CEO ชำนาญรัก Inlove Book (ลวงเทพบุตรรัก,ปรารถนารักเทพบุตรต้องห้าม)
เขาเป็นอาจารย์พิเศษ ฉฉลาดจนกรดต้องเรียกพี่ มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อ หยิ่งยโส จอมไว้ตัว ผู้ชายสมบูรณ์แบบเจ้าเสน่ห์ และ... อีกหนึ่งความลับ เขาคือโฮสต์!
Tags: โรมานซ์, ฟีลกู๊ด, คู่กัด, อีวอนน์,มัตติกา

ตอน: Chapter 2 คืนตกหลุม



ร้านกาแฟเล็กๆนั้นเปิดอยู่ตรงข้ามกับอพาร์ตเมนต์ของมัตติกา หน้าร้านเป็นเทอเรซยื่นออกมา มีซุ้มกุหลาบเลื้อยเป็นหลังคากันแดด และวางชุดโต๊ะเก้าอี้สีขาวไว้หนึ่งชุด ใกล้กับผนังกั้นซึ่งเป็นกระจกมองเห็นด้านในร้านได้ชัดเจน และมัตติกาก็นั่งอยู่ตรงนั้น เธอหันหน้าออกมาทางถนน ผู้ร่วมโต๊ะของเธอมองด้านหลังเห็นเป็นผู้หญิงกับผู้ชาย

“ดีใจด้วยจริงๆนะมินนี่”

มัตติกาเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม ร่างเล็กๆวันนี้สวมเสื้อคอวีแขนสามส่วนกับกางเกงยีนส์ขายาวพอดีตัว ยิ่งทำให้ดูคล้ายเด็กผู้ชาย เมื่อครู่นี้เองขณะที่กำลังอ่านหนังสือ มิรันด้าเพื่อนสนิทที่สุดคนหนึ่งของเธอ ก็โทรศัพท์มาหาบอกว่าให้ลงมาเจอกันที่ร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามอพาร์ตเมนต์ ก่อนบอกข่าวดีแสนเซอร์ไพรส์ว่ากำลังจะแต่งงาน

“ตอนนี้มันตื่นเต้นมาก-มาก แบบว่า ว้าว! เหมือนลูกสาวกำลังจะแต่งงานน่ะ”

“เธอนี่นาตีตี้ ลูกสาวเลยเหรอ ฮึ!แม่สาวเกาะคานเหนียวแน่นอย่างเธอนี่ กล้าพูดแบบนี้เลย”

คนถูกเทียบเป็นลูกบอกกลั้วหัวเราะ มิรันด้า ลอมเบิร์กเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของมัตติกา เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่เล็ก แต่มาห่างกันไปบ้างก็หลังเรียนจบ เนื่องจากอีกฝ่ายแยกกลับไปทำงานที่นิวยอร์ก ส่วนตัวมัตติกาเองนั้นตัดสินใจเรียนต่อ

“แต่จะว่าไปก็ดูคล้ายๆนะมินนี่ ผมเห็นตีตี้คอยห้ามคุณไม่ให้แสบซ่าเกินไปตั้งแต่เด็กๆแล้ว”

มิรันด้ามองค้อนเจ้าบ่าวของเธอที่สนับสนุนคำพูดของมัตติกา ส่วนนิโคลัส เอดิสัน แกล้งแฟนสาวด้วยการหันไปพยักพเยิดกับมัตติกาแทน

“เอาน่า สองคนนี้ทะเลาะกันยังไง ก็ยังทะเลาะกันอย่างนั้น”

มัตติกาห้ามทัพ เธอยืดตัวนั่งตรงแล้วยื่นมือข้ามโต๊ะ ไปจับมือผู้หญิงผมทองดัดเป็นลอนใหญ่ค่อนข้างอวบที่นั่งอยู่ตรงข้าม ก่อนเหลียวมองผู้ชายตัวสูงเพรียว ไว้ผมสกินเฮดที่นั่งชิดผู้เป็นเพื่อนพลางยิ้มกว้าง

“ยินดีกับพวกเธอด้วยจริงๆนะ ดีใจด้วยนะนิค คุณต้องเป็นเจ้าบ่าวที่หล่อที่สุดแน่ๆเลย ฉันมั่นใจ”

“ขอบคุณตีตี้ ชมกันแบบนี้ผมเขินแย่”

ว่าที่เจ้าบ่าวหัวเราะพออกพอใจกับคำยอ ส่วนว่าที่เจ้าสาวส่ายหน้าท่าทางเอือมๆ

“บอกแล้วอย่ายอมากตีตี้ อีตาคนนี้ยิ่งหลงตัวเองอยู่ด้วย” คนพูดบุ้ยปากไปยังคนนั่งข้างกล่าวสืบไป “แต่ยังไงเราสองคนก็ต้องขอบคุณเธอนะ เพราะถ้าไม่ได้เธอคอยเป็นที่ปรึกษาให้กับเรา ป่านนี้ฉันกับนิคอาจเลิกกันตั้งแต่เริ่มเรียนมหาวิทยาลัยแล้วก็ได้”

