ยกเลิก
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: 6
หมอดูบอกว่าฉัน จะตายโหง! ตอนแรกไม่คิดจะดูดวงหรอก แต่ถูกป้าหมอ(ดู)ที่รู้จักกัน แถมใครๆก็บอกว่าแกดูแม่น คะยั้นคะยอเพราะแกบอกว่าลายมือของฉันแปลก ไม่เหมือนที่เคยดูๆมาเลยอยากจะดูให้...เปล่านั่นไม่ใช่เป็นเหตุผลที่ฉันให้แกดูหรอก...เหตุผลที่แท้จริงคือ แกเล่าว่าเคยดูพวกรวยๆมาแต่ไม่เคยเจอลายมือแบบห่าฝน!! ซึ่งเป็นลายมือของคนที่เป็นอภิมหาเศรษฐีเขามีกันเลย อยากจะเจอสักครั้ง..พอเราได้ยินอย่างนั้น ก็เลยห้ามใจไม่อยู่ อยากรู้ว่า..ไอ้ฝนห่า...เอ้ย!...ห่าฝนนั้นน่ะเราจะมีกะเขาบ้างไหม? ก็เลยยื่นมือไปให้แกดู แต่แทนที่จะเป็นลายมือแบบคนมีกะตังค์กลับกลายเป็นลายมือของคนอายุสั้นไปเสียนี่แถมไม่ได้ตายธรรมดาด้วย..แต่..ตายโหง!!!!!...โอ้แม่เจ้า...
เป็นเรื่องตลกที่ขำไม่ออกเลย..บ่องตง..แต่ก็ทำใจไว้แล้วล่ะ..ตายก็ตายวะ..ไหนๆก็เป็นคนใฝ่ในทางธรรมอยู่แล้ว...นึกถึงธรรมะที่เคยเปิดฟังจากสถานีวิทยุมีอยู่ประโยคหนึ่งที่ยังจำขึ้นใจ “...เกิด..แก่..เจ็บ..ตาย..เป็นธรรมดา...สัตว์ทั้งหลายย่อมมีความพลัดพรากเป็นที่สุด....” ก็ช่วยให้ฉันทำใจได้ง่ายขึ้น เพียงแต่..ฉันขอเลือกตายอย่างสงบจะได้มั้ยอ่ะ..
ฉันเขียนทุกอย่างลงในสมุดบันทึกประจำวัน(เป็นคนเขียนบันทึกประจำวันอยู่แล้ว)เอาไว้อย่างน้อยถ้าถึงเวลาที่ฉันต้องจากโลกนี้ไปจริงๆคนที่อยู่ข้างหลังและได้อ่านมันจะได้รู้ว่าฉัน...ทำใจและเตรียมตัวตายก่อนตายไว้แล้ว..ทุกวินาทีที่ยังมีลมหายใจฉันใช้มันอย่างมีความสุขแล้ว...
...ฉันแหงนมองท้องฟ้ายิ้มรับแสงตะวันยามเช้าหลังจากได้ตักบาตรในเช้าวันคล้ายวันเกิดปีที่...ของตัวเอง แล้วก็เลยเผื่อแผ่รอยยิ้มนั้นให้กับคนที่ยืนรออยู่ในบ้าน ทุกคนอาจกำลังสงสัยว่าทำไมเขาถึงไม่ออกมาตักบาตรด้วยกันกับฉัน...เราสองคนไม่เคยตักบาตรร่วมกันสักครั้ง...ฉันไม่คิดจะบังคับให้คริสเตียนมาตักบาตรกับฉันอยู่แล้วล่ะเช่นเดียวกับที่เขาก็ไม่เคยบังคับให้ฉันไปโบสถ์กับเขาทุกวันอาทิตย์(หนูยินยอมไปกะเขาเอง)...นี่ล่ะคือเหตุผล
วันนี้ทีมงานยกกองไปถ่ายทำกันในเขตเมืองเก่าเพราะต้องมีฉากหลังเป็นซากปรักหักพังของโบราณสถานแอนดี้มีคิวถ่ายเช้าหลังจากเสร็จธุระเราจึงรีบบึ่งรถไปที่นั่นทันที กองละครนี้เป็นทีมที่เราไม่เคยร่วมงานกันมาก่อนทำให้ฉันไม่รู้จักใครเลย ตัวแอนดี้เองก็เหมือนกันแต่เขาก็ทำงานของเขาเต็มที่ ฉากแต่ละฉากหินๆทั้งนั้นแต่แอนดี้ก็ยังคงเป็นแอนดี้ เขาทำผลงานออกมาได้ดีเยี่ยม และพอเป็นช่วงพักกองเขาก็จะมานั่งอยู่เป็นเพื่อนฉัน (เขาคงเห็นแล้วว่าฉันไม่มีเพื่อนคุยเพราะคงเห็นสายตาใครต่อใครที่มองดูฉันอย่างดูแคลนตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาแล้ว ฉันยกมือไหว้ทักทายตามมารยาทแต่พวกเขากลับมองเมินหันไปให้ความสนใจพ่อพระเอกของเขาเท่านั้น...