ต้องฤทธิ์เสน่หา โดย ธิดาดิน
ต้องฤทธิ์เสน่หา
โดย ธิดาดิน
แจ้งข่าวจ้า ตอนนี้นิยายเรื่องต้องฤทธิ์เสน่หา (ฉบับเต็มไม่ตัดแม้แต่ฉากเดียว) วางจำหน่ายแล้วในราคา 279 บาท วางที่ร้านนายอินทร์ ร้ายซีเอ็ด ร้านบีทูเอส ทุกสาขา ช่องทางการสั่งซื้อด้านล่างนี้เลยจ้า
ตีพิมพ์กับ สนพ. อินเลิฟ ปกด้านล่างนี้เลยจ้า
ช่องทางการสั่งซื้อ
วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคาเล่มละ 279 บาท
1. จำหน่ายที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ ร้านนายอินทร์ ร้านซีเอ็ด ร้าน b2s
2.โทรสั่งซื้อกับสำนักพิมพ์ส่งตรงถึงบ้าน ที่เบอร์ โทร. 02-930-3119 และ 02-930-3120
(วัน จ.-ศ. เวลา 9.00-18.00 น.) ยกเว้นวันหยุดทำการ
3.ที่เว็บไซด์อินเลิฟ ใครเป็นสมาชิกลด 20% สั่งซื้อได้ที่ http://www.inlove-book.com/book/1246
4. สั่งซื้อผ่าน facebook >>คลิกที่นี่<<แจ้งข่าวจ้า ตอนนี้นิยายเรื่องต้องฤทธิ์เสน่หา (ฉบับเต็มไม่ตัดแม้แต่ฉากเดียว) วางจำหน่ายแล้วในราคา 279 บาท วางที่ร้านนายอินทร์ ร้ายซีเอ็ด ร้านบีทูเอส ทุกสาขา ช่องทางการสั่งซื้อด้านล่างนี้เลยจ้า ปกอยู่ด้านบนจ้า
ตีพิมพ์กับ สนพ. อินเลิฟ
ช่องทางการสั่งซื้อ
วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคาเล่มละ 279 บาท
1. จำหน่ายที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ ร้านนายอินทร์ ร้านซีเอ็ด ร้าน b2s
2.โทรสั่งซื้อกับสำนักพิมพ์ส่งตรงถึงบ้าน ที่เบอร์ โทร. 02-930-3119 และ 02-930-3120
(วัน จ.-ศ. เวลา 9.00-18.00 น.) ยกเว้นวันหยุดทำการ
3.ที่เว็บไซด์อินเลิฟ ใครเป็นสมาชิกลด 20% สั่งซื้อได้ที่ http://www.inlove-book.com/book/1246
4. สั่งซื้อผ่าน facebook >>คลิกที่นี่<<
เป็นแพทย์มาก็หลายปี แต่ใครจะคิดว่าเขาจะมาตบะแตกเพียงเพราะได้ตรวจภายในของผู้หญิงคนนั้น…เธอผู้ทำให้คุณหมอผู้วางตัวเหมาะสมกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการอย่างไม่น่าเชื่อ
แนะนำตัวละคร
คริสโตเฟอร์ คอลเวลล์สัน
แพทย์สูติ-นรีเวช จอมทะเล้น ผู้มีหน้าตาเป็นอาวุธ หล่อ รวย ระดับมหาเศรษฐีหมื่นล้าน เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนเบอร์หนึ่งในสหรัฐอเมริกา แถมยังมีสาขาในต่างประเทศอีกมากมาย
ปิ่นมุก วิเศษวัฒนากุล
สาวไทยวัย 28 ปี ผู้มีต้นทุนชีวิตต่ำ บินข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลถึงอเมริกาเพื่อตามหาความฝัน แต่ไม่รู้ว่าโชคไม่เข้าข้างหรือเทวดากลั่นแกล้ง เธอกำลังจะกลายเป็นนางเอกหนังโป๊ในอีกไม่ช้านี้
.........................................................................................
นิยายเรื่องนี้เป็นแนวรักโรแมนติก คอมเมดี้ เน้น หื่นๆ ฮาๆ รั่วๆ ฟินจิกหมอน แอบงอนและง้อ มีดรามาผสมเล็กน้อยที่สำคัญมีกลิ่นอายของโรมานต์รวมอยู่ด้วยจ้า
โดย ธิดาดิน
แจ้งข่าวจ้า ตอนนี้นิยายเรื่องต้องฤทธิ์เสน่หา (ฉบับเต็มไม่ตัดแม้แต่ฉากเดียว) วางจำหน่ายแล้วในราคา 279 บาท วางที่ร้านนายอินทร์ ร้ายซีเอ็ด ร้านบีทูเอส ทุกสาขา ช่องทางการสั่งซื้อด้านล่างนี้เลยจ้า
ตีพิมพ์กับ สนพ. อินเลิฟ ปกด้านล่างนี้เลยจ้า
ช่องทางการสั่งซื้อ
วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคาเล่มละ 279 บาท
1. จำหน่ายที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ ร้านนายอินทร์ ร้านซีเอ็ด ร้าน b2s
