แกะรอยกามเทพ (รีไรต์)
'เทวานิรมิต' โรงแรมหรูกลางกรุงที่ใครเขาว่างดงามดุจเทวดารังสรรค์
แต่ทำไมหญิงสาวบ้านนาคนหนึ่งจึงบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจจากมา
เป็นหน้าที่ของพี่สาวที่ต้องกลับไปสืบหาความจริงจากสมุดบันทึกของน้อง

1 ใน 3 ชายในบันทึกผู้เกี่ยวพันกับเทวานิรมิต

'ทัดเทพ' ผู้บริหารหนุ่มซึ่งมีข่าวหย่าร้างกับภรรยา

'อัครวินท์' หัวหน้าแผนกผู้สุขุม อ่อนโยน

และ 'นายเจ๋ง' ช่างซ่อมบำรุงปากเสียที่เคยมีปากเสียงกับน้องเธอ

ไม่มีใครน่าไว้ใจสักคน...ในสถานที่ดุจต้องคำสาปสวรรค์แห่งนี้ 'เทวานิรมิต'

fb page : http://www.facebook.com/bhapimol.pimolbha

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ ๗



ความเร่งรีบจนเรียกได้ว่าร้อนใจนั้นต้องมีอันชะงัดไป เมื่อเที่ยวบินจากสนามบินในเมืองเซี่ยงไฮ้ถูกเลื่อนเวลาเดินทางออกไปอีกหนึ่งชั่วโมง ทัดเทพลอบถอนใจพลางยกมือลูบท้ายทอยตนเอง เพราะนั่นเท่ากับเขาต้องแกร่วอยู่ในสนามบินสุวรรณภูมิอีกอย่างน้อยชั่วโมงหนึ่ง

"เข้าไปนั่งดื่มกาแฟรอไหมคะ" เธอลดทิฐิเป็นฝ่ายถามเจ้านายผู้มีท่าทางเคร่งเครียดเสียก่อน

เขาหันมองเธอนิดหนึ่งราวกับประเมิน ดวงตาคมกล้าฉายแววลึกล้ำอย่างหนึ่งซึ่งมีเพียงเจ้าตัวเท่านั้นที่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุใด เขาผงกศีรษะในที่สุด

หนุ่มสาวเข้าไปนั่งรอในร้านกาแฟ ต่างสั่งเครื่องดื่มให้ตัวเอง ก่อนทิวบุญจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าสะพายเพื่อเล่นเกม เรียกเสียงหัวเราะพรืดอย่างสุดกลั้นจากเจ้านายที่ลอบมอง

เขาไม่อยากเชื่อว่าเธอจะเป็นคนของลักขณาไปได้ดังที่หวั่นใจ ไม่เชื่อเด็ดขาด ผู้หญิงคนนี้มีความเป็นธรรมชาติ เป็นตัวของตัวเองเกินกว่าใครจะครอบงำ

"เออ ดีเนอะ เล่นเกมไม่ต้องเกรงใจเจ้านายกันเลย" เขาว่าขันๆ เรียกค้อนคมจากคนนั่งตรงข้าม

"ก็ฉันรีบ ไม่ได้หยิบงาน แท็บเล็ต หรือโน้ตบุ๊กติดมือมาสักอย่างนี่คะ จะนั่งเครียดทำไม เล่นเกมฆ่าเวลาดีกว่า"

"นี่คุณดูไม่เหมือนเป็นลูกน้องใครได้เลยนะ หรือผมเป็นลูกหนี้คุณกันแน่" เขาเอ่ยกลั้วหัวเราะ

ทิวบุญกดปิดหน้าจอโทรศัพท์ เก็บมันลงกระเป๋าดังเดิมหลังถูกค่อนแคะหนักเข้า เออนะ ไม่กี่นาทีก่อนเขายังทำท่าจะระเบิดใส่เธอได้ง่ายๆ อยู่เลย มาตอนนี้กลับมาตีรวนเธอราวเห็นเป็นเรื่องบันเทิงใจ พิลึกคน!

