~ สายใย .. ไฟรัก ~
~ สายใย .. ไฟรัก ~


เส้นสายใย .. ใครกันหนอ .. ที่ทอถัก
เส้นสายรัก .. ใครจักสาน.. ขานคำขอ
เส้นทางเดิน .. ใครเหินห่าง .. ต่างเฝ้ารอ
ไฟรักพอ .. ต่อหัวใจ .. ให้อุ่นอิง




เธอ .. คือ เพื่อนสนิทของน้องสาวเพื่อนรัก

เขา .. คือ ผู้บริหารโรงแรมจอมเผด็จการ แต่กลับเป็นเพื่อนรักพี่ชายของเพื่อนสนิท

ทว่า ..

เธอ .. ในสายตาของเขา .. คือ คนอวดดี ยโส ที่ใช้เพื่อนเป็นทางผ่านไปสู่ความสำเร็จของตัวเอง

เขา .. ในสายตาของเธอ .. คือ ผู้ชายไร้เหตุผล เอาแต่ตนเองเป็นใหญ่

ที่สำคัญเหนืออื่นใด .. ทั้งเธอและเขา .. กำลังตกหลุมรักคนที่ไม่ควรจะรัก!




***************************
Tags: ความรัก ครอบครัว เพื่อน

ตอน: ใยเส้นที่ 22 .. สิ่งที่ต้องสำรวจ




เวหากวาดสายตาสำรวจคิง เซอร์เพนท์ ออฟ เดอะ เซาท์ ซีอย่างจริงจัง เรียกได้ว่ากำลัง 'เอ็กซเรย์' แทบทุกตารางนิ้วที่ย่างเท้าผ่าน โดยเฉพาะจุดแรกที่ใครๆต้องมาติดต่ออย่าง รีเซฟท์ชั่นหรืองานต้อนรับส่วนหน้า

ผู้จัดการฟร้อนท์ ออฟฟิศของรู้ค พยายามเก็บรายละเอียดการให้บริการของคิง เซอร์เพนท์ ให้มากที่สุด จนลืมไปว่าเธอยังมีเรื่องติดค้างคนบางคน ที่ทำ 'หน้าบึ้งหน้าตูม' เดินตามไม่ห่างดูการมา 'ดินเนอร์' ในค่ำคืนนี้

ความสนใจของเวหาที่มีต่อพนักงาน การบริการ รวมถึงเครื่องแบบและมารยาทเล็กๆน้อยๆ ที่สะท้อนให้เห็นว่า ถูกอบรมอย่างได้มาตรฐานเพียงใด ซึ่งมันอาจเป็นคำตอบได้ว่า เหตุใด คิง เซอร์เพนท์ จึงจัดอยู่ในโรงแรมระดับ ๕ ดาว

"สรุป คุณฟ้ามาทำงานเหรอฮะ"

คำถามเปรยด้วยเสียงเล็กเสียงน้อยอย่างจงใจ กับสิ่งที่ผิดไปจากการคาดหวัง ทำให้รัศมิทัตแสดงอาการแง่งอนในที และจากน้ำเสียงชนิดนี้เองที่สามารถดึงให้เวหา หันมาชำเลืองมองคนตัวโตแต่ขี้ใจน้อยได้เป็นอย่างดี

หญิงสาวอมยิ้มสายตาบอกความเอ็นดูเขา ในฐานะเด็กผู้ชายโยเยงอแง มากกว่าจะเห็นเป็นคู่รักในคราวนี้นี่เอง

"จะรีบไปไหนล่ะทัต กว่าจะถึงเวลาที่เราจองโต๊ะไว้ อีกร่วมๆชั่วโมง ... ระหว่างนี้เราก็เดินดูนั่น ดูนี่ให้ทั่วๆ ก็ไม่เสียหลายนะ"

"แล้วคุณฟ้าคิดยังไง ถึงลากผมออกมาก่อน แทนที่จะรอลินิน ... แถมยังให้มากับลุงไฟอีก"

เวหามองข้ามสรรพนามที่รัศมิทัตเรียกพี่ชายของเธอ เพราะเข้าใจแล้วว่า เหตุใดเขาจึงรวนเธอนัก

ความห่วงใยที่มีต่อมัสลิน ทำให้สถาปนิกหนุ่มค่อนข้างกังวล ด้วยเขาไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเกี่ยวกับอุบายเล็กๆน้อยๆที่เธอแอบวางไว้ โดยการส่งเพลิงกัลป์ไปคอยดูแลสาวรุ่นน้องแทน

"ทัตไม่อยากมีเวลาส่วนตัวกับฟ้าเหรอ"

"เอ่อ ..."

รัศมิทัตชะงักกับการจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว ทั้งที่เขาน่าจะรับมือกับเวหาได้ดีกว่านี้ ... แต่ทำยังไง เขาก็เหมือนเป็นฝ่ายถูกต้อนได้ทุกทีสิน่า

"ทัตเอาแต่เป็นห่วงลินิน ... จนฟ้าชักจะสงสัยแล้วว่า ... ทัตคิดยังไงกับฟ้ากันแน่"

เอาซี้ ... ใช่แต่รัศมิทัตจะทำสุ้มเสียงน้อยใจได้คนเดียว

เวหาได้ทีก็อดแกล้งหนุ่มรุ่นน้อง ที่แปรสถานะยกระดับความสัมพันธ์ให้ใกล้กันมากขึ้นไม่ได้

สถาปนิกหนุ่มเจอลูกไม้ตัดพ้อเชิงไม่ไว้วางใจของสาวรุ่นพี่ที่เขามีใจมานานเข้าไป ก็กลับเปลี่ยนท่าทีแทบจะไม่เหลือคราบคนขี้งอนเลย

"คุณฟ้า ... ไม่ใช่อย่างนั้นนะฮะ ... อย่าเข้าใจไปทางอื่นเลย ผมแค่เป็นห่วงเพื่อนจริงๆ ..."

รัศมิทัตร้อนรนจนไม่ทันฉุกใจคิดว่า ตัวเองกำลังเสียรังวัดให้กับเวหาอีกแล้ว เพราะเขากลัวเธอจะเข้าใจผิด อันจะเป็นบ่อเกิดรอยร้าวในความสัมพันธ์ จึงตั้งใจอธิบายให้อีกฝ่ายฟัง

"คุณฟ้าก็รู้ว่า ลินินกับลุงไฟน่ะ อยู่ใกล้กันได้ที่ไหน ... ยิ่งกว่าน้ำกับไฟอีก ... แล้วคุณฟ้ายังให้คนไม่ถูกกัน เข้าใกล้กันแบบนั้น มันก็เหมือนส่งเชื้อดีๆใส่เข้าไปในกองไฟนั่นล่ะ"

คราวนี้เวหาไม่ทำแค่ชำเลืองมอง แต่เธอหกันมาสบตาคนพูดตรงๆ ก่อนจะคลี่ยิ้มชนิดที่รัศมิทัตอยากเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว

"ฟ้าไม่คิดแบบนั้นนะ ... แต่ว่า เราอย่าเพิ่งมายืนเถียงกันตรงล็อบบี้บ้านคนอื่นเลย เราไปเดินเล่นในสวน 'ฆ่าเวลา' กันดีกว่า"

หญิงสาวหน้าอ่อนใสวัยเลยเบญเพสมาไม่นานเอ่ยชวน เธอยังไม่อยากพูดอะไรมากไปกว่าที่คิด ... นั่นเพราะ อะไรบางอย่างที่เธอได้เห็นก่อนหน้านี้ ระหว่างที่ร่วมโต๊ะกินอาหารเมื่อเช้า ...

เพลิงกัลป์กับมัสลิน

บางที ... ความรู้สึกของสองคนนี้ อาจไม่ใช่อย่างที่ต่างฝ่ายต่างแสดงออกก็ได้ ใครจะรู้

แต่มากกว่านั้นคือ ปัญหาที่เริ่มจะส่อแววให้มันยุ่งยากวุ่นวาย และคนที่จะเป็นทั้งน้องสาว ... เป็นเพื่อนที่ดี ควรคอยดูแลตัดไฟแต่ต้นลมเสียก่อน

ก่อนที่มันจะลุกลามบานปลาย เป็นเหตุให้เพื่อนรักมองหน้ากันไม่ติด เพราะเพื่อนรักของเธอ

ทว่า ความหวังดีของเวหาที่มีต่อคนใกล้ชิด อาจทำให้พลั้งเผลอลืมคิดถึงความรู้สึกของคนใกล้ตัวได้เช่นกัน