2.โทรสั่งซื้อกับสำนักพิมพ์ส่งตรงถึงบ้าน ที่เบอร์ โทร. 02-930-3119 และ 02-930-3120
(วัน จ.-ศ. เวลา 9.00-18.00 น.) ยกเว้นวันหยุดทำการ
3.ที่เว็บไซด์อินเลิฟ ใครเป็นสมาชิกลด 20% สั่งซื้อได้ที่ http://www.inlove-book.com/book/1246
4. สั่งซื้อผ่าน facebook >>คลิกที่นี่<<แจ้งข่าวจ้า ตอนนี้นิยายเรื่องต้องฤทธิ์เสน่หา (ฉบับเต็มไม่ตัดแม้แต่ฉากเดียว) วางจำหน่ายแล้วในราคา 279 บาท วางที่ร้านนายอินทร์ ร้ายซีเอ็ด ร้านบีทูเอส ทุกสาขา ช่องทางการสั่งซื้อด้านล่างนี้เลยจ้า ปกอยู่ด้านบนจ้า
ตีพิมพ์กับ สนพ. อินเลิฟ
ช่องทางการสั่งซื้อ
วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคาเล่มละ 279 บาท
1. จำหน่ายที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ ร้านนายอินทร์ ร้านซีเอ็ด ร้าน b2s
2.โทรสั่งซื้อกับสำนักพิมพ์ส่งตรงถึงบ้าน ที่เบอร์ โทร. 02-930-3119 และ 02-930-3120
(วัน จ.-ศ. เวลา 9.00-18.00 น.) ยกเว้นวันหยุดทำการ
3.ที่เว็บไซด์อินเลิฟ ใครเป็นสมาชิกลด 20% สั่งซื้อได้ที่ http://www.inlove-book.com/book/1246
4. สั่งซื้อผ่าน facebook >>คลิกที่นี่<<
เป็นแพทย์มาก็หลายปี แต่ใครจะคิดว่าเขาจะมาตบะแตกเพียงเพราะได้ตรวจภายในของผู้หญิงคนนั้น…เธอผู้ทำให้คุณหมอผู้วางตัวเหมาะสมกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการอย่างไม่น่าเชื่อ
แนะนำตัวละคร
คริสโตเฟอร์ คอลเวลล์สัน
แพทย์สูติ-นรีเวช จอมทะเล้น ผู้มีหน้าตาเป็นอาวุธ หล่อ รวย ระดับมหาเศรษฐีหมื่นล้าน เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนเบอร์หนึ่งในสหรัฐอเมริกา แถมยังมีสาขาในต่างประเทศอีกมากมาย
ปิ่นมุก วิเศษวัฒนากุล
สาวไทยวัย 28 ปี ผู้มีต้นทุนชีวิตต่ำ บินข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลถึงอเมริกาเพื่อตามหาความฝัน แต่ไม่รู้ว่าโชคไม่เข้าข้างหรือเทวดากลั่นแกล้ง เธอกำลังจะกลายเป็นนางเอกหนังโป๊ในอีกไม่ช้านี้
.........................................................................................
นิยายเรื่องนี้เป็นแนวรักโรแมนติก คอมเมดี้ เน้น หื่นๆ ฮาๆ รั่วๆ ฟินจิกหมอน แอบงอนและง้อ มีดรามาผสมเล็กน้อยที่สำคัญมีกลิ่นอายของโรมานต์รวมอยู่ด้วยจ้า
Tags: รัก,โรแมนติก,รักเพื่อน,เข้มข้น,หวาน,แรง,นิยาย,ซึ้ง,แอบรัก,ซึ้ง
ตอน: ตอนที่ 7 ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก
ตอนที่ 7 ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก
นมหรือลูกมะพร้าวเล่าคนดี ใหญ่กว่าหัวของพี่อีกรู้ไหม
ยามน้องเดินไม่หัวทิ่มบ้างหรือไร จะพกมาทำไมมากมายจัง
หรือตากฝนทนหนาวเจ้าปอดบวม อกเลยท้วมบวมใหญ่ไซด์ฝรั่ง
หรือให้ผึ้งต่อยเพิ่มไซด์ใหญ่อลังฯ อยากบอกจังฟังให้ชัด ‘รักคนนมโต’
"จากคุณหมอผู้น่ารัก"
เสียงหัวเราะของสองหนุ่มดังขึ้นลั่นห้องหลังจากอ่านข้อความบนกระดาษที่พึ่งรับมาจากคริสโตเฟอร์ ซึ่งเป็นคนเดียวที่ดูจะไม่รู้สึกตลกขบขำไปกับเพื่อนทั้งสองด้วย นอกจากที่จะไม่ขำไปด้วยแล้ว เขาก็ยังรู้สึกเซ็งจิตอย่างบอกไม่ถูกอีกต่างหาก
“พวกแกจะตลกอะไรกันนักหนาวะ”
คริสโตเฟอร์ถามอย่างไม่เข้าใจอารมณ์ของนิรันดร์และริคคาร์โด้ สองเพื่อนซี้ที่กำลังหัวเราะชักดิ้นชักงอหลังจากอ่านบทกลอนที่เขาเป็นคนแต่งส่งไปจีบหญิง แต่ถูกตีกลับคืน
“กูถามจริงๆเถอะ มึงใช้สมองหรือใช้หัวโป๊เท้าคิด ถึงแต่งกลอนลามกจกเปรตแบบนั้นไปจีบหญิง ดีแค่ไหนแล้วที่เธอแค่ส่งกระดาษที่สลักกลอนอุบาทของแกกลับคืนมาเฉยๆ ถ้ากูเป็นคุณมุกจะตามมาตบปากแกด้วย”
