ความรัก...สีหมอก

Tags: ความรัก...สีหมอก,อิง,เอย,แก้วกุดั่น,กรรณิการ์,พัสสน,ก้องภพ

ตอน: บทที่ 6

บทที่ 6


กรรณิการ์ตกใจแทบช็อกตั้งแต่วินาทีที่ถูกผลักเข้ามาในรถ

เด็กสาวขยับปากจะร้องขอความช่วยเหลือแล้วจึงรู้ว่าไม่มีเสียง ร่างบอบบางสั่นสะท้านไม่แพ้หัวใจเมื่อพบว่าที่นั่งข้าง ๆ มีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังจับจ้องเธออยู่

ทว่า วินาทีที่ประสานตา กรรณิการ์ก็ตะลึง

ดวงตาสีฟ้าเข้มนั้นเหมือนมีพลังแฝง ทำให้เด็กสาวไม่มีแรงขัดขืนเมื่อถูกชายหนุ่มดึงตัว

ยามเบิกตากว้างมองอยู่อย่างนั้น หัวใจกรรณิการ์ก็เต้นแรงเมื่อเจอกับรอยยิ้มสว่างสดใสจนทำให้ตาพร่า

“ปุกปุย”

ถึงน้ำเสียงทุ้มอ่อนนั้นจะชวนให้ใจละลาย แต่เด็กสาวก็ยังไม่ลืม

เธอไม่ได้ชื่อปุกปุย

กรรณิการ์ขยับปากทั้งที่ไม่มีเสียง แต่เหมือนคนที่โอบกอดเธอแล้วเอาแต่ยิ้มไม่ได้สนใจเมื่อยังคงพูดต่อ

“กระต่ายน้อยของฉัน เธอกลับมาหาฉันแล้วสินะ”

ในขณะที่เด็กสาวยังจับต้นชนปลายไม่ติด คนที่พูดเองเออเองก็ฉวยจังหวะนั้นก้มหน้าลงมา

จูบแรกในชีวิตที่มาแบบรวดเร็วและหนักหน่วงส่งผลให้กรรณิการ์หัวหมุน ทำอะไรไม่ถูกได้แต่นิ่งงัน กระทั่งรู้สึกว่าอากาศไม่พอหายใจ แล้วหลังจากนั้นเธอก็ไม่รับรู้อะไรอีก


เย็นวันนั้น เมื่อกลับมาบ้าน ก้องภพก็พบว่าแก้วกุดั่นกำลังคอยเขาอยู่

“คุณก้องคะ ช่วยอิงด้วยค่ะ”

ชายหนุ่มนิ่วหน้านึกแปลกใจท่าทีร้อนรนของหญิงสาว

“เกิดอะไรขึ้น”

“เอย...น้องสาวอิงยังไม่กลับบ้าน อิงพยายามโทร.หาน้องแต่ติดต่อไม่ได้เลย”

“น้องสาวของเธออาจจะแวะไปไหนหรือเปล่า”

“ไม่ค่ะ ปกติเลิกเรียนแล้วเอยจะกลับบ้านเลย แต่ถ้าไปไหนเอยต้องโทร. บอกอิงก่อนเสมอ”

ฟังแล้ว ก้องภพก็เริ่มร้อนใจ

“แล้วเธอโทร. หาเพื่อน ๆ ของเอยหรือยัง”

“โทร. แล้วค่ะ ทุกคนพูดเหมือนกันหมดว่าเอยบอกว่าจะรีบกลับบ้านเพราะ...เป็นห่วงอิง”

คำพูดตอนท้ายนั้นแผ่วพร่าราวกับเจ้าตัวกำลังสะเทือนใจ ยิ่งดูจากน้ำใส ๆ ที่กำลังคลอเบ้าตาก็ราวกับจะยืนยัน

“อาจเกิดเรื่องอะไรสักอย่าง”

ก้องภพชะงัก เมื่อเห็นว่าคำพูดของเขาส่งผลให้แก้วกุดั่นทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

“เอาเป็นว่า เดี๋ยวฉันจะให้คนติดต่อตามโรงพยาบาลต่าง ๆ เช็คดูว่าก่อนหน้านี้มีคนเจ็บจากอุบัติเหตุมาไหม”

ดูเหมือนความตั้งใจจะช่วยของเขากลับยิ่งทำให้หญิงสาวรู้สึกแย่ เมื่อมองจากท่าทีที่เหมือนพร้อมจะปล่อยให้น้ำตาร่วงลงมาทุกเมื่อ และนั่นทำให้ก้องภพหมดความอดทนเมื่อบอกเสียงเข้มจัด

