พรหมลิขิตกระซิบรัก
นัมแทบง นายแบบหนุ่มผู้ผันตัวเองมาเป็นนักแสดงเจ้าของฉายารอยยิ้มเทวดาหากแต่เมื่ออยู่หลังกล้องเขาคือผู้ชายหน้าเดียวที่มีแววตาดุจน้ำแข็ง....
เมื่อพบกับปฎิบัติการดูตัวโดยการชักนำของผู้เป็นพี่สาวที่มีความคิดไม่เหมือนใคร รักครั้งนี้จึงเกิดความวุ่นวายขึ้นเมื่อเขาได้พบกับกุมาริกาล่ามสาวชาวไทยที่มีแต่ความสดใส เจ้าของดวงตากลมดุจกวางกับบทพิสูจน์ความรักแท้ที่ผู้เป็นพี่มอบให้...
พีมะ ตากล้องมาดเซอร์ประจำนิตยสารวัยรุ่น K magazine กับความรักข้างเดียวตลอด3ปีที่เฝ้าดูแลหญิงสาวอันเป็นที่รักต้องมาสั่นคลอนเพียงแค่เจอนายแบบหนุ่มหน้านิ่ง ซ้ำร้ายได้คู่ปรับเป็นพัคโบรา นางแบบตัวจี๊ดที่เข้ามาป่วนหัวใจให้เขาลังเลกับความรู้สึกแปลกๆที่เธอมอบให้....
กุลธีร์ บอสหนุ่มผู้เชื่อมั่นในความรักแม้จะรู้ว่ารักนี้อาจไม่สมหวังแต่ก็ยังคงรอคอยถึงมันจะผ่านมานานกว่ายี่สิบปีและเธอนัมเริน หญิงสาวสมัยใหม่ผู้ทุ่มเททุกอย่างให้แก่น้องชายเพียงคนเดียวจนเกือบเสียบางสิ่งที่สำคัญในชีวิต...

... พรหมลิขิตกระซิบรัก...

Tags: ดารา นางแบบ ซุปตาร์ โรแมนติก ซึ้้ง

ตอน: หึง

กรุงเทพมหานคร...

เสียงอินเตอร์คอมภายในห้องดังขึ้น กุลธีร์กดรับโดยไม่ละสายตาจากหน้าจอโน้ตบุ๊ค “ว่าไงคุณแก้ว”

“คุณพิมลักษณ์มาขอพบค่ะบอส”

“เชิญเธอเข้ามาได้” กุลธีร์กดพักหน้าจอที่กำลังให้ความสนใจอยู่ลุกขึ้นยิ้มรับเมื่อร่างระหงปรากฏตัวขึ้น เชื้อเชิญให้ผู้มาเยือนนั่ง

“ลมอะไรหอบคุณพิมมานี่แล้วผู้จัดการไม่มาด้วยเหรอครับ”

“ลมคิดถึงสิคะ พอดีพิมมาเปิดตัวครีมอาบน้ำที่เป็นแบรนแอมบาสเดอร์อยู่มันใกล้ๆที่นี่เลยมาคนเดียว” พิมลักษณ์ส่งยิ้มหวาน

“ครับ...แล้วมีอะไรให้ผมช่วยรึเปล่าถึงแวะมา”

พิมลักษณ์คล้องมือลงกับแขนของกุลธีร์ ปั้นยิ้มหวานจัดส่งให้หนุ่มใหญ่เจ้าของนิตยสาร

“พี่กุลก็ทำห่างเหินไปได้พิมคิดถึงจริงๆ เลยแวะมาชวนไปกินข้าวแล้วกัมมี่ไม่อยู่รึค่ะพิมไม่เห็นเลย”

กุลธีร์กับพิมลักษณ์รู้จักกันได้เพราะพิมลักษณ์เป็นเพื่อนรุ่นพี่ของกุมาริกา และเคยทำงานด้วยกันสองสามครั้ง

“กัมมี่ไปทำงานที่เกาหลีคงอีกหลายเดือนกว่าจะกลับ”

