ล่ารักแดนทะเลทราย สนพ กรีนมายด์
แหวนล้ำค่าสัญลักษณ์แห่งราชวงศ์สวมใส่อยู่บนนิ้วของ ‘แอล’ นักวาดภาพสมัครเล่น แต่องค์รักษ์ธามินยังไม่ทันสืบหาเรื่องราวที่แท้จริง ก็พบหญิงสาวลึกลับผู้นั้นอยู่กลางวงล้อมของกบฏที่แฝงตัวไปทั่วทะเลทราย เธออาจเป็นนางนกต่อหรือสายของกบฏก็ได้ ทว่าธามินต้องพาเธอไปด้วยจนกว่าจะพบองค์หญิงซาเมรา ซึ่งคนของเขาส่งข่าวว่าถูกลักพาไปเป็นตัวประกัน
ซาเมราต้องปลอมตัวเป็นหญิงสามัญชน เพราะไม่อาจวางใจชายแปลกหน้าที่เข้ามาช่วยเธอไว้กลางทะเลทราย แต่ด้วยความจำเป็นทำให้หญิงสาวต้องเดินทางไปกับเขา เพื่อสืบให้รู้ว่ากบฏแดนทรายอยู่ที่ใด จะได้กำจัดให้สิ้นซาก
แต่ความลับกลับถูกเปิดเผยเสียก่อน เมื่อหญิงสาวลึกลับกลายเป็นองค์หญิงซาเมรา และชายแปลกหน้ากลายเป็นราชองครักษ์ธามิน องค์ชายที่ถูกลดเกียรติให้เป็นเพียงสามัญชน และเขาอาจเป็นกบฏที่เธอตามหาอยู่ก็เป็นได้ ซาเมราจะทำอย่างไร ระหว่างมอบความตายให้ธามิน หรือหนีไปด้วยกันจนสุดหล้า เมื่อเธอรู้ตัวแล้วว่ารักเขาหมดหัวใจ
Tags: ทะเลทราย ความรัก องครักษ์ เจ้าหญิง

ตอน: ตอนที่ 11ครึ่งหลัง

ซาเมรากับธามินยังคงกลับมาที่บ้านหลังเล็กในอาณาบริเวณของทามาลโดยไม่มีใครสงสัยและไม่มีความผิดปกติอื่นใดให้กังวล จึงเป็นคืนแรกที่ทั้งสองหลับได้โดยไม่ต้องสะดุ้งตื่นเพราะคิดว่าจะมีกบฏเข้ามาอย่างหลายคืนที่ผ่านมา รุ่งเช้าธามินไปทานอาหารกับอดีตนายพลคนนั้น ซาเมราสังเกตไปทั่วในระหว่างที่รอเขาออกมา เธอเห็นผู้ชายที่เป็นคนรับใช้ของทามาลมีรูปร่างสูงใหญ่ บึกบึนเหมือนทหารมากกว่าจะเป็นชาวบ้านธรรมดา อีกทั้งภายในบ้านหลังใหญ่นั้นก็มีบางส่วนที่ห้ามเดินไปเพราะมีคนเฝ้าทางเข้าไว้
ถ้าสิ่งที่ธามินสันนิษฐานไว้เป็นความจริง แสดงว่าการลาออกจากตำแหน่งนายพลทั้งๆ ที่แค่ถูกสงสัยย่อมไม่ได้ทำเพื่อความบริสุทธิ์ใจ แต่ออกมาเพื่อส่งคนแทรกซึมงานในส่วนต่างๆ แล้วคอยชักใยอยู่เบื้องหลังโดยที่ไม่มีใครทันคิดว่าเป็นทามาล แต่ซาเมราก็ยังเกิดคำถามว่ามันจะเป็นไปได้หรือที่ทามาลจะเป็นผู้วางแผนล้มบัลลังก์เพียงคนเดียว
ซาเมรากับธามินเดินออกไปตลาดกันในตอนบ่ายอย่างเงียบๆ เพื่อยืนยันแผนครั้งสุดท้ายกับมาลิค แต่ทั้งสองกลับได้รับข้อมูลใหม่ที่น่ากังวล ดาวเทียมทหารพบวัตถุบางอย่างฝังอยู่ใต้ดินทั้งสี่ด้านของหมู่บ้านแห่งนี้ คนของมาลิคกำลังพยายามเข้าไปบริเวณนั้นเพื่อตรวจสอบว่ามันคืออะไรกันแน่ มาลิคกังวลว่าอาจเป็นปืนต่อสู่ท่าอากาศยานซึ่งกระทบต่อแผนการหนีในคืนนี้แน่นอน