นาคินทร์ พี. เซอร์เพนท์ ผู้บริหารสูงสุดของคิง เซอร์เพนท์ ออฟ เดอะ เซาท์ ซี โฮเทล ปิดแฟ้มรายงานเกี่ยวกับปัญหาของโรงแรมลง ก่อนส่งคืนให้เลขาฯ ของผู้จัดการทั่วไป แล้วถามถึงเหตุการณ์โดยรวมระหว่างที่เขาไม่อยู่

“มีแค่นี้เหรอ ... เพชร”

“ค่ะ ... คุณสงสัยอะไรหรือคะ”

เพชรงามรับแฟ้มมาแต่ไม่ได้สนใจมันนัก เพราะรู้ดีว่ามันมีเนื้อหาอย่างไร แต่ที่ทำให้ต้องเอ่ยถาม เพราะน้ำเสียงของบุคคลสำคัญตรงหน้า กับลูกนัยน์ตาสีเท่าหม่นคู่นั้นที่จับจ้องมายังเธอต่างหาก

“แล้วคนของคุณ ... ที่ว่าจะพามาพบผม”

“เพชรนึกว่า เพิร์ลเลิกสนใจแล้ว”

นาคินทร์เอนกายพิงเก้าอี้ตัวใหญ่ท่าทางสบายๆ แต่บรรยากาศรอบกายไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

“ตอนแรกก็คิดแบบนั้น ... แต่พอรู้ว่า คุณทั้งผลัก ทั้งดัน ... เขา ผมเลยยิ่งอยากเห็นตัวจริง”

“เอ่อ ... เพชรขอโทษค่ะ แต่เขาก็ช่วยได้มาก ฟูลมูนที่ผ่านมาก็ราบรื่นดี”

จากหญิงสาวผู้เปี่ยมความมั่นใจทั้งในรูปลักษณ์และความสามารถของตน แต่การอยู่ต่อหน้าผู้ทรงอำนาจตัวจริง ต่อให้เคยชิดเชื้อกันเพียงใด ก็ยังทำให้เธอประหม่าได้เหมือนกัน โดยเฉพาะชนักที่ปักหลังเธอขณะนี้

นาคินทร์ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินอ้อมโต๊ะมาหาเพชรงาม สายตาที่มองเธอราวกับกำลังตรวจจับความผิดปกติ แล้วเขาก็ยิ้มให้เธอเพียงแค่มุมปาก หากสีหน้ายังคงขรึมเคร่ง ทว่า คำพูดของเขาก็ดูจะช่วยผ่อนคลายความกังวลของหญิงสาวลงได้

“ผมไม่ได้จะตำหนิอะไรคุณ แค่รู้สึกว่า กำลังจะไม่ได้เป็นคนสำคัญของคุณอีกต่อไปแล้วน่ะ ... เพชร”

“โธ่ ... เพิร์ล”

เพชรงามครางอย่างโล่งใจเมื่อได้รู้เหตุผลของอีกฝ่าย เธอวางแฟ้มนั้นลงบนโต๊ะ ก่อนจะก้าวมาอหยุดยืนตรงหน้าผู้ชายตัวโตวัยต้นสี่สิบ ที่เพิ่งเอ่ยสิ่งที่เธออยากรู้ว่า เขากำลังคิดอย่างไรในเรื่องที่เธอแอบอ้างชื่อเขาโดยพละการ เรื่องที่ดึงซายน์มาทำงานด้วย

“เพชรแค่อยากดึงคนเก่งที่พร้อมทำงานให้เรา มาไว้ใกล้ๆ ... อยากให้ซายน์ เอ่อ ... เขามีผลงานให้ประจักษ์ คุณจะได้รู้ว่า ควรจะใช้เขายังไง ... และทำอะไรได้หรือไม่ได้”

“จริงหรือ ... เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้น หลังจากที่ผมกลับไป ‘จัดการอะไรๆ’ เรียบร้อย คราวหน้า ...ผมคงจะได้พบคนที่คุณชื่นชมเสียที”

“ค่ะ ... เพชรก็คงต้องทำ ‘อะไร’ ให้เรียบร้อยกว่านี้ เหมือนกัน”

