ต้องฤทธิ์เสน่หา โดย ธิดาดิน
ต้องฤทธิ์เสน่หา
โดย ธิดาดิน
แจ้งข่าวจ้า ตอนนี้นิยายเรื่องต้องฤทธิ์เสน่หา (ฉบับเต็มไม่ตัดแม้แต่ฉากเดียว) วางจำหน่ายแล้วในราคา 279 บาท วางที่ร้านนายอินทร์ ร้ายซีเอ็ด ร้านบีทูเอส ทุกสาขา ช่องทางการสั่งซื้อด้านล่างนี้เลยจ้า
ตีพิมพ์กับ สนพ. อินเลิฟ ปกด้านล่างนี้เลยจ้า
ช่องทางการสั่งซื้อ
วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคาเล่มละ 279 บาท
1. จำหน่ายที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ ร้านนายอินทร์ ร้านซีเอ็ด ร้าน b2s
2.โทรสั่งซื้อกับสำนักพิมพ์ส่งตรงถึงบ้าน ที่เบอร์ โทร. 02-930-3119 และ 02-930-3120
(วัน จ.-ศ. เวลา 9.00-18.00 น.) ยกเว้นวันหยุดทำการ
3.ที่เว็บไซด์อินเลิฟ ใครเป็นสมาชิกลด 20% สั่งซื้อได้ที่ http://www.inlove-book.com/book/1246
4. สั่งซื้อผ่าน facebook >>คลิกที่นี่<<แจ้งข่าวจ้า ตอนนี้นิยายเรื่องต้องฤทธิ์เสน่หา (ฉบับเต็มไม่ตัดแม้แต่ฉากเดียว) วางจำหน่ายแล้วในราคา 279 บาท วางที่ร้านนายอินทร์ ร้ายซีเอ็ด ร้านบีทูเอส ทุกสาขา ช่องทางการสั่งซื้อด้านล่างนี้เลยจ้า ปกอยู่ด้านบนจ้า
ตีพิมพ์กับ สนพ. อินเลิฟ
ช่องทางการสั่งซื้อ
วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคาเล่มละ 279 บาท
1. จำหน่ายที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ ร้านนายอินทร์ ร้านซีเอ็ด ร้าน b2s
2.โทรสั่งซื้อกับสำนักพิมพ์ส่งตรงถึงบ้าน ที่เบอร์ โทร. 02-930-3119 และ 02-930-3120
(วัน จ.-ศ. เวลา 9.00-18.00 น.) ยกเว้นวันหยุดทำการ
3.ที่เว็บไซด์อินเลิฟ ใครเป็นสมาชิกลด 20% สั่งซื้อได้ที่ http://www.inlove-book.com/book/1246
4. สั่งซื้อผ่าน facebook >>คลิกที่นี่<<
เป็นแพทย์มาก็หลายปี แต่ใครจะคิดว่าเขาจะมาตบะแตกเพียงเพราะได้ตรวจภายในของผู้หญิงคนนั้น…เธอผู้ทำให้คุณหมอผู้วางตัวเหมาะสมกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการอย่างไม่น่าเชื่อ
แนะนำตัวละคร
คริสโตเฟอร์ คอลเวลล์สัน
แพทย์สูติ-นรีเวช จอมทะเล้น ผู้มีหน้าตาเป็นอาวุธ หล่อ รวย ระดับมหาเศรษฐีหมื่นล้าน เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนเบอร์หนึ่งในสหรัฐอเมริกา แถมยังมีสาขาในต่างประเทศอีกมากมาย
ปิ่นมุก วิเศษวัฒนากุล
สาวไทยวัย 28 ปี ผู้มีต้นทุนชีวิตต่ำ บินข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลถึงอเมริกาเพื่อตามหาความฝัน แต่ไม่รู้ว่าโชคไม่เข้าข้างหรือเทวดากลั่นแกล้ง เธอกำลังจะกลายเป็นนางเอกหนังโป๊ในอีกไม่ช้านี้
.........................................................................................