ของต่างๆ ถูกเผาทำลายเมื่อซาเมรากับธามกลับมาที่บ้านหลังเดิม หากมีอะไรผิดพลาดคนพวกนี้จะไม่รู้ว่าเขามีแผนอะไรหรือแม้กระทั่งกำลังจะไปไหนหลังจากเปิดโปงเส้นทางลับที่กบฏอาจจะใช้เป็นเส้นทางหลบการตรวจของเครื่องบินลาดตระเวน เสียงเคาะประตูทำให้ต้องปิดประตูหลังที่ของทุกอย่างไหม้ไปหมดแล้ว ซาเมราถูกธามินสั่งให้แอบอยู่หลังโซฟาตัวใหญ่ในระหว่างที่เขาไปเปิดประตู ดอกไม้ถูกยื่นมาให้พร้อมรอยยิ้มหวานๆ ของทิชาที่มาหาธามินในชุดแซกสีฟ้าอย่างที่เขาเคยบอกว่าเธอใส่แล้วสวย
“ไปขี่ม้าด้วยกันนะ”
ซาเมราเงยหน้าแอบมองทิชา สีหน้าของผู้หญิงคนนั้นดูหม่นเศร้าราวกับตกอยู่ในห้วงทุกข์บางอย่างทั้งที่พยายามยิ้ม ทำไมถึงเป็นแบบนี้กันนะ ธามินคิดเพียงครู่เดียวก็ตอบกลับไป
“ได้สิ ถ้าต้องจากกันอีกครั้ง ผมอยากคุยกับทิชาแล้วจากกันด้วยดี” เกิดเรื่องแบบนี้ธามินก็เสียใจเช่นกันที่ต้องมาอยู่คนละฝั่งของกฏหมายกับผู้หญิงที่เขารักเคยรัก “ให้แอลไปด้วยกันนะ ไม่อยากทิ้งมันไว้ให้อยู่คนเดียว”
“ทิชาอยากไปกับธามแค่สองคน ไม่ต้องพาเด็กรับใช้ไปหรือค่ะ”
“มันขี้กลัว พ่อแม่มันฝากไว้ ถ้าเป็นอะไรขึ้นมา ผมคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตเชียวล่ะ”
ทิชาเลิกคิ้วถอนใจเกือบจะเซ็ง “ตามใจธามแล้วกันค่ะ ไม่เข้าใจจะห่วงอะไรนักหนา”
ธามินพาซาเมรามาขึ้นม้าแกลบตัวเล็กที่ทิชาสั่งให้คนเตรียมไว้ก่อนจะขึ้นม้าของตัวเอง เพียงไม่นานม้าสามตัวก็ควบช้าๆ ออกไปยังทะเลทรายเวิ้งวางด้านนอกหมู่บ้านในยามที่แสงอาทิตย์ใกล้ลาจากขอบฟ้าพอดี ซาเมราผ่อนฝีเท้าของม้าให้ช้าลง ปล่อยให้ธามกับทิชาได้คุยกัน ในฐานะเด็กรับใช้คงไม่สามารถไปเทียบเสมอเขา แต่ฟังได้เพราะเสียงมันลอยมาหาเองนี่นา
รอยยิ้มสวยซึ้งที่ทิชาเคยทำให้ธามินรักและเจ็บปางตายถูกนำมาใช้อีกครั้งด้วยความจริงใจ หากว่าการพบกันหลังจากผ่านสองปีเป็นเรื่องของโชคชะตา เธอก็อยากให้เขาทิ้งหน้าที่ของตัวเองแล้วอยู่ด้วยกันตลอดไป การทิ้งเขาในคราวนั้นเป็นความผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัยตัวเองหากเธอจะโน้มน้าวเขาได้คงไม่ต้องทำแบบนี้
“ธามกลับมาคบกับทิชาได้ไหม ตั้งแต่เลิกกัน ทิชาคิดมาตลอดว่าคนที่ผิดไม่ใช่ธามเลย ถ้าตอนนั้นทิชาไม่เอาแต่ใจ จนเปิดใจคบคนอื่นเพราะคิดว่าธามไม่รักถึงได้ไม่ยอมตามใจ ตอนนี้การแต่งงานของทิชากับธามคงเกิดขึ้นไปแล้ว”