“นั่นน่ะสิ ตอนแต่งกลอนเนี่ยแกเมากาว เมาเหล้าหรือเปล่าวะพ่อกวีอัปรีย์แห่งยุค เกิดมาก็พึ่งเคยพบเคยเห็นแต่งกลอนจีบหญิง ขึ้นต้นกลอนซะน่าถีบกระเด็นเชียว ‘นมหรือลูกมะพร้าวเล่าคนดี ใหญ่กว่าหัวของพี่อีกรู้ไหม’ ฮ่าๆๆ ช่างเปรียบเปรยดีแท้พ่อคุณ” นิรันดร์ทำท่าล้อเลียนก่อนหัวเราะ เผื่อแผ่รอยยิ้มมาให้ริคคาร์โด้ได้ขำจนเจ็บไส้เจ็บพุงอีกคน
“ขึ้นต้นได้น่าถีบ แถมตอนจบก็น่าตบซะด้วยนะ ‘หรือให้ผึ้งต่อยเพิ่มไซด์ใหญ่อลังฯ อยากบอกจังฟังให้ชัด รักคนนมโต’ ฮ่าๆๆ”
ริคคาร์โด้หนุ่มอเมริกันแท้ๆแต่พอรู้ภาษาไทยอยู่บ้างเพราะมีเพื่อนซี้เป็นลูกครึ่งไทยและไทยแท้ๆประสมโรงไปอีกคนยิ่งทำให้เสียงหัวเราะของทั้งสองหนุ่มดังขึ้นอึกทึกครึกโครม ส่วนคนที่ไม่ขำด้วยยืนมองเพื่อนตาเขียว
“ถ้าพวกแกยังไม่หุบปาก ไม่ใครก็ใครได้ไปนอนโรง’บาลแน่ๆ”
คริสโตเฟอร์ไม่ได้แค่ขู่ เหลียวหาอะไรก็ได้ที่อยู่ใกล้มือมาใช้ยัดปากเพื่อนตัวแสบทั้งสองให้หุบปากโดยเร็วที่สุด ซึ่งมันได้ผลเกินคาดทั้งนิรันดร์และริคคาร์โด้ยกมือขึ้นปิดปากหากก็ยังมีรอยยิ้มเบ่งบานบนใบหน้าเด่นชัด
ริคคาร์โด้หรือที่เพื่อนๆเรียกว่า ‘ริค’ จนติดปากลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินตรงมาตบไหล่เพื่อถามเรื่องที่ค้างคาใจ “กูถามจริงๆนะไอ้คริส แกคิดอะไรอยู่ถึงแต่งกลอนแบบนั้นส่งไปให้คุณมุก”
ถ้าไม่รู้จักกับคริสโตเฟอร์มาก่อน เขาคงคิดว่าไอ้ผู้ชายหน้าหล่อระดับพระเอกที่ยืนอยู่เบื้องหน้านี้มันคงไม่เคยจีบหญิงมาก่อนแน่ๆ หรือไม่มันก็คงทั้งซื่อ ทั้งบื้อ ทั้งโง่ ถึงได้แต่งกลอนแนวเรท 18+ ที่ไม่ว่าเขาจะอ่านกี่ครั้งมันก็ขำยิ่งกว่ามุกของตลกสามช่าส่งไปจีบหญิง ล้านเปอร์เซ็นเลยว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนบนโลกนี้ที่จะประทับใจบทกลอนนั้นแน่ๆ คงจะมีแต่อารมณ์อยากกระทืบคนแต่งซะมากกว่า
“ก็มึงบอกเองไม่ใช่เหรอแบงค์ว่าสวยมักนก ตลกมักได้ กูก็แต่งกลอนตลกๆไปจีบเธอตามที่มึงแนะนำไง อีกอย่างกูก็อยากทำให้เธออารมณ์ดี ได้หัวเราะบ้างขำบ้าง เพราะวันๆเวลาเธอเห็นหน้ากูก็ชอบตีหน้าดุเป็นหมาพันธุ์ลอตไวเลอร์ใส่อยู่เรื่อย”
คริสโตเฟอร์วิจารณ์ ‘หญิงที่หลงรัก’ ไปตามบุคลิกของเธอที่มักจะทำหน้าดุเวลาเจอหน้าเขา ตั้งแต่ที่เขาขอเธอแต่งงานในวันนั้นก็ไม่ได้เห็นรอยยิ้มของเธออีกเลย กลอนบทนี้เขาก็ตั้งใจแต่งส่งไปให้เธอด้วยคาดหวังว่าเธอจะยิ้มได้หัวเราะได้ แต่เขาก็พึ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าตัวเองคิดผิดถนัด
“แต่มึงลืมไปหรือเปล่าว่าตัวเองกำลังตามง้อตามจีบเธออยู่” นิรันดร์หนุ่มสายเลือดไทยแท้เตือนสติเพื่อนรัก “มึงเล่นแต่งกลอนไปล้อเลียนสรีระของเธอแบบนั้น เธอคงจะหันมามองหรอก”
“น้ำหยดลงหินทุกวันมันยังกร่อน ใจอ่อนอ่อนจะไม่สั่นหวั่นไหวหรือ
นมเล็กๆหมอยังทำให้ใหญ่ด้วยมือ พี่ก็จะตามตื้อจนได้ใจ”
ในขณะที่คริสโตเฟอร์ร่ายกลอนให้กำลังใจตัวเอง สองเพื่อนซี้ก็หันสบตากันพลางส่ายหน้า เชื่อแล้วล่ะว่าไอ้เพื่อนตัวดีมันเหมาะกับฉายา ‘นักกวีอัปรีย์แห่งยุคจริงๆ’
“ตอนนี้กูรู้แล้วว่าคุณมุกทำงานในบริษัทจิวเวลรี่ที่กูเคยร่วมงานด้วยมาก่อน กูก็จะใช้โอกาสนี้ใกล้ชิดเธออีกครั้ง” คริสโตเฟอร์เปรยยิ้มเจ้าเล่ห์หลังจากมองเห็นโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับปิ่นมุก
“หมายความว่ายังไงวะ”
