ต้องฤทธิ์เสน่หา โดย ธิดาดิน
ต้องฤทธิ์เสน่หา

โดย ธิดาดิน

แจ้งข่าวจ้า ตอนนี้นิยายเรื่องต้องฤทธิ์เสน่หา (ฉบับเต็มไม่ตัดแม้แต่ฉากเดียว) วางจำหน่ายแล้วในราคา 279 บาท วางที่ร้านนายอินทร์ ร้ายซีเอ็ด ร้านบีทูเอส ทุกสาขา ช่องทางการสั่งซื้อด้านล่างนี้เลยจ้า



ตีพิมพ์กับ สนพ. อินเลิฟ ปกด้านล่างนี้เลยจ้า

ช่องทางการสั่งซื้อ
วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคาเล่มละ 279 บาท

1. จำหน่ายที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ ร้านนายอินทร์ ร้านซีเอ็ด ร้าน b2s

2.โทรสั่งซื้อกับสำนักพิมพ์ส่งตรงถึงบ้าน ที่เบอร์ โทร. 02-930-3119 และ 02-930-3120
(วัน จ.-ศ. เวลา 9.00-18.00 น.) ยกเว้นวันหยุดทำการ
3.ที่เว็บไซด์อินเลิฟ ใครเป็นสมาชิกลด 20% สั่งซื้อได้ที่ http://www.inlove-book.com/book/1246
4. สั่งซื้อผ่าน facebook >>คลิกที่นี่<<แจ้งข่าวจ้า ตอนนี้นิยายเรื่องต้องฤทธิ์เสน่หา (ฉบับเต็มไม่ตัดแม้แต่ฉากเดียว) วางจำหน่ายแล้วในราคา 279 บาท วางที่ร้านนายอินทร์ ร้ายซีเอ็ด ร้านบีทูเอส ทุกสาขา ช่องทางการสั่งซื้อด้านล่างนี้เลยจ้า ปกอยู่ด้านบนจ้า



ตีพิมพ์กับ สนพ. อินเลิฟ

ช่องทางการสั่งซื้อ
วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคาเล่มละ 279 บาท

1. จำหน่ายที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ ร้านนายอินทร์ ร้านซีเอ็ด ร้าน b2s

2.โทรสั่งซื้อกับสำนักพิมพ์ส่งตรงถึงบ้าน ที่เบอร์ โทร. 02-930-3119 และ 02-930-3120
(วัน จ.-ศ. เวลา 9.00-18.00 น.) ยกเว้นวันหยุดทำการ
3.ที่เว็บไซด์อินเลิฟ ใครเป็นสมาชิกลด 20% สั่งซื้อได้ที่ http://www.inlove-book.com/book/1246
4. สั่งซื้อผ่าน facebook >>คลิกที่นี่<<

เป็นแพทย์มาก็หลายปี แต่ใครจะคิดว่าเขาจะมาตบะแตกเพียงเพราะได้ตรวจภายในของผู้หญิงคนนั้น…เธอผู้ทำให้คุณหมอผู้วางตัวเหมาะสมกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการอย่างไม่น่าเชื่อ

แนะนำตัวละคร

คริสโตเฟอร์ คอลเวลล์สัน


แพทย์สูติ-นรีเวช จอมทะเล้น ผู้มีหน้าตาเป็นอาวุธ หล่อ รวย ระดับมหาเศรษฐีหมื่นล้าน เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนเบอร์หนึ่งในสหรัฐอเมริกา แถมยังมีสาขาในต่างประเทศอีกมากมาย


ปิ่นมุก วิเศษวัฒนากุล


สาวไทยวัย 28 ปี ผู้มีต้นทุนชีวิตต่ำ บินข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลถึงอเมริกาเพื่อตามหาความฝัน แต่ไม่รู้ว่าโชคไม่เข้าข้างหรือเทวดากลั่นแกล้ง เธอกำลังจะกลายเป็นนางเอกหนังโป๊ในอีกไม่ช้านี้

.........................................................................................