นิโคลัสพยักหน้าเห็นพ้อง

“เพราะอย่างนี้พอเราคุยกันเรื่องนี้เมื่อคืน” มิรันด้าหันไปยิ้มให้กับแฟนหนุ่ม “เลยตัดสินใจว่าจะบอกเธอเป็นคนแรกเลยนะ เรากะกันว่ามาหาเธอก่อน แล้วค่อยไปบอกข่าวดีนี้ของเรากับคุณย่าของฉัน”

“โอ” คนแรกที่รู้เรื่องยิ้มปลื้ม อุทานด้วยความตื้นตันที่อีกฝ่ายเห็นความสำคัญของตน

“เราสองคนคิดจะเชิญแขกแค่ไม่กี่คนเท่านั้นตีตี้ เพราะอยากได้งานเรียบง่ายเป็นกันเองมากกว่า มินนี่ไม่ชอบความวุ่นวาย เธอไม่ต้องการชุดเจ้าสาวเลยด้วยซ้ำในตอนแรก คุณก็รู้ความคิดของเธอดี มินนี่อยากไปที่ลาสเวกัสแล้วเจอโบสถ์ไหนสวยถูกใจ เธออยากแวะเข้าไปทำพิธีแต่งงานแบบไม่สนใจใครเลยด้วยซ้ำ”

มัตติกาหัวเราะเมื่อว่าที่เจ้าสาวพยักหน้าหงึกหงัก

“ตีตี้ที่รัก เธอยังไม่รู้ Drive-Thru ในลาสเวกัสเร็วทันใจมากแค่ไหน มันสะดวกอย่างกับซื้อแฮมเบอร์เกอร์สักอันเลยเชียวแหละ อีกอย่าง...” มิรันด้าเหลียวมองว่าที่เจ้าบ่าวของตน แล้วยกมือวางบนแผงอกหนั่นแน่น ก่อนหันมาพูดกับมัตติกาว่า “การเข้าหอมันน่าเร้าใจกว่าการต้องยืนแกร่วในพิธีแต่งงานเยอะน่ะ”

คนพูดขยิบตากัดปากแล้วทำตาปรือ พลอยทำให้คนฟังแก้มแดงขึ้นทันตาเห็น และนั่นทำให้เจ้าสาวสุดเซี้ยวหัวเราะพอใจ เอื้อมมือมาจับข้างแก้มของมัตติกาดึงเบาๆ

“เห็นไหมนิค ตีตี้จะน่ารักมากเวลาเขินแบบนี้”

“นี่แกล้งกันอีกแล้วนะมินนี่!”

มัตติกาแหวเสียงเบาเมื่อโดนแหย่ ส่วนมิรันด้ายังคงไม่ยอมหยุดแหย่เพื่อนสาวที่รักษาพรหมจรรย์ได้อย่างดีเยี่ยม กระทั่งนิโคลัสต้องเข้าห้ามศึกระหว่างสองสาวไว้เหมือนเช่นทุกที

ทั้งสามคนนั่งคุยกันอีกพักใหญ่ก่อนว่าที่เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวจะเอ่ยลา เพราะจะต้องไปแจ้งข่าวดีนี้ให้คนอื่นๆได้รู้ ที่ทั้งสองคนเลือกจะมาหามัตติกาก่อน เพราะสองสามวันที่แล้วทั้งคู่มาติดต่อธุรกิจที่ดีซีพอดี และหลังคุยงานเสร็จเมื่อคืนที่ผ่านมา นิโคลัสก็ทำเซอร์ไพรส์แฟนสาวด้วยการขอแต่งงาน

“อา ฉันหวังว่าวันอาทิตย์หน้าอากาศจะดีแบบนี้นะ”

มิรันด้าเอ่ยขึ้นหลังจากจัดการจ่ายค่ากาแฟและขนมเค้กเรียบร้อย แล้วทั้งสามคนก็ออกจากร้าน เดินคุยกันเรื่อยๆก่อนมาหยุดลงที่หน้าอพาร์ตเมนต์ของมัตติกา

“แน่นอน” มัตติการับคำเพื่อนสนิท

“และเธอจะเห็นฉันที่นิวยอร์กในวันศุกร์หน้ามินนี่”

ทว่านิโคลัสกลับขัดว่า “โอ เห็นทีจะไม่ได้นะตีตี้ มินนี่จะมารับคุณที่นี่ด้วยตัวเองในวันพุธที่รัก”

“ใช่” มิรันด้าสนับสนุน “ฉันต้องมารับคุณย่าที่แก่มากแล้วของฉันน่ะ แล้วเราจะมีปาร์ตี้กันเล็กๆน้อยๆในคืนพฤหัส งานนี้ห้ามปฏิเสธนะตีตี้ เพราะฉันเล็งไว้แล้วว่านอกจากเธอ ก็ยังมีเจนนี่ อลิส เซซิเลีย”

คนพูดหมายถึงเพื่อนสนิทในกลุ่มห้าคน ซึ่งนอกจากมิรันด้าแล้ว อีกสามคนทำงานอยู่ที่ดี.ซี.

