พรหมลิขิตกระซิบรัก
นัมแทบง นายแบบหนุ่มผู้ผันตัวเองมาเป็นนักแสดงเจ้าของฉายารอยยิ้มเทวดาหากแต่เมื่ออยู่หลังกล้องเขาคือผู้ชายหน้าเดียวที่มีแววตาดุจน้ำแข็ง....
เมื่อพบกับปฎิบัติการดูตัวโดยการชักนำของผู้เป็นพี่สาวที่มีความคิดไม่เหมือนใคร รักครั้งนี้จึงเกิดความวุ่นวายขึ้นเมื่อเขาได้พบกับกุมาริกาล่ามสาวชาวไทยที่มีแต่ความสดใส เจ้าของดวงตากลมดุจกวางกับบทพิสูจน์ความรักแท้ที่ผู้เป็นพี่มอบให้...
พีมะ ตากล้องมาดเซอร์ประจำนิตยสารวัยรุ่น K magazine กับความรักข้างเดียวตลอด3ปีที่เฝ้าดูแลหญิงสาวอันเป็นที่รักต้องมาสั่นคลอนเพียงแค่เจอนายแบบหนุ่มหน้านิ่ง ซ้ำร้ายได้คู่ปรับเป็นพัคโบรา นางแบบตัวจี๊ดที่เข้ามาป่วนหัวใจให้เขาลังเลกับความรู้สึกแปลกๆที่เธอมอบให้....
กุลธีร์ บอสหนุ่มผู้เชื่อมั่นในความรักแม้จะรู้ว่ารักนี้อาจไม่สมหวังแต่ก็ยังคงรอคอยถึงมันจะผ่านมานานกว่ายี่สิบปีและเธอนัมเริน หญิงสาวสมัยใหม่ผู้ทุ่มเททุกอย่างให้แก่น้องชายเพียงคนเดียวจนเกือบเสียบางสิ่งที่สำคัญในชีวิต...

... พรหมลิขิตกระซิบรัก...

Tags: ดารา นางแบบ ซุปตาร์ โรแมนติก ซึ้้ง

ตอน: ขอร้อง

นางแบบสาวรับช่อดอกไม้ใหญ่จากนัมแทบงด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแต่ก็แอบมองหาใครอีกคนที่สัญญาว่าจะมากลับไม่เห็นแม้เงา พัคโบราแก้มตุ่ยจนดาราหนุ่มต้องชี้ไปที่ปากเป็นสัญญาณว่าเธอควรจะยิ้มกับตำแหน่งรองอันดับ1แถมพ่วงด้วยตำแหน่งป๊อบปูล่าโหวต

แสงแฟลตวูบวาบระรัวเพื่อเก็บภาพระหว่างนางแบบสาวและดาราหนุ่ม ซึ่งนัมแทบงก็คิดว่าไม่พ้นข่าวกอสซิบวันพรุ่งนี้ส่วนเนื้อข่าวก็คงไม่พ้นเขามาแสดงความยินดีกับคนรักอะไรแบบนั้น ทำเอาเผลอถอนหายใจดังๆเมื่อกลับมานั่งลงข้างๆกุมาริกา

“เชื่อเถอะว่าพรุ่งนี้แทบทุกฉบับคงเล่นข่าวพี่กับโบรา”

“ก็ช่างข่าวสิคะทำไมต้องเดือดร้อนด้วยในเมื่อสิ่งที่เป็นข่าวเขาก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นยังไง” ล่ามสาวส่งยิ้มให้

“โบรา...เธอทราบรึเปล่าว่าท่านประธานไปญี่ปุ่น” กุมาริกาพูดโดยที่สายตาไม่ได้ละจากร่างระหงบนเวที

“มีอะไรเหรอ” ดาราหนุ่มมองตามสายตาล่ามสาว

“ฉันเห็นเธอเหมือนจะมองหาใครอีกคนเลยนึกถึงท่านประธานขึ้นมา”

“ไม่มีทางเป็นไปได้ที่โบราจะรอพี่สาวผม ถ้าจะคอยเลี่ยงน่าจะเป็นไปได้มากกว่าอีกเพราะกลัวโดนบ่น”

