เล่ห์รักสาวนักพิสูจน์อักษร (ใช้ชื่อนี้ไปก่อนค่ะ)
เล่ห์รัก สาวนักพิสูจน์อักษร
พีระดาสาวน้อยแสนสวยวัยยี่สิบสี่ที่ไม่ได้สวมแว่นตาหนาเตอะ แต่เธอใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นและสวมรองเท้าส้นสูงปรี๊ดแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดมาทำงานเป็นหัวหน้าทีมพิสูจน์อักษรให้กับสำนักพิมพ์นิยายชื่อดังซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวเพราะเรียนจบมาทางด้านนี้โดยตรง เธอเกิดตกหลุมรักนักเขียนหนุ่มเจ้าของนามปากกาเมาคลี ที่เธอได้รับมอบหมายพิสูจน์อักษรให้เขาอยู่บ่อยครั้งจนหลงคิดไปว่าเขาคงเป็นชายหนุ่มใจดีสุดแสนโรแมนติกเหมือนดั่งนิยายรักอันแสนหวานที่เขาเป็นผู้ประพันธ์ผ่านปลายปากกาเอาล่ะถ้าเธอจะเลือกใครมาเป็นแฟนตัวจริงสักทีขอให้ได้เขาคนนี้เถิดสาธุ…
แต่แล้วความเป็นจริงมันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อภาคินัยเป็นผู้ชายโมโหร้าย เอาแต่ใจ และมือไวเป็นที่หนึ่งเขารู้มาจากเพื่อนซี้ที่ทำงานวาดภาพปกนิยายว่ามีหญิงสาวแอบคลั่งไคล้เขาเอามากๆ ชายหนุ่มจินตนาการไปถึงใบหน้าแสนเฉิ่มและยิ้มหยันประกาศสียงดังว่าแม่สาวนักพิสูจน์อักษรแสนเฉิ่มแบบนั้นเขาไม่มีวันสนใจและเธอคงไม่มีวันได้แอ่มเขาอย่างแน่นอนแม้แต่ขาอ่อนขาวๆ ของเขาเธอก็คงไม่มีวันได้เห็น
แต่คำพูดทั้งหมดนั้นมันบังเอิญไปเข้าสองหูของพีระดา หญิงสาวควันออกหูภาพพระเอกในใจของเขาถูกลดเกรดให้เป็นเพียงตัวร้ายในทันที ให้ตายเถอะชาตินี้เธอสาบานเลยว่าจะต้องพาเขาขึ้นเตียงกับเธอให้ได้จากนั้นก็จะเขี่ยเขาลงจากเตียงน้ำตาของนายภาคินัยจะต้องเช็ดหัวเข่า
ภาคินัยเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆ เขามันเป็นคาสโนว่าตัวร้ายที่ไม่ค่อยจะมีใครรู้นักว่าอีกด้านหนึ่งเขาเป็นนักเขียนชื่อดัง เขาใช้ประสบการณ์ในการร่วมรักกับสาวๆ หลายคนซึ่งพวกหล่อนเต็มใจ แล้วนำประสบการณ์มาบรรยายในบทเลิฟซีนที่เขาเขียนจนนักอ่านบางคนนั้นติดอกติดใจเคลิบเคลิ้มไปกับแต่ละฉากแต่ละตอนและที่สำคัญมันแทบจะไม่เคยซ้ำกันเลย
แต่แล้วเมื่อวันหนึ่งหัวใจของเขามันแทบจะหยุดเต้นเมื่อเพื่อนสนิทชวนไปดูงานแฟชั่นโชว์ซึ่งเขาไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ เขาพบนางแบบสาวคนสวยดาวดวงใหม่ประดับวงการเธอช่างน่ารักถูกใจเขาจนคิดอยากจะจีบเธอเอามาเป็นคู่ชีวิตจริงๆ ให้ตายถ้าทำได้เขาอยากจะอุ้มเธอลงมาจากแคตวอล์กและไปขึ้นเตียงของเขาเสียเดี๋ยวนี้เลย( ที่สำคัญเธอคงไม่รู้หรอกว่าเขาเคยเห็นเธอครั้งหนึ่งแล้วเมื่อสองปีก่อนที่ขายร้านขายรองเท้าแบรนด์ดังถึงกับเอาเธอมาจินตนาการเป็นนางเอกในนิยายเล่มแรกของเขา)
ชายหนุ่มดีใจจนเนื้อเต้นเมื่อจู่ๆหญิงสาวที่แอบหมายปองก็พาตัวมาสนิทกับเขาจนภาคินัยเห็นสวรรค์รอยู่รำไรข้างหน้า แต่แล้วเขาก็ต้องเจ็บปวดและเสียหน้าอย่างแรง เมื่อพีระดาบอกว่าเธอสนใจเพื่อนเขาต่างหากนั่นคื่อเวหา เพื่อนที่สนิทที่สุดของภาคินัย
ส่วนเขานั่นเหรอมันก็เป็นแค่สะพานให้เธอเดินข้ามไปเท่านั้น และแล้วเธอก็ไปคบกับเพื่อนของเขาอย่างเปิดเผยทำให้ภาคินัยรู้สึกเจ็บแปลบไปถึงขั้วหัวใจ แต่ว่าทำไมเธอถึงแอบส่งสายตามายั่วยวนเขาอยู่บ่อยๆเวลาเพื่อนเขาเผลอ มันยังไงกันแน่หรือแม่นางแบบสาวผู้เร่าร้อนคนนี้คิดจะจับปลาสองมือ ได้สิในเมื่อหล่อนอยากจะทำตัวเป็นแม่ปลาไหลเขาก็จะเป็นใบข่อย เขาจะจัดการรีดเมือกให้หล่อนหมดโอกาสลื่นไหลไปหาใครต่อใครได้อีก เพราะหล่อนต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น
+++++++++++++++++++++++++++++
พีระดาสาวน้อยแสนสวยวัยยี่สิบสี่ที่ไม่ได้สวมแว่นตาหนาเตอะ แต่เธอใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นและสวมรองเท้าส้นสูงปรี๊ดแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดมาทำงานเป็นหัวหน้าทีมพิสูจน์อักษรให้กับสำนักพิมพ์นิยายชื่อดังซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวเพราะเรียนจบมาทางด้านนี้โดยตรง เธอเกิดตกหลุมรักนักเขียนหนุ่มเจ้าของนามปากกาเมาคลี ที่เธอได้รับมอบหมายพิสูจน์อักษรให้เขาอยู่บ่อยครั้งจนหลงคิดไปว่าเขาคงเป็นชายหนุ่มใจดีสุดแสนโรแมนติกเหมือนดั่งนิยายรักอันแสนหวานที่เขาเป็นผู้ประพันธ์ผ่านปลายปากกาเอาล่ะถ้าเธอจะเลือกใครมาเป็นแฟนตัวจริงสักทีขอให้ได้เขาคนนี้เถิดสาธุ…
