ต้องฤทธิ์เสน่หา โดย ธิดาดิน
ต้องฤทธิ์เสน่หา
โดย ธิดาดิน
แจ้งข่าวจ้า ตอนนี้นิยายเรื่องต้องฤทธิ์เสน่หา (ฉบับเต็มไม่ตัดแม้แต่ฉากเดียว) วางจำหน่ายแล้วในราคา 279 บาท วางที่ร้านนายอินทร์ ร้ายซีเอ็ด ร้านบีทูเอส ทุกสาขา ช่องทางการสั่งซื้อด้านล่างนี้เลยจ้า
ตีพิมพ์กับ สนพ. อินเลิฟ ปกด้านล่างนี้เลยจ้า
ช่องทางการสั่งซื้อ
วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคาเล่มละ 279 บาท
1. จำหน่ายที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ ร้านนายอินทร์ ร้านซีเอ็ด ร้าน b2s
2.โทรสั่งซื้อกับสำนักพิมพ์ส่งตรงถึงบ้าน ที่เบอร์ โทร. 02-930-3119 และ 02-930-3120
(วัน จ.-ศ. เวลา 9.00-18.00 น.) ยกเว้นวันหยุดทำการ
3.ที่เว็บไซด์อินเลิฟ ใครเป็นสมาชิกลด 20% สั่งซื้อได้ที่ http://www.inlove-book.com/book/1246
4. สั่งซื้อผ่าน facebook >>คลิกที่นี่<<แจ้งข่าวจ้า ตอนนี้นิยายเรื่องต้องฤทธิ์เสน่หา (ฉบับเต็มไม่ตัดแม้แต่ฉากเดียว) วางจำหน่ายแล้วในราคา 279 บาท วางที่ร้านนายอินทร์ ร้ายซีเอ็ด ร้านบีทูเอส ทุกสาขา ช่องทางการสั่งซื้อด้านล่างนี้เลยจ้า ปกอยู่ด้านบนจ้า
ตีพิมพ์กับ สนพ. อินเลิฟ
ช่องทางการสั่งซื้อ
วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคาเล่มละ 279 บาท
1. จำหน่ายที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ ร้านนายอินทร์ ร้านซีเอ็ด ร้าน b2s
2.โทรสั่งซื้อกับสำนักพิมพ์ส่งตรงถึงบ้าน ที่เบอร์ โทร. 02-930-3119 และ 02-930-3120
(วัน จ.-ศ. เวลา 9.00-18.00 น.) ยกเว้นวันหยุดทำการ
3.ที่เว็บไซด์อินเลิฟ ใครเป็นสมาชิกลด 20% สั่งซื้อได้ที่ http://www.inlove-book.com/book/1246
4. สั่งซื้อผ่าน facebook >>คลิกที่นี่<<
เป็นแพทย์มาก็หลายปี แต่ใครจะคิดว่าเขาจะมาตบะแตกเพียงเพราะได้ตรวจภายในของผู้หญิงคนนั้น…เธอผู้ทำให้คุณหมอผู้วางตัวเหมาะสมกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการอย่างไม่น่าเชื่อ
แนะนำตัวละคร
คริสโตเฟอร์ คอลเวลล์สัน
แพทย์สูติ-นรีเวช จอมทะเล้น ผู้มีหน้าตาเป็นอาวุธ หล่อ รวย ระดับมหาเศรษฐีหมื่นล้าน เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนเบอร์หนึ่งในสหรัฐอเมริกา แถมยังมีสาขาในต่างประเทศอีกมากมาย
ปิ่นมุก วิเศษวัฒนากุล
สาวไทยวัย 28 ปี ผู้มีต้นทุนชีวิตต่ำ บินข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลถึงอเมริกาเพื่อตามหาความฝัน แต่ไม่รู้ว่าโชคไม่เข้าข้างหรือเทวดากลั่นแกล้ง เธอกำลังจะกลายเป็นนางเอกหนังโป๊ในอีกไม่ช้านี้
.........................................................................................
