ห่างไกลเหลือเกิน
ภาคภูมิและจริงใจ สองเพื่อนรักที่กลายมาเป็นคนรักกันในที่สุด
จะเป็นอย่างไร เมื่อจริงใจอยากได้เพื่อนรักของเธอกลับคืน
พบกับความรักของคนสองคนที่แม้จะอยู่ใกล้กัน แต่ก็เหมือนไกลออกไปทุกที
ห่างไกลเหลือเกิน
จะเป็นอย่างไร เมื่อจริงใจอยากได้เพื่อนรักของเธอกลับคืน
พบกับความรักของคนสองคนที่แม้จะอยู่ใกล้กัน แต่ก็เหมือนไกลออกไปทุกที
ห่างไกลเหลือเกิน
Tags: เพื่อนสนิท เพื่อนรัก รัก
ตอน: ตอนที่ 13
"เจ็บใจจริงๆ งานไม่ผ่านเพราะพี่จริงใจอีกละ เซ็ง...." ฟ้าพูดขึ้นทันทีที่ถึงโต๊ะ เธอกระแทกตัวลงที่นั่งอย่างแรง เล่นเอาคนอื่นๆที่ตามมาด้วยตกใจ
"ใช่พี่! เจ๊โหดไม่เคยยอมปล่อยพวกเราไปง่ายๆเลย... " น้องนก ลูกน้องคนสนิทรีบบอกทันที
"แต่คราวนี้พวกเราก็ผิดจริงๆไม่ใช่เหรอ พี่เขาให้เวลาคิดตั้งหลายวัน สุดท้ายพวกเราก็ออกไปเมากันทุกคืน พอเช้ามาทำงานก็แฮงค์ แฮงค์ก็คิดงานห่วย แล้วจะโทษใคร" ป๋วยรีบบอก ผู้หญิงทุกคนที่อยู่ตรงนั้นทำหน้าหมั่นไส้
"แกอย่ามาเข้าข้างเจ๊เขาหน่อยเลย แกเห็นเขาสวยใช่มั้ยละแกเลยพูดอย่างนี้" ผู้หญิงที่อยู่ถัดจากฟ้าอีกคนแหวขึ้น ป๋วยส่ายหน้า
"ไร้สาระ... ฉันพูดตามที่ฉันเห็นเว้ย! พอพวกเรารู้ว่างานนี้ต้องทำกับเจ๊ พวกเราก็เซ็ง ไม่อยากทำ ออกไปกินกันทุกวันก็รู้ๆกันอยู่ ที่วันนี้เราโดนเด้งงาน ฉันไม่เห็นจะแปลกใจ จะแค้นเขาไปทำไม พวกเราทำตัวเองกันทั้งนั้น"
พนักงานผู้หญิงคนอื่นยังจิ๊จ๊ะ ในขณะที่ผู้ชายหลายคนยังนิ่งอยู่
"ว่าแต่พี่กิ่งแกก็ดี๊ดีเนอะ ... ช่วยพูดให้พวกเราด้วย" น้องผู้หญิงกราฟฟิกที่อยู่ริมสุดทำลายความเงียบ ผู้หญิงทุกคนต่างพยักหน้า เว้นก็แต่ผู้ชายที่คิดไม่เหมือนกัน
"แต่แค่เริ่มก็ไม่ไหวละนะ มาสายทุกวัน แถมประชุมก็ไม่ได้อ่านข้อมูลเลย ฉันคิดว่าฉันสามารถนำวันที่ยัยนี่มาทำงานได้เลยนะ ไม่เคยเห็นหัวเลยที่บริษัท แค่คิดว่าต้องมาเป็นหัวหน้าให้ฉันก็สยอง" หนุ่มกราฟฟิกอีกคนส่ายหัวเถียงทันที เช่นเดียวกับป๋วย
"ใช่... ฉันไม่โอเคนะ ทำงานแบบนี้ก็ไม่น่าไหว"
"พวกแกอย่าพูดเกินจริงได้ปะ อย่างน้อยเขาก็ใจดีกว่าพี่จริงใจของพวกแกแหละน่า"
"ใจดีกับไม่มีความรับผิดชอบมันไม่เหมืนกันนะ แยกให้ถูก"
"เฮ้ย ของอย่างนี้ต้องดูกันนานๆ พี่กิ่งพึ่งมาได้ไม่เท่าไหร่เอง แกอย่าพึ่งไปตัดสินเขาดิ"
"แต่พี่เขาสวยวะ สเปคเลย"
"ขาสวยเป็นบ้า"
"ฮ่าฮ่าฮ่า"
ท่ามกลางเสียงบทสนทนาที่พูดกันจนเรื่อยมา มีใครคนหนึ่งที่ได้ยินบทสนาทนามาตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ จริงใจที่ถือแฟ้มแอบอยู่หลังกำแพง กำลังแอบฟังบทสนทนานั้นอยู่ ... ความจริงก็ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังหรอก ... แต่มันบังเอิญเข้ามาได้ยินก็เลยต้องทนฟังจนจบ
พนักงานทุกคนคงไม่ชอบเธอมาก ถึงขนาดออกไปดื่มกันทุกคืน เพราะไม่อยากทำงานที่เธอสั่ง
เป็นข้อมูลใหม่ ที่กระทบกระเทือนจิตใจพอสมควร
ไหนจะยัยกิ่งหักกิ่งเน่าที่ได้คะแนนใจจากพนักงานคนอื่นๆกันเต็มเปี่ยม คนทำงานอย่างนี้ก็ยังได้รับความรัก
โลกยังมีความยุติธรรมอยู่มั้ย
จริงใจพยุงตัวขึ้นหลังจากที่พิงกำแพงฟังอยู่นาน เธอเลือกเดินไปเข้าห้องอีกทาง เพราะไม่อยากให้ใครเห็น เธอเริ่มเก็บของในห้องอย่างเชื่องช้า มือไม้สั่นเบาๆ แล้วประมวลผลกับสิ่งที่เมื่อกี้พึ่งได้ฟัง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินพนักงานพูดถึงเธอเต็มๆไปเป็นครั้งแรก บอกตรงๆเธอเสียใจ ความจริงก็รู้มาบ้างว่าพนักงานไม่ค่อยชอบเธอนัก แต่ก็ไม่นึกว่าจะรุนแรงขนาดนี้ พอมาได้ยินกับหูตัวเองแล้ว ก็ถึงกับเศร้าเลยทีเดียว ความคิดมากเรื่องวินหายไปหมด เหลือแต่เร่ืองนี้มาแทนที่ สิ่งที่เธอเฝ้าพยายามมาทั้งหมด มันไม่มีความหมายเลยเหรอ
เธอยืนพิงโต๊ะตั้งสติสักพักแล้วเก็บของต่อ เสียงเคาะประตูดังขึ้น
"แกเป็นอะไรรึเปล่า ดูเหนื่อยๆ" ยิ้มโผล่หน้าเข้ามาทัก เมื่อเห็นเพื่อนมีสีหน้าไม่ดีเลยผ่านกระจกใส จริงใจส่ายหน้า พร้อมเก็บของต่อเร็วๆ
"ไม่มีอะไร เดี๋ยววันนี้ฉันอาจจะต้องออกก่อน"
"เออ รู้แล้ว.. แกอยากให้ฉันขับรถให้เปล่า? ฉันไปเป็นเพื่อนได้นะ"
"ไม่ต้อง.. ฉันไม่ได้เป็นอะไร แกอยู่นี่ไปเหอะ เดี๋ยวไม่มีคนอยู่บริษัทเลย มันจะยุ่ง"
"โอเคๆ ฉันไม่ไปเป็นก้างหรอกนะ"
"นี่!!!!"