ธามินถอนใจให้ความเจ็บปวดในอดีตของตัวเอง ตอนนั้นทิชาอยากให้เขาอยู่อเมริกาหางานทำแล้วสร้างครอบครัวด้วยกันไม่กลับมานัวเรด์ดีนเพื่อเป็นราชองครักษ์ แต่เขาเลือกทำหน้าที่เพื่อครอบครัว เธอจึงเป็นฝ่ายจากไปพร้อมผู้ชายอีกคน
“ทำไมอยู่ๆ ทิชาถึงคิดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก เรื่องมันผ่านมาสองปีแล้ว ผมอยู่กับปัจจุบันไม่ใช่อดีต”
“เพราะทิชายังรักธามอยู่ไงคะ แล้วธามล่ะ ยังคิดเหมือนกันอยู่ใช่ไหม” ทิชาวางมือบนแขนของอดีตคนรัก ถ้าธามินยังรักเขาจะเป็นฝ่ายจับมือของเธออีกครั้ง
สีหน้าของธามินไม่เปลี่ยน คนแอบฟังเลยได้แต่ลุ้นว่าเขาจะตอบไปอย่างไร แต่คนที่ลุ้นกว่าคงเป็นทิชา
“ผมเคยรักทิชา หลังจากเลิกกันไปตอนนั้นผมยิ่งคิดว่าหน้าที่สำคัญกว่าความรัก ถ้าตอนนั้นผมเลือกทิชาคงทำให้พ่อแม่เสียใจ เพราะฉะนั้นการตัดสินใจของผมยังคงเหมือนเดิม”
ไม่ผิดไปจากที่ทิชาคิดเอาไว้นัก เธอรู้จักธามินมากพอที่จะรู้ว่าการขอให้เขากลับมารักกันอีกครั้งต้องใช้คำว่าเตรียมใจรับความผิดหวัง ให้อย่างไรเขาก็ยังคงเลือกหน้าที่มากกว่าเธอ แต่เหตุผลของเขามีเพียงเท่านี้จริงๆ น่ะหรือ
“เพราะทิชาไม่ใช่ลูกสาวนายพลแล้วใช่ไหม ธามถึงตัดสินใจปฏิเสธทิชาได้ง่ายกว่าเมื่อสองปีก่อน”
ธามินส่ายหน้า “ไม่ใช่เลย คุณค่าของทิชาอยู่ที่ตัวเอง ไม่ใช่ยศหรือฐานะทางสังคม สิ่งพวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผมเห็นว่าทำให้ชีวิตคู่มีความสุขมาได้ แต่มันต้องมีความรัก สิ่งนี้แหละที่ผมที่ไม่มีเหลือที่จะมอบให้ทิชาแล้ว”
“บอกทิชามาหน่อยได้ไหมว่ามีอะไรที่จะเปลี่ยนใจธามได้บ้าง”
“ความเป็นเพื่อนจากผมดีที่สุดแล้วสำหรับทิชาในตอนนี้”
ซาเมราฟังอยู่เงียบๆ ได้แต่ถอนใจแล้วถอนใจอีก ผู้หญิงสวยอย่างทิชายังเปลี่ยนใจธามินไม่ได้ ผู้ชายอะไรใจแข็งอย่างกับหิน แต่ความซื่อตรงของธามินทำให้เธอไม่ต้องกังวลว่าเขาจะทรยศพี่ชาย
ทิชาเป็นฝ่ายจับมือของธามินไว้เมื่อรู้แล้วว่าเขาคงไม่จับมือของเธออีก “แล้วถ้าทิชาทำผิดต่อธามอีกครั้ง ธามจะเกลียดทิชาหรือเปล่า”
ธามินยิ้มแล้วถอนใจเมื่อรู้ถึงความนัยที่ทิชาเอ่ยมา “ไม่รู้สิ ผมต้องรู้ก่อนว่าเรื่องอะไร”
ม้าที่ทิชานั่งถูกกระตุกเชือกให้ขยับเข้ามาชิด ไหล่หนาชิดไหล่บาง มันเป็นช่วงเวลาที่ทิชาต้องตัดสินใจ ธามินได้ตัดสินใจไปนานแล้ว แต่เธอเพิ่งตัดสินใจได้ในตอนนี้ อ้อมแขนกลมกลึงของทิชาขยับมากอดร่างหนาเอาไว้แม้ว่าธามินจะไม่กอดตอบกลับมาเลยก็ตาม
