~ สายใย .. ไฟรัก ~
~ สายใย .. ไฟรัก ~


เส้นสายใย .. ใครกันหนอ .. ที่ทอถัก
เส้นสายรัก .. ใครจักสาน.. ขานคำขอ
เส้นทางเดิน .. ใครเหินห่าง .. ต่างเฝ้ารอ
ไฟรักพอ .. ต่อหัวใจ .. ให้อุ่นอิง




เธอ .. คือ เพื่อนสนิทของน้องสาวเพื่อนรัก

เขา .. คือ ผู้บริหารโรงแรมจอมเผด็จการ แต่กลับเป็นเพื่อนรักพี่ชายของเพื่อนสนิท

ทว่า ..

เธอ .. ในสายตาของเขา .. คือ คนอวดดี ยโส ที่ใช้เพื่อนเป็นทางผ่านไปสู่ความสำเร็จของตัวเอง

เขา .. ในสายตาของเธอ .. คือ ผู้ชายไร้เหตุผล เอาแต่ตนเองเป็นใหญ่

ที่สำคัญเหนืออื่นใด .. ทั้งเธอและเขา .. กำลังตกหลุมรักคนที่ไม่ควรจะรัก!




***************************
Tags: ความรัก ครอบครัว เพื่อน

ตอน: ใยเส้นที่ 20 .. ความสงสัย





หลังพักผ่อนจากการเดินทางได้ราวๆ ๓ ชั่วโมง มัสลินพยายามโทรศัพท์หาศรตฤณไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแต่ก็ไม่ประสบผล เพราะความมุ่งมั่นที่จะติดต่อกับอาหนุ่มของเธอให้ได้ เธอจึงตอบปฏิเสธรัศมิทัตที่มาชวนไปทานของว่าง เมื่อเห็นว่าเพื่อนไม่ได้ออกมาร่วมโต๊ะมื้อกลางวัน

หญิงสาวคิดว่า ถ้ายังไม่มีความคืบหน้าอยู่อย่างนี้ เธออาจต้องพึ่งพาใครบางคนที่คิดว่า จะสามารถติดต่อเขาได้มากกว่าเธอ

เชดส์ ... คือคนนั้นที่เธอนึกถึง

คิดได้ดังนั้นมัสลินจึงออกจากห้อง เพื่อไปหาบังคิดผู้ซึ่งกว้างขวางและรู้จักผู้คนบนเกาะลาลัลแห่งนี้เป็นอย่างดี

มัสลินเดินอ้อมบังกะโลที่พักไปยังฝั่งตรงข้าม ด้านหลังของอาคารนี้เป็นที่รวมตัวของพนักงานในแผนกแม่บ้าน และหนึ่งในนั้นที่ชอบมาขลุกอยู่กับสาวน้อยสาวใหญ่ยามว่าง คือคนที่เธอกำลังตามหา ... นายสมคิด ลูกน้องคนสนิทของนายหัวเพลิงกัลป์

"บังคิดคะ ... จ๊ะ เห็นบังคิดไหมคะ"

หญิงสาวมาถึงห้องซักรีดที่คิดว่า บังคิดจะมานั่งคุยกับแม่บ้านคนใดคนหนึ่ง จึงเรียกออกไปทันที แต่กลับพบว่า มีเพียงสาวใหญ่กำลังรีดผ้าอยู่เพียงลำพัง ที่พอได้ยินเสียงก็วางมือจากงานแล้วเงยหน้ามองทันทีเมื่อถูกถามไถ่

"อ้าว คุณลินิน ... มาหาบังเหรอ เอ ... จ๊ะ ไม่เห็นนะ สงสัยไปดูเรือ มีอะไรรึเปล่าคะ"

จ๊ะ ที่คนบนเกาะใช้แทนคำว่าพี่สาว ทักทายมัสลินพร้อมกับตอบคำถามไปด้วย หญิงสาวจึงพยักหน้าเข้าใจก่อนจะส่งยิ้มให้ แล้วฝากข้อความไว้