"อ้าว เล่นไปสิ ผมไม่ถือ มันก็จริงอย่างที่คุณว่า"

"ไม่ดีกว่าค่ะ แบตฯ ฉันใกล้หมดด้วย"

หญิงสาวจิบกาแฟ 'เอสเปรสโซ ด็อปปิโอ' เงียบๆ ก่อนชายหนุ่มจะแก้เก้อด้วยการยกกาแฟตนขึ้นจิบเช่นเดียวกัน

"เมื่อวันก่อนผมต้องโกหกลักขณาไปอย่างนั้น นึกแล้วก็สมเพชตัวเองนะ หิวจะตาย" เขาสารภาพเหมือนบอกเล่าเรื่องทั่วไป

อาจเพราะเธอเป็นเลขาฯ คนเดียวที่อายุใกล้เคียงกับตนกว่าคนก่อนๆ ก็เป็นได้จึงทำให้ทัดเทพกล้าเปิดใจพูดคุยอย่างคนรุ่นราวคราวเดียวกัน หรือไม่ก็เพราะเขาวางใจเธอมากกว่าใครว่าไม่ใช่คนของภรรยา แม้จะเคลือบแคลงจุดประสงค์ของเจ้าหล่อนเข้ามาทำงานที่เทวานิรมิตต่อจากน้องสาวก็ตาม

"อ้อ แล้วทำไมต้องโกหกล่ะคะ"

ชายหนุ่มลอบถอนใจก่อนตอบ "ผมไม่อยากให้เขาดึงคุณมาเกี่ยวข้อง และคุณก็คงไม่ต้องการเช่นกัน"

"ดิฉันไม่เข้าใจ"

ทำไมนะ คำตอบที่เธอได้จากหลายคนที่เกี่ยวกับเทวานิรมิตกลับยิ่งเพิ่มคำถามความสงสัยให้แก่เธอ

คนพูดจากำกวมยกกาแฟขึ้นจิบด้วยท่าทีผ่อนคลาย อมพะนำเข้าไปเถอะ เธอไม่ย่อท้อและจะต้องรู้ความจริงให้ได้ แค่เพียงก้าวข้ามกำแพงที่มองไม่เห็นที่ใครๆ ต่างสร้างขึ้นมานี้สำเร็จ ด้วยการทำให้พวกเขาเชื่อใจ

"อยากรู้มากเหรอ เรื่องไม่ดีของคนอื่น ใครๆ ก็อยากรู้นะ"

ทิวบุญลอบสูดหายใจลึก น้ำเสียงของเขาแฝงแววเย้าและเสียดสี เธออยากตอบให้เจ็บแสบนักค่าที่เขาทำราวปั่นหัวเธอเล่น แต่ก็ได้แต่เม้มปากสะกดกลั้นความไม่พอใจ

"อ้าว โกรธ โกรธซะแล้ว" เขายังไม่เลิกราวบันเทิงใจเสียเต็มประดา

"ไม่บังอาจค่ะ"

คำตอบนั้นสวนทางกับท่าทางเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน และนั่นก็เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ที่นั่งไขว่ห้าง เอนหลังพิงพนักอย่างสบายอารมณ์

"คุณไม่เหมือนสามีอมทุกข์ที่กำลังมีปัญหากับภรรยาเลยนะคะ" เธอย้อนนิ่ม

ทัดเทพงันไป หากดวงตายังคงเป็นประกาย

"ทำไม ผมจะหาความสุขใส่ตัวไม่ได้เชียว"

"ด้วยการปั่นหัวเลขาฯ ของคุณนี่นะคะ"

เขาไหวไหล่ แม้ตอนยกกาแฟขึ้นจิบ ดวงตาพราวระยับก็ยังจ้องมองหญิงสาวที่นั่งตรงข้ามไม่วางตา จนคนถูกมองชักสะบัดร้อนสะบัดหนาว เลี่ยงหันหน้าออกไปมองนอกกระจกใสแทน

