CEO ชำนาญรัก Inlove Book (ลวงเทพบุตรรัก,ปรารถนารักเทพบุตรต้องห้าม)
เขาเป็นอาจารย์พิเศษ ฉฉลาดจนกรดต้องเรียกพี่ มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อ หยิ่งยโส จอมไว้ตัว ผู้ชายสมบูรณ์แบบเจ้าเสน่ห์ และ... อีกหนึ่งความลับ เขาคือโฮสต์!
Tags: โรมานซ์, ฟีลกู๊ด, คู่กัด, อีวอนน์,มัตติกา

ตอน: Chapter 1 ลูกเป็ดขี้เหร่กับเจ้าชายอสูร



“อ๊ะ! เฮ้ เดินระวังๆหน่อยสิ ยัยซุ่มซ่ามนี่” เจ้าของเสียงเป็นสาวผมทองหุ่นอวบไปทางอ้วน เจ้าหล่อนแต่งหน้าเปรี้ยวปรี๊ด และแต่งตัวรัดรูป ยกมือขึ้นเท้าสะเอวในระหว่างที่ก้มลงมอง คู่กรณีซึ่งตอนนี้นั่งจุกแอ้ดอยู่บนพื้นพรม

ภายในโถงทางเดินยาวของอาคาร สองข้างเป็นผนังห้องสีขาวกับประตูสีเทา ฝ้าหม่นๆสีเดียวกับประตูห้องค่อนข้างต่ำเปิดไฟสว่างจ้า ในขณะที่บนพื้นพรมนั่น มีผู้หญิงเอเชียตัวเล็ก ผมดำยาวสลวยราวกับขนนกเป็ดน้ำ ล้มลงไปนั่งก้นจำเบ้า และมีหนังสือเล่มหนาหลายเล่มตกเกลื่อนอยู่บนพรมสีเทารอบตัว

มัตติกาหน้ามุ่ยเงยหน้าขึ้นมองกลับแม่คนที่ชนเธอแล้ว ยังจะมาทำท่าต่อว่าเธอเป็นคนผิดอีก ดวงตายาวเรียวสีดำสนิทภายใต้กรอบแว่นสายตาจึงมีแววเอาเรื่องเต็มที่ แต่แม่สาวผมทองยักไหล่แล้วสะบัดผมลอนสวยๆ เปิดประตูห้องเรียนที่อยู่ห่างไปแค่ก้าวเดียวเข้าไป ไม่ได้สนใจที่จะช่วยพยุงเธอลุกขึ้นยืน หรือแม้แต่จะเก็บหนังสือให้ก็ไม่มี มัตติกาถอนหายใจอย่างสุดเซ็ง ก่อนกวาดสายตามองหาคนช่วยดึงเธอให้ลุกขึ้นเพราะยังรู้สึกจุกไม่น้อย แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า

ตอนนี้ในทางเดินไม่มีคน เพราะทยอยเข้าห้องเรียนกันหมดแล้ว รวมถึงมันเป็นช่วงปิดภาคฤดูร้อนด้วย ดังนั้นนักศึกษาจึงน้อยกว่าปกติมาก

ฉะนั้นหญิงสาวจึงต้องถือคติที่ว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตนอีกครั้ง

ร่างเล็กแบบบางสวมเชิ้ตลายตารางตัวใหญ่และกางเกงยีนส์ขายาว กับรองเท้าผ้าใบสีดำตุ่นๆ ค่อยขยับขึ้นนั่งคุกเข่าได้ในราวสิบนาทีต่อมา หลังอาการจุกคลายลง

มัตติกาไม่ได้อ้อยอิ่งชักช้าเมื่อมองนาฬิกาแล้วเห็นว่าใกล้เวลาเต็มที เธอรีบเก็บหนังสือที่กระจายเกลื่อนกลาดรอบตัวขึ้นมา ก่อนจะได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นเบาๆ หญิงสาวเขยิบหลบไปชิดผนังเพราะกลัวเกะกะขวางทาง แล้วก็ได้เห็นปลายรองเท้าหนังมันปลาบ Toe Cap จากแบรนด์ Loake มาหยุดลงตรงหน้า

แต่เธอก็สนใจแค่นั้น มัตติกาคิดว่าอาจเป็นนักศึกษาปริญญาโทสักคนที่กำลังจะเข้าห้องเรียน เธอละสายตาไปหยุดยังหนังสืออีกเล่ม กำลังจะเอื้อมมือไปคว้า แต่ก็ชะงักเมื่อเจ้าของรองเท้าทรุดลงนั่ง เก็บมันยื่นส่งมาให้เธอ

เจ้าของมือนั่นเขานั่งบนส้นเท้า หญิงสาวเอื้อมมือออกไปรับพึมพำขอบคุณ ระหว่างนั้นเจ้าของนัยน์ตาคู่หวานก็อดจะมองสำรวจไม่ได้ เธอเห็นโรเล็กซ์เรือนใหญ่บนข้อมือของเขา แต่ไม่แน่ใจนักว่าเพชรที่ฝังไว้ตรงกลางใช่ของจริงหรือไม่ ก่อนจะเลื่อนสายตาตามลำแขนซึ่งซ่อนตัวอยู่ในสูทเนื้อดี ที่เพียงเห็นก็รู้ว่าเป็นของแพงขึ้นไป

ไหล่เขากว้างผึ่งผายดีทีเดียว มัตติกาคิดในใจ เธอมองขึ้นไปตามลำคอแกร่ง ผ่านปลายคางเห็นไรหนวดเขียวจางๆ ก่อนเบิกตาโต อ้าปากค้าง เมื่อเจ้าของใบหน้านั่น เขา!

