บัญชาราคี โดย ญาสุมินทร์
แอนเดรย์ แมกแคนเดล ทายาทตระกูลดังผู้ร่ำรวย เขาหล่อ ร้ายและไม่ไว้ใจเธอ เขาจึงทำทุกทางเพื่อบีบให้เธอยอมสารภาพว่าเข้ามาที่บ้านเขาอย่างมีจุดประสงค์

“ขอโทษที่พูดแทงใจดำนะคะ แต่ฉันเป็นคนชอบพูดตรงๆ ไม่ชอบกั๊ก”
“เธอแทงใจดำฉันไปแล้ว ลองโดนฉันแทงหน่อยเป็นไง” ชายหนุ่มแสยะยิ้มร้าย มนัสนัญหัวใจหล่นตูมเดียวลงไปอยู่บนตาตุ่ม
แทง?
ตาบ้า…แทงอะไร
“แทงบ้าบออะไรของคุณ กลับไปได้แล้วค่ะ มันเป็นเวลาเลิกงานของฉันแล้ว พรุ่งนี้ฉันต้องตื่นไปดูแลท่านแต่เช้า” ทั้งที่กลัวแสนกลัว แต่หญิงสาวก็ยังฝืนน้ำเสียงที่เกือบจะสั่นให้กลับเป็นปกติ
“ฉันจะไม่กลับออกไป จนกว่าจะได้แทงเธอกลับบ้าง”
“ฉันไม่มีอะไรให้คุณแทงทั้งนั้นแหละ กลับไปได้แล้วค่ะ” หญิงสาวยกมือมากันอันเดรย์ที่ขยับมาชิดอีก ตาคู่สวยเขียวปัด เพราะคำพูดสองแง่สองง่ามของเขา
“มีสิ ที่แทงในตัวเธอมีเยอะแยะ”
“คุณ!” หญิงสาวได้แต่กรีดร้องในใจ เขาช่างพูดออกมาได้หน้าตาเฉย ไม่อายปาก นี่นะหรือผู้ชายที่มีผู้หญิงมากมายพร้อมจะดาหน้าเข้าหา ไม่มีอะไรดีเลยสักนิด ปากร้ายมือไวเป็นที่หนึ่ง ถึงเขาจะหล่อลากไส้ออกมาตั้งหลายขด แต่เธอไม่หลงเสน่ห์ผู้ชายอย่างนี้หรอก
“ลองให้ฉันแทงดูหน่อยไหม เธออาจจะชอบ”

Tags: ไลต์ออฟเลิฟ ลินิน ญาสุมินทร์ พาฝัน

ตอน: อัพเพิ่ม

“ฉันเพิ่งสามสิบสาม” อันเดรย์กัดฟันกรอด
“สามสิบสาม!” มนัสนัญอุทานเกินจริง ความจริงเธอก็รู้อยู่หรอกว่าเขาอายุเท่าไหร่ เพราะหนังสือพวกนั้นลงรายละเอียดส่วนตัวเขาตั้งแต่สัดส่วนไปจนถึงเบอร์รองเท้า ซ้ำหน้าเขายังดูเหมือนคนยี่สิบกลางๆ เท่านั้น แต่เห็นเขาหลงตัวเองจนหน้าหมั่นไส้ก็อยากจะตอกกลับบ้าง “จริงเหรอคะท่าน”
ซาซาอมยิ้ม รับช่วงต่อ “ใช่เหรออันเดรย์ แม่ว่าแม่ต้องบอกอายุแกผิดไปแน่”
“แม่” อันเดรย์หมดอารมณ์จะกินข้าว ขึงตาใส่คนพูดที่มองหน้าเขาอย่างท้าทาย ช่างไม่รู้ว่าชะตาหล่อนกำลังจะขาดอยู่เดี๋ยวนี้ ที่กล้าแหย่หนวดเสือ
“โอ้ย…ซีเรียสไปได้ น้องก็แค่ล้อเล่น แกน่ะหล่อสาวกรี๊ดขนาดนี้ ไหนว่ามั่นใจในตัวเอง โดนแหย่แค่นี้ก็ของขึ้น แบบนี้เรียกว่าหล่อไม่จริง”
หญิงสาวกลั้นยิ้มเมื่อเห็นอันเดรย์พูดอะไรไม่ออก ที่แม่เขาเข้าข้างเธอเต็มประตู เขากินอะไรไม่ลง ในขณะที่เธอรู้สึกว่าอาหารมื้อนี้รสชาติเยี่ยมกว่าทุกมื้อที่ผ่านมา