"โอ๋ๆ ล้อเล่นๆ โอเคนะ"
"เล่นไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวจะโดน" จริงใจระเบิดอารมณ์ใส่ยิ้มอย่างไม่รู้ตัว เมื่อเห็นยิ้มเงียบไป จริงใจจึงต้องปรับสภาพอามณ์ใหม่ เธอถอนหายใจแล้วพูดขึ้น
"เดี๋ยวฉันไปก่อนนะ" จริงใจสะพายกระเป๋า และยกแฟ้มกระชับขึ้นที่อก ก่อนคว้ากุญแจรถขึ้นมาอย่างว่องไว ยิ้มบอกลานิดๆ แล้วบอก
"ฝากทักทายไอ้วินด้วยนะ บอกว่าไว้ว่างแล้วจะแวะไปหา" จริงใจพยักหน้ารับรู้ ตบบ่ายิ้มเบาๆแล้วเดินจากไป ทิ้งไว้แต่ยิ้มให้อยู่ในห้องเพียงลำพังด้วยความสงสัย อะไรทำให้จริงใจหัวเสียขนาดนี้
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ท้องฟ้านอกหน้าต่างเครื่องบินโบอิ้ง 77 ลำใหญ่เป็นสีฟ้าอ่อนสดใส คลุกเคล้าไปด้วยก้อนเมฆสีขาวก้อนเล็กก้อนใหญ่ไปทั่ว บอกได้ว่าวันนี้เป็นวันที่อากาศดีที่สุดในรอบหลายวันที่ผ่านมา วินนั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง ในมือยังกำ ipod touch ไว้แน่น หูฟังยังคงเสียบเอาไว้ที่หูข้างเดียว สายตาเขาลอยออกไปไกล เหมือนคิดอะไรอยู่
"เราว่าเราจะถามวินนานละ" เสียงพลอยเปิดบทสนทนาขึ้นเมื่อเห็นวินเงียบหายเข้าไปในโลกของตัวเองนานเกินไป วินหันมานิดๆเป็นเชิงอนุญาต
"ทำไม วินยังใช้ ipod touch อยู่อะ? ฟังในมือถือก็ได้นี่ ถือสองเครื่องสามเครื่องเกะกะออก" พลอยถาม... เพราะพลอยไม่เคยเห็นวินปล่อยให้ ipod เครื่องนี้ห่างออกจากตัวเลย
"ก็ไม่มีอะไรมาก ใช้มานาน มันเลยติดนะ"
"เหรอ?แค่นั้นจริงๆเหรอ?"
"อืมม จริงสิ ทำไม มีอะไร พลอยอยากฟังเหรอ? ฟังด้วยกันมั้ย?" วินบอก พร้อมยื่นหูฟังข้างที่เหลือให้พลอยฟัง พลอยรับมาอย่างตื่นเต้น
"เอาสิ" พลอยรับหูฟังอีกข้างที่ได้มา ขึ้นมาใส่หูของตัวเองทันที
เสียงแรกที่ได้ยิน คือเสียงกีตาร์ทำนองเบาสบายแทรกผ่านเข้ามาในความรู้สึก สร้างความสนิท และคุ้นเคยอย่างประหลาด แต่ถ้าจะให้บอกว่าเพลงที่วินฟังอยู่ตอนนี้เป็นเพลงอะไร... พลอยไม่รู้จักหรอก แค่ฟังแล้วรู้สึกชอบมากก็เท่านั้น
เวลาที่ฟ้าเป็นสีชมพูอ่อน เวลาที่ฉันเดินทาง
ไปกับความเหงา ความเดียวดาย
เวลาที่ท้องทะเลเป็นสีคราม เวลาที่ฉันเดินทาง
พบกับความสวยงาม... สักวันนึง...
พลอยฟังเพลงเรื่อยมา จนสักพัก ก็เงยหน้าขึ้นมามองวินที่หลับตาฮัมเพลงเบาๆ ตอนนี้หน้าของวินใกล้กับของพลอยมาก จนพลอยรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆของคนที่นั่งอยู่ข้างกาย มันทำให้หัวใจพลอยเต้นเสียงดังโครมคราม และรู้สึกว่าเพลงนี้เพราะขึ้นมาอีกหลายร้อยเท่า เหมือนโลกนี้ มีแค่วิน และ พลอย กับเพลงนี้เท่านั้น
อยากมีเธออยู่ตรงนี้ ด้วยกัน...
ในดินแดนดั่งความฝัน ข้างกาย...
อยากมีเธออยู่ตรงนี้... ข้างกัน...
อาบละอองแห่งความรัก
...ชั่วนิรันดร์...
พลอยหลับตา และซึมซับกับเพลงไปพร้อมๆกัน เสียงกีตาร์เบาๆ ทำให้พลอยเพลิดเพลิน ตอนนี้เครื่องบินเดินทางมาไกลแค่ไหนแล้ว พลอยไม่รู้... ชีวิตของพลอยและวินหลังจากถึงที่กรุงเทพฯ ทุกอย่างจะเป็นอย่างไร พลอยก็ไม่รู้ แต่ที่พลอยรู้ คือถ้าเป็นไปได้ พลอยก็อยากจะมีวินข้างกายเหมือนอย่างนี้ ชั่วนิรันด์ ตามที่เพลงเขาร้องบอกไว้เช่นเดียวกัน
…ถ้าเป็นไปได้นะ…
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
"นี่แกอยู่ไหนแล้ว?" เสียงคุณนายติ๋มคาดคั้น ขณะที่จริงใจกำลังขับรถมุ่งหน้าสู่นามบิน
"อยู่บนรถแล้ว" เธอตอบ พร้อมหรี่เสียงวิทยุให้เบาลง
"ไฟลท์กี่โมงนะ?"
"บ่ายสาม"
"เออ ดี! ฉันจะได้ออกไปซื้อกับข้าว"
"โห!! จะรีบซื้อเลยเหรอ ยังไม่รู้เลยว่ามันจะกลับมากินด้วยกันรึเปล่า"
"แกก็ต้องลากมันมาให้ได้สิ บอกมันว่าแม่คิดถึง ยังไงมันก็ต้องมา"
"เฮ้อออ.. หนูจะพยายามนะ แต่ก็ไม่รับปาก"
"ต้องลากมาให้ได้ ฉันคิดถึงมันจะแย่"
"อืม"
หนูก็คิดถึงมันเหมือนกัน จริงใจคิด แต่ไม่ได้ตอบออกเสียงออกไป บทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างจริงใจกับคุณนายติ๋มจบลง แต่สิ่งที่อยู่ในหัวของจริงใจตอนนี้ยังคงอยู่
เธออยากเจอวินมากๆ โดยเฉพาะตอนนี้... ตอนที่มีเรื่องมากมายเข้ามาหาพร้อมกันหลายๆเรื่อง ทั้งเรื่องงาน ... เรื่องลูกน้อง ... เรื่องกิ่ง .... หรือแม้แต่เรื่องของพี่กิต จริงใจก็อยากที่จะแชร์ อยากจะเล่า และอยากระบายให้วินฟังทั้งหมด…ยิ่งวันนี้ วันที่เธอได้รู้ว่า ตัวเองก็เป็นเพียงแค่คนๆหนึ่ง ที่ไม่มีใครคนไหนอยากทำงานด้วย จริงใจยิ่งอยากให้วินมาอยู่ข้างๆ เหมือนเมื่อก่อน... เหมือนที่เคยทำกันมาเสมอ
แม่เคยบอกว่า การมีเพื่อนดีที่คอยรับฟังยามเรามีปัญหา เป็นวิธีการรักษาที่ดีที่สุด และวินคือเพื่อนคนนั้นๆ จริงใจจะเป็นคนเล่า และวินจะเป็นคนฟัง … เป็นอย่างนี้เสมอๆ ตั้งแต่เด็กๆแล้ว
แต่ก็ไม่รู้ว่าทุกอย่างจะเหมือนเดิมรึเปล่า... วินจะยังคงเป็นผู้รับฟังของเธอเหมือนกับที่ผ่านมาได้อยู่มั้ย? ไม่เจอกันนานขนาดนี้ ทั้งเธอและเขา จะสามารถเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้รึเปล่านะ?
…เพื่อนที่สนิทใจ…
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ จริงใจก็ยิ่งอยากเจอวินให้เร็วขึ้น เธอเปิดเพลงให้เสียงดัง ไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปให้หมด แล้วเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็ว รถบนทางด่วนตอนนี้ไม่เยอะมาก เพราะเป็นเวลากลางวัน จริงใจกะเวลาให้ไปถึงที่สนามบินทันอย่างสบายๆ
แต่ ... ปัง!!
เกิดเสียงดังขึ้นจากท้ายรถจนจริงใจถึงกับสะดุ้ง จริงใจรู้สึกได้ถึงการยุบตัวของรถทางด้านฝั่งขวา และมีเสียงดังครืดตามมา จริงใจไม่สามารถควบคุมรถได้ บ่งบอกชัดเจนแล้วว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติ จริงใจชิดซ้ายแล้วเปิดสัญญานไฟฉุกเฉิน และเมื่อเปิดประตูออกมา จริงใจก็ได้พบกับความเป็นจริงอันน่าปวดหัว
"ยางแตก!!" จริงใจตะโกนกับตัวเองอย่างหัวเสีย แล้วมองนาฬิกาที่ข้อมือ เห็นเวลาเข้ามาใกล้เต็มทีก็ยิ่งร้อนรน เธอหยิบมือถือขึ้นมาเตรียมจะโทรออก แต่ก็พบว่า แบตเตอรี่หมด...