แต่แล้วความเป็นจริงมันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อภาคินัยเป็นผู้ชายโมโหร้าย เอาแต่ใจ และมือไวเป็นที่หนึ่งเขารู้มาจากเพื่อนซี้ที่ทำงานวาดภาพปกนิยายว่ามีหญิงสาวแอบคลั่งไคล้เขาเอามากๆ ชายหนุ่มจินตนาการไปถึงใบหน้าแสนเฉิ่มและยิ้มหยันประกาศสียงดังว่าแม่สาวนักพิสูจน์อักษรแสนเฉิ่มแบบนั้นเขาไม่มีวันสนใจและเธอคงไม่มีวันได้แอ่มเขาอย่างแน่นอนแม้แต่ขาอ่อนขาวๆ ของเขาเธอก็คงไม่มีวันได้เห็น
แต่คำพูดทั้งหมดนั้นมันบังเอิญไปเข้าสองหูของพีระดา หญิงสาวควันออกหูภาพพระเอกในใจของเขาถูกลดเกรดให้เป็นเพียงตัวร้ายในทันที ให้ตายเถอะชาตินี้เธอสาบานเลยว่าจะต้องพาเขาขึ้นเตียงกับเธอให้ได้จากนั้นก็จะเขี่ยเขาลงจากเตียงน้ำตาของนายภาคินัยจะต้องเช็ดหัวเข่า
ภาคินัยเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆ เขามันเป็นคาสโนว่าตัวร้ายที่ไม่ค่อยจะมีใครรู้นักว่าอีกด้านหนึ่งเขาเป็นนักเขียนชื่อดัง เขาใช้ประสบการณ์ในการร่วมรักกับสาวๆ หลายคนซึ่งพวกหล่อนเต็มใจ แล้วนำประสบการณ์มาบรรยายในบทเลิฟซีนที่เขาเขียนจนนักอ่านบางคนนั้นติดอกติดใจเคลิบเคลิ้มไปกับแต่ละฉากแต่ละตอนและที่สำคัญมันแทบจะไม่เคยซ้ำกันเลย
แต่แล้วเมื่อวันหนึ่งหัวใจของเขามันแทบจะหยุดเต้นเมื่อเพื่อนสนิทชวนไปดูงานแฟชั่นโชว์ซึ่งเขาไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ เขาพบนางแบบสาวคนสวยดาวดวงใหม่ประดับวงการเธอช่างน่ารักถูกใจเขาจนคิดอยากจะจีบเธอเอามาเป็นคู่ชีวิตจริงๆ ให้ตายถ้าทำได้เขาอยากจะอุ้มเธอลงมาจากแคตวอล์กและไปขึ้นเตียงของเขาเสียเดี๋ยวนี้เลย( ที่สำคัญเธอคงไม่รู้หรอกว่าเขาเคยเห็นเธอครั้งหนึ่งแล้วเมื่อสองปีก่อนที่ขายร้านขายรองเท้าแบรนด์ดังถึงกับเอาเธอมาจินตนาการเป็นนางเอกในนิยายเล่มแรกของเขา)
ชายหนุ่มดีใจจนเนื้อเต้นเมื่อจู่ๆหญิงสาวที่แอบหมายปองก็พาตัวมาสนิทกับเขาจนภาคินัยเห็นสวรรค์รอยู่รำไรข้างหน้า แต่แล้วเขาก็ต้องเจ็บปวดและเสียหน้าอย่างแรง เมื่อพีระดาบอกว่าเธอสนใจเพื่อนเขาต่างหากนั่นคื่อเวหา เพื่อนที่สนิทที่สุดของภาคินัย
ส่วนเขานั่นเหรอมันก็เป็นแค่สะพานให้เธอเดินข้ามไปเท่านั้น และแล้วเธอก็ไปคบกับเพื่อนของเขาอย่างเปิดเผยทำให้ภาคินัยรู้สึกเจ็บแปลบไปถึงขั้วหัวใจ แต่ว่าทำไมเธอถึงแอบส่งสายตามายั่วยวนเขาอยู่บ่อยๆเวลาเพื่อนเขาเผลอ มันยังไงกันแน่หรือแม่นางแบบสาวผู้เร่าร้อนคนนี้คิดจะจับปลาสองมือ ได้สิในเมื่อหล่อนอยากจะทำตัวเป็นแม่ปลาไหลเขาก็จะเป็นใบข่อย เขาจะจัดการรีดเมือกให้หล่อนหมดโอกาสลื่นไหลไปหาใครต่อใครได้อีก เพราะหล่อนต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น
+++++++++++++++++++++++++++++
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอนที่ 3
ตอนที่ 3
ใบหน้าสวยล้ำไม่อาจกั้นน้ำตาที่ไหลหลั่งพรั่งพรูออกมาได้ เธอยอมรับว่า เสียใจและ เสียความรู้สึกกับนายคลีมากไม่คิดเลยว่าเขาจะมีทัศนคติแบบนี้กับตัวเธอ พีระดาขับรถออกจากห้างดังอย่างรวดเร็ว ลำแขนและฝ่ามือเรียวที่กำพวงมาลัยบีบมันเอาไว้แน่น สายตาฉายแววประหลาด
“คอยดูนะนายคลี สักวันพีระดาคนนี้จะทำให้คุณมาสยบแทบเท้า จากนั้นฉันจะพาคุณขึ้นเตียงให้ได้และจะดูขาอ่อนของคุณสิว่ามันทำจากทองคำแท่งหรืออย่างไร ที่สำคัญหลังจากนั้นฉันจะเฉดหัวคุณลงจากเตียงอย่างไม่ไยดี ดูสิว่าคุณจะเจ็บปวดสักแค่ไหนยามถูกปฏิเสธ” นี่เป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายที่เธอจะร้องไห้ให้กับเขาพีระดาสัญญากับตัวเอง
+++++++++++++++++
ณ. โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง
คลีรู้สึกปวดหนึบๆ ไปทั่วบริเวณศีรษะเขาถูกเย็บเกือบยี่สิบเข็ม ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ และพบว่าคนที่นั่งอยู่ข้างเตียงคือเอิ๊กเพื่อนสนิทของเขานั่นเอง แต่ว่าทำไมเขาถึงถูกส่งตัวมาที่นี่มันเกิดอะไรขึ้น
“เป็นไงวะไอ้คลี หลับสบายดีไหมหลับไปหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ เลยนี่” เอิ๊กยิ้มกว้าง
“เอ็งบอกข้าหน่อยสิ ว่าข้าเป็นอะไรไป ตึกถล่มเหรอวะ”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกเพื่อน” เอิ๊กหัวเราะ“แค่เอ็งถูกโหลคุกกี้ฟาดจนหัวแบะเอง แต่ก็ดีเลือดชั่วๆจะได้ไหลออกมาบ้าง ”
“เอ๊ะ ยังไงวะตกลงเอ็งจะมาเยี่ยมข้าหรือว่ามาซ้ำเติม ถ้ามาซ้ำกลับไปเลยดีกว่า”
เอิ๊กยิ้มพลางนึกถึงพีระดาเห็นหน้าหวานๆ แบบนั้นไม่น่าเชื่อว่าจะโหดได้ใจ
“ทั้งสองอย่างมั้ง”
“ข้าหัวแตก แต่ขาไม่ได้เป็นอะไรนะมาใกล้ๆมา พ่อจะขอถีบสักทีสองที”
