ห่างไกลเหลือเกิน
ภาคภูมิและจริงใจ สองเพื่อนรักที่กลายมาเป็นคนรักกันในที่สุด
จะเป็นอย่างไร เมื่อจริงใจอยากได้เพื่อนรักของเธอกลับคืน
พบกับความรักของคนสองคนที่แม้จะอยู่ใกล้กัน แต่ก็เหมือนไกลออกไปทุกที

ห่างไกลเหลือเกิน

Tags: เพื่อนสนิท เพื่อนรัก รัก

ตอน: ตอนที่ 11

เช้าวันอังคารที่สดใส วินกำลังทยอยเก็บของในอพาร์ทเมนต์ลงกล่องอย่างตั้งใจ ข้าวของของวินไม่ได้มีมากมาย แต่กว่าจะเก็บของทั้งหมดลงได้ ก็คงต้องใช้เวลาทั้งวัน

วันนี้เป็นวันหยุดของวิน วินจึงตั้งใจจะใช้วันหยุดของตัวเองให้เต็มที่ ทั้งในการเคลียร์ของ และเตรียมเอกสารสำหรับกลับกรุงเทพฯ ทุกอย่างลงกล่องเรียบร้อยหมดแล้ว เหลือก็แต่ฟูก และเตียงนอน กับลังไม้อีกสองสามใบที่คว่ำอยู่ วินนั่งพักลงกับเก้าอี้ตัวเดียวที่อยู่ในห้องริมหน้าต่าง แล้วหยิบ ipod touch ของตัวเองขึ้นมาฟัง ตามความเคยชิน เขาเลือกกดเล่นเพลงที่ฟังบ่อยที่สุดตั้งแต่ได้ไอ้เครื่องนี้มา เสียบหูฟัง แล้วมองออกไปหน้าต่างช้าๆ ทำนองที่คุ้นเคยดังขึ้น พร้อมเนื้อเพลงที่ฟังกี่ครั้งก็อดคิดถึงใครคนนึงไม่ได้

เวลามองขึ้นไปบนฟ้า... ฉันนั้นเห็นแต่ภาพเธอ
อยู่ไกลกันจนสุดสายตา
รอคอยวันที่จะกลับมาหา
ถึงแม้ มันจะแสนนาน แสนนานแค่ไหน
อยากจะขอให้ได้พบ แค่เพียงขอให้ได้พบ อยากจะรู้ว่าเธอเองเป็นเช่นไร
เธอจะคิดถึงฉันหรือเปล่า เธอจะเหงาบ้างหรือเปล่า
จะรู้สึกแตกต่างกับฉันบ้างไหม
เพราะว่าเรา ห่าง ไกลกันเหลือเกิน
คิดถึงแต่เธอนั้น... เฝ้าแต่นับให้ถึงวันที่เรานั้นได้พบกัน
เราช่างห่าง ไกลกันเหลือเกิน
ฉันเองก็ไม่รู้ เมื่อไรจะได้พบ...เธอ

วินนั่งฟังเพลงนี้วนไปเวียนมาอีกหลายรอบ จนรู้ตัวอีกที วินก็ตัดสินใจกด free call โทรหาเพื่อนคนเดียวที่มีอยู่ในบัญชีไลน์ไปแล้ว จะด้วยความเหงา ความเปลี่ยว หรือจะเพราะเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ วินก็ไม่สามารถตอบได้ แต่ในตอนนี้ เขาอยากได้ยินเสียงของจริงใจมากๆ

