สมมติว่าเรารักกัน
เมื่อเขาและเธอ ต่างก็คิดว่า เพศตรงข้าม เป็นมาร ขวางความสำเร็จ ความรักหลอกๆ ที่สมมติขึ้นขายผ้าเอาหน้ารอด จะจบลงแบบใด

ติดตามได้ใน สมมติว่าเรารักกัน
Tags: โรแมนติกคอมมาดี้

ตอน: ตอนที่ 3

น้ำตาลมองหน้าชายหนุ่มราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ก่อนจะสะบัดหน้าใส่ หันไปมองทางอื่น ทั้งสามมองดูท่าทางของน้องเล็กด้วยความแปลกใจ ด้วยเธอไม่เคยทำกิริยานี้เลย กับชายคนไหน

จะบอกว่านัทธ์โชคดีหรือโชคร้ายดีล่ะ

สามสาวเห็นว่า ทั้งคู่น่าจะได้คุยกันเป็นการส่วนตัว เลยเดินออกจากห้องซ้อมไป ปล่อยให้ทั้งคู่อยู่กันตามลำพัง ชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะเรียกหล่อนเสียงเบา

“คุณ”

แต่เธอก็ยังเฉย ไม่ยอมตอบโต้หรือขานรับอะไร ชายหนุ่มรู้สึกผิดนิดๆ ที่ไปบอกว่าเธอชอบพระเครื่อง ก็แหม ตอนนั้นเขาก็นึกอะไรไม่ออกนี่วะ

“คุณ ผมขอโทษน่ะ”

แต่นัทธ์ก็เอ่ยขอโทษเธอออกมา เขาเดินวนไปวนมาอยู่ข้างหลังหล่อน ไม่กล้าจะพูดอะไรมากกว่านี้ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะตอบเขา กะทิก็เดินเข้ามาเรียกทั้งสอง

“คุณนัทธ์ น้ำตาล ป๋าเรียก”

“โอยย เรียกอีกแล้วเหรอเนี่ย วันนึงแกจะเรียกเราไปพบกี่รอบกัน”

ชายหนุ่มโอดครวญ แต่ก็ยอมเข้าไปพบท่านบรรพตแต่โดยดี และพบว่า คราวนี้ เขาไม่ได้เขาพบท่านเพียงสองคนกับน้ำตาลเหมือนเคย เพราะสมาชิกวงทั้งหมดก็รวมอยู่ในห้องด้วย

“เอาละ ทุกคน วันนี้เราก็ได้รับรู้แล้วว่า เกิดอะไรขึ้นกับบริษัทเรา จริงๆเรื่องแบบนี้ มันก็เกิดขึ้นได้กับทุกคน บางที บริษัทอื่นเขาก็ทำเป็นเรื่องปกตินะ เกี่ยวกับการโปรโมตนักร้องแบบนี้ แต่ป๋าไม่ชอบ เคสน้ำตาลกับนัทธ์ ป๋าจำเป็นจริงๆ ที่จะต้องทำแบบนี้ แล้วก็ไม่รู้ว่า การทำแบบนี้ มันจะได้ผลดีแค่ไหน แต่ป๋าอยากจะขอให้ทุกคน เก็บเรื่องที่เราแต่งเรื่องหลอกนักข่าว ให้รู้กันแค่นี้ จำไว้ว่าคนอื่นในบริษัท ไม่มีใครรู้ความจริง”

“แล้วมันจะจบเมื่อไหร่คะ”

น้ำตาลเอ่ยถามท่านบรรพตเสียงเรียบ นัทธ์หันมามองเธอ

อยากจะเลิกเป็นแฟนกับเขาขนาดนั้นเลยหรือ

“ตอนนี้ป๋ายังตอบไม่ได้หรอกน้ำตาล แต่ป๋าจะพยายามไม่ให้มันยืดเยื้อนะ เอาเป็นว่าเข้าใจตามนี้ ส่วนเรื่องงาน ก็ยังเหมือนเดิม ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ก็แล้วกัน”

