ลองรัก
ศิญาดา...หญิงสาวโลกส่วนตัวสูง

กับ

เจค...หนุ่ม(ที่เคย)มาดขึม

เมื่อสวิตซ์หัวใจถูกเปิดเพียงแค่สบตา ชายหนุ่มพยายามทุกอย่างเพื่อให้ได้ครอบครองหัวใจเธอ ส่วนหญิงสาวกลับตั้งมั่นที่จะรักษากำแพงโลกส่วนตัวเอาไว้ให้ตลอด

...สุดท้าย ระหว่าง "เขา" กับ "เธอ" จะลงเลยกันได้อย่างไร ติดตามได้ใน...

~~~~ ลองรัก~~~~
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ห่างกาย แต่ใกล้ใจ 100%

“ถ้ายังอยู่แบบนี้ผมสาบานได้เลยว่าเราจะไม่ได้ทานข้าวแน่นอน” คำพูดเป็นนัยครั้งที่สองทำให้ศิญาดารีบดันตัวเองออกจากอ้อมกอดเขาทันที เธอรู้ว่าที่เขาพูดหมายถึงอะไร แล้วเธอไม่ใช่เด็กสาวไร้เดียงสาที่จะไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรในตอนนี้ดังนั้นเธอต้องพาตัวเองออกไปจากสถานการณ์นี้ก่อนเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ถึงแม้ว่าในใจลึกๆ แล้วยังถวิลหาอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นนี้ของเขาอยู่

“ฉันว่า..ฉันไปทำทำกับข้าวก่อนดีกว่า” พูดแล้วก็รีบหันหลังเดินออกไปที่ระเบียงทันที แต่พอนึกได้ว่าผักและผลไม้ที่จะล้างยังอยู่ที่โต๊ะก็ต้องรีบเดินกลับมาคว้าไปอย่างรวดเร็ว

เสียงหัวเราะเบาๆ ของเรายิ่งทำให้คนที่กำลังล้างผักอยู่ตอนนี้หน้าแดงหนักเข้าไปอีก เธอรู้สึกว่าตอนนี้หน้าเธอมันร้อนราวกับคนที่กำลังไข้ขึ้นสูง ทั้งร้อน ทั้งแดง ทั้งใจสั่น สารพัดอาการที่จะเธอไม่เคยเป็นมาก่อนพร้อมใจกันแสดงอาการออกมาพร้อมๆ กันเพราะเขาคนเดียวแท้ๆ เลย

เป็นเวลาหลายนาทีกว่าที่จิตใจของเธอจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ หญิงสาวจัดการหุงข้าวไว้จากนั้นก็นำผักที่ล้างแล้วก็หั่นไว้เรียบร้อยแล้วมาผัดต่อด้วยไข่เจียวอีกอย่างตามที่เธอบอกเขาไว้ว่าเธอทำได้แค่นี้ เมื่อกับข้าวเสร็จเรียบร้อยเธอก็ตักใส่จานนำมาวางไว้ที่โต๊ะโดยเตรียมอุปกรณ์การทานให้เรียบร้อยข้าวก็สุกพอดี สองหนุ่มสาวนั่งทานข้าวเงียบๆ ไร้การพูดคุยใดๆ ไม่ใช่ว่าไม่มีเรื่องจะคุยแต่เธอยังไม่พร้อมจะคุยต่างหากเพราะเหตุการณ์เมื่อชั่วโมงก่อนยังทำให้เธอใจเต้นอยู่เลย พอเธออิ่มแล้วก็ลุกขึ้นไปหยิบขวดน้ำออกมาจากตู้เย็นเทลงในแก้วสำหรับเขาและอีกใบของตัวเอง เจคสังเกตดูหยิบโน่นจับนี่อย่างเพลิดเพลิน จะดีแค่ไหนถ้ามีเธอคอยทำอาหารให้ทานทุกวันแค่ได้มองเธอเขาก็มีความสุขแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเพียงแค่จูบเดียวจะทำให้ความมั่นใจที่เขามีต่อเป็นเพิ่มมากขึ้นจนเขายอมรับกับตัวเองในตอนนี้ได้เลยว่าเขารักเธอเข้าแล้ว