“ไปคนเดียวเหรอคะ”

“ไปพร้อมกับทีมงานอีกคนที่เป็นตากล้อง”

เสียงโทรศัพท์ในห้องดังขึ้น ทำเอาบทสนทนาหยุดชะงัก กุลธีร์ดึงมือบางที่คล้องแขนตนเองไว้ออกอย่างสุภาพ

“ผมขอตัวสักครู่”

พิมลักษณ์ยิ้มหวาน หว่านเสน่ห์หวังมัดใจหนุ่มใหญ่ที่ดูดีมากกว่าสูงวัย ถ้าเทียบจากผู้ชายรุ่นเดียวกัน ท่าทางถือตัวของกุลธีร์ยิ่งดูน่าดึงดูดเข้าไปอีก พูดเพราะสุภาพ มีเสน่ห์สุดๆ ยิ่งยังไม่ได้แต่งานและที่สำคัญในประวัติยังไม่เคยมีแฟนด้วยซ้ำ ถึงจะมข่าวว่าชอบไม้ป่าเดียวกัน แต่ก็ยังไม่เคยมีหลักฐานว่าเขาชอบผู้ชายด้วยกันเลย เพราะฉะนั้นมันก็น่าลองจีบดูสักครั้ง หมดสมัยที่จะรอให้ผู้ชายดีๆวิ่งไปหาเราแล้ว เพราะถ้ารอก็คงรออีกนาน เพราะผู้หญิงเดี๋ยวนี้ก็คิดเหมือนเราทั้งนั้น มือใครยาวสาวได้สาวเอาหรือจะด้านได้อายอด พิมลักษณ์บรรจงปั้นยิ้มที่คิดว่าสวยที่สุดส่งให้

“บอสคะสาย3น้องกัมมี่ค่ะ” เลขาหน้าห้องแจ้งเสียงหวาน

กุลธีร์มองสายหมายเลข3มุมปากกดยิ้ม กดนิ้วลงไปที่หมายเลขที่มีไฟกระพริบอยู่

“ว่าไงหลานสาวคนเก่งของอา”

“ทำไมอากุลไม่รับสายเขาอ่ะ เขาโทรหาตั้งหลายครั้ง ค่าโทรศัพท์เขาเก็บเงินปลายทางด้วย”

“โทรมาก็บ่นเชียวนะยัยตัวแสบ อามีแขกมีอะไรด่วนเหรอ” กุลธีร์ยิ้มกับโทรศัพท์

“แขกของอากุลสำคัญกว่าประธานนัมรึเปล่าล่ะ สาวล่ะสิแค่จะบอกว่าเขามากินข้าวบ้านประธานนัม อาจะคุยกับประธานนัม
ไหมคะเธออยู่แถวนี้”กุมาริกางัดไม้เด็ดอ้างชื่อประธานคนสวย

“อย่ามากวนยัยหลาน วันนี้กินข้าวกับเยรินก็ดีอาจะได้ไม่ห่วง แล้วก็เลิกไร้สาระได้แล้วโทรข้ามประเทศมันแพงนะ เดี๋ยวอาจะโทรหาเยรินเองเราไม่ต้องมาวุ่นวาย แค่นี้นะให้แขกรอนานมันเสียมารยาท”

“ใครคะ”

“คุณพิมลักษณ์”

“เขามาทำไม...มาจีบอากุลอีกแล้วรึไงไม่ได้นะ”

“พูดให้ดียัยหลาน เขาแค่ผ่านมาทำงานแถวนี้เลยมาชวนอาไปทานข้าวไม่ใช่อย่างที่เราพูดซะหน่อยไว้อาค่อยโทรหานะ”

“เดี๋ยวๆอากุลอย่าเพิ่งวางนะ อากุลๆ ปัดโธ่...ว่างไปแล้ว”

กุมาริกาเหลือบตามองใบหน้าหวานที่นั่งอยู่ไม่ไกลนัก ก่อนที่จะเกิดไอเดียบางอย่างขึ้น จึงแสร้งทำหน้าตูมฟ้องประธานคนสวย