แหวนเพชรเม็ดเป้งจากตลับกำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มยื่นมาตรงหน้า มนัสนัญมองอย่างหนักใจเมื่อคนยื่นให้ก้มหน้าลงบอกเธอที่นั่งต่ำกว่า
“รับไปสิ”
“แต่ว่า…”
“ฉันอยากให้ อยู่กับฉันมันไม่เหมาะหรอก เพชรสวยๆ แบบนี้เหมาะกับผู้หญิงสาวๆ อย่างเธอมากกว่า” ซาซาบอกแล้วดึงมือหญิงสาวมา จัดการสวมลงไปให้เสียเอง แต่หญิงสาวชักมือกลับ
“ท่านคะ มันแพงมาก ไม่เหมาะจะให้ฉันหรอกค่ะ”
“ฮื้อ…ก็ฉันอยากจะให้”
หญิงสาวทำหน้าลำบากใจแต่ก็ไม่กล้าขัด ซึ่งคนที่บังเอิญผ่านเข้ามาเห็นยืนมองด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ไม่ได้นึกเสียดายของพวกนั้น แต่เขากำลังสงสัยบางอย่างในตัวของมนัสนัญ แม่เขาเป็นคนแก่ขี้เหงา พอมีคนมาพะเน้าพะนอเอาใจก็ไขว้เขวตาม กลัวว่าจะเกิดอันตรายกับท่านเอาได้
“คุณอันเดรย์คะ” มาเรีย หัวหน้าแม่บ้านที่ได้รับการเลื่อนขั้นแทนธีรสา หัวหน้าแม่บ้านชาวไทยที่ลาออกหลังจากแต่งงานกับสามีชาวอินเดียทำท่าลับๆ ล่อๆ อยู่เหนือบันได ส่งเสียงเรียกเขาเบาๆ เหมือนมีความลับคอขาดบาดตายจะบอก
“อะไร” เขาถามเมื่อเดินมาถึง
“มาทางนี้เถอะค่ะ” มาเรียเดินนำลงไปข้างล่าง มองซ้ายขวาจนเขาต้องเร่ง
“จะพูดอะไรก็พูดมาเถอะน่า”
“ผู้หญิงคนนั้นไม่น่าไว้ใจนะคะ” มาเรียเริ่มเรื่อง “หล่อนเป็นหลานของธีรสา ไม่น่าไว้วางใจทั้งป้าทั้งหลาน รู้ไหมคะคุณอันเดรย์ มาอยู่แค่เดือนเดียว มาดามขนเครื่องเพชร เงินทองไปให้เท่าไหร่ ฉันไม่ได้พูดเกินจริงเลยนะคะ ท่านดูรักแม่คนนี้มากจริงๆ”
อันเดรย์เชื่อในสิ่งที่มาเรียพูด เพราะเขาเพิ่งเห็นด้วยตาอยู่เดี๋ยวนี้ว่าแม่เพิ่งยกแหวนเพชรเม็ดเป้งให้มนัสนัญไป และเจ้าหล่อนก็ไม่ปฏิเสธเสียด้วย คนแก่ขี้เหงา ง่ายต่อการปอกลอก
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนยังไง”
“ดูยากมากค่ะ แต่ที่แน่ๆ ไม่น่าไว้ใจ ตอนธีรสาอยู่นะคะ ก็อ้อนเอาเงินทองจากท่านไปตั้งเท่าไหร่ ให้เงินค่าจัดงานจนเจ้าตัวไม่ต้องจ่ายเองสักปอนด์ พอตัวเองลาออกไปแต่งงานก็ส่งหลานสาวมา แม่นั่นเอาอกเอาใจท่าน ออดอ้อนจนมีห้องส่วนตัว ห้องใหญ่เหมือนเป็นเจ้านายคนหนึ่ง ทั้งแหวน สร้อย นี่ท่านยังให้รถไว้ขับอีกนะคะ”
“รถเลยเหรอ” อันเดรย์เลิกคิ้ว ชักเห็นความไม่ชอบมาพากล จริงอยู่เงินของแม่มีมากมายชนิดที่แบ่งให้ใครใช้บ้างก็คงไม่สึกหรอ แต่เขาไม่ชอบวิธีการดูดเงินแบบที่มนัสนัญกำลังทำอยู่ มันทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกเอาเปรียบ ที่สำคัญเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับแม่ด้วย
“ค่ะ หล่อนขับเฉิดฉายเหมือนเป็นคุณหนูของบ้านอีกคน ฉันเป็นห่วงมาดาม กลัวว่าผู้หญิงคนนี้จะคิดไม่ซื่อพาพรรคพวกมาทำร้ายท่าน ท่านน่ะแข็งแรงออกนะคะ เพราะตรวจสุขภาพทุกปี แต่พอแม่คนนี้มา เดี๋ยวไข้ เดี๋ยวเป็นลม พอดูแลหายที ท่านก็ยกนั่นยกนี่ให้ตอบแทน”
อันเดรย์หน้าเครียด มาเรียยังเล่าต่อออกรส
“ฉันคอยจับตาหล่อนเท่าที่ทำได้ แต่ก็ไม่ค่อยมีโอกาสนัก เพราะท่านไว้ใจแม่คนนี้เหลือเกิน ไปไหนก็ตัวติดกันตลอดเวลา”
“เอาล่ะ ขอบใจมาก ฉันจะจัดการเอง” ชายหนุ่มโบกมือไล่ พอมาเรียออกไปแล้วจึงเดินหน้าขรึมออกไป ตอนแรกจะเดินเข้าห้องนอนตัวเอง แต่เปลี่ยนใจเดินไปอีกห้องหนึ่งแทน