"ลินินมีเรื่องอยากจะถามบังสักหน่อย ถ้าจ๊ะเจอบังคิด รบกวนบอกบังทีนะคะ หรือไปตามลินินที่ห้องก็ได้"

"ได้ค่ะ คุณลินิน"

มัสลินพูดคุยกับสาวใหญ่ตำแหน่งซักรีดครู่เดียวก็เดินออกจากตรงนั้น พอก้าวเท้ามาถึงมุมตึกหัวใจก็แทบหล่นไปอยู่ตาตุ่ม เพราะเกือบจะปะทะกับร่างสูงของท่านประธานแห่งรู้ค รีสอร์ท แอนด์ สปา

"นี่คุณ ทางเดินมีตั้งเยอะตั้งแยะ ทำไมไม่เดิน ... ดีนะ ฉันยั้งขาไว้ทัน ไม่งั้นคงได้เจ็บตัวแน่"

"อ้าว ... แล้วฉันจะรู้ไหมล่ะ ว่าเธอมาป้วนเปี้ยนแถวห้องแม่บ้านน่ะ"

เพลิงกัลป์ย้อนให้ทันควันเช่นกัน ก่อนที่จะหรี่ตามองอย่างสงสัย และคนอย่างเขาก็ไม่ปล่อยให้คาใจนานนัก

"ว่าแต่ มาทำอะไรที่นี่ ... มื้อกลางวันก็ไม่ไปกิน"

"ไม่เกี่ยวกับคุณ"

"ไม่ว่าอะไรก็ตามแต่ที่อยู่ที่นี่ และเกิดขึ้นภายในที่แห่งนี้ เกี่ยวกับฉันทั้งนั้น"

เมื่อได้ยินคำประกาศถืออำนาจของเพลิงกัลป์ แถมยังวางท่ายิ่งใหญ่เสียเต็มประดา มัสลินถึงกับต้องแหงนหน้ามองเขาให้เต็มตา แต่อาการเงยนั้นแทบจะเรียกว่าคอตั้งบ่าเพราะความสูงของอีกฝ่าย

"งั้น ... มันก็เรื่องของฉัน"

พูดจบมัสลินก็สะบัดหน้าเดินหนีไปอีกทาง ไม่อยากเผชิญหน้ากับเพลิงกัลป์ให้เสียอารมณ์มากไปกว่านี้ โดยไม่อยู่รอฟังอะไรที่ไม่อยากฟัง ซึ่งคิดว่าชายหนุ่มต้องพูดออกมาแน่ๆ และถ้าเธอหยั่งรู้ได้ยิน ก็ยิ่งจะมั่นใจได้ว่า เธอคิดถูกแล้ว

"ยัยเด็กอวดดี"

เพราะท่าทางของมัสลิน ทำให้ชายหนุ่มถึงกับเอ่ยปากด้วยฉายาที่มอบให้ ... ทุกครั้งที่มีอันต้องประคารม แล้วเธอก็ชิงหนีหน้าไปได้ตลอดเหมือนกัน




มัสลินเดินไปทางชายหาดเพื่อให้พ้นรัศมีสายตาของเพลิงกัลป์มาได้ไม่นาน ก็ได้พบกับนายสมคิดหรือบังคิด ที่เดินไปเดินมาบนเรือสปีดโบ้ท ขณะจอดลอยลำโคลงเคลงตามแรงคลื่นกระฉอหแถวหน้าหาด อารามดีใจทำให้หญิงสาวแทบจะวิ่งเข้าไปหา เพราะกลัวว่าบังคิดจะเปลี่ยนใจขับเรือออกไปเสียก่อน

"บังคิด ... บัง ลินินมีเรื่องอยากถามค่ะ"

หญิงสาวต้องตะโกนเรียกแข่งกับเสียงคลื่นซัดสาด ทำให้เจ้าตัวต้องโบกไม้โบกมือเป็นสัญญาณช่วยอีกทาง กระทั่งบังคิดชะโงกหน้ามองแล้วก้าวออกมายืนบริเวณกราบเรือด้านข้าง