ฮึ่ม..ทำกันเกินไปแล้วนะ...รู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร..อยากจะบอกออกไปดังๆเหมือนกันแต่..ฉันอยากอยู่อย่างสงบมากกว่า..ทำตัวเงียบๆแบบที่ไม่มีใครรู้จักต่อไปอ่ะดีแล้ว) ฉากต่อไปเป็นฉากระเบิดซึ่งเป็นฉากที่ใช้เอ็ฟเฟ็คมากที่สุดฉากหนึ่งฉันนั่งมองวิธีการฝังระเบิดและติดสัญลักษณ์ด้วยความสนใจนับลูกระเบิดที่แอนดี้ต้องวิ่งหลบได้ทั้งหมดสิบหกลูก!...แล้วก็ ได้เวลาที่พระเอกของฉันต้องทำงานต่อแล้ว...แต่พระเจ้า! ระหว่างที่แอนดี้กำลังเข้าฉากอยู่ฉันก็มองเห็นอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเขา สัญลักษณ์พื้นที่ระเบิดถูกติดไว้แค่สิบห้าตำแหน่ง! แล้วลูกที่สิบหกล่ะมันหายไปไหน ฉันพยายามมองไปยังตำแหน่งที่สิบหกที่เห็นว่าระเบิดถูกฝังเอาไว้ ที่นั่นไม่มีสัญลักษณ์อะไรเลยซึ่งเป็นพื้นที่ที่เขากำลังวิ่งเข้าไปพอดีแล้วแอนดี้จะรู้มั้ยเนี่ยว่ามันมีระเบิดอยู่สิบหกลูกอ่ะ..ถ้ารู้เขาก็ต้องไม่วิ่งตรงไปแบบนั้นสิ...แย่แล้วล่ะอันตรายชัดๆเลยแบบนี้
“แอนดี้!..ระวังอย่าไปตรงนั้น” ฉันตะโกนบอกพร้อมกับสับฝีเท้าสุดกำลังวิ่งไปหาเขาทันที...พรึ๊บ!..เปรียะๆๆ..บึม!...
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว..ถึงแม้จะเป็นระเบิดปลอมแต่แรงปะทะก็มากพอจะทำให้ร่างของเราสองคนปลิวกระเด็นออกไป..
ฉันกระพริบตาปริบๆพยายามลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทันทีที่จับต้นชนปลายถูกก็รีบมองหาเขาทันที แอนดี้! ภาพของเขาที่นอนสลบไสลมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ เลือดไหลอาบหน้าไปครึ่งหน้า ทำให้ฉันถึงกับเข่าอ่อน
“แอนดี้..แอนดี้..แอนดี้” ฉันถลาเข้าไปพร้อมกับร้องเรียกเขาอย่างสุดกำลังในใจภาวนาขออย่าให้เขาเป็นอะไรไปมากกว่านี้เลย
“ช่วยด้วยค่ะ..ช่วยด้วย.. ใครก็ได้ช่วยเขาที..."
เป็นเรื่องตลกที่ขำไม่ออกเลย..บ่องตง..แต่ก็ทำใจไว้แล้วล่ะ..ตายก็ตายวะ..ไหนๆก็เป็นคนใฝ่ในทางธรรมอยู่แล้ว...นึกถึงธรรมะที่เคยเปิดฟังจากสถานีวิทยุมีอยู่ประโยคหนึ่งที่ยังจำขึ้นใจ “...เกิด..แก่..เจ็บ..ตาย..เป็นธรรมดา...สัตว์ทั้งหลายย่อมมีความพลัดพรากเป็นที่สุด....” ก็ช่วยให้ฉันทำใจได้ง่ายขึ้น เพียงแต่..ฉันขอเลือกตายอย่างสงบจะได้มั้ยอ่ะ..
ฉันเขียนทุกอย่างลงในสมุดบันทึกประจำวัน(เป็นคนเขียนบันทึกประจำวันอยู่แล้ว)เอาไว้อย่างน้อยถ้าถึงเวลาที่ฉันต้องจากโลกนี้ไปจริงๆคนที่อยู่ข้างหลังและได้อ่านมันจะได้รู้ว่าฉัน...ทำใจและเตรียมตัวตายก่อนตายไว้แล้ว..ทุกวินาทีที่ยังมีลมหายใจฉันใช้มันอย่างมีความสุขแล้ว...