“คืนนี้พบกันที่แคมป์นะคะธาม อย่าผิดนัดเชียวนะ ทิชาจะรอ”
ทิชาคลายอ้อมกอดธามินอย่างตัดใจแล้วควบม้ากลับเข้าหมู่บ้าน สีหน้าของทิชาตอนขากลับที่เซเมราเห็นช่างต่างจากตอนขามาราวกับคนละคน สายตาคู่นั้นดูเหี้ยมและมุ่งมั่นบางอย่าง ธามินดึงบังเหียนให้ม้ากลับมาหาซาเมราแล้วบอกให้กลับบ้านกัน ทุกคนต่างต้องตัดสินใจทำในสิ่งที่คิดว่าถูกต้องที่สุด แม้จะต้องทำร้ายใครไปบ้างก็ตาม

ซาเมราเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นโตเบสีทึมที่มาลิคจัดการหาให้ตามความต้องการของธามิน โตเบตัวใหญ่ช่วยพรางเสื้อกันกระสุนที่เธอต้องใส่เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางที่อาจมีอุปสรรค ธามินยืนซ้อนหลังร่างเล็กของซาเมราเพื่อช่วยพันสะระบั่นให้แน่นหนา เพียงตาสบตาหัวใจสองดวงอุ่นวาบระคนเสียดายเมื่อมันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขากับเธอได้ใกล้ชิดกันแบบนี้ ไม่มีทหารปลายแถวและเจ้าหญิงสูงศักดิ์ที่แตะต้องไม่ได้ มีเพียงสิ่งที่อยากเขาอยากทำให้เธอก่อนจากลาเพราะไม่รู้ว่าจะได้พบกันอีกเมื่อไหร่
“คืนนี้องค์หญิงต้องทำตามแผนที่ผมบอกนะครับไม่อย่างนั้นคนพวกกบฏอาจจะรู้ตัว แล้วองค์หญิงจะเป็นอันตรายได้” ธามินบอกพลางเหน็บปืนให้ซาเมราที่ข้อเท้าเพราะสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ เธอควรมีอาวุธประจำกาย
“นายไม่เปลี่ยนใจแน่นะ”
“เรื่องอะไรหรือครับ”
เรื่องแฟนเก่าน่ะสิ ซาเมราเม้มปากห้ามตัวเองไม่ให้พูดออกไปเชียว สายตาของธามินมองมา เธอกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ถ้าถูกเขาจ้องสักชั่วโมงเดียวเท่านั้น เธอคงเหลวละลายกลายเป็นน้ำแน่ๆ
“ไม่มีอะไร ช่างมันเถอะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น นอกจากฉันได้กลับวัง นายก็ต้องได้กลับไปพร้อมกัน ห้ามทำอะไรเสี่ยงเพื่อใครหน้าไหนถ้าฉันไม่ได้สั่งเด็ดขาด”
รอยยิ้มกว้างที่สุดเท่าที่ธามินเคยยิ้มมาถูกมอบให้ซาเมราพร้อมกับที่เขานั่งลงชันเข่าวางแขนบนหน้าขาแล้วก้มหน้าลงให้เธออย่างคนที่ยอมสละได้แม้ชีวิต
“แล้วแต่พระประสงค์”
บางสิ่งที่หลงลืมไปกลับสู่ความเป็นจริง ต่อให้ปลอมตัวเป็นใครและมอมแมมแค่ไหน แต่ซาเมรายังคงเป็นองค์หญิงที่เขาต้องย้ำไว้ในใจว่าสูงส่งจนไม่อาจเอื้อม ซาเมรารู้ใจตัวเองแล้วว่าชอบนายธามิน แต่มันคงเป็นไปไม่ได้เมื่อเธอต้องกลับวังไปแล้วทำหน้าที่ของตัวเองเช่นเดียวกับเขา