สองหนุ่มสาวพูดคุยเหมือนจะหยุดอยู่ในโลกของตัวเองจนผู้จัดการคิมต้องสะกิดเตือน

“แทบงนายลืมรึไงว่ามีคนมองนายอยู่เยอะ อย่ามัวแต่คุยกันเองสิเดี๋ยวก็ได้เป็นข่าวหรอก”คิมเซจุนเอ่ยเตือน

“อ่อ” นัมแทบงยิ้มพยักหน้ารับรู้

พัคโบรารับรางวัลพร้อมโพสท่าให้สื่อต่างๆทำข่าว ทำให้ตากล้องหนุ่มยิ้มอย่างภูมิใจกับความสำเร็จของเธอ พีมะถอยออกมามองเธออยู่ไกลๆ เขาไม่ควรทำให้เธอไม่มีสมาธิ ความกังวลอาจทำให้เธอผิดพลาดได้ถ้าเห็นเขายืนอยู่ใกล้ๆ

“เสร็จงานแล้วผมรอที่สวนสาธารณะแถวออฟฟิศนะ” พีมะกดส่งข้อความก่อนยิ้มอย่างมีความหมาย

ข้อความถูกส่งเรียบร้อยแต่เจ้าของเครื่องกำลังก้มเก็บของอยู่จึงไม่ทันมอง ใบหน้าสวยบูดบึ้งแทนที่จะเต็มไปด้วยรอยยิ้มทั้งที่ได้รางวัลรองอันดับ1

“คนบ้าไหนบอกว่าจะมาไงไม่เห็นหัวเลยหลอกให้เรารอ คอยดูนะถ้าเจอหน้าจะซัดให้น่วมเลย”

“เก็บของเสร็จยังโบราท่านรองจะพาไปเลี้ยง” ผู้จัดการอีแต่งตั้งตำแหน่งให้ดาราหนุ่มล่วงหน้า มือก็ช่วยหยิบเอามือถือ น้ำหอมกุญแจรถยัดใส่ไปในกระเป๋าถือของนางแบบสาวแล้วเมาคล้องไว้ที่ข้อมือ

พัคโบราพยักหน้าเดินตามผู้จัดการตนเองออกไปโดยมีสื่อรอรุมสัมภาษณ์เธอกว่าจะหลุดออกมาได้ทำเอาเหงื่อโทรมตัว

“เธอดังแล้วโบรานี่ขนาดไม่ได้ที่1นะ ยังมีคนสนใจเธอขนาดนี้ โอโม่...พรุ่งนี้เธอมีถ่ายนิตยสารของผู้จัดงานเลยนะ เดี๋ยวกินเสร็จเราก็ขอตัวกลับเลยจะได้มีเวลานอนเยอะๆ พรุ่งนี้จะได้ไม่โทรม”ผู้จัดการอียิ้มแย้ม

“อ่อ”

นางแบบสาวขึ้นไปนั่งบนรถตู้บริษัทอย่างเซ็งๆก้มศีรษะทักทายกุมาริกาเล็กน้อย ยิ้มอย่างเสียไม่ได้ส่งไปให้ดาราหนุ่มด้วย นัมแทบงประหลาดใจกับท่าทางพิลึกของนางแบบสาวตัวป่วนจนต้องเอ่ยปาก

“นี่โบราเธอไม่ดีใจเหรอไงที่ได้ที่2 รึว่าเสียสติไปแล้วเพราะคิดว่าตัวเองจะได้ที่1ฉันอุส่าห์พาเธอมาฉลองนะ”

“ปากเสียน่าโอป้าฉันไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้นแหละ” พัคโบราหน้ามุ่ยหันออกนอกหน้าต่างรถเธอดีใจนะที่ได้ตำแหน่งแต่ทำไมลึกๆกลับรู้สึกผิดหวังมากกว่าที่ไม่ได้เห็นหน้าใครบางคน

ในขณะคนที่มีส่วนทำให้นางแบบสาวกำลังอารมณ์ไม่ดีกำลังเดินเลือกดอกไม้ที่มีสารพัดดอกและส่งกลิ่นหอมอยู่เต็มร้านหลังจากการสื่อสารกันอยู่พักใหญ่เพราะคนขายไม่เข้าใจภาษาอังกฤษมากนักรวมถึงตัวเขาก็ไม่สามารถพูดเกาหลีได้ตัวช่วยจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่พีมะต้องหา