นิยายเรื่องนี้เป็นแนวรักโรแมนติก คอมเมดี้ เน้น หื่นๆ ฮาๆ รั่วๆ ฟินจิกหมอน แอบงอนและง้อ มีดรามาผสมเล็กน้อยที่สำคัญมีกลิ่นอายของโรมานต์รวมอยู่ด้วยจ้า


Tags: รัก,โรแมนติก,รักเพื่อน,เข้มข้น,หวาน,แรง,นิยาย,ซึ้ง,แอบรัก,ซึ้ง

ตอน: ตอนที่ 5 ข้อเสนอที่ไม่มีอะไรแอบแฝงเลยจริงๆ 100%

ตอนที่ 5 ข้อเสนอที่ไม่มีอะไรแอบแฝงเลยจริงๆ 100%

‘ถอยออกมาให้ห่างจากเขาเดี๋ยวนี้!!’

นั่นเองที่ทำให้ปิ่นมุกลืมตาขึ้นผลักอกเขาออกห่างพลางขยับถอยหนี เธอสังเกตเห็นอาการของฝ่ายนั้นดูจะตกใจกับการตัดสินใจแบบกะทันหันของเธออยู่ไม่น้อย แต่เขาก็ไม่ได้พูดใดๆออกมา เฉกเช่นเดียวกับเธอที่ไม่กล้าเอ่ยใดๆออกไป

ความเงียบเข้าปกคลุมพื้นที่!!

“ผมเช็ดตัวให้คุณเสร็จแล้ว คุณนอนเถอะ” ในที่สุดคริสโตเฟอร์ก็เป็นคนเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ ก่อนจะยกถังน้ำลุกขึ้นเดินไปห้องน้ำด้วยท่าทางทื่อๆ

น้ำเสียงที่ปิ่นมุกได้ยิน แม้จะไม่ถึงกับแข็งกระด้าง แต่ก็สัมผัสได้ว่ามันไม่ปกติเท่าที่ควร บวกกับสีหน้าและท่าทางมึนตึงของเขาก็ชี้ชัดว่าเขากำลังไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ดังนั้นเมื่อเขาเดินกลับออกมาเธอจึงเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น

“ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยเช็ดตัวให้ เดี๋ยวฉันจะนอนแล้วล่ะ คุณคริสจะกลับเลยก็ได้นะ”

“พอหมดประโยชน์ก็รีบไล่เลยนะ”

คริสโตเฟอร์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงแข็งๆแฝงการประชดประชัน เขายอมรับว่านอยด์กับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้มากพอสมควร เธอปฏิเสธเขาทั้งๆที่เผลอตัวเผลอใจไปแล้ว แน่นอนว่าผู้ชายที่ไม่เคยถูกผู้หญิงปฏิเสธมาก่อนเลยในชีวิตมันทำให้สูญเสียความมั่นใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ คือฉันเห็นว่าคุณเหนื่อยกับฉันมาทั้งวันแล้ว ก็เลยอยากให้คุณพักผ่อนบ้าง”

“ถ้างั้นคุณก็รีบนอนสิ ผมจะได้รีบพักผ่อน”

ปิ่นมุกเลิกคิ้ว มองหน้าเขาอย่างสงสัย “หมายความว่ายังไงคะ”

“คืนนี้ผมขอนอนที่นี่นะ เผื่อคุณไข้ขึ้นกลางดึกผมจะได้ดูแลคุณได้ อีกอย่างผมขี้เกียจขับรถกลับมันมืดแล้ว อันตราย” เขาเองก็ยังงงว่าทำไมจะต้องตอบเธอแบบนั้น ทั้งๆที่เขาก็งอนๆเธออยู่แท้ๆ แต่ทำไมถึงไม่อยากจากเธอไปในเวลานี้

“แต่…”

“ผมนอนที่พื้นก็ได้” ชายหนุ่มรีบชิงบอกเมื่อเห็นท่าทางลังเล ก่อนจะหยิบหมอนหนึ่งใบไปวางลงที่พื้นแล้วล้มตัวลงนอนอย่างไม่ถือตัว เป็นฝ่ายเจ้าของห้องที่ตกใจ