“เป็นอะไรมากหรือเปล่า ต้องการความช่วยเหลืออะไรไหม”

อีวอนน์ เอส. บราวน์ นักธุรกิจหนุ่มคนดัง คนที่ทำให้วันนี้เธอต้องรีบมาจับจองที่นั่งแถวหน้า เพื่อจะกอบโกยความรู้จากอัจฉริยะอย่างเขา หวังพัฒนาเส้นหยักน้อยๆในหัวสมองของเธอน่ะซี!

มัตติกากะพริบตาปริบๆ แม้จะยังไม่เคยเจอตัวจริง ได้เห็นเพียงแค่รูปถ่ายในหนังสือพิมพ์ แต่เธอมั่นใจว่าใช่เขา

อาจารย์พิเศษที่ยอมสละเวลาว่างอันน้อยนิดในฤดูร้อน มาบรรยายให้นักศึกษาที่นี่ได้พัฒนาความรู้ เป็นเวลาสั้นๆแค่หนึ่งชั่วโมงต่อหนึ่งเดือน และมีกำหนดระยะเวลาแค่สี่เดือนเท่านั้น

นี่ไงล่ะ เธอได้เจอเขาแล้วแบบตัวเป็นๆ และคุ้มค่ากับเหตุผลที่ทำให้เธอยอมขอลางานในบ่ายวันนี้

พระเจ้า! เขาหล่อมากจริงๆให้ดิ้นตายเถอะโรบิ้น!!

แล้วเพราะมัวแต่ตะลึง คำถามของอีวอนน์จึงลอยผ่านหูของมัตติกาไปเหมือนสายลม

ส่งผลให้คนตัวสูงในชุดสูทของอามานี่สีดำ ซึ่งรอคอยคำตอบแต่ไม่ได้กลับคืนมาค่อยผ่อนลมหายใจ ใบหน้าคมสันเรียวยาวเห็นสันกรามแกร่งชัดเรียบเฉย จะมีก็แต่นัยน์ตาเรียวรีสีเทาอมเขียว ใต้คิ้วสีน้ำตาลเข้มพาดตรงนั่นเท่านั้นที่ขมวดมุ่น อีวอนน์ เอส. บราวน์รู้สึกหงุดหงิดแกมไม่พอใจนิดๆ เมื่อคนตรงหน้าพอเห็นหน้าเขาก็ทำท่าทางราวกับเห็นผี

ปกติเขาก็ไม่ใช่พวกหลงตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า... เท่าที่ผ่านๆมา สาวสาวซึ่งได้เห็นหน้าเขาต้องมีสีหน้าเคลิ้มฝันตะลึงตะลาน ไม่ใช่... ตกตื่นอย่างกับเขาเป็นตัวประหลาด ไม่ก็ฆาตกรตัวร้ายในหนังสยองขวัญแบบนี้!

ดอกเตอร์หนุ่มกระแอมขึ้นเบาๆแก้เก้อเมื่อถามแล้วไม่ได้คำตอบ เขาเลิกสนใจผู้หญิงตรงหน้า ก่อนลุกขึ้นยืนยืดตัวเต็มความสูงหนึ่งร้อยแปดสิบแปดเซนติเมตร

“เอรอส”

อีวอนน์ล้วงมือลงในกระเป๋ากางเกง เบือนหน้าไปมองด้านข้างของตน ซึ่ง เอรอส นอร์แมน ที่เดินตามหลังมาเงียบๆด้วยกันตลอดทาง ก้าวขึ้นมายืนเคียงข้าง

“ดูแลนักศึกษาคนนี้ที ฉันจะเข้าไปสอน ได้เวลาแล้ว”

เพียงได้ฟังคำสั่ง เลขาหนุ่มวัยสามสิบห้าปีผมสีทองนัยน์ตาสีฟ้า คนสนิทของอีวอนน์ที่ควบทั้งตำแหน่งเลขาส่วนตัวและบอดีการ์ด ก็ทรุดตัวลงนั่งยองๆถามอาการมัตติกาแทนที่เจ้านาย และระหว่างนั้นดอกเตอร์หนุ่มก็เปิดประตูหายเข้าไปในห้องเรียน

ส่วนมัตติกายังคงมองตามอาจารย์พิเศษด้วยอาการตกตะลึง ก่อนยิ้มแห้งๆเป็นเชิงขอโทษ หลังเลขาหนุ่มเอ่ยถามซ้ำๆ ว่าเธอต้องการให้ช่วยอะไรไหมถึงสองครั้ง หญิงสาวจึงได้ยิน

มัตติกาขอบคุณคนสนิทของอีวอนน์ ส่วนเอรอสหลังเห็นว่าเธอเป็นปกติดี เขาก็ผละจากเปิดประตูห้องตามนายของตนเข้าไป หญิงสาวเองเดินตามไปทีหลัง ความตื่นเต้นที่ได้เจอดอกเตอร์บราวน์แบบจังๆลดลงเหลือศูนย์ เมื่อก้าวเข้าไปแล้วพบกับสายตาตำหนิหลายคู่มองมา เนื่องจากเธอเข้าห้องหลังอาจารย์

หญิงสาวเดินหงอยๆคอตกอย่างสำนึกผิด คิดจะไปนั่งยังเก้าอี้ท้ายห้อง หลังเก้าอี้ด้านหน้าๆถูกจับจองเต็มหมดแล้ว แต่เมื่อเดินไปถึง เก้าอี้ที่เธอหวังว่าจะว่างกลับไม่มีเลยสักตัว!