"มาหมดอะไรเอาตอนนี้เนี่ย" เธอบ่นอย่างหัวเสีย พร้อมโยนมือถือกลับเข้าไปในรถ เธอยืนลังเลอยู่นาน แล้วในที่สุดเธอก็ตัดสินใจ
"เอาวะ" เธอพึมพำกับตัวเองอีกรอบ แล้วเดินไปเปิดท้ายรถ หยิบยางอะไหล่และกล่องเครื่องมือออกมา แล้วเริ่มต้นเปลี่ยนยางตรงหน้าด้วยความรวดเร็ว เธอเคยเห็นพ่อทำมาสอง-สามครั้ง เธอมั่นใจว่าเธอทำได้
จริงใจเริ่มต้นเปลี่ยนยางอะไหล่ อย่างทุลักทุเล เพื่อหวังว่าเธอจะสามารถไปรับเพื่อนคนสำคัญได้ทันเวลา
ทั้งๆที่มันเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะไปให้ทันเวลานัด
แต่จริงใจก็ยังพยายาม
ดูเหมือนว่าวันนี้ จะไม่ใช่วันของจริงใจสักเท่าไหร่
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
เวลา 3:35 pm
เครื่องบินที่มุ่งหน้าจากนิวยอร์ก สู่กรุงเทพมหานคร แลนด์ดิ้งลงอย่างปลอดภัย วินทยอยเอาของออกจากชั้น และเดินนำหน้าพลอยมาไวๆ
"วิน ทำไมรีบเดินจัง" พลอยถามไปวิ่งไป เพราะตามวินไม่ทัน วินไม่ตอบ เขาพยายามทำทุกอย่างอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่รอกระเป๋า ตรวจคนเข้าเมือง ไปจนถึงการวิ่งหาทางอออกให้เร็วที่สุด
เสียงวินหอบเล็กน้อยดังขึ้น เมื่อพ้นประตูทางออกมา วินหยุดหายใจเล็กน้อยแล้วเริ่มมองส่องไปทั่วๆบริเวณ มีผู้คนออกันอยู่หน้าประตูทางออกมากมาย แต่ยิ่งวินพยายามมองหาเท่าไหร่ ยังไงวินก็หาจริงใจไม่เจอ ท่ามกลางผู้คนที่อยู่ตรงหน้า ไม่มีจริงใจอยู่ตรงนั้น
ทุกอย่างดูเคว้งคว้าง... วินไม่อาจซ่อนความผิดหวังไว้ได้เลย
เพราะเขาหวังไว้มากจริงๆ ว่าเมื่อเขาก้าวออกมาจากประตูทางออก .... เขาจะพบจริงใจเป็นคนแรก
แต่มันก็ไม่ใช่!!!
หรือจริงใจจะลืม?
ไม่มีทาง ต้องเกิดอะไรขึ้นแน่ๆ จริงใจถึงยังไม่มา
เขาหยิบ ipod touch ขึ้นมา .. เช๊กข้อความแชทที่ส่งกันตามกปกติ แต่ก็ไม่ได้มีข้อความใหม่จากจริงใจใดใด วินรีบวิ่งไปหาโทรศัพท์ที่ใกล้ที่สุด แล้วกดโทรออกตามหมายเลขโทรศัพท์ที่จำได้ขึ้นใจ
"ไม่มีสัญญานตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก" เสียงสัญญานโทรศัพท์ตอบรับดังกลับมาแทนที่ วินชะงักแล้ววางหูโทรศัพท์สาธารณะลง เขาเดินคอตกกลับมาหาพลอยที่ยืนรออยู่แล้ที่มุมหนึ่ง พร้อมกระเป๋าสัมภาระมากมาย
"เป็นไง ได้เรื่องเปล่า?" พลอยถาม
"เพื่อนเราไม่รับโทรศัพท์อะ ... พลอยกลับก่อนก็ได้นะ เราขอรอเพื่อนอยู่ที่นี่" วินบอก พลอยส่ายหน้าทันที
"ไม่อะ ... กลับพร้อมกันสิ มาด้วยกันก็กลับพร้อมกัน"
"แต่เพื่อนเรายังไม่มาเลยอะ ไม่รู้ว่าลืมรึเปล่า"
"วินก็กลับกับเราสิ กลับตอนนี้เลย"
".... ไม่ดีกว่า เดี๋ยวถ้ามันมา แล้วไม่เจอจะคลาดกันเปล่าๆ พลอยกลับไปก่อนได้เลยนะ"
"ไม่เอาอะ เรื่องอะไร รอด้วยกันนี่แหละ วินไป พลอยถึงจะไป"
พลอยยังยืนยัน
วินที่เกียจจะเถียงกับความดื้อดึงจึงพยักหน้าอยางจำยอม
ทั้งคู่เดินไปรอร้านอาหารที่ไม่ใกล้ไม่ไกลละแวกนั้น แล้วเริ่มต้นการรอคอยที่ไม่ได้ถูกวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าอย่างช่วยไม่ได้
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
"นี่มันวันซวยอะไรกันวะ!!!!"
จริงใจตะโกนออกมาอย่างเหลืออด เมื่อการเปลี่ยนยางยากกว่าที่เธอคิดไว้มาก เธอโยนประแจลงพื้นอย่างหัวเสีย แล้วยืนขึ้นปาดเหงื่ออย่างหงุดหงิด ทั้งเรื่องพนักงาน ยางก็แตก ไปรับวินสายอีก นี่มันวันซวยแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย จริงใจหัวเสียเกินกว่าจะตั้งสติเอาไว้ได้ เธอถอนหายใจ เสยผม ตั้งสติอย่างจนใจ แล้วเริ่มต้นลงไปขันน๊อตเจ้าปัญหา ที่ไขเท่าไหร่ก็ไขไม่ได้สักทีต่อ
"โอ๊ย!!" เธอร้องขึ้นทันทีเมื่อประแจเผลอหลุดออกจากมืออย่างแรง เบื้องหน้าเผยให้เห็นรอยเล็บฉีก ปนกับเลือดสีแดงสดที่ไหลออกมาเป็นทาง บัดนี้มือเรียวที่เคยสวยงาม ไม่ได้เป็นเช่นนั้นอีกแล้ว มันเต็มไปด้วยรอยเปื้อนจากยาง ผสมกับเลือดสดสดอย่างน่ากลัว
เลยเวลาไฟลท์วินมานานมากแล้ว ไม่รู้ว่าวินจะยังรออยู่ที่สนามบินอยู่รึเปล่า ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงตอบได้อย่างเต็มปาก ว่าวินต้องรอเธออยู่แน่นอน แต่หลังจากผ่านเรื่องราวแย่ๆวันนี้มาทั้งหมด เธอก็ไม่เหลือความมั่นใจอะไรทั้งนั้น
ก็วันนี้มันไม่ใช่วันของเธอนี่!
หลังจากคิดฟุ้งซ่านไปต่างๆนานาได้ไม่นาน ในที่สุด... ก็มีรถหรูคันนึงเปิดไฟกระพริบหลบเข้าข้างทางต่อท้ายคันของเธอ สวรรค์คงมีตาสงสารเธอบ้างสักนิดแล้ว มีใครบางคนกำลังมาช่วยเธอแล้วจริงๆ
"จริงใจ!!" เสียงตะโกนดังขึ้นทันทีที่ประตูรถถูกเปิดออกออกมา ตรงหน้าจริงใจคือผู้ชายใส่แว่นดำที่จริงใจคุ้นหน้าคุ้นตา
"พี่กิต? พี่กิตเหรอคะ?" จริงใจถามอย่างไม่แน่ใจ เพราะทรงผมที่เปลี่ยนไป และแว่นดำที่ทำให้ไม่คุ้นหน้า อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น เธอลากตัวเองที่ดูหมดสภาพไปหาพี่กิตอย่างเก้ๆกังๆ
"ใช่...พี่เอง รถเป็นอะไรครับ?" กิตถามขึ้นทันทีเมื่อถึงตัว จริงใจรีบบอกอย่างตื่นเต้น
"ยางแตกค่ะ ทำมาตั้งนานแล้ว ทำไม่ได้เลย เหมือนมันไม่เข้าล๊อคอะค่ะ พี่กิตช่วยดูให้จริงได้มั้ยคะ?"