"ชินฮยอกชิ..ผมขอความช่วยเหลือหน่อยสิ พอดีผมอยากได้ดอกไม้ที่ไม่ใช่กุหลาบกับลิลลี่แต่ที่นี่มีดอกไม้เยอะมากผมเลือกไม่ถูกเลยคุณช่วยบอกให้แม่ค้าเลือกให้ผมหน่อยเอาที่มีกลิ่นหอมดูสดใสแล้วก็จัดช่อแบบไม่หวานเกินไป" พีมะโทรหาผู้ช่วยของตนเองก่อนจะส่งโทรศัพท์ให้แม่ค้าสาว

เจ้าของร้านดอกไม้อมยิ้มเล็กน้อยเดินหายไปทางอีกฝั่งและหยิบช่อดอกสีเหลืองสีขาวสีม่วงจัดสลับไปมาประมาณกำมือนึงแล้วเดินกลับมาหาเขา กลิ่นหอมของมันทำเอาตากล้องหนุ่มยิ้ม

"ดอกฟีเซีย คุณชอบมันไหมค่ะ" เจ้าของร้านดอกไม้พยายามสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ

“โอเคๆ” ตากล้องหนุ่มส่งยิ้มตอบพยักหน้า

บรรยากาศคึกคักไม่น้อยอาจเพราะเป็นวันหยุด ดังนั้นดาราหนุ่มจึงเลือกที่นั่งทางด้านบนแทน แชมเปญขวดหรูถูกรินใส่แก้วที่จัดเรียงเป็นแถว

“ในฐานะที่วันนี้นางแบบของเราได้รางวัลทำให้ นัมโมเดลเป็นที่รู้จักมากขึ้นฉันในฐานะตัวแทนของเจ้าของบริษัท ขอบคุณที่ทุกคนทำงานกันอย่างเต็มที่โดยเฉพาะเธอพัคโบรา เอ้า!!เรามาดื่มให้กับความสำเร็จของโบรากัน คอมเบ...”

## 건배- คอมเบ –ชนแก้ว##


“หมดแก้วเลย” นางแบบสาวเริ่มเสียงดังผลจากการดื่มแชมเปญไปมากกว่าสามแก้ว เนื่องมาจากอาการคออ่อนของตัวเอง

“กัมมี่วันนี้องค์รักษ์เธอหายไปไหน ตอนจัดงานพี่หันไปเห็นหมอนั่นไปยืนซะไกลเลยอย่างกับแอบดูใคร” เสียงพูดของนัมแทบงทำเอาคนที่กำลังลุกขึ้นยืนนั่งลงได้

“เห็นว่ามีนัดถามว่าจะไปไหนก็ไม่บอกเหมือนกัน” กุมาริกาตอบยิ้มๆแต่อีกคนที่นั่งฟังกับหูผึ่ง ลนลานหาอะไรสักอย่างในกระเป๋าก่อนจะเบิกตากว้าง 30 miss callกับอีก4ข้อความ นิ้วมือสั่นระริกกดไล่ข้อความอ่าน

“เสร็จงานแล้วผมรอที่สวนสาธารณะแถวออฟฟิศนะ”

“ผมมีของขวัญให้คุณด้วยเราไปฉลองกันนะ”

“คุณยุ่งรึเปล่าติดธุระอะไรไม่รับสายผมเลย”

“คุณโกรธอะไรผมรึเปล่าไม่รับสายเลย”

นางแบบสาวผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็วคว้ากระเป๋าขึ้นมาถือไว้ในมือ บอกเสียงระรัว

“พอดีฉันมีธุระด่วนต้องรีบไปก่อนขอบคุณที่เลี้ยงนะโอป้า”

“จะไปไหนโบราฉันไปเป็นเพื่อน”ผู้จัดการอีเตรียมลุกตาม

“ไม่เป็นไร พี่สนุกต่อเถอะไม่ต้องกลัวพรุ่งนี้ฉันจะไม่เกเร” ร่างระหงเดินจ้ำอ้าววิ่งออกจากสถานที่นี้อย่างรวดเร็วประหนึ่งหัวใจที่รุ่มร้อน ความเสียใจ น้อยใจหายจนหมดสิ้นแทนที่ด้วยความกังวลห่วงใยคนที่รออยู่ที่นั่นแทน

“แท็กซี่”