"อ้าว ... คุณลินิน ... จะไปไหนครับ"

"บังลงมาคุยกับลินินแป๊บหนึ่งได้ไหม ... ตะโกนคุยกันแบบนี้ไม่ไหวค่ะ"

ชายผู้มีวัยเกินกว่าครึ่งร้อยพยักหน้าหงึกหงัก แล้วผลุบเข้าไปในเรือครู่หนึ่งก่อนมัสลินจะได้ยินเสียงเหมือนวัตถุมีน้ำหนักถูกโยนตูม หล่นลงในทะเลจนน้ำกระจาย จากนั้นจึงเห็นบังคิดกระโดดลงจากเรือเดินลุยน้ำมาหาเธอบนชายฝั่ง

"มีอะไรให้ผมช่วยหรือครับ"

"เอ่อ ... คือ .."

มัสลินอึกอักเพราะไม่รู้จะเริ่มยังไงดี แต่ก็คิดไว้ว่า ถ้าไม่เสี่ยงถามคนในพื้นที่ เธอก็ไม่รู้จะไปหาข้อมูลจากที่ไหนได้อีก

"บังคิดรู้จัก ... เอ่อ คุณเชดส์ไหมคะ ... ที่ไว้ผมแต่งตัวแบบเร้กเก้ เป็นดีเจผับบนเกาะนี้น่ะค่ะ"

หญิงสาวพยายามอธิบายโดยใส่รายละเอียดเท่าที่ทราบให้มากที่สุด พลางมองดูปฏิกิริยาคนฟัง ด้วยอาการมุ่นคิ้วราวกับกำลังนึกลักษณะตามคำบอกเล่าของบังคิด ยิ่งเพิ่มความหวังให้กับเธอได้ใจชื้นขึ้น

"เชดส์ ... หรือครับ เอ ... จะใช่คนที่ขายของที่ระลึกรึเปล่า ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ แต่จากที่คุณลินินบอก ผมก็เห็นมีแค่คนนี้ล่ะ ที่เข้าเค้า"

"บังรู้จักร้านเขาไหมคะ ... พาลินิน เอ่อ ... เอาเป็นบังแค่บอกว่าร้านเขาอยู่ตรงไหนก็ได้ค่ะ"

มัสลินตื่นเต้นที่ได้ยินดังนั้นพร้อมก้าวเข้ามาหาบังคิดอย่างลืมตัว ก่อนจะนึกขึ้นได้จึงค่อยๆบังคับตัวเองให้ระงับความรู้สึกไว้บ้าง

"ถ้าใช่คนเดียวกัน ร้านเขาอยู่ในซอยรวมร้านขายของที่ระลึก ตรงข้ามอนามัยนั่นล่ะ คุณลินินจะลองไปดูเอง ... หรือ ถ้ายังไงไปกับผมก็ได้ ผมจะขับเรือไปเก็บที่อู่ท่าเรือกับเช็คเครื่องเช็คอะไหล่อีกหน่อย ... คุณลินินก็ไปทำธุระ เสร็จแล้วจะมารอผม .. รึให้ผมมารอรับกลับด้วยยังได้เลย"

หญิงสาวจดจำรายละเอียดที่บังคิดบอกแค่ข้อมูลเกี่ยวกับเชดส์ แล้วทบทวนจนเกือบไม่ได้ฟังข้อเสนอหลังๆของอีกฝ่าย เพราะคิดว่าถ้าได้พบกับผู้ชายคนนี้จริงๆ คงมีเรื่องต้องสอบถามกันอีกไม่น้อย

มัสลินยิ้มให้กับบังคิดพร้อมพยักหน้าเป็นคำตอบตกลง โดยไม่รอให้ต้องถามซ้ำอีกแล้ว เมื่อเธอเดินลุยน้ำตามหลังชายผู้มีน้ำใจไปติดๆ