นาคินทร์สบนัยน์ตาสวยที่แต่งแต้มจนหวานซึ้งชวนหลงใหล เขาไว้ใจเพชรงามมากพอที่จะไม่เอาเรื่องเธอ แม้ก่อนหน้าที่จะได้ฟังเหตุผลก็รู้สึกไม่ชอบใจ ที่เธอไปดึงใครเข้ามา

ธุรกิจของเขาต้องระวังทุกฝีก้าว ไม่เช่นนั้น ทุกอย่างที่ลงแรงไปคงพังทลายย่อยยับ

แต่จากการที่เพชรงามกล้าฝ่าฝืน ชักนำ ‘ผู้ชายอื่น’ เข้ามาใกล้ มันก็ดูน่าสนใจไม่น้อย เพราะไม่เคยมีครั้งใดที่ผู้หญิงของเขาจะแสดงออกชัดเจน เหมือนบุคคลลึกลับผู้นี้

“ใกล้ค่ำแล้ว ... ก่อนเวลาอาหาร ผมว่าจะลงไปข้างล่างเสียหน่อย อยากเห็นการดูแลลูกค้าของเรา ว่าเป็นยังไงกันบ้าง”

“ค่ะ”

เพชรงามตอบรับคำสั่งกรายๆอย่างรู้ใจ ว่านี่คือ เวลาผ่อนคลายที่สุดของ คิง แห่งเซอร์เพนท์






เพลิงกัลป์เหลือบมองมัสลินที่เขาแอบยอมรับกับตัวเองว่า วันนี้เธอดูน่ารักน่ามองเพียงใด แต่ถ้าเจ้าตัวยังทำท่ายโสสีหน้าบึ้งตึงโดยไม่รู้สึกเมื่อยขนาดนี้ เขาคงต้องขอถอนคำพูดในใจ ... ถึงรูปลักษณ์ของเธอจะถูกใจเขาแค่ไหนก็ตาม

แล้วชายหนุ่มก็อดนึกถึงผู้ชายอีกคนไม่ได้ว่า ... มัสลินคงจะมีรสนิยม หรือที่เรียกว่า 'สเป็ค' ถูกตาต้องใจผู้ชายหลายเชื้อชาติมากกว่า

ยิ่งคิดยิ่งเปรียบเทียบ ความรู้สึกเหมือนถูกท้าทายก็เป็นแรงกระตุ้น ให้อยากเอาชนะ

เพื่อ ?

ผู้บริหารคนสำคัญของรู้คถามตัวเอง ... ก่อนจะตอบเองแบบที่ไม่อยากค้นลึกลงไปถึงก้นบึ้งหัวใจว่า

ก็เพื่อความสะใจ ... ไม่มีอะไรมากกว่านั้น

เพราะเขามีคนที่พึงระลึกถึงและให้ความสำคัญอยู่เสมอ ... ผู้หญิงดีๆอย่างศิราต่างหาก คือคนที่เขาควรจะจริงจังและมั่นคง

แต่กับผู้หญิงที่โดยสารรถมาอย่างไม่เต็มใจแบบมัสลิน คงไม่จำเป็นต้องดูดำดูดีมากมายนัก ... แค่ในฐานะคนรู้จักของน้องสาวเขาก็พอ

ทว่า ภาพที่ 'ซายน์'โอบไหล่กึ่งตระกองกอดมัสลิน กลับยังติดตาฝังใจเพลิงกัลป์พิกล จนไม่อาจทนนั่งเงียบเก็บความสงสัยต่อไปได้ หลังขับรถออกมาจาก รู้ค รีสอร์ท แอนด์ สปาไม่ถึง ๑๐ นาที

"วันนี้ไปไหนมา"

เพลิงกัลป์เอ่ยถามเสียงเรียบ สายตาจับจ้องเส้นทางมุ่งหน้ายังทิศตะวันออกของเกาะลาลัล ซึ่งปลายทางถนนเส้นนี้จะสิ้นสุดที่อุทยานแห่งชาติของเกาะ หากแต่ที่หมายของพวกเขาคือโรงแรมหรูหรา ๕ ดาว เพียงหนึ่งเดียวของที่นี่ ... คิง เซอร์เพนท์

มัสลินปรายสายตาชำเลืองทางชายหนุ่มเล็กน้อย แล้วก็หันกลับไปมองทิวทัศน์ข้างทางด้านซ้าย ที่ยังพอมองเห็นก่อนแสงสุดท้ายจะลับตา ปราศจากคำตอบที่อีกฝ่ายกำลังรอ

"หรือว่า ... ไปหา ผู้ชาย ..."