“อากุลนี่แย่ชะมัดนึกว่าทำแต่งานเราอุตส่าห์จะโทรไปเยาะเย้ยว่ามื้อนี้จะได้กินอาหารอร่อย ที่แท้ตัวเองก็มีนักร้องคนสวยมารับไปกินข้าวด้วยเหมือนกัน”

เมื่อเห็นใบหน้าหวานเผือดไปเล็กน้อย กุมาริกาก็นึกพอใจกับผลงานของตัวเอง แค่นี้ก็รู้แล้วว่าคุณอาสุดที่รักของเธอยังมีความหวังอยู่

“แต่ไม่ใช่เดทอะไรหรอกคะ แค่สาวๆที่ตามเกาะแกะอากุลตามปกติคนนี้เป็นนักร้องค่ะ ปกติก็มีทั้งเซเลปคนดัง นางเอกละครบ้าง แต่แค่พักเดียวก็หายไปเองเพราะอากุลไม่ได้สนใจอะไร”

“เป็นเรื่องปกติของคนโสดกอนยังไม่มีครอบครัวเป็นธรรมดาที่จะมีใครๆดูอยู่บ้าง”

นัมเยรินบอกอย่างรีบเตือนตัวเองว่ากุลธีร์ยังมีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนใจได้เสมอ ผู้หญิงพออายุมากขึ้นก็ดูแก่ลงแต่ผู้ชายเมื่อเข้าวัยกลางคนกลับเรียกว่าภูมิฐานดูดี ความจริงข้อนี้ทำเอานัมเยรินดูเศร้าลงไปอีก

“อากุลไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกคะ อากุลเป็นคนรักเดียวใจเดียวนะคะ”

“อาว่าหนูไปดูพ่อครัวหัวป่าดีกว่า ป่านนี้ใส่เครื่องปรุงแปลกๆอะไรลงไปบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้ขอตัวไปพักก่อนนะทานมื้อค่ำกันไปเลยวันนี้อาเหนื่อยนิดหน่อย”

“ไม่สบายรึเปล่าค่ะ”

“ไม่มีอะไรหรอกปกติอาไม่ค่อยทานข้าวเย็นอยู่แล้ว...ตามสบายนะจ๊ะ” นัมเยรินฝืนยิ้ม

“Yes!!”พอลับร่างบาง กุมาริกาก็ยกมือคว้าอากาศก่อนดึงลงมาที่กลางตัว

ร่างสูงของนัมแทบงกำลังวุ่นวายกับการเตรียมอาหาร ก่อนจะหันมายิ้มหวานส่งให้เมื่อเห็นร่างเล็กเดินมาสมทบ

“ยิ้มมาเชียวพี่ฉันพูดอะไรให้เธออารมณ์ดีรึไง แล้วเขาไปไหนล่ะ”

“ก็นิดหน่อย...ประธานนัมบอกว่าเหนื่อยให้เรากินกันเลยไม่ต้องรออยากพักผ่อน” ร่างเล็กยักไหล่น่ารัก

กุมาริกาชะโงกหน้าไปดูในกะทะที่กำลังทำซอสสปาเกตตี้อยู่ ก่อนมองสบตาเรียวที่กำลังมองเธออยู่ความหวานของมันทำให้เธอต้องหลุบตาลงเสมองไปทางอื่น

“ทำไม...เขินเหรอ” นัมแทบงแกล้งมองจ้อง

“ก็มองแล้วไม่พูดชอบทำตัวแปลก ชิส์...เสร็จรึยังเขาหิวแล้วนะ” หญิงสาวย่นจมูกแก้อาการขัดเขิน

“โมโหหิวรึไงเรา เสร็จแล้วยกจานสลัดผลไม้ออกไปตั้งโต๊ะได้เลย”

นัมแทบงยิ้มเอาสปาเกตตี้เส้นดำหมุนลงบนจานช้าๆเทซอสปลาหมึกไข่เค็มลงไปราดวางใบเปปเปอร์มิ้นท์ไว้ด้านบน ยิ้มพอใจกับผลงานของตัวเอง

