พรหมลิขิตกระซิบรัก
นัมแทบง นายแบบหนุ่มผู้ผันตัวเองมาเป็นนักแสดงเจ้าของฉายารอยยิ้มเทวดาหากแต่เมื่ออยู่หลังกล้องเขาคือผู้ชายหน้าเดียวที่มีแววตาดุจน้ำแข็ง....
เมื่อพบกับปฎิบัติการดูตัวโดยการชักนำของผู้เป็นพี่สาวที่มีความคิดไม่เหมือนใคร รักครั้งนี้จึงเกิดความวุ่นวายขึ้นเมื่อเขาได้พบกับกุมาริกาล่ามสาวชาวไทยที่มีแต่ความสดใส เจ้าของดวงตากลมดุจกวางกับบทพิสูจน์ความรักแท้ที่ผู้เป็นพี่มอบให้...
พีมะ ตากล้องมาดเซอร์ประจำนิตยสารวัยรุ่น K magazine กับความรักข้างเดียวตลอด3ปีที่เฝ้าดูแลหญิงสาวอันเป็นที่รักต้องมาสั่นคลอนเพียงแค่เจอนายแบบหนุ่มหน้านิ่ง ซ้ำร้ายได้คู่ปรับเป็นพัคโบรา นางแบบตัวจี๊ดที่เข้ามาป่วนหัวใจให้เขาลังเลกับความรู้สึกแปลกๆที่เธอมอบให้....
กุลธีร์ บอสหนุ่มผู้เชื่อมั่นในความรักแม้จะรู้ว่ารักนี้อาจไม่สมหวังแต่ก็ยังคงรอคอยถึงมันจะผ่านมานานกว่ายี่สิบปีและเธอนัมเริน หญิงสาวสมัยใหม่ผู้ทุ่มเททุกอย่างให้แก่น้องชายเพียงคนเดียวจนเกือบเสียบางสิ่งที่สำคัญในชีวิต...

... พรหมลิขิตกระซิบรัก...

Tags: ดารา นางแบบ ซุปตาร์ โรแมนติก ซึ้้ง

ตอน: ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง


1 เดือนผ่านไป

“นี่เจ๊ว่าไหมตั้งแต่ไอ้พีกลับมาจากเกาหลีมันดูเข้มขึ้นนะออกจะติดโหดด้วยซ้ำ”ปารีย์หันมองตากล้องหนุ่มที่กำลังก้มหน้าก้มตาเช็คภาพที่หน้าจอ

“ก็หล่อดีนี่ขาวเชียว ถ้าจะโกนหนวดโกนเคราให้เกลี้ยงกว่านี้คงใสอีกเยอะ แต่แกว่าไหมปุยฝ้ายว่าไอ้ลุคแบบนี้มันคุ้นๆไหม มันทำยังกับว่ามันอกหักจากกัมมี่อีกแล้วอ่ะ” กีรติกอดอกชี้ดูจนไม่รู้ว่าอีกคนที่ถูกนินทาก็ยืนอยู่ข้างหลังแล้วเหมือนกัน

“เหรอ...ช่างนินทากันไม่เลิกจริงๆนะ” กุมาริกาหัวเราะกับท่าตกอกตกใจของทั้งคู่

“ก็ไอ้พีมันชอบแก แล้วมันก็ไปเกาหลีกับแกมาตั้งนานสองนานไม่สปาร์คกันบ้างเลยเหรอ”ปารีย์ท้าวคางลงกับไหล่คอสตูมร่างอวบที่กำลังจัดเสื้อผ้านางแบบอยู่

“ไม่นี่ พีเขาออกจะตั้งใจทำงาน เอ้านี่..งานของเธอเตรียมประสานงานด้วยจะมีทีมงานของนัมโมเดลมาถ่ายแบบลงปกกับเราอาทิตย์หน้า”