"ฮัลโหล" จริงใจงัวเงียตอบรับ วินยิ้มทันทีเมื่อได้ยินเสียง
"หลับแล้วเหรอ?" วินถามพร้อมก้มลงมองดูนาฬิกาตัวเอง
"เออ หลับแล้ว" เธอตอบ พร้อมเสียงหาวยาวตามออกมา
"จะโทรมาบอกว่า คอนเฟิร์มวันกลับแล้วนะ"
"แล้วไง?"จริงใจถามต่อไปทั้งๆที่ตายังลืมไม่ขึ้น
"เดี๋ยวจะไลน์รายละเอียดไฟลท์ไปให้อีกที แกอย่าลืมมารับด้วยละ!"
"รู้แล้วๆ แค่นี้ใช่มั้ย? ย้ำอยู่นั่นแหละ แค่นี้นะ"
"เฮ้ย เดี๋ยว....แกไปทำความสะอาดคอนโดให้หน่อย"
"ฮะ!!? แกไม่ได้จะไปอยู่ที่บ้านสวนเหรอ?"
"ไปได้ที่ไหนละ ห้องเต็มหมดแล้ว"
"เออจริงด้วย แกให้ห้องน้องเพลงไปแล้วนี่หว่า"
"ใช่ "
"อ๋อ อืมๆ เข้าใจแล้ว เดี๋ยวจัดการให้" เสียงจริงใจอ่อนลง เมื่อนึกถึงปัญหาครอบครัวที่วินต้องเผชิญ
"โอเค ... แต๊งกิ้วมาก"
"ฮ้าวววววววว"
"โทษทีวะ แกหลับอยู่ใช่มั้ย?...ไปนอนเหอะ"
"อืมม ไม่เป็นไร... ว่าแต่นี่ แกไม่ต้องทำงานเหรอวันนี้" จริงใจถามเมื่อพยายามหรี่ตาขึ้นมองนาฬิกา เสียงวินตอบสดใส
"วันนี้หยุด เก็บของอยู่เนี่ย"
"อืมม ทำไมรีบเก็บของจังวะ"
"ก็กลับอาทิตย์หน้าแล้ว ... ต้องทยอยเก็บของ"
"อืมม ... แล้วทำงานวันสุดท้ายเมื่อไหร่" จริงใจถามต่อ
"ศุกร์นี้แหละ"
"อ๋ออ ... อืมมมม" เสียงจริงใจยลากยาวแบบครึ่งหลับครึ่งตื่น วินเมื่อเห็นอย่างนั้นก็หัวเราะและยอมแพ้
"ไปนอนเหอะไป" วินบอก จริงใจที่ยังไม่ได้สติดี จึงตอบแบบง่วงๆ
"อืมมม ไปนอนก่อนนะ"
"เออ แล้วเดี๋ยวเจอกัน"
"เค บาย"
"บาย"

วินกดวางสายไป รู้สึกอิ่มเอมใจทันทีที่ได้ยินเสียงเล็กๆน้อยๆประจำวัน เขาขยับมาเปิดหน้าต่าง ดูวิวรอบๆที่เขาเคยเห็นอยู่เป็นประจำ พร้อมสูดอากาศเข้าไปเต็มปอด อากาศที่นิวยอร์กในวันนี้สดใสมาก คล้ายๆกับอารมณ์ของเขา วินอดตื่นเต้นไม่ได้เลย ที่อีกไม่กี่วัน เขาก็จะได้เจอกับจริงใจสักที นานมากแล้วที่ไม่ได้เจอกัน ความห่างไกลที่สะสมกันมานาน กำลังจะใกล้ขึ้นในอีกไม่ช้า

หวังว่าอะไรๆมันคงจะดีขึ้น
หวังว่าอะไรๆมันคงจะสามารถเริ่มต้นใหม่ได้
หวังว่าคงไม่ได้มีแต่เขาที่คิดไปเอง
หวังว่านะ

----------------------------------------------------------------------------------------------------------

ต้นเดือนที่แสนสดใส อะไรอะไรก็คงจะดีถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน แต่ในวันนัดประชุม รวมไปถึงวันเข้างานวันแรก กิ่งก็ยังมาสาย