นิยายเรื่องนี้เป็นแนวรักโรแมนติก คอมเมดี้ เน้น หื่นๆ ฮาๆ รั่วๆ ฟินจิกหมอน แอบงอนและง้อ มีดรามาผสมเล็กน้อยที่สำคัญมีกลิ่นอายของโรมานต์รวมอยู่ด้วยจ้า
โดย ธิดาดิน
แจ้งข่าวจ้า ตอนนี้นิยายเรื่องต้องฤทธิ์เสน่หา (ฉบับเต็มไม่ตัดแม้แต่ฉากเดียว) วางจำหน่ายแล้วในราคา 279 บาท วางที่ร้านนายอินทร์ ร้ายซีเอ็ด ร้านบีทูเอส ทุกสาขา ช่องทางการสั่งซื้อด้านล่างนี้เลยจ้า
ตีพิมพ์กับ สนพ. อินเลิฟ ปกด้านล่างนี้เลยจ้า
ช่องทางการสั่งซื้อ
วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคาเล่มละ 279 บาท
1. จำหน่ายที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ ร้านนายอินทร์ ร้านซีเอ็ด ร้าน b2s
2.โทรสั่งซื้อกับสำนักพิมพ์ส่งตรงถึงบ้าน ที่เบอร์ โทร. 02-930-3119 และ 02-930-3120
(วัน จ.-ศ. เวลา 9.00-18.00 น.) ยกเว้นวันหยุดทำการ
3.ที่เว็บไซด์อินเลิฟ ใครเป็นสมาชิกลด 20% สั่งซื้อได้ที่ http://www.inlove-book.com/book/1246
4. สั่งซื้อผ่าน facebook >>คลิกที่นี่<<แจ้งข่าวจ้า ตอนนี้นิยายเรื่องต้องฤทธิ์เสน่หา (ฉบับเต็มไม่ตัดแม้แต่ฉากเดียว) วางจำหน่ายแล้วในราคา 279 บาท วางที่ร้านนายอินทร์ ร้ายซีเอ็ด ร้านบีทูเอส ทุกสาขา ช่องทางการสั่งซื้อด้านล่างนี้เลยจ้า ปกอยู่ด้านบนจ้า
ตีพิมพ์กับ สนพ. อินเลิฟ
ช่องทางการสั่งซื้อ
วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคาเล่มละ 279 บาท
1. จำหน่ายที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ ร้านนายอินทร์ ร้านซีเอ็ด ร้าน b2s
2.โทรสั่งซื้อกับสำนักพิมพ์ส่งตรงถึงบ้าน ที่เบอร์ โทร. 02-930-3119 และ 02-930-3120
(วัน จ.-ศ. เวลา 9.00-18.00 น.) ยกเว้นวันหยุดทำการ
3.ที่เว็บไซด์อินเลิฟ ใครเป็นสมาชิกลด 20% สั่งซื้อได้ที่ http://www.inlove-book.com/book/1246
4. สั่งซื้อผ่าน facebook >>คลิกที่นี่<<
เป็นแพทย์มาก็หลายปี แต่ใครจะคิดว่าเขาจะมาตบะแตกเพียงเพราะได้ตรวจภายในของผู้หญิงคนนั้น…เธอผู้ทำให้คุณหมอผู้วางตัวเหมาะสมกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการอย่างไม่น่าเชื่อ
แนะนำตัวละคร
คริสโตเฟอร์ คอลเวลล์สัน
แพทย์สูติ-นรีเวช จอมทะเล้น ผู้มีหน้าตาเป็นอาวุธ หล่อ รวย ระดับมหาเศรษฐีหมื่นล้าน เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนเบอร์หนึ่งในสหรัฐอเมริกา แถมยังมีสาขาในต่างประเทศอีกมากมาย
ปิ่นมุก วิเศษวัฒนากุล
สาวไทยวัย 28 ปี ผู้มีต้นทุนชีวิตต่ำ บินข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลถึงอเมริกาเพื่อตามหาความฝัน แต่ไม่รู้ว่าโชคไม่เข้าข้างหรือเทวดากลั่นแกล้ง เธอกำลังจะกลายเป็นนางเอกหนังโป๊ในอีกไม่ช้านี้
.........................................................................................
นิยายเรื่องนี้เป็นแนวรักโรแมนติก คอมเมดี้ เน้น หื่นๆ ฮาๆ รั่วๆ ฟินจิกหมอน แอบงอนและง้อ มีดรามาผสมเล็กน้อยที่สำคัญมีกลิ่นอายของโรมานต์รวมอยู่ด้วยจ้า
Tags: รัก,โรแมนติก,รักเพื่อน,เข้มข้น,หวาน,แรง,นิยาย,ซึ้ง,แอบรัก,ซึ้ง
ตอน: ตอนที่ 10 ลบล้างความผิด 100%
ตอนที่ 10 ลบล้างความผิด 100%
เพราะกลัวว่าจะโดนเสือคาบไปกินเหมือนที่ลูกชายเจ้าของไร่ขู่เอาไว้ ปิ่นมุกจำต้องถอยกลับมาที่เดิมอีกครั้ง เธอต้องใช้เวลาระงับสติอารมณ์อยู่นานเกือบห้านาที เพื่อที่จะได้ขอโทษและเจรจากับคริสโตเฟอร์ให้สำเร็จ
“คุณคริสคะ ฉันขอโทษจริงๆที่แกล้งคุณแรงไปหน่อย เอาเป็นว่าฉันยอมรับผิดกับการกระทำของฉัน แต่ถ้าคุณจะไม่ยกโทษให้ฉันก็ไม่เป็นไรนะคะ ฉันเข้าใจ แต่ฉันอยากขอให้คุณทบทวนเรื่องที่ยกเลิกสัญญาแบบของอัญมณีที่เราตกลงกันไว้ก่อนหน้าดูอีกซักครั้ง คือเรื่องของฉันกับเรื่องงานในบริษัทมันอยู่คนละส่วนกัน”
“คุณกำลังหาว่าผมเป็นคนไม่รู้จักแยะแยะระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวใช่ไหม”
เกือบจะหลุดปากตอบว่าใช่หากไม่ยั้งปากเอาไว้เสียก่อน “ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ คือฉันไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของคุณกับทางบีดีจิวเวลรี่ต้องมาสั่นคลอนเพราะการกระทำของฉัน”
“ที่คุณตามมาขอโทษผมถึงที่นี่ แท้จริงแล้วคุณไม่ได้อยากขอโทษผมใช่ไหม แต่คุณจำใจต้องทำเพราะกลัวว่ามันจะกระทบกับงานในบริษัท”
ครืน!