นิยายเรื่องนี้เป็นแนวรักโรแมนติก คอมเมดี้ เน้น หื่นๆ ฮาๆ รั่วๆ ฟินจิกหมอน แอบงอนและง้อ มีดรามาผสมเล็กน้อยที่สำคัญมีกลิ่นอายของโรมานต์รวมอยู่ด้วยจ้า
โดย ธิดาดิน
แจ้งข่าวจ้า ตอนนี้นิยายเรื่องต้องฤทธิ์เสน่หา (ฉบับเต็มไม่ตัดแม้แต่ฉากเดียว) วางจำหน่ายแล้วในราคา 279 บาท วางที่ร้านนายอินทร์ ร้ายซีเอ็ด ร้านบีทูเอส ทุกสาขา ช่องทางการสั่งซื้อด้านล่างนี้เลยจ้า
ตีพิมพ์กับ สนพ. อินเลิฟ ปกด้านล่างนี้เลยจ้า
ช่องทางการสั่งซื้อ
วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคาเล่มละ 279 บาท
1. จำหน่ายที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ ร้านนายอินทร์ ร้านซีเอ็ด ร้าน b2s
2.โทรสั่งซื้อกับสำนักพิมพ์ส่งตรงถึงบ้าน ที่เบอร์ โทร. 02-930-3119 และ 02-930-3120
(วัน จ.-ศ. เวลา 9.00-18.00 น.) ยกเว้นวันหยุดทำการ
3.ที่เว็บไซด์อินเลิฟ ใครเป็นสมาชิกลด 20% สั่งซื้อได้ที่ http://www.inlove-book.com/book/1246
4. สั่งซื้อผ่าน facebook >>คลิกที่นี่<<แจ้งข่าวจ้า ตอนนี้นิยายเรื่องต้องฤทธิ์เสน่หา (ฉบับเต็มไม่ตัดแม้แต่ฉากเดียว) วางจำหน่ายแล้วในราคา 279 บาท วางที่ร้านนายอินทร์ ร้ายซีเอ็ด ร้านบีทูเอส ทุกสาขา ช่องทางการสั่งซื้อด้านล่างนี้เลยจ้า ปกอยู่ด้านบนจ้า
ตีพิมพ์กับ สนพ. อินเลิฟ
ช่องทางการสั่งซื้อ
วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคาเล่มละ 279 บาท
1. จำหน่ายที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ ร้านนายอินทร์ ร้านซีเอ็ด ร้าน b2s
2.โทรสั่งซื้อกับสำนักพิมพ์ส่งตรงถึงบ้าน ที่เบอร์ โทร. 02-930-3119 และ 02-930-3120
(วัน จ.-ศ. เวลา 9.00-18.00 น.) ยกเว้นวันหยุดทำการ
3.ที่เว็บไซด์อินเลิฟ ใครเป็นสมาชิกลด 20% สั่งซื้อได้ที่ http://www.inlove-book.com/book/1246
4. สั่งซื้อผ่าน facebook >>คลิกที่นี่<<
เป็นแพทย์มาก็หลายปี แต่ใครจะคิดว่าเขาจะมาตบะแตกเพียงเพราะได้ตรวจภายในของผู้หญิงคนนั้น…เธอผู้ทำให้คุณหมอผู้วางตัวเหมาะสมกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการอย่างไม่น่าเชื่อ
แนะนำตัวละคร
คริสโตเฟอร์ คอลเวลล์สัน
แพทย์สูติ-นรีเวช จอมทะเล้น ผู้มีหน้าตาเป็นอาวุธ หล่อ รวย ระดับมหาเศรษฐีหมื่นล้าน เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนเบอร์หนึ่งในสหรัฐอเมริกา แถมยังมีสาขาในต่างประเทศอีกมากมาย
ปิ่นมุก วิเศษวัฒนากุล
สาวไทยวัย 28 ปี ผู้มีต้นทุนชีวิตต่ำ บินข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลถึงอเมริกาเพื่อตามหาความฝัน แต่ไม่รู้ว่าโชคไม่เข้าข้างหรือเทวดากลั่นแกล้ง เธอกำลังจะกลายเป็นนางเอกหนังโป๊ในอีกไม่ช้านี้
.........................................................................................