“คุณคริสคะ ไปนอนที่โซฟาดีกว่า”

“ไม่เป็นไรนอนนี่แหละ โซฟามันไกลจากคุณ เผื่อคุณไข้ขึ้นกลางดึกผมจะรู้ได้ไง… ทำไมครับกลัวว่าผมจะทำอะไรคุณหรือเปล่า ไม่ต้องกลัวหรอกน่า หน้าซีด ไม่สบาย แถมตัวมีผื่นแบบนี้ ผมไม่ใจร้ายทำอะไรหรอก”

ปิ่นมุกเบ้ปาก “ฉันก็ไม่คิดแบบนั้นซะหน่อย ที่ไม่ให้นอนที่พื้นเพราะมันดูไม่เหมาะ อีกอย่างพื้นมันก็แข็งด้วย”

“ทำไมจะไม่เหมาะ พื้นมันกว้างกว่าโซฟาตั้งเยอะ กลิ้งไปกลิ้งมาได้สบาย” เขาแย้งด้วยรอยยิ้ม

“แต่พื้นมันแข็งนะคะ”

“พื้นแข็งน่ะมันไม่เจ็บหรอก แต่คนใจแข็งน่ะมันเจ็บกว่า” จู่ๆเขาก็เผลอพูดประโยคนี้ออกไปโดยไม่รู้ตัว ทำเอาเจ้าของห้องมองอย่างงงๆ คริสโตเฟอร์รู้ตัวจึงรีบเบี่ยงเบนประเด็น “นอนเลยไหมผมจะได้ปิดไฟ”

ปิ่นมุกไม่ตอบ แต่ก้าวลงจากเตียงไปเปิดตู้หยิบผ้านวมผืนหนึ่งมาปูให้แขกจอมดื้อ โดยไม่ทันสังเกตสายตาของแพทย์หนุ่มที่แอบมองด้วยรอยยิ้ม

“ราตรีสวัสดิ์นะคะ” ปิ่นมุกบอกหลังจากปูผ้าให้เขาเสร็จ ก่อนกดดับโคมไฟ



แม้แสงไฟจะดับลงไปนานแล้ว และหนึ่งคนไข้จะหลับอย่างง่ายดายด้วยพิษไข้และฤทธิ์ยา แต่สำหรับคนเฝ้าไข้ยังคงนอนลืมตาฝ่าความมืด อมยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อสมองกำลังคิดหวนถึงเหตุการณ์ตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกับเธอ…ในโรงพยาบาลวันนั้น

เขาไม่รู้หรอกว่าเธอมีดีอะไรถึงสามารถดึงดูดความสนใจจนทำให้เขาต้องหยุดมอง และหัวใจยังพร่ำร้องว่าอยากจะรู้จักผู้หญิงหน้าตาใสซื่อแต่ทรงเสน่ห์คนนั้นที่นั่งกระวนกระวายอยู่หน้าห้องสูตินรีเวชกรรม จนต้องคิดแผนการอย่างแยบยลเพื่อหาโอกาสได้พูดคุยกับเธอ เขายอมเอ่ยปากขอเป็นคนตรวจคนไข้คนนี้ทั้งๆที่ไม่ใช่หน้าที่ และที่สำคัญเขาไม่ได้ลงมาตรวจคนไข้คนใดเลยมานานนับปี เพราะพักหลังๆมุ่งเน้นไปเรื่องบริหารเสียมากกว่า

การตัดสินใจในวันนั้นมันคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม คริสโตเฟอร์ได้รู้จักเธอสมใจและยิ่งหลงใหลมากขึ้นเพื่อได้พูดคุยกับเธอ และหาทางจะได้เจอกันอีกครั้ง ดูเหมือนว่าคนบนฟ้าจะรู้ในสิ่งที่ใจเขาปรารถนาถึงลิขิตให้ได้เจอกับเธออีกครั้งด้วยความบังเอิญ และกลายเป็นการบังเอิญที่คุ้มสุดคุ้ม เพราะจากนาทีนั้นจนถึงนาทีนี้ เขายังอยู่ที่นี่…อยู่กับเธอที่อยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม

อยู่ใกล้แค่เอื้อมมือ...จริงหรือ? ทำไมเขาถึงยังเอื้อมเธอไม่ถึง

“อือ อืม”

ความคิดว้าวุ้นในสมองถูกทลายลงด้วยเสียงแปลกๆที่ดังขึ้น ชายหนุ่มเงี่ยหูฟังให้แน่ใจว่าใช่เสียงของปิ่นมุกจริงๆจึงลุกขึ้นเปิดโคมไฟดู ก็เห็นเธอนอนขดตัวสั่นเทา ปากก็ร่ำร้องว่าหนาวแผ่วเบา มือหนายื่นไปอังหน้าผากวัดอุณหภูมิ ตัวยังรุมๆอยู่ แต่ไม่ร้อนมากเท่าตอนหัวค่ำ

“หนาว…อือ…” ปิ่นมุกยังคงครางไม่หยุด

คริสโตเฟอร์ยืนมองอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจก้าวขึ้นเตียงลงไปนอนข้างๆคนป่วย ยื่นมือไปสอดตรงใต้ลำคอยกตัวเธอขยับเข้าใกล้แล้วพาดแขนอีกข้างโอบกอดเธอเอาไว้ หวังให้ไออุ่นจากร่างกายบรรเทาความเหน็บหนาว คนป่วยซุกลงตรงแผงอกกำชับแขนโอบแน่นหาไออุ่นอย่างไม่รู้ ในขณะที่แพทย์หนุ่มก็กำชับแขนเพื่อถ่ายเทไออุ่นให้อย่างเต็มที่

คริสโตเฟอร์คลี่ยิ้ม เหลือบตามองคนป่วยอย่างเอ็นดู ในเวลาที่เธอไม่สบายหน้าซีดเผือดเช่นนี้แต่ความน่ารักของเธอก็ไม่ได้ห่างหายไปเลยสักนิด เขาจ้องมองเธอเนิ่นนานในขณะที่ความรู้สึกนั้นอิ่มเอมร่ำร้องว่าอ้อมกอดนี้แสนอบอุ่นและมีความหมายจนเขาอยากจะโอบกอดเอาไว้อย่างนี้ตราบนานแสนนาน



เช้าวันรุ่งขึ้น

คริสโตเฟอร์ในชุดสูตรสุภาพนั่งจ้องมองรอยเขียวคล้ำบนขอบตาด้านซ้ายด้วยรอยยิ้ม นึกถึงที่มาของรอยช้ำนี้ก็ตลกมากกว่านึกโกรธต้นตอที่ทำให้มีสีผิดปกติเกิดขึ้นใบหน้า ที่จริงหากเป็นคนอื่นเขาคงจะโกรธมากที่มาทำร้ายร่างกายเขาซะจนเบ้าตาเขียวคล้ำ แต่สำหรับคนๆนี้เขาโกรธไม่ลงจริงๆ

“กรี๊ดดด!!!”

นั่นคือเสียงแรกที่แทรกมาในสมองจนทำให้คริสโตเฟอร์ที่กำลังนอนหลับสนิทอย่างมีความสุขสะดุ้งตื่น พร้อมๆกับรู้สึกเหมือนคนในอ้อมกอดผละตัวลุกขึ้นถอยห่างอย่างรวดเร็ว เขาลุกขึ้นนั่งมองเธอด้วยอาการงุนงงเพราะยังมึนๆด้วยพึ่งตื่น วินาทีต่อจากนั้นเขาก็รู้สึกเจ็บแปล๊บบริเวณเบ้าตาข้างซ้าย ต่อมาไม่นานก็เห็นกลุ่มดาวระยิบระยับเต็มไปหมด

ใครชกเบ้าตาผม!!

