หัวใจ...error
ฟ้าคราม ชายหนุ่มผู้เงียบขรึมยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ความรักนั้นคืนกลับมา เขาพยายามที่จะยื้อยุดความรักไว้สุดแรงเท่าที่จะทำได้ ทว่า...เมื่อออมทองได้เข้ามาข้องเกี่ยวกับชีวิตของเขา ผู้หญิงที่เก่งแต่ปากคนนี้ทำให้ทุกอย่างในชีวิตของเขานั้นเปลี่ยนไป...
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอน 5

ออมทองเก็บโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋ากางเกงหลังจากที่เธอโทรบอกพรพรรณว่าเธอ

ไม่สบายและจะกลับช้ากว่าที่กำหนด แน่ล่ะ...พรพรรณต่อว่าเธอยกใหญ่ในเรื่องที่เธอ

ทานง่ายและสามารถทานทุกอย่างที่ขวางหน้าได้หมด ไม่คิดที่จะระวังก็จะมัวระแวง

ระวังทำไมเล่าในเมื่อคนอื่นกินได้เธอก็น่าจะกินได้นี่นา เธอมองท้ายเรือสปีดโบ๊ทที่

แล่นออกไปด้วยความกังวล ความจริงเวลานี้เธอควรจะนั่งอยู่ในเรือลำนั้นเพื่อกลับบ้าน

แต่นี่...เธอยังยืนโต้ลมตัวสั่นน้อยๆ อยู่บนหาดทรายขาวเพราะเจ้าของรีสอร์ทนั้นยังไม่

ให้กลับด้วยเหตุผลที่ว่า...เธอยังไม่หายดี ควรจะพักให้แข็งแรงมากกว่านี้...

“คุณออมทอง หายดีแล้วเหรอครับถึงมายืนรับลมอย่างนี้ วันนี้คลื่นลมแรงมากกว่า

ปกติ ทางกรมอุตุฯ แจ้งมาว่าจะมีพายุเข้าคืนนี้” เสียงห้าวดังขึ้นทำให้ร่างบางสะดุ้งสุด

ตัว ออมทองหันมามองต้นเสียงด้วยความตกใจก่อนจะปรับสายตาให้เป็นปกติ

“คุณคราม” เธอพึมพำก่อนจะผินหน้ากลับไปมองที่เดิม

“ผมว่าคุณควรจะอยู่ในห้องพักมากกว่าที่จะมายืนอยู่ตรงนี้” ฟ้าครามบอกย้ำอีกครั้งเมื่อ

เห็นหญิงสาวยังยืนเฉยเหมือนทองไม่รู้ร้อน

“ฉันหายแล้ว ความจริงฉันไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย คุณน่ะตื่นตูมไปเอง” เธอ

บ่นพลางปรายตามองผู้ชายตัวใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างๆ

“ผมเนี่ยนะตื่นตูม” เขาชี้ตัวเองก่อนจะส่ายหน้ากับการกล่าวหาของออมทอง ถ้าเธอ

แข็งแรงดีเขาจะให้เธอพักอยู่ทำไม

“ก็ใช่น่ะสิ ไม่งั้นป่านนี้ฉันคงอยู่บนเรือลำนั้นแล้ว” เธอบุ้ยปากไปยังเรือสปีดโบ๊ทที่

แล่นออกไปไกลทุกที

“ถ้าคุณอยากกลับบ้าน คุณควรจะพักแล้วก็ทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะมากกว่านี้”

เขาบอกด้วยความเป็นห่วงอย่างแท้จริง

“ฮื้อ คุณนี่ทำไมย้ำคิดย้ำทำอย่างนี้นะ ฉันโตแล้ว ฉันรู้แล้ว” เธอบอกด้วยน้ำเสียงหงุด

หงิด

“ถ้าผมไม่ทำอย่างนี้ แล้วปล่อยให้คุณกลับไปทั้งๆ ที่คุณไม่สบาย คุณก็คงหาเรื่องไป

โพสต์ต่อว่าผมในอินเตอร์เน็ตอยู่ดี ไม่ว่าผมจะทำอะไร คุณก็จะมองผมผิดทั้งขึ้นทั้ง

ล่อง” ฟ้าครามบอกด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “จริงมั้ย” เขาเลิกคิ้วพร้อมกับย้อนถาม