นิยายเรื่องนี้เป็นแนวรักโรแมนติก คอมเมดี้ เน้น หื่นๆ ฮาๆ รั่วๆ ฟินจิกหมอน แอบงอนและง้อ มีดรามาผสมเล็กน้อยที่สำคัญมีกลิ่นอายของโรมานต์รวมอยู่ด้วยจ้า
Tags: รัก,โรแมนติก,รักเพื่อน,เข้มข้น,หวาน,แรง,นิยาย,ซึ้ง,แอบรัก,ซึ้ง
ตอน: ตอนที่ 11 บาปกรรมนำสนอง
ตอนที่ 11 บาปกรรมนำสนอง
ตะวันฉายชะเง้อคอมองออกไปด้านนอกผ่านหน้าต่างด้วยสายตาเป็นกังวล ฝนหลงฤดูกำลังตกอย่างไม่ลืมหูลืมตาไม่รู้ว่าปานนี้ลูกชายกับปิ่นมุกจะเป็นอย่างไรบ้าง ลำพังคริสโตเฟอร์คนเดียวเธอไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่เพราะเป็นผู้ชายและปกติเมื่อกลับมาที่ไร่ก็จะไปค้างที่กระท่อมท้ายไร่เป็นประจำอยู่แล้ว แต่ที่ห่วงนักห่วงหนาก็คือปิ่นมุกไม่รู้ว่าจะคุ้นชินกับการอยู่กระท่อมหลังเล็กๆแบบนั้นหรือเปล่า อีกอย่างหล่อนก็เป็นผู้หญิงอยู่ร่วมชายคากับผู้ชายสองต่อสองแบบนั้นก็กลัวว่าเธอจะเสื่อมเสียหากมีใครรู้เข้า แต่กระนั้นเธอก็ไม่ได้ห่วงเรื่องสวัสดิภาพและความปลอดภัยของปิ่นมุกเพราะมั่นใจว่าลูกชายเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่ฉวยโอกาสกับผู้หญิง
“ชะเง้อคอมองอะไรเหรอคุณ เห็นยืนมองตั้งนานแล้ว”
ตะวันฉายหันกลับมามองสามีที่พึ่งลงมาจากชั้นบน “ฉายเป็นห่วงลูกน่ะค่ะคุณ ไปอยู่ที่กระท่อมท้ายไร่ไม่รู้ว่าปานนี้เป็นยังไงบ้าง ฝนตกแรงขนาดนี้”
“ไม่เห็นต้องห่วงเลยนี่นา ปกติตาคริสก็ไปค้างที่กระท่อมท้ายไร่บ่อยจะตาย ไม่ว่าจะหน้าฝน หน้าร้อน หน้าหนาว”
“ก็ถ้ามีลูกอยู่คนเดียวฉายคงไม่ห่วงขนาดนี้หรอกค่ะ”
คิ้วของพอร์ชย่นเข้าหากันจนแทบจะกลายเป็นเส้นตรง “อ้าวแล้วคริสอยู่กับใครล่ะ”
“คนพิเศษสำหรับตาคริสไงคะ
“จริงเหรอคุณ ก็ไหนตาคริสบอกว่ายังไม่คบใครเป็นตนไม่ใช่เหรอ”
“ก็ยังไม่ได้คบค่ะ แค่ลูกเราน่ะไปชอบเธอข้างเดียว กำลังตามจีบอยู่ และฉันคิดว่าระดับลูกเราไม่น่าพลาดอยู่แล้ว”
“ ขอให้เป็นจริงอย่างที่คุณคิดทีเถอะ เราจะได้สะใภ้มาประดับเรือนซะที”
พอร์ช ภาวนาขอให้ความคิดของภรรยากลายเป็นจริง เพราะเขาเองก็อยากให้ลูกเป็นฝั่งเป็นฝามีภรรยาเหมือนชาวบ้านชาวช่องเขาเหมือนกัน เพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันกับลูกชายที่เขารู้จักก็พากันแต่งงานมีเมียมีลูกไปหมดแล้ว จะเหลือแต่ลูกชายตัวดีของตนที่ครองตัวถือพรหมจรรย์ทั้งๆที่อายุอานามใกล้เลขสามเข้าไปทุกที
สายฝนยังคงกระหน่ำลงอย่างไม่ลืมหูลืมตา อุณหภูมิลดฮวบลงจนทำให้ทั่วบริเวณมีอากาศหนาวไม่เว้นแม้แต่ในกระท่อมท้ายไร่ ปิ่นมุกเริ่มนั่งกอดเข่าเมื่อความหนาวเย็นกระทบกายมากขึ้นไปทุกที อาการของเธอไม่พ้นสายตาเจ้าของกระท่อม คริสโตเฟอร์ลุกขึ้นไปหยิบหมอนกับผ้าห่มที่เก็บไว้ในตู้เล็กๆมายื่นให้หญิงสาว