“มึงก็รู้บีดีจิวเวลรี่เขาติดต่อให้กูออกแบบอัญมณีให้มานานแล้ว แต่กูก็ไม่ได้ตอบรับสักทีนับตั้งแต่ที่กูมาเป็นแพทย์ แต่คราวนี้กูจะตอบรับคำขอและออกแบบอัญมณีให้กับบีดีจิวเวลรี่ไงล่ะ”
“เจ๋งวะใช้เหตุผลเรื่องงานบังหน้า เยี่ยมเลยเพื่อนกู”
ไม่เพียงแค่เพื่อนซี้ของผู้ส่งกลอนรักเท่านั้นที่หัวเราะจนชักดิ้นชักงอ แต่เพื่อนสนิทของของผู้รับก็หัวเราะจนท้องแข็งไปเช่นกัน เสียงหัวเราะของสองสาวดังสนั่นห้องทำงาน อย่างไม่คิดจะรักษาภาพพจน์ของกุลสตรีศรีสยาม นี่ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในชุดทำงานจะล้มลงไปนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้นให้รู้แล้วรู้รอด
คนเดียวที่ไม่ขำด้วยก็คือแม่หมาลอตไวเลอร์ของคริสโตเฟอร์ นั่งตีหน้าทะมึนตึงมองสองเพื่อนสาวที่หัวเราะติดต่อกันมานานหลายนาทีอย่างไม่สบอารมณ์ แต่คนที่ทำให้เธออารมณ์ไม่ดีไม่ใช่เพื่อนตัวแสบทั้งสองนี้หรอกนะ แต่เป็นเจ้าของบทกลอนบ้าๆบอๆที่ส่งมาให้เธอนั่นต่างหาก
ปิ่นมุกเชื่อเหลือเกินว่าคนที่กำลังหัวเราะเพราะเรื่องนี้ไม่ใช่มีแค่เพียงมณีอินทร์กับลอร่าแน่ๆ แต่ต้องมีคนที่สาม คนที่สี่ คนที่ห้า หรือไม่ก็พนักงานทุกคนในบริษัทแห่งนี้ เพราะบทกลอนบ้าๆที่ระบุชื่อผู้รับว่าปิ่นมุกไม่ได้ส่งมาให้เธอโดยตรง แต่กระดาษใบนั้นไปติดอยู่กลางบอร์ดประชาสัมพันธ์ของบริษัท แล้วมันก็ไม่ใช่แค่เพียงแผ่นเล็กๆ แต่มันมีขนาดเท่ากระดาษเอสี่! แถมทุกตัวอักษรยังทำเป็นตัวใหญ่เน้นตัวหนา โดยเฉพาะตรงชื่อของเธอ!
“นมหรือลูกมะพร้าวเล่าคนดี ใหญ่กว่าหัวของพี่อีกรู้ไหม ฮ่าๆๆ มันเป็นกลอนที่เลอค่าที่สุดเท่าที่ฉันเคยอ่านมา ยกให้เป็นกลอนรักแห่งปีไปเลย” มณีอินทร์ยังลอยหน้าลอยตาชื่นชมกลอนที่ทำให้เพื่อนของตัวเองแทบจะเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนี
“นั่นน่ะสิยัยอิน ถึงฉันจะไม่ใช่คนไทยแต่ก็พอรู้ว่ากลอนบทนี้มันไพเราะมาก ฉันชอบประโยคนี้มากที่สุด ‘ยามน้องเดินไม่หัวทิ่มบ้างหรือไร จะพกมาทำไมมากมายจัง’ ฮ่าๆๆ” เอ่ยกลอนที่จำได้ขึ้นใจแม้จะอ่านแค่ไม่กี่รอบ พลางเหลือบไปหาผู้หญิงที่อยู่ในบทกลอน “ว่าไงมุก หัวแกเคยทิ่มบ้างไหมเวลาแกเดิน”
“นี่พวกแกยังมีอารมณ์มาแซวฉันอีกนะ แกรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันทั้งเครียดทั้งอายจนไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว” ปานนี้เรื่องบทกลอนบ้าๆที่ถูกส่งมาให้เธอคงกลายเป็นเรื่องท็อกออฟเดอะทาวน์ของพนักงานในบริษัทให้เมาส์มอยกันสนุกปากไปแล้ว
มณีอินทร์เดินไปนั่งลงที่หน้าโต๊ะทำงานของเพื่อนสนิทแล้วเอ่ยปลอบ “แกจะเครียด แกจะอายทำไมมุก แกควรจะภูมิใจสิถึงจะถูกที่มีหนุ่มตามจีบด้วยบทกลอนที่แสนไพเราะและมีความหมายมากขนาดนั้น แถมเขาก็ทั้งหล่อ ทั้งรวย ทุกคนเขาอิจฉาแกทั้งนั้น”
ปิ่นมุกถอนหายใจแรงๆ นึกแย้งคำพูดเมื่อครู่ว่ามันน่าภูมิใจตรงไหนกับบทกลอนที่แต่งมาเพื่อแซวสรีระบางส่วนของร่างกายเธอ แถมยังไปติดประเจิดประเจ้อไว้หน้าบอร์ดประชาสัมพันธ์อีกต่างหาก แบบนั้นจะเรียกว่า ‘ประจาน’ ก็ไม่น่าจะผิดนัก
“เอาน่า แกอย่าไปคิดอะไรมากให้ปวดหัว มองให้มันเป็นเรื่องขำๆก็ได้ ฉันว่ามันน่ารักดีออก”
“แล้วนี่แกจะไม่คิดใจอ่อนพิจารณาเจ้าของบทกลอนดีเด่นแห่งปีของฉันเลยเหรอ”