“ชิ๊” เธอสะบัดหน้าหนีไปอีกทางพลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างขัดใจ ผู้ชายอะไร...ช่าง

เหน็บแนมจริงๆ

“แดดเริ่มแรงแล้ว ผมว่าเราควรจะกลับรีสอร์ท....” เขาเอ่ยขึ้น

“ฉันจะไปหาปลาทู” เธอสวนกลับมาแล้วเดินไปอีกทางโดยไม่สนใจว่าชายหนุ่มจะพูด

อะไรต่อ

“คุณออมทอง” เขาเรียกแต่ร่างบางนั้นยังก้าวเดินต่อไปโดยไม่แม้แต่จะหันมามอง ทำ

ให้เขาต้องเร่งฝีเท้าตามไปอย่างเสียไม่ได้

“เอ๊ะ” เธอร้องด้วยความตกใจเมื่อแขนกลมกลึงนั้นถูกรั้งไว้ด้วยมือใหญ่ “คุณคราม คุณ

จะจับฉันไว้ทำไมเนี่ย” เธอถามด้วยน้ำเสียงฉุนฉียว ดวงตากลมโตสบตาคมเข้มอย่าง

เอาเรื่อง

“ผมไม่ให้ไป เพราะถ้าคุณกลับมาไม่สบายอีก คุณก็ต้องอยู่ที่นี่อีก” เขาบอกด้วยน้ำ

เสียงห้วนๆ รู้สึกขุ่นมัวในอารมณ์กับความดื้อรั้นของผู้หญิงคนนี้ “หรือว่าคุณอยากอยู่ที่

นี่นานๆ”

“บ้า ใครเขาจะอยากอยู่” เธอสะบัดแขนออกไปอย่างแรงเพราะคิดว่าฟ้าครามจะจับไว้

แน่น แต่เปล่าเลย...ทันทีที่เธอสะบัดเขากลับปล่อยง่ายๆ ทำให้เธอเซไปข้างหลังแล้ว

ล้มก้นจ้ำเบ้าไปกับพื้นทรายเพราะแรงเหวี่ยงของตัวเองอย่างห้ามไม่อยู่

“โอย” เธออุทานด้วยใบหน้าเหยเกก่อนจะเงยมองหน้าคมเข้มที่ยืนจ้องอยู่แล้ว สายตา

ตำหนิของฟ้าครามทำให้เธอรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วทั้งใบหน้า ทำไม...เธอจะต้องล้มต่อ

หน้าผู้ชายคนนี้ด้วยนะ เธอฮึดฮัดอย่างขัดใจ

“ผมบอกแล้วว่าคุณยังไม่หายดี คุณก็ไม่เชื่อ” เขาเอ่ยขึ้นเบาๆ พร้อมกับพยุงร่างบางให้

ลุกขึ้นยืน

“ถ้าคุณไม่มาเซ้าซี้ ฉันก็ไม่เป็นอย่างนี้หรอก” เธอบ่นพลางปัดทรายที่ติดตามเสื้อผ้า

“งั้นก็ตามใจครับ” ฟ้าครามเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเรียบเฉยก่อนจะเดินกลับรีสอร์ทด้วย

ความคิดที่ว่า...เขาไม่ควรมายุ่งกับผู้หญิงคนนี้จริงๆ

ออมทองยืนมองฟ้าครามที่เดินจากไปด้วยแววตาไม่พอใจ ทำไมผู้ชายคนนี้จะต้องเข้า

มาวุ่นวายกับชีวิตของเธอด้วย เธอจะตัดสินใจทำอะไรด้วยตัวเองไม่ได้เลยหรือไง แต่

ว่า..ถ้าสมมุติโชคชะตาเล่นตลกวันข้างหน้า เธอต้องมาเป็นลูกน้องเขา เธอไม่ควรตั้งแง่

กับเจ้านาย เป็นมิตรกันไว้ก็ไม่เสียหายอะไร ดังนั้นเธอควรจะยอมเชื่อฟังเขาบ้าง... พอ

