เสน่ห์รักคล้องใจ
Tags: แต่งงาน,คลุมถุงชน,พ่อแง่แม่งอน
ตอน: ตอนที่ 7-1
สวัสดีค่ะนักอ่านเว็บเลิฟทุกท่าน ^^ จริง ๆ นัดไว้ว่าจะมาลงให้วันศุกร์แต่พอดีครึ่งหลังมีแก้นิดหน่อยแต่ยังไม่เสร็จเลยเอาครึ่งแรกมาลงก่อน แล้วดึก ๆ คืนนี้ (ถ้าแก้เสร็จ) จะลงที่เหลือให้อีกทีนะคะ ขอบคุณที่ติดตามผลงานค่า ^_<
เสน่ห์รักคล้องใจ ตอน 7-1
“ปัดโธ่โว๊ย เป็นบ้าอะไรกันไปหมดวะเนี่ย!” อนุภัทรโวยวายลั่นรถอย่างหงุดหงิด หลังจากวางสายจากพิชชาภาไปได้ไม่นาน แล้วพอลองโทรไปอีกหลายครั้งก็มีแต่เสียงสัญญาณให้ฝากข้อความ จนเขาหัวเสียที่เธอปิดมือถือหนีเขาเลยลงเอากับโทรศัพท์ด้วยการเขวี้ยงมันอย่างแรงไปทางเบาะหลัง
ตอนนี้ความโกรธหงุดหงิดของเขาเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เมื่อไม่สามารถจัดการอะไรได้สักอย่างแถมยังโดนผู้หญิงปากจัดอย่างจีน่าด่าเข้าให้อีก พอโทรไปหาพิชชาภา เขาก็แทบอยากจะโห่ร้องดีใจที่เธอยอมคุยกับเขาเสียที แต่แล้วเขาก็แทบอยากจะบีบคอสวย ๆ ของเธอเมื่อเธอขอเลิกกับเขาด้วยเหตุผลที่ว่าเธอไม่ได้รักเขาอีกต่อไป
แต่ถ้าพิชชาภาหมดรักเขาจริง ๆ เธอคงไม่บอกตัดความสัมพันธ์กับเขาด้วยเสียงที่สั่นเครือราวกับจะร้องไห้เป็นแน่ ดังนั้นเขาจึงมั่นใจเกินร้อยว่าเธอคงจะหมั้นกับไอ้เจ้าของโรงแรมนั่นเพราะครอบครัวเธอบังคับและแกล้งทำมาเป็นบอกว่าไม่ได้รักเขาแล้วอย่างแน่นอน
อนุภัทรยิ้มอย่างลำพองเมื่อรู้ว่าพิชชาภาไม่ได้หมดรักเขาอย่างที่เธอพูดจริง ๆ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น แผนจับยัยคุณหนูให้มาเป็นเมียเขาก็ยังคงเก็บไว้ใช้ได้อยู่
อนุภัทรเลี้ยวรถเข้าไปในซอยเล็ก ๆ แห่งหนึ่งซึ่งเป็นทางไปคฤหาสน์ของพิชชาภา เขาตั้งใจว่าอย่างไรวันนี้ก็ต้องคุยกับเธอให้รู้เรื่อง เพราะตอนนี้เขารู้แล้วว่าเธอยังคงมีใจให้เขาอยู่ หากเขาลองพูดอ้อนวอนเธอสักครั้ง บางทีเธออาจจะใจอ่อนยกเลิกการหมั้นแล้วกลับมาคบกับเขาตามเดิมก็เป็นได้ แล้วตอนนั้นเขาค่อยคิดหาทางรวบหัวรวบหางเธอขั้นเด็ดขาดเสียเลย
อนุภัทรขับรถมาถึงคฤหาสน์ของพิชชาภาและกำลังจะเลี้ยวรถเข้าไปข้างในเมื่อเห็นว่าประตูเปิดอยู่ แต่แล้วเขาก็ต้องเหยียบเบรคกะทันหันเมื่อรถเบนซ์สีขาวคันหรูแล่นสวนออกมา เขากำลังเข้าเกียร์เพื่อจะถอยรถเปิดทางให้เบนซ์คันโตได้ขับออกไปก่อน แต่สายตาเขาก็พลันเหลือบไปเห็นผู้หญิงคุ้นตาที่นั่งอยู่ในรถ
แพร!