“ไหนดูสิมีหล่อๆมาไหม”กีรติรีบแย่งแฟ้มในมือปารีย์มาถือเอง

“ไม่มีหรอกคราวนี้นางแบบเป็นผู้หญิง” กุมาริกาบอกติดขำ

“ว้าว...ขายาวชะมัดเลยต่อตัวฉันได้สองคนเลยนะขาเขาเนี่ย ไม่เหมือนเกาหลีเลยตาโตสวยเชียว โอ๊ะ...นี่มันนางแบบที่พีไปถ่ายรูปให้นี่ฉันดูในปักษ์ที่เขาประกวด ฉันว่าเขาสวยกว่าคนที่ได้รางวัลอีกนะ ล่าสุดได้ข่าวว่าประธานนัมทำประกันขาให้เป็นล้านเลยจริงไหม”ปารีย์ชื่นชม

“ไม่รู้สิ แต่ขาเธอสวยจริงๆแหละฉันเองยังแอบอิจฉาเธอเลย” กุมาริกายิ้มก่อนหันไปตามเสียงจากด้านหลัง

“อิจฉาใครอีกล่ะเบบี๋ เธอก็น่ารักอยู่แล้วนี่” พีมะยิ้มแกล้งยีเส้นผมเธอเหมือนเคย ก่อนใบหน้าหล่อจะนิ่งเมื่อมองเห็นภาพที่กำลังตกเป็นหัวข้อการคุยของสาวๆ

“โบราไงพี อากุลจะให้มาถ่ายแบบให้เราอาทิตย์หน้านายก็รู้จักนี่”

“ไม่รู้สิเราลืมง่ายอ่ะ อะไรที่ไม่อยากจำก็จะลืมเอง เย็นนี้ไปกินข้าวกันดีกว่ากัมมี่” พีมะเปลี่ยนเรื่องทั้งที่หัวใจจะหลุดออกมาจากอกอยู่แล้ว ดีใจ ตกใจ โมโห สับสนไปหมดที่เคยคิดว่าคงไม่มีโอกาสที่จะเจออีกกลับกำลังจะได้เจอมันเรื่องบ้าอะไรนะ

“อากุลจะให้พีถ่ายภาพให้โบรานะเห็นว่าประธานนัมชอบงานพี”

“ไม่หรอกมั้งงานเราเยอะบอสอาจให้คนอื่นถ่ายก็ได้ เรามันแค่ช่างภาพธรรมดาจะให้ถ่ายโมเดลดังขนาดนั้นจะดีเหรอ”

“นายพูดเหมือนกำลังประชดอะไรสักอย่างเลยมีอะไรรึเปล่า”กุมาริกามองใช้สายตาคาดขั้นแต่ตากล้องหนุ่มส่ายหน้า ยิ้มให้ก่อนเดินจากไป

“พี่ว่าดูเราสองคนสนิทกันมากกว่าเดิมอีกนะหรือว่าจูนกันติดแล้ว” กีรติเย้า

“บ้าน่าไม่มีอะไรสักหน่อยเขาไปทำงานดีกว่า”กุมาริกาเดินหนีไปอีกคนปล่อยให้คนที่อยู่เม้าท์กันต่อไป

“แกว่าไหมปุยฝ้าย ฉันรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่เราพลาดไม่รู้ตอนมันสองคนอยู่เกาหลี”

“นั่นสิเจ๊ ฝ้ายว่ามันคงมีอีกหลายเรื่องที่เราพลาดชัวร์” ขาซี้ต่างขั้วสบตากันอย่างสงสัยกับพฤติกรรมของคนทั้งคู่ที่ดูผิดปกติ

ใบหน้าสวยเฉี่ยวปรากฏอยู่ที่หน้าจอโน้ตบุ๊คยามหน้าจอพัก ตากล้องหนุ่มพาลย้อนนึกถึงเรื่องที่ผ่านมา ดวงตาโตคู่นี้จะดูดุขึ้นมาทันทียามเมื่อเจ้าของโกรธ แถมรอยยิ้มหวานนี่จะเปลี่ยนไปทันทียามเมื่อเจ้าของเหวี่ยงวีน หึ..เขาชอบมัน

พีมะพิงหลังลงกับพนักเก้าอี้เอามือสองข้างซ้อนรองศีรษะตนเองไว้มองเพดานนิ่ง เขายังคงติดตามเธออยู่เสมอและดีใจที่เธอประสบความสำเร็จแม้ว่ามันจะเป็นฝ่ายเดียวก็ตาม