“นี่คุณทำอะไรฉัน ฉันไม่น่าไว้ใจให้คุณนอนค้างที่นี่เลย”

เสียงโวยวายของคนที่ชกเบ้าตาคุณหมอหนุ่มเต็มๆดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ความง่วงที่เคยมีมลายหายสิ้นไปไม่เหลือซาก ชายหนุ่มรีบส่ายหน้าปฏิเสธ เพราะกลัวว่าเธอจะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้

“คุณฟังผมก่อน เอ่อ คือเมื่อคืนผมทำอะไรคุณจริงๆนะ” รีบร้อนเกินไปก็พูดผิดพูดถูก

“กรี๊ดดด! ไอ้หมอบ้า”

“เฮ๊ย! ไม่ใช่ๆ ผมจะพูดว่า เมื่อคืนเราสองมีอะไรกันจริงๆ เฮ๊ย! โธ่เว๊ย! ไม่ใช่ๆ เมื่อคืนผมปล้ำคุณจริงๆนะ” เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกอยากตบปากตัวเองให้เลือดกลบปาก พูดอะไรออกมาไม่คิด

“ไม่ต้องย้ำโว๊ย!!”

“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคุณ คือผมจะบอกว่าเมื่อคืนผมไม่ได้ทำอะไรคุณนะ” คราวนี้ตั้งสติและค่อยๆอธิบายช้าๆเพราะขืนพูดผิดอีกครั้งมีหวังถูกถีบตกเตียงแน่ๆ

“ยังมีหน้ามาแก้ตัวอีกเหรอ หลักฐานท้นโท่ก็คุณกอดฉันอยู่”

“ใช่ ผมยอมรับว่าผมกอดคุณจริง อึก!” พูดยังไม่ทันจบบาทาของสาวไทยก็ทะยานมาปะทะลงที่แผ่นอก ทำให้แพทย์หนุ่มเสียหลักตกเตียงหัวคะมำนอนแอ้งแม้งหมดท่ากองอยู่ที่พื้น

“คุณนี่มันเลวจริงๆ ฉันไม่น่าไว้ใจคุณเลย คุณทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง” ปิ่นมุกยังโวยวายไม่หยุด เธอโกรธและเสียใจจนตัวสั่นไปหมด

คริสโตเฟอร์พยุงตัวเองลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล ก่อนจะพยายามอธิบายให้เข้าใจ ไม่เช่นนั้นเธออาจจะกระโดดตีลังกาเหมือนจาพนมมาถีบเขาอีกครั้งก็เป็นได้

“ฟังนะคุณมุก ผมไม่ได้ทำอะไรคุณ ผมยืนยันด้วยเกียรติของลูกผู้ชาย ถ้าคุณไม่เชื่อคุณลองสำรวจตัวคุณสิว่ามีตรงไหนสึกหรอหรือเปล่า เสื้อผ้าของคุณขาดรุ่ยตรงไหนไหม”

คำแก้ตัวที่ฟังดูมีเหตุมีผลทำให้ปิ่นมุกใจเย็นลง ก้มมองสำรวจเสื้อผ้าและร่างกายก็ไม่มีตรงไหนสึกหรอหรือขาดรุ่ยอย่างที่เขาบอกจริงๆ

“ก็คุณนอนกอดฉัน” เธอยังใช้หลักฐานชิ้นเดียวที่เธอมีในการกล่าวหาเขา

“ผมอธิบายได้ เมื่อคืนไข้คุณขึ้น คุณเพ้อว่าหนาว ผมก็เลยไม่รู้จะทำยังไง เพราะเช็ดตัวก็เช็ดไปแล้ว ยาก็ทานไปแล้ว ผมก็เลยต้องลงไปนอนกอดคุณเพื่อให้ไออุ่น คุณคงได้ยินว่าการกอดมันให้ความอบอุ่นเสียยิ่งกว่าการห่มผ้าซะอีก และมันก็ได้ผล ไข้คุณลดลง คุณไม่เพ้อว่าหนาว…แค่นี้จริงๆ”

ปิ่นมุกนิ่งฟังคิดตามไปด้วยก็คล้อยไปกับคำอธิบายของเขา รอยยิ้มแหยๆพายผุดขึ้นหลังจากความจริงกระจ่าง ก่อนจะเอื้อนเอ่ยคำขอโทษแผ่วเบาอย่างนึกละอาย

“ที่ฉันถีบคุณไปเมื่อกี้ คุณไม่โกรธใช่ไหม แฮ่ๆๆ”

คริสโตเฟอร์ยิ้มขำกับท่าทางการสำนึกผิดของเธอ

ใช่ เขาโกรธเธอไม่ลงจริงๆ!