“เอาน่า....แค่เย็บยี่สิบเข็มเองเดี๋ยวก็หาย ที่จริงข้าว่ามันน้อยไปสำหรับความปากเสียของเอ็ง”
“หมายความว่ายังไงวะ แล้วไอ้โหลคุกกี้อะไรนี่มันมาฟาดหัวข้าได้ยังไง” คลีถามสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย
“ก็เอ็งนั่งว่าคุณพีระดาเขาฉอดๆ หาว่าจะไม่ได้แอ่มขาอ่อนขาวๆ ของเอ็งบ้างล่ะ ว่าเขาคงเหมือนคุณป้าใส่แว่นตาหนาเตอะบ้างล่ะ ที่สำคัญเขามายืนฟังเอ็งอยู่นานแล้ว ข้าส่งสัญญาณให้เอ็งรู้เอ็งก็ยังพูดไม่เลิก”
คลีขมวดคิ้วความโกรธแล่นเป็นริ้วๆบนใบหน้าหล่อ “ตกลงคนที่เอาโหลคุกกี้มาฟาดหัวข้าคือยัยพีระดาสาวนักพิสูสจน์อักษรที่เอ็งจะพามาแนะนำใช่ไหม”น้ำเสียงแสดงความไม่พอใจในตัวหญิงสาว
“ใช่แล้ว แต่ว่าคงเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายที่ข้าจะแนะนำผู้หญิงให้เอ็ง คุณพีระดาเขาโกรธเอ็งมากป่านนี้คงหายปลื้มไปแล้วละมั้ง”
“โถๆๆ ผู้หญิงโหดร้ายป่าเถื่อนแบบนั้นข้าไม่มีวันจะสนใจเอามาเป็นแฟนหรอก แค่คู่นอนก็ยังยาก” “ปากนะปาก สมควรแล้วจริงๆ ที่โดนของแข็ง”
++++++++++++++++++++++++++
สองเดือนต่อมา
วันนี้เป็นวันที่ปวดหัวที่สุดวันหนึ่งของพีระดา ช่วงนี้มีต้นฉบับมากมายที่กำลังรอออกเล่มเธอต้องตรวจทานงานอีกครั้งหลังจากน้องๆเจ้าหน้าที่พิสูจน์อักษรตรวจเสร็จ หญิงสาวจึงคิดว่าเย็นนี้จะไปคลายเครียดพักสมองสักหน่อยเพราะเป็นวันศุกร์พอดี
พีระดาเลือกที่จะไปคนเดียวเพราะจะได้ทำอะไรตามใจตัวเองแม้แต่เปลี่ยนแผนกลางคันก็ยังทำได้หญิงสาวเลือกที่จะไปดูหนังสักเรื่องเพื่อผ่อนคลาย หลังซื้อป็อบคอร์นกับน้ำชุดใหญ่ เธอได้ยินเสียงเรียกของพนักงานหน้าโรงหนังว่าหนังเรื่องที่เธอจองตั๋วเอาไว้ใกล้จะฉายแล้ว พีระดารีบถอยหลังและกำลังเดินไปแต่แล้วเธอต้องหันกลับมามองเมื่อรู้สึกได้ว่ามีปลายนิ้วอุ่นมาแตะที่แขนขวาของเธอ
พีระดาจ้องใบหน้าเขานิ่งสักพักหนึ่งก่อนจะคลี่ยิ้มสวยออกมา
“พี่เวหากลับมาเมื่อไหร่คะ ดาไม่ยักรู้”
ชายหนุ่มผิวขาวหน้าหวานซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องห่างๆของพีระดา อาสาช่วยถือแก้วน้ำและป็อบคอร์น “เพิ่งกลับมาได้สักเดือนเศษๆ เอง ก็ว่าจะไปเยี่ยมน้องดากับพี่อินอยู่เหมือนกัน”
“แล้วนี่มาคนเดียวเหรอคะ” พีระดาเห็นอยู่ว่าเขามาเพียงลำพัง แต่แปลกใจทำไมพี่เวหาถึงไม่มีสาวๆเคียงข้าง
“มาคนเดียว พอดีแฟนพี่เขาจะบินมาหาเดือนหน้า ปลายปีนี้พี่มีโครงการจะแต่งงานแล้วนะน้องดา” พีระดารู้สึกตื่นเต้นที่ญาติหนุ่มเนื้อหอมจะแต่งงาน “จริงๆ เหรอคะพี่เวหา ดาดีใจด้วย ว่าแต่หญิงสาวผู้โชคร้าย เอ๊ย...ผู้โชคดีเป็นใครกันคะพี่”
อุบไว้ก่อน เดี๋ยวเธอเดินทางกลับมาจากเมืองนอกเมื่อไหร่พี่จะพาไปแนะนำ
“แหม...ทำเป็นมีความลับ แต่ว่าคงจะสวยน่าดู”
เวหาพยักหน้า และอมยิ้ม “น้องดาเราเข้าโรงหนังกันเถอะ เดี๋ยวหนังคงใกล้ฉายแล้ว”
“จริงด้วย ไปค่ะ”
เป็นอันว่าวันนี้พีระดามาคนเดียวแต่กลับได้เพื่อนเดินเล่นเพราะเวหาเพิ่งกลับมาเมื่องไทยไม่นาน เขาเลยต้องการซื้อเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ ซึ่งไม่ได้เอามาด้วยเพราะค่าขนส่งแพงซื้อใหม่ดูจะง่ายกว่า พีระดาจึงอาสาช่วยเลือกเสื้อผ้าให้ญาติผู้พี่
ระหว่างที่พีระดากำลังอยู่ในห้องเสื้อดังพร้อมกับเวหา แต่เขากำลังสนใจกางเกงสแลกอยู่ที่มุมหนึ่งของร้านเสียงคุ้นๆเหมือนพีระดาเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนก็ร้องทักญาติของเธอ
“เฮ้ย! เวหากลับมาเมื่อไหร่”
“ไอ้คลี ไอ้นี่ตายยากจริงข้าเพิ่งพูดถึงเอ็งกับไอ้ประธีปอยู่เมื่อวานว่าจะไปเยี่ยม วันนี้เจอเลย”
“ไม่ดีเหรอเอ็งจะได้ไม่ต้องไปเยี่ยม ข้ามาให้เอ็งเจอตัวเป็นๆ” คลีตบหลังเพื่อนรักเบาๆ เวหาเป็นเพื่อนสนิทที่สุดอีกคนของเขาแต่เวหากับคลีมีอันต้องห่างเพราะเวหาไปทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่เกี่ยวกับอาหารที่เมืองนอกหลายปีและเพิ่งจะกลับมารับตำแหน่งผู้บริหารสาขาที่มาตั้งประจำอยู่ที่ประเทศไทย
“คืนนี้ไปดื่มกันดีกว่าว่ะ” คลีชักชวน
“ไม่ได้ว่ะ เดี๋ยวต้องไปส่งน้องสาว ญาติกันน่ะบังเอิญเจอที่หน้าโรงหนังแล้วน้องเขามาช่วยข้าเลือกซื้อเสื้อผ้าจะปล่อยให้กับคนเดียวได้ยังไงนี่ก็เกือบสี่ทุมแล้ว เออ...ข้าแนะนำให้เอ็งรู้จักดีกว่าน้องสาวข้าสวยนะโว้ย...แต่ห้ามเอ็งจีบเด็ดขาด”
“สวย...แล้วทำไมไม่ให้จีบวะ”
“ก็ข้ารู้สันดานเอ็งดีนะสิไอ้คลี ว่าชอบเลื้อยไปเรื่อยๆสงสารน้องไม่อยากให้มานั่งร้องไห้น้ำตาเช็ดหัวเข่า”