ความสนใจมุ่งไปยังจุดหมายเบื้องหน้า ทำให้เธอลืมทุกเรื่องที่เพิ่งผ่านมาเสียสนิท

ถ้ามัสลินจะมีตาหลังและมองได้ระยะไกลก็จะเห็นเลยว่า มีใครบางคนยืนมองเธอนับตั้งแต่ก้าวขึ้นเรือสปีดโบ้ท แล้วดูมันก็เคลื่อนทะยานฝ่าคลื่นลมทะเลหน้ามรสุมออกไป ... อย่างไม่คลาดสายตา






หลังจากก้าวขึ้นฝั่งที่ท่าเทียบเรือ มัสลินจึงบอกบังคิดว่า ไม่ต้องรอ เพราะยังไม่รู้ว่าธุระจะเรียบร้อยหรือไม่ ซึ่งอีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะไม่ยอม แต่ก็จนใจเมื่อหญิงสาวยืนกรานหนักแน่น ด้วยคำว่า ... ธุระส่วนตัว

มัสลินปลีกตัวมาได้ก็เดินเรื่อยมาจนเห็นอนามัยที่คุ้นตา ทำให้อดนึกถึงคนขวางโลกที่ไม่เคยพูดจาดีๆกับเธอไม่ได้

"คนบ้าอะไร ... คอยแต่จะหาเรื่องตลอด ... กี่ปีๆยังไม่เคยเปลี่ยน"

หญิงสาวพึมพำอย่างหงุดหงิด ขณะสาวเท้ามาจนถึงบริเวณที่จัดไว้สำหรับร้านค้าโดยเฉพาะ คราวนี้เธอเลือกเดินฝั่งตรงข้ามกับอนามัย จึงไม่ต้องข้ามถนน เหมือนตอนที่รอเพลิงกัลป์หลังจากทำแผลเสร็จเมื่อคราวก่อน

มัคคุเทศก์สาวเหลียวซ้ายแลขวา มองหาร้านที่เน้นขายของที่ระลึกตามคำบอกของบังคิด กระทั่งสะดุดตากับร้านขายเสื้อสกรีนด้านหน้าเป็นรูปใบไม้ ๕ แฉกสีเขียวบนพื้นผ้ายืดสีขาวสะอาด

"สวยแฮะ ... ลองแวะร้านนี้ดีกว่า เผื่อคนขายจะรู้จักคุณเชดส์"

มัสลินก้าวไปยังร้านนั้นอย่างว่องไว ส่วนหนึ่งเพราะแรงดึงดูดจากสินค้า ซึ่งพอมาหยุดยืนพิจารณาจริงจัง ร้านนี้มีอะไรๆน่าสนใจมากกว่าที่คิด

"สวัสดีครับ ... สนใจของที่ระลึกแบบไหนครับ ร้านผมมีทั้งเสื้อผ้า หมวก กระเป๋า เครื่องประดับ ... แล้ว ... ก็ ... อ้าว คุณลินิน"

คำทักทายจากคนขายบอกได้ว่า เป็นเสียงของชายหนุ่มอารมณ์ดีที่พร้อมเอาใจใส่ลูกค้า ก่อนจะแปรเป็นน้ำเสียงประหลาดใจ ซ้ำยังเอ่ยชื่อหญิงสาวได้อย่างถูกต้อง จนเธอต้องละสายตาจากเสื้อลายใบไม้หันกลับไปมอง

มัสลินเบิกตาโตเมื่อเห็นชัดๆว่า เขาคือใคร ... ด้วยความแปลกใจปนดีใจไม่คิดว่า บทจะเจอก็เจอกันง่ายดายเพียงนี้

"คุณเชดส์"

"ไปไงมาไงครับ ... อย่าบอกนะว่า คิดถึงผม ... เลยตามมาหาถึงที่ร้านนี่"

เชดส์ถามอย่างร่าเริงแกมกระเซ้า ท่าทางของเขาติดตลกมากกว่าจะจริงจัง ทั้งอากัปกิริยายังทำเป็นแกล้งเหลือบมองซ้ายขวาราวกลัวใครได้ยิน