“ส่วนนิคไม่มีปัญหา เพราะตกลงแล้วว่าจะให้อิสระกับฉันก่อนแต่งงาน ทีนี้พอเช้าวันศุกร์หรือบ่ายๆเราค่อยไปนิวยอร์กกัน คิดว่าปาร์ตี้ก่อนวันงานคงไม่ทำให้ฉันโทรมจนไม่น่าดูหรอกนะ”

“ไม่หรอกมันก็แค่ปาร์ตี้กินดื่มกันที่บ้าน แล้วก็มีแต่สาวสาวแบบเราเท่านั้น เพราะงานนี้ผู้ชายไม่เกี่ยว ใช่มั้ยนิค”

มัตติกาพูดกลั้วหัวเราะ หลังเห็นนิโคลัสที่ก่อนหน้าโอบเอวแฟนสาว ยกมือขึ้นเสมอกันพลางแบมือออกแล้วยักไหล่ด้วยท่าทางว่ายอมจำนนอย่างไม่มีข้อแม้

“ก็อาจใช่” ว่าที่เจ้าบ่าวพูดกำกวมแต่ก็เฉไฉไปว่า

“แล้วผมเองก็ได้อิสระนั้นเหมือนกันในคืนวันศุกร์”

ว่าที่เจ้าสาวขัดทันที “ก็แค่ปาร์ตี้น่ะนะ ตีตี้”

ชายหนุ่มหัวเราะรวบเอวคนรักกอดไว้แน่น แล้วกดจูบลงกับขมับนวลหนักๆ มัตติกามองภาพของคู่รักทั้งสองคนที่รักกันมายาวนานแล้วก็ให้อิ่มใจ จากนั้นพอเอ่ยลากันจริงจัง นิโคลัสก็ดึงเธอเข้าไปกอดเบาๆ มิรันด้าตามเข้ามากอดเธอไว้ แถมยังกระซิบบอกที่ข้างหูอีกด้วยว่า

“ปาร์ตี้สละโสดนี่ รับรองสนุกแน่ตีตี้ที่รักของฉัน มันชัวร์ว่าเธอจะต้องจำไปอีกนาน”

คนกอดผละออกห่าง ใบหน้ายังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่แววตากลับดูเจ้าเล่ห์จนมัตติกาชักหวั่นแต่ก็ไม่ได้เอ่ยออกไป ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวเดินจากไปแล้ว ส่วนเธอหันหลังกลับก้าวขึ้นบันไดแล้วยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าประตู ใบหน้ามีรอยสงสัย มัตติกาได้แต่นึกในใจว่า

ปาร์ตี้สละโสด มันก็แค่ปาร์ตี้ธรรมดาที่ไม่มีแค่ผู้ชายเท่านั้นไม่ใช่หรือไง แต่ทำไมท่าทีของมิรันด้าถึงทำให้เธอสังหรณ์ใจว่ามันจะไม่ธรรมดาก็ไม่รู้สิ!





“สนุกกับปาร์ตี้ให้สุดๆละตี๊ แต่อย่าดึกเกินไปนะ เพราะถ้าน้าเพ็ญเกิดถามว่ายายหนูของน้าทำตัวดีหรือเปล่า พี่อาจจะเผลอรายงานก็ได้ ว่าหนูตี๊ของน้าเพ็ญเสียเด็กเพราะเริ่มหัดเที่ยวบาร์... โฮสต์” คำสุดท้ายคนพูดจงใจลดเสียงลงจนเป็นกระซิบ ทำให้มัตติกาพลอยย่นจมูกและตวัดตาค้อนอย่างแสนงอน

“พี่กันต์ก็รู้ ตี๊ไม่ได้อยากไปเสียหน่อย ยังจะมาแหย่อีก!”

คนถูกค้อนหัวเราะชอบใจ หลังรู้ว่ามัตติกามีนัดในตอนเย็น ก่อนเธอจะลากลับไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อน และเลยไปเยี่ยมครอบครัวของเพ็ญพรรณที่นิวยอร์กด้วย

เวลานั้นเกือบจะสามทุ่มแล้ว มัตติกาลงมารอมิรันด้าตามนัด แล้วพอดีกับว่าอติกันต์ที่เพิ่งทำงานเสร็จผ่านมา ชายหนุ่มเลยแวะเข้ามาทักและตกลงอยู่รอเป็นเพื่อนหญิงสาว ดังนั้นทั้งคู่จึงข้ามไปยังร้านกาแฟเจ้าประจำ สั่งกาแฟกันคนละแก้วแล้วนั่งกันที่เก้าอี้ด้านหน้าบริเวณนอกร้าน เผื่อว่าเวลามิรันด้ามาถึงจะได้มองเห็นถนัด

“นี่ถ้าให้ผู้ชายไปด้วยก็ดี ตี๊จะได้ขอให้พี่กันต์ไปด้วย อย่างน้อยก็อ้างพี่กันต์จะได้กลับบ้านเร็วขึ้นหน่อย”

คนถูกมัดมือชกยังคงบ่นอุบๆ เพราะมิรันด้าที่มาถึงดี.ซี.เมื่อวาน โทร.มาบอกเธอเมื่อสายของวันนี้เอง ว่าจะมารับเธอที่นี่ไปสมทบกับเพื่อนอีกสามคน เพื่อไปฉลองปาร์ตี้สละโสดที่บาร์เปลื้องผ้า... เอ่อ โฮสต์คลับแห่งหนึ่ง!