เสียงเคาะประตูทำให้ประธานสาวเงยหน้าจากกองเอกสาร ยิ้มเพียงเล็กน้อยส่งไปยังผู้เข้ามาตั้งแต่พบหน้า

“สวัสดีคะท่านประธาน”

“สวัสดีผู้จัดการอีช่วงนี้เหนื่อยเลยนะ ไงโบราช่วงนี้เราไม่ได้เจอกันเลยนะ” ประธานสาวเอ่ยถาม

“ค่ะท่านประธาน” สองสาวต่างวัยตอบพร้อมกัน

“นั่งก่อนสิ เตรียมของเสร็จรึยังพรุ่งนี้จะเดินทางแล้วโบรา”

“ค่ะท่านประธาน”

“หลังทำงานเสร็จฉันจะพาเที่ยวถือว่าเป็นการพักผ่อนตอบแทนที่ช่วงนี้เธอทำงานหนักมาก”

“ค่ะ” พัคโบรายิ้มกว้างในรอบเดือนกว่าที่ผ่านมาก็ว่าได้ ทำเอาผู้จัดการอีมองอย่างประหลาดใจที่หุ่นยนต์จู่ๆก็มีชีวิตขึ้นมา
หนึ่งเดือนมานี่พัคโบราทำงานสมกับเป็นมืออาชีพจริงๆแต่เมื่อได้เวลาพักเธอกลับดูเหงาและเหน็ดเหนื่อย ผิดกับตอนนี้ที่เธอยิ้มอย่างกับได้ของถูกใจคงดีใจที่จะได้ไปเที่ยวละมั้ง..

วันรุ่งขึ้น...

นัมแทบงมองกุลธีร์สวมกอดพี่สาวตนเองอย่างรักใคร่จนเขาแปลกใจ ไหนบอกว่าไม่ได้คุยกันไงทำไมคนทะเลาะกันอยู่กอดกันกลมขนาดนี้ ดาราหนุ่มมองขมวดคิ้ว เขาเองก็พยายามทักทายแต่เหมือนถูกเมินจนต้องถอนหายใจ

“ยินดีต้อนรับแล้วก็ยินดีที่ได้ร่วมงานกันครั้งแรก ผมเคยเห็นคุณแต่ในรูปตัวจริงคุณสวยกว่าในรูปมากนะ” กุลธีร์เอ่ยทักทายก่อนชมนางแบบสาวอดพูดตามที่นึกไม่ได้ เพราะภาพนางแบบสาวคนนี้มีส่วนทำให้เขาควันออกหู

“ยินดีและเป็นเกียรติคะ”พัคโบรายื่นมือไปจับตอบและยิ้มอย่างเป็นมิตรถึงจะผิดหวังไปบ้างที่ไม่พบใครบางคนที่หวัง

“เราไปกันเลยดีกว่าสายกว่านี้รถอาจจะติดพวกคุณจะได้พักก่อนด้วย ช่วงบ่ายผมจะให้คนมารับไปเตรียมตัวที่ออฟฟิศแล้วก็คุยงานคร่าวๆ” กุลธีร์บอกกำหนดการ

“ค่ะ” พัคโบราหันไปตอบรับ

“แล้วกัมมี่ล่ะคะกอนทำไมไม่มาด้วยกัน” นัมเยรินเอ่ยถามราวกับรู้ใจผู้เป็นน้องชาย

“คงเจอกันตอนเย็นพอดีวันนี้แกมีงานมีไอดอลวงใหม่มาเปิดตัว”

ชื่อวงที่กุลธีร์บอกกำลังดังอยู่ตอนนี้ที่เกาหลีทำเอานายแบบหนุ่มที่ผันตัวเองมาเป็นนักแสดงหน้าตูม วงนี้มีแต่หนุ่มหล่อทั้งนั้น คงไม่มีใครจีบคนรักของเขาหรอกนะ คิดวนไปมาอย่างกังวลจนไม่ทันสังเกตว่าพี่สาวตนเองและกุลธีร์มีท่าทางยังไงหลังเห็นคิ้วของนัมแทบงขมวดเข้าหากันราวผูกปมอีกครั้ง