“น่ากินจัง” กุมาริกาเตรียมหยิบส้อมไว้ในมือ มองดูอาหารตาโต

“อย่าเพิ่งต้องมีดื่มเรียกน้ำย่อยกันก่อน”

นัมแทบงลุกหายไปและกลับมาพร้อมกับขวดไวน์ในมือ รินใส่แก้วทรงสูงด้วยมาดบริกรจากโรงแรมห้าดาวโค้งตัวเล็กน้อยจนหญิงสาวขำ ก่อนหันมารินให้ตัวเอง

“คล่องจังนะ สงสัยจะทำให้สาวๆบ่อย” กุมาริกาเย้า

ดาราหนุ่มเอียงคอค้อนแววตาคมดุเป็นนิจดูอ่อนแสงลงจากปกติ

“ก็บ่อยนะเวลาพี่สาวฉันมีแขกมา ฉันน่ะมีฉายาว่าขวัญใจพี่สาวนะจะบอกให้” นัมแทบงชี้ที่ตนเองอย่างอวดตัว

“แล้วน้องสาวล่ะ” ดวงตากลมโตมองจ้องรอคำตอบ

“ไม่มีอ่ะ ฉันไม่ชอบกินหรือเที่ยวกับเด็กๆฉันไม่ชอบดูแลใคร” กุมาริกาทำจมูกย่นพยักหน้าหงึกหงัก

“ชนแก้วกันหน่อยสิ” ดาราหนุ่มยื่นแก้วมารอตรงหน้าแต่หญิงสาวกลับทำไม่รู้ไม่ชี้ใช้ส้อมพันสปาเกตตี้คำใหญ่เข้าปาก

“เกเรสินะ...แต่พอเจอเด็กขี้งอนคนนี้ก็รู้สึกอยากดูแลใครสักคนขึ้นมาบ้างเหมือนกัน” นัมแทบงมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างเอ็นดู ก่อนยกแก้วที่ถือค้างไว้ขึ้นดื่มหมดแก้วและยิ้มให้ล่ามสาว

“อร่อยไหม”

“อื้ม” ล่ามสาวพยักหน้าก้มหน้าก้มตากินอาหารในจาน

“งั้นก็กินเยอะๆนะ” นัมแทบงทอดสายตามองใบหน้าใสเงียบๆ พร้อมกับตักอาหารในจานตัวเองเข้าปาก

หลังจากจบมื้อค่ำหนุ่มสาวก็พากันมานั่งดูTVกุมาริกาบอกตัวเองว่านี่มันโรงหนังขนาดย่อมๆเลยนะเนี่ย “สุดยอดเลยยังกับอยู่ในโรงหนังเลย”

“ท่าทางจะชอบนะเรา”

กุมาริกาพยักหน้าชอบใจมองดูชั้นวางที่มีทั้งแผ่นหนังและก็แผ่นเพลงอัดแน่นเต็มไปหมดแต่ถูกจัดเข้าตู้ไว้อย่างเป็นระเบียบ แรงกดที่ไหล่บางให้เธอทรุดนั่งที่โซฟายาวก่อนที่ร่างสูงจะเดินไปที่มุมที่มีตู้เย็นตั้งอยู่พร้อมกับพูดถึงตนเองไปด้วย

“พี่ชอบเข้ามานอนในนี้มากกว่านอนในห้องนอนตัวเองซะอีกเวลาวันหยุดก็หาซื้อหนังมานอนดูก็แทบจะไม่อยากออกไปไหนแล้ว อีกอย่างขี้เกียจวิ่งหนีเวลามีคนจำได้ด้วย อยากดูเรื่องไหนล่ะลองหามาสักเรื่องสิเดี๋ยวพี่เปิดให้ดู”

“อืม...มีหนังดีๆที่เขาชอบเยอะเลย” กุมาริกาเอานิ้วไล่ไปตามชั้นวางที่ไม่ต่างอะไรกับร้านเช่าหนังแผ่น