“ไม่เอาน่า One upon a Time ร้านนั้นไม่เหมาะกับพี่หรอก ถ้าเป็นบาร์เกย์หรืออะไรก็ว่าไปอย่าง”

“ค่ะ เหมาะมาก กลัวแต่ว่าก่อนพี่กันต์จะถูกลวนลาม คนที่จะทำนั่นคงถูกชกลงไปกองกับพื้น”

อติกันต์หัวเราะพอใจพลางส่ายหน้าน้อยๆ กระนั้นยังไม่วายสั่งความ

“แต่ถ้ามีอะไรตี๊โทร.หาพี่ได้ตลอดนะ พี่จะไปรับ ไปอย่างนั้นพี่ก็เป็นห่วงตี๊เหมือนกัน” ท้ายประโยคเมื่อครู่เจือแววหวง แต่ประโยคต่อมานี่สิ “กลัวตี๊ไม่มีหนุ่มๆสนใจน่ะ”

“พี่กันต์นี่ดูพูดสิ ทำไมชอบแกล้งตี๊กันนักนะ นี่แน่ะ!”

มัตติกาตีเพียะเข้าที่ต้นแขนคนพูดมากและชายหนุ่มก็เบี่ยงตัวหลบ อติกันต์ยกมือขึ้นลูบศีรษะของหญิงสาวอย่างจะขยี้ จนอีกฝ่ายต้องดึงมือเขาออก อุ้งมือใหญ่เลยถือโอกาสกุมมือเล็กๆของมัตติกาไว้บีบเบาๆ

“ใครว่า พี่เป็นห่วงต่างหากล่ะ แต่ก็พอเบาใจเพราะบาร์ที่นั่นน่ะดูแล้วค่อนข้างปลอดภัย พี่เคยไปที่บราวน์ ฮิลตันมาตอนที่เขาเรียกไปสัมภาษณ์น่ะ ได้ยินเพื่อนเพื่อนเขาพูดกัน มันไม่น่ากลัวหรอก หนุ่มหนุ่มในนั้นก็แค่โชว์กล้าม ชวนดริ๊งค์ แล้วก็นั่งคุยเป็นเพื่อน ไม่เคยได้ยินข่าวนะว่าลูกค้ามีอันตรายหรือถูกลวนลาม”

หญิงสาวพยักหน้ารับแล้วค่อยดึงมือกลับ อติกันต์สีหน้าผิดปกติเพียงนิดก่อนจะแสร้งทำเป็นนั่งเอนพิงพนักชวนมัตติกาคุยเรื่องอื่นแทน ราวสิบนาทีรถยนต์สีเทาก็แล่นเข้ามาจอดเทียบ กระจกรถเลื่อนลงแล้วมิรันด้าก็โผล่หน้าออกมา

“เฮ้! ไปกันตีตี้ ว่าแต่เธอรอนานไหม”

คนมาช้าห้านาทีเอ่ยถามและมัตติกาก็ส่ายหน้า หญิงสาวรีบลุกขึ้นและเดินไปหาเพื่อนสนิทโดยมีอติกันต์เดินตามมา ชายหนุ่มส่งยิ้มให้มิรันด้าแทนการทักทาย เพราะอีกฝ่ายยังไม่เปิดโอกาสให้พูด

“ขอยืมตัวตีตี้สักวันนะ แล้วพรุ่งนี้ฉันจะเอาเธอมาส่งคืนแบบไม่มีอะไรสึกหรอ”

“ฝากดูแลตี๊ด้วย เธอคออ่อน ถ้าเป็นไปได้อย่าให้เธอดื่มมาก”

“แน่นอนค่ะ สัญญาเลยฉันจะพาตีตี้กลับมาอย่างปลอดภัย”

มิรันด้ารับคำ แล้วเบือนสายตากลับมามองสาวแว่น ซึ่งสวมเสื้อคอวีแขนยาวสีดำกับกางเกงยีนส์ หน้าตาจืดชืดไม่ได้แต่งแต้มอะไรเลย ก่อนคนสวมเดรสสั้นเกาะอกสีฟ้าอ่อน แต่งหน้าเปรี้ยวปรี๊ดจะเบ้ปาก

“ตีตี้ นี่ถามจริงแต่งตัวแล้วแน่เหรอ”

“ทำไม” คนถามมองดูตัวเองทำท่าว่าไม่เข้าใจ ส่วนอติกันต์กลั้นขำแทบแย่

“เราจะเข้าบาร์กันนะที่รัก ฉันไม่ได้ชวนเธอไปเข้าโบสถ์เสียหน่อย แม่ชีน้อย เธอกำลังทำตัวแปลกแยกจากพวกเรานะจ๊ะ” คนฟังกลอกตา ส่วนคนพูดเหลียวมองอติกันต์ “อนุญาตไหมคุณผู้ดูแล วันนี้ขอฉันแปลงโฉมสาวน้อยคนนี้ให้เป็นสาวเจ้าเสน่ห์จะโอเคหรือเปล่า”