เขามองไปทางที่นั่งด้านคนขับแล้วเห็นผู้ชายหน้าตาดีที่เขาจำได้ทันทีว่าเป็นใคร อัศวิน....ไอ้เจ้าของโรงแรมเฮงซวยนั่น อนุภัทรจับพวงมาลัยรถแน่นด้วยความโกรธสุดขีด เป็นเพราะมันที่ทำให้พิชชาภาต้องขอเลิกกับเขา และก็เป็นเพราะมันที่ทำให้เขาต้องสูญเสียบ่อเงินบ่อทองแหล่งใหญ่ไป ด้วยความโกรธแค้น อนุภัทรจึงกระชากประตูรถเปิดออกแล้วพุ่งไปยังรถของอัศวินทันที
อนุภัทรกำลังเดินเกือบจะถึงตัวรถซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่อัศวินและพิชชาภาลงมาจากรถพร้อมกัน เขาไม่รอช้ารีบตรงเข้าไปกระชากแขนของพิชชาภาอย่างแรงแล้วพยายามลากเธอไปที่รถของตัวเอง
“โอ๊ยย พี่ภัทร ปล่อยแพรนะ จะพาแพรไปไหน” พิชชาภาร้องครวญพลางบิดแขน พยายามใช้มืออีกข้างที่ว่างแกะมือของอนุภัทรออก
อนุภัทรไม่สนใจเสียงร้องค้านของหญิงสาว เขาจับต้นแขนของเธอแน่นแล้วพยายามดึงเธอไปที่รถของตนเอง
“ปล่อยแพรเดี๋ยวนี้นะ!” อัศวินตวาดลั่น รีบปราดไปยังอนุภัทรพร้อมกับคว้าแขนอีกข้างของพิชชาภา แล้วกระชากให้เธอมาทางเขาแต่อนุภัทรเองก็ดึงแขนของพิชชาภาไว้เช่นกัน
“นี่แฟนกู มึงอย่าเสือก ปล่อย!” อนุภัทรตวาดกลับอย่างไม่เกรงใจ
อัศวินถึงกับควันออกหูที่ถูกอนุภัทรใช้คำหยาบคายกับเขา แถมยังพูดแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของพิชชาภาอย่างออกนอกหน้า จนทำให้ความรู้สึกหึงหวงในตัวหญิงสาวซึ่งเริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่เห็นรูปไอ้หมอนี่บนหน้าจอมือถือของเธอเพิ่มทวีขึ้นเป็นเท่าตัว แต่เขาก็พยายามจะสะกดกลั้นอารมณ์โกรธเอาไว้เพราะรู้ว่าถ้าตัวเองเกิดฟิวส์ขาดขึ้นมาเมื่อไร คงได้ทำให้ไอ้หน้าจืดนี่ไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มที่โรงพยาบาลนานเป็นเดือนแน่
“คุณนั่นแหล่ะที่จะต้องปล่อย” อัศวินกัดฟันพูด สันกรามนูนแน่น
“มึงเป็นใครถึงมาสั่งกู ถอยไป!” อนุภัทรตะโกนสั่ง พยายามดึงแขนพิชชาภาไปที่รถของตน
“ปล่อยแพรนะพี่ภัทร! อย่ามาทำตัวเป็นนักเลงโตแถวนี้!” พิชชาภาตวาด พลางสลัดแขนหลุดจากการเกาะกุมของอนุภัทรได้ในที่สุด ก่อนจะมองหน้าชายคนรักเก่าด้วยความปวดใจ นึกไม่ถึงว่าผู้ชายที่เธอเคยคิดว่าแสนดีอย่างเขาจะกลายมาคนที่มีกริยาหยาบกระด้างเช่นนี้ได้
“แพร...ทำไมพูดกับพี่อย่างนี้ล่ะจ๊ะ รู้ไหมว่าพี่คิดถึงแพรแค่ไหน อยากจะพบหน้าแพรใจจะขาดจนทนไม่ไหวต้องมาหาถึงบ้าน แต่พอได้มาพบแพร แพรกลับทำเหมือนรังเกียจพี่” อนุภัทรพูดเสียงน้อยใจ
พิชชาภาลอบถอนใจ “แพรไม่ได้รังเกียจ แต่ที่พี่ภัทรทำกับแพรเมื่อกี๊มันแย่มากรู้ตัวไหมคะ อยู่ดี ๆ พี่ภัทรก็เข้ามากระชากแขนแพรแถมยังพูดจาหยาบคายใส่พี่วินอีก แล้วอย่างนี้จะให้แพร....” เธอยังพูดไม่ทันจบอนุภัทรก็สวนขึ้นมาด้วยเสียงหาเรื่อง หันไปชี้หน้าอัศวินแววตาเกรี้ยวกราด