พัคโบรามองหนุ่มใหญ่กับท่านประธานของตนอย่างนึกแปลกใจ ทำไมดูเหมือนคนทั้งคู่กำลังวางแผนแกล้งนัมแทบงอะไรสักอย่าง หรือว่าการที่ล่ามสาวไม่มาจะเป็นหนึ่งในเรื่องที่ทำให้คนทั้งคู่มีอาการกลั้นยิ้มอยู่แบบนี้

สนามบินยังคงเต็มไปด้วยแฟนคลับอีกเช่นเคยเพียงแต่ในครั้งนี้ไม่เยอะมากเท่าครั้งแรกเพราะเป็นการบินมาส่วนตัวของนัมแทบงแต่กลับเป็นข่าวดังในหมู่แฟนคลับไทยเมื่อเห็นดาราหนุ่ม รูปถ่ายระหว่างดาราหนุ่มกับพัคโบราเดินคู่กันไปยังรถตู้ที่มารอรับมีแฟนคลับถ่ายได้เป็นจำนวนมากรวมถึงการโพสในเน็ทว่าทั้งคู่มาเดทกันที่เมืองไทยเพราะตามตารางงานมีแค่นางแบบสาวเท่านั้นที่ต้องถ่ายแบบให้กับนิตยสารไทย กุมาริกาใช้ปลายนิ้วเลื่อนอ่านข้อความที่หน้าจอโทรศัพท์ยิ้มๆ

“ถึงกันแล้วสินะ”

เช่นเดียวกับใบหน้าเครียดของตากล้องหนุ่มที่แทรกเข้ามาทันทีเมื่อได้ยินการพูดคุยระหว่างกีรติกับปารีย์ที่กำลังพูดถึงกระทู้ข่าวในหน้าจออินเตอร์เน็ท

“นั่นไงฉันว่าแล้วเชียวข่าวว่าติดกันหนึบเป็นตังเมมาตั้งแต่แรกแล้ว สงสัยจะเรื่องจริงนี่ถึงขั้นบินตามมาด้วย” กีรติพูดขณะที่มือก็เลื่อนหน้าจอไปด้วย

“นั่นสิ เขาก็หล่อสวยสมกันนะที่เกาหลีเขาตั้งชื่อว่าคู่รักขายาวน่ารักดี” ปารีย์เสริม

เสียงโยนอะไรสักอย่างลงบนโต๊ะทำเอาสองร่างที่กำลังอยู่ในโหมดกอสซิบถึงกับสะดุ้งหันไปมองก็เห็นร่างสูงของตากล้องหนุ่มเดินออกไปแล้ว

“อะไรของมันตกใจหมด” กีรติยกมือทาบอก

“นั่นสิ ประจำเดือนมามั้งไอ้บ้านี่” ปารีย์ส่ายหัวก่อนจะหันมาสนใจหน้าจอกันต่อ

พัคโบราเดินวนไปวนมาจนผู้จัดการส่วนตัวต้องออกปากถามถึงสาเหตุที่ทำให้นางแบบสาวผุดลุกผุดนั่งแถมเอาชุดมาวางไว้แทบจะทั้งหมดกระเป๋าก็ว่าได้

“เธอตื่นเต้นอะไรของเธอเดินเป็นหนูติดจั่นเลยไม่นอนสักงีบเหรอ แล้วชุดบนเตียงนี่คืออะไร”

“ก็ไม่มีอะไรนี่ก็แค่เอาออกมาเลือกว่าจะใส่ตัวไหนก็แค่นั้นไปอาบน้ำดีกว่าอีกชั่วโมงก็ต้องออกไปแล้วนี่” นางแบบสาวแก้เก้อด้วยการเดินเข้าห้องน้ำโดยมีสายตาของผู้จัดการอีมองอย่างจับผิด