“หนาวใช่ไหมคุณ เอานี่ผ้าห่ม”
“ขอบคุณค่ะ”
“ถ้าห่มผ้าแล้วยังไม่อุ่นลองพิจารณาข้อเสนอของผมอีกทีก็ได้นะ เผื่อเปลี่ยนใจ”
ปิ่นมุกปรายตามองคนยื่นข้อเสนออย่างเซ็งๆ แต่ไม่อยากโต้เถียงจึงสงบปากสงบคำ คลี่ผ้าห่มออกแล้วคลุมกายเอาไว้ช่วยบรรเทาความเหน็บหนาวได้บ้าง พอร่างกายเริ่มอุ่นปัญหาอื่นก็เริ่มเกิดเมื่อท้องเริ่มหิวส่งเสียงร้องงอแงดังหลายครั้ง โชคดีที่เสียงฝนหล่นกระทบหลังคากลบไว้ จึงไม่มีใครได้ยินนอกจากเจ้าตัว
“คุณมีอะไรกินไหม ฉันหิว” สุดท้ายเมื่อทนต่อความหิวไม่ไหวก็ต้องหันไปถามเจ้าของกระท่อมที่นั่งอยู่อีกฝั่ง
“ผมไม่ได้ซื้ออะไรมาแช่ตู้เย็นไว้ซะด้วยสิ เอางี้ข้างๆกระท่อมมีหญ้าขึ้นเขียวขจีลงไปเล็มหญ้ารองท้องก่อนไหมล่ะ” อยู่ดีไม่ว่าดีนึกอยากโดนด่าขึ้นมาซะอย่างนั้น เมื่อหาเรื่องก็ได้เรื่องสมใจ
“เชิญไปเล็มเองเถอะย่ะ ฉันไม่ใช่ควาย ชิ”
คริสโตเฟอร์หัวเราะสุขใจที่โดนด่าคืนนี้คงนอนหลับฝันดีไปอีกคืน “ถ้างั้นคุณรอผมอยู่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวผมลงไปหาอะไรมาให้กิน”
“หาอะไรคะ แถวนี้มีร้านค้าด้วยเหรอ”
อืม ถามไม่คิด ใครเขาจะมาตั้งร้านค้าในป่าในเขาแบบนี้
“เดี๋ยวจะไปหาจับกบจับเขียดมาปิ้งให้กิน ฝนตกแบบนี้คงหาไม่ยาก”
“ไม่เอา ฉันกินไม่เป็น” แค่คิดถึงหน้าสัตว์พวกนั้นเธอก็ขนลุกไปทั้งตัวแล้ว แต่ที่สงสัยคือที่อเมริกามีสัตว์ประเภทนั้นเหมือนประเทศไทยด้วยเหรอ สงสัยคุณหมอจะมั่วซั่วแกล้งอำเธออีกแล้วกระมัง
“ผมล้อเล่นหรอกคุณ รออยู่นี่นะ”
“เดี๋ยวสิ แล้วคุณจะไปยังไง ฝนมันตกอยู่นะ”
คริสโตเฟอร์ยักไหล่แต่ไม่ตอบคำถามเดินดุ่มๆลงไปจากกระท่อม ทิ้งให้ปิ่นมุกมองตามด้วยความหวั่นใจ เรื่องอะไรมาปล่อยให้เธออยู่ที่นี่คนเดียวล่ะ มีผีหรือเปล่าก็ไม่รู้ ความกลัวสั่งให้เธอลุกขึ้นจะเดินตามเขาไปแต่ก็ช้าเกินไปหน่อย เพราะไม่เห็นเจ้าของกระท่อมแล้ว จึงรีบเดินกลับมานั่งที่เดิม
คริสโตเฟอร์หายไปไม่ถึงสิบนาที ก็กลับมาพร้อมกล้วยสุกหวีใหญ่ แต่เจ้าตัวสภาพแตกต่างจากคนเดิมไปอย่างสิ้นเชิง เพราะเนื้อตัวเสื้อผ้าหน้าผมเปียกปอนเหมือนลูกหมาตกน้ำ ปิ่นมุกหัวเราะคิกคัก
“หัวเราะทำไมคุณ”
“ก็ดูสภาพคุณสิ เหมือนลูกหมาตกน้ำเลย”
“ช่างเปรียบเปรยได้น่ารักแท้ๆ คนอุตส่าห์ตากลมตากฝนออกไปหาอะไรมาให้กินยังมาหัวเราะเยาะกันอีกนะ เอานี่เอาไปทานรองท้อง”
ปิ่นมุกมองกล้วยที่อยู่ในมือของชายหนุ่ม ก่อนถามเสียงแผ่ว “ฉันต้องฝากท้องไว้กับกล้วยนี่เหรอ”