“อ๋ออ...ที่แท้แพรก็กลัวไอ้ขี้ขโมยนี่จะโกรธใช่ไหม แคร์มันมากนักใช่ไหมถึงได้ออกโรงปกป้องมัน”
อัศวินที่ยืนฟังด้วยความโมโหอยู่นานอ้าปากจะพูดโต้ตอบกลับไปบ้าง แต่พิชชาภาก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน
“นี่ถ้าพี่ภัทรจะมาหาเรื่องคนอื่นแบบนี้ล่ะก็ แพรว่าพี่ภัทรกลับไปดีกว่าค่ะ” พิชชาภาพยายามพูดอย่างใจเย็น
“แพร! นี่ถึงขนาดกับไล่พี่เชียวเหรอ” อนุภัทรพูดอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“ถ้าพี่ภัทรจะคิดอย่างนั้นก็ตามใจ” พิชชาภาตอบเสียงห้วน ตอนนี้เธอมั่นใจเต็มร้อยว่าจะสามารถตัดอนุภัทรออกไปจากใจได้โดยไม่กลัวว่าตัวเองจะใจอ่อนยอมกลับไปคบกับเขาอีกครั้งหากชายหนุ่มมาตามตื้ออ้อนวอนเธอ
เพราะตั้งแต่ที่เขาแสดงกริยาอย่างกับพวกอันธพาลด้วยการเข้ามาฉุดกระชากลากถูเธอดื้อๆ ถึงในบ้าน บวกกับความเจ้าชู้ไม่จริงใจหลอกคบกับเธอเพราะเห็นว่าเธอรวย แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับการปิดฉากความรักระหว่างเธอและเขาตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา และต่อไปนี้ก็จะไม่มีน้ำตาจากเธอสำหรับผู้ชายอย่างเขาอีกต่อไป
อนุภัทรยืนอึ้งเมื่อได้ยินพิชชาภาพูดจาเย็นชาใส่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และเขาไม่คิดว่านั่นจะเป็นการเสแสร้งเพื่อให้เขาถอดใจจากเธอ เพราะแววตาที่มองมามันดูช่างห่างเหินไร้เยื่อใย เหมือนกับว่าเธอหมดรักเขาแล้วจริง ๆ
นี่ก็แปลว่าที่พิชชาภาบอกเลิกกับเขาคงไม่ใช่แค่เพราะถูกครอบครัวเธอบังคับให้แต่งงานเท่านั้น มันต้องมีสาเหตุอื่นที่ทำให้เธอหมางเมินเขาเช่นนี้ พลันสายตาเขาก็เหลือบไปมองอัศวินที่ยืนยิ้มเยาะสะใจอยู่ข้าง ๆ หญิงสาว ทันใดนั้นความโกรธแค้นก็แล่นขึ้นมาเป็นริ้ว ๆ
“เพราะไอ้บ้านี่ใช่ไหมถึงทำให้แพรเย็นชาใส่พี่ เพราะไอ้ขี้ขโมยนี่มันรวยกว่า หล่อกว่า ไฮโซกว่าพี่ใช่ไหมแพรถึงได้วิ่งโล่ไปหามันอย่างกับนังร่า_แบบนี้!” อนุภัทรตะคอกด้วยคำพูดหยาบโลนพลางชี้หน้าไปที่อัศวิน
“พี่ภัทร!” พิชชาภากรีดร้องเสียงเครือ น้ำอุ่น ๆ เอ่อคลอดวงตาอย่างรวดเร็ว ไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นผู้ชายปากร้ายได้ขนาดนี้
“ไอ้เลวเอ๊ย!” อัศวินสบถลั่นแล้วถลันเข้าหาอนุภัทรพร้อมกับปล่อยหมัดขวาเข้าให้ที่คางอย่างแรงจนอนุภัทรหงายหลังล้มไปกองกับพื้น
อัศวินสาวเท้าเร็ว ๆ ไปที่อนุภัทรซึ่งนั่งเอามือกุมคางอยู่ที่พื้นด้วยแววตาดุดัน ก้มลงไปกระชากคอเสื้อแล้วกำหมัดขึ้นสูงหมายจะชกซ้ำอีกครั้ง
“พี่วินพอเถอะค่ะ!” พิชชาภารีบร้องห้าม
อัศวินกำหมัดค้างจนข้อนิ้วขาวซีด ขบสันกรามแน่นพยายามสะกดอารมณ์โกรธ แล้วพูดขู่ลอดไรฟันด้วยคำแทนตัวที่เปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว
“ถ้ามึงกล้าพูดจาดูถูกแพรอีกคำเดียวล่ะก็ มึงได้เละคามือกูแน่ ไม่เชื่อก็ลองดู” พูดเสร็จอัศวินก็สะบัดมือที่จับคอเสื้ออนุภัทรอย่างแรง
อนุภัทรถึงกับหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นแววตาของอัศวินที่จ้องมองมาราวกับจะหักคอเขาได้ด้วยเพียงสายตาคมกริบดุดันนั่น และตอนนั้นเอง เสียงโวยวายของรุ้งรวีก็ดังมาแต่ไกลและกำลังวิ่งหน้าตาตื่นมาพร้อมกับปิยวัฒน์และพิรภพ
<><><><><><><><><><><><><><><><>
คุณ lamyong พี่วินหนิไม่ไหวเลยเนอะ
คุณ Zephyr บทที่แล้วแพรโดนพี่วินทำร้ายจิตใจ มาบทนี้ก็โดนแฟนเก่าอีก กระอักเลือดแน่ ๆ ค่ะ
คุณ กาชะลอพลัดถิ่น จีน่าต้องตามมาเล่นงานวินไม่ช้าก็เร็วค่ะ หุหุ
เสน่ห์รักคล้องใจ ตอน 7-1
“ปัดโธ่โว๊ย เป็นบ้าอะไรกันไปหมดวะเนี่ย!” อนุภัทรโวยวายลั่นรถอย่างหงุดหงิด หลังจากวางสายจากพิชชาภาไปได้ไม่นาน แล้วพอลองโทรไปอีกหลายครั้งก็มีแต่เสียงสัญญาณให้ฝากข้อความ จนเขาหัวเสียที่เธอปิดมือถือหนีเขาเลยลงเอากับโทรศัพท์ด้วยการเขวี้ยงมันอย่างแรงไปทางเบาะหลัง
ตอนนี้ความโกรธหงุดหงิดของเขาเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เมื่อไม่สามารถจัดการอะไรได้สักอย่างแถมยังโดนผู้หญิงปากจัดอย่างจีน่าด่าเข้าให้อีก พอโทรไปหาพิชชาภา เขาก็แทบอยากจะโห่ร้องดีใจที่เธอยอมคุยกับเขาเสียที แต่แล้วเขาก็แทบอยากจะบีบคอสวย ๆ ของเธอเมื่อเธอขอเลิกกับเขาด้วยเหตุผลที่ว่าเธอไม่ได้รักเขาอีกต่อไป
แต่ถ้าพิชชาภาหมดรักเขาจริง ๆ เธอคงไม่บอกตัดความสัมพันธ์กับเขาด้วยเสียงที่สั่นเครือราวกับจะร้องไห้เป็นแน่ ดังนั้นเขาจึงมั่นใจเกินร้อยว่าเธอคงจะหมั้นกับไอ้เจ้าของโรงแรมนั่นเพราะครอบครัวเธอบังคับและแกล้งทำมาเป็นบอกว่าไม่ได้รักเขาแล้วอย่างแน่นอน
อนุภัทรยิ้มอย่างลำพองเมื่อรู้ว่าพิชชาภาไม่ได้หมดรักเขาอย่างที่เธอพูดจริง ๆ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น แผนจับยัยคุณหนูให้มาเป็นเมียเขาก็ยังคงเก็บไว้ใช้ได้อยู่
อนุภัทรเลี้ยวรถเข้าไปในซอยเล็ก ๆ แห่งหนึ่งซึ่งเป็นทางไปคฤหาสน์ของพิชชาภา เขาตั้งใจว่าอย่างไรวันนี้ก็ต้องคุยกับเธอให้รู้เรื่อง เพราะตอนนี้เขารู้แล้วว่าเธอยังคงมีใจให้เขาอยู่ หากเขาลองพูดอ้อนวอนเธอสักครั้ง บางทีเธออาจจะใจอ่อนยกเลิกการหมั้นแล้วกลับมาคบกับเขาตามเดิมก็เป็นได้ แล้วตอนนั้นเขาค่อยคิดหาทางรวบหัวรวบหางเธอขั้นเด็ดขาดเสียเลย
อนุภัทรขับรถมาถึงคฤหาสน์ของพิชชาภาและกำลังจะเลี้ยวรถเข้าไปข้างในเมื่อเห็นว่าประตูเปิดอยู่ แต่แล้วเขาก็ต้องเหยียบเบรคกะทันหันเมื่อรถเบนซ์สีขาวคันหรูแล่นสวนออกมา เขากำลังเข้าเกียร์เพื่อจะถอยรถเปิดทางให้เบนซ์คันโตได้ขับออกไปก่อน แต่สายตาเขาก็พลันเหลือบไปเห็นผู้หญิงคุ้นตาที่นั่งอยู่ในรถ
แพร!