คิดได้ดังนี้ดวงตากลมโตวาววับขึ้นมาทันที

“คุณฟ้าคราม” เธอป้องปากเรียก แต่ชายหนุ่มยังเดินดุ่มไปข้างหน้าอย่างไม่สนใจ


“คุณคราม” เธอตะโกนเรียกอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังขึ้นกว่าเดิมพร้อมกับวิ่งเข้าไปหา ร่าง

สูงใหญ่หยุดนิ่งแล้วหันกลับมามองเธอด้วยใบหน้านิ่งเฉย

“ครับ” ฟ้าครามหรี่ตามองหญิงสาวที่ยืนยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่ต่อหน้าด้วยความสงสัย

“คือ...ฉันไปด้วย” เธอบอกแล้วเดินนำหน้าไปพยักหน้าเหมือนชักชวนให้เขาเดินกลับ

ไปด้วย ซึ่งแท้จริงแล้วเขาต่างหากที่เป็นฝ่ายต้องการกลับรีสอร์ท “เร็วๆ สิ ฉันหิวแล้ว

ชักช้าอยู่นั่นแหละ” เธอเร่งเร้าอีกครั้งพร้อมกับกวักมือเรียก

“เฮ้อ” ฟ้าครามถอนหายใจเบาๆ พลางส่ายหน้า ใครชวนใครกันแน่!!


ออมทองแอบมองฟ้าครามที่ยืนพิงโต๊ะด้วยท่าทางสบายๆ ดวงตาคมมองประภาวรรณที่

กำลังอธิบายเรื่องอะไรสักอย่างด้วยท่าทีสนใจ ฟ้าครามเหลือบตามองเธอ สายตาของ

เขาทำให้เธอต้องละสายตาไปมองทางอื่น มือบางเอื้อมไปหยิบแก้วน้ำบนโต๊ะ ทว่า...

‘เพล้ง’

นั่นไง...เธออยากจะบ้าตาย ทำไมต้องเป็นเธอด้วยเนี่ย ออมทองกะพริบตาถี่ๆ มอง

เศษแก้วที่แตกกระจายอยูบนพื้น น้ำแข็งก้อนเล็กๆ กระเด็นไปคนละทิศละทาง

“ขอโทษค่ะ” เธอพึมพำเบาๆ รีบลงไปเก็บเศษแก้วชิ้นใหญ่ทันทีเมื่อเห็นปราณีปรี่เข้ามา

ช่วยเก็บเศษแก้วที่แตกเพราะฝีมือเธอ

“ไม่เป็นไรค่ะคุณออม เดี๋ยวณีจัดการเองค่ะ” ปราณีบอกพร้อมกับจับมือเธอไว้ “เดี๋ยว

แก้วจะบาดมือเอาค่ะ”

“ออมไม่ได้ตั้งใจ” เธออุบอิบมองปราณีด้วยแววตาขอโทษ

“ระวังหน่อยนะปราณี” เสียงห้าวดังขึ้นพร้อมกับดึงร่างบางของออมทองให้ลุกขึ้นแล้ว

ดันเธอไปอีกทาง

“เอ๊ะ” เธออุทานพลางจ้องหน้าฟ้าครามอย่างขัดใจ “ฉันจะช่วยปราณี”

“ผมว่าคุณอยู่เฉยๆ ดีกว่าครับ” ฟ้าครามบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบพร้อมกับปรายตา

มองเธอด้วยแววตาที่เธอรู้สึกร้อนวาบไปทั้งใบหน้าเพราะมันเป็นสายตาตำหนิชัดๆ

“แต่ว่า...” เธอแย้ง

“คุณออมทอง เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของพนักงานมันไม่ใช่หน้าที่ของคุณ” เขาบอก

“แต่ฉันเป็นคนทำแตก” เธอบอกเหตุผล

“คุณเป็นลูกค้าของรีสอร์ท” เขาตอบกลับมาสั้นๆ ก่อนจะหันไปเรียกพนักงานสาวที่เดิน

ผ่านมาพอดี “อร พาคุณออมกลับบ้านพักทะเลครามด้วย”

“ค่ะนาย” สาวน้อยรับปากก่อนจะเดินนำไปยังห้องพักทำให้หญิงสาวเดินตามไปอย่าง

จำใจ

คนบ้า...เผด็จการเป็นที่สุด!!