“เธอชอบดูหนังแนวไหนล่ะ มีเจลลี่กับพุดดิ้งกัมมี่ชอบอะไร” นัมแทบงย่อตัวลงที่หน้าตู้เย็นไซส์มินิที่เปิดอยู่มองสิ่งที่อยู่ด้านในแล้วเอ่ยถาม

“เจลลี่..เขาชอบแนวคอมมาดี้หรือไม่ก็โรแมนติก เศร้ามากๆไม่ค่อยชอบ โอโม่...พี่ดู vampire twilight ด้วยเหรอเรื่องนี้เขาก็ชอบมากชอบพระเอกโรเบิร์ต แพตตินสันตาเขาเซ็กซี่ดี” หญิงสาวหัวเราะร่วนส่งกล่องดีวีดีให้ร่างสูงและเธอรับถ้วยเจลลี่มาถือไว้ในมือแทน

“ไม่ใช่พี่ซื้อมาหรอกของเยรินนูน่าขานั้นชอบหนังโรแมนติก” นัมแทบงมองกล่องที่มีรูปนักแสดงเรื่องที่หญิงสาวเอ่ยถึง เดินมาทรุดลงนั่งตรงพื้นที่วางเครื่องดื่มไว้ในตอนแรกโดยมีหญิงสาวนั่งบนโซฟายาว เมื่อหนังเล่นมาถึงตอนที่พระนางกำลังมีบทเลิฟซีนจู่ๆเขาก็ถามคำถามกับเธอ...

“หมอนี่เหรอตาเซ็กซี่ เพราะเขาตาโตหรือสีตาที่เธอชอบ” ดาราหนุ่มถาม

“ไม่เกี่ยวว่าตาจะโตหรือว่าตาชั้นเดียวแค่รู้สึกว่าสีตาเขาสวยดี สาวๆคลั่งกันทั่วโลก” กุมาริกาชี้ที่ดวงตาประกอบ

“แล้วพี่กับโรเบิร์ต แพตตินสัน...เธอชอบใครมากกว่ากัน” นัมแทบงยิงคำถามหน้านิ่ง

กุมาริกาแทบสำลักเจลลี่รสสตอเบอร์รี่ในมือ มองคนถามตาโต เธอคิดว่าตอนนี้ใบหน้าของเธอจะเห่อแดงแค่ไหนนะ

“ถามแบบนี้ก็เขินแย่สิ”

ร่างสูงขยับเข้าไปใกล้ดั่งแรงดึงดูดแต่ด้วยแรงสั่นจากสมาทโฟนที่วางไว้บนพื้นทำให้นัมแทบงละสายตาจากดวงหน้าใส แค่มองรูปบนหน้าจอก็ก่อกวนความรู้สึกของเขาได้อย่างประหลาด

กุมาริกาก้มตัวลงเพื่อหยิบมือถือของตนนึกในใจว่าพีมะช่างโทรมาทำลายความอึดอัดได้ตรงเวลาจริงๆ รอยยิ้มกว้างจึงเปิดขึ้นอัตโนมัติแต่ยิ่งเท่ากับเพิ่มความหงุดหงิดให้กับคนที่มอง

ตาเรียวขุ่นเข้มขึ้นทันทีเมื่อเห็นล่ามสาวยิ้มความรู้สึกของเขาก็ด้วยเช่นกันที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป นัมแทบงคว้าข้อมือเล็กที่ก้มลงมาหยิบโทรศัพท์ดึงเข้าหาตัวเขาก่อนจะรั้งคอเล็กลงมาจนชิดกดริมฝีปากบางลงไป ก่อนลากมือไปที่เอวคอดรั้งจากโซฟาลงมานั่งซ้อนอยู่ที่ตัก ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ดิ้นอึกอักอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรง ริมฝีปากอิ่มถูกขบเม้มเล็มไล้ ยิ่งกุมาริกาถอยหนีก็ยิ่งถูกไล่ตามติด