"ไหนขอพี่ดูหน่อย"
พี่กิตผลักจริงใจไปด้านข้างเบาๆ แล้วก้มลงดู พี่กิตจัดการอยู่สักพัก หยิบนู่น หมุนนี่ ไม่นานนัก สิ่งที่จริงใจพยายามทำมานานแสนนานก็สำเร็จลงอย่างง่ายดาย
"เสร็จแล้วครับ น่าจะใช้ได้แล้วนะ"
"ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ไม่ได้พี่กิตสงสัยจริงต้องนอนบนทางด่วนแน่ๆเลย"
"ไม่เป็นไรครับ เรื่องแค่นี้เอง พี่เห็นคนเปิดไฟกระพริบ ก็คิดว่าคงต้องอยากได้ความช่วยเหลือ .. ไม่คิดว่าจะเป็นจริงใจเท่านั้นเอง"
"จริงโชคดีจังค่ะ จริงขอบคุณพี่กิตอีกครั้งนะคะ" เธอบอกขอบคุณอีกครั้ง พี่กิตสายหน้า จริงใจมองดูเวลาที่ข้อมืออย่างร้องรนแล้วเอ่ยต่อ
"เอ่อ พี่กิตคะ คือจริงต้องไปก่อนแล้วละค่ะ จริงต้องรีบไปรับเพื่อนที่สนามบิน ป่านนี้คงรอแย่แล้ว" จริงใจพูดอย่างเกรงใจ พี่กิตพยักหน้ารับรู้
"จริงรีบไปเถอะครับ ขับรถดีดีนะ"
"พี่กิตด้วยนะคะ ไว้จริงขอเลี้ยงข้าวตอบแทนนะ" เธอรีบบอก พี่กิตพยักหน้า พร้อมเปิดประตูให้เธอขึ้นรถไป เธอขอบคุณเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนขับรถออกมาด้วยความเร่งรีบ เธอมองกระจกหลังอีกรอบอย่างนึกขอบคุณคนที่เธอเพิ่งทิ้งมา ถ้าไม่ได้พี่กิต คืนนี้ ไม่เธอที่ต้องนอนบนทางด่วน ก็เห็นว่าจะต้องเป็นวินที่นอนอยู่สนามบินแน่ๆ
ไม่รู้ว่าป่านนี้วินจะยังรอเธออยู่มั้ย แต่จริงใจไม่สน เธอเหยียบชนิดลืมเบรก ปาดซ้ายปาดขวาจนโดนชาวบ้านบีบแตรด่าเป็นแนวยาว แต่เธอก็ยังไม่ลดความเร็วลง เธอใช้เวลาไม่นานนัก สุดท้ายรถก็มาหยุดอยู่ที่อาคารขาเข้าของสนามบิน จุดหมายสำคัญที่เธอควรจะถึงตั้งแต่สองชั่วโมงที่แล้วแล้ว จริงใจวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต เธอค่อยๆกระโดดหาวินจากผู้คนนับร้อย ที่อยู่รอบๆ แต่ก็ไม่เจอ เธอจึงรีบวิ่งไปที่ส่วนของร้านอาหารที่อยู่อีกด้าน ด้วยความหวังว่าวินจะไปรอเธอแถวนั้นบ้าง
ชายหนุ่มผมสั้น ส่วนสูงประมาณ 180 ผิวขาว โครงหน้าคมเข้ม
คือลักษณะของวิน เพื่อนสนิทที่เธอกำลังตามหา
แต่ก็ไม่เจอเลย…
ผ่านร้านอาหารร้านแล้วร้านเล่า แต่ก็ไม่มีวี่แววของวินอยู่เลยสักร้าน
ร้านต่อไปเป็นร้านสุดท้ายของสนามบินแล้ว
ถ้าเข้าไปดูในร้านนี้แล้วไม่เจอ ก็ควรจะตัดใจไปได้เลย วินคงไม่รอเธอแล้วละ
จริงใจเดินเข้าร้านไปอย่างกล้าๆกลัวๆ ภาวนาให้วินรอเธออยู่อย่างที่เธอนึกหวัง
นั่นไง! ที่โต๊ะตัวสุดท้าย มีผู้ชายผมสั้นคนนึงนั่งก้มหน้าอยู่ เหมือนวินเลย
เธอคิด พร้อมกับรีบวิ่งไปที่โต๊ะตัวนั้น แต่ทันทีที่ผู้ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมา เธอก็ต้องชะงัก
ไม่ใช่!
ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่วิน
ผู้ชายคนนั้นเงยหน้ามองจริงใจอย่างแปลกๆ แล้วกลับลงไปใจจดใจจ่อกับโทรศัพท์ของตัวเองต่อ
จริงใจหน้าเจื่อนทันที เธอเดินคอตก กลับหลังหัน และเดินออกมาอย่าเชื่องช้า
'นี่ร้านสุดท้ายแล้วนะ ถ้าวินไม่อยู่ที่นี่แล้ววินจะไปอยู่ที่ไหน?'
เธอคิด
'นี่ไม่รอกันจริงๆเหรอ?'
เธอคิดอีก
'บ้า บ้าที่สุด! รอกันหน่อยก็ไม่ได้'
เธอคิดอย่างผิดหวัง พร้อมปาดเหงื่อที่ซกหน้าออกมาอย่างเจ็บใจ
จริงใจมุ่งหน้าสู่ประตูทางออกอย่างเหงาหงอย พลางคิดว่า สงสัยอาหารของป้าติ๋มจะเป็นหมันเสียแล้วแหละวันนี้ จริงใจก้าวต่อไปจนไปถึงประตูทางออก เตรียมมุ่งหน้าขึ้นรถกลับบ้านไปบอกข่าวร้ายให้คนที่บ้านรู้อย่างช่วยไม่ได้ ก็วันนี้เธอมาสายเองนี่ ประตูหมุนถูกผลักต่อไปเร็วๆอย่างชำนาญ เธอมองตรงไปข้างหน้า สายลมพัดผ่านบางๆอย่างไม่ทันรู้ตัว จากภาพไกลก็ค่อยๆชัดขึ้น ใครคนหนึ่งที่คุ้นเคยนั่งอยู่บนรั้วกั้นประตูอยู่ตรงหน้า
...ไม่คิดไม่ฝัน...
วินนั่งอยู่ตรงนั้น
ใครคนที่เธอใช้เวลาในการเดินทางมาหาถึงส่ีชั่วโมงได้มาอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว
วินมานั่งรอเธอที่เสาหน้าประตูทางออกอย่างที่ไม่นึกไม่ฝันจริงๆ
เขามองเธอนิ่งเหมือนนกรู้ ส่งสายตาและรอยยิ้มแบบที่เธอไม่ได้เห็นนานแล้วมาให้
"สวัสดีจริงใจ... ไม่เจอกันนานนะ" เขาส่งเสียงทักทายด้วยน้ำเสียงสบายๆ ไม่นึกโกรธคนมาสายที่อยู่ตรงนี้ ฟังแล้วจริงใจก็อดรู้สึกไม่ได้เลย เธอไม่อยากจะเชื่อ ว่าเพื่อนของเธอกลับมาแล้ว
"...กลับมาแล้วเหรอ" เธอถามเพื่อย้ำตัวเองอีกครั้ง วินยิ้มพร้อมกระโดดลงมาหาอย่างรวดเร็ว
"กลับมาแล้ว..." เขาย้ำ พร้อมสวมกอดจริงใจเบาๆ ความอบอุ่นแล่นผ่านมาแทนที่ความเหนื่อยล้าที่เคยมี ไม่นานนัก จริงใจก็กอดวินตอบ
"ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะเพื่อน"
จริงใจกระซิบให้วินฟังอีกครั้ง วินพยักหน้า
"ขอบคุณนะ" วินพูดตอบ พร้อมกระชับกอดให้แน่นขึ้น
ตอนนี้เขาคิดว่า...เขาได้กลับบ้านอย่างแท้จริงแล้ว
"เอ่อ…" เสียงผู้หญิงคนนึงขัดจังหวะขึ้น วินค่อยๆผลักออกจากจริงใจแล้วหันไปทางต้นเสียง พลอยคือเจ้าของเสียงนั้น
"อ้าวพลอย ซื้อน้ำเสร็จแล้วเหรอ?" วินถามเมื่อเห็นผู้หญิงคนตรงหน้ากลับมาพร้อมแก้วน้ำในมือสองใบ จริงใจมองพลอยอย่างฉงนสงสัย ไม่ได้ถึงกับตกใจ แต่ก็เรียกได้ว่าตั้งตัวไม่ทันมากกว่า วินเห็นอย่างนั้น จึงแนะนำทั้งสองฝ่ายให้รู้จัก
"เอ้อ จริงใจนี่เพื่อนฉัน ชื่อพลอย กลับมาจากนิวยอร์กด้วยกัน ... ส่วนนี่จริงใจนะ เพื่อนที่เราบอกพลอยนะ" วินแนะนำ ทั้งจริงใจและพลอยที่มัวแต่อึ้งได้แต่พยักหน้าทำความรู้จัก พร้อมกับส่งยิมซีดๆให้กัน พลอยแนะนำตัวเองอีกครั้ง
