รักครั้งใหม่ ใจดวงเดิม
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทที่ 5
บทที่ 5
เพราะไม่สบาย เหมือนดาวจึงได้อภิสิทธิ์กินข้าวบนห้องนอนได้ โดยมีป้าน้อมยกอาหารมาให้ทั้งสามมื้อ
ตลอดวันนั้น เหมือนดาวไม่ได้เห็นหน้าพสุธาเลยนับตั้งแต่ได้ยินเสียงเขาคุยกับเพื่อนที่เป็นหมอ มารู้ภายหลังว่าชายหนุ่มออกไปทำงานกว่าจะกลับบ้านก็เกือบค่ำจากคำบอกของป้าน้อมเมื่อยกอาหารมื้อเย็นมาให้
คืนนั้น ด้วยพิษไข้และฤทธิ์ยาเหมือนดาวจึงหลับสนิท วันรุ่งขึ้นเมื่อตื่นขึ้นมาอย่างกระปรี้กระเปร่าจึงคิดจะลงไปกินข้าวเช้าที่ห้องอาหาร แต่หลังจากอาบน้ำชำระร่างกายก็เจอป้าน้อมที่เปิดประตูห้องเข้ามา
“อ้าว! คุณดาว ตื่นนานแล้วเหรอคะ”
“ค่ะ นี่ดาวก็กำลังจะลงไปข้างล่างพอดี”
“จะลงไปทำไมคะ มากินข้าวเถอะค่ะ เช้านี้ป้าตุ๋นไข่มาให้คิดว่าคุณคงเบื่อข้าวต้มเต็มทีแล้ว”
“ดาวก็ตั้งใจจะลงไปกินข้าวนั่นล่ะค่ะ เกรงใจ...เมื่อวานป้าน้อมต้องยกข้าวมาให้ดาวถึงในห้อง ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเลย”
เหมือนดาวบอกตามความรู้สึก ก่อนยิ้มตอบเมื่อแม่บ้านใหญ่หันมายิ้มให้หลังจากวางถาดใส่อาหารบนโต๊ะเล็กข้างหัวเตียง
“ไม่ต้องเกรงใจค่ะ ป้าเต็มใจทำ อีกอย่างคุณดินก็สั่งนักสั่งหนาว่าให้ดูแลคุณให้ดี”
“เขาบอกแบบนั้นหรือคะ”
เหมือนดาวนิ่วหน้าอย่างแปลกใจ แทบเชื่อไม่ลงว่าเจ้าของบ้านจอมโหดจะมีน้ำใจกับเธอ ถ้าไม่ได้ยินคำยืนยัน
“ค่ะ เช้านี้ก่อนไปทำงานคุณดินยังถามป้าเลยว่าคุณเป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นหรือยัง”
เพราะนึกไม่ถึงเหมือนดาวจึงเอาแต่ยืนนิ่ง ขณะที่ป้าน้อมกำชับเรื่องยาที่ต้องกินหลังอาหารก่อนเดินออกไปจากห้อง
ทว่า ตกดึกคืนนั้นเหมือนดาวก็ฝันร้ายอีก เมื่อตื่นขึ้นมาพร้อมคราบน้ำตาเธอก็รู้สึกว่าไม่ได้อยู่เพียงลำพัง
กำลังจะร้องขอความช่วยเหลือ เงาดำตะคุ่มตรงปลายเตียงก็กระโจนมาถึงตัวแล้วตะปบปิดปากของเธอเอาไว้
“ฉันเอง”
เหมือนดาวค่อยหายใจสั่นเมื่อได้ยินน้ำเสียงดุ ๆ ที่เริ่มคุ้นชิน แต่ยังอดนึกเคืองไม่ได้จนตั้งคำถามเสียงขุ่นเมื่อปากเป็นอิสระ
“คุณเข้ามาในห้องฉันทำไม!”