ท่านประธานรู้คยังคงใช่คำพูดที่รู้ดีว่า ระคายหูคนฟังไม่มากก็น้อย แต่เพราะเขาต้องการคำตอบที่ชัดเจนและเป็นความจริง ... กับคนบางประเภท คำหวานมักไม่ได้ผล

"ถ้าคุณคิดอย่างนั้นไปแล้ว ฉันก็ไม่เห็นประโยชน์ที่จะต้องบอก ... ในเรื่องที่เป็น 'ธุระส่วนตัว'"

เพลิงกัลป์เกือบซ่อนรอยยินดีไม่ทัน เพราะที่มัสลินพูดตอบเขาผ่านกระจกทึบโดยไม่ยอมหันมามอง ก็บ่งบอกให้ทราบว่า เธอไม่ปฏิเสธต่อคำถามร้ายกาจนั้น

แต่มันกลับจางหายรวดเร็ว ...

เขาควรจะยินดีมากกว่านี้ว่า ดูเธอไม่ผิดไม่ใช่หรือ

เขาควรจะลิงโลดกว่านี้ ที่เธอเป็นไปอย่างที่คิด

แล้วทำไม ในอกกลับรู้สึกโหวงเหวงเหมือนเสี้ยวหนึ่งในใจมันวูบหาย

"อย่าบอกนะ ... ที่อุตส่าห์มาอยู่เกาะช่วงหน้ามรสุมแบบนี้ ก็เพราะ ... ผู้ชาย"

เพลิงกัลป์ย้ำถามซ้ำๆ ราวกับต้องการตอกลิ่ม ให้คนฟังเจ็บใจเล่นกับการดูแคลนของเขา ซึ่งมันสามารถทำให้มัสลินหันขวับทันที นัยน์ตาฉายแววสะท้อนวับวาว ที่ชายหนุ่มมองไม่ถนัดนัก ทันได้เห็นจากหางตาเพียงแค่ครู่เดียว จึงไม่รู้ว่า มันคืออะไรกันแน่ ...

แสงหักเหจากดวงตะวัน หรือ เงาน้ำที่รื้นเอ่อขอบตา

"มันก็เป็นเรื่องของดิฉัน ... ไม่ใช่หรือคะ คุณเพลิงกัลป์"

มัสลินตัดบทเสียงแข็งยุติการสนทนาที่น่าชังของคนร่วมทาง สะบัดหน้าพรืดกลับไปทางเดิมทำท่าทางเฉยชา จนเพลิงกัลป์รู้สึกได้ว่า เขาได้กลายเป็นอากาศธาตุในสายตาของเธอไปแล้ว

นั่นจึงเป็นสิ่งที่เขาทนไม่ได้ !

ปณิธานแต่แรกเริ่มก่อนหน้านี้ กลับคืนสู่ความคิดของเพลิงกัลป์อีกหน ความคิดเล่นๆที่ว่า

ถ้าเขาจะลองเข้าใกล้มัสลินให้มากกว่านี้ ...

แสร้งทำดีให้เธอมาสยบเขาล่ะ ดูทีรึสุดท้าย 'ยัยเด็กอวดดี' จะยังทำเป็นมองข้ามเขาไปได้อีกไหม

ในเมื่อผู้หญิงคนนี้ทำตัวไม่มีคุณค่าในสายตาของเขา ... หากจะเปรียบกับคำว่า 'ราคา' ก็อาจดูมากเกินจำเป็นด้วยซ้ำ

แต่มีอย่างหนึ่งที่เพลิงกัลป์ไม่เฉลียวใจเลยว่า ต่อให้เขาตั้งหน้าหมิ่นแคลนมัสลินอย่างไร แทนที่จะเลิกสนใจหรือใส่ใจให้ขุ่นเคือง เขากลับทำในสิ่งตรงกันข้ามทุกครั้ง ... โดยไม่รู้ตัว