เสียงฟ้าที่ร้องดังสนั่นท่ามกลางความเงียบสนิทยามย่ำคืนทำให้หญิงสาวรีบขึ้นไปขดตัว

อยู่ใต้ผ้าห่มบนที่นอนด้วยความตื่นกลัว สายฝนที่ตกกระหน่ำมาตั้งแต่เย็นจนถึงเวลานี้

ยังไม่มีวี่แววว่าจะหยุดเลยสักนิด ไม่รวมแสงฟ้าที่วาบเป็นระยะ เสียงลมพายุที่พัดแรง

จนเธอเกรงว่าหลังคาบ้านพักจะหลุดร่อนเป็นแผ่นแล้วปลิวไปตามลมเหมือนที่เธอเคยดู

ข่าวเวลาที่เกิดภัยทางธรรมชาติ

“มันจะตกให้น้ำท่วมโลกหรือไงเนี่ย” เธอก่นบ่นในใจ ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆ

ห้อง เวลาที่ฟ้าแลบที เธอก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมหน้าที หญิงสาวเอื้อมมือไปหยิบ

โทรศัพท์มือถือเพื่อจะโทรหาพรพรรณ แต่มันไม่มีคลื่นสัญญาณพอที่จะโทรออกได้

เลย

“บ้าจริงๆ ไหนว่าสัญญาณแรง โทรที่ไหนก็ติดไงล่ะ ไม่เห็นจะมีคลื่นสักขีด” เธอบ่น

พึมพำก่อนจะโยนโทรศัพท์ไว้ข้างหมอน

‘วันนี้คลื่นลมแรงมากกว่าปกติ ทางกรมอุตุฯ แจ้งมาว่าจะมีพายุเข้าคืนนี้ ’

อยู่ๆ คำพูดของฟ้าครามก็แวบเข้ามาในความคิด อะไรจะแม่นยำขนาดนี้ แล้วถ้าพรุ่งนี้

ฝนยังไม่หยุดตก เธอจะกลับกรุงเทพฯ ได้อย่างไร เธอเบื่อที่จะต้องคอยโต้คารมกับ

เจ้าของรีสอร์ทนี่เต็มทีแล้ว...



อากาศในเช้าวันนี้ค่อนข้างเย็นเพราะฝนยังตกพรำๆ ต่อเนื่องจากที่พายุเข้าเมื่อคืน ออม

ทองเดินฝ่าสายฝนไปยังล๊อบบี้ของรีสอร์ท ร่องรอยของพายุเมื่อคืนยังกระจัดกระจาย

เต็มหาดทราย น้ำทะเลที่เป็นสีเขียวมรกต เวลานี้กลับกลายเป็นน้ำทะเลสีขุ่นๆ เธอหยุด

มองอย่างไม่เชื่อสายตา ธรรมชาติทำไมถึงได้เปลี่ยนแปลงสิ่งรอบข้างได้เร็วขนาดนี้

“ตายแล้ว คุณออมมีอะไรหรือเปล่าคะ แล้วเดินตากฝนมาทำไมคะเนี่ย เดี๋ยวไม่สบาย

อีก” ปราณีเอ่ยถาม เดินเข้ามาหาเธอโดยทันที

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ออมหายแล้ว” เธอบอกยิ้มๆ “เมื่อคืนฝนตกน่ากลัวจังเลยค่ะ”

“เมื่อคืนยังถือว่าปกตินะคะ บางครั้งพายุแรงมาก คลื่นสูงสองสามเมตรแน่ะ” ปราณี

บอก เธอเบิกตากว้างขึ้นอย่างตกใจ

“คลื่นสูงขนาดนั้นเลยเหรอคะ”

“ค่ะ คุณออมหิวหรือยังคะ” ปราณีถามพลางมองไปยังห้องอาหารที่มีการจัดเตรียม

บุฟเฟ่เรียบร้อยแล้ว

“ไม่ค่ะ วันนี้จะมีเรือไปส่งนักท่องเที่ยวหรือเปล่าคะ” เธอเอ่ยถาม

“วันนี้คุณคงต้องอยู่ที่นี่ เพราะอากาศอย่างนี้ผมไม่เสี่ยงที่จะนำเรือออกจากเกาะแน่ๆ”