ในเวลาเดียวกันนั้นคนของมาลิคกำลังเข้าไปใกล้จุดที่คาดว่าปืนยิงต่อสู่อากาศยายถูกฝั่งไว้ใต้ดิน ซึ่งน่ากังวลหากพบวัตถุต้องสงสัยอย่างเครื่องบินบานปิดจะเปิดแล้วปืนยิงต่อสู้อากาศยานจะยิงออกไปทำลายวัตถุนั้นได้ทันที การที่เครื่องบินจะลงมารับซาเมราจึงไม่ใช่เรื่อง่ายเสียแล้ว

เสียงกลองตีด้วยจังหวะคึกครื้นในยามที่ธามิกับซาเมรากำลังจะเข้าไปสู่ลานกว้างของงานฉลองพอดี ซาเมราเห็นทางเข้าทำเป็นกระโจมที่เมื่อผ่านเข้าไปจะพบแสงจากกองไฟนับสิบดวงเพื่อเป็นแสงสว่างและให้ความอบอุ่นกับทุกคนในยามค่ำคืนนี้ โต๊ะหลายตัววางล้อมรอบเวทีที่เป็นเพียงผืนทรายซึ่งปูด้วยผ้าใบประดับประดาด้วยพรมลายสวยและไฟรวงอย่างกับกำลังอยู่ในเมือง
เมื่อซาเมรามองไปยังลานตรงกลางก็เห็นนางรำกำลังร่ายรำแบบรัค ชาคกีหรือระบำหน้าท้องนั่นเอง ปี่และกลองทำหน้าที่ให้จังหวะช่วยให้บรรยากาศน่าสนุกไปอีกแบบ เธอเดินตามธามินไปเรื่อยๆ จนเห็นทิชายกมือให้ เขาเดินไปที่นั่นแล้วนั่งลงที่พรมข้างๆ ซึ่งมีโต๊ะตัวเล็กคั่นกลาง
ซาเมรานั่งเยื้องไปข้างหลังในฐานะเด็กรับใช้ที่ไม่อาจทำตัวเสมอนายได้ ครู่เดียวเท่านั้นเธอก็ได้กลิ่นน้ำผลไม้ส่งกลิ่นหอมลอยมาจากเครื่องดื่มที่ทิชาส่งมาให้ธามิน
“คืนนี้มีประลองด้วยล่ะ ถ้าธามสนใจลงประลองได้นะ มีรางวัลเสียด้วย” ทิชายิ้มสนุกกับงานฉลอง
“น่าสนใจนะ แต่ผมต้องรู้ก่อนว่ารางวัลคืออะไร” ธามินยิ้มอำพรางความสงสัยเมื่อเห็นดวงตาของทิชาว่างเปล่า ทั้งที่เธอพยายามแสดงว่าออกมาสนุกกันงานฉลองมากมาย
“ถ้าธามลงประลองแล้วชนะ ทิชายกตัวเองเป็นรางวัลให้ดีไหมคะ” ทิชาหัวเราะเบาๆ เมื่อธามินไม่แสดงท่าทีว่าเปลี่ยนใจ พอหันมาเห็นไอ้เด็กรับใช้ที่ตามเขาเป็นเงาก็ยิ่งหงุดหงิด “ไปนั่งตรงโน้นสิแอล ตรงนี้ไม่ใช่ที่ของเด็กรับใช้”
“ให้แอลอยู่ตรงนี้แหละ อยู่ตรงโน้นไปพูดกับใครคงไม่รู้เรื่องหรอก เดี๋ยวผมจะดูแลมันเอง”
ทิชานิ่งเงียบเช่นเดียวกับธามินราวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลาเป็นเพียงละครบังหน้าเท่านั้นเอง ก่อนเดินมาถึงงานธามินได้รับข่าวจากมาลิคว่าให้ช่วยถ่วงเวลาไว้ก่อนเพราะคนของเขากำลังฝังระเบิดปืนยิงต่อสู้อากาศยาน ช่างน่าหนักใจไม่น้อยเมื่อวิธีที่จะถ่วงเวลาย่อมแปลว่าธามินต้องทำให้ตัวเองกลายเป็นจุดสนใจ