การปรากฏตัวของนัมแทบและพัคโบราเป็นที่สนใจพอสมควรเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงที่ถึงไทย เหล่าแฟนคลับก็สามารถรู้ได้ว่าดาราของตนเองอยู่ที่ไหน ดาราหนุ่มกดกระชับแว่นกันแดดสีดำให้แนบดวงตามากขึ้นเมื่อลงจากรถตู้ ผ้าคาดปากสีเดียวกับแว่นถูกนำมาใช้ทันทีแต่ยังคงหันไปโบกมือให้แฟนคลับโดยมีนางแบบสาวที่มีผ้าคาดปากเช่นกันเดินตามเข้าไปในตัวตึกด้วย จากข่าวที่คนทั้งคู่กำลังมีกระแสเดทกันอยู่ทำให้กุลธีร์ต้องให้คนของเขาจัดระเบียบกันความวุ่นวายเพราะบรรดาเหล่าแฟนคลับก็แห่มาดูกันไม่น้อย

“สวัสดีค่ะคุณแทบง ดิฉันปารีย์ที่ประสานงานให้คุณคราวที่แล้วจำได้ไหมคะ” ปุยฝ้ายยังคงตื่นเต้นเมื่อเห็นดาราคนโปรด

“ครับ ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง งานนี้ผมขอฝากพัคโบราโปรดช่วยสนับสนุนเธอด้วยนะครับ” รอยยิ้มเทวดาถูกส่งให้จนคนมองอดใจละลายไม่ได้

“ค่ะด้วยความยินดี สวัสดีค่ะคุณพัคโบรานี่เป็นรายละเอียดคอนเซปงานอย่างย่อ ธีมจะเป็นผู้หญิงที่สดใสบริสุทธิ์ค่ะ”

นางแบบสาวมองไปที่รูปแฟชั่นที่ถูกนำมาไกด์ไลน์และพยักหน้าเข้าใจ ตาก็สอดส่ายหาใครอีกคนที่คิดว่าน่าจะเห็นแต่ป่านนี้ก็ยังไม่เห็นเลยแต่คำถามของนัมแทบงก็ทำเอาเธออยากขอบคุณเป็นร้อยเท่า

“แล้วตากล้องใช่คุณพีมะรึเปล่าครับ”

“ค่ะ พอดีกำลังถ่ายอีกงานอยู่ทางด้านบนใกล้เสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวคุณพัคโบราเชิญแต่งหน้าที่ห้องแต่งตัวก่อนดีกว่าจะได้ลองเสื้อผ้าด้วย”ปารีย์บอกก่อนเดินนำไป

ตากล้องหนุ่มเอ่ยทักทายตอบนัมแทบงด้วยความอึดอัดที่น้อยลง มันน่าแปลกตรงที่เพียงแค่หัวใจเขามันเปลี่ยน ความเจ็บปวดที่เคยมีกลับหายไป

“ยินดีที่ได้พบกันอีก”

“อืม เอ่อนายรู้ใช่ไหมว่ากัมมี่อยู่ไหน” แทบงถามตากล้องมาดกวนอย่างพยายามจะญาติดี

“บอสไม่ให้นายเจอกัมมี่ล่ะสิ นี่แหละความร้ายกาจของเขาล่ะ หึ...เชื่อเถอะว่าถึงเขาไม่ใช้กำลังกับนายแต่เขาจะทำทุกอย่างให้นายแทบบ้าด้วยวิธีของเขาเอง” พีมะหันไปง่วนกับการเตรียมอุปกรณ์เพื่อถ่ายแบบ

“ฉันถึงอยากให้นายช่วย” นัมแทบงมองอีกฝ่ายอย่างขอร้อง จนพีมะต้องโบกมือว่าอย่ามองเขาด้วยสายตาแบบนั้นมันทำให้เขาขนลุกไม่น้อย

“นายนี่มันเหลือเชื่อจริงๆ บทจะกวนประสาทก็ทำให้ฉันแทบกระโจนใส่แล้วตอนนี้ยังมาทำท่าทางชวนให้ฉันขนลุกเพราะนายอีก”

“ถ้านายช่วยฉัน ฉันจะตอบแทนทุกคำขอของนาย” นัมแทบงบอกจริงจัง

ข้อเสนอที่ออกจากปากดาราหนุ่มทำให้พีมะเงยหน้าจากหน้ากล้องถ่ายรูปและวางมันลงบนโต๊ะใกล้ๆ ทวนประโยคที่นัมแทบงเสนอ

“ทุกอย่างที่ฉันของั้นเหรอ..”