"คุณเชดส์รู้ได้ยังไงคะ ... หรือว่า นอกเหนือจากขายของ เป็นดีเจ ยังเป็นหมอดูอีกอาชีพหนึ่ง"

"ห๊ะ! ... อย่าให้ผมตีความไปเอง ว่ามีสาวสวยคิดถึงผมนะครับ ... เดี๋ยวจะเป็นอันตรายกับชีวิตของผม"

"อันตราย? ... เกิดอะไรขึ้นคะ คุณเชดส์"

หญิงสาวหน้าตาตื่นอย่างตกใจจริงๆ เพราะมีเรื่องค้างคาใจให้กังวล จนพานไปนึกถึงว่า ที่หนุ่มเดรดล็อคพูดมามีเรื่องคอขาดบาดตายเกิดขึ้น

"ใจเย็นๆครับ ... ใจเย็น ผมล้อเล่น ... ก็ผมเห็นว่า อาป่าน เอ่อ ... ซายน์ ... วะ ฉันจะเรียกยังไงดี"

เชดส์ตะล่อมให้มัสลินคลายใจ แต่พอจะอ้างหาเหตุผลพาดพิงไปถึงศรตฤณ หนุ่มเร้กเก้ไม่แน่ใจว่าควรใช้สรรนามแทนอย่างไร จึงเผลอสบถออกมาเบาๆ

หญิงสาวได้ยินเข้าถึงกับเผลอปล่อยหัวเราะคิกออกมา เธฮพอจะเข้าใจแล้วว่า ... สิ่งที่เธอคิดนั้น ไม่ผิดไปกี่มากน้อยในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายสองคนนี้ ที่จะทำให้เชื่อจริงๆว่า พวกเขาสนิทกัน

"เอาที่คุณเชดส์ถนัดดีกว่าค่ะ ... เพราะลินินเองก็อยากรู้จัก 'คุณซายน์' อยู่เหมือนกัน ... ถึงได้ตั้งใจมาหาคุณที่นี่"

"เอ๊ะ ... ตั้งใจมาหาผม ... หมายความว่ายังไงครับ"

หนุ่มเดรดล็อคหลิ่วตามองหญิงสาว ความรู้สึกบางอย่างเตือนให้เขาเพิ่มความระมัดระวังคำพูดมากขึ้น แต่หากยังต้องรู้ให้ได้ว่า 'หลานสาว' ของเพื่อนคนนี้ มีจุดประสงค์อย่างไรกันแน่ในการมาพบเขาครั้งนี้

"ค่ะ ... พอดีมีเรื่องอยากถาม และคิดว่าคุณเชดส์น่าจะช่วยได้สัก ... เรื่อง หรือ ๒ เรื่อง"

เชดส์เงียบไปอึดใจไม่เหลือเค้าความรื่นเริงบนใบหน้าเช่นเมื่อครู่ สังหรณ์ในใจกระตุกผ่านดวงตาที่เพ่งมองมัสลินแน่วแน่

"ผมว่า ... เข้ามาดู ... มาคุยกันในร้านดีกว่าครับ สินค้าผมมีเยอะ ... อธิบายตรงนี้คงไม่สะดวกเท่าไหร่"

"ลินินก็คิดว่ายังงั้น ... เหมือนกันค่ะ"

แม้ทั้งคำพูดจะโอนอ่อนกอปรกับรอยยกยิ้มพิมพ์ใจ แต่นัยน์ตาคู่คมสวยไม่ได้กระจ่างพราวเหมือนล้อกันเล่นดังที่เอ่ยเลย




สมาธิในการทำงานของเพลิงกัลป์ดิ่งลงจนแทบจะเป็นศูนย์ เมื่อภาพบางภาพคอยมารบกวนในห้วงความคิดตลอดเวลา ... ภาพที่มัสลินก้าวขึ้นสปีดโบ้ทไปกับบังคิด

เธอจะไปไหน ... และ กำลังจะทำอะไร ?