ยังไม่ทันที่ปิ่นมุกจะได้ตอบอะไรเสียงฟ้าร้องก็ดังแทรกขึ้น หนุ่มสาวแหงนหน้ามองฟ้าก็เห็นเมฆฝนลอยปั่นป่วนอยู่เต็มท้องฟ้า คาดว่ามันน่าจะตกลงในไม่ช้า คนต่างถิ่นนึกสงสัยว่านี่ก็เดือนมกราคมไม่ใช่หน้าฝนซะหน่อยทำไมจะมาตกเอาตอนนี้ หรือว่าจะเป็นฝนหลงฤดู
“ตกลงว่าคุณจะยอมยกโทษให้ฉันได้ไหมคะ” ปิ่นมุกเร่งเอาคำตอบ เพราะกลัวว่าฝนจะตกลงมาเสียก่อน
“ผมยังไม่รู้คงต้องขอไปนอนคิดซักคืนสองคืนก่อน”
อันที่จริงเขาไม่ได้โกรธเธอเลยด้วยซ้ำ วันนั้นก็แค่น้อยอกน้อยใจที่เธอเห็นความห่วงใยของเขาเป็นเรื่องตลก พอผ่านข้ามคืนนั้นมาความรู้สึกมันก็ค่อยๆเลือนหาย ทั้งๆที่ก็พยายามบอกใจว่าให้โกรธให้เกลียดจะได้เลิกงมงายรักเธอข้างเดียวแบบนี้เสียที แต่หัวใจมันก็ช่างดื้อรั้นไม่ยอมฟังคำสั่งแถมยังพร้อมจะให้อภัยเธอเสมอ ก่อนหน้าที่รู้ข่าวว่าเธอจะมาที่ไร่เขาก็ดีอกดีใจจนเนื้อเต้น ทั้งๆที่รู้แก่ใจว่าที่เธอต้องดั้นด้นมาถึงที่นี่ก็เพราะถูกบังคับด้วยเรื่องงาน
“ฝนจะตกแล้วไปกันเถอะ”
“แล้วนั่นคุณจะไปไหนคะ ทางออกอยู่ด้านนี้ไม่ใช่เหรอ” ปิ่นมุกถามขึ้นหลังจากเห็นเขาเดินดุ่มๆไปคนละทางกับเส้นทางที่เธอเดินเข้ามาที่นี่ หรือว่ามันจะมีทางลัดหรือเปล่า
“ผมไม่ได้จะกลับไปบ้านนะ แต่จะไปพักที่กระท่อมท้ายไร่ อยู่ไม่ไกลจากน้ำตกนี่หรอก ตามมาสิ”
ปิ่นมุกส่ายหน้าพรืด “ไม่เอา ฉันจะกลับ”
“ตามใจคุณ งั้นก็เดินกลับเองก็แล้วกัน แต่คงลำบากหน่อยนะเพราะระยะทางจากนี่ไปบ้านไกลโขเลยทีเดียว แถมฝนก็กำลังจะตกด้วย” คริสโตเฟอร์สรุปง่ายๆอย่างไม่คิดจะง้อเธอเหมือนที่ผ่านๆมา “อ๋อ อีกอย่างระวังเสือด้วยล่ะ นี่ดวงอาทิตย์ก็กำลังจะลับขอบฟ้าไปแล้ว คงได้เวลาออกหากินของสรรพสัตว์” ขู่เสร็จก็หันกลับทำท่าจะเดินจากไปอย่างไม่สนใจใยดี
ปิ่นมุกยืนชั่งใจอยู่ว่าจะกลับหรือว่าตามเขาไปดี เธอประเมินแล้วว่าไม่ว่าเธอจะเลือกข้อไหนมันก็อันตรายพอๆกัน หญิงสาวเริ่มมองซ้ายมองขวาบรรยากาศรอบตัวเริ่มวังเวงหน้ากลัว แสงพระอาทิตย์ที่เคยส่องจ้าเริ่มอ่อนแรง ความมืดมิดกำลังจะเข้าครอบคลุมพื้นที่ ฝนก็กำลังจะโปรยปรายลงมา เสียงหรีดหริ่งเรไรก็เริ่มร้องยิ่งฟังก็ยิ่งวังเวง
“เดี๋ยวคุณ รอฉันด้วย”
สุดท้ายก็ตัดสินใจที่จะตามชายหนุ่มไป แม้ไม่แน่ใจว่าจะไว้ใจเขาได้แค่ไหน ยิ่งเขาชัดเจนว่าแอบชอบเธออยู่ด้วย อาจจะใช้โอกาสนี้ทำมิดีมิร้ายเธอก็ได้ แต่ก็นั่นแหละแม้จะกลัวแสนกลัวแต่เธอก็คิดว่าตัวเองอาจจะพอรับมือได้ คงดีกว่าไปสู้รบตบมือกับเสือตัวใหญ่กระมัง
ปิ่นมุกเดินตามคริสโตเฟอร์ไปไม่ถึงสิบนาทีเธอก็เห็นกระท่อมที่เขาเคยบอก มันดูหรูหรากว่าที่เธอคิดไว้มาก เพราะตอนแรกที่ได้ยินเขาบอกว่าเป็นกระท่อมเธอก็คิดถึงหลังคามุงจากล้อมฝาด้วยไม้ไผ่หลังเล็กๆ แต่สิ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าหลังคาไม่ได้มุงจากแต่มุงด้วยหลังกะสีมียี่ห้อ ตัวบ้านก็ทำจากไม้เนื้อดีทาสีน้ำตาลดูสวยมีสไตล์ ขนาดของบ้านก็ไม่ได้เล็กเท่ารังหนูก็ดูกว้างขวางพอใช้ได้