รักหมดใจ รักแบบไม่มีเงื่อนไข ตอนนี้เขาขอเพียงแค่เธอยอมรับรักของเขาเท่านั้น แค่เพียงเท่านั้นเองเขาก็พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอมาครอบครองตลอดไป ตราบใดที่เธอยังไม่รับปากเขาก็ไม่กล้าจะรวบรัดตัดสินใจว่าเธอจะยอมตกลงรับรักเขาในเร็ววันนี้ การเดินทางไปมาระหว่างอเมริกากับไทยสำหรับเขาแล้วไม่ใช่เรื่องลำบากอะไรเลย แต่การเดินทางไปมาบ่อยๆ มันอาจจะทำให้กระทบกับงานของเขาได้ รวบรัด! อยู่ๆ คำนี้ก็ผุดเข้ามาในหัวเขาอีกครั้ง เวลาที่มีไม่มากแล้วอีกอย่างตอนนี้เขาก็อยู่ที่ห้องของเธอแล้วโอกาสแบบนี่ไม่รู้ว่าจะหาได้อีกเมื่อไหร่ ถึงแม้มันอาจจะเป็นความคิดที่ไม่ดีนักแต่สำหรับเขาแล้วเขามั่นใจในตัวเธอและมั่นใจในตัวเองเช่นกันว่าเขาจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงแน่นอน

อาหารมื้อนั้นผ่านไปโดยมีคนตัวโตอาสาเป็นคนล้างจานด้วยเหตุผลที่ว่าเธอเป็นคนทำอาหารคนเดียวโดยที่เขาไม่ได้ช่วยเลย เธอจึงเลือกไปจัดผลไม้ที่ซื้อมาใส่จานไว้สำหรับทานเป็นการล้างปากหลังทานมื้อเย็นผ่านไป ด้วยห้องของเธอเป็นห้องเล็กพื้นที่มีอยู่จำกัดนอกจากโต๊ะที่ใช้นั่งทานอาหารแล้วก็ไม่มีโซฟาอีก เขาและเธอจึงนั่งดูทีวีและทานผลไม้ไปเงียบๆ โดยเป็นเธอซะมากว่าที่ทานผลไม้เพราะเขาเลือกที่จะจิบเครื่องดื่มที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอย แม้จะมีเสียงทีวีแต่ก็ไม่ได้ทำให้บรรยากาศคลายความอึดอัดลงไปเลยสำหรับศิญาดา ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เหตุการณ์ก่อนทานมื้อค่ำเท่านั้น คำถามที่ผุดขึ้นในหัวเธอตอนนี้คือ ถ้าเขาต้องการมากกว่าจูบเธอจะยอมให้เขารึเปล่า ศิญาดารู้ดีว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายตลอด 29 ปีของเธอเขาคือผู้ชายคนแรกที่ได้เข้าใกล้เธอมากที่สุด และก็เป็นเขาอีกเช่นกันที่ได้จูบแรกของเธอไป ตอนนี้เธอยอมรับกับใจตัวเองแล้วว่าเธอกล้าเรียกผู้ชายคนนี้ว่าคนที่เธอรัก ถ้าตัดเรื่องระยะเวลาทิ้งไปเขาคือคนที่คอยเป็นห่วงเป็นใยเธอนอกจากครอบครัวของเธอ ในเวลาที่เธอเหนื่อยหรือเครียดกับงานเขาก็คอยให้กำลังใจเธอมาตลอด แต่การเป็นคนรักกันเธอรู้ว่ามันมีอะไรมากว่านี้ ถึงแม้ว่าจะดูไม่ถูกไม่ควรแต่เธอก็เชื่อว่าเธอจะรับมือกับสถานการณ์นั้นได้