"เมื่อไหร่เด็กแกจะมาสักที?" จริงใจหันไปถามเพื่อนสนิท เมื่อเลยเวลาประชุมมาจะครึ่งชั่วโมงแล้ว พนักงานทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตากันมาต้อนรับหัวหน้าคนใหม่อีกคนที่กำลังจะเข้ามาร่วมทำงานด้วย แต่เก้าอี้ของกิ่งยังคงว่างเปล่า
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันวะ โทรหามันจนมือจะหงิกอยู่แล้วเนี่ย" ยิ้มบอก พร้อมกดโทรศัพท์โทรหากิ่งอีกครั้ง
"จะรอดเหรอวะ?" จริงใจพูดลอยๆ แล้วนั่งรอไปอีกสักพัก (เธอมั่นใจว่าเธอรอมากพอ ที่จะฟังเพลงจบไปอีกสามเพลงได้) ด้านข้าง คือยิ้มที่นั่งกดโทรศัพท์อย่างเอาเป็นเอาตาย
"ฉันไม่รอแล้ว! ประชุมเลยแล้วกัน คนอื่นจะได้ไปทำงานทำการต่อได้สักที" จริงใจหันไปพูดกับยิ้มต่ออย่างเหลืออด
"โอเค โอเค เริ่มเลยก็ได้" ยิ้มบอกอย่างเกรงใจ แล้วตัดสินใจกดตัดสายทิ้ง
"อย่างที่พี่ยิ้มบอกไปสัปดาห์ที่แล้วนะทุกคน เราจะมีงานใหญ่เข้ามาแทรกงานเดิม ดังนั้นพี่จะแจกงานให้ทุกคน ครั้งนี้เราจะช่วยกันทำก่อน เพราะงานสองงานมันเชื่อมกัน เสร็จแล้ว พอได้ ธีมงาน รายละเอียด Art Direction ของทุกอย่างเสร็จแล้ว เราจะแบ่งทีมงานกันทำ งานจะได้ไปในทิศทางเดียวกันได้ รายละเอียดของงานก็จะมี..."
จริงใจยังไม่ทันจะพูดจบ เสียงโทรศัพท์ยิ้มก็ดังขึ้น จริงใจตวัดสายตาไปมอง ยิ้มรีบรับสาย แล้วเดินออกไปนอกห้องทันที มีเสียงแว่วๆ ได้ยินประปราย
"ฉันจะบ้าตาย!! กว่าแกจะโทรกลับ! รู้มั้ยฉันโทรไปหาแกกี่ครั้งแล้ว?" ยิ้มบ่นเบาๆแล้วเดินออกไป จริงใจชะงักการประชุมไว้ทั้งหมด ล้มตัวลงนั่งตรงเก้าอี้ของตัวเอง แล้วมองบรรยากาศรอบๆห้อง พนักงานทุกคนดูอึดอัด เมื่อเหลือจริงใจแค่คนเดียว จริงใจทำเป็นไม่รู้เรื่อง เสมองไปทางอื่น เพราะไม่อยากให้เสียบรรยากาศไปมากกว่านี้ ไม่นานนัก ยิ้มก็ผลักประตูห้องประชุมเข้ามา พร้อมหญิงสาวอีกคนที่ดูสวยสง่า ราวกับจะไปเดินแบบบนแคทวอล์ก
"คุณกิ่งไม่มีนาฬิกาเหรอคะ?" จริงใจถามขึ้นทันที เมื่อกิ่งนั่งลงกับโต๊ะเรียบร้อย กิ่งที่นิ่งๆตอนแรก ยิ้มกลับเย็นๆ
"มีค่ะ นี่คุณจริงใจโกรธที่กิ่งมาสายเหรอคะ?"
"ค่ะ" จริงใจตอบ มองหน้าพนักงานคนใหม่นิ่ง แต่เธอก็ยังยิ้ม ต่อบทสนทนาเย็นๆเช่นเดิม
"ขอโทษทีค่ะ พอดีเจ้าของบริษัทยังไม่ได้ว่าอะไร ก็เลยไม่คิดว่า คนอื่น จะโกรธ" กิ่งตอบ
พนักงานสองสามคนถึงกับหลุดขำ คงมีบางคนสะใจที่เห็นจริงใจโดนตอกหน้าหงาย จริงใจชักสีหน้า และเงียบไปอย่างชัดเจน ยิ้มที่ทนบรรยากาศอันน่าอึดอัดไม่ไหว กล่าวขึ้น