“แล้วที่นี่มันมีอะไรให้กินไหมล่ะครับ มีกล้วยให้รองท้องมันก็ดีแค่ไหนแล้ว”
“แล้วคุณไปเอามาจากที่ไหน”
“หลังกระท่อม ผมให้คนงานมาปลูกไว้สี่ห้าต้นโชคดีที่กำลังออกผล” เขาโกหกที่จริงกล้วยพวกนี้เขาซื้อติดมาจากห้างสรรพสินค้า เพราะรู้ว่าเธอชอบทานผลไม้ประเภทนี้มาก
ปิ่นมุกรับเอากล้วยสามสี่ลูกแล้วมองมันอย่างพินิจ คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกินผลไม้ที่อยู่ในมือเพื่อรองท้อง ซึ่งรสชาติมันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด เพราะเวลาหิวกินอะไรมันก็อร่อยทั้งนั้น
“นั่นคุณกำลังจะทำอะไร”ถามขึ้นอย่างตระหนกเมื่อเหลือบไปเห็นเขากำลังจะถอดเสื้อออก
“ถอดเสื้อไงคุณ ไม่เห็นหรือไงว่าเสื้อมันเปียกขืนใส่แช่ทั้งคืนผมคงได้เป็นไข้อีกรอบแน่ ทำไมครับ คิดว่าผมจะถอดเสื้อไปข่มขืนคุณเหรอ ผมไม่ทำหรอกน่าถึงผมอยากจะทำใจแทบขาดก็ตาม”
“บ้า” ปิ่นมุกสบถด่าเสียงเบา รีบดึงสายตากลับเพราะไม่อยากมองเรือนร่างของเขาอีก แต่ก็ไม่รู้ทำไมลูกกะตาเจ้ากรรมยังแอบชำเลืองไปมองเขาอยู่เป็นบางครั้ง นั่นเองถึงทำให้เธอเห็นเขานั่งกอดตัวเองตัวสั่นๆ
“คุณหนาวเหรอคะ”
“ก็นิดหน่อยครับ”
ปิ่นมุกกรอกตาไปมาครุ่นคิด นึกขึ้นได้ว่าเขาไม่สบายไม่รู้ว่าจะหายดีหรือยัง ขืนให้เขานั่งแก้ผ้าท้าทายความเหน็บหนาวอยู่แบบนั้นคงได้เป็นไข้อีกรอบแน่ๆ แต่จะทำยังไงล่ะก็ในเมื่อผ้าห่มมันก็มีผืนเดียวซะด้วยสิ ถ้าเธอยกให้เขาเธอก็ต้องทนหนาวทั้งคืน
“คุณมาห่มผ้าสิ”
จู่ๆเธอก็กลายเป็นคนดีมีเมตตาขึ้นมาซะงั้น แต่ไม่ใช่ว่าเธอสงสารหรืออะไรหรอกนะ เพียงแค่อยากตอบแทนที่เขาตากฝนออกไปหากล้วยมาให้เธอทานรองท้องต่างหาก
“ผ้าห่มมันมีผืนเดียว คุณห่มไปเถอะ ผมไม่หนาวเท่าไหร่หรอก”
“ตัวสั่นยังกะลูกนกตกน้ำแบบนั้นยังมีหน้าบอกว่าไม่หนาวเท่าไหร่อีกนะ” ปิ่นมุกลุกขึ้นเดินไปนั่งลงข้างๆชายหนุ่มก่อนจะยื่นผ้าห่มฝั่งหนึ่งให้เขา “ผ้าห่มมันก็ผืนตั้งใหญ่ ห่มคนละฝั่งก็ได้ ฉันไม่อยากเป็นสาเหตุให้คุณหนาวตาย”
คริสโตเฟอร์ยิ้ม แม้จะเป็นเพียงความห่วงใยเล็กๆน้อยๆที่ได้รับ แต่กลับทำให้เขามีความสุขอย่างท่วมท้น เขาอยากจะหยุดเวลาเอาไว้เพียงเท่านี้ ตรงนี้ นาทีนี้ วินาทีที่มีแต่เขาและเธอนั่งเคียงข้างกันอยู่แบบนี้ตลอดไป
‘ก็รู้ว่ารักข้างเดียวเปล่าเปลี่ยวจิต สุขเพียงนิดเจ็บปางตายใครปรารถนา
อยากเลิกรักหักใจหนีไกลตา คงต้องรอดินกลบหน้าอาจลืมเธอ’
....................................................................................