ชายหนุ่มพยายามปัดความคิดติดลบในแง่ที่ว่า หญิงสาวทำไปเพื่อทดสอบและบริหารเสน่ห์ ... เพราะถ้าเป็นแบบนั้น มันก็ออกจะเกินไปหน่อย และเขาคงทนไม่ได้ ที่ต้องมาเห็นเพื่อนของพายพัดทำเรื่องไม่เหมาะสมในสถานที่ของเขา

ก็แล้ว ... ทำไมคนอย่างนายหัวเพลิงกัลป์ต้องทนไม่ได้ล่ะ ในเมื่อมันไม่ใช่เรื่องของเขาเลยสักนิด

ใช่ ... มัสลินยังยืนยันต่อหน้าเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา ... ว่า เป็นเรื่องของเธอ

เพลิงกัลป์กระแทกปากกาในมือลงบนแฟ้มที่อ่านเท่าไหร่ก็ไม่รู้เรื่อง ความหงุดหงิดที่ก่อตัว ทำให้ต้องลุกจากเก้าอี้ทำงาน เดินออกมารับลมทะเลข้างนอก ราวกับมันจะช่วยให้ความร้อนภายในทุเลาลง

เมื่อไม่รู้จะทำอะไรชายหนุ่มจึงเลือกที่จะล้วงโทรศัพท์มือถือ ออกมาจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาถือไว้ ตั้งใจแล้วว่าคนที่เขาควรนึกถึงคือ ศิรา และเขาน่าจะเป็นฝ่ายติดต่อไปหาเธอบ้าง ... ซึ่งก็คงไม่แปลกแต่อย่างใด

ทว่า ไม่ทันที่หมายเลขของหญิงสาวที่กำลังไล่รายชื่อหาจะปรากฏ อุปกรณ์สื่อสารในมือก็สั่นสะเทือนขึ้นมาเสียก่อน พร้อมๆกับชื่อบุคคลบนหน้าจอ

คุณรี่ ?

ท่านประธานรู้คขมวดคิ้วเล็กน้อย ทั้งที่ความบึ้งตึงยังไม่คลายไปจากใบหน้า พลันก็นึกได้ว่ามีเรื่องบางเรื่องอาศัยไหว้วานสรัลรีไว้ จึงปรับสีหน้าให้ดีขึ้นแม้อีกฝ่ายจะไม่เห็นก็ตาม

"สวัสดีครับ คุณรี่ ... มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ"

"ปากหวานนะคะคุณไฟ ... ใครจะกล้าให้นายหัวมารับใช้กัน"

เพลิงกัลป์ยกมุมปากหากสีหน้ากลับเคร่งขึ้นอีก เมื่ออยากรู้ว่า หญิงสาวติดต่อมาด้วยเรื่องใดกันแน่ ... ใช่เรื่องที่เขาให้คอยสังเกต 'ซายน์' หรือเปล่า

"ได้เรื่องอะไรมาหรือครับ"

ชายหนุ่มรับรู้ได้ว่า ที่สรัลรีเงียบไปครู่หนึ่งเหมือนกำลังคิดอะไร ก่อนจะหัวเราะเบาๆให้ได้ยิน คล้ายกับขำน้อยๆเชิงว่า ไม่สามารถปิดบังเขาได้ แล้วก็ได้ฟังคำเกริ่นเริ่มต้นที่กระดากใจแทนคนพูดพิกล แต่ก็ยังนิ่งรอให้สาวเจ้าของร้านอาหารชื่อดังเล่ามา

"แหม คุณไฟรู้ใจรี่จังเลยค่ะ ... ปกติซายน์จะต้องมากินข้าวที่ร้านรี่ทุกวัน บางทีก็มากับคุณงาม ไม่ก็มาคนเดียว ... แต่น่าแปลกที่วันนี้ซายน์กลับออกไปกับเชดส์ ..."