“โอ๊ย! ยัยลอร่า แกช่างกล้าไปถามนางแบบนั้นนะ ตั้งแต่เราคบกับนางมาเนี่ยเคยเห็นผู้ชายคนไหนพิชิตใจนางได้หรือยังซักคน ฉันก็ไม่เข้าใจว่าจะเลือกเยอะไปไหน ทั้งๆที่คนที่เข้ามาจีบนางเนี่ยหน้าตาแต่ละคนก็ระดับพระเอกหนังพระเอกละครทั้งกันนั้น ฐานะ ชาติตระกูลของแต่ละคนก็ระดับบิ๊กๆ แต่นางก็ say no แจกแห้วไปให้หนุ่มๆกินกันเป็นแถว สงสัยว่าชาตินี้นางจะถือครองพรหมจรรย์ เก็บซิงไว้ชิงโชคละมั้ง”
ตั้งหน้าตั้งตาทำงานได้ไม่ทันไรก็ต้องหันมองโทรศัพท์ที่กำลังส่งเสียงกรีดร้องดังลั่น แต่เพียงเห็นเบอร์ที่โชว์เด่นอยู่หน้าจอก็ทำเอาชายหนุ่มถึงกับวางเมาส์รีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจูบที่หน้าจอด้วยความดีใจราวกับถูกล็อตเตอร์รี่รางวัลที่หนึ่งก็ไม่ปาน ก่อนจะรีบกดรับแล้วทักทายปลายสายด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานผิดปกติ
“สวัสดีครับคุณมุก แสดงว่าเราสองคนนี่ใจสื่อถึงกันได้นะครับ ผมกำลังคิดถึงคุณมุก คุณมุกก็โทรมาหาผมพอดี ใจตรงกันเป๊ะเว่อร์”
เสียงของคริสโตเฟอร์ทำให้นิรันดร์หูผึ่งรีบวางเมาส์ลุกขึ้นเดินมาที่โต๊ะทำงานของคนที่กำลังคุยโทรศัพท์ด้วยความสนใจ ไม่เว้นแม้แต่ริคคาร์โด้ที่กำลังนั่งดูรูปสาวๆก็ยังลงทุนเลิกดูเดินมาที่โต๊ะของคริสโตเฟอร์พร้อมกับเงี่ยหูฟังจนแนบชิดกับด้านหลังโทรศัพท์มือถือของคริสโตเฟอร์ที่กำลังถือสนทนาอยู่
คริสโตเฟอร์เหล่ตามองเพื่อนทั้งสองด้วยความหมั่นไส้ “ถ้าจะมาฟังใกล้ขนาดนี้ทำไมไม่เข้าสิงในโทรศัพท์เลยล่ะ หรือไม่ก็บอกให้กูเปิดลำโพงให้ก็ได้นะ จะได้ไม่ต้องลำบากขนาดนี้ ไอ้เพื่อนมหาจำเริญ”
“เอาสิๆ เปิดลำโพงหน่อย กูเมื่อยคอ” คนสอดรู้สอดเห็นยังมีหน้าสนับสนุนความคิดของเพื่อนหน้าตาเฉย ไม่รู้เลยว่านั่นเป็นการประชด ทำเอาคนประชดได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา
“ตอนนี้คุณอยู่ไหนคะ” ปิ่นมุกถามขึ้นโดยไม่สนขนมหวานที่ชายหนุ่มหยอดผ่านสายเลยแม้แต่น้อย
“อยู่โรงพยาบาลครับ คุณมุกมีอะไรหรือเปล่าหรือว่าจะชวนผมไปออกเดรทที่ไหน ผมว่างเสมอสำหรับคุณมุก” คิดเองเออเองยิ้มเอง มีความสุขที่ได้หยอดนิดหยอดหน่อย ไม่ได้สนใจเสียงถอนหายใจของคู่สนทนาที่จงใจให้ฝ่ายนี้ได้ยิน
“คุณว่างไหมละคะ ถ้าว่างก็ออกมาพบฉันหน่อย มีธุระจะคุยด้วย”
คริสโตเฟอร์กระโดดโลดเต้นดีใจเหมือนลิงโลด ไม่คิดไม่ฝันว่าปิ่นมุกจะโทรมาชวนเขาไปออกเดท นี่แสดงว่าความเพียรพยายามที่เฝ้าอุตส่าห์ตามจีบเธอเช้าตามจีบเธอเย็นกำลังส่งผลแล้วสินะ ในที่สุดเธอก็ตาสว่างมองเห็นคุณค่าในตัวของเขาบ้างแล้ว
“ได้สิครับ จะให้ผมไปเจอที่ไหน”
ปิ่นมุกบอกชื่อร้านที่จะนัดให้คริสโตเฟอร์ไปพบ ก่อนวางสายไป ร้านที่ว่าเป็นร้านอาหารที่เขาเคยพาเธอไปทานก่อนหน้านี้ บรรยากาศก็โรแมนติกใช้ได้ นั่นยิ่งสนับสนุนให้คริสโตเฟอร์เข้าใจว่าปิ่นมุกนัดเขาไปออกเดทจริงๆ ปริมาณความสุขเพิ่มพูนคูณทวีเมื่อจินตนาการถึงภาพของเขาและเธอนั่งมองตาในร้านอาหารท่ามกลางบรรยากาศที่แสนโรแมนติก
นมหรือลูกมะพร้าวเล่าคนดี ใหญ่กว่าหัวของพี่อีกรู้ไหม
ยามน้องเดินไม่หัวทิ่มบ้างหรือไร จะพกมาทำไมมากมายจัง
หรือตากฝนทนหนาวเจ้าปอดบวม อกเลยท้วมบวมใหญ่ไซด์ฝรั่ง
หรือให้ผึ้งต่อยเพิ่มไซด์ใหญ่อลังฯ อยากบอกจังฟังให้ชัด ‘รักคนนมโต’
"จากคุณหมอผู้น่ารัก"
เสียงหัวเราะของสองหนุ่มดังขึ้นลั่นห้องหลังจากอ่านข้อความบนกระดาษที่พึ่งรับมาจากคริสโตเฟอร์ ซึ่งเป็นคนเดียวที่ดูจะไม่รู้สึกตลกขบขำไปกับเพื่อนทั้งสองด้วย นอกจากที่จะไม่ขำไปด้วยแล้ว เขาก็ยังรู้สึกเซ็งจิตอย่างบอกไม่ถูกอีกต่างหาก
“พวกแกจะตลกอะไรกันนักหนาวะ”