“ก็ฉันได้ยินเธอร้องโวยวาย เลยทนไม่ได้ต้องมาดูให้แน่ใจว่าไม่มีใครกำลังจะตายในบ้านของฉัน”
เหมือนดาวอึ้งงันกับคำตอบที่ได้ ก่อนพยายามทบทวนความฝันก่อนหน้านี้
คลับคล้ายคลับคลาว่าเธอเห็นคล้ายเดือน เพียงแต่ครั้งนี้มีบางอย่างแปลกไป
“แล้วเป็นอะไรถึงได้ร้องซะดังลั่น”
คำถามของคนหน้าดุทำให้เหมือนดาวต้องดึงตัวเองออกมาจากภวังค์ จากที่คิดจะไม่บอกแต่พอถูกกดดันจากสายตาที่จับจ้อง เธอจึงจำใจตอบตามจริง
“ฉัน...ฝันร้าย”
ได้ยินเสียงถอนหายใจจากคนข้าง ๆ และนั่นทำให้เหมือนดาวเพิ่งสำนึกถึงความใกล้ชิด แต่ก็ช้าเกินไป
จูบเบา ๆ ที่เหมือนหยั่งเชิงนั้นมาอย่างรวดเร็วและแสนสั้นจนเหมือนดาวต้องใช้เวลาอีกครู่กว่าจะหายงง เมื่อกำลังคิดจะต่อว่าเธอก็ถูกพสุธาดึงตัวไปจูบอีกครั้ง แต่ครั้งนี้หนักหน่วงและยาวนานจนเกือบหายใจไม่ออก
“ค่าเช่าบ้านสองวัน”
คนถูกจูบทำตาโตกับคำบอกง่าย ๆ ของคนหน้านิ่งที่กำลังทำท่าจะขยับตัวออกไปจากเตียง
“คุณ!”
เหมือนดาวจนคำพูดเมื่อพสุธาหันมาเลิกคิ้วข้างหนึ่งแทนคำถาม
เธอจะไปว่าอะไรเขาหรือ ในเมื่อนี่เป็นข้อตกลงที่เธอยอมแลกกับการเข้ามาอยู่ในบ้านของเขาเอง
ความสับสนทำให้เหมือนดาวได้แต่นิ่งซึ่งเท่ากับเปิดโอกาสให้พสุธาเดินออกไปจากห้อง
หลังจากนั้น เธอก็ไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้อีกเลย
วันรุ่งขึ้น เมื่อเหมือนดาวลงมาข้างล่างเพื่อร่วมรับประทานอาหารเช้าเธอก็ได้พบกับใครคนหนึ่ง
“เดือน!”
เหมือนดาวชะงักเมื่อใครคนนั้นปราดเข้ามาหาด้วยท่าทางตื่นเต้น ก่อนจับมือของเธอขึ้นมาเขย่า
“เดือนจริง ๆ ด้วย”
ราวกับพสุธาไม่อาจทนฟังชื่อของอดีตภรรยา เมื่อแทรกขึ้นมาจากที่นั่งตรงหัวโต๊ะด้วยน้ำเสียงกระด้าง
“คนนี้ชื่อเหมือนดาว”
เหมือนดาวเห็นความตกใจระคนไม่อยากเชื่อในแววตาของหญิงสาวที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้า ก่อนที่เธอจะถูกตั้งคำถาม
“เธอ...เป็นแฝดของเดือน อย่างที่ป้าน้อมบอกจริง ๆ หรือ”
คำบอกนั้นทำให้เหมือนดาวนึกเดาว่าป้าน้อมกับหญิงสาวคนนี้ คงสนิทสนมกันไม่น้อย
“ค่ะ”
“ไม่อยากจะเชื่อเลย ฉันก็พอรู้ว่าเดือนมีฝาแฝดแต่ที่ผ่านมาไม่มีใครพูดถึง เลยคิด...”