“คุณคริสคะ คุณคริส”

เสียงเรียกย้ำสองสามครั้งทำให้คริสโตเฟอร์หลุดจากภวังค์ ภาพปัจจุบันที่เข้ามาแทนที่ภาพความคิดคือภาพของสาวสวยที่ยืนถือแฟ้มเอกสารยืนมองอยู่เบื้องหน้า

“คุณคริสเป็นอะไรหรือเปล่าคะ แอลล่าเห็นนั่งยิ้มอยู่ตั้งนานสองนาน”

แอลล่าเลขานุการส่วนตัวถามขึ้นอย่างแปลกใจหลังจากเข้ามาซักพักหนึ่งเรียกเจ้าของห้องไปสองสามครั้งแต่ไม่ได้มีการตอบรับเห็นแพทย์หนุ่มนั่งเหม่อด้วยรอยยิ้ม

“แอบคิดถึงสาวๆที่ไหนหรือเปล่าคะเนี่ย”

“เปล่าหรอกครับ ว่าแต่แอลล่าธุระอะไรกับผมหรือเปล่า”

เลขานุการสาวยิ้มแอบซ่อนรอยยิ้มไว้มุมปากเมื่อข้อสันนิษฐานที่เธอคิดได้รับการปฏิเสธ แต่ถ้าคริสโตเฟอร์ตอบว่าใช่เธอก็คงเจ็บอยู่ไม่น้อย เพราะเธอเองก็แอบรักและเฝ้ารอชายหนุ่มมานานหลายปี แม้ความหวังจะดูริบหรี่ด้วยฐานะที่ดูต่างกันลิบลับ กระนั้นเธอก็ยังไม่เคยหมดหวัง

“แอลล่าเอาเอกสารมาให้เซ็นต์ค่ะคุณคริส”

คริสโตเฟอร์ยิ้มขณะรับแฟ้มจากมือเลขานุการสาวมาเซ็นต์สองสามที่ ก่อนยื่นให้เธอคืน “เรียบร้อยครับ”

“คุณคริสคะ พรุ่งนี้วันเสาร์ คุณคริสว่างหรือเปล่าคะ”

“พรุ่งนี้เหรอครับ” ชายหนุ่มกรอกหน้าไปมาใช้ความคิด “ผมไม่ว่างครับ พอดีมีนัด แอลล่ามีธุระอะไรหรือเปล่า”

คนฟังมีสีหน้าผิดหวังลงเล็กน้อย “ไม่เชิงเป็นธุระหรอกค่ะ พอดีเพื่อนแอลล่าเขาพึ่งเปิดร้านอาหาร แอลล่าก็เลยอยากชวนคุณคริสไปลองชิมซะหน่อย แต่ถ้าคุณคริสไม่ว่างก็ไม่เป็นไรค่ะ”

“เอาไว้โอกาสหน้านะครับ เสาร์นี้ผมมีนัดแล้ว”

แอลล่าฝืนยิ้มก่อนขอตัวเดินออกไป ในใจก็ยังสงสัยว่าคริสโตเฟอร์มีนัดกับใคร แล้วใครคนนั้นเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายกันนะ



ธิดาดิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ส.ค. 2558, 14:30:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ส.ค. 2558, 14:30:49 น.

จำนวนการเข้าชม : 4734





<< ตอนที่ 5 ข้อเสนอที่ไม่มีอะไรแอบแฝง (เลยจริงๆ)   ตอนที่ 6 เมื่อถึงกาลเปลี่ยนแปลง >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account