“น้ำตาไม่ช่วยอะไรหรอกนะ แทนที่เธอจะร้องไห้เอาเวลามาช่วยกันคิดดีกว่าว่าจะไปตามหาน้องของเธอได้ที่ไหน”

“อิง...ไม่รู้จะทำยังไง”

ท่าทางสับสนราวกับเด็กหลงทางของแก้วกุดั่นส่งผลให้ก้องภพใจอ่อน

“งั้นไปกับฉัน”

พูดจบชายหนุ่มก็ฉวยมือหญิงสาวแล้วทำท่าจะดึงไปขึ้นรถ

“ไปไหนคะ”

คำถามของนั้นทำให้ก้องภพต้องหันกลับไปมองแวบหนึ่ง ก่อนให้คำตอบ

“มหา’ลัยของน้องสาวเธอ”


เมื่อกรรณิการ์ลืมตาขึ้นอีกครั้ง เธอรู้สึกว่ากำลังนอนอยู่บนเตียงกว้างในห้องไม่คุ้นตา

“ฟื้นแล้วหรือ”

เด็กสาวผงะตัวด้วยความตกใจเมื่อพบว่าข้างตัวเธอคือชายหนุ่มตาสีฟ้าเข้มคนนั้น

คนที่ได้จูบแรกของเธอ

ยังไม่ทันได้ลุกหนีอย่างที่คิด อีกฝ่ายก็ทำเหมือนรู้ทันเมื่อโผตัวขึ้นมาคร่อมทับ

ความตกใจทำให้เด็กสาวคิดจะร้องขอความช่วยเหลือ แต่เพียงแค่ขยับปากก็ถูกชายหนุ่มชิงก้มหน้าลงมาปิด

กรรณิการ์รู้สึกเหมือนโลกตีลังกา เมื่อจูบครั้งนี้ราวกับจะช่วงชิงลมหายใจ หากขณะเดียวกันก็ทำให้รู้สึกแปลก ๆ

“กระต่ายน้อยของฉัน”

นั่นคือคำที่เขาเรียกเธอ และมันก็เหมือนคาถาคลายมนต์สะกดจนทำให้เริ่มดิ้นรนขัดขืน แต่กลับถูกชายหนุ่มยึดข้อมือไปตรึงไว้เหนือศีรษะ

“ทำไม...เปลี่ยนใจแล้ว หรืออยากได้ค่าตัวเพิ่ม”

คำถามของคนตาสีน้ำทะเลซึ่งกำลังนิ่วหน้าราวกับไม่พอใจ ทำให้กรรณิการ์พลอยทำตาม ไม่เข้าใจว่าเขากำลังพูดเรื่องอะไรอยู่

แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าจะก้มหน้าลงมาอีกครั้ง เธอก็ส่ายหน้าหนีพลางขยับปากแต่ยังคงไม่มีเสียง

ทำไมต้องเป็นแบบนี้

ความโกรธตัวเองและตกใจกับสิ่งที่กำลังเผชิญทำให้กรรณิการ์น้ำตาไหล พลางส่ายหน้าไปมาอยู่บนหมอนด้วยหวังสื่อให้ชายหนุ่มเข้าใจ

“คุณนภาไม่ได้บอกหรือว่าให้ตามใจฉัน”

เด็กสาวส่ายหน้าอีกครั้งแทนคำบอกว่าเธอไม่รู้จักคนที่เขาพูดถึง แต่เหมือนชายหนุ่มเข้าใจผิด

“เขาไม่ได้บอกเธอสินะ ไม่เป็นไร เอาเป็นว่า...ถ้าเธอทำให้ฉันพอใจ ฉันยินดีเพิ่มเงินให้ตามที่เธอต้องการ”

ถึงตอนนี้กรรณิการ์ก็เข้าใจแล้วว่าอะไรเป็นอะไร เด็กสาวปากสั่นขณะอ้าปากจะบอกอีกครั้ง

“อะไรของเธอ ทำไมไม่พูด อยากได้อะไรก็บอกมาสิ”

ชายหนุ่มดูเหมือนเริ่มหงุดหงิด

ปล่อยเธอไป

คำขอร้องดังแค่ในใจของเด็กสาว เมื่อจนแล้วจนรอดก็ยังเปล่งเสียงไม่ได้

เมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจราวกับหมดความอดทนของคนที่ยังคงคร่อมตัวเธอ กรรณิการ์ก็นึกกลัวจนดิ้นรนเต็มที่ หากไม่นานเธอก็ได้ยินเขาร้องครางเหมือนกำลังเจ็บปวด