คริสโตเฟอร์ถามอย่างไม่เข้าใจอารมณ์ของนิรันดร์และริคคาร์โด้ สองเพื่อนซี้ที่กำลังหัวเราะชักดิ้นชักงอหลังจากอ่านบทกลอนที่เขาเป็นคนแต่งส่งไปจีบหญิง แต่ถูกตีกลับคืน
“กูถามจริงๆเถอะ มึงใช้สมองหรือใช้หัวโป๊เท้าคิด ถึงแต่งกลอนลามกจกเปรตแบบนั้นไปจีบหญิง ดีแค่ไหนแล้วที่เธอแค่ส่งกระดาษที่สลักกลอนอุบาทของแกกลับคืนมาเฉยๆ ถ้ากูเป็นคุณมุกจะตามมาตบปากแกด้วย”
“นั่นน่ะสิ ตอนแต่งกลอนเนี่ยแกเมากาว เมาเหล้าหรือเปล่าวะพ่อกวีอัปรีย์แห่งยุค เกิดมาก็พึ่งเคยพบเคยเห็นแต่งกลอนจีบหญิง ขึ้นต้นกลอนซะน่าถีบกระเด็นเชียว ‘นมหรือลูกมะพร้าวเล่าคนดี ใหญ่กว่าหัวของพี่อีกรู้ไหม’ ฮ่าๆๆ ช่างเปรียบเปรยดีแท้พ่อคุณ” นิรันดร์ทำท่าล้อเลียนก่อนหัวเราะ เผื่อแผ่รอยยิ้มมาให้ริคคาร์โด้ได้ขำจนเจ็บไส้เจ็บพุงอีกคน
“ขึ้นต้นได้น่าถีบ แถมตอนจบก็น่าตบซะด้วยนะ ‘หรือให้ผึ้งต่อยเพิ่มไซด์ใหญ่อลังฯ อยากบอกจังฟังให้ชัด รักคนนมโต’ ฮ่าๆๆ”
ริคคาร์โด้หนุ่มอเมริกันแท้ๆแต่พอรู้ภาษาไทยอยู่บ้างเพราะมีเพื่อนซี้เป็นลูกครึ่งไทยและไทยแท้ๆประสมโรงไปอีกคนยิ่งทำให้เสียงหัวเราะของทั้งสองหนุ่มดังขึ้นอึกทึกครึกโครม ส่วนคนที่ไม่ขำด้วยยืนมองเพื่อนตาเขียว
“ถ้าพวกแกยังไม่หุบปาก ไม่ใครก็ใครได้ไปนอนโรง’บาลแน่ๆ”
คริสโตเฟอร์ไม่ได้แค่ขู่ เหลียวหาอะไรก็ได้ที่อยู่ใกล้มือมาใช้ยัดปากเพื่อนตัวแสบทั้งสองให้หุบปากโดยเร็วที่สุด ซึ่งมันได้ผลเกินคาดทั้งนิรันดร์และริคคาร์โด้ยกมือขึ้นปิดปากหากก็ยังมีรอยยิ้มเบ่งบานบนใบหน้าเด่นชัด
ริคคาร์โด้หรือที่เพื่อนๆเรียกว่า ‘ริค’ จนติดปากลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินตรงมาตบไหล่เพื่อถามเรื่องที่ค้างคาใจ “กูถามจริงๆนะไอ้คริส แกคิดอะไรอยู่ถึงแต่งกลอนแบบนั้นส่งไปให้คุณมุก”
ถ้าไม่รู้จักกับคริสโตเฟอร์มาก่อน เขาคงคิดว่าไอ้ผู้ชายหน้าหล่อระดับพระเอกที่ยืนอยู่เบื้องหน้านี้มันคงไม่เคยจีบหญิงมาก่อนแน่ๆ หรือไม่มันก็คงทั้งซื่อ ทั้งบื้อ ทั้งโง่ ถึงได้แต่งกลอนแนวเรท 18+ ที่ไม่ว่าเขาจะอ่านกี่ครั้งมันก็ขำยิ่งกว่ามุกของตลกสามช่าส่งไปจีบหญิง ล้านเปอร์เซ็นเลยว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนบนโลกนี้ที่จะประทับใจบทกลอนนั้นแน่ๆ คงจะมีแต่อารมณ์อยากกระทืบคนแต่งซะมากกว่า
“ก็มึงบอกเองไม่ใช่เหรอแบงค์ว่าสวยมักนก ตลกมักได้ กูก็แต่งกลอนตลกๆไปจีบเธอตามที่มึงแนะนำไง อีกอย่างกูก็อยากทำให้เธออารมณ์ดี ได้หัวเราะบ้างขำบ้าง เพราะวันๆเวลาเธอเห็นหน้ากูก็ชอบตีหน้าดุเป็นหมาพันธุ์ลอตไวเลอร์ใส่อยู่เรื่อย”
คริสโตเฟอร์วิจารณ์ ‘หญิงที่หลงรัก’ ไปตามบุคลิกของเธอที่มักจะทำหน้าดุเวลาเจอหน้าเขา ตั้งแต่ที่เขาขอเธอแต่งงานในวันนั้นก็ไม่ได้เห็นรอยยิ้มของเธออีกเลย กลอนบทนี้เขาก็ตั้งใจแต่งส่งไปให้เธอด้วยคาดหวังว่าเธอจะยิ้มได้หัวเราะได้ แต่เขาก็พึ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าตัวเองคิดผิดถนัด
“แต่มึงลืมไปหรือเปล่าว่าตัวเองกำลังตามง้อตามจีบเธออยู่” นิรันดร์หนุ่มสายเลือดไทยแท้เตือนสติเพื่อนรัก “มึงเล่นแต่งกลอนไปล้อเลียนสรีระของเธอแบบนั้น เธอคงจะหันมามองหรอก”
“น้ำหยดลงหินทุกวันมันยังกร่อน ใจอ่อนอ่อนจะไม่สั่นหวั่นไหวหรือ
นมเล็กๆหมอยังทำให้ใหญ่ด้วยมือ พี่ก็จะตามตื้อจนได้ใจ”
ในขณะที่คริสโตเฟอร์ร่ายกลอนให้กำลังใจตัวเอง สองเพื่อนซี้ก็หันสบตากันพลางส่ายหน้า เชื่อแล้วล่ะว่าไอ้เพื่อนตัวดีมันเหมาะกับฉายา ‘นักกวีอัปรีย์แห่งยุคจริงๆ’