ชายหนุ่มพยักหน้ารับ และมัตติกาก็อ้าปากค้างทำหน้าง้ำที่ถูกกะเกณฑ์โดยไม่ถามความเห็น

“นี่มินนี่ฉันดูเป็นเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะหรือยังไง”

“ตี๊โตแล้ว” อติกันต์ชิงตอบ

“แต่เทสด้านแฟชั่นของตี๊มัน... ธรรมดาเกินไปน่ะ แบบผู้ชาย”

หญิงสาวหยิกเข้าที่ต้นแขนแน่น และอติกันต์ก็ร้องอู้ย มิรันด้ามองท่าทีของทั้งคู่แล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า ทั้งๆที่สนิทกันขนาดนี้ แต่พอถามถึงสถานะระหว่างทั้งคู่ทีไร มัตติกาก็จะตอบกลับอย่างรวดเร็วว่าเป็นแค่พี่ จนมิรันด้าอดนึกสงสารฝ่ายชายไม่ได้ ที่ช่างมีความอดทนเหลือเกิน

“งั้นก็เล็สโก้! ไปนะกันต์ ไว้เจอกัน”

ว่าที่เจ้าสาวเอ่ยลา เมื่อมัตติกาก้าวขึ้นรถ แล้วเธอก็ยื่นหน้าออกมาส่งยิ้มโบกมือให้กับเชฟหนุ่ม อติกันต์ทำเพียงแค่เปิดยิ้มตอบรับ ก่อนมิรันด้าจะขับออกไป และในระหว่างนั้นว่าที่เจ้าสาวก็บอกกับมัตติกาว่าตอนไปรับเพื่อนที่เหลือ เจ้าหล่อนจะจับเธอแปลงโฉม และหญิงสาวก็ไม่มีทางปฏิเสธ เมื่ออีกฝ่ายอ้างว่านี่เป็นงานเลี้ยงอำลาความโสดของเจ้าหล่อน และเพื่อนสนิทอย่างเธอก็ไม่ควรขัดใจ!





One Upon A Time เป็นบาร์กึ่งเล้าจ์อยู่ชั้นใต้ดินของบราวน์ ฮิลตัน บาร์แห่งนี้มีทั้งหมดสามชั้น แยกกันเป็นสัดส่วนมีทางออกทางเข้ากันคนละทาง ชั้นแรกติดกับกราวน์ฟลอร์เป็นบาร์ปกติเปิดเพลงร่วมสมัย มีอาหารเบาๆกับเครื่องดื่มหลากหลายชนิดไว้คอยบริการ ส่วนชั้นที่สองและสามเป็นบาร์เฉพาะ

ชั้นสองเป็นบาร์สำหรับเพศที่สาม ถ้าเรียกกันแบบบ้านบ้านก็คือบาร์เกย์

ส่วนชั้นสามเป็นโฮสต์คลับสำหรับสุภาพสตรีผู้มีหัวใจเปลี่ยวเหงา

ทั้งสามชั้นตกแต่งรับกับคอนเซ็ปต์ของร้านคือกาลครั้งหนึ่ง โฮสต์คลับคือเทพนิยายสำหรับสุภาพสตรี บาร์เกย์คือที่ปลดปล่อยและสถานที่เนรมิตความฝันให้เป็นจริง ส่วนบาร์ปกติคือความสนุกสนานเร้าใจ ที่ช่วยให้แขกซึ่งเข้ามาได้เปลื้องความเคร่งเครียดในปัจจุบันทิ้งไป

สำหรับโฮสต์คลับตกแต่งด้วยงานไม้ มีเหล่าเจ้าชายรูปงามคอยดูแล เหล่าบรรดาเจ้าหญิงที่จะก้าวเข้ามา งานตกแต่งแม้เป็นไม้ดูขรึม แต่ก็ตัดด้วยวอลเปเปอร์สีอ่อน ทำให้ดูละมุนลง ตามผนังประดับด้วยภาพวาดเทพนิยายในกรอบรูปไม้ฉลุฉลัก พื้นปูด้วยกระเบื้องสีสี่เหลี่ยมน้ำตาลอมส้ม ขาว และเทา โคมไฟเฉพาะบริเวณหน้าบาร์ส่องสว่างมากกว่าทุกที่ ส่วนอื่นเป็นแสงสลัวจากโคมไฟบริเวณฝาผนัง แต่ก็ยังมองเห็นสภาพแวดล้อมทั่วไปได้ชัดเจน

ตามชุดโซฟาแบ่งเป็นสัดส่วน ฉากกั้นเป็นไม้บุนวมสีเทาอ่อน โต๊ะเป็นไม้สีน้ำตาลอ่อนขาแกะสลัก อันเป็นเฟอร์นิเจอร์จากหลุยส์ เช่นเดียวกับโซฟาอีกสามตัวที่ตั้งล้อมรอบ

บรรดาพนักงานชายในบาร์นี้จะแต่งตัวเป็นเจ้าชาย และมีเพียงดาวเด่นของร้าน ที่แต่งกายเป็นแดร็กคูล่าเจ้าเสน่ห์ เขาสวมเชิ้ตปลดกระดุมเผยให้เห็นแผงอกแกร่ง และซิกแพ็กวับๆแวมๆ กับกางเกงแสล็กและมีผ้าคลุมยาว

แล้วมันก็แน่นอนว่า คนที่รับบทแดร็กคูล่านี้ เพิ่งเข้ามาทำที่นี่ได้ห้าวัน!