มนัสนัญมองแหวนบนนิ้วอย่างไม่สบายใจ เธอเดินมาหยุดหน้าห้องตัวเอง ถอนหายใจอยู่หลายครั้งแล้วเปิดประตูเข้าไป เดินผ่านโซฟามุมห้องโดยไม่ทันสังเกตว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญนั่งอยู่ หญิงสาวเปิดลิ้นชักแล้วหอบกล่องกำมะหยี่ออกมาวางบนเตียง ถอดแหวนบนนิ้วออกใส่ในกล่อง ของในนั้นมีอยู่หลายชิ้น ที่ล้วนแล้วแต่เป็นเพชรราคาแพงลิ่ว ปฏิเสธมาแล้วหลายหนแต่ท่านก็ยังยัดเยียด
“พอได้หรือยัง”
เสียงที่ดังมาจากมุมห้องทำให้หญิงสาวสะดุ้ง ริมฝีปากเผยอค้างเมื่ออันเดรย์นั่งหน้าตึงอยู่บนโซฟา เธอนับหนึ่งถึงสามเพื่อสงบอารมณ์ตื่นกลัวของตัวเองให้สงบลง
“มีอะไรกับฉันหรือเปล่าคะคุณอันเดรย์” เธอเดินเข้ามาใกล้ ไม่กล้าขยับต่อเมื่อเขาลุกขึ้นมาเผชิญหน้า
“ฉันถามว่าพอได้หรือยัง”
“หมายถึงอะไรคะ”
แทนคำตอบ ชายหนุ่มก้าวเท้ายาวๆ มาหยุดหน้ากล่องเครื่องประดับหลายชิ้น ที่เขาแค่มองก็รู้ว่ามูลค่าของมันหากคิดเป็นเงินไทยก็หลายสิบล้านบาท เขาดึงกล่องขึ้นมาชูหรา
“อธิบายทีซิสาวน้อย ว่ามันคืออะไร”



สาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 ต.ค. 2558, 20:46:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 ต.ค. 2558, 20:46:04 น.

จำนวนการเข้าชม : 734





<< อัพเพิ่ม   อัพเพิ่ม >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account