ยังไม่ทันที่ทั้งหมดจะออกจากห้อง เลขาท่านบรรพตก็โทรศัพท์เข้ามา

“คุณรุจขอเข้าพบค่ะท่าน”

“บอกว่าฉันติดธุระ รอแป๊บนึงแล้วกัน”

ท่านวางสาย ก่อนจะหันมาบอกกับหนุ่มสาวที่ยืนอยู่ในที่นั้น

“เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ ป๋ามีแขก ออกไปกันได้”

ทั้งหมดกำลังจะเดินออกไป ชายสูงวัยเรียกบุตรสาวคนเล็กไว้

“หนูเรย์ อย่าเพิ่งไปลูก อยู่กับป๋าก่อน”

ไม่มีใครสังเกตว่า เรย์สีหน้าเปลี่ยนไป ทันทีที่ได้ยินชื่อชายหนุ่มที่มาขอพบ

“ต้องไปซ้อมเต้นต่อ”

“ซ้อมเต้นเมื่อไหร่ก็ได้ พี่รุจเขามาทั้งที ก็คุยกับพี่เขาหน่อย ทำเหมือนไม่รู้จักกันไปได้”

“ไม่ค่ะ ยังไง งานวันเกิดป๋า พี่รุจเขาก็ต้องไปอยู่แล้ว เรย์ไปก่อนนะคะ”

พูดจบเธอก็ลากเพื่อนออกมาอย่างรวดเร็วโดยไม่ให้บิดาฉุดรั้งเธอไว้ได้อีก ท่านบรรพตถอนหายใจพลางส่ายหน้า

ทำไมท่านจะไม่รู้ว่าบุตรสาวคิดอะไรอยู่

ทันทีที่เปิดประตูออกมา เรยก็ประจันหน้ากับชายหนุ่มที่เธอจะไม่ยอมพบด้วย รุจยิ้มให้ ก่อนจะเอ่ยทักทาย

“หนูเรย์ เป็นไงคะ จะออกซิงเกิลใหม่แล้ว”

“ก็ดีค่ะ”

หญิงสาวตอบสั้นๆ ก่อนจะขอตัว

“เรย์ไปซ้อมเต้นก่อนนะคะพี่รุจ สวัสดีค่ะ”

รุจมองตามหลังหญิงสาวไป ยืนนิ่งอยู่ครู่นึง นี่เรย์จะไม่ยอมคุยอะไรยาวๆกับเขาเลยเหรอเนี่ย ทั้งๆ ที่เขาก็พยายามมานานแล้ว เธอกลัวอะไรของเธอกัน

แยกจากวงหนุ่มๆมาแล้ว เหลือเพียงสี่สาวตามลำพังในห้องซ้อม แคลกอดอก มองเพื่อนอย่างไม่ชอบใจ

“เธอจะหนีอะไร เรย์”

“เปล่านี่ ไม่ได้หนี”

เรย์ทำไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนจะลุกขึ้นเปิดเพลงแล้วซ้อมเต้น แคลก็ยังเดินไปปิด

“อย่าโกหก เกือบสิบปีที่เรารู้จักกันมา ฉันมั่นใจว่าเธอต้องคิดอะไรกับเพื่อนพี่ชายคนนั้น”

ยังไม่ทันพูดจบ เรย์ก็ตวาดเสียงลั่น

“อย่าพูดแบบนั้นนะแคล มันไม่ใช่”

“ทำไมจะไม่ใช่ เธอชอบเขา หรือรักเขาดีล่ะ”

กะทิเห็นท่าไม่ดี จึงรีบห้ามทัพ

“เฮ้ย ใจเย็นๆ น่า อย่าทะเลาะกัน”