รวมๆแล้วก็น่าจะเรียกว่าบ้านแทนกระท่อมได้อยู่
บ้านหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียวแต่ยกใต้ถุนสูงซึ่งคริสโตเฟอร์ให้คนงานมาสร้างไว้ให้ตั้งแต่แปดเก้าปีก่อน ด้วยเขาชอบมาเล่นน้ำที่นี่เป็นประจำ ประกอบกับชอบบรรยากาศที่เงียบสงบเป็นส่วนตัว สมัยที่ยังไม่ไปเรียนต่างประเทศเขาก็ชอบมาขลุกตัวอยู่ที่บ้านหลังนี้ซึ่งเขาเรียกว่ากระท่อมท้ายไร่เป็นประจำ
“ขึ้นมาสิคุณ จะยืนตากฝนอยู่ตรงนั้นหรือไง” เจ้าของกระท่อมที่ขึ้นไปบนตัวบ้านตะโกนลงมาถามปิ่นมุกที่ยืนลังเลอยู่หน้าบันไดซึ่งมีอยู่สี่ห้าขั้น
“ฉันจะไว้ใจคุณได้แค่ไหน” ถามตรงๆแบบไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลา เรียกเสียงหัวเราะของคนที่อยู่ด้านบนให้ดังขึ้น
“โธ่คุณ นึกว่ากลัวอะไร ไม่ต้องห่วงหรอกนะผมไม่ใช่โรคจิตที่ชอบขืนใจผู้หญิง ยิ่งกับคุณเป็นผู้หญิงที่ผมรักไม่มีทางที่ผมจะทำร้ายคุณเด็ดขาด” ท้ายๆประโยคน้ำเสียงและสีหน้าดูจริงจังขึ้น
ปิ่นมุกเผลอยิ้มอย่างไม่รู้ตัวเมื่อได้ฟังคำพูดของเจ้าของกระท่อม ความกังวลที่เคยมีอันตรธานหายไปจนหมดสิ้น เธอก้าวเท้าขึ้นบันไดโดยมีคริสโตเฟอร์ยื่นมือมาช่วยพยุงจนมายืนอยู่บนกระท่อมเธอกวาดตามองรอบๆบริเวณภายในที่ถูกจัดสรรพื้นที่ไว้อย่างลงตัว
คริสโตเฟอร์เดินไปเปิดไฟทำให้ความมืดมิดภายในกระท่อมถูกกลืนด้วยแสงสว่างอีกครั้ง แตกต่างจากด้านนอกที่ตอนนี้มืดสนิทไปแล้วพร้อมๆกับสายฝนโปรยปรายลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ไอฝนสาดกระเซ็นผ่านประตูเข้ามาทำให้ปิ่นมุกรู้สึกหนาวๆขึ้นมาจนต้องยกแขนกอดกระชับตัวเองเอาไว้
“หนาวเหรอคุณ” คริสโตเฟอร์ถามพลางเดินไปปิดประตูเพื่อไม่ให้ไอฝนและลมพัดผ่านเข้ามา “ให้ผมกอดไหมล่ะคลายหนาวได้นะ เหมือนที่เขาว่าเนื้อห่มเนื้ออุ่นยิ่งกว่าใส่เสื้อกันหนาวสักร้อยตัว”
“ไม่หนาวค่ะ!” ปิ่นมุกกระแทกเสียงตอบอย่างหมั่นไส้ ฝ่ายนั้นหัวเราะเบาๆ “ตรงนี้มีไฟฟ้าถึงด้วยเหรอคุณ”
“มีสิ ทุกพื้นที่ของไร่นี้มีไฟฟ้าถึงทุกจุดแหละ”
“ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ”
“ได้สิ แต่ถ้าอยากรู้ว่าผมมีแฟนหรือยัง บอกไว้ก่อนว่ายังไม่มีนะครับ เพราะกำลังตามจีบอยู่แต่ยังไม่ติด”
ปิ่นมุกอยากจะเอาหัวโขกพื้นให้ตายไปซะให้รู้แล้วรู้รอด ไม่เช่นนั้นทั้งคืนคงจะต้องได้กิน ‘ขนมจีบ’ จากเจ้าของกระท่อมจนจุกตายแน่ๆ
“ฉันไม่ได้อยากรู้เรื่องนั้นค่ะ เรื่องที่ฉันจะถามก็คือทำไมคุณถึงเป็นนักทั้งแพทย์ เป็นทั้งนักออกแบบอัญมณีละคะ คุณทำอาชีพไหนกันแน่”