“อย่ามามองเจ้าเล่ห์แบบนี้แค่ที่ฉันทำให้นายได้โดยไม่ฝืนใจก็โอเค”

“กัมมี่ไปเตรียมงานเลี้ยงคืนนี้ที่โรงแรมเดิมนั่นแหละเดี๋ยวคืนนี้นายก็ได้เจอบอสเขาไม่เอาไปซ่อนหรอกน่า เอาเป็นว่าฉันสนใจข้อเสนอของนาย”พีมะส่งมือไปให้อีกฝ่ายจับแทนการทำสัญญาสงบศึกชั่วคราว

เสียงของกีรติที่ดังมาก่อนตัวทำให้สองหนุ่มหันไปมอง พัคโบราในชุดแซกกางเกงขาสั้นสีฟ้าขาว สีผมเธอเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มแล้วส่งให้ใบหน้าสวยยิ่งดูสดใสมากกว่าเคย รอยยิ้มที่ส่งมาทำเอาตาพีมะประหม่าแต่ก็ซ่อนไว้ข้างในส่งมือตอบเพื่อจับทักทายนางแบบสาวที่ยื่นมาตรงหน้า

“ยินดีที่ได้ร่วมงานกันอีกครั้ง”

“ค่ะฉันก็เหมือนกัน ยินดีที่ได้พบแล้วก็ร่วมงานกันอีก ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ” พัคโบรามองตากล้องหนุ่มนิ่งโดยไม่ละสายตา

“ครับ เริ่มงานกันเลยดีกว่าเสร็จเร็วคุณจะได้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น” พีมะบอกตัดบทรู้สึกวูบไหวในอกแปลกๆจนต้องหันหนีตากลมนั่น

นางแบบสาวมองดูแผ่นหลังที่กำลังเคลื่อนไหวสั่งงานกับทีมงานของเขารวมถึงหันมาพูดกับเธอในส่วนของงานที่ต้องถ่าย ด้วยท่าทีหมางเมินทำเอาอดน้อยใจไม่ได้ เมื่อพีมะหันมาอีกครั้งพร้อมกับกล้องในมือนางแบบสาวจึงเอ่ยถาม

“เซ็ทนี้ฉันต้องทำท่ายังไงแล้วคุณอยากได้โพสอารมณ์ประมาณไหนคะ”

“แค่ยิ้มเป็นธรรมชาติแบบที่คุณทำก็พอ เริ่มจากนั่งที่พื้นหญ้าเทียมตรงนั้นคิดว่าที่นี่คือป่าและคุณอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ”

“ค่ะ”

พัคโบราเป็นมืออาชีพแล้วจริงๆ เธอทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมรอยยิ้มที่เขาคิดถึงใบหน้าที่มีเสน่ห์ที่เขาเฝ้ามองผ่านหน้าจอโน้ตบุ๊ค ตอนนี้มาอยู่ตรงหน้า ดวงตาโตที่กำลังมองมาที่เขามันทำให้เขาอยากจะวิ่งเข้าไปกอดให้สมกับความคิดถึงแต่ก็ทำไม่ได้

“โอเคพัก เจ๊เกิ้นเปลี่ยนชุดให้นางแบบได้”

พัคโบราเม้มริมฝีปากมองไปที่ตากล้องหนุ่มอย่างเริ่มจะหงุดหงิด นี่เขาจะไม่พูดกับเธอเกินเรื่องงานสักคำใช่ไหมพอถ่ายเสร็จเขาก็เอาแต่หันหลังให้เธอทุกครั้งอยากให้เธอโกรธใช่ไหม

อาการหน้ามุ่ยของนางแบบสาวรุ่นน้องทำให้นัมแทบงมองตามสายตาที่พัคโบรากำลังให้ความสนใจอยู่ด้านหลังของตากล้องหนุ่มมาดเซอร์นั่น คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อย นัมแทบงหรี่ตาประเมินอะไรบางอย่างก่อนยิ้มที่มุมปาก

“อย่างนี้นี่เอง”