น้ำตาลเห็นพี่ๆ มีปากเสียงกันก็ใจไม่ดี ลืมเรื่องของตัวเองไว้ชั่วคราว

“ใจเย็นๆนะคะพี่เรย์ พี่แคล”

ไม่มีใครคาดคิด เมื่อเรย์นั่งลง กอดเข่า และก้มหน้าร้องไห้

“เฮ้ย เรย์"

แคลและกะทิพูดขึ้นพร้อมกัน

“ใจเย็นๆ สิ แล้วคราวหลังก็อย่าหนีเขา หนีเขาก็เจ็บ ไม่หนีก็เจ็บ แล้วแบบนี้จะหนีทำไม”

“ฉันทำใจไม่ได้ แคล ฉันทนมองหน้าเขา หรืออยู่ใกล้เขาไม่ได้ เขามีคนของเขาแล้ว เขาแต่งงานแล้วนะแคล”

“แล้วไงล่ะ ได้ข่าวว่าหย่ามาพักนึงแล้วนี่”

แคลพูดด้วยน้ำเสียงไม่รู้ไม่ชี้

“แต่พี่แพรเป็นคนที่ฉันรู้จัก ฉันทำไม่ได้”

เรย์เอ่ยถึงอดีตภรรยาของรุจ

“แล้วไงล่ะ ก็เขาหย่ากันแล้ว ตอนนี้พี่รุจของเธอก็โสด สนิท ฉันดูท่าทางเขา รู้ว่าเขาก็สนใจเธอนะ เธอทำได้ทุกอย่างนะเรย์ เก่งทุกอย่าง มีความสามารถ แต่ทำไมเธอถึงแพ้ความรักล่ะ”

คำของเพื่อนทำให้เรย์สับสน ในชีวิตเธอ ไม่เคยมีอะไรที่ทำให้เธอรู้สึกแย่ได้เท่านี้
เธอชอบเขา เพื่อนพี่ชายคนนี้ รักด้วยไหม เธอเองก็ไม่อาจตัดเขาออกจากใจได้มานานแล้ว

แล้วนี่เธอจะทำยังไงกับความรักนี้ดี ??


นัทธ์ขยับเสื้อแจ๊คเกตให้เข้าที่อีกครั้ง ก่อนจะเตรียมตัวลงจากรถพร้อมกับน้องๆในวง วันนี้เขาได้รับเชิญมางานเลี้ยงวันเกิดของท่านประธานบริษัท ท่านบรรพตเชิญเฉพาะแขกไม่เยอะมาก แต่ก็เต็มสนามหญ้าหน้าบ้านของท่านไปหมด

“พี่นัทธ์ คนเยอะมากเลยอ่ะ นี่ขนาดบอกจัดเล็กๆ นะเนี่ย”

เวย์ชวนหัวหน้าวงของเขาคุย ก่อนจะเดินเข้าไปในงาน พวกเขาตื่นเต้นกันมาก เพราะแขกที่มาในงาน ล้วนเป็นดารานักร้องในสังกัดของบริษัท เมื่อเห็นชายหนุ่ม พวกเขาก็ยิ้มให้แล้วก็เอ่ยทักพร้อมกับตั้งคำถามที่ทำเอาเขางง

“ว่าไงนัทธ์ วันนี้เตรียมอะไรมาให้น้ำตาลหรือเปล่า เขาจะขึ้นโชว์บนเวทีนา”

“หา อ้อ ครับ เตรียมมาสิครับ แฟนโชว์ทั้งที”

ชายหนุ่มตอบไวเท่าความคิด

ยัยน้ำตาลนี่ช่างกระไร ไม่ได้เตี๊ยมไม่ได้บอกเขาเลย ว่าวันนี้จะโชว์บนเวที แล้วนี่เขาจะไปหาอะไรให้เธอล่ะเนี่ย นัทธืหยุดความคิดลงเมื่อพบท่านบรรพตเดินยิ้มร่าออกมาต้อนรับ