สัมผัสที่ริมฝีปากแผ่วเบาเมื่อแรกเริ่มก่อนจะทวีความร้อนรุ่มเพราะสมองสั่งให้ทำตามความต้องการจนต้านทานไม่อยู่ อะไรบางอย่างบอกหญิงสาวว่าจูบของเขากำลังแสดงถึงบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้สีหน้าเรียบเฉยนั่น ถึงเธอจะตกใจที่มันดูรุนแรงและเร้าร้อนเกินกว่าครั้งแรกมากนัก แต่ก็ไม่ได้นึกรังเกียจจูบจากเขาเพราะเธอรักเขา แล้วเขาล่ะจูบเธอเพราะอะไร...คำถามที่ผ่านเข้ามาชั่วครู่ทำเอาสติที่เกือบขาดกระเจิงกลับมาด้วยเหมือนกัน

“อย่า...อย่าเพิ่งทำแบบนี้”กุมาริกาตะครุบมือซนที่กำลังไล่ไปตามชายเสื้อของเธอ หลบจมูกโด่งที่ฝังลงที่ซอกคอหอมกรุ่นกลิ่นสาว

“ทำไม...ถึงอยากให้หยุด”นัมแทบงถามกลับเสียงพร่า ไต่จมูกโด่งไล่ขึ้นมาจากซอกคอหอม ละผ่านใบหู นวลแก้ม จูบแผ่วเบาอีกครั้งที่ริมฝีปากอิ่ม

กุมาริกากำลังใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะเอาชนะคนหน้านิ่งที่แสนจะเจ้าเล่ห์ในยามนี้ เธอรู้ดีแล้วว่าหลังใบหน้านิ่งๆนี้ซ่อนความร้อนแรงไว้แค่ไหน

“ปะ ปล่อยก่อนค่ะเดี๋ยวใครเข้ามาจะไม่ดี”

ร่างสูงแสร้งตีมึนกอดร่างเล็กไม่ยอมปล่อยคล้ายหากำไรจากความคิดถึงที่อัดแน่นไว้ตั้งแต่เห็นใบหน้าหวานอีกครั้ง

“ยังไม่อยากปล่อย”

กุมาริกาย่นจมูกใส่คนเจ้าเล่ห์ขยับตัวหวังลงจากตักอุ่นที่เธอรู้สึกหมิ่นเหม่ในตอนนี้ แต่ก็ถูกรั้งเอาไว้จนเหนื่อยใจ เสียงโทรศัพท์เจ้าปัญหาเมื่อครู่ดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับคนโทรเข้าคนเดิม

“ปล่อยก่อนค่ะ ขอรับโทรศัพท์ก่อนเดี๋ยวพีจะห่วงที่กัมมี่ไม่รับ”

“ห่วงทำไม อยากรับโทรศัพท์มันมากขนาดนั้นเลยเหรอ” นัมแทบงกดคางได้รูปลงที่หัวไหล่มนข้างซอกคอหอมเอื้อมหยิบโทรศัพท์มาถือไว้ในมือแทน

“ก็พีไม่รู้ว่ากัมมี่ไปไหนเขาก็ต้องเป็นห่วงสิคะ”

“แค่นั้นแน่นะ”

“แล้วจะให้แค่ไหนล่ะคะ” คำพูดยอกย้อนทำให้ดาราหนุ่มอดเอาปรายนิ้วยาวคีบจมูกรั้นเล็กๆนั่นไม่ได้ ส่งมือถือให้แต่ก็กอดร่างบางไม่ปล่อยแถมเอาหน้าแนบไปที่ข้างหู

“งั้นก็พูดไปจะฟังด้วย”

กุมาริกามองค้อนนึกบ่นคนที่กอดเธอไว้ทั้งตัวในใจว่าบทจะดื้อนี่ก็เอาเรื่องเหมือนกันนะก่อนกดรับสายที่ยังดังไม่หยุด

“ฮัลโหลว่าไงพี...ขอโทษที่เรารับช้าไปหน่อยเราเข้าห้องน้ำอยู่พอดี”