ให้ตายสิ วันนี้โชคดีจริง ไหนใครบอกไว้ว่าชีวิต-ดี๊-ดี!!

หญิงสาวขยับแว่นที่สวม พลางถอนหายใจอย่างแสนเสียดาย อาจารย์พิเศษคนดังอยู่ห่างออกไปตรงนู้น เสียงทุ้มนุ่มๆของเขากำลังพูดถึงความเสี่ยงด้านการลงทุน โดยมีเหล่าบรรดาลูกศิษย์สาวซึ่งจับจองที่นั่งแถวหน้าทำตาเคลิ้มมองเพลิน และเธอมั่นใจไม่มีความรู้ใดๆเข้าหัวของพวกเจ้าหล่อนแน่!

มัตติกามอง แล้วก็มอง ก่อนสุดท้ายจะตัดสินใจทรุดนั่งลงกับพื้นตรงนั้นง่ายๆ แล้วหยิบมือถือขึ้นมาอัดเสียงบรรยายไว้ เพื่อกลับไปถอดฟังเนื้อหาที่ไม่เข้าใจหรือตามไม่ทัน

เพราะเวลาสี่ชั่วโมงในสี่เดือนนี้ สาวแว่นตั้งใจจะกอบโกยความรู้ให้ได้มากที่สุด

ส่วนเหตุผลน่ะหรือ ก็ง่ายๆ เผื่อว่าเธอจะทำความเข้าใจกับพวกหลักเศรษฐศาสตร์นี่ได้สักที!

แต่แล้วมัตติกาก็พบว่า ในหนึ่งชั่วโมงที่แสนสำคัญนี้ การตั้งใจฟังไม่วอกแวกของเธอมันสูญเปล่า เพราะเมื่อจบบรรยายและในระหว่างที่เธอลุกขึ้นยืนเตรียมตัวจะออกจากห้อง สายตาเจ้ากรรมก็ดันมองไปทางอาจารย์พิเศษคนดังอีกครั้ง

แล้วก็ให้เธอได้สบตากับเขา

มัตติกากะพริบตาถี่ๆ เพราะเหมือนจะเห็นริมฝีปากหยักของอาจารย์หนุ่มแย้มออกเป็นรอยยิ้มส่งมาให้... แต่มันไม่ชัด เพราะหัวสีทองของแม่นักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกันกับเธอบังเสียก่อน!

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแวบเดียว

ทว่า... มัตติกากลับรู้สึกแปลกๆ หัวใจมันเต้นไม่มีจังหวะ สมองคอยแต่จะฉายภาพเขายิ้มมาให้ซ้ำไปซ้ำมา กับสายตาของเขาที่มองสบกับเธอ จนเธอได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเองในใจ ว่านี่เธอเป็นอะไรกันแน่

แต่ก็ช่างเถอะ มันก็แค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น!

มัตติกาสรุปกับตัวเองในใจ อย่างไรเธอก็แค่‘ปลื้ม’เขาเท่านั้น มันก็เหมือนแฟนคลับปลื้มศิลปิน และเธอกล้ายืนยันว่าอาจารย์พิเศษคนนี้หล่อมากจริงๆ อย่างเขาเป็นนักแสดงได้สบาย แถมยังสุขุม วางตัวดีไม่เห็นจะเหมือนที่เธอได้ยินคำเล่าลือมากันเลย ว่าเขาเป็นเพลย์บอยตัวร้าย ผู้ชายเจ้าเสน่ห์ที่มีสาวนอนแนบกายไม่ซ้ำหน้าในแต่ละคืน

แต่... ถึงเขาจะเป็นแบบที่ว่ามาจริงๆ มัตติกาก็ยังชื่นชมเขาอยู่ดีเพราะเขาไม่เคยทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัด แม้จะมีนักศึกษาสาวสวยหลายคนเข้าขั้นนางฟ้าวิคตอเรียซีเคร็ตทอดสะพานให้ แต่ก็ยังไม่มีคนไหนเข้าใกล้เขาได้ ที่สำคัญเคยมีคนลองของอาจารย์พิเศษคนนี้มาแล้ว และผลที่ได้คือแม่คนนั้นต้องหาที่เรียนใหม่จ้าละหวั่น แต่ก่อนหน้านั้นยังถูกอบรมสั่งสอนอย่างกับแม่สาวนั่นเป็นเด็กเล็กๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างนักศึกษาและอาจารย์อีกด้วย

จริงๆ มัตติกาก็แค่เคยได้ยินมาละนะ ว่ามันเป็นหัวข้อเลกเชอร์โหดสุดหิน แบบที่ถ้ามีใครโดนเข้าจะไม่มีวันลืม และถ้าผ่านไม่ได้ก็อย่าหวังจะได้ย้ายมหา’ลัย!