เขาเป็นหนุ่มหล่อ หุ่นเซ็กซี่ แต่... กลับไม่มีลูกค้าคนใดที่เขาจะไปนั่งบริการ ผู้ชายคนนี้เป็นพนักงานพิเศษซึ่งจะมาประจำแค่หนึ่งอาทิตย์ มีอภิสิทธิ์ตัดสินใจรับแขกเองได้ ที่สำคัญไม่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้จัดการหรือใคร ซึ่งเพื่อแลกกับสิทธิพิเศษพวกนั้น ในหนึ่งคืนเขาจะต้องขึ้น‘เวที’เพื่อแสดงโชว์พิเศษ

และด้วยเหตุผลดังข้างต้น ที่จะให้ใครรู้ไม่ได้ว่าเขาเป็นใคร อีวอนน์ เอส. บราวน์ จึงได้รับการแนะนำเพียงแต่ว่าเป็นพนักงานใหม่ ชื่อจิมมี่ เจมส์ แพตตั้น เลยทำให้ใครๆเข้าใจว่า‘เขา’เป็นเด็กเส้น!

ทายาทมหาเศรษฐีหนุ่มกวาดตามองบริเวณรอบๆตัวอย่างเหนื่อยหน่าย ในใจยังหงุดหงิดไม่หายในวันที่เขา‘แพ้’ พนันเพื่อนทั้งสองคน

ก็ในวันนั้น หลังจากที่ลั่นปากว่าแน่ใจที่จะรับคำท้า

อีวอนน์ เฮคเตอร์กับคลินตันก็ต่างจ้องมองไปที่ประตูทางเข้าเล้าจ์ ก่อนจะมีสาวสวยหุ่นสูงเปรียวก้าวเดินเข้ามา เธอมีผมสีดำยาวเป็นคลื่นลงถึงกลางหลัง สวมชุดเดรสยาวเกาะอก แหวกด้านข้างจนเห็นต้นขาเรียวเสลาวับแวบ มองเห็นเนินอกอิ่มยวนตา แล้วเรือนร่างเย้ายวนทรงนาฬิกาทรายนั่น ก็หยุดยืนมองหาใครสักคน

และเจ้าของใบหน้าสวยเฉี่ยวสะกดใจก็คลี่ยิ้มหวาน หลังพนักงานคนหนึ่งเข้าไปเอ่ยถาม อีวอนน์นั้นหลังจากราวกับต้องมนตร์ ชายหนุ่มก็กระแอมเบาๆพลางมองสำรวจตัวเองแล้วลุกขึ้นยืนอย่างมั่นใจ เขาก้าวตรงไปยังผู้หญิงคนนั้น

เธอหันมาและยิ้ม ชายหนุ่มจึงหันกลับมามองเพื่อนทั้งสองพลางยักคิ้วด้วยท่าทางเป็นต่อ

สาวสวยหนุ่มสะบึมยังคงยิ้ม และเดินตรงมาที่เขา เช่นเดียวกับที่อีวอนน์ก้าวตรงไปอย่างมั่นใจ ก่อนจะต้องหยุดยืนนิ่ง เมื่อสาวเจ้าเบี่ยงหลบเขาและเดินผ่านไป ทายาทอสังหาฯหมุนตัวกลับไปมองตามอย่างรวดเร็ว และได้เห็นว่าคลินตันลุกขึ้นยืน พลางก้าวออกมารับแม่สาวชุดดำคนนั้นไว้ในอ้อมแขน!

นาทีนั้นอีวอนน์รู้ตัวแล้วว่า งานนี้มีโกง!

“นี่เอลิน่า” คลินตันแนะนำเมื่ออีวอนน์เดินกลับมาถึงโต๊ะ ชายหนุ่มจึงต้องพยายามเปิดยิ้ม ทั้งๆที่ใจจริงอยากแยกเขี้ยวใส่เพื่อนสนิททั้งสอง โดยเฉพาะเฮคเตอร์ที่ลุกขึ้นยืนแล้วกลั้นขำอยู่ข้างๆเขา

“ขอแนะนำอย่างเป็นทางการอีกครั้งนะ เอฟ เอลิน่า วิลเลียมส์ แฟนฉันเองว่ะ!”

มันไม่เจ็บจี๊ดเข้าไปในใจเท่ากับว่าคลินตันบอกด้วยท่าทางอารมณ์ดีสุดๆ และตลอดเวลาที่ร่วมโต๊ะกับสาวสวยผู้ทำให้เขาแพ้ อีวอนน์ก็ยังไม่มีโอกาสได้โวยกับการโกงในครั้งนี้ กระทั่งเกือบหนึ่งชั่วโมงที่สาวเจ้าขอตัวไปเข้าห้องน้ำ คนถูกโกงจึงมองผู้โกงทั้งสองด้วยแววตาอาฆาต

“พวกนายโกงฉันนี่หว่า แบบนี้ทุกอย่างถือเป็นโมฆะ!”