“หยุดทำไม ดิ้นต่อสิ กำลังได้ที่เลย”

ท่ามกลางความมึนงง กรรณิการ์ทันเห็นแค่อีกฝ่ายก้มหน้าลงมาก่อนที่เธอจะถูกเขาประกบปากอีกครั้ง

ไม่นะ อย่าทำอะไรเธอ ได้โปรด

เด็กสาวร่ำร้องอยู่ในใจอย่างปวดร้าว เมื่อนึกเดาได้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น

เมื่อเห็นว่าเด็กสาวยังไม่ยอมพูด ชายหนุ่มก็เหมือนไม่คิดจะฟัง เมื่อใช้มือข้างหนึ่งปลดกระดุมเสื้อเธอทั้งที่มืออีกข้างยังคงตรึงข้อมือเล็กเอาไว้

กรรณิการ์น้ำตาไหลเมื่อรู้ตัวว่าตอนนี้ช่วงบนของเธอเปลือยเปล่า ความอับอายและสิ้นหวังทำให้สะอื้นไห้ทั้งที่ปราศจากเสียง

“สวย”

คำชมนั้นมาพร้อมกับฝ่ามือใหญ่ที่เกาะกุมทรวงอกข้างหนึ่ง ก่อนผละออกแล้วทำให้เธอตัวสั่นไม่มีเรี่ยวแรงเมื่อเขาเริ่มลูบไล้ไปทั่วเรือนร่าง

“เคยนอนกับผู้ชายมาแล้วหรือยัง”

คำถามเสียงเรียบที่ราวกับไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบทำให้กรรณิการ์หน้าแดงด้วยความอับอาย หากยังคงส่ายหน้าพลางหวังว่าอีกฝ่ายอาจเปลี่ยนใจ

“งั้นฉันก็จะเป็นคนแรกสินะ”

ในขณะที่กรรณิการ์ยังอึ้งงันกับคำพูดนั้น เธอก็เจ็บแปลบตรงกลางลำตัวเมื่อรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างกำลังแทรกดุนเข้ามา

เจ็บ!

เด็กสาวน้ำตาไหล รับรู้ได้ถึงสิ่งแปลกปลอมที่กำลังขยับเข้าออกเป็นจังหวะ ครู่ใหญ่กว่าสิ่งนั้นจะหยุดการรุกราน

“ดูท่า เธอจะบอกความจริง”

ถึงแม้กำลังสับสนและเจ็บปวด แต่เด็กสาวก็ยังพยายามหุบขาเมื่อรู้สึกว่าชายหนุ่มกำลังดันขาเธอให้แยกออก

“จริง ๆ ฉันก็อยากมีเวลาให้มากกว่านี้ แต่น้องชายฉันท่าจะใจร้อนเพราะตอนนี้มันอยากเข้าไปอยู่ในตัวเธอจะแย่แล้ว”

กรรณิการ์ได้แต่มองอีกฝ่ายผ่านม่านน้ำตารู้สึกเหมือนเธอกำลังจะถูกบูชายัญ จังหวะที่ชายหนุ่มชะโงกตัวขึ้นเหนือร่าง ความเจ็บแปลบรุนแรงอย่างที่ไม่เคยรู้สึกก็บังเกิด

เด็กสาวคิดว่ากำลังกรีดร้อง ทั้งที่จริง ๆ แล้วแค่อ้าปาก ซึ่งอาจทำให้ชายหนุ่มนึกรำคาญจนก้มหน้าลงมาปิดก่อนบดขยี้ไม่ต่างจากสิ่งที่ร่างกายกำลังกระทำ

ท่ามกลางความรู้สึกเหมือนเจอพายุหมุน ร่างกายถูกถาโถมจากเรือนกายหนาหนัก กรรณิการ์ก็ยังทำได้เพียงปล่อยให้น้ำตาไหล

เนิ่นนานราวชั่วกัปกัลป์กว่าทุกอย่างจะจบสิ้น หัวใจที่เหมือนด้านชาไปแล้วบวกกับความรู้สึกตะครั่นตะครอตามเนื้อตัว ทำให้เด็กสาวนอนหลับตาทั้งที่น้ำตายังไหลริน ไม่อยากรับรู้ใด ๆ กระทั่งถูกช้อนใบหน้าขึ้น