“เอ้า เชิญๆ หนุ่มๆ แหม นึกว่าพวกเธอจะไม่มาซะแล้ว ขอบใจมากๆ”

ไม่มาพวกผมก็คอขาดสิครับท่าน

โชว์หลายโชว์ผ่านไปด้วยดี จวบจนมาถึงการแสดงโชว์ของน้ำตาลและกะทิ เสียงดนตรีดังขึ้น เสียงเรียกฮือฮาจากทุกคนได้เป็นอย่างดี ทั้งสองร่ายรำอย่างงดงามอ่อนช้อยในชุดการแสดงฟ้อนสาวไหม และที่สำคัญ น้ำตาลและกะทิในชัดสาวเหนือนั้น

กระแทกใจชายหนุ่มสองคนเข้าอย่างจัง

เหมือนต้องมนต์สะกด

สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่สองสาวบนเวที

ความงดงามที่ปรากฏ ทำให้คนเบื่อคนสวยอย่างนัทธ์ถึงกับตะลึง

ทำไมความสวยงามที่เขาเคยมองข้ามจากหญิงสาวหลายๆคน ถึงมาสะดุดอยู่ที่เธอนะ น้ำตาล เธอทำเสน่ห์ใช่ไหม เธอร่ายมนต์ทำให้ฉันหลงใหลในรูปของเธอใช่ไหม
รอยยิ้มที่แย้มเยือนนั่น นิ้วที่กรีดกราย ท่าร่ายรำที่อ่อนช้อยงดงาม ดวงตาที่สดใส

คุณยิ้มให้ผมหรือเปล่านะ

ชายหนุ่มเผลอยิ้มออกมา

ไม่มีใครคาดคิด นัทธ์ลุกขึ้นหยิบดอกกุหลาบสีชมพูที่ปักอยู่ในแจกันดอกหนึ่ง เดินตรงไปที่เวที ยื่นมันขึ้นมาให้เธอ

“เขาเอามาให้เธอน่ะ ไปรับสิน้ำตาล”

กะทิกระซิบน้อง ก่อนจะรุนหลังไปให้รับดอกไม้ และนั่นก็ทำให้เสียงกรี๊ดกร๊าดอย่างอิจฉาดังขึ้นระงม

สายตาสองคู่สบกัน หญิงสาวรู้สึกร้อนวูบไปทั้งตัว กับสายตาของเขา

และทั้งสองก็ลงจากเวที กะทิไม่รู้ตัวเองว่า ดอกไม้ที่เหน็บผมของเธอหล่น และมีใครคนนึงซึ่งหลบอยู่ในมุมมืดข้างเวที เก็บมันขึ้นมา เขาสูดกลิ่นดอกไม้นั้นอย่างสนิทเสน่หา และมองไปที่เธอด้วยแววตาหลงใหล

หลังจากลงมาจากเวทีและเปลี่ยนชุดแล้ว สองสาวก็มานั่งโต๊ะเดียวกับชายหนุ่มเพราะทางท่านบรรพตเป็นคนจัดไว้ให้ น้ำตาลรู้สึกร้อนวูบวาบ ไม่กล้ามองหน้านัทธ์

บ้าไปแล้ว ฉันรู้สึกอะไรเนี่ย

เธอรีบปัดความคิดนั้น หันไปสนใจการแสดงบนเวทีชุดสุดท้าย นั่นคือ การแสดงสดเปียโนของเรย์ และไวโอลีนของแคล

เสียงร้องเพลงดังกังวานขึ้น เรย์สวยสง่าในชุดราตรีสีส้ม สายตาทุกคู่จับจ้องที่บุตรสาวคนเล็กของท่านประธานบริษัท และสายตาของใครอีกคนนึง ที่มองดูเธอแสดงอยู่เงียบๆ เธอสวย น่ารัก และร้องเพลงเก่ง รุจรู้สึกหวงขึ้นมานิดๆ เมื่อเห็นชายหนุ่มหลายคนยื่นดอกไม้ให้เธอ