“ขอบคุณสำหรับอาหารค่ำนะครับ” ชายหนุ่มพูดขึ้นทำลายบรรยากาศอันเงียบงัน แต่กลับไม่มีการตอบกลับจากเธอ “ดาครับ” คำตอบยังเป็นความเงียบเช่นเดิม ชายหนุ่มสังเกตเห็นว่าฝรั่งชิ้นที่อยู่ในมือของเธอมันยังมีสภาพเดิมตั้งแต่เธอหยิบมันขึ้นมาซึ่งก็เป็นเวลาเกือบ 10 นาทีแล้ว “ที่รัก” มือของเขาที่แตะเข้าที่ต้นแขนเรียวของเธอทำให้เธอถึงกับสะดุ้งหลุดออกมาจากภวังค์ความคิดทันที

“คุณว่าอะไรนะคะ”

“ดาเป็นอะไรรึเปล่า ผมเห็นดาดูเครียดๆ” เจคถามอย่างเป็นห่วง

“เปล่านี่คะ แค่คิดอะไรเพลินๆ นิดหน่อย” หญิงสาวเลือกที่จะไม่บอกว่าเธอคิดเรื่องอะไร

“เรื่องของเรารึเปล่าครับ” ชายหนุ่มถามตรงๆ

“ก็..ใช่ค่ะ” ทั้งที่ตั้งใจว่าจะไม่ตอบแต่สุดท้ายก็ตัดสินใจบอกไปตามตรง

“ผมไม่รู้ว่าดาคิดเรื่องของเราไปในทางไหน แต่สำหรับผม ผมมั่นใจสนความรู้สึกของตัวเองที่สุด ดาอาจจะมองว่าเวลาที่เราเจอกันมันน้อยเกินไปที่จะตัดสินใจ แต่นั่นไม่ได้ทำให้ความมั่นใจของผมลดเลยแม้แต่น้อย ผมมองดาแล้วผมเห็นอนาคตของเรา” เหตุผลสั้นๆ ของเขาตรงใจเธอราวกับนั่งอยู่ในใจของเธอเลยทีเดียว

“ขอบคุณนะคะที่คุณมั่นใจในตัวฉัน” หญิงสาวยิ้มให้เขาทั้งปากและตาด้วยหัวใจพองโต

“ฟังดูห่างเหินจัง” ชายหนุ่มตัดพ้อแบบไม่จริงจังนัก

“คุณหมายถึงอะไรหรอคะ” ศิญาดาถามอย่างสงสัย

“เรียกผมว่า เจค ได้มั๊ยครับดา” สายตาที่เขาส่งมาช่างน่ารักนัก

“แค่นี้เองหรอคะ” หญิงสาวหัวเราะเบาะ “ก็ได้ค่ะ ต่อไปนี้ฉันจะเรียกเจค”

“ผมว่ามันก็ยังดูห่างเหินอยู่ดีแหละ” โอ้..นะ นี่เขาลดอายุได้ขนาดนี้เลยหรอ เห็นท่าทางออดอ้อนของเขาแล้วเธอจะละลาย

“ฉันก็ตกลงจะเรียกเจคแล้วนี่คะ หรือถ้าคุณยังเห็นว่าห่างเหินอยู่ฉันเรียกคุณเหมือนเดิมก็ได้ค่ะ” เห็นท่าทาออดอ้อนของเขาแล้วเธอก็อดที่จะเอาคืนบ้างไม่ได้โทษฐานหมั่นไส้

“โธ่! ดาก็ ไหนๆ คุณก็เรียกชื่อผมแล้วก็ชวยแทนตัวเองว่าดาไม่ได้หรอ ผมว่ามันน่ารักดีออก” เหตุผลของเขาเรียกเสียงหัวเราะของเธอให้ดังขึ้นกว่าเดิม

“ถ้าฉันไม่ยอมล่ะคะ” หญิงสาวต่อรอง

“ผมก็จะเรียกคุณว่าที่รักต่อหน้าทุกคนเลย” ไม้ตายที่เขาเก็บไว้ก็ได้เวลาเอาออกมาใช้ซะที คนที่จะถูกเรียกว่าที่รักต่อหน้าทุกคนทำจมูกย่นได้น่ารักจนชายหนุ่มอดใจไม่ไหวโน้มตัวข้ามโต๊ะกินข้าวเล็กๆ ไปขโมยความหอมจากแก้วเธออย่างรวดเร็ว

“เอ๊ะ! คุณนี่” ศิญาดาเอามือกุมแก้มที่โดนคนจมูกเร็วขโมยเอาความหอมที่แก้มเธอ แต่อีกข้างที่ไม่ได้ปิดก็เริ่มซับสีระเรื่อให้เขาได้เห็น