“ตอนนี้กูรู้แล้วว่าคุณมุกทำงานในบริษัทจิวเวลรี่ที่กูเคยร่วมงานด้วยมาก่อน กูก็จะใช้โอกาสนี้ใกล้ชิดเธออีกครั้ง” คริสโตเฟอร์เปรยยิ้มเจ้าเล่ห์หลังจากมองเห็นโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับปิ่นมุก
“หมายความว่ายังไงวะ”
“มึงก็รู้บีดีจิวเวลรี่เขาติดต่อให้กูออกแบบอัญมณีให้มานานแล้ว แต่กูก็ไม่ได้ตอบรับสักทีนับตั้งแต่ที่กูมาเป็นแพทย์ แต่คราวนี้กูจะตอบรับคำขอและออกแบบอัญมณีให้กับบีดีจิวเวลรี่ไงล่ะ”
“เจ๋งวะใช้เหตุผลเรื่องงานบังหน้า เยี่ยมเลยเพื่อนกู”
ไม่เพียงแค่เพื่อนซี้ของผู้ส่งกลอนรักเท่านั้นที่หัวเราะจนชักดิ้นชักงอ แต่เพื่อนสนิทของของผู้รับก็หัวเราะจนท้องแข็งไปเช่นกัน เสียงหัวเราะของสองสาวดังสนั่นห้องทำงาน อย่างไม่คิดจะรักษาภาพพจน์ของกุลสตรีศรีสยาม นี่ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในชุดทำงานจะล้มลงไปนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้นให้รู้แล้วรู้รอด
คนเดียวที่ไม่ขำด้วยก็คือแม่หมาลอตไวเลอร์ของคริสโตเฟอร์ นั่งตีหน้าทะมึนตึงมองสองเพื่อนสาวที่หัวเราะติดต่อกันมานานหลายนาทีอย่างไม่สบอารมณ์ แต่คนที่ทำให้เธออารมณ์ไม่ดีไม่ใช่เพื่อนตัวแสบทั้งสองนี้หรอกนะ แต่เป็นเจ้าของบทกลอนบ้าๆบอๆที่ส่งมาให้เธอนั่นต่างหาก
ปิ่นมุกเชื่อเหลือเกินว่าคนที่กำลังหัวเราะเพราะเรื่องนี้ไม่ใช่มีแค่เพียงมณีอินทร์กับลอร่าแน่ๆ แต่ต้องมีคนที่สาม คนที่สี่ คนที่ห้า หรือไม่ก็พนักงานทุกคนในบริษัทแห่งนี้ เพราะบทกลอนบ้าๆที่ระบุชื่อผู้รับว่าปิ่นมุกไม่ได้ส่งมาให้เธอโดยตรง แต่กระดาษใบนั้นไปติดอยู่กลางบอร์ดประชาสัมพันธ์ของบริษัท แล้วมันก็ไม่ใช่แค่เพียงแผ่นเล็กๆ แต่มันมีขนาดเท่ากระดาษเอสี่! แถมทุกตัวอักษรยังทำเป็นตัวใหญ่เน้นตัวหนา โดยเฉพาะตรงชื่อของเธอ!
“นมหรือลูกมะพร้าวเล่าคนดี ใหญ่กว่าหัวของพี่อีกรู้ไหม ฮ่าๆๆ มันเป็นกลอนที่เลอค่าที่สุดเท่าที่ฉันเคยอ่านมา ยกให้เป็นกลอนรักแห่งปีไปเลย” มณีอินทร์ยังลอยหน้าลอยตาชื่นชมกลอนที่ทำให้เพื่อนของตัวเองแทบจะเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนี
“นั่นน่ะสิยัยอิน ถึงฉันจะไม่ใช่คนไทยแต่ก็พอรู้ว่ากลอนบทนี้มันไพเราะมาก ฉันชอบประโยคนี้มากที่สุด ‘ยามน้องเดินไม่หัวทิ่มบ้างหรือไร จะพกมาทำไมมากมายจัง’ ฮ่าๆๆ” เอ่ยกลอนที่จำได้ขึ้นใจแม้จะอ่านแค่ไม่กี่รอบ พลางเหลือบไปหาผู้หญิงที่อยู่ในบทกลอน “ว่าไงมุก หัวแกเคยทิ่มบ้างไหมเวลาแกเดิน”
“นี่พวกแกยังมีอารมณ์มาแซวฉันอีกนะ แกรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันทั้งเครียดทั้งอายจนไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว” ปานนี้เรื่องบทกลอนบ้าๆที่ถูกส่งมาให้เธอคงกลายเป็นเรื่องท็อกออฟเดอะทาวน์ของพนักงานในบริษัทให้เมาส์มอยกันสนุกปากไปแล้ว
มณีอินทร์เดินไปนั่งลงที่หน้าโต๊ะทำงานของเพื่อนสนิทแล้วเอ่ยปลอบ “แกจะเครียด แกจะอายทำไมมุก แกควรจะภูมิใจสิถึงจะถูกที่มีหนุ่มตามจีบด้วยบทกลอนที่แสนไพเราะและมีความหมายมากขนาดนั้น แถมเขาก็ทั้งหล่อ ทั้งรวย ทุกคนเขาอิจฉาแกทั้งนั้น”
ปิ่นมุกถอนหายใจแรงๆ นึกแย้งคำพูดเมื่อครู่ว่ามันน่าภูมิใจตรงไหนกับบทกลอนที่แต่งมาเพื่อแซวสรีระบางส่วนของร่างกายเธอ แถมยังไปติดประเจิดประเจ้อไว้หน้าบอร์ดประชาสัมพันธ์อีกต่างหาก แบบนั้นจะเรียกว่า ‘ประจาน’ ก็ไม่น่าจะผิดนัก
“เอาน่า แกอย่าไปคิดอะไรมากให้ปวดหัว มองให้มันเป็นเรื่องขำๆก็ได้ ฉันว่ามันน่ารักดีออก”