หนึ่งถึงสิบ ... สิบถึงร้อย

มัสลินเวียนนับไปมาอดทนให้มากถึงมากที่สุด ... อดทนต่อคำค่อนขอดจากคนปากร้ายใจดำ คนที่เป็นถึงผู้บริหารแต่ไม่มีความเป็นผู้ใหญ่เอาเสียเลย

หญิงสาวไม่เข้าใจว่า เพลิงกัลป์จะคอยมาจ้องจับผิดเธอทำไม

ทั้งที่เธอก็ไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนรำคาญใดๆให้ แล้วถ้ายังเป็นอยู่แบบนี้ ... สักวัน ความอดทนคงถึงขีดจำกัด

แต่คนไม่มีอะไรอย่างมัสลิน จะไปสู้รบตบมือกับคนมีอำนาจในตำแหน่งหน้าที่อย่างเขาได้อย่างไร

เธอยังมีพ่อนะ ... ลินิน

เสียงเล็กๆแย้งขึ้นในความคิด แต่มันก็ถูกปฏิเสธและโต้กลับทันที

อาป่านต่างหาก ... คือ ที่พึ่งของเธอ

หลังจากพยายามข่มกลั้นความโกรธ สะกดความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ไม่ให้สิ่งบาดระคายหูมีผลต่อจิตใจจนไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้ ... ยังดีที่เธอทนไหว

แม้ว่าเกือบจะทำหยดน้ำตาร่วงต่อหน้าเขา

ต้องขอบคุณแสงอาทิตย์จากปลายขอบฟ้าฝั่งทะเล ที่สาดส่องช่วยบดบังความรู้สึกของเธอไว้ได้ทัน

เธอจะไม่มีวันร้องไห้ ... ให้เขาเห็นเด็ดขาด

มัสลินคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้เรื่อยเปื่อย จนลืมสนใจเจ้าของโรงแรมที่ยอมทำหน้าที่สารถี ... กระทั่งยานพาหนะขับเคลื่อนมาถึงหน้าโรงแรมใหญ่โตหรูหรา ... คิง เซอร์เพนท์ ออฟ เดอะ เซาท์ ซี โฮเทล

ถึงหญิงสาวเริ่มจะตื่นเต้นกับความโออ่าตั้งแต่ภายนอกที่ปรากฏตรงหน้า ต่อสถานที่ซึ่งน้อยคนนักจะได้มาเยือนเฉกเช่นเดียวกับกลุ่มลูกค้าของที่นี่

แต่สิ่งที่ไม่อาจทำใจให้ลืมได้ในขณะเดียวกัน คือคำพูดทำร้ายความรู้สึกเธอของเขา

ต่อให้วันใดวันหนึ่งข้างหน้า ... วันที่เขาสำนึกและต้องการขอโทษ

หรือต่อให้มาคุกเข่าอ้อนวอน เธอก็จะไม่ให้อภัยเขาเลย ... ไม่มีวัน






แม้ว่าช่วงกลางปีเกาะลาลัลจะเข้าสู่หน้ามรสุม คลื่นลมทะเลค่อนข้างแรงไม่เหมาะแก่การออกนอกชายฝั่ง ส่งผลต่อการท่องเที่ยวให้ชะลอตัว และนักท่องเที่ยวลดลงอย่างเห็นได้ชัด ยกเว้นก็แต่บุคคลบางกลุ่มที่ถือว่า เกาะลาลัลในช่วงโลว์ ซีซั่น คือสวรรค์แห่งการพักผ่อนส่วนตัวอย่างแท้จริง

ก้าวแรกที่มัสลินเดินผ่านประตูกระจกโค้งสูงของ คิง เซอร์เพนท์ โดยมีพนักงานบริการปิดเปิดต้อนรับเป็นด่านแรก ความรู้สึกตื่นตาตื่นใจทำให้เธอสลัดเรื่องราวขุ่นมัวออกไปได้ชะงัด

หญิงสาวยอมรับในทันทีว่า โรงแรมใหญ่ท้ายเกาะแห่งนี้ หาใช่มีแค่ราคาคุย แต่ที่นี่เหมาะสมแล้วกับการยกย่องให้เป็นโรงแรมระดับ ๕ ดาวอันดับหนึ่งอย่างไร้คู่แข่ง