เสียงห้าวดังมาจากทางหลัง ซึ่งเธอไม่ต้องหันกลับไปมองก็รู้ว่าเป็นใคร

“แต่...” เธอแย้ง หันไปมองฟ้าครามอย่างจำใจ

“ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าที่พัก คุณจะไม่เสียอะไรเลยเพราะมันเป็นเหตุสุดวิสัย” เขาบอก

สั้นๆ “ปราณี เตรียมแฟ้มค่าใช้จ่ายทั้งหมดไปให้ผมที่ห้องทำงานด้วย”

“ค่ะ นาย” ปราณีรับปากแล้วถอนหายใจเมื่อร่างสูงนั้นเดินห่างออกไป

“คุณณี เจ้านายคุณนี่เคยยิ้มบ้างหรือเปล่าคะ” เธอเอ่ยถาม อดไม่ได้ที่จะปรายตามอง

ร่างสูงใหญ่ที่เดินจากไปด้วยความหมั่นไส้ ปราณีหันมาสบตาก่อนจะหัวเราะออกมา

“คุณออมพูดอย่างนี้ แสดงว่ายังไม่เคยเห็นนายยิ้มล่ะสิ ณีเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนที่เห็น

นายแล้วยิ้มจะต้องยอมศิโรราบอยู่แทบเท้าแน่ๆ” ปราณีบอกด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

“อย่างงั้นเชียวเหรอคะ” ออมทองทำตาโตก่อนจะยิ้มอย่างขันๆ

“จริงสิคะ แต่ว่าไปน้อยคนนักที่จะเห็นนายยิ้มค่ะ” ปราณีบอกด้วยแววตาครุ่นคิดก่อนจะ

เบิกกว้างขึ้น “ตายล่ะ เดี๋ยวณีต้องไปเตรียมเอกสารให้นายก่อนนะคะ ขอตัวนะคะคุณ

ออม”

“อ้อ ค่ะ ค่ะ” เธอแอบหัวเราะเมื่อเห็นปราณี พนักงานที่มีน้ำใจกุลีกุจอในการเตรียม

เอกสารให้ ‘นายใหญ่’ อย่างเร่งรีบ


เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าในความรู้สึกของออมทอง เธอเข้าใจแล้วว่าคนว่างงานที่คิด

อะไรเรื่อยเปื่อยจนเฟุ้งซ่านนั้นเป็นอย่างไร จริงอยู่ที่การมาเที่ยวในครั้งนี้เป็นการพัก