"เมื่อไหร่"

เพลิงกัลป์ถามเสียงห้วนเป็นการเร่งให้สรัลรีรีบเล่าให้จบ ทั้งที่จริงเธอก็กำลังจะพูดอยู่แล้ว เพียงแต่เขารู้สึกว่า ไม่ทันใจเอาเสียเลย

"เอ่อ ... ตอนสายๆค่ะ ... ป่านนี้ก็ยังไม่เห็นกลับมา ... คุณไฟคิดว่า มีอะไรผิดปกติอย่างนั้นหรือคะ"

"ขอบคุณคุณรี่นะครับ ... ที่ช่วยเป็นหูเป็นตาให้ผม ... เอาไว้เรียบร้อยแล้ว ผมจะตอบแทนคุณรี่ที่ช่วยผม ... นะครับ"

ชายหนุ่มตัดบทโดยไม่ตอบคำถาม หากยกเรื่องความช่วยเหลือให้อีกฝ่ายเข้าใจว่า เขาพร้อมจะคืนค่าเสียเวลาให้ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ... เท่าที่จะปรับโทนให้นุ่มลงได้

"ค่ะ ... รี่เคยบอกคุณแล้ว ... สำหรับคุณรี่เต็มใจช่วยทุกอย่าง ไม่ได้หวังอะไร ... มากมาย"

ความอึดอัดย่างกรายขณะเงียบฟังสิ่งที่สรัลรีเอ่ยออกมา กระทั่งเห็นว่า เขาไม่ควรทอดเวลามากไปกว่านี้ จึงพูดร่ำลาตัดบทอีกครั้งอย่างไม่ลังเล

"ครับ ... ขอบคุณคุณรี่จริงๆ ... ผมคงต้องขอตัวทำงานก่อน ... สวัสดีครับ"

เพลิงกัลป์ตัดสัญญาณรวดเร็ว ความคิดปะติดปะต่อเรื่องราวที่ได้ยินเต็มหูว่า ซายน์ออกไปกับเชดส์ ...

เชดส์ ... อย่างนั้นหรือ ?

มันค่อนข้างชัดเจนทีเดียวกับข้อสันนิษฐานต่อความสงสัยในใจ ... แต่ยังก่อน เขาจะต้องมีหลักฐานมากกว่านี้

และ คนที่จะตอบคำถามของเขาได้ดีที่สุด ก็เห็นจะเป็นเจ้าตัวนั่นล่ะ





ศรตฤณลืมตาตื่นมาสักพักใหญ่ การมานอนที่ร้านของเชดส์ในวันนี้ ก็เพื่อเตรียมตัวออกไปสังเกตการณ์ที่คิง เซอร์เพนท์ ออฟ เดอะ เซาท์ ซี โฮเทลอีกรอบ หลังจากเมื่อคืนได้พบเจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิดมาแล้ว

อีกทั้งเพชรงามบอกเขาว่า ที่โรงแรมงานค่อนข้างยุ่งเพราะมีการเปลี่ยนแปลงระบบ อาจจะไม่มีเวลามาหาสักระยะ ซึ่งก็เป็นเรื่องดีที่เขาจะได้ไม่ต้องหาข้ออ้างเพื่อหลีกเลี่ยงในการหลบหน้ากัน

แต่มันจะบังเอิญอย่างพอเหมาะพอเจาะเกินไปหรือเปล่า ที่เพชรงามต้องมาติดภารกิจในช่วงนี้ ... ระหว่างที่นาคินทร์ พี. เซอร์เพนท์ ปรากฏตัวอย่างไม่ชอบมาพากล

หนุ่มสองเชื้อชาติรับรู้และทำใจยอมรับเสมอมาว่า การเข้าหาหญิงสาวคนหนึ่งที่ทำงานให้กับคนที่เขาสงสัย ย่อมไม่พ้นวิสัยที่จะเป็นเช่นนั้นไปด้วย

ข้อสังเกตอย่างง่ายที่สุด ... เพชรงามทำอย่างไร ให้เขาเข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดฟูลมูนปาร์ตี้ได้ ... ทั้งที่เป็นงานสำคัญ ซึ่งรับรู้กันภายในว่า สปอนเซอร์หลักงานนี้คือ คิง เซอร์เพนท์ เพียงแต่ไม่ได้ออกหน้าโฆษณาตัวเองเท่านั้น