“คงเป็นพรหมลิขิตมั้งครับ เพราะถ้าผมเลือกอาชีพนักออกแบบอัญมณีอย่างเดียว คงไม่ได้มาตรวจภายในให้คุณ และเจอคนที่ใช่”
“ขอสาระค่ะ” คนฟังทอดถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
คริสโตเฟอร์หัวเราะ ก่อนอธิบายจริงจัง “คือนักออกแบบอัญมณีมันเป็นความฝันของผมครับ ชอบมาตั้งแต่เด็กๆ ก็เลยเรียนต่อในสายนี้ พอจบมาออกแบบงานได้ประมาณสองปีก็ต้องหยุดทำ เพราะคุณพ่ออยากให้ผมเรียนแพทย์ตามรอยท่าน”
“อ๋อ แล้วคุณเป็นลูกชายคนเดียวเหรอ”
“ผมมีน้องชายอีกคนครับ คุณมุกอยากเห็น ‘น้องชาย’ ผมไหมล่ะครับ เดี๋ยวผมเอาให้ดู”
ปากกำลังจะตอบว่าอยากเห็น แต่ก็ฉุกคิดถึงเหตุการณ์ช่วงบ่ายขึ้นมาได้เสียก่อน ‘น้องชาย’ ในความหมายของเขาไม่ใช่คนแต่เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายที่มีเฉพาะผู้ชายเท่านั้น คิดมาถึงจุดนี้หน้าของเธอก็แดงซ่านก่อนจะรีบกลบเกลื่อนด้วยการแว๊ดๆใส่เขา
“ไม่ ฉันไม่อยากเห็น อย่ามาลามกกับฉันนะ”
“ลามกอะไรคุณ อ๋อ คุณคิดว่าผมหมายถึง…” ชายหนุ่มก้มหน้ามองเป้าตัวเอง “ไอ้นี่ใช่ไหม ฮ่าๆๆ ผมว่าคุณนั่นแหละคิดลามก เพราะผมไม่ได้หมายถึงไอ้นี่เลย ผมหมายถึงน้องชายของผมที่คลานตามผมมาต่างหาก”
“บ้าสิ ฉันไม่ได้คิดซะหน่อย”
“ไม่ได้คิดทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะ รู้สึกว่าตั้งแต่เห็นรูปร่างของผมเมื่อตอนบ่ายคุณดูจะหื่นกามขึ้นเยอะเลยนะ เห็นทีว่าคืนนี้ผมคงต้องระวังตัวให้ดีซะแล้ว ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะคิดทำมิดีมิร้ายกับผมก็ได้”
“อร๊าย! หุบปากไปเลยนะ” ปิ่นมุกอยากจะกรี๊ดให้ดังกว่านี้แต่วันนี้ก็กรีดร้องมาทั้งวันเสียงก็พาลหดหาย
เพราะกลัวว่าจะโดนเสือคาบไปกินเหมือนที่ลูกชายเจ้าของไร่ขู่เอาไว้ ปิ่นมุกจำต้องถอยกลับมาที่เดิมอีกครั้ง เธอต้องใช้เวลาระงับสติอารมณ์อยู่นานเกือบห้านาที เพื่อที่จะได้ขอโทษและเจรจากับคริสโตเฟอร์ให้สำเร็จ
“คุณคริสคะ ฉันขอโทษจริงๆที่แกล้งคุณแรงไปหน่อย เอาเป็นว่าฉันยอมรับผิดกับการกระทำของฉัน แต่ถ้าคุณจะไม่ยกโทษให้ฉันก็ไม่เป็นไรนะคะ ฉันเข้าใจ แต่ฉันอยากขอให้คุณทบทวนเรื่องที่ยกเลิกสัญญาแบบของอัญมณีที่เราตกลงกันไว้ก่อนหน้าดูอีกซักครั้ง คือเรื่องของฉันกับเรื่องงานในบริษัทมันอยู่คนละส่วนกัน”
“คุณกำลังหาว่าผมเป็นคนไม่รู้จักแยะแยะระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวใช่ไหม”
เกือบจะหลุดปากตอบว่าใช่หากไม่ยั้งปากเอาไว้เสียก่อน “ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ คือฉันไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของคุณกับทางบีดีจิวเวลรี่ต้องมาสั่นคลอนเพราะการกระทำของฉัน”
“ที่คุณตามมาขอโทษผมถึงที่นี่ แท้จริงแล้วคุณไม่ได้อยากขอโทษผมใช่ไหม แต่คุณจำใจต้องทำเพราะกลัวว่ามันจะกระทบกับงานในบริษัท”
ครืน!