เขามองไปทางที่นั่งด้านคนขับแล้วเห็นผู้ชายหน้าตาดีที่เขาจำได้ทันทีว่าเป็นใคร อัศวิน....ไอ้เจ้าของโรงแรมเฮงซวยนั่น อนุภัทรจับพวงมาลัยรถแน่นด้วยความโกรธสุดขีด เป็นเพราะมันที่ทำให้พิชชาภาต้องขอเลิกกับเขา และก็เป็นเพราะมันที่ทำให้เขาต้องสูญเสียบ่อเงินบ่อทองแหล่งใหญ่ไป ด้วยความโกรธแค้น อนุภัทรจึงกระชากประตูรถเปิดออกแล้วพุ่งไปยังรถของอัศวินทันที
อนุภัทรกำลังเดินเกือบจะถึงตัวรถซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่อัศวินและพิชชาภาลงมาจากรถพร้อมกัน เขาไม่รอช้ารีบตรงเข้าไปกระชากแขนของพิชชาภาอย่างแรงแล้วพยายามลากเธอไปที่รถของตัวเอง
“โอ๊ยย พี่ภัทร ปล่อยแพรนะ จะพาแพรไปไหน” พิชชาภาร้องครวญพลางบิดแขน พยายามใช้มืออีกข้างที่ว่างแกะมือของอนุภัทรออก
อนุภัทรไม่สนใจเสียงร้องค้านของหญิงสาว เขาจับต้นแขนของเธอแน่นแล้วพยายามดึงเธอไปที่รถของตนเอง
“ปล่อยแพรเดี๋ยวนี้นะ!” อัศวินตวาดลั่น รีบปราดไปยังอนุภัทรพร้อมกับคว้าแขนอีกข้างของพิชชาภา แล้วกระชากให้เธอมาทางเขาแต่อนุภัทรเองก็ดึงแขนของพิชชาภาไว้เช่นกัน
“นี่แฟนกู มึงอย่าเสือก ปล่อย!” อนุภัทรตวาดกลับอย่างไม่เกรงใจ
อัศวินถึงกับควันออกหูที่ถูกอนุภัทรใช้คำหยาบคายกับเขา แถมยังพูดแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของพิชชาภาอย่างออกนอกหน้า จนทำให้ความรู้สึกหึงหวงในตัวหญิงสาวซึ่งเริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่เห็นรูปไอ้หมอนี่บนหน้าจอมือถือของเธอเพิ่มทวีขึ้นเป็นเท่าตัว แต่เขาก็พยายามจะสะกดกลั้นอารมณ์โกรธเอาไว้เพราะรู้ว่าถ้าตัวเองเกิดฟิวส์ขาดขึ้นมาเมื่อไร คงได้ทำให้ไอ้หน้าจืดนี่ไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มที่โรงพยาบาลนานเป็นเดือนแน่
“คุณนั่นแหล่ะที่จะต้องปล่อย” อัศวินกัดฟันพูด สันกรามนูนแน่น
“มึงเป็นใครถึงมาสั่งกู ถอยไป!” อนุภัทรตะโกนสั่ง พยายามดึงแขนพิชชาภาไปที่รถของตน
“ปล่อยแพรนะพี่ภัทร! อย่ามาทำตัวเป็นนักเลงโตแถวนี้!” พิชชาภาตวาด พลางสลัดแขนหลุดจากการเกาะกุมของอนุภัทรได้ในที่สุด ก่อนจะมองหน้าชายคนรักเก่าด้วยความปวดใจ นึกไม่ถึงว่าผู้ชายที่เธอเคยคิดว่าแสนดีอย่างเขาจะกลายมาคนที่มีกริยาหยาบกระด้างเช่นนี้ได้
“แพร...ทำไมพูดกับพี่อย่างนี้ล่ะจ๊ะ รู้ไหมว่าพี่คิดถึงแพรแค่ไหน อยากจะพบหน้าแพรใจจะขาดจนทนไม่ไหวต้องมาหาถึงบ้าน แต่พอได้มาพบแพร แพรกลับทำเหมือนรังเกียจพี่” อนุภัทรพูดเสียงน้อยใจ