นัมแทบงแสร้งกอดแรงขึ้นแถมมือร้ายก็ไล้ไปตามแขนเรียว จนหญิงสาวสะบัดร้อนสะบัดหนาวต้องหันมาถลึงตาใส่แต่ก็เจอะกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แถมยังแอบจุ๊บปากเธอเบาๆอีก จนกุมาริกาต้องหนีบเนื้อเด็กดื้อเป็นการลงโทษเสียบ้าง ชี้นิ้วคาดโทษคนตัวโตที่ก่อกวนเป็นเด็ก

“พีจะโทรบอกว่ากลับมาแล้ว เบบี๋กินอะไรรึยังให้พีไปซื้อให้ไหม”

“เรากินเรียบร้อยแล้ว ประธานนัมชวนเรามาที่บ้าน” กุมาริกาอธิบายถึงเหตุผล

“แล้ว..หมอนั่นนัมแทบงอยู่ที่นั่นด้วยไหม” พีมะสะกดอารมณ์พูดถึงคนที่ไม่ถูกชะตา

ชื่อคนที่ถูกพาดพิงทำเอาเธอหันไปชำเลืองมอง ทั้งที่สิ่งที่เธอพูดคุยกับพีมะคนตัวโตที่กอดเธอไว้ไม่มีทางฟังมันเข้าใจสักนิด

“อืม...แต่เรากำลังจะกลับพอดี พีพักผ่อนเถอะวันนี้คงเหนื่อยมาทั้งวัน สวัสดีจ่ะ”

ล่ามสาววางสายหันมาดึงมือกาวออกจนสำเร็จ มองไปที่TV ชื่อนักแสดงก็ขึ้นพอดีหนังจบแล้วเหมือนกัน เธอแทบไม่ได้ดูเลยเพราะใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้านี่

“คนหล่อทำหน้าบูดนี่ก็ยังดูหล่อน่ะ” กุมาริกาเย้า

“จะไม่บอกเหรอว่าคุยเรื่องอะไรกัน พี่ไม่ชอบเลยที่ฟังไม่รู้เรื่องแบบนี้” ดาราหนุ่มเมินไปอีกทาง

เมื่อรู้ถึงสาเหตุที่นัมแทบงโกรธหญิงสาวก็อดขำไม่ได้ “พี่หึงเหรอไหนบอกว่าเราเป็นเพื่อนกันไง...ชินกูน่ะลืมแล้วเหรอ”
##친구 ชินกู เพื่อนสนิท##

“ชิส์...เธอให้เพื่อนจูบเธอแบบพี่จูบด้วยรึเปล่าล่ะ...โอ้ย” นัมแทบงซู๊ดปากเมื่อนิ้วเล็กหนีบลงข้างตัว จนต้องจับมือนุ่มไว้

“เจ้าเล่ห์นักน่ะ...ไปส่งหน่อยสิจะกลับบ้านแล้ว” กุมาริกาอ้อน

“บอกมาก่อนว่าคุยอะไรกัน”

“ไม่มีอะไรนี่ พีแค่โทรมาบอกว่ากลับมาแล้วถามว่ากินข้าวรึยังแค่นั้น”

“แน่นะ” ดาราหนุ่มคาดคั้น

กุมาริกาพยักหน้าน่ารักและเอียงหนีปากบางที่ก้มลงมา ใช้มือดันซีกหน้าด้านที่จะหากำไรกับเธอออกไปพร้อมทำตาดุ

“คนเจ้าเล่ห์”

นัมแทบงเบือนหน้ายิ้มกับความน่าเอ็นดูของอีกฝ่าย มิน่าแม้แต่พี่สาวของเขายังหลงเสน่ห์เธอ ตอนนี้ก็เป็นเขาอีกคนที่ไม่อยากห่างเธอซะเอง และพึ่งรู้ตัวว่าหวงร่างเล็กตรงหน้าไม่น้อยเลย...





ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ ^o^



พบกะรัณย์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 ต.ค. 2558, 07:47:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 ต.ค. 2558, 07:50:00 น.

จำนวนการเข้าชม : 936





<< คิดถึง   เข้าใจผิด >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account