“ใครว่าไปเรื่อยๆ มันแค่ยังไม่เจอคนที่ใช่เท่านั้น” คลีไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนเจ้าชู้
“ว่าแต่ไหนล่ะน้องเอ็ง” เวหาพยายามมองหาพีระดา เขากวาดสายตามองไปจนทั่วร้านแต่ทว่าหาไม่เจอ
“หายไปไหนแล้ว เมื่อตะกี้ยังเห็นเลือกเสื้อเชิ้ตอยู่ตรงนั้นอยู่เลย”
คลีไหวไหล่ “โกหกหรือเปล่าวะ ไม่ใช่แอบนัดสาวแล้วเอาเรื่องน้องมาอ้าง”
“บ้า...ไอ้คลี เอาล่ะวันหลังข้าต้องแวะไปหาเอ็งที่คอนโดแน่ ยังอยู่ที่เดิมใช่ไหม”
“เออ...ใช่”
“ได้ข่าวว่าเดี๋ยวนี้เอ็งเป็นนักเขียนดังใหญ่แล้วนี่หว่า แล้วเรื่องฟงๆแฟนๆ ไปถึงไหนแล้ววะ จะสามสิบแล้วไม่หาตัวจริงสักทีวะ” เวหาพอทราบข่าวจากเพื่อนๆมาบ้างวาเจ้าคลีเพื่อนรักยังไม่ได้ลงหลักปักฐานกับสาวคนไหนแม้มันจะมีผู้หญิงเป็นโกดังก็ตามที
“ไม่ขนาดนั้นหรอก เออ...ถ้าวันนี้เอ็งไม่ว่างก็ไม่เป็นไรข้าขอตัวก่อนละกัน เดี๋ยวซื้อของเสร็จจะแวะไปหาน้องแก้มสักน้อย” คลียิ้มน้อยๆก่อนจะตบบ่าเพื่อนเบา ๆ
“นั่นแน่แสดงว่าคืนนี้มีลุ้น เออ...เอาไว้เจอกันโว้ย” เวหากล่าว
เมื่อคลีออกไปแล้ว พีระดาจึงค่อยๆ ออกมาจากห้องลองเสื้อผ้า สาวพนักงานมองด้วยสายตาแปลกๆ สงสัยว่าคุณผู้หญิงคนสวยไปทำอะไรในห้องลองเสื้อผ้าผู้ชาย พีระดาได้แต่พยายามทำหน้าเชิดเข้าไว้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“น้องดา...ไปไหนมาครับ เมื่อตะกี้พี่เจอเพื่อนเก่าว่าจะแนะนำให้รู้จักสักหน่อย เห็นไอ้เจ้าคลีเป็นนักเขียนส่วนน้องดาก็ทำงานด้านพิสูจน์อักษร คนในวงการเดียวกัน”
“กลับกันเถอะค่ะพี่เวหา” พีระดาชวนเวหากลับบ้าน แล้วด้วยวันนี้เป็นวันศุกร์พีระดาไม่ได้เอารถมาเพราะกลัวรถจะติดเธอคิดว่ากลับแท็กซี่สบายกว่า แต่เมื่อเจอเวหาเข้าเขาจึงต้องทำหน้าที่เป็นคนขับรถไปส่งเธอตามฐานะสุภาพบุรุษและญาติ
“น้องดาเป็นอะไรไปเงียบๆ” เวหารู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงปกติพีระดาเป็นคนคุยเก่งคุยจ้อไม่หยุด “พี่เวหา พี่รู้จักกับคุณคลีนานหรือยังคะ”
“อ้าวตกลงดารู้จักเพื่อนพี่ด้วยเหรอครับ”
“ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ”
เวหามองความผิดปกติที่ส่งผ่านมาทางสายตาของญาติผู้น้อง “อย่าบอกนะว่าไอ้คลีมันไปทำอะไรน้องดาเข้า”
เพราะเวหารู้ดีว่าเพื่อนเขาคนนี้มีข้อเสียเรื่องเดียวคือเรื่องผู้หญิง
“ไม่ได้ทำร้ายทางร่างกาย แต่ก็ทำร้ายทางจิตใจค่ะ”
เวหาขมวดคิ้วดกดำ รู้สึกฉงนในคำพูด “มีอะไรน้องดาเล่าให้พี่ฟังได้ไหม”
พีระดาจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้เวหาฟัง ทั้งที่รู้สึกอายกลัวญาติผู้พี่จะสมน้ำหน้าที่ไปแอบชอบเขาก่อนและถูกปฏิเสธทั้งที่เขายังไม่ได้เห็นหน้าเธอเลย
เวหาฟังจบเขาไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ เพราะไอ้เรื่องตอนท้ายนี่มันโหด มัน ฮา จริงๆ น้องดาผู้อ่อนโยนฟาดโหลคุกกี้ไปที่หัวเพื่อนเขาจนหัวแตกหลับไปทันที เมื่อกี้เขาก็ไม่ได้สังเกตเสียด้วยว่าหัวนายคลีแผลหายดีหรือยัง
“จากที่น้องดาเล่าให้พี่ฟัง ไอ้คลีมันก็เลยยังไม่ทันได้เห็นหน้าน้องดาใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ เขาสลบไปเสียก่อน”
“ปากไอ้คลีมันเสียมาแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะ หน้าตาดีแต่มีหมาอยู่ในปาก”
“แต่ดายังไม่หายแค้นในความถือดีของหมอนั่นเลยค่ะ”แววตาที่เคยมีแววหวาน แข็งกล้าขึ้นเธออยากทำให้เขาเจ็บให้เขาอายบ้าง
เวหาหันมามองญาติผู้น้อง “มันโง่ที่พูดแบบนั้น ถ้ามันได้เห็นหน้าน้องดา รู้จักน้องดาดีมันไม่ทางพูดพล่อยๆแบบนั้นแน่นอน”
“ดูท่าทางพี่เวหาจะมั่นใจจังนะคะ”
“ถ้าเราไม่ใช่ญาติกันพี่สารภาพกับน้องดาตรงๆเลยว่าพี่ต้องจีบน้องดาแน่ๆ ” เวหาพูดตามตรงก็ญาติผู้น้องของเขาคนนี้สวยเฉียบจริงๆ เป็นดาราหรือนางแบบได้อย่างสบาย
“เออจริงสิ เห็นญาติๆเราเขาพูดกันว่าน้องดาจะไปเป็นนางแบบหรือครับ”
พีระดายิ้มอายๆ “คือจริงๆ แล้วดาก็มีงานเดินแบบ ถ่ายแบบอยู่เล็กๆน้อย เพราะดาไม่ค่อยมีเวลาค่ะต้องช่วยพี่อินทำงานที่สำนักพิมพ์ แต่พอดีตอนนี้ทางโมเดลลิ่งดังเขาติดต่อให้ดาไปเดินแบบ และถ่ายนิตยสารซึ่งหลายคนก็สนับสนุน
“เกิดน้องดาดังขึ้นมาจริงๆ พี่จะหัวเราะไอ้คลีให้สะใจไปเลย ที่มันปฏิเสธน้องดา”
“เขาชอบคนดังเหรอคะ นายคนนั้นน่ะ”
“มันชอบนางแบบ ไม่รู้ทำไมแต่ไอ้คลีมันอยากมีแฟนเป็นนางแบบ แต่ใช่ว่ามันไม่มีนะ เห็นว่ามันก็แอบกิ๊กับน้องเขม เขมมิกาอะไรนั่นอยู่เหมือนกัน”