แสดงว่า ผู้หญิงคนนี้มีอิทธิพลไม่น้อย ต่อการตัดสินใจของฝ่ายบริหาร

หากย้อนคิดดีๆ เพชรงามเคยหลุดปากเอ่ยถึงชื่อๆหนึ่ง ... ซึ่งเป็นชื่อที่ทำให้มั่นใจว่า เขาเลือกประกบไม่ผิดคน

เธอเกือบจะทำให้เขาได้เผชิญหน้ากับอดีตคู่หูโดยไม่ทันตั้งตัว ... แต่สุดท้ายก็คลาดกัน เพราะเหตุผลใดไม่ทราบแน่ชัด เรื่องของเขาจึงตกมาอยู่ที่ผู้จัดการทั่วไป ... ไม่ใช่คิงแห่งเซอร์เพนท์ตามที่หญิงสาวบอกแต่แรก

ศรตฤณคิดว่า ดีแล้วที่เป็นเช่นนั้น ... เขายังอยากคิดว่า การที่เพชรงามอ้างชื่อนาคินทร์ ก็เพื่อให้เขาเชื่อมั่นในการต่อรองของเธอ

ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ในใจแอบคิดไปว่า จริงๆแล้ว เพชรงาม ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆมากกว่าการเป็นเลขาฯคนหนึ่ง

ชายหนุ่มยอมรับว่า ลึกๆแล้วก็พอใจในตัวเธอ และไม่อยากผิดหวัง ... เหมือนที่เขาก็รู้สึกผิดจากการกระทำของตนเอง

รู้สึกผิด ... ที่หลอกใช้ความรัก ความเสน่หาของหญิงสาวที่มีต่อเขาเป็นเครื่องมือ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของใครหลายๆคน

ศรตฤณหลับตาขณะถอนหายใจระบายความอึดอัด ไม่อยากคิดเรื่องอื่นใดมากไปกว่านี้ ... จึงได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า อะไรจะเกิดก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นไป

เสียงเคาะประตูห้องทำลายภวังค์ทั้งหมด ให้ชายหนุ่มลูกครึ่งกลับมาสู่ปัจจุบัน เขาลืมตามองเพดานห้องนอนของเชดส์ ที่คาดว่า เจ้าของห้องคงมาเรียกเขาเพื่อตกลงทำความเข้าใจงานในคืนนี้

"ซายน์ ... มีคนอยากพบนาย"

คำบอกจากเชดส์ทำให้ศรตฤณตวัดขาลงจากเตียง เด้งตัวจากที่นอนลุกขึ้นมานั่งทันที สีหน้าแววตาเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่ปกติ ที่สมองเร่งทำงานเร็วจี๋ว่า คนที่อยากพบและรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่เป็นใครกัน

เชดส์เกริ่นนำแค่นั้นไม่รอให้ศรตฤณกล่าวอนุญาตว่า จะให้เข้ามาในห้องหรือไม่ หนุ่มเดรดล็อกก็ดันประตูเปิดผาง ก้าวอาดๆเดินเข้ามาก่อน ตามด้วยบุคคลที่ทำให้อีกฝ่ายที่อยู่ในห้อง ถึงกับตะลึงพร้อมเรียกชื่อออกมาอย่างไม่รู้ว่า จะเรียกความรู้สึกตอนนี้อย่างไรดี

"ลินิน!"











*********************************************







โปรดติดตามตอนต่อไป ...


ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม .. และขอบคุณท่านที่กดไลค์ให้กำลังใจฮะ



แรมรติ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ก.ย. 2558, 10:45:19 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ก.ย. 2558, 10:45:19 น.

จำนวนการเข้าชม : 1071





<< ใยเส้นที่ 19 .. อย่าให้คลาดสายตา   ใยเส้นที่ 21 .. ใจที่เคลือบแคลง >>
kaelek 27 ก.ย. 2558, 13:08:04 น.
คราวนี้เฮียไฟ ไฟลุกท่วมใจแน่ มาตามถูกที่อ่ะนะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account