“แล้วนี่แกจะไม่คิดใจอ่อนพิจารณาเจ้าของบทกลอนดีเด่นแห่งปีของฉันเลยเหรอ”
“โอ๊ย! ยัยลอร่า แกช่างกล้าไปถามนางแบบนั้นนะ ตั้งแต่เราคบกับนางมาเนี่ยเคยเห็นผู้ชายคนไหนพิชิตใจนางได้หรือยังซักคน ฉันก็ไม่เข้าใจว่าจะเลือกเยอะไปไหน ทั้งๆที่คนที่เข้ามาจีบนางเนี่ยหน้าตาแต่ละคนก็ระดับพระเอกหนังพระเอกละครทั้งกันนั้น ฐานะ ชาติตระกูลของแต่ละคนก็ระดับบิ๊กๆ แต่นางก็ say no แจกแห้วไปให้หนุ่มๆกินกันเป็นแถว สงสัยว่าชาตินี้นางจะถือครองพรหมจรรย์ เก็บซิงไว้ชิงโชคละมั้ง”
ตั้งหน้าตั้งตาทำงานได้ไม่ทันไรก็ต้องหันมองโทรศัพท์ที่กำลังส่งเสียงกรีดร้องดังลั่น แต่เพียงเห็นเบอร์ที่โชว์เด่นอยู่หน้าจอก็ทำเอาชายหนุ่มถึงกับวางเมาส์รีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจูบที่หน้าจอด้วยความดีใจราวกับถูกล็อตเตอร์รี่รางวัลที่หนึ่งก็ไม่ปาน ก่อนจะรีบกดรับแล้วทักทายปลายสายด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานผิดปกติ
“สวัสดีครับคุณมุก แสดงว่าเราสองคนนี่ใจสื่อถึงกันได้นะครับ ผมกำลังคิดถึงคุณมุก คุณมุกก็โทรมาหาผมพอดี ใจตรงกันเป๊ะเว่อร์”
เสียงของคริสโตเฟอร์ทำให้นิรันดร์หูผึ่งรีบวางเมาส์ลุกขึ้นเดินมาที่โต๊ะทำงานของคนที่กำลังคุยโทรศัพท์ด้วยความสนใจ ไม่เว้นแม้แต่ริคคาร์โด้ที่กำลังนั่งดูรูปสาวๆก็ยังลงทุนเลิกดูเดินมาที่โต๊ะของคริสโตเฟอร์พร้อมกับเงี่ยหูฟังจนแนบชิดกับด้านหลังโทรศัพท์มือถือของคริสโตเฟอร์ที่กำลังถือสนทนาอยู่
คริสโตเฟอร์เหล่ตามองเพื่อนทั้งสองด้วยความหมั่นไส้ “ถ้าจะมาฟังใกล้ขนาดนี้ทำไมไม่เข้าสิงในโทรศัพท์เลยล่ะ หรือไม่ก็บอกให้กูเปิดลำโพงให้ก็ได้นะ จะได้ไม่ต้องลำบากขนาดนี้ ไอ้เพื่อนมหาจำเริญ”
“เอาสิๆ เปิดลำโพงหน่อย กูเมื่อยคอ” คนสอดรู้สอดเห็นยังมีหน้าสนับสนุนความคิดของเพื่อนหน้าตาเฉย ไม่รู้เลยว่านั่นเป็นการประชด ทำเอาคนประชดได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา
“ตอนนี้คุณอยู่ไหนคะ” ปิ่นมุกถามขึ้นโดยไม่สนขนมหวานที่ชายหนุ่มหยอดผ่านสายเลยแม้แต่น้อย
“อยู่โรงพยาบาลครับ คุณมุกมีอะไรหรือเปล่าหรือว่าจะชวนผมไปออกเดรทที่ไหน ผมว่างเสมอสำหรับคุณมุก” คิดเองเออเองยิ้มเอง มีความสุขที่ได้หยอดนิดหยอดหน่อย ไม่ได้สนใจเสียงถอนหายใจของคู่สนทนาที่จงใจให้ฝ่ายนี้ได้ยิน
“คุณว่างไหมละคะ ถ้าว่างก็ออกมาพบฉันหน่อย มีธุระจะคุยด้วย”
คริสโตเฟอร์กระโดดโลดเต้นดีใจเหมือนลิงโลด ไม่คิดไม่ฝันว่าปิ่นมุกจะโทรมาชวนเขาไปออกเดท นี่แสดงว่าความเพียรพยายามที่เฝ้าอุตส่าห์ตามจีบเธอเช้าตามจีบเธอเย็นกำลังส่งผลแล้วสินะ ในที่สุดเธอก็ตาสว่างมองเห็นคุณค่าในตัวของเขาบ้างแล้ว
“ได้สิครับ จะให้ผมไปเจอที่ไหน”
ปิ่นมุกบอกชื่อร้านที่จะนัดให้คริสโตเฟอร์ไปพบ ก่อนวางสายไป ร้านที่ว่าเป็นร้านอาหารที่เขาเคยพาเธอไปทานก่อนหน้านี้ บรรยากาศก็โรแมนติกใช้ได้ นั่นยิ่งสนับสนุนให้คริสโตเฟอร์เข้าใจว่าปิ่นมุกนัดเขาไปออกเดทจริงๆ ปริมาณความสุขเพิ่มพูนคูณทวีเมื่อจินตนาการถึงภาพของเขาและเธอนั่งมองตาในร้านอาหารท่ามกลางบรรยากาศที่แสนโรแมนติก
ธิดาดิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 ก.ย. 2558, 09:36:32 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 ก.ย. 2558, 09:36:32 น.
จำนวนการเข้าชม : 3729
<< ตอนที่ 6 เมื่อถึงกาลเปลี่ยนแปลง 100% | ตอนที่ 7 ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก 100% >> |