“เฮ้ๆ!” เฮคเตอร์แย้งกลั้วหัวเราะ และทำท่าว่าจะสำลักจนต้องยกมือขอเวลา ก่อนจะวางแก้วเหล้าลงตามเดิม “มันไม่เกี่ยวกันเลยเอฟ นายเคยบอกใช่ไหม ในธุรกิจไม่มีคำว่าใสสะอาด นี่มันก็แค่ทริค... เล็กๆน้อยๆเท่านั้นเอง”

คนถูกโกงถึงกับจุกและอึ้งไป

“ที่สำคัญในข้อตกลงนะเอฟ เราพูดถึงแค่ว่าผู้หญิงที่เดินเข้ามาหลังจากเราพนันกันคนแรกเท่านั้น”

อีวอนน์ทิ้งตัวเอนพิงพนักด้วยท่าทางเซ็งสุดขีด

“ฉันยอมแลกกับของนะเพื่อจะได้ไม่ต้องไปทำไอ้งานนี้ อะไรก็ได้ที่พวกนายต้องการ”

“ไม่” เฮคเตอร์ที่รักสนุกสุดส่ายหน้า “เรื่องนี้แหละที่พวกฉันต้องการ”

คลินตันเอื้อมมือมาตบบ่าเขาเบาๆ แม้สีหน้าจะยังนิ่งแต่ในดวงตากลับพราวระยับอย่างขบขัน “เอาน่าเอฟ ประสบการณ์ครั้งนี้สำคัญมากเชียวนะ รับรองในคลับของฉันไม่มีพวกปาปารัซซี่หลุดเข้าไปได้แน่ เรื่องนี้มันจะเป็นความลับ มีแค่ฉัน เฮคและนายเท่านั้นที่รู้”

“ให้ตายสิ!” คนถูกปลอบฉุนเฉียวหัวเสียหนัก เพราะภาพลักษณ์ที่สั่งสมของเขามีหวังถล่มทลายแน่ ขืนเกิดมีเรื่องซุบซิบหรือภาพที่เขาเป็นพนักงานโฮสต์หลุดออกไป เพียงแค่คิดอีวอนน์ก็ขนลุกขนชันไปทั้งตัวแล้ว!

“ฉันเป็นอาจารย์ พวกนายเข้าใจใช่ไหม! อา-จารย์!!”

แม้จะได้ยินอีวอนน์ย้ำชัด แต่เฮคเตอร์ก็แย้ง “โฮสต์ไม่ใช่อาชีพเสียหาย”

“และจะไม่มีนักศึกษามหา’ลัยที่นายสอนอยู่เข้ามาแน่ รายชื่อลูกค้าที่จองไว้ก็อย่างที่เห็นเป็นคนทำงานแล้วทั้งนั้น ที่สำคัญคนพวกนั้นคงไม่คิดหรอกว่าจะเจอ อีวอนน์ เอส. บราวน์ในคลับนั่น” คลินตันที่เสริมเปิดยิ้ม... แสยะ “ในฐานะของนักเต้นระบำชายเปลื้องผ้า-ชั้น-สูง!”

และนั่นแหละเขาจะทำอะไรได้ ในเมื่อหลุดปากให้สัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะไปแล้ว!!

อีวอนน์ค่อยผ่อนลมหายใจ ก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำหลังซัดออนเดอะร็อกไปหลายแก้ว ทางเดินไปห้องสุขาเป็นทางแคบๆ ผนังสองข้างไม่มีเครื่องตกแต่งอันใดคงมีเพียงผนังเรียบๆ และแสงไฟที่ส่องสว่างยิ่งกว่าในคลับ

ห้องน้ำชายและหญิงอยู่ทางซ้าย ส่วนห้องน้ำของพนักงานอยู่ทางขวา อีวอนน์เดินตรงไปไม่ค่อยสนใจกับเสียงกรี๊ดกร๊าดของเหล่าบรรดานักเที่ยวสาวสาวที่เดินสวนมา แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องตัวแข็งก้าวไม่ออก เมื่อห่างออกไปแค่ห้าก้าว มีผู้หญิงสองคนเดินออกมาจากห้องน้ำแขกพอดี

แต่แรกเขากำลังจะมองผ่าน ถ้าหากว่าอีกฝ่ายจะไม่หันมาแล้วสานสบตากันเข้า ดวงตาแบบนั้น วิธีการมองมาแบบนั้น ให้ตาย... เขาเพิ่งเคยเห็นมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว!