“คิดว่าฉันตายไปแล้วใช่ไหมคะ”
เหมือนดาวแทรกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แล้วก็เห็นว่าอีกฝ่ายมีอาการชะงักงันราวกับนึกไม่ถึง
“เปล่า ก็แค่...ไม่คิดว่าจะได้เจอกันเพราะที่ผ่านมาเดือนไม่เคยพูดถึง”
“คงเพราะตั้งแต่คุณแม่เสียไปเมื่อพวกเราอายุสามขวบ แล้วเดือนถูกพวกญาติพาไปเลี้ยง คุณป้าก็ไม่อยากติดต่อด้วยเพราะเท่าที่รู้ท่านไม่ค่อยชอบญาติฝั่งคุณพ่อนัก”
เหมือนดาวบอก และหญิงสาวตรงหน้าก็ถือโอกาสนั้นแนะนำตัวว่าชื่อปลายฟ้าก่อนชี้แจงว่าแม่ของเธอก็คือญาติฝั่งพ่อที่พูดถึงเมื่อครู่ และเป็นคนรับคล้ายเดือนไปเลี้ยงดูจึงทำให้ทั้งคู่เติบโตมาด้วยกัน
สองสาวคุยกันอีกสักพัก กระทั่งถูกขัดจังหวะจากเจ้าของบ้าน
“จะคุยกันอีกนานไหม เช้านี้ผมมีนัดประชุมไม่ใช่หรือปลายฟ้า”
เหมือนดาวนิ่วหน้าเมื่อเห็นอีกฝ่ายขานรับ ก่อนจะเข้าใจในเวลาต่อมา
“ฉันทำงานเป็นเลขาของคุณดิน เมื่อวานพอรู้เรื่องของเธอจากป้าน้อมฉันก็อยากมาดูให้เห็นกับตา”
จบคำบอกนั้นเหมือนดาวก็ถูกปลายฟ้าดึงมือให้ตามเข้าไปนั่งที่โต๊ะอาหาร ราวกับเกรงว่าหากขืนยังชักช้าพสุธาอาจจะระเบิดอารมณ์ออกมาได้
บางที ปลายฟ้าอาจทำให้เธอรู้สาเหตุที่พสุธาชิงชังคล้ายเดือน
เหมือนดาวบอกกับตัวเองอย่างเริ่มมีความหวัง
เพียงแต่...
เพราะเอาแต่จมอยู่กับความคิดของตน เหมือนดาวจึงไม่ทันเห็นและรู้สึกว่า...
ใครคนหนึ่งที่อยู่ภายในห้องนั้น ก็กำลังลอบมองเธอด้วยแววตาครุ่นคิดไม่ต่างกัน
-----------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับ LIKE ที่มอบให้กันค่ะ
เพราะไม่สบาย เหมือนดาวจึงได้อภิสิทธิ์กินข้าวบนห้องนอนได้ โดยมีป้าน้อมยกอาหารมาให้ทั้งสามมื้อ
ตลอดวันนั้น เหมือนดาวไม่ได้เห็นหน้าพสุธาเลยนับตั้งแต่ได้ยินเสียงเขาคุยกับเพื่อนที่เป็นหมอ มารู้ภายหลังว่าชายหนุ่มออกไปทำงานกว่าจะกลับบ้านก็เกือบค่ำจากคำบอกของป้าน้อมเมื่อยกอาหารมื้อเย็นมาให้
คืนนั้น ด้วยพิษไข้และฤทธิ์ยาเหมือนดาวจึงหลับสนิท วันรุ่งขึ้นเมื่อตื่นขึ้นมาอย่างกระปรี้กระเปร่าจึงคิดจะลงไปกินข้าวเช้าที่ห้องอาหาร แต่หลังจากอาบน้ำชำระร่างกายก็เจอป้าน้อมที่เปิดประตูห้องเข้ามา
“อ้าว! คุณดาว ตื่นนานแล้วเหรอคะ”
“ค่ะ นี่ดาวก็กำลังจะลงไปข้างล่างพอดี”
“จะลงไปทำไมคะ มากินข้าวเถอะค่ะ เช้านี้ป้าตุ๋นไข่มาให้คิดว่าคุณคงเบื่อข้าวต้มเต็มทีแล้ว”
“ดาวก็ตั้งใจจะลงไปกินข้าวนั่นล่ะค่ะ เกรงใจ...เมื่อวานป้าน้อมต้องยกข้าวมาให้ดาวถึงในห้อง ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเลย”