"เอาละทุกคน พี่จะแนะนำให้รู้จัก นี่! พี่กิ่ง ที่พี่เคยบอกไว้ตอนประชุมครั้งที่แล้ว ว่าเราจะมีสมาชิกใหม่กัน ... พี่กิ่งจะเข้ามาเป็นหัวหน้าอีกคน จะคอยคุมโปรเจค ก็ทำเหมือนที่พี่กับพี่จริงใจทำนั่นแหละ ยังไงพี่ก็ฝากพี่กิ่งไว้ด้วยนะ" ทุกคนปรบมือต้อนรับกิ่งเสียงดัง หลายคนมีสีหน้าดีขึ้น เมื่อรู้ว่าจะมีหัวหน้าอีกคนมาแบ่งงาน แบ่งทีมจากจริงใจไป
จริงใจยังคงเงียบ กิ่งส่งยิ้มหวานไปให้พนักงานทุกคนด้วยท่าทางฉลาดและใจดี เธอยืนขึ้นเพื่อให้ทุกคนเห็นได้ชัดๆ
"สวัสดีค่ะทุกคน พี่ชื่อกิ่งนะคะ ขอโทษทีที่วันนี้พี่มาสาย พอดีเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น หวังว่าทุกคนคงเข้าใจนะคะ พี่เป็นฟรีแลนซ์มาก่อน แต่อยากลองเปลี่ยนมาทำงานกับคนอื่นๆดูบ้าง ดังนั้น พี่จะมาทำงานกับทุกคนตั้งแต่วันนี้ มีอะไรที่พี่ยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับบริษัทอยู่มาก ยังไงก็รบกวนทุกคนด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ" กิ่งพูดเสียงดังฟังชัดให้ทุกคนได้ยินอย่างทั่วถึง ต้องยอมรับว่าด้วยคำพูดคำจา ด้วยบุคลิก กิ่งดูมีสง่าราศี พนักงานหลายคนส่งยิ้ม และส่งเสียงปรบมือ ดังกว่าที่เคยส่งให้จริงใจหลายเท่านัก จริงใจที่แม้จะหงุดหงิด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่รอให้เสียงทุกอย่างเงียบลง แล้วจึงพูดต่อ
"โอเค เรามาต่อกันจากที่เราพูดค้างไว้ รายละเอียดของงานก็จะมี สองงานใหญ่คืองาน Thai Food และ งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ขั้นแรกเราจะทำงานด้วยกันทั้งหมด เพื่อหาคอนเส็ปของงาน Mood & Tone แล้วก็พวก Art Direction กันก่อน หลังจากนั้นก็จะแบ่งเป็นสองทีม คือทีมพี่ ทำงาน Thai Food กับทีมคุณกิ่งที่จะทำงานเปิดตัว คร่าวๆก็ประมาณนี้ ใครมีอะไรไม่เข้าใจรึเปล่า" จริงใจถาม ไม่มีใครตอบจริงใจจึงพูดต่อ
"รายละเอียดผลิตภัณฑ์พี่ส่งเข้าอีเมลทุกคนแล้ว ขอให้ทุกคนอ่านมาให้เรียบร้อย ประชุมครั้งหน้า พี่อยากให้ทุกคนหา Concept และ Reference พวก Mood & Tone กับ Art Direction มา โอเคนะ?" ทุกคนส่งเสียงตอบรับ จริงใจจึงนัดวันประชุมครั้งต่อไป
"ศุกร์นี้ 10 โมง มาเจอกันที่ห้องประชุมตามเดิม ตอนนี้ใครมีงานอะไรค้างก็จัดเวลาเอาไว้ให้ดี เราอาจต้องทำงานซ้อนกันหลายงาน" เธอกำชับ ทุกคนรับปาก แล้วแยกย้ายออกจากห้องประชุมไป เหลือทิ้งไว้ แค่หัวหน้าทั้งสามคน กิ่งที่มาใหม่ เปิดบทสนทนาทันทีเมื่อพนักงานทุกคนต่างออกไปแล้ว