พีระดานึกอะไรออกบางทีสิ่งที่เธอคิดเอาไว้อาจจะสำเร็จก็ได้ แผนการเอาคืนแวบเข้ามาในสมองของหญิงสาว
“พี่เวหา ถ้าดาจะขอร้องให้พี่เวหาช่วยอะไรดาหน่อยได้ไหมคะ”
“อะไรครับ ถ้าช่วยได้พี่เต็มใจอยู่แล้วครับ”
“พี่เวหาช่วยดาได้แน่ถ้าพี่จะช่วย” พีระดาจึงบอกแผนการทั้งหมดกับเวหา ชายหนุ่มทำสีหน้าแปลกไปและถอนใจอยู่หลายครั้ง
“มันจะดีเหรอน้องดา ทำแบบนั้นถ้าไอ้คลีมันรู้ความจริงเข้าคงโกรธพี่ตายเลย”
พีระดายิ้มเจ้าเล่ห์“ถ้าไม่ช่วยดาก็จะโกรธพี่เวหาเหมือนกันเอาสิคะ” หญิงสาวยื่นคำขาดคิดว่าเวหาต้องยอมตกลงช่วยอย่างแน่นอน ก็เมื่อสมัยก่อนเขาให้เธอช่วยแกล้งเป็นแฟนด้วยบ่อยๆ ตอนที่มีสาวๆมารุมชอบเขาและเวหาไม่อยากสานสัมพันธ์ด้วย
“แต่ว่าเรื่องนี้มันลำบากใจนะ เพราะไอ้คลีมันก็เป็นเพื่อนสนิทของพี่”
“ตกลงจะช่วยไม่ช่วย ถ้าไม่ช่วยน้องดาจะแฉ เรื่องนั้นกับว่าที่เจ้าสาวของพี่เวหา” พีระดาสบตาเวหาอย่างเจ้าเล่ห์
“เรื่องอะไรกันครับน้องดา”
“ก็เรื่อง ที่พี่เหวาเคยแอบชอบและตามจีบผู้หญิงคนหนึ่ง แต่สุดท้ายเจ้าหล่อนเป็นกะเทย” พีระดาหัวเราะเบาๆ
“อย่านะน้องดาอย่าหัวเราะเป็นอันขาด แล้วก็ห้ามพูดเรื่องนี้ให้ใครฟังเด็ดขาดเข้าใจไหมพี่ล่ะอายจริงๆ” เวหาถือว่าเรื่องนี้เป็นความลับส่วนตัว
พีระดาหยุดหัวเราะ และกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“ถ้าไม่อยากให้น้องดาเล่า พี่เวหาก็ต้องช่วยน้องดา”
ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่หญิงสาวจะยิ้มอย่างผู้มีชัย
+++++++++++++++++++++
คืนนี้ภาคินัยหรือนายคลีไม่ได้ไปหาสาวๆ แบบที่บอกเพื่อนเอาไว้เขากลับมาที่คอนโดด้วยอารมณ์เหงาๆ บางครั้งเขาก็เคยคิดอยากจะมีครอบครัว อยากมีใครเป็นตัวเป็นตนแต่เมื่อคิดถึงการถูกผูกมัดที่จะไม่สามารถไปยุ่งเกี่ยวกับใครได้อีกคลีก็เปลี่ยนใจทุกครั้งแล้วคิดว่าสงสัยตัวเขายังหวงความโสดอยู่นั่นเอง
ลมเย็นๆจากชายทะเลพัดเข้ามาผ่านบานหน้าต่างที่ถูกเปิดเอาไว้ที่จริงเขาชอบอากาศเย็นจากธรรมชาติมากว่าแอร์ คืนนี้เงียบสงบแต่คลีกับคิดอะไรไม่ออกไม่มีแรงบันดาลใจในการเขียนนิยายฉากต่อไป เขาหยุดมือจากการเคาะแป้นคีย์บอร์ด จากนั้นเอื้อมไปหยิบหน้าปกนิยายเล่มแรกในชีวิตขึ้นมาดู
“คุณสวยจัง แล้วก็เป็นแรงบันดาลใจให้ผมมาจนกระทั่งทุกวันนี้ ทำไมเราไม่เจอกันอีกสักครั้งนะ คุณเป็นใครกันแน่ทำไมผมไม่เคยลืมใบหน้าของคุณเลย” ++++++++++++++++++++++++
ใบหน้าสวยล้ำไม่อาจกั้นน้ำตาที่ไหลหลั่งพรั่งพรูออกมาได้ เธอยอมรับว่า เสียใจและ เสียความรู้สึกกับนายคลีมากไม่คิดเลยว่าเขาจะมีทัศนคติแบบนี้กับตัวเธอ พีระดาขับรถออกจากห้างดังอย่างรวดเร็ว ลำแขนและฝ่ามือเรียวที่กำพวงมาลัยบีบมันเอาไว้แน่น สายตาฉายแววประหลาด
“คอยดูนะนายคลี สักวันพีระดาคนนี้จะทำให้คุณมาสยบแทบเท้า จากนั้นฉันจะพาคุณขึ้นเตียงให้ได้และจะดูขาอ่อนของคุณสิว่ามันทำจากทองคำแท่งหรืออย่างไร ที่สำคัญหลังจากนั้นฉันจะเฉดหัวคุณลงจากเตียงอย่างไม่ไยดี ดูสิว่าคุณจะเจ็บปวดสักแค่ไหนยามถูกปฏิเสธ” นี่เป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายที่เธอจะร้องไห้ให้กับเขาพีระดาสัญญากับตัวเอง
+++++++++++++++++
ณ. โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง
คลีรู้สึกปวดหนึบๆ ไปทั่วบริเวณศีรษะเขาถูกเย็บเกือบยี่สิบเข็ม ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ และพบว่าคนที่นั่งอยู่ข้างเตียงคือเอิ๊กเพื่อนสนิทของเขานั่นเอง แต่ว่าทำไมเขาถึงถูกส่งตัวมาที่นี่มันเกิดอะไรขึ้น
“เป็นไงวะไอ้คลี หลับสบายดีไหมหลับไปหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ เลยนี่” เอิ๊กยิ้มกว้าง
“เอ็งบอกข้าหน่อยสิ ว่าข้าเป็นอะไรไป ตึกถล่มเหรอวะ”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกเพื่อน” เอิ๊กหัวเราะ“แค่เอ็งถูกโหลคุกกี้ฟาดจนหัวแบะเอง แต่ก็ดีเลือดชั่วๆจะได้ไหลออกมาบ้าง ”
“เอ๊ะ ยังไงวะตกลงเอ็งจะมาเยี่ยมข้าหรือว่ามาซ้ำเติม ถ้ามาซ้ำกลับไปเลยดีกว่า”
เอิ๊กยิ้มพลางนึกถึงพีระดาเห็นหน้าหวานๆ แบบนั้นไม่น่าเชื่อว่าจะโหดได้ใจ
“ทั้งสองอย่างมั้ง”
“ข้าหัวแตก แต่ขาไม่ได้เป็นอะไรนะมาใกล้ๆมา พ่อจะขอถีบสักทีสองที”
“เอาน่า....แค่เย็บยี่สิบเข็มเองเดี๋ยวก็หาย ที่จริงข้าว่ามันน้อยไปสำหรับความปากเสียของเอ็ง”
“หมายความว่ายังไงวะ แล้วไอ้โหลคุกกี้อะไรนี่มันมาฟาดหัวข้าได้ยังไง” คลีถามสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย
“ก็เอ็งนั่งว่าคุณพีระดาเขาฉอดๆ หาว่าจะไม่ได้แอ่มขาอ่อนขาวๆ ของเอ็งบ้างล่ะ ว่าเขาคงเหมือนคุณป้าใส่แว่นตาหนาเตอะบ้างล่ะ ที่สำคัญเขามายืนฟังเอ็งอยู่นานแล้ว ข้าส่งสัญญาณให้เอ็งรู้เอ็งก็ยังพูดไม่เลิก”
คลีขมวดคิ้วความโกรธแล่นเป็นริ้วๆบนใบหน้าหล่อ “ตกลงคนที่เอาโหลคุกกี้มาฟาดหัวข้าคือยัยพีระดาสาวนักพิสูสจน์อักษรที่เอ็งจะพามาแนะนำใช่ไหม”น้ำเสียงแสดงความไม่พอใจในตัวหญิงสาว
“ใช่แล้ว แต่ว่าคงเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายที่ข้าจะแนะนำผู้หญิงให้เอ็ง คุณพีระดาเขาโกรธเอ็งมากป่านนี้คงหายปลื้มไปแล้วละมั้ง”
“โถๆๆ ผู้หญิงโหดร้ายป่าเถื่อนแบบนั้นข้าไม่มีวันจะสนใจเอามาเป็นแฟนหรอก แค่คู่นอนก็ยังยาก” “ปากนะปาก สมควรแล้วจริงๆ ที่โดนของแข็ง”
++++++++++++++++++++++++++
สองเดือนต่อมา
วันนี้เป็นวันที่ปวดหัวที่สุดวันหนึ่งของพีระดา ช่วงนี้มีต้นฉบับมากมายที่กำลังรอออกเล่มเธอต้องตรวจทานงานอีกครั้งหลังจากน้องๆเจ้าหน้าที่พิสูจน์อักษรตรวจเสร็จ หญิงสาวจึงคิดว่าเย็นนี้จะไปคลายเครียดพักสมองสักหน่อยเพราะเป็นวันศุกร์พอดี
พีระดาเลือกที่จะไปคนเดียวเพราะจะได้ทำอะไรตามใจตัวเองแม้แต่เปลี่ยนแผนกลางคันก็ยังทำได้หญิงสาวเลือกที่จะไปดูหนังสักเรื่องเพื่อผ่อนคลาย หลังซื้อป็อบคอร์นกับน้ำชุดใหญ่ เธอได้ยินเสียงเรียกของพนักงานหน้าโรงหนังว่าหนังเรื่องที่เธอจองตั๋วเอาไว้ใกล้จะฉายแล้ว พีระดารีบถอยหลังและกำลังเดินไปแต่แล้วเธอต้องหันกลับมามองเมื่อรู้สึกได้ว่ามีปลายนิ้วอุ่นมาแตะที่แขนขวาของเธอ
พีระดาจ้องใบหน้าเขานิ่งสักพักหนึ่งก่อนจะคลี่ยิ้มสวยออกมา
“พี่เวหากลับมาเมื่อไหร่คะ ดาไม่ยักรู้”
ชายหนุ่มผิวขาวหน้าหวานซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องห่างๆของพีระดา อาสาช่วยถือแก้วน้ำและป็อบคอร์น “เพิ่งกลับมาได้สักเดือนเศษๆ เอง ก็ว่าจะไปเยี่ยมน้องดากับพี่อินอยู่เหมือนกัน”
“แล้วนี่มาคนเดียวเหรอคะ” พีระดาเห็นอยู่ว่าเขามาเพียงลำพัง แต่แปลกใจทำไมพี่เวหาถึงไม่มีสาวๆเคียงข้าง
“มาคนเดียว พอดีแฟนพี่เขาจะบินมาหาเดือนหน้า ปลายปีนี้พี่มีโครงการจะแต่งงานแล้วนะน้องดา” พีระดารู้สึกตื่นเต้นที่ญาติหนุ่มเนื้อหอมจะแต่งงาน “จริงๆ เหรอคะพี่เวหา ดาดีใจด้วย ว่าแต่หญิงสาวผู้โชคร้าย เอ๊ย...ผู้โชคดีเป็นใครกันคะพี่”
อุบไว้ก่อน เดี๋ยวเธอเดินทางกลับมาจากเมืองนอกเมื่อไหร่พี่จะพาไปแนะนำ
“แหม...ทำเป็นมีความลับ แต่ว่าคงจะสวยน่าดู”
เวหาพยักหน้า และอมยิ้ม “น้องดาเราเข้าโรงหนังกันเถอะ เดี๋ยวหนังคงใกล้ฉายแล้ว”
“จริงด้วย ไปค่ะ”
เป็นอันว่าวันนี้พีระดามาคนเดียวแต่กลับได้เพื่อนเดินเล่นเพราะเวหาเพิ่งกลับมาเมื่องไทยไม่นาน เขาเลยต้องการซื้อเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ ซึ่งไม่ได้เอามาด้วยเพราะค่าขนส่งแพงซื้อใหม่ดูจะง่ายกว่า พีระดาจึงอาสาช่วยเลือกเสื้อผ้าให้ญาติผู้พี่
ระหว่างที่พีระดากำลังอยู่ในห้องเสื้อดังพร้อมกับเวหา แต่เขากำลังสนใจกางเกงสแลกอยู่ที่มุมหนึ่งของร้านเสียงคุ้นๆเหมือนพีระดาเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนก็ร้องทักญาติของเธอ
“เฮ้ย! เวหากลับมาเมื่อไหร่”
“ไอ้คลี ไอ้นี่ตายยากจริงข้าเพิ่งพูดถึงเอ็งกับไอ้ประธีปอยู่เมื่อวานว่าจะไปเยี่ยม วันนี้เจอเลย”
“ไม่ดีเหรอเอ็งจะได้ไม่ต้องไปเยี่ยม ข้ามาให้เอ็งเจอตัวเป็นๆ” คลีตบหลังเพื่อนรักเบาๆ เวหาเป็นเพื่อนสนิทที่สุดอีกคนของเขาแต่เวหากับคลีมีอันต้องห่างเพราะเวหาไปทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่เกี่ยวกับอาหารที่เมืองนอกหลายปีและเพิ่งจะกลับมารับตำแหน่งผู้บริหารสาขาที่มาตั้งประจำอยู่ที่ประเทศไทย
“คืนนี้ไปดื่มกันดีกว่าว่ะ” คลีชักชวน
“ไม่ได้ว่ะ เดี๋ยวต้องไปส่งน้องสาว ญาติกันน่ะบังเอิญเจอที่หน้าโรงหนังแล้วน้องเขามาช่วยข้าเลือกซื้อเสื้อผ้าจะปล่อยให้กับคนเดียวได้ยังไงนี่ก็เกือบสี่ทุมแล้ว เออ...ข้าแนะนำให้เอ็งรู้จักดีกว่าน้องสาวข้าสวยนะโว้ย...แต่ห้ามเอ็งจีบเด็ดขาด”
“สวย...แล้วทำไมไม่ให้จีบวะ”
“ก็ข้ารู้สันดานเอ็งดีนะสิไอ้คลี ว่าชอบเลื้อยไปเรื่อยๆสงสารน้องไม่อยากให้มานั่งร้องไห้น้ำตาเช็ดหัวเข่า”
“ใครว่าไปเรื่อยๆ มันแค่ยังไม่เจอคนที่ใช่เท่านั้น” คลีไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนเจ้าชู้
“ว่าแต่ไหนล่ะน้องเอ็ง” เวหาพยายามมองหาพีระดา เขากวาดสายตามองไปจนทั่วร้านแต่ทว่าหาไม่เจอ