ภาพสตรีสาวสวยกับผมซอยสั้นแสนเก๋ของเธอสะดุดตาใครบางคนภายนอกเข้าอย่างจัง แต่แล้วคนมองก็เคลื่อนสายตาแลเลยไปยังเพื่อนร่วมโต๊ะของเจ้าหล่อนโดยอัตโนมัติ แล้วก็ได้พบกับบุรุษที่ตนไม่คาดคิดว่าจะควงมากับสตรีผู้นี้

ลลิตนึกถึงคำบอกเล่าของพี่สาว หรือเธอจะเป็นเลขาฯ คนใหม่ของทัดเทพตามที่เขาได้ยินมาจากลักขณา แต่สายตายามเจ้านายจับจ้องเลขาฯ คนงามไม่วางตานี่สิที่ทำให้ชายหนุ่มต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน

.......................

ทั้งงานการที่ต้องทำและคอยรับรองแขกของเจ้านาย พาเยี่ยมชมความเติบโต ขยับขยายของเทวานิรมิต ทิวบุญก็แทบหมดแรงทุกคืนเมื่อกลับถึงห้องพัก ดีหน่อยที่คืนนี้ไม่มีงานเลี้ยงรับรองต่อ เนื่องด้วยพรุ่งนี้มีประชุมใหญ่แต่เช้า เธอจึงตรงกลับห้องพักทันทีที่เลิกงาน

หญิวสาวนั่งบีบนวดน่องซึ่งเมื่อยขบจากการพามิสเตอร์กัว...ชายจีนร่างเล็กที่แคล่วคล่องว่องไวเดินชมเสียทั่วโรงแรม แล้วยังเบียดเสียดกับผู้คนบนรถไฟฟ้าช่วงเย็นอีก ก่อนหางตาจะเหลือบเห็นสมุดบันทึกของน้องวางอยู่บนโต๊ะกระจก ส่งผลให้คนจากบ้านมาคิดถึงคนที่นั่นจับใจ

ชีวิตที่นั่นไม่ต้องเร่งรีบ เธอจะตื่นสักกี่โมงก็ได้ ตกเย็นก็ล้อมวงทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา เข้านอนแต่หัววัน นอนเต็มอิ่มแล้วก็ตื่นมาอย่างสดใสในอีกวัน คิดถึงช่วงชีวิต ณ ตอนนั้นแล้วเธอก็กดโทรศัพท์ถึงที่บ้านโดยไม่ลังเล

ทันทีที่ปลายสายตอบรับ เธอก็กรอกเสียงสดใสลงไป

"เป็นไงบ้างแม่ ทำไรอยู่จ๊ะ"

"ทิวหรือลูก" ท่านลดเสียงลง หากเจือความยินดีเต็มเปี่ยม "แม่สบายดี ทิวล่ะ งานหนักไหม"

"ช่วงนี้ยุ่งหน่อยจ้ะ แล้วคนอื่นเป็นไงบ้าง ขอสายผู้ใหญ่สุดหล่อหน่อยสิแม่"

"พ่อเพิ่งออกไปบ้านเพื่อนเมื่อกี้นี้เอง" ฤทัยตอบเสียงเบาลงอีกอย่างนึกเกรงลูกคนนี้ เธอนึกรู้ว่าอีกฝ่ายต้องซักไซ้อีกยาว

หากทิวบุญไม่อาจเก็บความสงสัยไว้ในใจได้อีก บังเอิญเกินไปไหมที่ทุกครั้งยามเธอโทรไป พ่อไม่เคยอยู่รับสายเลย ทั้งที่เมื่อก่อนพ่อเป็นคนติดบ้าน ติดแม่ยิ่งกว่าอะไร

“พ่อมีปัญหาอะไรหรือเปล่าแม่ ทำไมออกไปดื่มบ่อยจัง”