กรรณิการ์ลืมตาขึ้นทันทีเมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างปะปนกับน้ำที่เขาป้อนเธอผ่านทางริมฝีปาก และชายหนุ่มก็เหมือนเดาได้จากคำถามในแววตาของเธอ

“ไม่ต้องกลัว แค่ยาป้องกันความผิดพลาด”

ราวกับตอนนี้ชายหนุ่มเพิ่งค้นพบความรู้สึกที่เรียกว่าเห็นใจ เมื่อยื่นมือข้างหนึ่งมาปิดตาเด็กสาว

“นอนซะ”

อาจเพราะที่ผ่านมาเธอร้องไห้มามาก แล้วยังความเจ็บปวดและอ่อนล้าจากการถูกบุกรุกเรือนกาย ทำให้วินาทีนั้นแม้ใจอยากขัดขืนแต่กรรณิการ์ก็ฝืนต้านทานไม่ได้ ในที่สุดจึงค่อย ๆ ดำดิ่งสู่ห้วงนิทราท่ามกลางสายตาจับจ้องของคนที่ได้ความบริสุทธิ์ของเธอไป

หลังจากแน่ใจว่าเด็กสาวหลับไปแล้ว พัสสนจึงดึงมือตัวเองออกแล้วเอาแต่จับจ้องเธออยู่อย่างนั้น

ชายหนุ่มหวนนึกถึงตอนที่สบตากันเป็นครั้งแรก

แววตาตื่น ๆ ของเด็กสาวทำให้ตอนนั้นเขาคิดถึงอดีตที่เคยคิดว่าลืมเลือนไปแล้ว

ในวันคล้ายวันเกิดอายุเจ็ดขวบ ของขวัญในปีนั้นที่เขาได้รับจากพ่อคือกระต่ายสีขาว ด้วยลักษณะขนฟูและลำตัวกลมทำให้เขาตั้งชื่อว่าปุกปุย นับจากนั้นทั้งกลางวันและกลางคืนเขาก็แทบไม่ห่างจากกระต่ายน้อย ความรักและผูกพันยิ่งทวีตามวันเวลา กระทั่งวันที่มันตายเขาถึงกับร้องไห้และกินข้าวไม่ลงไปเป็นอาทิตย์

ทั้งที่ไม่มีอะไรเหมือนกัน แต่วินาทีที่สบกับดวงตาตื่น ๆ คู่นั้น เขาถึงกับคิดฟุ้งซ่านว่ากระต่ายแสนรักกลับชาติมาเกิดใหม่ ถึงตอนนี้ชายหนุ่มก็นึกขำกับความคิดไร้สาระก่อนหน้านี้

แต่เธอก็เหมือนกระต่ายจริง ๆ

พัสสนบอกกับตัวเองเมื่อนึกถึงท่าทีตื่นตกใจง่ายของเด็กสาว หากพอคิดถึงการที่เธอไม่ยอมพูด เขาก็นิ่วหน้าเมื่อเพิ่งนึกได้ว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ยินเสียงของอีกฝ่าย

ยายกระต่ายบื้อใบ้

ชายหนุ่มนึกเข่นเขี้ยว หากดวงตากลับอ่อนแสงลงโดยไม่รู้ตัว ยิ่งเมื่อเหลือบไปเห็นสีแดงจางตรงบริเวณต้นขาของเด็กสาว ความอ่อนโยนก็แทรกซึมเข้ามาในใจ

หลังจากถอนหายใจ พัสสนก็ก้มลงไปจูบหน้าผากเด็กสาว ก่อนลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปห้องน้ำ


_______________________________________________________




ตอนใหม่มาแล้วค่ะ ^__^



ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์และ LIKE ที่มอบให้กันค่ะ



ปิ่นนลิน : ฮ่าาาาาา น้องเอยโดนจับไปกินคร้า...ส่วนพี่ก้องเนี่ย อาจต้องใช้เวลาสักนี๊ดดด ในการตามหาความอ่อนโยน




พันวลี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ก.ย. 2558, 10:32:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 ก.ย. 2558, 10:32:21 น.

จำนวนการเข้าชม : 1408





<< บทที่ 5    บทที่ 7 >>
ปิ่นนลิน 25 ก.ย. 2558, 13:22:15 น.
แงงงง สงสารน้องเอย ><


Zephyr 27 ก.ย. 2558, 23:41:12 น.
น้องเอยลำ้หน้าพี่อิงแล้วววว


LAM 26 พ.ย. 2558, 14:16:54 น.
พัสสนคือคนที่จะมารักษาอาการป่วยของเองใช่ไหมนี่


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account