นี่ไงล่ะ ดอกเตอร์บราวน์ ผู้ชายสุขุม มาดนิ่ง ดูดี หล่อเหลือร้ายและน่านับถือ

ใช่... เธอ‘ชื่นชม’แล้วก็‘ปลื้ม’ผู้ชายแบบนี้ แต่ถึงอย่างไรระดับมหาเศรษฐีทายาทตระกูลใหญ่ฉลาดล้ำแบบเขา ก็เป็นได้แค่ผู้ชายในฝัน ให้สาวสาวได้มโนกันไปวันๆเท่านั้นแหละ

ส่วนในความจริงใครใครก็รู้ เขา-อยู่-สุด-เอื้อม ต่างกันกับคนเดินดินธรรมดาแบบเธอราวฟ้ากับเหว





มันเป็นเล้าจ์ที่ตั้งอยู่ชั้นบนสุดของบราวน์ ไวท์ เฮาส์ โรงแรมขนาดห้าดาวใจกลางวอชิงตัน ดี.ซี. โถงกว้างด้านหนึ่งกรุกระจกโดยรอบ มองเห็นสภาพยามค่ำคืนได้ชัดเจน พื้นห้องปูด้วยพรมสีแดงคล้ำคล้ายเลือดตัดกับสีดำทึมๆของผนัง พอต้องแสงไฟก็ให้บรรยากาศลึกลับ

ของตกแต่งส่วนมากเป็นกรอบรูปหรูหราสีดำเหลือบทอง ภายในเป็นภาพวาดคลาสสิกจากปลายพู่กันของศิลปินมีชื่อ สลับกับแจกันทรงโมเดิร์นแปลกตา ปักกุหลาบสีแดงสดดอกใหญ่ส่งกลิ่นหอมอวลกำจาย

เสียงเพลงแจ๊สดังคลอเบาๆ ท่ามกลางแสงไฟสลัวดูเหมาะเจาะกับการพักผ่อน สำหรับผู้คนที่ต้องการหลบหนีความอึกทึกด้านล่าง เพราะที่นี่จำกัดการรับแขกด้วยมีชุดเก้าอี้โซฟาเพียงแปดชุดเท่านั้น ส่วนใหญ่จะรับเฉพาะแขกพิเศษไม่ก็บรรดาเซเลบริตี้ชื่อดัง พนักงานบริการคัดแล้วทั้งหญิงชายว่าจะต้องหน้าตาดี มารยาทงามและท่วงทีสง่าน่ามอง

ท้องฟ้ายามค่ำคืนหม่นเทาไร้แสงดาว เมื่อถูกแสงสว่างจากพื้นดินกลบแทบมิด และแสงไฟตามตึกสูงก็เข้ามาแทนที่ แสงไฟสลัวริมผนังในยามนี้ ส่องเสี้ยวใบหน้าด้านข้างของผู้ชายคนหนึ่ง เขานั่งไขว่ห้างอยู่ในกลุ่มโซฟาเดี่ยวสามตัวชิดผนังห้องด้านซ้าย มุมจากแสงตกกระทบนั้นส่งให้เขาดูเต็มไปด้วยเสน่ห์เหลือร้าย ในมือเขามีแก้วใสบรรจุน้ำสีอำพันและน้ำแข็งกลมก้อนใหญ่ ค่อยขยับกลอกไปมาช้าๆ

เรือนร่างสูงล่ำสันสวมเพียงเชิ้ตขาวพับแขนขึ้นถึงข้อศอก ตัวผ้าแนบไปกับลำตัวเผยให้เห็นรูปร่างแข็งแรง พอเดาได้ว่าคนสวมหุ่นดีมากแค่ไหน อย่างน้อยๆหุ่นล่ำๆนั่นก็ดึงดูดสายตาสาวสาวในโต๊ะอื่นให้แวะเวียนเหลียวมองมา

มันหล่อ มันเท่ มันดูดี ใช่! มันน่าอิจฉา!

“ถ้านายจะเห็นใจคนที่มาด้วยกันบ้างนะเอฟ”

เอฟ คือชื่อเรียกในกลุ่มเพื่อนเพื่อนของอีวอนน์ ดอกเตอร์หนุ่มตวัดตาสายตามองคนพูด และเปิดยิ้มน้อยๆให้

ส่วนเจ้าของคำพูดและความคิดเมื่อครู่นั่น คือหนึ่งในเพื่อนสนิทสองคนของชายหนุ่ม ทายาทคนเดียวของเครือดอว์สัน แบงก์ เจ้าของกิจการการเงินยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ และกลุ่มลาตินอเมริกา เฮคตอร์ พี. ดอว์สัน

เฮคเตอร์วางแก้วบรั่นดีลงตรงหน้าบนโต๊ะกระจกใสกลอกตาไปมา หลังอีวอนน์ไม่สนใจคำพูดของเขา