พิชชาภาลอบถอนใจ “แพรไม่ได้รังเกียจ แต่ที่พี่ภัทรทำกับแพรเมื่อกี๊มันแย่มากรู้ตัวไหมคะ อยู่ดี ๆ พี่ภัทรก็เข้ามากระชากแขนแพรแถมยังพูดจาหยาบคายใส่พี่วินอีก แล้วอย่างนี้จะให้แพร....” เธอยังพูดไม่ทันจบอนุภัทรก็สวนขึ้นมาด้วยเสียงหาเรื่อง หันไปชี้หน้าอัศวินแววตาเกรี้ยวกราด
“อ๋ออ...ที่แท้แพรก็กลัวไอ้ขี้ขโมยนี่จะโกรธใช่ไหม แคร์มันมากนักใช่ไหมถึงได้ออกโรงปกป้องมัน”
อัศวินที่ยืนฟังด้วยความโมโหอยู่นานอ้าปากจะพูดโต้ตอบกลับไปบ้าง แต่พิชชาภาก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน
“นี่ถ้าพี่ภัทรจะมาหาเรื่องคนอื่นแบบนี้ล่ะก็ แพรว่าพี่ภัทรกลับไปดีกว่าค่ะ” พิชชาภาพยายามพูดอย่างใจเย็น
“แพร! นี่ถึงขนาดกับไล่พี่เชียวเหรอ” อนุภัทรพูดอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“ถ้าพี่ภัทรจะคิดอย่างนั้นก็ตามใจ” พิชชาภาตอบเสียงห้วน ตอนนี้เธอมั่นใจเต็มร้อยว่าจะสามารถตัดอนุภัทรออกไปจากใจได้โดยไม่กลัวว่าตัวเองจะใจอ่อนยอมกลับไปคบกับเขาอีกครั้งหากชายหนุ่มมาตามตื้ออ้อนวอนเธอ
เพราะตั้งแต่ที่เขาแสดงกริยาอย่างกับพวกอันธพาลด้วยการเข้ามาฉุดกระชากลากถูเธอดื้อๆ ถึงในบ้าน บวกกับความเจ้าชู้ไม่จริงใจหลอกคบกับเธอเพราะเห็นว่าเธอรวย แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับการปิดฉากความรักระหว่างเธอและเขาตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา และต่อไปนี้ก็จะไม่มีน้ำตาจากเธอสำหรับผู้ชายอย่างเขาอีกต่อไป
อนุภัทรยืนอึ้งเมื่อได้ยินพิชชาภาพูดจาเย็นชาใส่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และเขาไม่คิดว่านั่นจะเป็นการเสแสร้งเพื่อให้เขาถอดใจจากเธอ เพราะแววตาที่มองมามันดูช่างห่างเหินไร้เยื่อใย เหมือนกับว่าเธอหมดรักเขาแล้วจริง ๆ
นี่ก็แปลว่าที่พิชชาภาบอกเลิกกับเขาคงไม่ใช่แค่เพราะถูกครอบครัวเธอบังคับให้แต่งงานเท่านั้น มันต้องมีสาเหตุอื่นที่ทำให้เธอหมางเมินเขาเช่นนี้ พลันสายตาเขาก็เหลือบไปมองอัศวินที่ยืนยิ้มเยาะสะใจอยู่ข้าง ๆ หญิงสาว ทันใดนั้นความโกรธแค้นก็แล่นขึ้นมาเป็นริ้ว ๆ
“เพราะไอ้บ้านี่ใช่ไหมถึงทำให้แพรเย็นชาใส่พี่ เพราะไอ้ขี้ขโมยนี่มันรวยกว่า หล่อกว่า ไฮโซกว่าพี่ใช่ไหมแพรถึงได้วิ่งโล่ไปหามันอย่างกับนังร่า_แบบนี้!” อนุภัทรตะคอกด้วยคำพูดหยาบโลนพลางชี้หน้าไปที่อัศวิน