คอมเม๊นส์ให้กำลังใจเค้าหน่อยน้าาาาาาาาา
ตะวันฉายชะเง้อคอมองออกไปด้านนอกผ่านหน้าต่างด้วยสายตาเป็นกังวล ฝนหลงฤดูกำลังตกอย่างไม่ลืมหูลืมตาไม่รู้ว่าปานนี้ลูกชายกับปิ่นมุกจะเป็นอย่างไรบ้าง ลำพังคริสโตเฟอร์คนเดียวเธอไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่เพราะเป็นผู้ชายและปกติเมื่อกลับมาที่ไร่ก็จะไปค้างที่กระท่อมท้ายไร่เป็นประจำอยู่แล้ว แต่ที่ห่วงนักห่วงหนาก็คือปิ่นมุกไม่รู้ว่าจะคุ้นชินกับการอยู่กระท่อมหลังเล็กๆแบบนั้นหรือเปล่า อีกอย่างหล่อนก็เป็นผู้หญิงอยู่ร่วมชายคากับผู้ชายสองต่อสองแบบนั้นก็กลัวว่าเธอจะเสื่อมเสียหากมีใครรู้เข้า แต่กระนั้นเธอก็ไม่ได้ห่วงเรื่องสวัสดิภาพและความปลอดภัยของปิ่นมุกเพราะมั่นใจว่าลูกชายเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่ฉวยโอกาสกับผู้หญิง
“ชะเง้อคอมองอะไรเหรอคุณ เห็นยืนมองตั้งนานแล้ว”
ตะวันฉายหันกลับมามองสามีที่พึ่งลงมาจากชั้นบน “ฉายเป็นห่วงลูกน่ะค่ะคุณ ไปอยู่ที่กระท่อมท้ายไร่ไม่รู้ว่าปานนี้เป็นยังไงบ้าง ฝนตกแรงขนาดนี้”
“ไม่เห็นต้องห่วงเลยนี่นา ปกติตาคริสก็ไปค้างที่กระท่อมท้ายไร่บ่อยจะตาย ไม่ว่าจะหน้าฝน หน้าร้อน หน้าหนาว”
“ก็ถ้ามีลูกอยู่คนเดียวฉายคงไม่ห่วงขนาดนี้หรอกค่ะ”
คิ้วของพอร์ชย่นเข้าหากันจนแทบจะกลายเป็นเส้นตรง “อ้าวแล้วคริสอยู่กับใครล่ะ”
“คนพิเศษสำหรับตาคริสไงคะ
“จริงเหรอคุณ ก็ไหนตาคริสบอกว่ายังไม่คบใครเป็นตนไม่ใช่เหรอ”
“ก็ยังไม่ได้คบค่ะ แค่ลูกเราน่ะไปชอบเธอข้างเดียว กำลังตามจีบอยู่ และฉันคิดว่าระดับลูกเราไม่น่าพลาดอยู่แล้ว”
“ ขอให้เป็นจริงอย่างที่คุณคิดทีเถอะ เราจะได้สะใภ้มาประดับเรือนซะที”
พอร์ช ภาวนาขอให้ความคิดของภรรยากลายเป็นจริง เพราะเขาเองก็อยากให้ลูกเป็นฝั่งเป็นฝามีภรรยาเหมือนชาวบ้านชาวช่องเขาเหมือนกัน เพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันกับลูกชายที่เขารู้จักก็พากันแต่งงานมีเมียมีลูกไปหมดแล้ว จะเหลือแต่ลูกชายตัวดีของตนที่ครองตัวถือพรหมจรรย์ทั้งๆที่อายุอานามใกล้เลขสามเข้าไปทุกที
สายฝนยังคงกระหน่ำลงอย่างไม่ลืมหูลืมตา อุณหภูมิลดฮวบลงจนทำให้ทั่วบริเวณมีอากาศหนาวไม่เว้นแม้แต่ในกระท่อมท้ายไร่ ปิ่นมุกเริ่มนั่งกอดเข่าเมื่อความหนาวเย็นกระทบกายมากขึ้นไปทุกที อาการของเธอไม่พ้นสายตาเจ้าของกระท่อม คริสโตเฟอร์ลุกขึ้นไปหยิบหมอนกับผ้าห่มที่เก็บไว้ในตู้เล็กๆมายื่นให้หญิงสาว
“หนาวใช่ไหมคุณ เอานี่ผ้าห่ม”
“ขอบคุณค่ะ”
“ถ้าห่มผ้าแล้วยังไม่อุ่นลองพิจารณาข้อเสนอของผมอีกทีก็ได้นะ เผื่อเปลี่ยนใจ”