สายตาของทายาทอสังหาฯหนุ่ม ตอนนี้กลับไปจับจ้องแม่สาวผมสีน้ำตาลทองหุ่นเซี้ยะชุดแดง ที่นั่งห่างออกไปยังมุมห้องติดกระจกด้านขวา พลางยกแก้วออนเดอะร็อคในมือตนขึ้นแตะริมฝีปากส่งสัญญาณเชิญชวน หลังเมื่อครู่มีพนักงานชายนำไวน์รสดีราคาแพงไปส่งให้เรียบร้อยแล้ว

“นายกวาดสาวสาวไปหมดทุกที เฮ้! ให้เพื่อนได้เลือกก่อนไม่ได้หรือไงวะ” เฮคเตอร์ยืดตัวนั่งตรง วางมือบนหน้าขาทั้งสองข้างเอ่ยกลั้วหัวเราะ ก่อนยื่นมือที่กำหมัดออกไปชกเบาๆ ที่หัวไหล่ของดอกเตอร์หนุ่มเพื่อเรียกความสนใจ

“ถึงนายโวยวายน่าสงสารยังไง หมอนี่มันก็ไม่สนใจหรอกเฮค เอฟมันร้ายก็รู้อยู่”

คลินตัน แอล. เกรแฮมเอ่ยขึ้นเบาๆ เขานั่งเอนพิงโซฟาสีดำท่าทางเนือยๆ ใบหน้าคมคายละมุมลงเมื่อเปิดยิ้ม ชายหนุ่มโคลงศีรษะไปมา แล้วใช้มือที่ถือแก้วว็อดก้าชี้ไปที่อีวอนน์

“ไม่ใช่ดีที่สุด เจ๋งที่สุด เอฟไม่เลือกไปกกหรอกนายก็รู้นะ”

คลินตันเป็นเจ้าของเล้าจ์แห่งนี้ เขาคือคนที่กุมส่วนแบ่งธุรกิจกลางคืนในอเมริกาไว้ได้ถึงหกสิบเปอร์เซ็น จนได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อธุรกิจสีเทา ชายหนุ่มร่ำรวยขึ้นมาจากการเล่นหุ้น ก่อนหันมาจับธุรกิจสถานบันเทิง และขึ้นชื่อว่าเป็นมหาเศรษฐีหนุ่มอีกคนที่กำลังเป็นที่จับตามอง

แน่นอนสิ่งชักจูงพวกเขาทั้งสามคนให้กลายมาเป็นเพื่อนกันคือธุรกิจ ทายาทธนาคารจับมือกับทายาทอสังหาริมทรัพย์ พอผนวกรวมกับคนที่เก่งฉกาจในเรื่องการลงทุนอย่างคลินตัน สามหนุ่มจึงได้ชื่อว่าเป็นสามเจ้าชายแห่งสหรัฐฯ ที่เหล่าสาวๆเสนอตัวเข้ามาหวังเป็นซินเดอเรลลา แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีใครคว้าตำแหน่งนั้นได้อยู่ดี

“ก็เพราะอย่างนี้ล่ะมั้ง คริสติน่าถึงได้ไม่ยอมรามือจากนายน่ะ เพราะเจ้าหล่อนเหมือนถูกหยามว่า ไม่-ดี-ไม่-เจ๋ง-ที่-สุด เพราะจนป่านนี้ยังไม่เคยลากนายขึ้นเตียงได้สักที”

เฮคเตอร์หมายถึงดีไซน์เนอร์สาว ทายาทคนรองของตระกูลโอลอนเดอร์ เซเลบริตี้คนดังที่ทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของอีวอนน์ เพราะทั้งสองตระกูลรู้จักกันมาแต่รุ่นปู่ย่า ทำให้ความสัมพันธ์เป็นไปคล้ายๆญาติ และเกือบจะกลายเป็นญาติกันจริงๆเมื่อสิบปีก่อน แต่สุดท้ายก็มีอันแคล้วคลาดกันไป แต่ดูเหมือนคริสติน่า โอลอนเดอร์จะไม่ยอมแพ้

“คริสติน่าเป็นอีกเรื่อง เธอเป็นคนที่ฉันไม่คิดจะแตะต้อง”

อีวอนน์เอ่ยขึ้นเบาๆ

“แต่ยังไงขอบใจที่ชมนะคลินท์”

อาจารย์หนุ่มวางแก้วเหล้าลงอย่างไม่ไยดี แต่ยังไม่วายเหลือบมองแม่สาวทรงโต พร้อมยิ้มโปรยเสน่ห์ใส่เจ้าหล่อนก่อนหันกลับมาสนใจบทสนทนา

“อย่างว่านะ เรื่องแบบนี้มันพูดยากว่ะเฮค บังเอิญฉันดันเกิดมาเพอร์เฟกต์น่ะ!”