“พี่ภัทร!” พิชชาภากรีดร้องเสียงเครือ น้ำอุ่น ๆ เอ่อคลอดวงตาอย่างรวดเร็ว ไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นผู้ชายปากร้ายได้ขนาดนี้
“ไอ้เลวเอ๊ย!” อัศวินสบถลั่นแล้วถลันเข้าหาอนุภัทรพร้อมกับปล่อยหมัดขวาเข้าให้ที่คางอย่างแรงจนอนุภัทรหงายหลังล้มไปกองกับพื้น
อัศวินสาวเท้าเร็ว ๆ ไปที่อนุภัทรซึ่งนั่งเอามือกุมคางอยู่ที่พื้นด้วยแววตาดุดัน ก้มลงไปกระชากคอเสื้อแล้วกำหมัดขึ้นสูงหมายจะชกซ้ำอีกครั้ง
“พี่วินพอเถอะค่ะ!” พิชชาภารีบร้องห้าม
อัศวินกำหมัดค้างจนข้อนิ้วขาวซีด ขบสันกรามแน่นพยายามสะกดอารมณ์โกรธ แล้วพูดขู่ลอดไรฟันด้วยคำแทนตัวที่เปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว
“ถ้ามึงกล้าพูดจาดูถูกแพรอีกคำเดียวล่ะก็ มึงได้เละคามือกูแน่ ไม่เชื่อก็ลองดู” พูดเสร็จอัศวินก็สะบัดมือที่จับคอเสื้ออนุภัทรอย่างแรง
อนุภัทรถึงกับหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นแววตาของอัศวินที่จ้องมองมาราวกับจะหักคอเขาได้ด้วยเพียงสายตาคมกริบดุดันนั่น และตอนนั้นเอง เสียงโวยวายของรุ้งรวีก็ดังมาแต่ไกลและกำลังวิ่งหน้าตาตื่นมาพร้อมกับปิยวัฒน์และพิรภพ
<><><><><><><><><><><><><><><><>
คุณ lamyong พี่วินหนิไม่ไหวเลยเนอะ
คุณ Zephyr บทที่แล้วแพรโดนพี่วินทำร้ายจิตใจ มาบทนี้ก็โดนแฟนเก่าอีก กระอักเลือดแน่ ๆ ค่ะ
คุณ กาชะลอพลัดถิ่น จีน่าต้องตามมาเล่นงานวินไม่ช้าก็เร็วค่ะ หุหุ
เปลวหอม
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ต.ค. 2558, 09:55:56 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 ต.ค. 2558, 15:43:42 น.
จำนวนการเข้าชม : 1295
<< ตอนที่ 6 | ตอนที่ 7-2 >> |
กาซะลองพลัดถิ่น 29 ต.ค. 2558, 13:46:53 น.
โห เท่ากับเติมไฟใส่เชื้อให้โหมแรงขึ้นไปอีกทั้งจีน่าและภัทร ผีเน่ากับโลงผุ จริง ๆ
ทั้งอัศวินและแพรสองคนระวังตัวไว้ดี ๆ นะงานคงเข้ามาหาในไม่ช้าแบบรับไม่หวาดไม่ไหวแน่ ๆ
โห เท่ากับเติมไฟใส่เชื้อให้โหมแรงขึ้นไปอีกทั้งจีน่าและภัทร ผีเน่ากับโลงผุ จริง ๆ
ทั้งอัศวินและแพรสองคนระวังตัวไว้ดี ๆ นะงานคงเข้ามาหาในไม่ช้าแบบรับไม่หวาดไม่ไหวแน่ ๆ
lamyong 29 ต.ค. 2558, 20:20:38 น.
คนบางคนรู้หน้าไม่รู้ใจ จากที่เคยคิดว่าดีแต่แท้จริงแล้วข้างในเน่าหนอน อนุภัทรน่ากลัวจริงๆ
คนบางคนรู้หน้าไม่รู้ใจ จากที่เคยคิดว่าดีแต่แท้จริงแล้วข้างในเน่าหนอน อนุภัทรน่ากลัวจริงๆ