ปิ่นมุกปรายตามองคนยื่นข้อเสนออย่างเซ็งๆ แต่ไม่อยากโต้เถียงจึงสงบปากสงบคำ คลี่ผ้าห่มออกแล้วคลุมกายเอาไว้ช่วยบรรเทาความเหน็บหนาวได้บ้าง พอร่างกายเริ่มอุ่นปัญหาอื่นก็เริ่มเกิดเมื่อท้องเริ่มหิวส่งเสียงร้องงอแงดังหลายครั้ง โชคดีที่เสียงฝนหล่นกระทบหลังคากลบไว้ จึงไม่มีใครได้ยินนอกจากเจ้าตัว
“คุณมีอะไรกินไหม ฉันหิว” สุดท้ายเมื่อทนต่อความหิวไม่ไหวก็ต้องหันไปถามเจ้าของกระท่อมที่นั่งอยู่อีกฝั่ง
“ผมไม่ได้ซื้ออะไรมาแช่ตู้เย็นไว้ซะด้วยสิ เอางี้ข้างๆกระท่อมมีหญ้าขึ้นเขียวขจีลงไปเล็มหญ้ารองท้องก่อนไหมล่ะ” อยู่ดีไม่ว่าดีนึกอยากโดนด่าขึ้นมาซะอย่างนั้น เมื่อหาเรื่องก็ได้เรื่องสมใจ
“เชิญไปเล็มเองเถอะย่ะ ฉันไม่ใช่ควาย ชิ”
คริสโตเฟอร์หัวเราะสุขใจที่โดนด่าคืนนี้คงนอนหลับฝันดีไปอีกคืน “ถ้างั้นคุณรอผมอยู่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวผมลงไปหาอะไรมาให้กิน”
“หาอะไรคะ แถวนี้มีร้านค้าด้วยเหรอ”
อืม ถามไม่คิด ใครเขาจะมาตั้งร้านค้าในป่าในเขาแบบนี้
“เดี๋ยวจะไปหาจับกบจับเขียดมาปิ้งให้กิน ฝนตกแบบนี้คงหาไม่ยาก”
“ไม่เอา ฉันกินไม่เป็น” แค่คิดถึงหน้าสัตว์พวกนั้นเธอก็ขนลุกไปทั้งตัวแล้ว แต่ที่สงสัยคือที่อเมริกามีสัตว์ประเภทนั้นเหมือนประเทศไทยด้วยเหรอ สงสัยคุณหมอจะมั่วซั่วแกล้งอำเธออีกแล้วกระมัง
“ผมล้อเล่นหรอกคุณ รออยู่นี่นะ”
“เดี๋ยวสิ แล้วคุณจะไปยังไง ฝนมันตกอยู่นะ”
คริสโตเฟอร์ยักไหล่แต่ไม่ตอบคำถามเดินดุ่มๆลงไปจากกระท่อม ทิ้งให้ปิ่นมุกมองตามด้วยความหวั่นใจ เรื่องอะไรมาปล่อยให้เธออยู่ที่นี่คนเดียวล่ะ มีผีหรือเปล่าก็ไม่รู้ ความกลัวสั่งให้เธอลุกขึ้นจะเดินตามเขาไปแต่ก็ช้าเกินไปหน่อย เพราะไม่เห็นเจ้าของกระท่อมแล้ว จึงรีบเดินกลับมานั่งที่เดิม
คริสโตเฟอร์หายไปไม่ถึงสิบนาที ก็กลับมาพร้อมกล้วยสุกหวีใหญ่ แต่เจ้าตัวสภาพแตกต่างจากคนเดิมไปอย่างสิ้นเชิง เพราะเนื้อตัวเสื้อผ้าหน้าผมเปียกปอนเหมือนลูกหมาตกน้ำ ปิ่นมุกหัวเราะคิกคัก
“หัวเราะทำไมคุณ”
“ก็ดูสภาพคุณสิ เหมือนลูกหมาตกน้ำเลย”
“ช่างเปรียบเปรยได้น่ารักแท้ๆ คนอุตส่าห์ตากลมตากฝนออกไปหาอะไรมาให้กินยังมาหัวเราะเยาะกันอีกนะ เอานี่เอาไปทานรองท้อง”
ปิ่นมุกมองกล้วยที่อยู่ในมือของชายหนุ่ม ก่อนถามเสียงแผ่ว “ฉันต้องฝากท้องไว้กับกล้วยนี่เหรอ”
“แล้วที่นี่มันมีอะไรให้กินไหมล่ะครับ มีกล้วยให้รองท้องมันก็ดีแค่ไหนแล้ว”
“แล้วคุณไปเอามาจากที่ไหน”
“หลังกระท่อม ผมให้คนงานมาปลูกไว้สี่ห้าต้นโชคดีที่กำลังออกผล” เขาโกหกที่จริงกล้วยพวกนี้เขาซื้อติดมาจากห้างสรรพสินค้า เพราะรู้ว่าเธอชอบทานผลไม้ประเภทนี้มาก