“ถ้าดาทำตัวน่ารักแบบนี้ผมไม่รับรองนะ” พูดไปตามความจริงก็ยิ่งทำให้แก้มที่แดงอยู่แล้วแดงขึ้นไปอีก ผู้หญิงคนนี้อายได้น่ารักที่สุดในความคิดของเขา “ว่ายังไงครับ ดาจะยอมแทนตัวเองว่าดารึเปล่า”

“ก็ได้ค่ะ แต่คุณก็ต้องรักษาสัญญาด้วยว่าจะไม่เรียกดาว่าที่รักต่อหน้าทุกคน” คำว่าที่รักเบาๆ ที่ออกจากปากบางนั้นกลับดังมากในใจของเขา

“ด้วยเกียรติของลูกผู้ชายที่ชื่อเจค เลาท์เนอร์เลยครับ” ชายหนุ่มชูสามนิ้วขึ้นประกอบคำสาบานราวกับเป็นลูกเสือ

“นี่ก็ดึกแล้ว ดาว่าคุณกลับไปก่อนนะคะ” เขินมากเข้าเธอก็ใช้วิธีไล่เขาเสียดื้อๆ

“อะไรกัน นี่มันพึ่งจะ 4 ทุ่มกว่าเองนะ” ชายหนุ่มแกล้งโวยวาย

“ถ้าดึกกว่านี้เดี๋ยวจะยิ่งกลับลำบากนะคะ”

“ดาใจร้ายจัง”

“ไม่ได้ไล่ค่ะ ก็ดาเห็นว่ามันดึกแล้วจริงๆ นี่คะ”

“แต่ผมยังไม่อยากกลับนี่นา”

“ถ้าเป็นเด็กทำแบบนี้ด่าว่ามันน่ารักดีนะคะ แต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่ทำแล้วดาว่ามันแปลก” เมื่อทนดูความออดอ้อนของเขาไม่ไหวเธอก็ขอสกัดหน่อยละกัน

“ดาใจร้ายมาก” คนตัวโตยังคงงอแงไม่เลิก “ผมกลับก็ได้” อยู่ๆ คนที่กำลังงอแงอยู่ก็ยอมกลับขึ้นมาง่ายๆ ซะอย่างนั้นทำเอาศิญาดาถึงกับแปลกใจ

เจคเดินไปที่ประตูห้องโดยมีเธอเดินตาม แต่แล้วชายหนุ่มก็หันกลับมามองเธอด้วยสายตาหวานซึ้งจนเธอชักใจไม่ดี

“ผมไม่อยากกลับเลย” คนที่มีแผนอยู่ในหัวยังคงอ้อนต่อ “กลับไปก็คงนอนไม่หลับเพราะคิดถึงดา” ขายาวที่ก้าวเข้ามาหาเธอทำให้ศิญาดาถอยหลักอัตโนมัติแต่ก็ยังไม่ทันเร็วเท่าคนช่างอ้อนที่ตอนนี้ใช้มือรวบเอวเธอเข้าไปแนบชิดกับเขาแล้วตอนนี้

“เจคคะ” หญิงสาวเรียกเขาเสียงสั่น ในใจหวั่นว่าเหตุการณ์เมื่อหัวค่ำจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งถ้ามันเกิดขึ้นจริงเธอไม่กล้ารับประกันเลยว่าเธอจะห้ามใจตัวเองได้แค่ไหน

ฝ่ายคนที่ถูกเรียกกลับไม่ขานตอบแถมยังโน้มศีรษะเข้าหาเธออีกต่างหาก มาถึงขั้นนี้แล้วเขาไม่ยอมกลับไปมือเปล่าแน่ ว่าแล้วชายหนุ่มก็เริ่มแผนที่วางไว้ในหัวทันที เมื่อริมฝีปากหนาประกบเช้ากับริมฝีปากบางของเธอได้ชายหนุ่มก็เดินหน้าทันที จูบที่อ่อนหวานในตอนแรกเริ่มเปลี่ยนเป็นเรียกร้องและเร่าร้อนมากขึ้น ชายหนุ่มเลื่อนมือข้างหนึ่งขึ้นไปประคองศีรษะของเธอให้รับจูบของเขาได้ถนัดส่วนอีกข้างเลื่อนต่ำลงไปแถวชายเชื้อโปโลซึ่งเป็นยูนิฟอร์มของเธอจากนั้นก็สอดมือไล้ตามหน้าท้องเนียนเข้าไปสัมผัสกับบราเซียที่ครอบดอกบัวคู่นั้นเอาไว้ มือสากที่กอบกุมดอกบัวผ่านบราเซียตัวบางนั้นทำให้ชายหนุ่มถึงกับครางอย่างพอใจ คัพดี! สำกรับคนที่ผ่านผู้หญิงมามากมายเช่นเขาแค่สัมผัสก็สามารถบอกได้ว่าคัพไหน เมื่อสัมผัสที่ไม่ได้ถึงเนื้อแท้ทำให้ชายหนุ่มเลื่อนมือไปปลอดตะขอที่อยู่ด้านหลัง เมื่อพันธนาการที่ปิดกั้นดอกบัวคู่งามถูกปลดล็อคเนื้อแท้ภายใต้สิ่งห่อหุ้มเล่นเอาเขาแทบคุมตัวเองไม่ได้ เจคดันร่างที่คล้ายกับคนที่สติไม่อยู่กับตัวเพราะรสจุมพิศของเขาไปที่เตียง สติที่เริ่มจะกลับมาเมื่อหลังเนียนได้สัมผัสกับความเย็นของที่นอนทำให้คนใต้ร่างหนาเพิ่มแรงผลักจากมือที่ทาบอยู่ตรงหน้าอกของชายหนุ่มแต่มีหรือที่เขาจะยอมให้เธอทำอย่างนั้นสำเร็จ เจคเพิ่มระดับจุมพิศให้หนักและเร่าร้อนมากขึ้นจนร่างเล็กส่งเสียงครางออกมาแผ่วเบาเรียกกำลังใจจากเขาได้เป็นกอง ขณะที่ปากหนาจะจากริมฝีปากบางของเธอแล้วไซ้ไปตามลำคอระหงของเธอมือทั้งสองข้างก็กอบกุมเอาดอกบัวคู่สวยเอาไว้ออกแรงคลึงหนักเบาสลับกันยิ่งทำให้ร่างบางที่ตอนนี้ปากเป็นอิสระแล้วหลุดเสียงครางออกมาอีกครั้งราวกับคนที่กำลังทรมาน

“ที่รัก คุณสวยมาก” ชายหนุ่มพึมพำมองดอกบัวคู่งามอยากพอใจ แล้วก้มลงดูดกินดอกบัวคู่นั้นอย่างกระหายหิว แรงขบกัดเบาที่ปลายดอกบัวข้างหนึ่งของเธอถึงแม้จะไม่แรงมากจนเจ็บแต่ก็ทำให้หญิงสาวได้สติ

“คุณ” คำพูดที่ศิญาดาคิดว่าเธอเปล่งออกมาเสียงดังนั้นความจริงแล้วกลับกลายเป็นแค่เสียงอันแผ่วเบา นอกจากจะหยุดการกระทำดังกล่าวของเขาไม่ได้แล้วยิ่งทำให้ชายหนุ่มเพิ่มแรงดูดดึงที่ดอกบัวคู่งามหนักขึ้นไปอีกจนเธอครางออกมาอย่างทรมาน

“ดากำลังผิดสัญญาที่รัก” ชายหนุ่มประท้วงราวกับเตือนให้เธอรู้ว่าเธอจะต้องได้รับการลงโทษจากเขาโดยที่เธอยังคิดไม่ออกเลยว่าเธอผิดสัญญาเรื่องอะไร “ดาสัญญากับผมแล้วว่าจะเรียกชื่อของผม” ชายหนุ่มเฉลยถึงที่มาของการผิดสัญญาที่ให้ไว้ ปากหนาที่ตอนนี้เลื่อนกลับขึ้นมาที่ลำคออีกครั้งก่อนจะเลี้ยววกกลับไปควานหาความหวานจากโพรงปากของเธออีกครั้ง




ศิริรตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ส.ค. 2558, 19:12:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ส.ค. 2558, 19:12:40 น.

จำนวนการเข้าชม : 850





<< ห่างกาย แต่ใกล้ใจ 70%   (ติดชื่อตอนไว้ก่อนน้า ยังคิดไม่ออก 555) >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account