มือบางกดหมายเลขในมือซ้ำไปซ้ำมา ปลายสายกลับกลายเป็นเสียงตอบรับแทน

“หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”

“บ้าชิบแบตดันหมดพอดี เฮ้อ!!... พีมะพิงตัวกับพนักม้านั่งเงยหน้ามองดูฟ้าแล้วถอนหายใจ มองดูช่อดอกไม้ในมือก่อนวางมันลงข้างตัว เป่าลมไล่อากาศหนาวก่อนลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเดินฝ่าอากาศที่เริ่มหนาวเย็นออกไป

เสียงส้นสูงกระทบกันรัวๆกับพื้น ประหนึ่งคนที่สวมใส่วิ่งเหมือนเธอไม่ได้อยู่บนส้นสูงที่สูงกว่า5นิ้ว ก่อนหยุดหอบมองหาคนที่เธอคิดว่าจะเจอ นึกถึงข้อความถูกส่งมาตอนทุ่มกว่าตอนนี้เกือบเที่ยงคืนแล้ว พีมะรอเธออยู่นานแค่ไหนนะ

แสงไฟส่องกระทบอะไรบางอย่าง พัคโบราจ้องเขม็งไปที่สิ่งนั้นก่อนจะกลายเป็นวิ่งไปยังจุดที่เธอสนใจ ช่อดอกไม้นั่นเองหัวใจกระตุกวาบของเธอใช่ไหมนะ ดอกฟรีเซียสามสีเหลืองขาวม่วงถูกจัดช่อน่ารักผูกโบว์เล็กๆสีเขียวทอง ดอกเล็กๆของมันส่งกลิ่นหอมมากมายจมูกโด่งรั้นก้มลงสูดดม หันไปมาระล้าระลังกับทางที่คิดว่าชายหนุ่มจะไปก่อนนึกถึงใครบางคนขึ้นมา

“โอป้า..ฉันอยากได้ที่อยู่คุณพีมะบอกฉันได้ไหม” พัคโบราถามเสียงรัว

“มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า” นัมแทบงแปลกใจกับสิ่งที่นางแบบสาวถาม

“ฟังนะ...ตอนนี้ฉันยังไม่อยากอธิบายอะไรทั้งนั้น โอป้าแค่บอกมาว่าพีมะอยู่ที่ไหน...เชบัล”
##제발 เชบัล - ได้โปรด##

คำขอร้องจากพัคโบราด้วยน้ำเสียงที่เขาไม่เคยได้ยินจากเธอมาก่อน ทำให้นัมแทบงบอกเลขที่ห้องของตากล้องหนุ่มให้

“มีอะไรรึคะคิ้วผูกโบว์แล้ว” กุมาริกาถามพร้อมเอานิ้วชี้จิ้มระหว่างหว่างคิ้วเข้ม

“โบราขอที่อยู่พีมะกับพี่”

“โบราเนี่ยนะ นี่พีไปสนิทกับโบราตอนไหนกันทำไมเขาไม่เห็นเคยรู้ เห็นปกติเจอกันกี่ทีก็มีเรื่องกันตลอด” ล่ามสาวบอกอย่างแปลกใจกับความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่

“นั่นสิสองคนนี่มันแปลกๆนะว่าไหม” นัมแทบงก็นึกประหลาดใจไม่ต่างกัน

เสียงออดหน้าห้องดังติดต่อกันหลายๆครั้ง แต่ไม่มีที่ท่าว่าคนด้านในจะเปิดออกมาพร้อมกับกดเลขหมายที่คุ้นเคยไปด้วย มองบานประตูที่ยังคงปิดสนิทและเสียงตอบรับที่ได้ยินผ่านโทรศัพท์ที่ดังเหมือนเดิม

“หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”

“คุณอยู่ที่ไหนเนี่ย” พัคโบราพึมพำทรุดตัวนั่งลงกับพื้นซบหน้าลงกับมือตนเองอย่างไม่รู้จะไปตามหาพีมะได้ที่ไหน เสียงเรียกเข้าที่ดังขึ้นทำเอานางแบบสาวลนลานอีกครั้ง เบอร์ที่คุ้นตาทำเอานางแบบสาวยกมือลูบหน้าตนเองกรอกเสียงแห้งลงไป