"แหม เก่งจังเลยค่ะ คุณจริงใจ! ถ้ากิ่งไม่รู้จักยิ้มมาก่อน กิ่งคงนึกว่านี่เป็นบริษัทของคุณจริงใจนะคะ" กิ่งเริ่มต้นเบาๆตั้งแต่เช้า จริงใจที่รู้ตัวว่าโดนกัด สงบนิ่ง แล้วตอบ
"ไม่ใช่หรอกค่ะ ปกติ จริงกับยิ้มจะสลับกันอธิบายการประชุม วันนี้เป็นคิวของจริง จริงก็ทำตามหน้าที่" กิ่งเมื่อได้ฟังก็ฉีกยิ้มกว้าง
"อย่างนี้ เดี๋ยวก็ต้องมีคิวของกิ่งด้วยใช่มั้ยคะ ตื่นเต้นจัง นานๆทีจะได้พูดต่อหน้าคนเยอะๆ" กิ่งพูดอย่างกระตือรือร้น จริงใจเบือนหน้าหนี
"มาทำงานให้ทันก่อนเหอะ"เธอบ่นพึมพำเบาๆ ยิ้มที่ได้ยินก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ เธอหันไปพูดกับกิ่งทันที
"ฉันบอกแกแล้วว่าเข้างานเก้าโมง ทำไมแกยังมาสายอีก? ผิดแผนหมดเลย" ยิ้มพูดเบาๆ ทั้งที่ความจริงก็อยากจะว่าแรงๆกว่านี้ แต่พอหน้าป้าดาลอยมา ระดับความดังของเสียลงเลยลดลงอัตโนมัติ
"ซอรี่นะยิ้ม พอดีรถติดนะ ทำงานวันแรก กะเวลาไม่ค่อยจะถูก" กิ่งตอบเหมือนจะรู้สึกผิด แต่สีหน้าและน้ำเสียงไม่ใช่ ยิ้มกับจริงใจพอได้ยินคำตอบก็ถึงกับเอือม
"เออ เออ เออ ... แกก็อย่าสายอีกละกัน คนอื่นเขารอแกอยู่คนเดียว มันเสียเวลา" ยิ้มบอกไป หน้าตาเครียดอย่างเห็นได้ชัด
กิ่งไม่ตอบอะไร แค่ยิ้มใส่ แล้วสนใจอยู่แต่กับเอกสารตรงหน้า จริงใจที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ทั้งหมดค่อนข้างอึดอัด ระคนเหนื่อยใจ บางทีก็ไม่แน่ใจว่า กิ่งจะฟังที่ยิ้มพูดเข้าใจรึเปล่า เธอเบือนหน้าหนีอีกรอบ สร้างบรรยากาศที่น่ากระอักกระอ่วน ให้กับยิ้มที่เป็นคนกลาง
"ก็เดี๋ยวแยกย้ายกันไปทำงานเนอะ โต๊ะทำงานแกอยู่ห้องนั้น ห้องขวามือสุด ถัดจากห้องของฉัน แกเข้าไปนั่งในนั้นได้เลย" ยิ้มบอก แล้วชี้ทางไปที่ห้องทำงานที่ว่างอยู่ กิ่งชะเง้อดูเล็กน้อยพอสวยงาม
"ขอบใจ" เธอบอก แล้วลุกเดินออกจากห้องไป เหลือไว้ก็แต่จริงใจกับยิ้มที่อยู่ในห้องเพียงสองคน
เมื่อเห็นว่าพนักงานเจ้าปัญหาออกไปเรียบร้อยแล้ว จริงใจจึงเปิดปากขึ้น
"ท่าทางจะไม่รอด" จริงใจเอ่ยทำลายความเงียบ ยิ้มที่ได้แต่หน้าเสีย ก็รีบพูด
"เฮ้ยยยแก ใจเย็นๆ เห็นมันเอาแต่ใจตัวเองอย่างนี้ แต่จริงๆงานมันก็ดีนะเว่ย
"ฉันไม่ได้หมายถึงมัน ฉันหมายถึงตัวฉันเองนี่แหละ"
"อย่าพูดอย่างนั้นดิ นะนะนะนะ ครั้งหน้ามันคงไม่สายอีกแล้วแหละ นะนะ
จริงใจถอนหายใจอีกครั้งเฮือกใหญ่ แล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป ยิ้มที่ไม่รู้จะทำยังไงจึงได้แต่ถอนหายใจตาม
"โอ๊ย!!! วันๆมีแต่เรื่อง!" ยิ้มตะโกนกับตัวเองอย่างอดไม่ได้ วุ่นวายกันตั้งแต่วันแรกเลยให้ตายสิ