เหมือนดาวบอกตามความรู้สึก ก่อนยิ้มตอบเมื่อแม่บ้านใหญ่หันมายิ้มให้หลังจากวางถาดใส่อาหารบนโต๊ะเล็กข้างหัวเตียง
“ไม่ต้องเกรงใจค่ะ ป้าเต็มใจทำ อีกอย่างคุณดินก็สั่งนักสั่งหนาว่าให้ดูแลคุณให้ดี”
“เขาบอกแบบนั้นหรือคะ”
เหมือนดาวนิ่วหน้าอย่างแปลกใจ แทบเชื่อไม่ลงว่าเจ้าของบ้านจอมโหดจะมีน้ำใจกับเธอ ถ้าไม่ได้ยินคำยืนยัน
“ค่ะ เช้านี้ก่อนไปทำงานคุณดินยังถามป้าเลยว่าคุณเป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นหรือยัง”
เพราะนึกไม่ถึงเหมือนดาวจึงเอาแต่ยืนนิ่ง ขณะที่ป้าน้อมกำชับเรื่องยาที่ต้องกินหลังอาหารก่อนเดินออกไปจากห้อง
ทว่า ตกดึกคืนนั้นเหมือนดาวก็ฝันร้ายอีก เมื่อตื่นขึ้นมาพร้อมคราบน้ำตาเธอก็รู้สึกว่าไม่ได้อยู่เพียงลำพัง
กำลังจะร้องขอความช่วยเหลือ เงาดำตะคุ่มตรงปลายเตียงก็กระโจนมาถึงตัวแล้วตะปบปิดปากของเธอเอาไว้
“ฉันเอง”
เหมือนดาวค่อยหายใจสั่นเมื่อได้ยินน้ำเสียงดุ ๆ ที่เริ่มคุ้นชิน แต่ยังอดนึกเคืองไม่ได้จนตั้งคำถามเสียงขุ่นเมื่อปากเป็นอิสระ
“คุณเข้ามาในห้องฉันทำไม!”
“ก็ฉันได้ยินเธอร้องโวยวาย เลยทนไม่ได้ต้องมาดูให้แน่ใจว่าไม่มีใครกำลังจะตายในบ้านของฉัน”
เหมือนดาวอึ้งงันกับคำตอบที่ได้ ก่อนพยายามทบทวนความฝันก่อนหน้านี้
คลับคล้ายคลับคลาว่าเธอเห็นคล้ายเดือน เพียงแต่ครั้งนี้มีบางอย่างแปลกไป
“แล้วเป็นอะไรถึงได้ร้องซะดังลั่น”
คำถามของคนหน้าดุทำให้เหมือนดาวต้องดึงตัวเองออกมาจากภวังค์ จากที่คิดจะไม่บอกแต่พอถูกกดดันจากสายตาที่จับจ้อง เธอจึงจำใจตอบตามจริง
“ฉัน...ฝันร้าย”
ได้ยินเสียงถอนหายใจจากคนข้าง ๆ และนั่นทำให้เหมือนดาวเพิ่งสำนึกถึงความใกล้ชิด แต่ก็ช้าเกินไป
จูบเบา ๆ ที่เหมือนหยั่งเชิงนั้นมาอย่างรวดเร็วและแสนสั้นจนเหมือนดาวต้องใช้เวลาอีกครู่กว่าจะหายงง เมื่อกำลังคิดจะต่อว่าเธอก็ถูกพสุธาดึงตัวไปจูบอีกครั้ง แต่ครั้งนี้หนักหน่วงและยาวนานจนเกือบหายใจไม่ออก
“ค่าเช่าบ้านสองวัน”
คนถูกจูบทำตาโตกับคำบอกง่าย ๆ ของคนหน้านิ่งที่กำลังทำท่าจะขยับตัวออกไปจากเตียง
“คุณ!”
เหมือนดาวจนคำพูดเมื่อพสุธาหันมาเลิกคิ้วข้างหนึ่งแทนคำถาม
เธอจะไปว่าอะไรเขาหรือ ในเมื่อนี่เป็นข้อตกลงที่เธอยอมแลกกับการเข้ามาอยู่ในบ้านของเขาเอง
ความสับสนทำให้เหมือนดาวได้แต่นิ่งซึ่งเท่ากับเปิดโอกาสให้พสุธาเดินออกไปจากห้อง
หลังจากนั้น เธอก็ไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้อีกเลย
วันรุ่งขึ้น เมื่อเหมือนดาวลงมาข้างล่างเพื่อร่วมรับประทานอาหารเช้าเธอก็ได้พบกับใครคนหนึ่ง
“เดือน!”