ปิ่นมุกรับเอากล้วยสามสี่ลูกแล้วมองมันอย่างพินิจ คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกินผลไม้ที่อยู่ในมือเพื่อรองท้อง ซึ่งรสชาติมันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด เพราะเวลาหิวกินอะไรมันก็อร่อยทั้งนั้น
“นั่นคุณกำลังจะทำอะไร”ถามขึ้นอย่างตระหนกเมื่อเหลือบไปเห็นเขากำลังจะถอดเสื้อออก
“ถอดเสื้อไงคุณ ไม่เห็นหรือไงว่าเสื้อมันเปียกขืนใส่แช่ทั้งคืนผมคงได้เป็นไข้อีกรอบแน่ ทำไมครับ คิดว่าผมจะถอดเสื้อไปข่มขืนคุณเหรอ ผมไม่ทำหรอกน่าถึงผมอยากจะทำใจแทบขาดก็ตาม”
“บ้า” ปิ่นมุกสบถด่าเสียงเบา รีบดึงสายตากลับเพราะไม่อยากมองเรือนร่างของเขาอีก แต่ก็ไม่รู้ทำไมลูกกะตาเจ้ากรรมยังแอบชำเลืองไปมองเขาอยู่เป็นบางครั้ง นั่นเองถึงทำให้เธอเห็นเขานั่งกอดตัวเองตัวสั่นๆ
“คุณหนาวเหรอคะ”
“ก็นิดหน่อยครับ”
ปิ่นมุกกรอกตาไปมาครุ่นคิด นึกขึ้นได้ว่าเขาไม่สบายไม่รู้ว่าจะหายดีหรือยัง ขืนให้เขานั่งแก้ผ้าท้าทายความเหน็บหนาวอยู่แบบนั้นคงได้เป็นไข้อีกรอบแน่ๆ แต่จะทำยังไงล่ะก็ในเมื่อผ้าห่มมันก็มีผืนเดียวซะด้วยสิ ถ้าเธอยกให้เขาเธอก็ต้องทนหนาวทั้งคืน
“คุณมาห่มผ้าสิ”
จู่ๆเธอก็กลายเป็นคนดีมีเมตตาขึ้นมาซะงั้น แต่ไม่ใช่ว่าเธอสงสารหรืออะไรหรอกนะ เพียงแค่อยากตอบแทนที่เขาตากฝนออกไปหากล้วยมาให้เธอทานรองท้องต่างหาก
“ผ้าห่มมันมีผืนเดียว คุณห่มไปเถอะ ผมไม่หนาวเท่าไหร่หรอก”
“ตัวสั่นยังกะลูกนกตกน้ำแบบนั้นยังมีหน้าบอกว่าไม่หนาวเท่าไหร่อีกนะ” ปิ่นมุกลุกขึ้นเดินไปนั่งลงข้างๆชายหนุ่มก่อนจะยื่นผ้าห่มฝั่งหนึ่งให้เขา “ผ้าห่มมันก็ผืนตั้งใหญ่ ห่มคนละฝั่งก็ได้ ฉันไม่อยากเป็นสาเหตุให้คุณหนาวตาย”
คริสโตเฟอร์ยิ้ม แม้จะเป็นเพียงความห่วงใยเล็กๆน้อยๆที่ได้รับ แต่กลับทำให้เขามีความสุขอย่างท่วมท้น เขาอยากจะหยุดเวลาเอาไว้เพียงเท่านี้ ตรงนี้ นาทีนี้ วินาทีที่มีแต่เขาและเธอนั่งเคียงข้างกันอยู่แบบนี้ตลอดไป
‘ก็รู้ว่ารักข้างเดียวเปล่าเปลี่ยวจิต สุขเพียงนิดเจ็บปางตายใครปรารถนา
อยากเลิกรักหักใจหนีไกลตา คงต้องรอดินกลบหน้าอาจลืมเธอ’
....................................................................................
คอมเม๊นส์ให้กำลังใจเค้าหน่อยน้าาาาาาาาา
ธิดาดิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ต.ค. 2558, 09:14:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ต.ค. 2558, 09:14:09 น.
จำนวนการเข้าชม : 2983
<< ตอนที่ 10 ลบล้างความผิด 100% | ตอนที่ 11 บาปกรรมนำสนอง 100% nc18+ >> |