มัคคุเทศก์สาวนำเที่ยวที่ลาลัลก็หลายทริป หากแต่ไม่มีทริปใดเลยที่เจาะจงมาพักที่คิง เซอร์เพนท์ ทั้งนี้เพราะทางวิริยา ไทยทัวร์ ยังไม่มีคอนแทร็คหรือคู่สัญญาร่วมธุรกิจต่อกัน

และแน่นอนว่า เหตุผลข้อใหญ่ที่ทำให้เป็นเช่นนั้นคือ สนนราคาที่แพงระยับ ในขณะที่โปรแกรมของทางบริษัทปรับให้เข้ากับความต้องการท่องเที่ยวของคนส่วนมากมากกว่า

มัสลินรู้ว่า พายพัดเองคงนึกเสียดายไม่ต่างกัน แต่อย่างน้อย เพื่อนรักของเธอก็ยังคุ้นเคยกับโรงแรมกลางกรุงที่ยกระดับความหรูหราขึ้น หลังมีการเปลี่ยนมือผู้บริหารจากเพลิงกัลป์ ไปเป็นตามพ์ อย่าง เดอะ ฟินิกซ์ รีโซเทล

เมื่อนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา จินตนาการของเธอก็โลดแล่นย้อนกลับไป ครั้งได้เยือนโรงแรมที่มีสัญลักษณ์นกอมตะสีแดงเพลิง แลดูเข้ากันกับบุคลิกของคนปากร้ายที่คอยจ้องหาเรื่องเธออยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่แรกที่พบหน้ากัน

หรือต่อให้ปัจจุบันหลังจากที่หลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป เท่าที่มัสลินทราบ เพลิงกัลป์ยอมถอยจากสิ่งที่เคยเป็นของเขา เพียงเพื่อให้มันยังคงอยู่ แล้วเดินหน้าสร้างสรรค์สร้างอาณาจักรของตนเองขึ้นใหม่

รู้ค เปรียบได้ดังพญานกยักษ์ ... มันพร้อมจะต่อสู้และต้านทานทุกพายุร้ายที่โหมกระหน่ำ

มัสลินแปลกใจกับความคิดของตัวเองนัก หลายๆครั้ง เธอก็นึกเกลียดนิสัยร้ายๆที่เพลิงกัลป์เจาะจงแสดงใส่เธอ แต่พอมีเวลาหวนอดีตได้เห็นเขาในแง่นักธุรกิจ และผู้บริหารที่ไม่ยอมแพ้ เธอก็อดที่จะชื่นชมเขาไม่ได้

ถ้าหญิงสาวไม่เคยรู้จักเขามาก่อน นั่นคงเป็นข้อดีข้อเดียว ... ที่เธอจะมองอย่างปราศจากอคติใดๆ

“จะเดินชมโรงแรมทั้งคืนเลยมั้ย ฮึ”

คำถามของเพลิงกัลป์ทำลายสิ่งดีๆที่มัสลินพยายามคิดลงอย่างสิ้นเชิง ความเพลินตาเจริญใจหายวับ ด้วยน้ำเสียงของเขาคล้ายกึ่งเยาะกึ่งแคลน ... ในความรู้สึกของเธอ

“คุณก็เดินนำไปสิคะ ... ฉันไม่เคยมาที่นี่ ไม่ทราบหรอกว่า ต้องไปทางไหน”

มัสลินตอบเขาตามตรงและยืนรอให้เขาก้าวนำไป แต่แล้วโดยไม่คาดคิดมือข้างขวาที่ไม่ได้ถือกระเป๋า ก็ถูกมือใหญ่กร้านคว้ามากุมหลวมๆ ซึ่งเธอได้แต่ตะลึงตกใจจนลืมสะบัดหนี มีเพียงเสียงเข้มข้นที่ถูกเค้นเรียกสรรพนามแทนชื่อเขาเท่านั้น

“คุณ ...”