"สวัสดีค่ะจริงใจ เราเป็นทำงานร้านเดียวกับวินที่นิวยอร์ก ชื่อพลอยนะ" เธอบอกอีกรอบ
จริงใจพยักหน้าอย่างเชื่องช้า … เธอตั้งตัวไม่ทัน
วินไม่ได้กลับมาคนเดียว
แต่กลับมาพร้อมผู้หญิงอีกคน
ความรู้สึกอิ่มเอมเมื่อกี้หายวับไปอย่างกับเวทมนตร์
วันนี้ คงไม่ใช่วันของเธอจริงๆนั่นแหละ
"ใช่พี่! เจ๊โหดไม่เคยยอมปล่อยพวกเราไปง่ายๆเลย... " น้องนก ลูกน้องคนสนิทรีบบอกทันที
"แต่คราวนี้พวกเราก็ผิดจริงๆไม่ใช่เหรอ พี่เขาให้เวลาคิดตั้งหลายวัน สุดท้ายพวกเราก็ออกไปเมากันทุกคืน พอเช้ามาทำงานก็แฮงค์ แฮงค์ก็คิดงานห่วย แล้วจะโทษใคร" ป๋วยรีบบอก ผู้หญิงทุกคนที่อยู่ตรงนั้นทำหน้าหมั่นไส้
"แกอย่ามาเข้าข้างเจ๊เขาหน่อยเลย แกเห็นเขาสวยใช่มั้ยละแกเลยพูดอย่างนี้" ผู้หญิงที่อยู่ถัดจากฟ้าอีกคนแหวขึ้น ป๋วยส่ายหน้า
"ไร้สาระ... ฉันพูดตามที่ฉันเห็นเว้ย! พอพวกเรารู้ว่างานนี้ต้องทำกับเจ๊ พวกเราก็เซ็ง ไม่อยากทำ ออกไปกินกันทุกวันก็รู้ๆกันอยู่ ที่วันนี้เราโดนเด้งงาน ฉันไม่เห็นจะแปลกใจ จะแค้นเขาไปทำไม พวกเราทำตัวเองกันทั้งนั้น"
พนักงานผู้หญิงคนอื่นยังจิ๊จ๊ะ ในขณะที่ผู้ชายหลายคนยังนิ่งอยู่
"ว่าแต่พี่กิ่งแกก็ดี๊ดีเนอะ ... ช่วยพูดให้พวกเราด้วย" น้องผู้หญิงกราฟฟิกที่อยู่ริมสุดทำลายความเงียบ ผู้หญิงทุกคนต่างพยักหน้า เว้นก็แต่ผู้ชายที่คิดไม่เหมือนกัน
"แต่แค่เริ่มก็ไม่ไหวละนะ มาสายทุกวัน แถมประชุมก็ไม่ได้อ่านข้อมูลเลย ฉันคิดว่าฉันสามารถนำวันที่ยัยนี่มาทำงานได้เลยนะ ไม่เคยเห็นหัวเลยที่บริษัท แค่คิดว่าต้องมาเป็นหัวหน้าให้ฉันก็สยอง" หนุ่มกราฟฟิกอีกคนส่ายหัวเถียงทันที เช่นเดียวกับป๋วย
"ใช่... ฉันไม่โอเคนะ ทำงานแบบนี้ก็ไม่น่าไหว"
"พวกแกอย่าพูดเกินจริงได้ปะ อย่างน้อยเขาก็ใจดีกว่าพี่จริงใจของพวกแกแหละน่า"
"ใจดีกับไม่มีความรับผิดชอบมันไม่เหมืนกันนะ แยกให้ถูก"
"เฮ้ย ของอย่างนี้ต้องดูกันนานๆ พี่กิ่งพึ่งมาได้ไม่เท่าไหร่เอง แกอย่าพึ่งไปตัดสินเขาดิ"
"แต่พี่เขาสวยวะ สเปคเลย"
"ขาสวยเป็นบ้า"
"ฮ่าฮ่าฮ่า"
ท่ามกลางเสียงบทสนทนาที่พูดกันจนเรื่อยมา มีใครคนหนึ่งที่ได้ยินบทสนาทนามาตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ จริงใจที่ถือแฟ้มแอบอยู่หลังกำแพง กำลังแอบฟังบทสนทนานั้นอยู่ ... ความจริงก็ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังหรอก ... แต่มันบังเอิญเข้ามาได้ยินก็เลยต้องทนฟังจนจบ
พนักงานทุกคนคงไม่ชอบเธอมาก ถึงขนาดออกไปดื่มกันทุกคืน เพราะไม่อยากทำงานที่เธอสั่ง
เป็นข้อมูลใหม่ ที่กระทบกระเทือนจิตใจพอสมควร
ไหนจะยัยกิ่งหักกิ่งเน่าที่ได้คะแนนใจจากพนักงานคนอื่นๆกันเต็มเปี่ยม คนทำงานอย่างนี้ก็ยังได้รับความรัก
โลกยังมีความยุติธรรมอยู่มั้ย
จริงใจพยุงตัวขึ้นหลังจากที่พิงกำแพงฟังอยู่นาน เธอเลือกเดินไปเข้าห้องอีกทาง เพราะไม่อยากให้ใครเห็น เธอเริ่มเก็บของในห้องอย่างเชื่องช้า มือไม้สั่นเบาๆ แล้วประมวลผลกับสิ่งที่เมื่อกี้พึ่งได้ฟัง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินพนักงานพูดถึงเธอเต็มๆไปเป็นครั้งแรก บอกตรงๆเธอเสียใจ ความจริงก็รู้มาบ้างว่าพนักงานไม่ค่อยชอบเธอนัก แต่ก็ไม่นึกว่าจะรุนแรงขนาดนี้ พอมาได้ยินกับหูตัวเองแล้ว ก็ถึงกับเศร้าเลยทีเดียว ความคิดมากเรื่องวินหายไปหมด เหลือแต่เร่ืองนี้มาแทนที่ สิ่งที่เธอเฝ้าพยายามมาทั้งหมด มันไม่มีความหมายเลยเหรอ
เธอยืนพิงโต๊ะตั้งสติสักพักแล้วเก็บของต่อ เสียงเคาะประตูดังขึ้น
"แกเป็นอะไรรึเปล่า ดูเหนื่อยๆ" ยิ้มโผล่หน้าเข้ามาทัก เมื่อเห็นเพื่อนมีสีหน้าไม่ดีเลยผ่านกระจกใส จริงใจส่ายหน้า พร้อมเก็บของต่อเร็วๆ
"ไม่มีอะไร เดี๋ยววันนี้ฉันอาจจะต้องออกก่อน"
"เออ รู้แล้ว.. แกอยากให้ฉันขับรถให้เปล่า? ฉันไปเป็นเพื่อนได้นะ"
"ไม่ต้อง.. ฉันไม่ได้เป็นอะไร แกอยู่นี่ไปเหอะ เดี๋ยวไม่มีคนอยู่บริษัทเลย มันจะยุ่ง"
"โอเคๆ ฉันไม่ไปเป็นก้างหรอกนะ"
"นี่!!!!"
"โอ๋ๆ ล้อเล่นๆ โอเคนะ"
"เล่นไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวจะโดน" จริงใจระเบิดอารมณ์ใส่ยิ้มอย่างไม่รู้ตัว เมื่อเห็นยิ้มเงียบไป จริงใจจึงต้องปรับสภาพอามณ์ใหม่ เธอถอนหายใจแล้วพูดขึ้น
"เดี๋ยวฉันไปก่อนนะ" จริงใจสะพายกระเป๋า และยกแฟ้มกระชับขึ้นที่อก ก่อนคว้ากุญแจรถขึ้นมาอย่างว่องไว ยิ้มบอกลานิดๆ แล้วบอก
"ฝากทักทายไอ้วินด้วยนะ บอกว่าไว้ว่างแล้วจะแวะไปหา" จริงใจพยักหน้ารับรู้ ตบบ่ายิ้มเบาๆแล้วเดินจากไป ทิ้งไว้แต่ยิ้มให้อยู่ในห้องเพียงลำพังด้วยความสงสัย อะไรทำให้จริงใจหัวเสียขนาดนี้
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ท้องฟ้านอกหน้าต่างเครื่องบินโบอิ้ง 77 ลำใหญ่เป็นสีฟ้าอ่อนสดใส คลุกเคล้าไปด้วยก้อนเมฆสีขาวก้อนเล็กก้อนใหญ่ไปทั่ว บอกได้ว่าวันนี้เป็นวันที่อากาศดีที่สุดในรอบหลายวันที่ผ่านมา วินนั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง ในมือยังกำ ipod touch ไว้แน่น หูฟังยังคงเสียบเอาไว้ที่หูข้างเดียว สายตาเขาลอยออกไปไกล เหมือนคิดอะไรอยู่
"เราว่าเราจะถามวินนานละ" เสียงพลอยเปิดบทสนทนาขึ้นเมื่อเห็นวินเงียบหายเข้าไปในโลกของตัวเองนานเกินไป วินหันมานิดๆเป็นเชิงอนุญาต
"ทำไม วินยังใช้ ipod touch อยู่อะ? ฟังในมือถือก็ได้นี่ ถือสองเครื่องสามเครื่องเกะกะออก" พลอยถาม... เพราะพลอยไม่เคยเห็นวินปล่อยให้ ipod เครื่องนี้ห่างออกจากตัวเลย
"ก็ไม่มีอะไรมาก ใช้มานาน มันเลยติดนะ"
"เหรอ?แค่นั้นจริงๆเหรอ?"