...ฉันแหงนมองท้องฟ้ายิ้มรับแสงตะวันยามเช้าหลังจากได้ตักบาตรในเช้าวันคล้ายวันเกิดปีที่...ของตัวเอง แล้วก็เลยเผื่อแผ่รอยยิ้มนั้นให้กับคนที่ยืนรออยู่ในบ้าน ทุกคนอาจกำลังสงสัยว่าทำไมเขาถึงไม่ออกมาตักบาตรด้วยกันกับฉัน...เราสองคนไม่เคยตักบาตรร่วมกันสักครั้ง...ฉันไม่คิดจะบังคับให้คริสเตียนมาตักบาตรกับฉันอยู่แล้วล่ะเช่นเดียวกับที่เขาก็ไม่เคยบังคับให้ฉันไปโบสถ์กับเขาทุกวันอาทิตย์(หนูยินยอมไปกะเขาเอง)...นี่ล่ะคือเหตุผล
วันนี้ทีมงานยกกองไปถ่ายทำกันในเขตเมืองเก่าเพราะต้องมีฉากหลังเป็นซากปรักหักพังของโบราณสถานแอนดี้มีคิวถ่ายเช้าหลังจากเสร็จธุระเราจึงรีบบึ่งรถไปที่นั่นทันที กองละครนี้เป็นทีมที่เราไม่เคยร่วมงานกันมาก่อนทำให้ฉันไม่รู้จักใครเลย ตัวแอนดี้เองก็เหมือนกันแต่เขาก็ทำงานของเขาเต็มที่ ฉากแต่ละฉากหินๆทั้งนั้นแต่แอนดี้ก็ยังคงเป็นแอนดี้ เขาทำผลงานออกมาได้ดีเยี่ยม และพอเป็นช่วงพักกองเขาก็จะมานั่งอยู่เป็นเพื่อนฉัน (เขาคงเห็นแล้วว่าฉันไม่มีเพื่อนคุยเพราะคงเห็นสายตาใครต่อใครที่มองดูฉันอย่างดูแคลนตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาแล้ว ฉันยกมือไหว้ทักทายตามมารยาทแต่พวกเขากลับมองเมินหันไปให้ความสนใจพ่อพระเอกของเขาเท่านั้น...ฮึ่ม..ทำกันเกินไปแล้วนะ...รู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร..อยากจะบอกออกไปดังๆเหมือนกันแต่..ฉันอยากอยู่อย่างสงบมากกว่า..ทำตัวเงียบๆแบบที่ไม่มีใครรู้จักต่อไปอ่ะดีแล้ว) ฉากต่อไปเป็นฉากระเบิดซึ่งเป็นฉากที่ใช้เอ็ฟเฟ็คมากที่สุดฉากหนึ่งฉันนั่งมองวิธีการฝังระเบิดและติดสัญลักษณ์ด้วยความสนใจนับลูกระเบิดที่แอนดี้ต้องวิ่งหลบได้ทั้งหมดสิบหกลูก!...แล้วก็ ได้เวลาที่พระเอกของฉันต้องทำงานต่อแล้ว...แต่พระเจ้า! ระหว่างที่แอนดี้กำลังเข้าฉากอยู่ฉันก็มองเห็นอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเขา สัญลักษณ์พื้นที่ระเบิดถูกติดไว้แค่สิบห้าตำแหน่ง! แล้วลูกที่สิบหกล่ะมันหายไปไหน ฉันพยายามมองไปยังตำแหน่งที่สิบหกที่เห็นว่าระเบิดถูกฝังเอาไว้ ที่นั่นไม่มีสัญลักษณ์อะไรเลยซึ่งเป็นพื้นที่ที่เขากำลังวิ่งเข้าไปพอดีแล้วแอนดี้จะรู้มั้ยเนี่ยว่ามันมีระเบิดอยู่สิบหกลูกอ่ะ..ถ้ารู้เขาก็ต้องไม่วิ่งตรงไปแบบนั้นสิ...แย่แล้วล่ะอันตรายชัดๆเลยแบบนี้
“แอนดี้!..ระวังอย่าไปตรงนั้น” ฉันตะโกนบอกพร้อมกับสับฝีเท้าสุดกำลังวิ่งไปหาเขาทันที...พรึ๊บ!..เปรียะๆๆ..บึม!...
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว..ถึงแม้จะเป็นระเบิดปลอมแต่แรงปะทะก็มากพอจะทำให้ร่างของเราสองคนปลิวกระเด็นออกไป..
ฉันกระพริบตาปริบๆพยายามลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทันทีที่จับต้นชนปลายถูกก็รีบมองหาเขาทันที แอนดี้! ภาพของเขาที่นอนสลบไสลมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ เลือดไหลอาบหน้าไปครึ่งหน้า ทำให้ฉันถึงกับเข่าอ่อน
“แอนดี้..แอนดี้..แอนดี้” ฉันถลาเข้าไปพร้อมกับร้องเรียกเขาอย่างสุดกำลังในใจภาวนาขออย่าให้เขาเป็นอะไรไปมากกว่านี้เลย
“ช่วยด้วยค่ะ..ช่วยด้วย.. ใครก็ได้ช่วยเขาที..."
ผู้หญิง
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ก.ย. 2558, 14:49:37 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 ก.ย. 2558, 14:49:37 น.
จำนวนการเข้าชม : 669
<< 5 | 7 >> |