ยังไม่ทันที่ปิ่นมุกจะได้ตอบอะไรเสียงฟ้าร้องก็ดังแทรกขึ้น หนุ่มสาวแหงนหน้ามองฟ้าก็เห็นเมฆฝนลอยปั่นป่วนอยู่เต็มท้องฟ้า คาดว่ามันน่าจะตกลงในไม่ช้า คนต่างถิ่นนึกสงสัยว่านี่ก็เดือนมกราคมไม่ใช่หน้าฝนซะหน่อยทำไมจะมาตกเอาตอนนี้ หรือว่าจะเป็นฝนหลงฤดู
“ตกลงว่าคุณจะยอมยกโทษให้ฉันได้ไหมคะ” ปิ่นมุกเร่งเอาคำตอบ เพราะกลัวว่าฝนจะตกลงมาเสียก่อน
“ผมยังไม่รู้คงต้องขอไปนอนคิดซักคืนสองคืนก่อน”
อันที่จริงเขาไม่ได้โกรธเธอเลยด้วยซ้ำ วันนั้นก็แค่น้อยอกน้อยใจที่เธอเห็นความห่วงใยของเขาเป็นเรื่องตลก พอผ่านข้ามคืนนั้นมาความรู้สึกมันก็ค่อยๆเลือนหาย ทั้งๆที่ก็พยายามบอกใจว่าให้โกรธให้เกลียดจะได้เลิกงมงายรักเธอข้างเดียวแบบนี้เสียที แต่หัวใจมันก็ช่างดื้อรั้นไม่ยอมฟังคำสั่งแถมยังพร้อมจะให้อภัยเธอเสมอ ก่อนหน้าที่รู้ข่าวว่าเธอจะมาที่ไร่เขาก็ดีอกดีใจจนเนื้อเต้น ทั้งๆที่รู้แก่ใจว่าที่เธอต้องดั้นด้นมาถึงที่นี่ก็เพราะถูกบังคับด้วยเรื่องงาน
“ฝนจะตกแล้วไปกันเถอะ”
“แล้วนั่นคุณจะไปไหนคะ ทางออกอยู่ด้านนี้ไม่ใช่เหรอ” ปิ่นมุกถามขึ้นหลังจากเห็นเขาเดินดุ่มๆไปคนละทางกับเส้นทางที่เธอเดินเข้ามาที่นี่ หรือว่ามันจะมีทางลัดหรือเปล่า
“ผมไม่ได้จะกลับไปบ้านนะ แต่จะไปพักที่กระท่อมท้ายไร่ อยู่ไม่ไกลจากน้ำตกนี่หรอก ตามมาสิ”
ปิ่นมุกส่ายหน้าพรืด “ไม่เอา ฉันจะกลับ”
“ตามใจคุณ งั้นก็เดินกลับเองก็แล้วกัน แต่คงลำบากหน่อยนะเพราะระยะทางจากนี่ไปบ้านไกลโขเลยทีเดียว แถมฝนก็กำลังจะตกด้วย” คริสโตเฟอร์สรุปง่ายๆอย่างไม่คิดจะง้อเธอเหมือนที่ผ่านๆมา “อ๋อ อีกอย่างระวังเสือด้วยล่ะ นี่ดวงอาทิตย์ก็กำลังจะลับขอบฟ้าไปแล้ว คงได้เวลาออกหากินของสรรพสัตว์” ขู่เสร็จก็หันกลับทำท่าจะเดินจากไปอย่างไม่สนใจใยดี
ปิ่นมุกยืนชั่งใจอยู่ว่าจะกลับหรือว่าตามเขาไปดี เธอประเมินแล้วว่าไม่ว่าเธอจะเลือกข้อไหนมันก็อันตรายพอๆกัน หญิงสาวเริ่มมองซ้ายมองขวาบรรยากาศรอบตัวเริ่มวังเวงหน้ากลัว แสงพระอาทิตย์ที่เคยส่องจ้าเริ่มอ่อนแรง ความมืดมิดกำลังจะเข้าครอบคลุมพื้นที่ ฝนก็กำลังจะโปรยปรายลงมา เสียงหรีดหริ่งเรไรก็เริ่มร้องยิ่งฟังก็ยิ่งวังเวง
“เดี๋ยวคุณ รอฉันด้วย”
สุดท้ายก็ตัดสินใจที่จะตามชายหนุ่มไป แม้ไม่แน่ใจว่าจะไว้ใจเขาได้แค่ไหน ยิ่งเขาชัดเจนว่าแอบชอบเธออยู่ด้วย อาจจะใช้โอกาสนี้ทำมิดีมิร้ายเธอก็ได้ แต่ก็นั่นแหละแม้จะกลัวแสนกลัวแต่เธอก็คิดว่าตัวเองอาจจะพอรับมือได้ คงดีกว่าไปสู้รบตบมือกับเสือตัวใหญ่กระมัง