"อืมม จริงสิ ทำไม มีอะไร พลอยอยากฟังเหรอ? ฟังด้วยกันมั้ย?" วินบอก พร้อมยื่นหูฟังข้างที่เหลือให้พลอยฟัง พลอยรับมาอย่างตื่นเต้น
"เอาสิ" พลอยรับหูฟังอีกข้างที่ได้มา ขึ้นมาใส่หูของตัวเองทันที
เสียงแรกที่ได้ยิน คือเสียงกีตาร์ทำนองเบาสบายแทรกผ่านเข้ามาในความรู้สึก สร้างความสนิท และคุ้นเคยอย่างประหลาด แต่ถ้าจะให้บอกว่าเพลงที่วินฟังอยู่ตอนนี้เป็นเพลงอะไร... พลอยไม่รู้จักหรอก แค่ฟังแล้วรู้สึกชอบมากก็เท่านั้น
เวลาที่ฟ้าเป็นสีชมพูอ่อน เวลาที่ฉันเดินทาง
ไปกับความเหงา ความเดียวดาย
เวลาที่ท้องทะเลเป็นสีคราม เวลาที่ฉันเดินทาง
พบกับความสวยงาม... สักวันนึง...
พลอยฟังเพลงเรื่อยมา จนสักพัก ก็เงยหน้าขึ้นมามองวินที่หลับตาฮัมเพลงเบาๆ ตอนนี้หน้าของวินใกล้กับของพลอยมาก จนพลอยรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆของคนที่นั่งอยู่ข้างกาย มันทำให้หัวใจพลอยเต้นเสียงดังโครมคราม และรู้สึกว่าเพลงนี้เพราะขึ้นมาอีกหลายร้อยเท่า เหมือนโลกนี้ มีแค่วิน และ พลอย กับเพลงนี้เท่านั้น
อยากมีเธออยู่ตรงนี้ ด้วยกัน...
ในดินแดนดั่งความฝัน ข้างกาย...
อยากมีเธออยู่ตรงนี้... ข้างกัน...
อาบละอองแห่งความรัก
...ชั่วนิรันดร์...
พลอยหลับตา และซึมซับกับเพลงไปพร้อมๆกัน เสียงกีตาร์เบาๆ ทำให้พลอยเพลิดเพลิน ตอนนี้เครื่องบินเดินทางมาไกลแค่ไหนแล้ว พลอยไม่รู้... ชีวิตของพลอยและวินหลังจากถึงที่กรุงเทพฯ ทุกอย่างจะเป็นอย่างไร พลอยก็ไม่รู้ แต่ที่พลอยรู้ คือถ้าเป็นไปได้ พลอยก็อยากจะมีวินข้างกายเหมือนอย่างนี้ ชั่วนิรันด์ ตามที่เพลงเขาร้องบอกไว้เช่นเดียวกัน
…ถ้าเป็นไปได้นะ…
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
"นี่แกอยู่ไหนแล้ว?" เสียงคุณนายติ๋มคาดคั้น ขณะที่จริงใจกำลังขับรถมุ่งหน้าสู่นามบิน
"อยู่บนรถแล้ว" เธอตอบ พร้อมหรี่เสียงวิทยุให้เบาลง
"ไฟลท์กี่โมงนะ?"
"บ่ายสาม"
"เออ ดี! ฉันจะได้ออกไปซื้อกับข้าว"
"โห!! จะรีบซื้อเลยเหรอ ยังไม่รู้เลยว่ามันจะกลับมากินด้วยกันรึเปล่า"
"แกก็ต้องลากมันมาให้ได้สิ บอกมันว่าแม่คิดถึง ยังไงมันก็ต้องมา"
"เฮ้อออ.. หนูจะพยายามนะ แต่ก็ไม่รับปาก"
"ต้องลากมาให้ได้ ฉันคิดถึงมันจะแย่"
"อืม"
หนูก็คิดถึงมันเหมือนกัน จริงใจคิด แต่ไม่ได้ตอบออกเสียงออกไป บทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างจริงใจกับคุณนายติ๋มจบลง แต่สิ่งที่อยู่ในหัวของจริงใจตอนนี้ยังคงอยู่
เธออยากเจอวินมากๆ โดยเฉพาะตอนนี้... ตอนที่มีเรื่องมากมายเข้ามาหาพร้อมกันหลายๆเรื่อง ทั้งเรื่องงาน ... เรื่องลูกน้อง ... เรื่องกิ่ง .... หรือแม้แต่เรื่องของพี่กิต จริงใจก็อยากที่จะแชร์ อยากจะเล่า และอยากระบายให้วินฟังทั้งหมด…ยิ่งวันนี้ วันที่เธอได้รู้ว่า ตัวเองก็เป็นเพียงแค่คนๆหนึ่ง ที่ไม่มีใครคนไหนอยากทำงานด้วย จริงใจยิ่งอยากให้วินมาอยู่ข้างๆ เหมือนเมื่อก่อน... เหมือนที่เคยทำกันมาเสมอ
แม่เคยบอกว่า การมีเพื่อนดีที่คอยรับฟังยามเรามีปัญหา เป็นวิธีการรักษาที่ดีที่สุด และวินคือเพื่อนคนนั้นๆ จริงใจจะเป็นคนเล่า และวินจะเป็นคนฟัง … เป็นอย่างนี้เสมอๆ ตั้งแต่เด็กๆแล้ว
แต่ก็ไม่รู้ว่าทุกอย่างจะเหมือนเดิมรึเปล่า... วินจะยังคงเป็นผู้รับฟังของเธอเหมือนกับที่ผ่านมาได้อยู่มั้ย? ไม่เจอกันนานขนาดนี้ ทั้งเธอและเขา จะสามารถเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้รึเปล่านะ?
…เพื่อนที่สนิทใจ…
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ จริงใจก็ยิ่งอยากเจอวินให้เร็วขึ้น เธอเปิดเพลงให้เสียงดัง ไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปให้หมด แล้วเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็ว รถบนทางด่วนตอนนี้ไม่เยอะมาก เพราะเป็นเวลากลางวัน จริงใจกะเวลาให้ไปถึงที่สนามบินทันอย่างสบายๆ
แต่ ... ปัง!!
เกิดเสียงดังขึ้นจากท้ายรถจนจริงใจถึงกับสะดุ้ง จริงใจรู้สึกได้ถึงการยุบตัวของรถทางด้านฝั่งขวา และมีเสียงดังครืดตามมา จริงใจไม่สามารถควบคุมรถได้ บ่งบอกชัดเจนแล้วว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติ จริงใจชิดซ้ายแล้วเปิดสัญญานไฟฉุกเฉิน และเมื่อเปิดประตูออกมา จริงใจก็ได้พบกับความเป็นจริงอันน่าปวดหัว
"ยางแตก!!" จริงใจตะโกนกับตัวเองอย่างหัวเสีย แล้วมองนาฬิกาที่ข้อมือ เห็นเวลาเข้ามาใกล้เต็มทีก็ยิ่งร้อนรน เธอหยิบมือถือขึ้นมาเตรียมจะโทรออก แต่ก็พบว่า แบตเตอรี่หมด...