“ฉันไปพาเธอไปฆ่าหรอกน่า ... แต่ถ้าปล่อยเธอไว้ หรือให้เดินตาม เดี๋ยวก็ได้หลงแบบเมื่อคืนฟูลมูนอีกหรอก”

หญิงสาวถึงกับพูดไม่ออกเพราะเหตุการณ์นั้น นำพาให้เธอได้พบกับสิ่งที่ไม่คาดฝัน ... หลายๆอย่างเลยทีเดียว

เพลิงกัลป์ปรายสายตาเล็กน้อยเมื่อไม่มีเสียงค้าน มุมปากของเขายกยิ้มพอใจที่มัสลินดูจะเข้าใจสถานการณ์มากกว่าที่คิด

ผู้บริหารหนุ่มขยับมือของเขาที่กุมมือเธอไว้ให้กระชับยิ่งขึ้น ก่อนจะออกแรงดึงเล็กน้อยเป็นสัญญาณว่า ให้ออกเดินไปยังสถานที่อันเป็นที่หมายได้แล้ว

มัสลินขืนตัวนิดหน่อยตามสัญชาตญาณ ที่ไม่เคยให้ใครมาวิสาสะถูกเนื้อต้องตัว หรือแม้แต่อวัยวะทุกส่วนในร่างกาย และทันทีที่เพลิงกัลป์รู้สึกถึงปฏิกิริยาของเธอ เขาก็ก้มศีรษะลงมากระซิบจนแทบจะชิดติดใบหูดักคอว่า

“เก็บแรงเก็บเสียงที่จะโวยวายใสฉันไว้ก่อน เธอคงรู้นะว่า มาสถานที่แบบนี้ ... ควรทำตัวยังไง”

เป็นการปราบและปรามของเพลิงกัลป์ที่ได้ผลทีเดียว เพราะคำเตือนสตินี้ทำให้มัสลินต้องระงับคำพูดมากมายที่มาจ่อ ด้วยการเม้มริมฝีปากสกัดกั้นไม่ให้ความไม่พอใจพรั่งพรูออกมา

อาการคอแข็งมองตรงขณะที่มือขวาของไกด์สาวอยู่ในอุ้งมือซ้ายของท่านประธานรู้ค ทำให้เธอพลาดเห็นสีหน้าสะท้อนความรู้สึกลำพองใจ ว่าสามารถควบคุม ‘ยัยเด็กอวดดี’ ได้แล้ว

“งั้นก็รีบๆไปสิคะ ...”

มัสลินเอ่ยคล้ายออกคำสั่งเสียงเบา ด้วยท่าทางหน้าเชิดคอแข็งยืดตัวหลังตรงอย่างนี้ เธอไม่รู้หรอกว่า มันกระตุกอารมณ์คนที่ยืนขนาบข้างเช่นไร

เพลิงกัลป์ทำเป็นไม่สนใจคำพูดนั้น ก่อนจะก้าวขาไปยังห้องที่เวหาจับจองไว้สำหรับดินเนอร์ในค่ำคืนนี้

ทั้งสองคนจับจูงมือเดินเคียงข้างกันไป แม้จะไม่มีสายตาอื่นใดมาจับจ้อง หากในใจของมัสลินกลับไหวระทึกอย่างไม่อาจปิดบัง หรือซุกซ่อนไม่ให้ยอมรับกับตัวเองได้ เธอจึงต้องกดเก็บมันเอาไว้ภายใต้ท่าทีเรียบเฉยมึนตึง

และยิ่งเพลิงกัลป์กุมมือเธอแน่นขึ้น ... ก็ยิ่งทำให้อดนึกสงสัยไมไ่ด้ว่า เขาจะรู้สึกเหมือนที่เธอรู้สึก และกำลังสำรวจหัวใจอยู่ในตอนนี้ หรือไม่ ?














***************************************************************









โปรดติดตามตอนต่อไป ...


ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม ... ขอขอบคุณทุกไลค์กำลังใจ

คุณkaelek : หลังจากนี้ การเก็บไม่เก็บมือ คงยากสำหรับคุณไฟฮะ .. คุณkaelek ขอบคุณฮะ



แรมรติ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ต.ค. 2558, 11:10:59 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ต.ค. 2558, 11:10:59 น.

จำนวนการเข้าชม : 1147





<< ใยเส้นที่ 21 .. ใจที่เคลือบแคลง   ใยเส้นที่ 23 .. เหนือการควบคุม >>
kaelek 19 ต.ค. 2558, 13:54:30 น.
คุณไฟคะ จะทำอะไรก็นึกถึงใจตัวเองในอนาคตบ้างนาาา เดี๋ยวพอรู้ใจตัวเองแล้ว จะง้อลำบากนะจะบอกให้


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account