“ไอ้คนหลงตัวเอง ฉันเชื่อแกเลย”

เฮคเตอร์ยอมแพ้ เขายกมือขึ้นทั้งสองข้างขึ้นแล้วทิ้งตัวลงพิงพนักโซฟา ส่วนคลินตันยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอีกหนพลางหัวเราะหึๆ และหากจะให้เปรียบเทียบ ว่าในกลุ่มสามคนนี้ใครหน้าตาดีที่สุด มันก็พูดยาก เพราะต่างก็กินกันไม่ลง

เฮคเตอร์เป็นหนุ่มลูกครึ่งอเมริกันสวีดิช สูงราวหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร และเพราะโครงหน้ารูปไข่ที่รับกับนัยน์ตาสีเขียวหม่น บวกด้วยความเจ้าสำอางทำให้เขาดูเป็นหนุ่มเมโทรฯเต็มตัว แถมชายหนุ่มยังมีนิสัยขี้เล่นติดทะลึ่งตึงตังนิดหน่อย และบุคลิกแบบนี้สาวสาวส่วนใหญ่ก็ชอบ จึงส่งให้เขากลายเป็นพ่อคนเนื้อหอมมากที่สุดคนหนึ่ง

ส่วนคลินตันเป็นลูกครึ่งอังกฤษ-อเมริกัน เขามีเรือนผมสีทอง แต่ผิวคล้ำเพราะชอบอาบแดด แล้วมันก็ตัดกันดีกับนัยน์ตาสีฟ้า เรือนร่างแกร่งสมบูรณ์ขนาดนายแบบยังอาย เขาสูงหนึ่งกว่าเฮคเตอร์สองเซนติเมตร และเป็นเจ้าแห่งมารยาท สุภาพชนผู้เคร่งครัดเรื่องการวางตัว สงบเงียบ และเยือกเย็น ทำให้ชายหนุ่มดูน่าหลงใหล

และคนสุดท้าย อีวอนน์ เอส. บราวน์นั้น สมบูรณ์แบบอย่างไม่มีที่ติ ไม่ว่าจะเรือนร่างสูงใหญ่ล่ำสัน รูปหน้าหล่อเหลา สีผมดำสนิทที่ไม่ใช่น้ำตาลแก่หรือน้ำตาลอมทอง อันเป็นมรดกตกทอดมาจากปู่ซึ่งเป็นคนไทย

เขาคืออเมริกันชนที่แตกต่างจากอเมริกันทั่วไป มีเสน่ห์ในความสง่า แต่ก็ยังดูลึกลับน่าค้นหา เรียกได้ว่าดอกเตอร์หนุ่มรวมบุคลิกของเพื่อนทั้งสองมาไว้ในตัว เขาเป็นผู้ชายหล่อร้าย มาดขรึม เอาจริงเอาจัง แม้จะดุดันในบทเสน่หา แต่ขณะเดียวกันก็ขี้เล่น และออดอ้อนได้อย่างน่ารัก เวลาที่เสร็จศึกกับเหล่าสาวสาวบนเตียง

“อย่างนี้มันต้องวัดกันจริงๆอีกสักครั้งว่ะ”

เฮคเตอร์เอ่ยขึ้น นัยน์ตาสีเขียวมีแววเจ้าเล่ห์นิดๆ แต่อีวอนน์ไม่ทันเห็นเพราะคนพูดหันไปมองหน้าคลินตันเสียก่อน แล้วคนนิ่งๆขรึมๆก็ยิ้มน้อยๆเป็นการตอบรับ

“จะรับท้าไหมเอฟ”

“แน่นอนอยู่แล้ว” คนถูกท้ารับคำแล้วยกออนเดอะร็อกขึ้นจิบ “ว่าแต่คราวนี้จะพนันอะไรกันดี”

ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา หลายครั้งหนักหนาที่สามหนุ่มจะเดิมพันกันเล่นๆ บ่อยครั้งที่สุดคือการจีบผู้หญิง พวกเขามักประลองเสน่ห์กันเป็นที่สนุกสนาน แต่ผู้ชนะที่นับได้มากครั้งที่สุดคืออีวอนน์

“คราวนี้ไม่ใช่ของแต่จะเป็นงาน เอาเป็นว่าข้อตกลงเดิมแล้วกัน หลังจากนี้ผู้หญิงคนแรกที่ก้าวเข้ามา ทายสิเจ้าหล่อนจะสนใจใคร ระหว่างฉัน นาย แล้วก็คลินท์ ถ้าใครทายผิดคนนั้นแพ้ โอเค้”

อีวอนน์พยักหน้ารับท่าทางสบายๆ และเฮคเตอร์จึงเอ่ยต่อ

“ส่วนเดิมพัน คนแพ้... ต้องไปเป็นโฮสต์ที่บาร์ของคลินท์”

“เฮ้!” ดอกเตอร์หนุ่มขมวดคิ้ว อีวอนน์หรี่ตามองเพื่อนสนิทที่ยื่นเสนอของเดิมพัน “ทำไมต้องโฮสต์ ฉันนึกภาพมันไม่ออกจริงๆ แต่ถ้าเป็นนาย ฉันว่านายอาจเหมาะกับมันก็ได้เฮค”

“อย่าเพิ่งมั่นใจขนาดนั้น ฉันว่ามันเหมาะกับนายมากกว่า”