“ไม่มีหรอก” เสียงถอนหายใจตามมาลดความน่าเชื่อถือของคำตอบ

“แม่ บอกทิวมาเถอะจ้ะ ทิวสัญญาว่าจะไม่โวยวาย” ลูกสาวเกลี้ยกล่อม

ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนผู้เป็นแม่จะยอมตอบตามตรง

“พ่อเขาเครียดนิดหน่อย เรื่องอุ้มกับทิวนั่นแหละลูก เขาโทษว่าตัวเองเลี้ยงลูกไม่ดี เลี้ยงให้เกลียดกัน พี่ไปทาง น้องไปทาง”

คนฟังน้ำตาตก ไม่เคยคิดว่าการที่พี่น้องทะเลาะกันจะทำให้พ่อแม่ต้องทุกข์ใจถึงเพียงนี้

"แล้วอุ้มเป็นไงบ้าง" เธอถามเปลี่ยนเรื่อง น้ำเสียงอาทรกว่าเดิม

"ดีขึ้นแล้วลูก เดี๋ยวนี้บางทีก็ไปวัดตักบาตรกับแม่แต่เช้า"

"น้องพูดคุยอะไรบ้างไหมแม่"

"ก็พูดนี่ลูก แม่ถามอะไรก็ตอบ"

ทิวบุญแทบกุมขมับ เธอไม่คิดว่าการถามคำตอบคำคือการพูดคุย

"งั้นแม่ลองตะล่อมถามอุ้มสิ คนที่หลอกมันคือใคร"

เธอหวังจะจบเรื่องแก้แค้นโดยเร็วและกลับไปอยู่บ้านดูแลพ่อแม่เสียที ทว่าท่านกลับเข้าใจไปอีกทาง

"ทิว อย่าหาเรื่องเลย แม่เหนื่อยนะ" ฤทัยตอบเสียงเรียบ

หญิงสาวเผลอกัดริมฝีปากแน่น เธอเองก็เหนื่อยและไม่น่าโทรไปเลย

"แม่เหนื่อยเพราะทิวเหรอแม่" เธอต้องฝืนน้ำเสียงไม่ให้สั่นตามแรงอารมณ์ "ทิวจะได้ไม่โทรไปกวน"

กี่ครั้งแล้วที่ความหวังดีของเธอก่อความรำคาญให้ใครๆ แม้จะรู้ว่านั่นไม่ใช่ความจริง แต่ความน้อยใจก็ทำให้เธอคิดตัดพ้อและชิงวางสายโดยไม่ร่ำลา

.......................


วาระประชุมผู้ถือหุ้นใหญ่ประจำปีมีขึ้นในห้องประชุมใหญ่บนชั้นแปด ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตั้งแต่ฝ่ายเคเตอริ่งไปจนถึงเลขาฯ อย่างทิวบุญมาเตรียมงานส่วนของตนแต่เช้า ก่อนประชุมช่วงเช้าจะเริ่มขึ้นเวลาสิบนาฬิกา

หญิงสาวกำลังตรวจดูเอกสารหลายแฟ้มที่จัดเตรียมไว้ตลอดสัปดาห์อีกครั้งขณะประตูกระจกหน้าห้องทำงานเปิดเข้ามา ทัดเทพดูดีและภูมิฐานในชุดสูทสีดำกับเสื้อเชิ้ตสีเดียวกันผลักประตูเข้ามา ทว่าผู้ที่ตามเข้ามาหลังจากนั้นก็ทำให้เธอรีบลุกยืนพร้อมกับกระพุ่มมือไหว้ทันที

"ไป ไปคุยกันในห้องตาเทพนะจ๊ะ"

คุณหญิงเพ็ญพักตร์รับไหว้ก่อนเดินนำเข้าไปในห้องทำงานบุตรชาย แม้ทิวบุญจะทราบอยู่แล้วว่าสตรีที่ตนได้บังเอิญแสดงน้ำใจด้วยเป็นถึงผู้บริหารสูงสุด หากการพบท่านอีกครั้งก็สร้างความประหม่าให้อยู่ดี