ปิ่นมุกเดินตามคริสโตเฟอร์ไปไม่ถึงสิบนาทีเธอก็เห็นกระท่อมที่เขาเคยบอก มันดูหรูหรากว่าที่เธอคิดไว้มาก เพราะตอนแรกที่ได้ยินเขาบอกว่าเป็นกระท่อมเธอก็คิดถึงหลังคามุงจากล้อมฝาด้วยไม้ไผ่หลังเล็กๆ แต่สิ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าหลังคาไม่ได้มุงจากแต่มุงด้วยหลังกะสีมียี่ห้อ ตัวบ้านก็ทำจากไม้เนื้อดีทาสีน้ำตาลดูสวยมีสไตล์ ขนาดของบ้านก็ไม่ได้เล็กเท่ารังหนูก็ดูกว้างขวางพอใช้ได้
รวมๆแล้วก็น่าจะเรียกว่าบ้านแทนกระท่อมได้อยู่
บ้านหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียวแต่ยกใต้ถุนสูงซึ่งคริสโตเฟอร์ให้คนงานมาสร้างไว้ให้ตั้งแต่แปดเก้าปีก่อน ด้วยเขาชอบมาเล่นน้ำที่นี่เป็นประจำ ประกอบกับชอบบรรยากาศที่เงียบสงบเป็นส่วนตัว สมัยที่ยังไม่ไปเรียนต่างประเทศเขาก็ชอบมาขลุกตัวอยู่ที่บ้านหลังนี้ซึ่งเขาเรียกว่ากระท่อมท้ายไร่เป็นประจำ
“ขึ้นมาสิคุณ จะยืนตากฝนอยู่ตรงนั้นหรือไง” เจ้าของกระท่อมที่ขึ้นไปบนตัวบ้านตะโกนลงมาถามปิ่นมุกที่ยืนลังเลอยู่หน้าบันไดซึ่งมีอยู่สี่ห้าขั้น
“ฉันจะไว้ใจคุณได้แค่ไหน” ถามตรงๆแบบไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลา เรียกเสียงหัวเราะของคนที่อยู่ด้านบนให้ดังขึ้น
“โธ่คุณ นึกว่ากลัวอะไร ไม่ต้องห่วงหรอกนะผมไม่ใช่โรคจิตที่ชอบขืนใจผู้หญิง ยิ่งกับคุณเป็นผู้หญิงที่ผมรักไม่มีทางที่ผมจะทำร้ายคุณเด็ดขาด” ท้ายๆประโยคน้ำเสียงและสีหน้าดูจริงจังขึ้น
ปิ่นมุกเผลอยิ้มอย่างไม่รู้ตัวเมื่อได้ฟังคำพูดของเจ้าของกระท่อม ความกังวลที่เคยมีอันตรธานหายไปจนหมดสิ้น เธอก้าวเท้าขึ้นบันไดโดยมีคริสโตเฟอร์ยื่นมือมาช่วยพยุงจนมายืนอยู่บนกระท่อมเธอกวาดตามองรอบๆบริเวณภายในที่ถูกจัดสรรพื้นที่ไว้อย่างลงตัว
คริสโตเฟอร์เดินไปเปิดไฟทำให้ความมืดมิดภายในกระท่อมถูกกลืนด้วยแสงสว่างอีกครั้ง แตกต่างจากด้านนอกที่ตอนนี้มืดสนิทไปแล้วพร้อมๆกับสายฝนโปรยปรายลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ไอฝนสาดกระเซ็นผ่านประตูเข้ามาทำให้ปิ่นมุกรู้สึกหนาวๆขึ้นมาจนต้องยกแขนกอดกระชับตัวเองเอาไว้
“หนาวเหรอคุณ” คริสโตเฟอร์ถามพลางเดินไปปิดประตูเพื่อไม่ให้ไอฝนและลมพัดผ่านเข้ามา “ให้ผมกอดไหมล่ะคลายหนาวได้นะ เหมือนที่เขาว่าเนื้อห่มเนื้ออุ่นยิ่งกว่าใส่เสื้อกันหนาวสักร้อยตัว”
“ไม่หนาวค่ะ!” ปิ่นมุกกระแทกเสียงตอบอย่างหมั่นไส้ ฝ่ายนั้นหัวเราะเบาๆ “ตรงนี้มีไฟฟ้าถึงด้วยเหรอคุณ”
“มีสิ ทุกพื้นที่ของไร่นี้มีไฟฟ้าถึงทุกจุดแหละ”
“ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ”
“ได้สิ แต่ถ้าอยากรู้ว่าผมมีแฟนหรือยัง บอกไว้ก่อนว่ายังไม่มีนะครับ เพราะกำลังตามจีบอยู่แต่ยังไม่ติด”
ปิ่นมุกอยากจะเอาหัวโขกพื้นให้ตายไปซะให้รู้แล้วรู้รอด ไม่เช่นนั้นทั้งคืนคงจะต้องได้กิน ‘ขนมจีบ’ จากเจ้าของกระท่อมจนจุกตายแน่ๆ
“ฉันไม่ได้อยากรู้เรื่องนั้นค่ะ เรื่องที่ฉันจะถามก็คือทำไมคุณถึงเป็นนักทั้งแพทย์ เป็นทั้งนักออกแบบอัญมณีละคะ คุณทำอาชีพไหนกันแน่”
“คงเป็นพรหมลิขิตมั้งครับ เพราะถ้าผมเลือกอาชีพนักออกแบบอัญมณีอย่างเดียว คงไม่ได้มาตรวจภายในให้คุณ และเจอคนที่ใช่”
“ขอสาระค่ะ” คนฟังทอดถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
คริสโตเฟอร์หัวเราะ ก่อนอธิบายจริงจัง “คือนักออกแบบอัญมณีมันเป็นความฝันของผมครับ ชอบมาตั้งแต่เด็กๆ ก็เลยเรียนต่อในสายนี้ พอจบมาออกแบบงานได้ประมาณสองปีก็ต้องหยุดทำ เพราะคุณพ่ออยากให้ผมเรียนแพทย์ตามรอยท่าน”
“อ๋อ แล้วคุณเป็นลูกชายคนเดียวเหรอ”
“ผมมีน้องชายอีกคนครับ คุณมุกอยากเห็น ‘น้องชาย’ ผมไหมล่ะครับ เดี๋ยวผมเอาให้ดู”
ปากกำลังจะตอบว่าอยากเห็น แต่ก็ฉุกคิดถึงเหตุการณ์ช่วงบ่ายขึ้นมาได้เสียก่อน ‘น้องชาย’ ในความหมายของเขาไม่ใช่คนแต่เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายที่มีเฉพาะผู้ชายเท่านั้น คิดมาถึงจุดนี้หน้าของเธอก็แดงซ่านก่อนจะรีบกลบเกลื่อนด้วยการแว๊ดๆใส่เขา
“ไม่ ฉันไม่อยากเห็น อย่ามาลามกกับฉันนะ”
“ลามกอะไรคุณ อ๋อ คุณคิดว่าผมหมายถึง…” ชายหนุ่มก้มหน้ามองเป้าตัวเอง “ไอ้นี่ใช่ไหม ฮ่าๆๆ ผมว่าคุณนั่นแหละคิดลามก เพราะผมไม่ได้หมายถึงไอ้นี่เลย ผมหมายถึงน้องชายของผมที่คลานตามผมมาต่างหาก”
“บ้าสิ ฉันไม่ได้คิดซะหน่อย”
“ไม่ได้คิดทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะ รู้สึกว่าตั้งแต่เห็นรูปร่างของผมเมื่อตอนบ่ายคุณดูจะหื่นกามขึ้นเยอะเลยนะ เห็นทีว่าคืนนี้ผมคงต้องระวังตัวให้ดีซะแล้ว ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะคิดทำมิดีมิร้ายกับผมก็ได้”
“อร๊าย! หุบปากไปเลยนะ” ปิ่นมุกอยากจะกรี๊ดให้ดังกว่านี้แต่วันนี้ก็กรีดร้องมาทั้งวันเสียงก็พาลหดหาย
ธิดาดิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ต.ค. 2558, 10:27:01 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ต.ค. 2558, 10:27:01 น.
จำนวนการเข้าชม : 2762
<< ตอนที่ 10 ลบล้างความผิด 50% | ตอนที่ 11 บาปกรรมนำสนอง >> |