“หายไปไหนแล้ว เมื่อตะกี้ยังเห็นเลือกเสื้อเชิ้ตอยู่ตรงนั้นอยู่เลย”
คลีไหวไหล่ “โกหกหรือเปล่าวะ ไม่ใช่แอบนัดสาวแล้วเอาเรื่องน้องมาอ้าง”
“บ้า...ไอ้คลี เอาล่ะวันหลังข้าต้องแวะไปหาเอ็งที่คอนโดแน่ ยังอยู่ที่เดิมใช่ไหม”
“เออ...ใช่”
“ได้ข่าวว่าเดี๋ยวนี้เอ็งเป็นนักเขียนดังใหญ่แล้วนี่หว่า แล้วเรื่องฟงๆแฟนๆ ไปถึงไหนแล้ววะ จะสามสิบแล้วไม่หาตัวจริงสักทีวะ” เวหาพอทราบข่าวจากเพื่อนๆมาบ้างวาเจ้าคลีเพื่อนรักยังไม่ได้ลงหลักปักฐานกับสาวคนไหนแม้มันจะมีผู้หญิงเป็นโกดังก็ตามที
“ไม่ขนาดนั้นหรอก เออ...ถ้าวันนี้เอ็งไม่ว่างก็ไม่เป็นไรข้าขอตัวก่อนละกัน เดี๋ยวซื้อของเสร็จจะแวะไปหาน้องแก้มสักน้อย” คลียิ้มน้อยๆก่อนจะตบบ่าเพื่อนเบา ๆ
“นั่นแน่แสดงว่าคืนนี้มีลุ้น เออ...เอาไว้เจอกันโว้ย” เวหากล่าว
เมื่อคลีออกไปแล้ว พีระดาจึงค่อยๆ ออกมาจากห้องลองเสื้อผ้า สาวพนักงานมองด้วยสายตาแปลกๆ สงสัยว่าคุณผู้หญิงคนสวยไปทำอะไรในห้องลองเสื้อผ้าผู้ชาย พีระดาได้แต่พยายามทำหน้าเชิดเข้าไว้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“น้องดา...ไปไหนมาครับ เมื่อตะกี้พี่เจอเพื่อนเก่าว่าจะแนะนำให้รู้จักสักหน่อย เห็นไอ้เจ้าคลีเป็นนักเขียนส่วนน้องดาก็ทำงานด้านพิสูจน์อักษร คนในวงการเดียวกัน”
“กลับกันเถอะค่ะพี่เวหา” พีระดาชวนเวหากลับบ้าน แล้วด้วยวันนี้เป็นวันศุกร์พีระดาไม่ได้เอารถมาเพราะกลัวรถจะติดเธอคิดว่ากลับแท็กซี่สบายกว่า แต่เมื่อเจอเวหาเข้าเขาจึงต้องทำหน้าที่เป็นคนขับรถไปส่งเธอตามฐานะสุภาพบุรุษและญาติ
“น้องดาเป็นอะไรไปเงียบๆ” เวหารู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงปกติพีระดาเป็นคนคุยเก่งคุยจ้อไม่หยุด “พี่เวหา พี่รู้จักกับคุณคลีนานหรือยังคะ”
“อ้าวตกลงดารู้จักเพื่อนพี่ด้วยเหรอครับ”
“ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ”
เวหามองความผิดปกติที่ส่งผ่านมาทางสายตาของญาติผู้น้อง “อย่าบอกนะว่าไอ้คลีมันไปทำอะไรน้องดาเข้า”
เพราะเวหารู้ดีว่าเพื่อนเขาคนนี้มีข้อเสียเรื่องเดียวคือเรื่องผู้หญิง
“ไม่ได้ทำร้ายทางร่างกาย แต่ก็ทำร้ายทางจิตใจค่ะ”
เวหาขมวดคิ้วดกดำ รู้สึกฉงนในคำพูด “มีอะไรน้องดาเล่าให้พี่ฟังได้ไหม”
พีระดาจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้เวหาฟัง ทั้งที่รู้สึกอายกลัวญาติผู้พี่จะสมน้ำหน้าที่ไปแอบชอบเขาก่อนและถูกปฏิเสธทั้งที่เขายังไม่ได้เห็นหน้าเธอเลย
เวหาฟังจบเขาไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ เพราะไอ้เรื่องตอนท้ายนี่มันโหด มัน ฮา จริงๆ น้องดาผู้อ่อนโยนฟาดโหลคุกกี้ไปที่หัวเพื่อนเขาจนหัวแตกหลับไปทันที เมื่อกี้เขาก็ไม่ได้สังเกตเสียด้วยว่าหัวนายคลีแผลหายดีหรือยัง
“จากที่น้องดาเล่าให้พี่ฟัง ไอ้คลีมันก็เลยยังไม่ทันได้เห็นหน้าน้องดาใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ เขาสลบไปเสียก่อน”
“ปากไอ้คลีมันเสียมาแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะ หน้าตาดีแต่มีหมาอยู่ในปาก”
“แต่ดายังไม่หายแค้นในความถือดีของหมอนั่นเลยค่ะ”แววตาที่เคยมีแววหวาน แข็งกล้าขึ้นเธออยากทำให้เขาเจ็บให้เขาอายบ้าง
เวหาหันมามองญาติผู้น้อง “มันโง่ที่พูดแบบนั้น ถ้ามันได้เห็นหน้าน้องดา รู้จักน้องดาดีมันไม่ทางพูดพล่อยๆแบบนั้นแน่นอน”
“ดูท่าทางพี่เวหาจะมั่นใจจังนะคะ”
“ถ้าเราไม่ใช่ญาติกันพี่สารภาพกับน้องดาตรงๆเลยว่าพี่ต้องจีบน้องดาแน่ๆ ” เวหาพูดตามตรงก็ญาติผู้น้องของเขาคนนี้สวยเฉียบจริงๆ เป็นดาราหรือนางแบบได้อย่างสบาย
“เออจริงสิ เห็นญาติๆเราเขาพูดกันว่าน้องดาจะไปเป็นนางแบบหรือครับ”
พีระดายิ้มอายๆ “คือจริงๆ แล้วดาก็มีงานเดินแบบ ถ่ายแบบอยู่เล็กๆน้อย เพราะดาไม่ค่อยมีเวลาค่ะต้องช่วยพี่อินทำงานที่สำนักพิมพ์ แต่พอดีตอนนี้ทางโมเดลลิ่งดังเขาติดต่อให้ดาไปเดินแบบ และถ่ายนิตยสารซึ่งหลายคนก็สนับสนุน
“เกิดน้องดาดังขึ้นมาจริงๆ พี่จะหัวเราะไอ้คลีให้สะใจไปเลย ที่มันปฏิเสธน้องดา”
“เขาชอบคนดังเหรอคะ นายคนนั้นน่ะ”
“มันชอบนางแบบ ไม่รู้ทำไมแต่ไอ้คลีมันอยากมีแฟนเป็นนางแบบ แต่ใช่ว่ามันไม่มีนะ เห็นว่ามันก็แอบกิ๊กับน้องเขม เขมมิกาอะไรนั่นอยู่เหมือนกัน”
พีระดานึกอะไรออกบางทีสิ่งที่เธอคิดเอาไว้อาจจะสำเร็จก็ได้ แผนการเอาคืนแวบเข้ามาในสมองของหญิงสาว
“พี่เวหา ถ้าดาจะขอร้องให้พี่เวหาช่วยอะไรดาหน่อยได้ไหมคะ”
“อะไรครับ ถ้าช่วยได้พี่เต็มใจอยู่แล้วครับ”
