูกัด ทุกคนตกใจยืนตะลึงกันหมด แต่ ท่ามกลางความเป็นความตาย มีนายกองลูกเสือคนหนึ่งรีบเข้ามาช่วยอย่างไม่คิดชีวิต วิชาลูกเสือทำให้เขารู้ว่าจะช่วยฉันยังไง ฉันมองดูเขาดูดเลือดจากปากแผลรอบแล้วรอบเล่าจนเขามั่นใจว่าพิษลดลงแล้วจึงหยุด แล้วรีบตามครูมาช่วยและนำฉันส่งโรงพยาบาล มารู้ทีหลังว่างูที่กัดฉันคืองูเห่า และถ้าไม่ได้เขาฉันก็คงตายไปแล้ว เขาคนนั้นก็คือคนคนเดียวกันที่ช่วยฉันในวันนี้
"นายช่วยชีวิตฉันขนาดนี้..ตอบแทนยังไงก็คงไม่หมด แล้วแต่นายก็แล้วกัน" ฉันพูดยังไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงเขาแทรกขึ้นมา
"ชีวิตเธอเป็นของฉัน" เขาพูดมั่นคง ฉันนิ่งอึ้งไปสามสิบวิ มองเขาตาปริบๆ เขาดูหนังจีนเยอะไปรึเปล่า แต่โอกาสที่จะได้ใกล้ชิดเขาอยู่แค่เอื้อมแล้วถ้าฉันไม่คว้าไว้ฉันอาจจะไม่มีโอกาสอีกแล้วก็ได้
"ตกลง..จากนี้ไปชีวิตของแอนนาเป็นของแอนดี้"
"จากนี้และตลอดไป" เขาต่อให้ ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะมีความมุ่งมั่นอะไรขนาดนี้ แต่ก็ได้ยินเสียงตัวเองตอบว่า"ตกลง"
หลังจากสบายใจแล้วฉันจึงได้หันมาสำรวจตัวเอง อาการเจ็บระบมตามร่างกายทุเลาลงอย่างเห็นได้ชัดหลังจากได้ยินความจริงจากปากเขา คงเหลือก็แต่อาการจุกท้องเล็กน้อยจากที่โดนต่อยเท่านั้น ชุดนอนตัวนี้ก็เป็นชุดที่ฉันใส่ประจำ..แต่!..ใครกันที่..ที่เปลี่ยนชุดนี้ให้ฉัน
"คิดแบบที่เธอสบายใจเถอะ" เขาบอก เมื่อสังเกตเห็นเลือดฝาดบนแก้มของฉัน
"นายคงจะให้แม่บ้านเป็นคนมาเปลี่ยนชุดให้ฉันใช่มั้ย"
เขาเงียบไม่ตอบ ก็จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไงในเมื่อบ้านนี้ไม่มีแม่บ้าน พ่อแม่ของเขาก็กลับต่างประเทศไปแล้ว จะเหลือก็แต่หมาๆแมวๆสามสี่ตัวที่เขาเลี้ยงไว้ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่พวกมันจะมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉัน แล้วก็คนสองคนคือฉันกับเขา!!
"ชีวิตของเธอเป็นของฉัน อย่าลืมสิ..ก็ในเมื่อเป็นแบบนั้นแล้วมันจะแปลกอะไรถ้าฉันจะทำกับเธอเหมือนทำกับตัวเอง"
ไม่นะ..ความสาวนี้..ร่างกายนี้...ที่ฉันอุดส่าห์หวงแหนเอาไว้ (ให้เขาในวันแต่งงาน) กลับถูกเขาเห็นหมดแล้ว ก่อนเวลาอันสมควรด้วย
"ฉันดีใจนะที่เธอไม่ได้ปล่อยให้อะไรอะไรมันเกินเลย..ทั้งๆที่เธอกับโดมก็..ออกจะ..สนิทกันดี" จู่ๆเขาก็เปลี่ยนเรื่อง
"??"