ร่างระหงตามผู้เป็นนายที่เปิดประตูรอเข้าไป ก่อนเขาจะเดินไปนั่งเก้าอี้ตรงข้ามมารดาที่ยึดเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานไปแล้วเรียบร้อย เธอจึงจำต้องนั่งลงยังเก้าอี้อีกตัวข้างเจ้านาย

"ตาเทพเล่าให้ฟังว่าโลกกลมจริงๆ คุณมาสมัครงานเป็นเลขาฯ ของเขา ฉันก็ดีใจ อยากเจอตัว จนได้มาวันนี้ล่ะ" คุณหญิงเพ็ญพักตร์เอ่ยอย่างยินดี

"ถ้าคุณหญิงอยากพบหรือมีอะไรให้ทิวรับใช้ เรียกทิวไปพบก็ได้ค่ะ" เธออาสาด้วยความเต็มใจ แล้วยังหวังจะใกล้ชิดครอบครัวผู้เป็นเจ้านายยิ่งขึ้น เผื่อจะได้คำตอบในสิ่งที่ตนคาใจ

"พูดเหมือนเดิมเถอะค่ะคุณ เรียกป้าเหมือนเดิมก็ได้ ฉันยินดีจะตอบคำถามคนที่สงสัยว่าคุณคือคนมีน้ำใจคนนั้น"

ทิวบุญไม่รู้จะตอบอย่างไรกับความเป็นกันเองที่สตรีสูงวัยมอบให้ จึงได้แต่ยิ้มบางรับพร้อมกับพนมมือไหว้ ท่านสมเป็นผู้ดีอย่างแท้จริง ทั้งคำพูดและการกระทำล้วนให้เกียรติฝ่ายตรงข้าม แม้เธอจะเป็นผู้เยาว์กว่าก็ตาม

"ไปเตรียมงานเถอะจ้ะ ฉันไม่รบกวนแล้ว เดี๋ยวเจ้านายของคุณจะว่าเอา"

หญิงสาวปรายตามองคนที่ถูกพาดพิงก็เห็นเขานั่งไขว่ห้าง วางแขนบนพนักพลางถูนิ้วกับหางคิ้วอย่างสบายอารมณ์ ใบหน้าคมเข้มมีรอยยิ้มมุมปากอย่างเห็นขันในคำพูดของมารดา

คุณหญิงเพ็ญพักตร์ลุกตามพนักงานสาว ทำท่าจะตามออกไปอีกคน นั่นแหละคนเป็นบุตรชายจึงได้ลุกยืนเต็มความสูง

"เดี๋ยวผมไปส่งครับ"

มารดามองค้อน ท่านคล้องกระเป๋ากับท่อนแขนพร้อมกับหยุดยืนเหลือบมองลูกชายจากหางตาหน้าประตู

"ไม่ต้องย่ะ ห้องทำงานใกล้ๆ แค่นี้ ไปเองได้"

ทิวบุญซึ่งเปิดประตูรอต้องกลั้นยิ้ม ฟังแม่ลูกเขาคุยกันช่างน่ารัก แม้เธอจะสังเกตว่าท่านแสดงออกต่อลูกอย่างมึนตึงไปบ้าง แต่คนนอกเช่นเธอก็สัมผัสได้ถึงความรักของผู้เป็นแม่เต็มเปี่ยม

"แล้วเจอกันในห้องประชุมจ้ะ" ท่านหันมาบอกเธอก่อนเดินจากไป

หญิงสาวกลั้นยิ้มไม่มิดขณะดึงประตูห้องปิดให้เจ้านาย แสร้งไม่สนใจชายหนุ่มที่ปั้นหน้าเคร่ง เก๊กฟอร์มมองมา

...................