เหมือนดาวชะงักเมื่อใครคนนั้นปราดเข้ามาหาด้วยท่าทางตื่นเต้น ก่อนจับมือของเธอขึ้นมาเขย่า
“เดือนจริง ๆ ด้วย”
ราวกับพสุธาไม่อาจทนฟังชื่อของอดีตภรรยา เมื่อแทรกขึ้นมาจากที่นั่งตรงหัวโต๊ะด้วยน้ำเสียงกระด้าง
“คนนี้ชื่อเหมือนดาว”
เหมือนดาวเห็นความตกใจระคนไม่อยากเชื่อในแววตาของหญิงสาวที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้า ก่อนที่เธอจะถูกตั้งคำถาม
“เธอ...เป็นแฝดของเดือน อย่างที่ป้าน้อมบอกจริง ๆ หรือ”
คำบอกนั้นทำให้เหมือนดาวนึกเดาว่าป้าน้อมกับหญิงสาวคนนี้ คงสนิทสนมกันไม่น้อย
“ค่ะ”
“ไม่อยากจะเชื่อเลย ฉันก็พอรู้ว่าเดือนมีฝาแฝดแต่ที่ผ่านมาไม่มีใครพูดถึง เลยคิด...”
“คิดว่าฉันตายไปแล้วใช่ไหมคะ”
เหมือนดาวแทรกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แล้วก็เห็นว่าอีกฝ่ายมีอาการชะงักงันราวกับนึกไม่ถึง
“เปล่า ก็แค่...ไม่คิดว่าจะได้เจอกันเพราะที่ผ่านมาเดือนไม่เคยพูดถึง”
“คงเพราะตั้งแต่คุณแม่เสียไปเมื่อพวกเราอายุสามขวบ แล้วเดือนถูกพวกญาติพาไปเลี้ยง คุณป้าก็ไม่อยากติดต่อด้วยเพราะเท่าที่รู้ท่านไม่ค่อยชอบญาติฝั่งคุณพ่อนัก”
เหมือนดาวบอก และหญิงสาวตรงหน้าก็ถือโอกาสนั้นแนะนำตัวว่าชื่อปลายฟ้าก่อนชี้แจงว่าแม่ของเธอก็คือญาติฝั่งพ่อที่พูดถึงเมื่อครู่ และเป็นคนรับคล้ายเดือนไปเลี้ยงดูจึงทำให้ทั้งคู่เติบโตมาด้วยกัน
สองสาวคุยกันอีกสักพัก กระทั่งถูกขัดจังหวะจากเจ้าของบ้าน
“จะคุยกันอีกนานไหม เช้านี้ผมมีนัดประชุมไม่ใช่หรือปลายฟ้า”
เหมือนดาวนิ่วหน้าเมื่อเห็นอีกฝ่ายขานรับ ก่อนจะเข้าใจในเวลาต่อมา
“ฉันทำงานเป็นเลขาของคุณดิน เมื่อวานพอรู้เรื่องของเธอจากป้าน้อมฉันก็อยากมาดูให้เห็นกับตา”
จบคำบอกนั้นเหมือนดาวก็ถูกปลายฟ้าดึงมือให้ตามเข้าไปนั่งที่โต๊ะอาหาร ราวกับเกรงว่าหากขืนยังชักช้าพสุธาอาจจะระเบิดอารมณ์ออกมาได้
บางที ปลายฟ้าอาจทำให้เธอรู้สาเหตุที่พสุธาชิงชังคล้ายเดือน
เหมือนดาวบอกกับตัวเองอย่างเริ่มมีความหวัง
เพียงแต่...
เพราะเอาแต่จมอยู่กับความคิดของตน เหมือนดาวจึงไม่ทันเห็นและรู้สึกว่า...
ใครคนหนึ่งที่อยู่ภายในห้องนั้น ก็กำลังลอบมองเธอด้วยแววตาครุ่นคิดไม่ต่างกัน
-----------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับ LIKE ที่มอบให้กันค่ะ
กัณฐกา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ก.ย. 2558, 16:06:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ก.ย. 2558, 16:06:02 น.
จำนวนการเข้าชม : 941
<< บทที่ 4 | บทที่ 6 >> |