----------------------------------------------------------------------------------------------------------

จริงใจหอบของกลับบ้านมาพะรุงพะรังเช่นเดิม เพราะนอกจากจะมีงานของพี่กิตแล้ว จริงใจยังเหลืองาน Presentation อีกหลายตัวที่ถือไว้ในมือ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ใกล้เสร็จหมด เหลือแต่เอาให้กราฟฟิก แก้ดราฟสุดท้ายก็เป็นอันเสร็จ
จริงใจปิดประตูเข้าบ้านด้วยเสียงอันเบาที่สุด ถอดรองเท้าแล้วค่อยๆย่องเข้าไปในครัว เปิดตู้เย็นดูเผื่อว่าจะมีของกินอะไรให้ท้องที่แสนว่างเปล่าของเธอได้บ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรมาก สิ่งที่จะกินได้เลยในตอนนี้ก็เห็นจะมีแต่ขนมปังไม่กี่แผ่น และนมอีกนิดหน่อย

"กลับมาแล้วเหรอ?" เสียงแม่ติ๋มดังขึ้นจากทางด้านหลัง จริงใจที่กระดกนมอยู่ตรงนั้นตกใจจนนมแทบพุ่ง
"แม่!!! ยังไม่นอนเหรอ?" จริงใจสะดุ้งเมื่อเห็นผู้เป็นแม่ลงมาชั้นล่างดึกๆดื่นๆอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
"นอนแล้ว แต่นี่ลงมาเพราะได้ยินเสียงรถ" แม่ติ๋มตอบ พร้อมลากร่างอันใหญ่โตเข้ามาในครัว ผลักจริงใจออกจากตู้เย็น แล้วหยิบไข่ไก่ออกมา จริงใจมองตามพร้อมพูดเสียงเบา
"โทษๆ หนูทำเสียงดังเหรอ?" จริงใจถาม คุณนายติ๋มไม่ได้หันมาตอบอะไรมาก แต่จัดการตอกไข่ลงกับขอบถ้วยอย่างชำนาญ เริ่มต้นปรุงรส แล้วตีทุกอย่างให้เข้ากัน
"ไม่หรอก คนมันแก่แล้ว อะไรนิดอะไรหน่อยก็ตื่นง่าย ไปนั่งสิ เดี๋ยวแม่ทำไข่เจียวให้กิน" เธอพูดไป ทำไป พร้อมพยักเพยิดไปทางโต๊ะอาหารที่ว่างอยู่ให้ลูกสาวคนเดียวไปนั่ง จริงใจมองคนเป็นแม่ยิ้มๆ แล้วทำตามอย่างว่าง่าย
"อะ" แม่ติ๋มยื่นจานไข่เจียวร้อนๆสีเหลืองอร่าม ลงมาวางตรงหน้าจริงใจ แล้วดึงเก้าอี้ตัวข้างๆออกมานั่งด้วย จริงใจเริ่มต้นตักไข่เจียวเข้าปากพร้อมข้าวสวยร้อนๆ เผยหน้าตาที่ปลื้มปริ่มสุดๆ
"โอ๊ยย!!! อร่อยมาก ... ฝีมือไม่ตกเลยนะคะ คุณนายติ๋ม" จริงใจร้องทันทีที่ได้ลิ้มรสคำแรก เธอเอาหน้าไปซบคนเป็นแม่อย่างประจบประแจง แม่ติ๋มหัวเราะดีใจที่เห็นลูกมีความสุข พร้อมเริ่มต้นถาม
"เป็นไง ช่วงนี้? ไม่เห็นหน้าเห็นตา" เธอถาม เพราะไม่เห็นหน้าลูกสาวในเวลาปกติมานานหลายวันแล้ว ถ้าไม่เห็นตอนตื่นงัวเงีย ก็ต้องเป็นช่วงเพลียก่อนจะหลับ เป็นอย่างนี้ประจำทุกวัน
"ก็ดีอะ ช่วงนี้มีงานใหญ่เข้ามา ตั้งแต่เปิดบริษัทมา งานนี้ใหญ่สุดเลย" เธอกินไป ตอบไปเสียงอู้อี้ แม่ติ๋มมีสีหน้าเป็นห่วง พร้อมถาม
"เหนื่อยมั้ย?"
จริงใจจับได้ถึงน้ำเสียงที่ดูเป็นห่วง เธอรีบเคี้ยวให้เสร็จแล้วตอบ
"ก็นิดหน่อยนะแม่ .. แต่ก็ยังไหว" จริงใจตอบ แล้วยิ้มให้แม่ติ๋ม