พีมะมองนางแบบสาวอดจ้องค้างไม่ได้ ผมยาวตรงเมื่อครู่ถูกม้วนเป็นลอนช่วงปลายดูน่ารัก เหมาะกับชุดเดรสเกาะอกความยาวแค่เข่า เธอเหมือนเจ้าหญิงเลยเขาคิดในใจ ก่อนจะได้สติเมื่อคนที่ถูกเขาแอบมองหันมาส่งยิ้มกว้างให้ ทำเอาตากล้องหนุ่มเขินซะเองเมื่อโดนจับได้ว่ากำลังตะลึงไปกับความสวยของนางแบบ

“เอ่อ..ถ่ายเซ็ทสุดท้ายเลยละกัน เจ๊เกิ้นผมจำได้ว่ามีมงกุฎดอกไม้อะไรพวกนี้อยู่ใช่ป่ะเอามาให้นางแบบใส่หน่อย”

“โอเคค้า” กีรติหยิบแบบทำด้วยหญ้าสีเขียวแซมด้วยดอกยิปโซสีขาวเล็กๆมีชายผ้าคลุมสีขาวยาว ทำให้ตากล้องหนุ่มมองอย่างพอใจ

“มองมาที่ผมสลับกับมองที่ดอกไม้ในมือ” พีมะบอก

เสียงชัตเตอร์รัวพร้อมกับใจของคนถ่ายที่เต้นรุนแรงจนเจ้าของเองกลัวคนอื่นจะจับได้จนต้องถอนหายใจเพื่อสงบจิตใจอยู่หลายครั้ง

“โอเคครับเสร็จงานแล้วขอบคุณมากที่ให้ความร่วมมือ” พีมะพูดพร้อมสบตากลมที่มองมาราวกลับมีคำถาม

“ฉันต้องเป็นฝ่ายขอบคุณมากกว่าเพราะนางแบบจะดูดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับการถ่ายภาพของช่างภาพไม่ใช่เหรอค่ะ” พัคโบรามองอย่างตัดพ้อ

เนื่องจากที่นี่มีคนอยู่มากเธอจึงทำได้แค่ข่มอารมณ์ที่อยากวีนชายหนุ่มตรงหน้าไว้ ในเมื่อเขาทำเป็นไม่สนใจเธอๆก็จะไม่สนใจเขาเหมือนกันคอยดู

“โบราเดี๋ยวเรากลับไปที่โรงแรมกันเลยแล้วกันเธอจะได้พักผ่อนด้วยดูเธอเหนื่อยนะ”ผู้จัดการอีเป็นห่วงเมื่อมองเห็นสีหน้าอิดโรย

“ค่ะดีเหมือนกัน”

พีมะลอบมองใบหน้าด้านข้างของนางแบบสาวเงียบๆเมื่อเห็นว่าเธอหันมาก็หลุบตามองที่โน้ตบุ๊คแสร้งทำไม่สนใจ ภาพที่ถ่ายเมื่อครู่ขึ้นที่หน้าจอ พัคโบราสวยจริงๆเธอสวยมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อเสียงคนในภาพดังอยู่ใกล้ๆ

“ภาพสวยดีนะคะเหมือนว่าคุณจะชอบดูภาพมากกว่ามองตัวจริง”

ตากล้องหนุ่มลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ที่ใช้ทำงาน มองใบหน้าคมนิ่งแต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี เขาไม่รู้ว่าเธอยังรู้สึกเหมือนเดิมไหม เขาไม่อยากเป็นไอ้บ้าที่คิดไปเอง

“ผมมองภาพเพราะผมทำให้มันออกมาเป็นอย่างที่ผมต้องการได้แต่...”

“ฉันแค่จะมาขอบคุณแล้วก็ขอตัวกลับก่อนคะ” พัคโบราตัดบทเธอไม่อยากเสียความเป็นตัวเองไปมากกว่านี้ นางแบบสาวก้มศีรษะยิ้มให้อย่างเฉยชาในสายตาของคนมอง





ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ





พบกะรัณย์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ต.ค. 2558, 10:00:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ต.ค. 2558, 10:00:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 947





<< ระยะห่าง   อาการออก >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account