"จากนี้ไปฉันขอสั่งห้ามเธอไม่ให้ไปไหนมาไหนกับผู้ชายสองต่อสองอีกเป็นอันขาดเข้าใจมั้ย"
"อือๆ" ฉันรับคำแบบยังงง เขารู้ได้ยังไงว่าฉันไม่เคยทำอะไรเกินกว่าเพื่อนกับโดมเลย ถึงฉันจะชอบโดมแค่ไหน กลัวสูญเสียเขาไปยังไงแต่จริงๆแล้วฉันรู้แก่ใจตัวเองดีว่าฉันทำไปเพื่อลบภาพใครบางคนที่อยู่ในส่วนลึกที่สุดในหัวใจออกไปเท่านั้น แล้วตอนนี้เขา..คนที่อยู่ในซอกใจกลับค่อยๆก้าวออกมาให้จับต้องได้อยู่ตรงนี้แล้ว ฉันก็ไม่ควรลังเลอีก
"ฉันจะคุยกับโดมวันหลังเรื่องความสัมพันธ์ของเรา..แต่ฉันขอถามนายได้มั้ยว่า..นายคิดยังไงกับฉัน..ฉันแค่ไม่อยากคิดไปเอง..ตอบมาเถอะไม่ต้องกลัวฉันเสียใจ"
"ฉันก็ไม่แน่ใจ รู้แต่ว่าฉันปล่อยให้เธอเป็นอะไรไปไม่ได้"
"นายรู้สึกแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่"
"ก็..ตั้งแต่วันที่เธอถูกงูกัด"
"แต่เราก็ไม่ได้พบกันอีกเลยนะตั้งแต่วันนั้น"
"อาจจะเป็นเพราะรสเลือดของเธอในปากของฉันก็ได้มั้งที่ทำให้เป็นแบบนั้น"
"นายรู้มั้ยว่าฉันดีใจมากที่ได้ยินคำนี้ มันอาจจะดูไม่น่าเชื่อแต่ฉันก็อยากจะบอกนายว่า ฉันก็ไม่เคยลืม..ความรู้สึกตอนนั้นเลย"
"ฉันขอกอดนายได้มั้ย"
เขายิ้ม และอ้าแขนออก "ได้สิ..เธอกอดฉันได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว" ฉันโผเข้าหาเขา นำ้ตาไหลด้วยความตื้นตัน บทมันจะยากก็ยากจนไม่กล้าจะคิด แต่พอบทมันจะง่ายก็ง่ายเสียจนราวกับเป็นแค่ความฝัน ฉันรั้งแขนตัวเองเพิ่มขึ้นเพื่อจะได้กอดเขาให้แน่นขึ้นให้สมกับการเฝ้าฝันมานาน.."จะเป็นไรมั้ยถ้าเด็กอายุสิบเก้าจะจูบกัน" ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะกล้าถามออกไป
"เป็นสิ ยังไงฉันก็เป็นผู้ชายนะ ถ้าเราปล่อยให้มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น ฉันก็ไม่แน่ใจว่าจะห้ามใจไม่ไปต่อได้หรือเปล่า"
นั่นสิ เขาพูดถูก "ถ้างั้นฉันขอกอดนายไว้อย่างนี้นานๆได้มั้ย"
แทนคำตอบเเขากระชับอ้อมแขนเข้าหาตัว..ถึงแม้จะมีเรื่องน่ากลัวเกิดขึ้นก่อนหน้า แต่ฉันก็จำได้ว่าคืนนั้นฉันนอนหลับได้สนิท เคียงข้างเจ้าชายของฉัน จากนี้ไปดาวฤกดิ์ดวงนี้จะมีดาวเคราะห์น้อยคอยเป็นบริวารแล้วนะ "ฉันจะขอเธอมากไปมั้ยถ้าหากเธอจะสาดแสง ขอเพียงฉันคนเดียวเท่านั้นที่มีโอกาสจะได้รับแสงจากเธอ"
ผู้หญิง
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ส.ค. 2558, 23:06:57 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ส.ค. 2558, 23:06:57 น.
จำนวนการเข้าชม : 790
<< 1 | 3 >> |