เขาไม่ปฏิเสธหัวใจตัวเองละ ว่าชอบเธอ

ชอบตั้งแต่เห็นเธอวิ่งเล่นกับสุนัขที่สนามหน้าบ้านในชุดนักเรียนด้วยซ้ำ ตอนนั้นเธอยังเด็กมาก และเด็กเกินไป สำหรับเขา เขาเป็นเพื่อนพี่ชายคนโต ที่อายุห่างจากเธอถึง10ปี เขาจำใจต้องแต่งงานกับคนที่พ่อคิดว่าเหมาะสม และในที่สุด เขาและภรรยาก็

ทนกันมาได้แค่5ปี

เขาก็ถูกภรรยาขอหย่า เหตุผลเพียงว่า อยากแต่งงานกับคน ไม่ใช่ซากไม้

น่าขำ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างเขา ชีวิตครอบครัวกลับไม่ประสบความสำเร็จ

ถ้าตอนนี้ เขาจะเริ่มต้นกับเธอ เธอจะยอมคบกับเขาไหมนะ เขาจะแก่เกินไปสำหรับเธอหรือเปล่า เพราะตอนนี้เขาก็จะสี่สิบอยู่แล้ว ส่วนเธอยังแค่20กว่าๆ

หรือว่าเรย์จะไม่ชอบเขา เจอหน้าที่ไร เธอก็หลบตลอด เขาคุยด้วยก็ตอบสั้นๆ
แต่เขาจะไม่ยอมแพ้หรอก หนุ่มใหญ่หมายมาดอยู่ในใจ ฤทธิ์แอลกอฮอล์ ทำให้เขากล้ามากขึ้นกว่าเดิม

หลังจากลงมาจากเวที รุจรีบเดินไปหาเรย์ก่อนที่เธอจะไปนั่งที่โต๊ะ และเริ่มต้นชวนคุยอีกครั้ง

“หนูเรย์คะ เพลงเพราะมากเลยค่ะ”

หญิงสาวรู้สึกตกใจเล็กๆ ที่เจอเขาดักหน้าหล่อน เรย์ยิ้มให้ก่อนจะหยุดคุยกับเขา

“ขอบคุณพี่รุจมากค่ะ ที่ชม ขอบคุณที่วันนี้มางานป๋านะคะ”

รุจมองหญิงสาวตรงหน้าก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มรวดเดียวหมด

“ไม่เป็นไรหรอก ป๋าเรย์ก็เหมือนป๋าพี่”

คำพูดของเขา แม้จะธรรมดา แต่ก็ทำให้เธอรู้สึกหน้าร้อน

“พรุ่งนี้เรย์ว่างหรือเปล่า พี่อยากคุยด้วย”

หนุ่มชายตีตรงจุด เขาจะเริ่มจีบเธอจริงๆแล้ว ไม่ยอมปล่อยเธอไปแน่ๆ

“ก็เรื่องงาน”

เขาตอบสั้นๆ มองเธอไม่วางตา

“พี่เข้าไปคุยกับผู้จัดการวงของเรย์จะสะดวกกว่านะคะ”

“พี่คุยแล้ว”

เขาตอบง่ายๆ

“นะ เรย์ พรุ่งนี้พี่จะไปรอที่บริษัท”

เรย์ก้มหน้าลง รู้สึกเขินอายเป็นกำลัง ในที่สุดเธอก็ตอบตกลง

หลังจากกลับมานั่ง ทุกคนต่างรุมซักเรย์กันเป็นการใหญ่

“ไหนๆ เขาคุยอะไรบ้าง”

“เขาจีบเธอหรือเปล่า”

และอีกมากมายหลายคำถาม ที่ทำให้เรย์เวียนหัว

“เขาก็แค่จะมาคุยเรื่องงานน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”