“พี่เวหาช่วยดาได้แน่ถ้าพี่จะช่วย” พีระดาจึงบอกแผนการทั้งหมดกับเวหา ชายหนุ่มทำสีหน้าแปลกไปและถอนใจอยู่หลายครั้ง
“มันจะดีเหรอน้องดา ทำแบบนั้นถ้าไอ้คลีมันรู้ความจริงเข้าคงโกรธพี่ตายเลย”
พีระดายิ้มเจ้าเล่ห์“ถ้าไม่ช่วยดาก็จะโกรธพี่เวหาเหมือนกันเอาสิคะ” หญิงสาวยื่นคำขาดคิดว่าเวหาต้องยอมตกลงช่วยอย่างแน่นอน ก็เมื่อสมัยก่อนเขาให้เธอช่วยแกล้งเป็นแฟนด้วยบ่อยๆ ตอนที่มีสาวๆมารุมชอบเขาและเวหาไม่อยากสานสัมพันธ์ด้วย
“แต่ว่าเรื่องนี้มันลำบากใจนะ เพราะไอ้คลีมันก็เป็นเพื่อนสนิทของพี่”
“ตกลงจะช่วยไม่ช่วย ถ้าไม่ช่วยน้องดาจะแฉ เรื่องนั้นกับว่าที่เจ้าสาวของพี่เวหา” พีระดาสบตาเวหาอย่างเจ้าเล่ห์
“เรื่องอะไรกันครับน้องดา”
“ก็เรื่อง ที่พี่เหวาเคยแอบชอบและตามจีบผู้หญิงคนหนึ่ง แต่สุดท้ายเจ้าหล่อนเป็นกะเทย” พีระดาหัวเราะเบาๆ
“อย่านะน้องดาอย่าหัวเราะเป็นอันขาด แล้วก็ห้ามพูดเรื่องนี้ให้ใครฟังเด็ดขาดเข้าใจไหมพี่ล่ะอายจริงๆ” เวหาถือว่าเรื่องนี้เป็นความลับส่วนตัว
พีระดาหยุดหัวเราะ และกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“ถ้าไม่อยากให้น้องดาเล่า พี่เวหาก็ต้องช่วยน้องดา”
ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่หญิงสาวจะยิ้มอย่างผู้มีชัย
+++++++++++++++++++++
คืนนี้ภาคินัยหรือนายคลีไม่ได้ไปหาสาวๆ แบบที่บอกเพื่อนเอาไว้เขากลับมาที่คอนโดด้วยอารมณ์เหงาๆ บางครั้งเขาก็เคยคิดอยากจะมีครอบครัว อยากมีใครเป็นตัวเป็นตนแต่เมื่อคิดถึงการถูกผูกมัดที่จะไม่สามารถไปยุ่งเกี่ยวกับใครได้อีกคลีก็เปลี่ยนใจทุกครั้งแล้วคิดว่าสงสัยตัวเขายังหวงความโสดอยู่นั่นเอง
ลมเย็นๆจากชายทะเลพัดเข้ามาผ่านบานหน้าต่างที่ถูกเปิดเอาไว้ที่จริงเขาชอบอากาศเย็นจากธรรมชาติมากว่าแอร์ คืนนี้เงียบสงบแต่คลีกับคิดอะไรไม่ออกไม่มีแรงบันดาลใจในการเขียนนิยายฉากต่อไป เขาหยุดมือจากการเคาะแป้นคีย์บอร์ด จากนั้นเอื้อมไปหยิบหน้าปกนิยายเล่มแรกในชีวิตขึ้นมาดู
“คุณสวยจัง แล้วก็เป็นแรงบันดาลใจให้ผมมาจนกระทั่งทุกวันนี้ ทำไมเราไม่เจอกันอีกสักครั้งนะ คุณเป็นใครกันแน่ทำไมผมไม่เคยลืมใบหน้าของคุณเลย” ++++++++++++++++++++++++
อัปสรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 ก.ค. 2554, 15:10:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 ก.ค. 2554, 15:10:05 น.
จำนวนการเข้าชม : 4806
<< ตอนที่ 2 | ตอนที่ 4 >> |
ameerahTaec 22 ก.ค. 2554, 16:02:19 น.
บนหน้าปกนิตยสารต้องเป็นน้องดาแน่ๆเลย คิคิ
บนหน้าปกนิตยสารต้องเป็นน้องดาแน่ๆเลย คิคิ
plalawan 22 ก.ค. 2554, 16:32:18 น.
กรากกกกกกกก เจอหนูดาแล้วจะเสียใจที่พูดงั้นนะนายคลี เราก็ว่าหน้าปกนิยายนั่นต้องเป็นหนูดาแน่เลยง่ะ
กรากกกกกกกก เจอหนูดาแล้วจะเสียใจที่พูดงั้นนะนายคลี เราก็ว่าหน้าปกนิยายนั่นต้องเป็นหนูดาแน่เลยง่ะ
kaero 22 ก.ค. 2554, 17:48:05 น.
นางในฝัน อือื ลุ้นๆๆ
นางในฝัน อือื ลุ้นๆๆ
ปูสีน้ำเงิน 22 ก.ค. 2554, 19:21:48 น.
อยากให้ถึงตอนที่นางเอกเราเอาคืนจริงๆ
อยากให้ถึงตอนที่นางเอกเราเอาคืนจริงๆ
lovemuay 22 ก.ค. 2554, 19:25:31 น.
นางในฝันที่ความเป็นจริงเอาโหลคุกกี้ทุบหัวแบะ +55
นางในฝันที่ความเป็นจริงเอาโหลคุกกี้ทุบหัวแบะ +55
anOO 22 ก.ค. 2554, 19:43:47 น.
ท่าทางนายคลีจะตกม้าตาย ตอนเจอน้องดานะเนี้ย
ท่าทางนายคลีจะตกม้าตาย ตอนเจอน้องดานะเนี้ย
หนอนฮับ 22 ก.ค. 2554, 21:01:12 น.
อิอิ
อิอิ
หมู้หมู 22 ก.ค. 2554, 22:15:31 น.
เชอะแล้วก็มาฝันถึงเค้า
เชอะแล้วก็มาฝันถึงเค้า
xeve 22 ก.ค. 2554, 23:05:08 น.
Extreme ทุกทางจริงจริง. ชอบมากกกก
Extreme ทุกทางจริงจริง. ชอบมากกกก
แพม 23 ก.ค. 2554, 02:08:28 น.
ใครอ่ะ
ใครอ่ะ
dee_jung 23 ก.ค. 2554, 16:59:04 น.
หวังว่า ปกนิยายจะไม่ใช่น้องดานะ
หวังว่า ปกนิยายจะไม่ใช่น้องดานะ
pseudolife 23 ก.ค. 2554, 17:08:29 น.
นายคลีเอ๋ย งานนี้ท่าจะโดนหนัก
นายคลีเอ๋ย งานนี้ท่าจะโดนหนัก
เฉื่อย 25 ก.ค. 2554, 20:34:17 น.
สะใจ ยี่สิบเข็ม
สะใจ ยี่สิบเข็ม
ameerah 25 ก.ค. 2554, 21:51:17 น.
รอตอนต่อไปอยู่นะค่า
รอตอนต่อไปอยู่นะค่า
shotang 31 ม.ค. 2556, 17:08:44 น.
เอ๊ะ อย่างนี้เค้าเรียกว่า หลับไม่รุ้ตัวอ่ะเนอะ 555 โดน เข้าไปหลายเข็มเลย
แล้วนี่รูปหน้าปก สงสัยจะเป็นนางเอกของเราเปล่าหว่าๆๆๆ
เอ๊ะ อย่างนี้เค้าเรียกว่า หลับไม่รุ้ตัวอ่ะเนอะ 555 โดน เข้าไปหลายเข็มเลย
แล้วนี่รูปหน้าปก สงสัยจะเป็นนางเอกของเราเปล่าหว่าๆๆๆ