การประชุมลากยาวจนถึงเวลาพักเที่ยง บรรดาหุ้นส่วนและผู้เกี่ยวข้องกว่าสิบชีวิตจึงได้ย้ายวงสนทนานอกรอบมาที่ห้องอาหารนานาชาติของโรงแรม เป็นหน้าที่เลขาฯ อีกเช่นเคยที่ต้องทำตัวประหนึ่งมือประสานสิบทิศ แต่ทุกอย่างก็เรียบร้อยสมกับความทุ่มเทของเธอ

ทิวบุญมีโอกาสได้ร่วมโต๊ะกับบรรดาเลขานุการ ผู้ติดตามผู้บริหารคนอื่น หากก็ยังอยู่ในห้องส่วนตัวเดียวกับทางโต๊ะใหญ่ สายตาคอยชำเลืองไปยังเจ้านายอยู่เป็นนิตย์ เผื่อมีอะไรขาดตกบกพร่องหรือเขาจะเรียกใช้อะไร

หญิงสาวสังเกตว่าทัดเทพมักถูกมารดาชักชวนสนทนากับบุรุษสูงวัยท่านหนึ่งร่ำไป 'คุณวันชัย' ผู้ที่เธอเพิ่งทราบว่ามีศักดิ์เป็นพ่อตาเขา บิดาของสุภาพสตรีอย่างลักขณา ทว่าวันนี้เจ้าหล่อนไม่ได้ติดตามบิดามา แต่กลับเป็นน้องชายซึ่งถูกแนะนำว่าชื่อ ‘ลลิต’ ที่มาแทน

จากสายตาคนนอกอย่างเธอ พวกเขาก็ดูเป็นทองแผ่นเดียวกันดี ไม่ใช่ซี ทองแท่งเดียวกันเลยต่างหาก ผิดกับภาพระหองระแหงของสามีภรรยาที่เธอได้เห็นกับตา

แต่แล้งทิวบุญก็ร้อนซู่ใบหน้าเมื่อถูกจับได้ว่าแอบมอง บุตรชายคนเล็กของคุณวันชัยค้อมศีรษะพลางหลิ่วตาให้เธอได้อาย เธอจำต้องเบนสายตากลับมายังจานอาหารเปล่า เสคีบฮะเก๋ากุ้งที่ใครคนหนึ่งบนโต๊ะหมุนมาตรงหน้าพอดีมารับประทาน

"นั่งด้วยคนนะครับ" เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นข้างตัวจนเธอต้องหันมอง แล้วจึงเห็นว่าคำขออนุญาตนั้นไม่ได้มีมายังเธอโดยตรง แต่เป็นการเอ่ยกับทุกคนที่นั่งรอบโต๊ะนั้น

เมื่อทุกเสียงต่างตอบรับด้วยความเต็มใจ ลลิตก็หันมายิ้มและค้อมศีรษะให้เธออีกครั้ง ทุกคนตั้งคำถามชวนคุยอย่างรู้จักมักคุ้นกันดีอยู่แล้ว หากคราวนี้คนคุยเก่งอย่างเธอกลับเลือกที่จะนิ่งฟังเสียเป็นส่วนใหญ่ ใบหน้ายังม้านชาที่ถูกเขาจับได้ว่าแอบมองเมื่อครู่นี้อยู่เลย

"ซาลาเปาไส้ครีม อร่อยมากนะครับ"

ทิวบุญเลิกคิ้วประหลาดใจที่ซาลาเปาขาวอวบลูกหนึ่งถูกคีบใส่จานตนเอง แต่ผู้ที่บริการก็หันไปคีบซาลาเปาอุ่นๆ ให้ผู้อื่นอย่างแคล่วคล่องเช่นกัน

หญิงสาวขับไล่ความตะขิดตะขวงใจ ปรายตามองไปทางโต๊ะผู้บริหารอีกครั้งก็พบผู้เป็นเจ้านายหรี่ตามองมา ดวงตาคมกล้าอย่างยากจะตีความหมายมองสบเธอนิดหนึ่ง ก่อนเขาจะเบนสายตาไปทางอื่นราวทิ้งค้อนเสียอย่างนั้น

อะไรว้า

......................