พอเฮคเตอร์เกทับ คลินตันก็หัวเราะและเป็นฝ่ายพูด “เราแข่งกันด้วยเรื่องผู้หญิงก็ต้องยังงี้แหละน่าเอฟ ถือว่าเป็นประสบการณ์ไง ไม่ว่าจะฉัน นายหรือเฮคเตอร์ ถ้าเปลี่ยนฐานะเป็นคนบริการดูบ้างคงจะเป็นประสบการณ์แปลกใหม่น่าสนใจทีเดียว ก็ถือซะว่าเป็นการคืนกำไรให้สาวสาวแล้วกัน ว่าแต่มีแต่แบบนี้ หรือว่านายไม่ต้องการล่ะเอฟ อยากจะเปลี่ยนเป็นบาร์เกย์อะไรแบบนั้น ฉันจัดให้ได้นะ”

“นั่นสิ หรือนายกลัวแพ้วะเอฟ”

เฮคเตอร์สนับสนุน พลอยทำให้อีวอนน์ซึ่งถูกลูบคมว่ากลัวแพ้ยอมไม่ได้ ดังนั้นชายหนุ่มจึงจิบเหล้ารสแรงในมืออีกครั้ง แล้วตอบรับหนักแน่น “ฉันแน่ใจนะว่าไม่แพ้ เอาละตกลง แม่สาวคนแรกที่เข้ามาจะต้องสนใจฉันแน่!”

“ดี” คลินตันเอ่ยยิ้มๆ ชายหนุ่มเท้าข้อศอกกับที่วางแขนโซฟา พลางยกมือแตะที่คางตามองตรงไปยังอีวอนน์

“ฉันพนันตัวเองเหมือนกัน มั่นใจนะว่าผู้หญิงคนนี้ต้องสนใจฉันแน่”

ซึ่งเฮคเตอร์ก็พลอยผสมโรงด้วยว่า “ฉันถือหางคลินท์ว่ะเอฟ งานนี้นายไม่ชนะหรอกเชื่อฉันเถอะ!”




ต้นหน้าร้อนตามถนนในจอร์จทาวน์ แม้เป็นเวลาดึกแล้วแต่ก็ยังคึกคัก เหล่าผู้คนมากมายเดินสวนกันไปมา บ้างก็เป็นนักศึกษาที่คุ้นหน้าคุ้นตา บ้างก็เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งออกท่องราตรีกัน

ตึกสองข้างทางในแถบนี้เป็นสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีส ส่วนมากทาสีขาวไม่ก็สีเทาหม่นๆ หรือไม่ก็เป็นสีดั้งเดิมของอิฐที่ใช้สร้างแต่แรก แต่มีตึกบางช่วงเหมือนกันที่มีสีสันสดใส ดูสวยแปลกตาไปอีกแบบเมื่อตัดกับหน้าต่างสูงยาวทาสีขาว ตึกส่วนมากจะสูงไม่เกินสามชั้น และมีชั้นใต้ดินซึ่งมักจะเปิดให้เช่าเป็นหอพักนักศึกษา

มัตติกาพักอยู่ละแวกอพาร์ตเมนต์ หน้ามหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์เพื่อความสะดวก เพราะร้านอาหารไทยที่หญิงสาวทำงานพิเศษก็อยู่แถวนั้น อาศัยว่าเดินไปเพียงแค่สามช่วงตึกก็ถึง เพราะอยู่ริมแม่น้ำโปโตแมกซ์

เกือบห้าทุ่มเมื่อหญิงสาวพลิกดูนาฬิกาข้อมือ วันนี้อากาศค่อนข้างเย็น ทำให้มัตติกาซึ่งแม้มีเชิ้ตแขนยาวตัวหนาสวมทับ ยังต้องยกมือขึ้นกอดอก ตลอดเวลาที่เดินตามทางเดินปูอิฐลายแปลกตา ตรงไปยังอพาร์ตเมนต์อันเป็นตึกสีเทาหม่นสองชั้น ข้างๆเธอเป็นผู้ชายสูงราวๆหนึ่งร้อยเจ็บสิบห้าเซนติเมตรคนหนึ่ง

เขาสวมเสื้อยืดแขนสั้น กับกางเกงยีนส์สีซีด เผยให้เห็นผิวคล้ำ รูปร่างของผู้ชายคนนี้ค่อนไปทางหนามองเห็นมัดกล้ามชัดเจน อติกันต์เป็นเชฟในร้านอาหารไทยที่มัตติกาทำงานอยู่

ชายหนุ่มเข้าทำงานก่อนหน้าเธอไม่ถึงปี จากนั้นมัตติกาก็สมัครเข้ามาเป็นพนักงานเสิร์ฟที่นี่ เพื่อหารายได้เพิ่มเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว ช่วยแบ่งเบาภาระของเพ็ญพรรณและแดเนียลซึ่งสนับสนุนให้เธอเรียนต่อ แม้เธอจะแย้งว่าจะไปเรียนที่อื่นที่ค่าใช้จ่ายถูกกว่านี้ แต่ทั้งคู่ก็ยังยืนยันว่าอยากให้เธอศึกษาต่อที่นี่ แม้ว่าค่าเล่าเรียนมันจะสูงเอาการก็ตามที

“ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะคะพี่กันต์”

มัตติกาเอ่ยขึ้นเมื่อเดินมาถึงหน้าที่พัก หญิงสาวเดินเข้าไปหยุดบนเชิงบันไดเหล็กหกขั้น ซึ่งส่วนหน้าที่เป็นไม้ แกะสลักเป็นรูปคล้ายๆใบเมเปิ้ลลวดลายอ่อนช้อย