"มาหมดอะไรเอาตอนนี้เนี่ย" เธอบ่นอย่างหัวเสีย พร้อมโยนมือถือกลับเข้าไปในรถ เธอยืนลังเลอยู่นาน แล้วในที่สุดเธอก็ตัดสินใจ
"เอาวะ" เธอพึมพำกับตัวเองอีกรอบ แล้วเดินไปเปิดท้ายรถ หยิบยางอะไหล่และกล่องเครื่องมือออกมา แล้วเริ่มต้นเปลี่ยนยางตรงหน้าด้วยความรวดเร็ว เธอเคยเห็นพ่อทำมาสอง-สามครั้ง เธอมั่นใจว่าเธอทำได้
จริงใจเริ่มต้นเปลี่ยนยางอะไหล่ อย่างทุลักทุเล เพื่อหวังว่าเธอจะสามารถไปรับเพื่อนคนสำคัญได้ทันเวลา
ทั้งๆที่มันเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะไปให้ทันเวลานัด
แต่จริงใจก็ยังพยายาม
ดูเหมือนว่าวันนี้ จะไม่ใช่วันของจริงใจสักเท่าไหร่
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
เวลา 3:35 pm
เครื่องบินที่มุ่งหน้าจากนิวยอร์ก สู่กรุงเทพมหานคร แลนด์ดิ้งลงอย่างปลอดภัย วินทยอยเอาของออกจากชั้น และเดินนำหน้าพลอยมาไวๆ
"วิน ทำไมรีบเดินจัง" พลอยถามไปวิ่งไป เพราะตามวินไม่ทัน วินไม่ตอบ เขาพยายามทำทุกอย่างอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่รอกระเป๋า ตรวจคนเข้าเมือง ไปจนถึงการวิ่งหาทางอออกให้เร็วที่สุด
เสียงวินหอบเล็กน้อยดังขึ้น เมื่อพ้นประตูทางออกมา วินหยุดหายใจเล็กน้อยแล้วเริ่มมองส่องไปทั่วๆบริเวณ มีผู้คนออกันอยู่หน้าประตูทางออกมากมาย แต่ยิ่งวินพยายามมองหาเท่าไหร่ ยังไงวินก็หาจริงใจไม่เจอ ท่ามกลางผู้คนที่อยู่ตรงหน้า ไม่มีจริงใจอยู่ตรงนั้น
ทุกอย่างดูเคว้งคว้าง... วินไม่อาจซ่อนความผิดหวังไว้ได้เลย
เพราะเขาหวังไว้มากจริงๆ ว่าเมื่อเขาก้าวออกมาจากประตูทางออก .... เขาจะพบจริงใจเป็นคนแรก
แต่มันก็ไม่ใช่!!!
หรือจริงใจจะลืม?
ไม่มีทาง ต้องเกิดอะไรขึ้นแน่ๆ จริงใจถึงยังไม่มา
เขาหยิบ ipod touch ขึ้นมา .. เช๊กข้อความแชทที่ส่งกันตามกปกติ แต่ก็ไม่ได้มีข้อความใหม่จากจริงใจใดใด วินรีบวิ่งไปหาโทรศัพท์ที่ใกล้ที่สุด แล้วกดโทรออกตามหมายเลขโทรศัพท์ที่จำได้ขึ้นใจ
"ไม่มีสัญญานตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก" เสียงสัญญานโทรศัพท์ตอบรับดังกลับมาแทนที่ วินชะงักแล้ววางหูโทรศัพท์สาธารณะลง เขาเดินคอตกกลับมาหาพลอยที่ยืนรออยู่แล้ที่มุมหนึ่ง พร้อมกระเป๋าสัมภาระมากมาย
"เป็นไง ได้เรื่องเปล่า?" พลอยถาม
"เพื่อนเราไม่รับโทรศัพท์อะ ... พลอยกลับก่อนก็ได้นะ เราขอรอเพื่อนอยู่ที่นี่" วินบอก พลอยส่ายหน้าทันที
"ไม่อะ ... กลับพร้อมกันสิ มาด้วยกันก็กลับพร้อมกัน"
"แต่เพื่อนเรายังไม่มาเลยอะ ไม่รู้ว่าลืมรึเปล่า"
"วินก็กลับกับเราสิ กลับตอนนี้เลย"
".... ไม่ดีกว่า เดี๋ยวถ้ามันมา แล้วไม่เจอจะคลาดกันเปล่าๆ พลอยกลับไปก่อนได้เลยนะ"
"ไม่เอาอะ เรื่องอะไร รอด้วยกันนี่แหละ วินไป พลอยถึงจะไป"
พลอยยังยืนยัน
วินที่เกียจจะเถียงกับความดื้อดึงจึงพยักหน้าอยางจำยอม
ทั้งคู่เดินไปรอร้านอาหารที่ไม่ใกล้ไม่ไกลละแวกนั้น แล้วเริ่มต้นการรอคอยที่ไม่ได้ถูกวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าอย่างช่วยไม่ได้
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
"นี่มันวันซวยอะไรกันวะ!!!!"
จริงใจตะโกนออกมาอย่างเหลืออด เมื่อการเปลี่ยนยางยากกว่าที่เธอคิดไว้มาก เธอโยนประแจลงพื้นอย่างหัวเสีย แล้วยืนขึ้นปาดเหงื่ออย่างหงุดหงิด ทั้งเรื่องพนักงาน ยางก็แตก ไปรับวินสายอีก นี่มันวันซวยแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย จริงใจหัวเสียเกินกว่าจะตั้งสติเอาไว้ได้ เธอถอนหายใจ เสยผม ตั้งสติอย่างจนใจ แล้วเริ่มต้นลงไปขันน๊อตเจ้าปัญหา ที่ไขเท่าไหร่ก็ไขไม่ได้สักทีต่อ
"โอ๊ย!!" เธอร้องขึ้นทันทีเมื่อประแจเผลอหลุดออกจากมืออย่างแรง เบื้องหน้าเผยให้เห็นรอยเล็บฉีก ปนกับเลือดสีแดงสดที่ไหลออกมาเป็นทาง บัดนี้มือเรียวที่เคยสวยงาม ไม่ได้เป็นเช่นนั้นอีกแล้ว มันเต็มไปด้วยรอยเปื้อนจากยาง ผสมกับเลือดสดสดอย่างน่ากลัว
เลยเวลาไฟลท์วินมานานมากแล้ว ไม่รู้ว่าวินจะยังรออยู่ที่สนามบินอยู่รึเปล่า ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงตอบได้อย่างเต็มปาก ว่าวินต้องรอเธออยู่แน่นอน แต่หลังจากผ่านเรื่องราวแย่ๆวันนี้มาทั้งหมด เธอก็ไม่เหลือความมั่นใจอะไรทั้งนั้น
ก็วันนี้มันไม่ใช่วันของเธอนี่!
หลังจากคิดฟุ้งซ่านไปต่างๆนานาได้ไม่นาน ในที่สุด... ก็มีรถหรูคันนึงเปิดไฟกระพริบหลบเข้าข้างทางต่อท้ายคันของเธอ สวรรค์คงมีตาสงสารเธอบ้างสักนิดแล้ว มีใครบางคนกำลังมาช่วยเธอแล้วจริงๆ
"จริงใจ!!" เสียงตะโกนดังขึ้นทันทีที่ประตูรถถูกเปิดออกออกมา ตรงหน้าจริงใจคือผู้ชายใส่แว่นดำที่จริงใจคุ้นหน้าคุ้นตา
"พี่กิต? พี่กิตเหรอคะ?" จริงใจถามอย่างไม่แน่ใจ เพราะทรงผมที่เปลี่ยนไป และแว่นดำที่ทำให้ไม่คุ้นหน้า อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น เธอลากตัวเองที่ดูหมดสภาพไปหาพี่กิตอย่างเก้ๆกังๆ
"ใช่...พี่เอง รถเป็นอะไรครับ?" กิตถามขึ้นทันทีเมื่อถึงตัว จริงใจรีบบอกอย่างตื่นเต้น
"ยางแตกค่ะ ทำมาตั้งนานแล้ว ทำไม่ได้เลย เหมือนมันไม่เข้าล๊อคอะค่ะ พี่กิตช่วยดูให้จริงได้มั้ยคะ?"