วงประชุมรอบบ่ายกลับมาเคร่งเครียดจริงจังอีกครั้งอย่างไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ เธอไม่เคยคิดว่าการบริหารโรงแรมเป็นเรื่องง่าย แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะยุ่งยากและเรื่องเยอะขนาดนี้ ต้นเหตุไม่ใช่ใครที่ไหน แต่ดูเหมือนมีบางคนในที่ประชุมนั้นต้องการเตะถ่วงให้ยืดเยื้อออกไป จะเพื่ออะไรก็ตามแต่ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นใจทัดเทพขึ้นมา

"หลังเบรกคุณไม่ต้องเข้าประชุมนะ" เขาสั่งเสียงเบาระหว่างพักเบรกช่วงบ่ายแก่

ครั้งนี้เป็นการจัดอาหารว่างและเครื่องดื่มขึ้นมาบริการถึงห้องรับรองชั้นบน เขาปลีกตัวมาพูดกับเธอยังมุมเงียบมุมหนึ่ง

"คะ" เธอย้อนถามอย่างไม่เข้าใจ

ชายหนุ่มก้มดูนาฬิกาข้อมือ ก่อนจะเปิดกระเป๋าสตางค์พลางหยิบบัตรแข็งขึ้นมา

"ไปรับตาพัทธ์ที่โรงเรียนที ลูกผม คนที่คุณเคยเจอนั่นแหละ" เขาว่าพร้อมกับส่งบัตรประจำตัวผู้ปกครองให้ "เอานี่ไป เผื่อต้องใช้หรือใครถาม"

เธอรับมาอย่างงุนงง เกือบลืมไปว่าทุกอย่างที่เจ้านายไหว้วานคืองานของเลขานุการทั้งหมด

"จะบ่ายสามแล้ว งั้นดิฉันไปเลยนะคะ"

"ฮื่อ ฝากด้วย"

แววตาที่มองมาอย่างฝากฝัง เชื่อใจคู่นั้นทำให้เธอนึกรู้ว่าสำหรับเขา...หน้าที่รับส่งลูกนั้นสำคัญยิ่งนัก ทิวบุญจึงคลี่ยิ้มให้อีกฝ่ายสบายใจ กำหมัดขึ้นมาเป็นกำลังใจให้เขาทำเต็มที่เช่นกัน

"คุณก็สู้ๆ ค่ะ"

ทัดเทพหัวเราะขัดเขิน เขาโคลงศีรษะอ่อนใจหลังลับร่างระหงออกไป หลายสิ่งหลายอย่างที่เธอเป็น ไม่มีใครเคยปฏิบัติกับเขาเช่นนี้ เออนะ หรือว่านับวันเขาจะยิ่งชอบ 'ของแปลก' เข้าไปทุกที

.........................

เอาแล้วสิคะ คุณเจ้านายชอบของแปลกก็ไม่บอกกก
ระหว่างสองคนนี้จะมีการยกระดับความสัมพันธ์ไหม ต้องติดตามตอนหน้านะคะ
ขอบอกว่าคนรักเด็กห้ามพลาด ทิวจะเอาชนะใจเด็กๆได้ไหม เดี๋ยวรู้กันจ้า

[[[ e-book โซ่พิสุทธิ์ รอทุกคนคลิกโหลดหรือให้ใจ <3<3<3<3<3 อยู่ที่ meb และ hytexts นะคะ ]]]

meb - https://www.mebmarket.com/ebook-31939-

hytexts - https://www.hytexts.com/ebook/B005288-



ภาพิมล_พิมลภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ต.ค. 2558, 16:05:19 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ต.ค. 2558, 16:05:19 น.

จำนวนการเข้าชม : 986





<< บทที่ ๖   บทที่ ๘ + อัพเดตข่าวท้ายเรื่องค่ะ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account