ผ่อนร่างกายและสมอง แต่มันเป็นการพักผ่อนที่กินเวลามากเกินไป เพราะเธอไม่ได้ทำ

อะไรเลยนอกจากกิน แล้วก็กินจนเธอรู้สึกเบื่อมื่อเห็นกุ้ง ปลาหมึกบนโต๊ะอาหาร ใน

เวลานี้เธออยากกลับบ้าน กลับไปหางานทำเพื่อที่จะเรียกคุณค่าของตัวเองกลับมา

ออมทองออกมาเดินเล่นด้านนอกรีสอร์ทเพื่อคลายความอึดอัดจากการทานขนมที่เกิน

กระเพาะตัวเอง เป็นเพราะอากาศค่อนข้างเย็นเธอจึงตัดใจยอมจ่ายเงินเป็นค่าชาร้อน

หอมกรุ่น และเค้กหน้าตาน่าทาน ทันทีที่เธอตักเค้กเข้าปากเธอรู้สึกเคลิบเคลิ้มกับ

ความอร่อยหอมหวานของเนย เนื้อครีมนุ่มไม่เป็นไขติดปาก ทำให้เธอคิดถึงร้านเค้ก

ชื่อดังในกรุงเทพฯ ในเมื่อต้องเสียเงินแล้ว เธอจึงทานหมดชิ้นโดยไม่เหลือเศษเลยแม้

แต่นิดเดียว ผลสุดท้ายเธอจึงต้องมาเดินย่อยอย่างนี้ เธอเดินไปเรื่อยๆ จนสุดทางเดิน

ภาพตรงหน้าเธอคือบ้านหลังกะทัดรัด ทั้งประตูและหน้าต่างเปิดกว้างเห็นเฟอร์นิเจอร์

ไม้ด้านใน ผ้าม่านปลิวไสว เสียงโมบายเปลือกหอยดังเมื่อยามลมพัดผ่าน

“ทำไมไม่ปิดประตู หน้าต่างให้เรียบร้อย ถ้ามีขโมยจะทำไงเนี่ย” เธอพึมพำพร้อมกับ

ก้าวเท้าตรงไปเรื่อยๆ จนหยุดอยู่หน้าประตูบ้าน ภายในบ้านนั้นเงียบสงัด เธอมองโต๊ะ

ไม้กลมกลางห้องซึ่งมีกองหนังสือตั้งไว้ มีแฟ้มเอกสารวางซ้อนกันอย่างไม่เป็น

ระเบียบ เครื่องคิดเลข ดินสอวางระเกะระกะ เธอเหลือบมองภาพวาดที่แขวนอยู่ตรง

ผนังด้วยสายตาพราวระยับ ภาพผู้หญิงที่มีใบหน้าเรียวสวย จมูกโด่ง ริมฝีปากอิ่มแดง

ยิ้มอย่างเชิญชวน โดยเฉพาะดวงตายาวรีที่ดูลึกลับ ชวนค้นหา เธอเดินข้ามาในบ้าน

แล้วหยุดยืนอยู่ตรงหน้าภาพวาดโดยไม่รู้ตัว

“สวยจังเลย” เธอพึมพำ มือขาวแตะกรอบภาพอย่างชื่นชม มุมปากหยักขึ้นอย่างพึงใจ

ออมทองจดจ่ออยู่กับภาพก่อนจะทำจมูกฟุดฟิด เมื่อได้กลิ่นอะไรสักอย่างที่อบอวลอยู่

รอบตัว

“กลิ่นกาแฟนี่” เธอเปรยเบาๆ ก่อนจะหันกลับมาแล้วต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

เมื่อปะทะสายตาคมกร้าวที่จ้องมองเธออย่างไม่พอใจ

“คะ...คุณคราม”

*********************************

มิตรร๊าก...แควนคลับ...
หนุกหนานกับการอ่านเน้อ....ติได้ ชมได้...เหมือนเคย ทว่า...จะทำตามหรือไม่

เป็นอีกเรื่องน๊า เหอ เหอ เหอ...



แมกไม้
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ก.ค. 2554, 13:57:43 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ก.ค. 2554, 13:57:43 น.

จำนวนการเข้าชม : 2294





<< ตอน 4   ตอน 6 >>
Zephyr 20 ก.ค. 2554, 15:42:11 น.
หนูออม มาบุกบ้านคุณครามไมเนี่ย เดี๋ยวโดนกินตับหรอกนะ อุอุ


บัวขาว 20 ก.ค. 2554, 15:57:55 น.
ตั๊กแก ... นายครามเป็นตุ๊กแก อิ..อิ..


anOO 20 ก.ค. 2554, 16:08:11 น.
มารอตอนต่อๆ ไป จ้า


ปอยอะนะ 20 ก.ค. 2554, 16:34:06 น.
หนูออมถอดนิสัยคนแต่งออกมาเลยนะนั่น


XaWarZd 20 ก.ค. 2554, 23:48:50 น.
โหย จะรอดออกไปมะเนี่ย


ปูสีน้ำเงิน 21 ก.ค. 2554, 00:18:40 น.
เดี๋ยวคุณครามก็วีนอีกหรอก


รัชต์ 21 ก.ค. 2554, 07:25:04 น.
มือถือคลื่นแรง แต่ทะเลยามมีพายุฝนตกหนักคลื่นทั้งแรง เร็ว และสูง ค่ายไหนๆก็หดแหละออมเอ๋ย...


sa 21 ก.ค. 2554, 11:44:13 น.
อยากรู้อยากเห็น ^___^


whitelotus 22 ก.ค. 2554, 19:03:16 น.
จะโดนดุไหมเนี้ย


ของขวัญ 23 ก.ค. 2554, 00:50:51 น.
บุกเข้าบ้านนายครามขนาดนี้จะเป็นยังไงเนี่ย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account