คำตอบของเธอ ทำเอากะทิและแคลพูดขึ้นพร้อมกัน

“ไม่เชื่อโว้ย”

การสนทนาของสาวๆ ราวกับเป็นการผ่อนคลายของชายหนุ่มทั้งสี่คน นัทธ์แอบมองน้ำตาลยิ้มและหัวเราะไปกับพี่ของเธอ เขาเริ่มสะกดจิตตัวเองอีกแล้ว

เธอสวยจริงๆ

แม้ในตอนนี้ เธอจะไม่ได้อยู่ในชุดสาวเหนือแล้วก็ตาม

เธอสดใส และอ่อนหวานในชุดราตรีสีชมพู ผมยาวสลวยของเธอปล่อยตามความยาว ผิวขาวของเธอ ดูผุดผ่อง งดงาม และเขาคงไม่ได้สะกดจิตตัวเองเพิ่ม เธอ...หอม...มาก การนั่งใกล้ๆ เธอแบบนี้ ทำให้เขาได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆที่เธอใช้ ไม่ได้ฉีดน้ำหอมกันจนหน้ามืดเหมือนสาวคนอื่นๆที่เขาเคยคลุกคลีด้วย

โอย

เขาเริ่มรู้สึกว่า จะชื่นชมกับความงามของเธอมากเกินไปแล้ว

เขาจะทำไงดีเนี่ย

เอาทางพระเข้าข่มคงจะดี

สวยได้ ก็เหี่ยวได้หนอ

หอมได้ ก็เหม็นได้หนอ

ขาวได้ ก็ดำได้หนอ

ในขณะที่นัทธ์ยังนั่งบริกรรมอยู่นั้น มิ้นท์ก็ลุกขึ้น จะเดินออกจากโต๊ะที่นั่ง จูนเห็น

เหมือนมีอะไรร่วงมาจากในอกเสื้อของมือกลองประจำวง

“มิ้นท์ แกทำอะไรตก”

จูนบอกก่อนจะก้มลงมองของสิ่งนั้น แล้วเงยหน้ามองชายหนุ่มผู้อ่อนวัยกว่าอีกครั้ง เสียงของจูน เรียกความสนใจได้จากทุกคน

******************************************************

วี๊ดวิ๊ว แสนดีมาแว้วค่า

ฝนริน
กรี๊ดๆ ตามมาจนได้นะจ้ะ ส่วนตอนแปดมันอนาคต อย่าเพิ่งมาเสะ (อิอิ)

posty
อ่านอีกก็ขำอีก ขำอีกก็อ่านอีกเรื่อยๆนะ

an00
นายนัทธ์มันไม่เหมือนใครหรอกค่ะ ฮ่าๆๆๆ

พี่นุ่น
มาไงเนี่ย อิอิ แล้วจะแวะไปอ่านและคอมเม้นให้กำลังใจจ้า

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาทักทาย อังคารหน้าเจอกันจ้ะ โป๊ะๆ ซารางเฮโย





แสนดี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 ก.ค. 2554, 21:52:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 ก.ค. 2554, 21:53:03 น.

จำนวนการเข้าชม : 1724





<< ตอนที่ 2   ตอนที่ 4 >>
posty 21 ก.ค. 2554, 22:55:06 น.
จูนนนนน นาน ๆ จะมีบมกับเขาซะ คิดถึง
มิ้นกับกระทิคู่น่ารักน่าลุ้นที่สุด


namon 22 ก.ค. 2554, 00:21:43 น.
มาให้กำลังใจน้องแสน ^_^


ภานินี 22 ก.ค. 2554, 02:10:33 น.
เขียนคล่องเชียว สู้ๆ


anOO 22 ก.ค. 2554, 14:43:15 น.
เอ....หนุ่มๆ วงนี้เค้าชอบน้ำตาลมากกว่าหนึ่งคนรึป่าวเนี้ย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account