"ไหนขอพี่ดูหน่อย"
พี่กิตผลักจริงใจไปด้านข้างเบาๆ แล้วก้มลงดู พี่กิตจัดการอยู่สักพัก หยิบนู่น หมุนนี่ ไม่นานนัก สิ่งที่จริงใจพยายามทำมานานแสนนานก็สำเร็จลงอย่างง่ายดาย
"เสร็จแล้วครับ น่าจะใช้ได้แล้วนะ"
"ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ไม่ได้พี่กิตสงสัยจริงต้องนอนบนทางด่วนแน่ๆเลย"
"ไม่เป็นไรครับ เรื่องแค่นี้เอง พี่เห็นคนเปิดไฟกระพริบ ก็คิดว่าคงต้องอยากได้ความช่วยเหลือ .. ไม่คิดว่าจะเป็นจริงใจเท่านั้นเอง"
"จริงโชคดีจังค่ะ จริงขอบคุณพี่กิตอีกครั้งนะคะ" เธอบอกขอบคุณอีกครั้ง พี่กิตสายหน้า จริงใจมองดูเวลาที่ข้อมืออย่างร้องรนแล้วเอ่ยต่อ
"เอ่อ พี่กิตคะ คือจริงต้องไปก่อนแล้วละค่ะ จริงต้องรีบไปรับเพื่อนที่สนามบิน ป่านนี้คงรอแย่แล้ว" จริงใจพูดอย่างเกรงใจ พี่กิตพยักหน้ารับรู้
"จริงรีบไปเถอะครับ ขับรถดีดีนะ"
"พี่กิตด้วยนะคะ ไว้จริงขอเลี้ยงข้าวตอบแทนนะ" เธอรีบบอก พี่กิตพยักหน้า พร้อมเปิดประตูให้เธอขึ้นรถไป เธอขอบคุณเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนขับรถออกมาด้วยความเร่งรีบ เธอมองกระจกหลังอีกรอบอย่างนึกขอบคุณคนที่เธอเพิ่งทิ้งมา ถ้าไม่ได้พี่กิต คืนนี้ ไม่เธอที่ต้องนอนบนทางด่วน ก็เห็นว่าจะต้องเป็นวินที่นอนอยู่สนามบินแน่ๆ
ไม่รู้ว่าป่านนี้วินจะยังรอเธออยู่มั้ย แต่จริงใจไม่สน เธอเหยียบชนิดลืมเบรก ปาดซ้ายปาดขวาจนโดนชาวบ้านบีบแตรด่าเป็นแนวยาว แต่เธอก็ยังไม่ลดความเร็วลง เธอใช้เวลาไม่นานนัก สุดท้ายรถก็มาหยุดอยู่ที่อาคารขาเข้าของสนามบิน จุดหมายสำคัญที่เธอควรจะถึงตั้งแต่สองชั่วโมงที่แล้วแล้ว จริงใจวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต เธอค่อยๆกระโดดหาวินจากผู้คนนับร้อย ที่อยู่รอบๆ แต่ก็ไม่เจอ เธอจึงรีบวิ่งไปที่ส่วนของร้านอาหารที่อยู่อีกด้าน ด้วยความหวังว่าวินจะไปรอเธอแถวนั้นบ้าง
ชายหนุ่มผมสั้น ส่วนสูงประมาณ 180 ผิวขาว โครงหน้าคมเข้ม
คือลักษณะของวิน เพื่อนสนิทที่เธอกำลังตามหา
แต่ก็ไม่เจอเลย…
ผ่านร้านอาหารร้านแล้วร้านเล่า แต่ก็ไม่มีวี่แววของวินอยู่เลยสักร้าน
ร้านต่อไปเป็นร้านสุดท้ายของสนามบินแล้ว
ถ้าเข้าไปดูในร้านนี้แล้วไม่เจอ ก็ควรจะตัดใจไปได้เลย วินคงไม่รอเธอแล้วละ
จริงใจเดินเข้าร้านไปอย่างกล้าๆกลัวๆ ภาวนาให้วินรอเธออยู่อย่างที่เธอนึกหวัง
นั่นไง! ที่โต๊ะตัวสุดท้าย มีผู้ชายผมสั้นคนนึงนั่งก้มหน้าอยู่ เหมือนวินเลย
เธอคิด พร้อมกับรีบวิ่งไปที่โต๊ะตัวนั้น แต่ทันทีที่ผู้ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมา เธอก็ต้องชะงัก
ไม่ใช่!
ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่วิน
ผู้ชายคนนั้นเงยหน้ามองจริงใจอย่างแปลกๆ แล้วกลับลงไปใจจดใจจ่อกับโทรศัพท์ของตัวเองต่อ
จริงใจหน้าเจื่อนทันที เธอเดินคอตก กลับหลังหัน และเดินออกมาอย่าเชื่องช้า
'นี่ร้านสุดท้ายแล้วนะ ถ้าวินไม่อยู่ที่นี่แล้ววินจะไปอยู่ที่ไหน?'
เธอคิด
'นี่ไม่รอกันจริงๆเหรอ?'
เธอคิดอีก
'บ้า บ้าที่สุด! รอกันหน่อยก็ไม่ได้'
เธอคิดอย่างผิดหวัง พร้อมปาดเหงื่อที่ซกหน้าออกมาอย่างเจ็บใจ
จริงใจมุ่งหน้าสู่ประตูทางออกอย่างเหงาหงอย พลางคิดว่า สงสัยอาหารของป้าติ๋มจะเป็นหมันเสียแล้วแหละวันนี้ จริงใจก้าวต่อไปจนไปถึงประตูทางออก เตรียมมุ่งหน้าขึ้นรถกลับบ้านไปบอกข่าวร้ายให้คนที่บ้านรู้อย่างช่วยไม่ได้ ก็วันนี้เธอมาสายเองนี่ ประตูหมุนถูกผลักต่อไปเร็วๆอย่างชำนาญ เธอมองตรงไปข้างหน้า สายลมพัดผ่านบางๆอย่างไม่ทันรู้ตัว จากภาพไกลก็ค่อยๆชัดขึ้น ใครคนหนึ่งที่คุ้นเคยนั่งอยู่บนรั้วกั้นประตูอยู่ตรงหน้า
...ไม่คิดไม่ฝัน...
วินนั่งอยู่ตรงนั้น
ใครคนที่เธอใช้เวลาในการเดินทางมาหาถึงส่ีชั่วโมงได้มาอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว
วินมานั่งรอเธอที่เสาหน้าประตูทางออกอย่างที่ไม่นึกไม่ฝันจริงๆ
เขามองเธอนิ่งเหมือนนกรู้ ส่งสายตาและรอยยิ้มแบบที่เธอไม่ได้เห็นนานแล้วมาให้
"สวัสดีจริงใจ... ไม่เจอกันนานนะ" เขาส่งเสียงทักทายด้วยน้ำเสียงสบายๆ ไม่นึกโกรธคนมาสายที่อยู่ตรงนี้ ฟังแล้วจริงใจก็อดรู้สึกไม่ได้เลย เธอไม่อยากจะเชื่อ ว่าเพื่อนของเธอกลับมาแล้ว
"...กลับมาแล้วเหรอ" เธอถามเพื่อย้ำตัวเองอีกครั้ง วินยิ้มพร้อมกระโดดลงมาหาอย่างรวดเร็ว
"กลับมาแล้ว..." เขาย้ำ พร้อมสวมกอดจริงใจเบาๆ ความอบอุ่นแล่นผ่านมาแทนที่ความเหนื่อยล้าที่เคยมี ไม่นานนัก จริงใจก็กอดวินตอบ
"ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะเพื่อน"
จริงใจกระซิบให้วินฟังอีกครั้ง วินพยักหน้า
"ขอบคุณนะ" วินพูดตอบ พร้อมกระชับกอดให้แน่นขึ้น
ตอนนี้เขาคิดว่า...เขาได้กลับบ้านอย่างแท้จริงแล้ว
"เอ่อ…" เสียงผู้หญิงคนนึงขัดจังหวะขึ้น วินค่อยๆผลักออกจากจริงใจแล้วหันไปทางต้นเสียง พลอยคือเจ้าของเสียงนั้น
"อ้าวพลอย ซื้อน้ำเสร็จแล้วเหรอ?" วินถามเมื่อเห็นผู้หญิงคนตรงหน้ากลับมาพร้อมแก้วน้ำในมือสองใบ จริงใจมองพลอยอย่างฉงนสงสัย ไม่ได้ถึงกับตกใจ แต่ก็เรียกได้ว่าตั้งตัวไม่ทันมากกว่า วินเห็นอย่างนั้น จึงแนะนำทั้งสองฝ่ายให้รู้จัก
"เอ้อ จริงใจนี่เพื่อนฉัน ชื่อพลอย กลับมาจากนิวยอร์กด้วยกัน ... ส่วนนี่จริงใจนะ เพื่อนที่เราบอกพลอยนะ" วินแนะนำ ทั้งจริงใจและพลอยที่มัวแต่อึ้งได้แต่พยักหน้าทำความรู้จัก พร้อมกับส่งยิมซีดๆให้กัน พลอยแนะนำตัวเองอีกครั้ง
"สวัสดีค่ะจริงใจ เราเป็นทำงานร้านเดียวกับวินที่นิวยอร์ก ชื่อพลอยนะ" เธอบอกอีกรอบ
จริงใจพยักหน้าอย่างเชื่องช้า … เธอตั้งตัวไม่ทัน
วินไม่ได้กลับมาคนเดียว
แต่กลับมาพร้อมผู้หญิงอีกคน
ความรู้สึกอิ่มเอมเมื่อกี้หายวับไปอย่างกับเวทมนตร์
วันนี้ คงไม่ใช่วันของเธอจริงๆนั่นแหละ
แว่นกระดาษ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ต.ค. 2558, 18:52:54 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ต.ค. 2558, 18:52:54 น.
จำนวนการเข้าชม : 806
<< ตอนที่ 12 | ตอนที่ 14 >> |