“จ้ะ แล้วอย่าลืมกินยากันไว้ด้วยนะ เดี๋ยวไข้ขึ้นจะแย่เอา เสื้อเอาไว้คืนพี่วันหลังก็ได้ ตี๊กำลังหนาวใส่ไว้ก่อน”

อติกันต์พักห่างออกไปอีกช่วงหนึ่งตึก เขายื่นเป้หนังสือของหญิงสาวคืนให้ ก่อนยกมือขึ้นวางบนศีรษะของมัตติกาโยกไปมาสองสามที

ปีนี้ชายหนุ่มอายุปาเข้าไปสามสิบห้าแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะสละโสด และใช่ว่าหน้าตาเขาจะขี้ริ้ว เพราะเชฟหนุ่มถือได้ว่าเป็นคนหน้าตาดีมากคนหนึ่ง แม้จะผิวคล้ำแต่ก็บ่มให้ชายหนุ่มดูคมและเข้มขึ้น นัยน์คมยาวใหญ่สีน้ำตาลแก่มีแววหวาน คิ้วและผมดกหนา จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางแต่ได้รูปสวย เวลายิ้มทีเป็นต้องมีคนติดใจจนมองตาม

“ค่า ตี๊ไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ” คนผมยุ่งที่รู้สึกว่าจะโดนไข้หวัดเล่นงาน เพราะนอนดึกติดๆกันมาหลายคืนแล้วบ่นอุบๆ ส่วนคนโดนบ่นอมยิ้มละมือออกจากกลุ่มผมนุ่ม

“จ้ะๆ ตี๊โตแล้ว เอาละเข้าไปพักเถอะ ฝันดีนะ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นโทร.หาพี่ละกัน”

ท้ายๆเสียงห้าวนุ่มเต็มไปด้วยแววห่วงใย และอติกันต์ก็ได้รับรอยยิ้มแสนหวานแทนคำขอบคุณ มัตติกาหันหลังให้เขาและก้าวขึ้นไปเปิดประตู ชายหนุ่มยืนมองจนกระทั่งประตูปิดลงเรียบร้อยแล้วจึงได้ออกเดินอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่วายหยุดเป็นระยะ เพื่อหันกลับมามองยังตึกที่หญิงสาวพักอาศัย

รอยยิ้มเปี่ยมสุขประดับบนใบหน้าคมเข้ม เขายกมือข้างหนึ่งแตะที่หน้าผากแล้วลูบไปมา ในดวงตาคมกริบมีแววเขินอายนิดๆ ก่อนที่ชายหนุ่มจะโคลงศีรษะสอดมือลงในกระเป๋ากางเกง แล้วเดินทอดน่องไปอย่างช้าๆ

ในความคำนึงขณะนั้นที่ทำให้ยิ้มได้ คือรอยยิ้มแสนหวานซึ่งได้รับกลับมาจากคนตัวเล็กเมื่อครู่นี้



=======================================================================>>>>>


ดีค้า พาเฮียวอนน์กับยัยตี๊ฉบับรีไรต์มาส่งฮับ ^^



คุณkaelek อ่ะจริงดิ อร๊ายยยยย ดีใจ 5555
คุณZephyr เฟอร์รี่จัง 5555 นั่นสิ นางขี้บ่นมาก แต่ต่อไปจะไม่ได้บ่นล่ะม้าง เฮียวอนน์แกมีวิธีทำให้ยยัตี๊หยุดบ่นได้ผลชะงัก อิๆ
คุณปอกะเจา ตะละคน กร๊ากกกกกกกกกกก ยอมๆๆๆๆ
คุณteesaparn คุณเล็ก หนอนนี่นอนฝันบอกเลย 5555
คุณหนูมะลิ แต่เฮียวอนน์มีวิธีจัดการนะ หุๆ

และคุณๆรีดเดอร์นะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน มาคุย มากดคะแนนให้ ขอบคุณมากๆ ฮับ


วันนี้ไปแล้วนะคะ ไว้เจอกันตอนหน้า ส่วนคืนนี้หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ^O^



ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ส.ค. 2558, 19:29:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ส.ค. 2558, 19:29:03 น.

จำนวนการเข้าชม : 1635





<< บทนำ ช่วยด้วย -รีไรต์-   Chapter 2 คืนตกหลุม >>
konhin 26 ส.ค. 2558, 19:39:28 น.
มาลงชื่อค่ะ


pkka 26 ส.ค. 2558, 22:17:38 น.
มากดlike:-)


นักอ่านเหนียวหนึบ 26 ส.ค. 2558, 22:53:12 น.
กลัวเค้าจะหลงรัก เอสขา ไม่มากพอสินะ เอามาซ้ำย้ำความรู้สึกกันขนาดเน้ อร๊ายยยยย


agentaja 27 ส.ค. 2558, 10:43:54 น.
กดไลครัวๆ ค่า


Zephyr 28 ส.ค. 2558, 17:01:19 น.
เอฟขารัวๆๆๆๆ กลัวเรตติ้งตกเรอะจ้ะ
ออกมารัวๆๆๆ แต่ดีมาก ออกมาให้พร่ำเพ้อ ลูบไล้ และลวนลาม หึหึ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account