และแล้ว พ่อแดร็กคูล่าหนุ่ม ก็กลายเป็นหุ่นไล่กายืนตัวแข็งทื่อ ส่วนเมดูซ่าที่สาปให้เขากลายเป็นหินนั้นยังไม่รู้ตัว

มัตติกาเดินตามแขกผู้หญิงคนหนึ่งออกมาจากห้องน้ำ เธอที่โดนเพื่อนอีกสามคนกับมิรันด้าจับแต่งด้วยเดรสสั้นสีดำรัดรูป รู้สึกว่าเนื้อตัวมันว่างๆโหวงๆ จนต้องหาผ้าพันคอมาปิดเนินอก และอำพรางส่วนเว้าส่วนโค้ง

ผมยาวดำถูกดัดให้เป็นลอนใหญ่ปล่อยคลอเคลียลำคอและช่วงบ่าเปล่าเปลือย แต่ที่หญิงสาวอึดอัดก็คือเรียวขาเสลาเปลือยเปล่าโล่งโจ้งมาจนถึงต้นขานี่สิ มันทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ เพราะแต่ไหนแต่ไร มัตติกาจะสวมสั้นเหนือเข่าก็ตอนอยู่ในห้องที่อพาร์ตเมนต์เท่านั้น

มัตติกาก้าวเข้ามาในร้านนี้อย่างอึดอัด เพราะกังวลกับเนื้อตัวของตัวเอง ในขณะที่เหล่าเพื่อนสาวต่างกรี๊ดกร๊าดเมื่อมีหนุ่มหนุ่มเข้ามารับรอง

แต่แรกเพื่อนสาวอีกสามคนของเธอผิดหวัง เมื่อท่านเคานท์หุ่นละลายใจหล่อแบบวัวตายควายล้ม ที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์บาร์ปฏิเสธจะมาบริการ แต่ไม่ถึงอึดใจพวกเจ้าหล่อนก็ได้หนุ่มหล่อที่แต่งเป็นปรินซ์อีริคจากลิตเติ้ลเมอร์เมด ปรินซ์ฟิลิปจากเจ้าหญิงนิทรา และปรินซ์ชามมิ่งจากสโนไวท์มาปลอบใจ

ส่วนเธอกับมิรันด้าขอผ่าน ว่าที่เจ้าสาวเพียงแต่อยากเข้ามาเสพบรรยากาศเท่านั้น แล้วมัตติกาก็เบื่อนิดหน่อย จากแต่แรกที่หน้าแดงเพราะเห็นซิกแพ็กผู้ชายเต็มตา พอได้นั่งดูเป็นชั่วโมงและพนักงานโฮสต์ก็ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าพูดคุย และคอยบริการเครื่องดื่ม ไม่มีการถึงเนื้อถึงตัวมากกว่าการพิงซบเล็กๆน้อยๆ หญิงสาวจึงเริ่มรู้สึกชินไปกับมัน

นั่นแหละ คือการมาบาร์อีกครั้งในรอบหลายปีของเธอ

มัตติกาถอนหายใจ ดึงตัวเองออกมาจากเรื่องครุ่นคิดวุ่นวาย หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองทางเดิน หลังจากก้มมองเรียวขาของตนเองอย่างไม่มั่นใจมานานแล้ว แถมยังรู้สึกว่ามีคนจ้องมองมา เธอหยีตามองเพราะแสงไฟสีส้มชวนตาพร่า หลังเห็นท่านเคานท์กำลังจ้องเธอเขม็ง!

พลันนั้นเองหญิงสาวต้องเบิกตากว้าง เธอยกมือขึ้นปิดปาก พลางกะพริบตาถี่ๆเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ดูผิดไป ก็พนักงานตรงหน้า ผู้ชายคนนั้นมีใบหน้าเหมือนกับดอกเตอร์บราวน์ไม่มีผิด!


=======================================================================>>>>>>


ดีค้า พาอีวอนน์กับยัยตี๊มาส่งค้าาาาาาาาาาาา ^O^


คุณkonhin ขอบคุณฮ้าบบบบบบบบบ
คุณpkka กอดหนึ่งที มาหอมอีกที จุีบๆๆๆ
คุณนักอ่านเหนียวหนึบ กลัวจะลืมเอสขาน่ะจิ เลยต้องรีบเอาเวอร์ชั้นใหม่มาลง 55555
คุณagentaja ขอบคุณค้าบบบบบบบบบบบบบบบ
คุณZephyr เฟอร์รี่จัง ไม่อยากบอกเลิฟซีนแซ่บกว่าเดิมนะจ๊ะ โฮะๆๆๆๆ


และคุณๆรีดเดอร์นะคะ ขอบคุณที่แวะมาอ่าน มาคุย มากดคะแนนให้ ขอบคุณมากๆ จริงๆค่ะ

วันนี้ไปแล้วนะคะ ไว้เจอกันตอนหน้า ส่วนคืนนี้หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์นะคะ ^O^



ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 ส.ค. 2558, 18:50:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 ส.ค. 2558, 18:50:05 น.

จำนวนการเข้าชม : 1443





<< Chapter 1 ลูกเป็ดขี้เหร่กับเจ้าชายอสูร   Chapter 3 หนีไม่พ้น >>
Zephyr 28 ส.ค. 2558, 19:11:22 น.
งั้นเอาตอนต่อไปมาด่วนเลยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ตะเองอ่ะ ตัดตอนเค้าจิพบกัน
มันค้างรู้มั้ยยยยยยย
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงง คาาาาาาาาาาาาาาาา
เอาวอนนี่มาเร็วๆเลย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account