"เหนื่อยก็พักนะจริง ... พ่อกับแม่เป็นห่วง" แม่ติ๋มบอกน้ำเสียงจริงจังอีกครั้ง จริงใจพยักหน้า แล้วกินไข่เจียวของเธอต่อไปเงียบๆ
"เออแม่ ... ไอวินจะกลับมาจากอเมริกาแล้วนะ" จริงใจบอกต่อ เหมือนนึกขึ้นได้ แม่ติ๋มตกใจและดีใจในคราวเดียวกัน
"ฮะ!!! อะไร? พึ่งไปเองไม่ใช่เหรอ?" เธอถาม จริงใจยักไหล่
"อืมม ก็ 2 ปีแล้ว เห็นจะได้..."
"แล้วทำไมถึงจะรีบกลับ? กว่าจะได้ไปก็แทบแย่" จริงใจรีบกลืนข้าวลงคอไปเร็วๆแล้วรีบบอก
"ใช่ แม่!! ถ้าแม่เจอมันแม่ถามให้หนูด้วยนะ"
"โอ๊ย!! ไม่ละ เดี๋ยวแกจะหาว่าฉันไปยุ่งเรื่องของแกอีก เรื่องแกกับมัน ฉันเข็ดแล้ว!! เดี๋ยวก็แต่ง เดี๋ยวก็หย่าฉันละงงไปหมด"
จริงใจเคี้ยวข้าวตุ้ยๆโดยไม่ตอบอะไร เข้าใจดีว่าทำไมแม่ถึงโกรธเรื่องนี้ เพราะก่อนที่วินจะไปอเมริกา แม่เป็นคนเดียวที่ไปง้อวินแทนเธอ จริงใจที่ตอนนั้นกำลังสับสนและอ่อนไหว พอรู้ก็ถึงกับโวยวาย ทะเลาะกับคุณนายแม่ไปสามวันเจ็ดวัน ดังนั้น พอพูดถึงวินทีไร แม่ก็มักจะบ่นเรื่องเดิมๆ เรื่องที่จริงใจได้ยินมาเป็นร้อยๆรอบแล้ว
"ว่าแต่ว่า คิดถึงมันเหมือนกันนะ วินมันจะกลับมาถึงวันไหน บอกมันให้แวะมาหาแม่ แม่จะทำผัดสะตอให้กิน"
"ศุกร์นี้แหละ แต่ไม่รู้มันจะมาได้วันนั้นรึเปล่า เดี๋ยวหนูบอกแม่อีกทีนะ"
"ได้ๆ บอกฉันก่อน ฉันจะได้เตรียมของกินที่มันชอบ.... ฮ้าววว.... แม่ไปนอนละ ง่วง! ไม่ไหว แต่แกกินแล้วอย่าพึ่งนอนนะ!! เดี๋ยวอ้วนเป็นหมูไม่รู้ด้วย"
" รู้แล้ววน่า!!! แม่ไปนอนเถอะ" จริงใจเซ็งที่ถูกแม่บ่น เธอผลักไสเล็กๆ แล้วหันไปจัดการกับไข่เจียวคำสุดท้ายต่อ
แม่ต๋ิมไม่ได้ว่าอะไร เธอค่อยๆขึ้นบันไดไป ทิ้งจริงใจไว้คนเดียว
จริงใจทิ้งจานไข่เจียวที่ว่างเปล่าไว้ข้างๆ แล้วหันไปหยิบโน๊ตบุ๊คของตัวเองขึ้นมาเปิด เหลืองานที่คั่งค้างไว้อยู่มาก และเธอตั้งเป้าเอาไว้ ว่าจะทำมันให้เสร็จทั้งหมดภายในคืนนี้ ... แต่จนแล้วจนรอด ก็เผลอเข้าไปเล่นเฟซบุคจนได้
news feed ถูกเลื่อนลงมาเรื่อยๆ จริงใจไม่ได้เจาะจงใครเป็นพิเศษ ยิ้มน่าจะทานข้าวอยู่กับพี่กิต เห็นลงรูปเอาไว้เมื่อ 15 นาทีที่แล้ว ส่วนวิน ลงเพลงห่างไกลเหลือเกิน เพลงประจำตัวที่ชอบฟังตั้งแต่มัธยมจนมาถึงป่านนี้ ไม่รู้อารมณ์ไหน แต่พอนานๆไปได้ฟังมันก็เพราะดีเหมือนกัน จริงใจกดฟังแล้วฮัมเพลงตาม พร้อมเลื่อนลงมาดูสเตตัสคนอื่นๆอีกอย่างไม่ใส่ใจ
เมื่อเลื่อนหน้าจอลงมาสักพัก จริงใจก็ต้องสะดุดกับสัญญานเตือนว่ามี friend request เข้ามา 1 คน เธอกดเข้าไปดูแล้วก็พบว่าพี่กิตเป็นคนคนนั้น จริงใจรู้โดยทันที นี่ต้องเป็นแผนของเพื่อนตัวดีอย่างยิ้มแน่นอน เธอใช้เวลาคิดสักพักแล้วจึงกด ตอบรับ
'เป็นเพื่อนกันก็คงไม่เสียหาย' จริงใจคิด