“ค่ะผู้จัดการอี...ฉันกำลังจะกลับค่ะไม่ต้องมารับหรอกค่ะ...ฉันกลับเองได้” พัคโบรามองบานประตูที่ปิดสนิทอีกครั้ง นึกอยากจะให้เกิดปาฎิหารย์แต่มันก็ยังคงปิดตัวเงียบอยู่เช่นนั้น

สามชั่วโมงต่อมาร่างโงนเงนของใครสักคนกำลังเดินเปะปะไปตามมุมของถนน กว่าจะลากขากลับมาจนถึงที่พักทำเอาพีมะโก่งตัวอาเจียนไปไม่ใช่น้อย นี่คงเพราะฤทธิ์เหล้าผสมเบียร์เป็นแน่ เมื่อเมาร่างกายกับสมองก็ควบคุมสติไม่ได้พึมพำโวยวายกับตนเองไปตลอดทาง

“แม็กจจจจจู โซจูบอมมมมแกแน่มาก ห้องฉันต้องไปทางไหนต่อว่ะ อ่อตรงไปเราอยู่ชั้น3ส่วนกัมมี่อยู่ชั้น8...หึ..”

ตากล้องหนุ่มมองแถบกดรหัสราวกับมันคือสิ่งที่น่าปวดหัว มือกดป่ายไปมาอยู่หลายครั้งแต่บานประตูกลับไม่ขยับเปิดออกจนทรุดลงที่หน้าประตู

“ชิ..เทคโนโลยีที่นี่มันจะไฮเทคไปไหนกุญแจก็มีไขเอาก็ได้ทำไมต้องให้กดกดรหัสด้วยว่ะ”

พีมะเท้าแขนชันตัวกับบานประตูให้ลุกยืนสังเกตเห็นอะไรบางอย่างบนพื้นเมื่อหยิบขึ้นมาดูถึงกับหัวเราะกับตนเอง กลีบดอกไม้สีม่วงกับสีเหลืองสองสามใบที่ตกอยู่บนพื้น

“คงเป็นดอกไม้ยอดฮิตของที่นี่สินะร่วงเกลื่อนเชียว” ตากล้องมองดอกไม้ในมือก่อนปาทิ้งอย่างคนปวดใจหันไปโวยวายกับบานประตูของตนเองต่อ

“สำเร็จจนได้ไอ้พีอย่างน้อยวันนี้ก็ไม่ใช่วันที่โชคร้ายเกินไปนักของแก”เสียงปลดล็อคทำเอาคนเมาหัวเราะ

แสงแดดที่ส่องเข้ามาในตอนเช้าทำเอาคนที่หลับตาแน่นเมื่อครู่ลืมตาตื่นอย่างงัวเงียหันหน้าหนีไปอีกทาง ก่อนจะลุกพรวดพราดขึ้นมานั่ง หยิบมือถือดูเวลาดวงตาเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าmiss call มีมากกว่าสิบสายและคือเบอร์จากกุลธีร์ทั้งนั้นจึงแค่ล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนเสื้อให้เจือจางกลิ่นเหล้าเกาหลีที่แรงไม่แพ้เหล้าขาวบ้านเรา

“สิบเอ็ดโมงครึ่งโซจูเมื่อคืนทำพิษกุแล้วไหมล่ะบอสลงเครื่องเกินชั่วโมงแล้วป่านนี้”

พีมะกดกลับเพื่ออธิบายแต่เหมือนคำพูดของกุลธีร์ทำให้ตากล้องหนุ่มที่กำลังวิ่งลงจากที่พักต้องหยุดยืนนิ่ง

“แกไม่ต้องมารับฉันแล้วตอนนี้ฉันอยู่ที่โรงแรมNB ในอิแทวอนนี่แหละแกมาพบฉันที่นี่ อย่าเพิ่งบอกกัมมี่ล่ะว่าฉันมาถึงแล้ว” กุลธีร์กำชับ

“ครับบอส” ตากล้องหนุ่มรับคำเปลี่ยนเส้นทางมุ่งไปยังโรงแรมที่กุลธีร์บอกเมื่อครู่









ช่วยติดตามด้วยนะคะ



พบกะรัณย์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ต.ค. 2558, 08:41:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ต.ค. 2558, 08:41:44 น.

จำนวนการเข้าชม : 840





<< สิ้นสุดการรอคอย   ระยะห่าง >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account