เธอคลิกเข้าไปสำรวจหน้าโปรไฟล์ของพี่กิตว่าเป็นยังไงบ้าง แล้วก็พบเรื่องต่างๆมากมายเกี่ยวกับพี่กิตคนดีของยิ้มคนนี้ หนุ่มโสดวัยสามสิบ ดูท่าแล้วก็เนื้อหอมใช่เล่น สาวๆคอยมาคอมเมนต์เพียบ ส่วนหน้าตาและรสนิยม ข้อนี้ผ่านตั้งแต่เห็นตัวจริงแล้วละ แนวเพลงที่ชอบฟัง ... แย่แฮะ ฟังแต่ร็อกฝรั่ง ไม่รู้จัก อ่อออ.. ท่าทางจะรักสัตว์ มีรูปคู่กับหมาเต็มไปหมด ทำอาหารด้วยแฮะ แล้วที่ทำงานละ ... เป็นไงมั่งนะ? อ้า... รูปนี้ก็ดูดีนะ แล้วนั้นก็ภาพที่ไปเที่ยวเมื่อสองเดือนก่อน อื้มหืม ... ไฮโซเชียว
เอ๊ะ เดี๋ยวนะ ... นี่จริงใจใช้เวลาอยู่กับสิ่งนี้มานานเท่าไหร่แล้วน กว่าจะรู้ตัวอีกที จริงใจก็วนอยู่ในหน้าโปรไฟล์ของพี่กิตมาเป็นชั่วโมงแล้ว เธอรีบปิดหน้าต่างเฟซบุคทันที เผยให้เห็นหน้าต่างงานอีกมากมายที่ถูกลืมทิ้งไว้เข้ามาแทนที่ การสำรวจโปรไฟล์ลูกค้าในตอนนี้คงผิดเวลาไปเสียหน่อย เห็นที่ต้องทดแทนเวลาการทำงานที่เสียไปจนถึงเช้าเชียวละ
ส่วนเวลาของคุณลูกค้า... ยังมีเวลาอีกมาก ที่จะได้ทำความรู้จักกัน
เมื่อคิดที่แผนที่ยิ้มปูทางไว้ขนาดนี้ เธอคงหนีไปไหนไม่รอดหรอก







แว่นกระดาษ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ต.ค. 2558, 18:13:28 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ต.ค. 2558, 18:13:28 น.

จำนวนการเข้าชม : 742





<< ตอนที่ 10   ตอนที่ 12 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account