การแสดงระบำหน้าท้องจบลงพร้อมกับเสียงดนตรี ทามาลเดินเข้ามากลางลานกว้างและพูดเสียงดัง คนทั้งงานหันมามองที่เขาเป็นตาเดียว
“ในคืนอันน่ายินดีแห่งนี้ หากมีผู้ใดต้องการแสดงฝีมือให้ประจักษ์แก่สายตาผม ขอให้ลุกขึ้นมาเถิด รางวัลที่ผมเตรียมไว้เป็นทองคำล้ำค่าจะตกเป็นของผู้ชนะทันที”
เกิดเสียงอื้ออึงเมื่อรางวัลของทามาลช่างน่าสนใจ พลันชายคนหนึ่งที่สูงและตัวใหญ่มากก็ก้าวเข้ามากลางเวที เสียงโห่ร้องเป่าปากเซ็งแซ่ ซาเมราไม่ได้สนใจว่าคู่ประลองของชายคนนั้นจะเป็นใครจนกระทั่งธามินลุกขึ้นจนเธอห้ามไม่ทัน แทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังทำอะไรลงไปยามที่เธอคว้ามือหนาของเขาเอาไว้
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่าแอล ฉันไม่เป็นอะไรหรอก”
ธามินมองไปยังชายที่นั่งอยู่ในกลุ่มคนเลี้ยงม้า พลันชายคนนั้นก็ลุกขึ้นมาแล้วส่งเสียงบอก
“มานั่งด้วยกันสิแอล”
พอธามินพยักหน้าซาเมราจึงจำต้องเดินตามทหารในคราบคนเลี้ยงม้าไปยังที่นั่งซึ่งห่างออกมาพอสมควร แต่ถึงกระนั้นก็เห็นการต่อสู้ได้ชัดเจนอยู่ดี เธอไม่เข้าใจว่าเขาจะทำแบบนี้ทำไม
ทิชามองไปยังลานประลองอย่างใจจดใจจ่อเหมือนคนอื่นๆ ตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวแต่ถ้าคนของพ่อหาตัวทหารแล้วกำจัดได้หมด ไม่ว่าอะไรที่ธามินปิดบังไว้จะถูกกระชากความจริงออกมา อีกทั้งคืนนี้เป็นคืนสำคัญเพราะคูเซย์จะเดินทางไปพบเพื่อนร่วมอุดมการณ์ เธอกับพ่อวางแผนออกเดินทางหลังงานฉลองจบลงและพาธามินไปด้วยเพราะมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่าองค์หญิงซาเมราอยู่ที่ไหน

คู่ประลองมายืนประจันหน้ากันและเลือกอาวุธที่ตนเองถนัด ชายที่เป็นคู่ประลองของธามินหยิบหอกออกมาเล่มหนึ่ง ในขณะที่ธามินเลือกกันจาร์ ซาเมราหายใจติดขัดอยากออกไปห้ามแต่ถ้าทำแบบนี้คนที่อันตรายจะเป็นธามินเสียเอง เธอเพิ่งรู้จากทหารว่าเขาทำแบบนี้ทำไม ตราบใดที่ความสนใจของทามาลอยู่ตรงนี้ การลงมือของมาลิคในส่วนอื่นๆ จะถูกมองข้ามไปชั่วคราว
“เริ่มการประลองได้” เมื่อคู่ประลองทั้งสองพร้อมแล้วทามาลก็ประกาศ
คู่ประลองควงหอกอย่างชำนาญเป็นการข่มขวัญและบ่งบอกถึงฝีมือในกระบวนยุทธ์ได้มาก ธามินมองคู่ต่อสู้อย่างประเมินก่อนจะย่อตัวเพื่อเตรียมพร้อมสู่การโจนจ้วงในจังหวะที่เหมะสม เขามองอย่างแน่วแน่เพราะในการต่อสู้ครั้งนี้อาจพลาดพลั้งถึงแก่ความตายได้ทุกเมื่อ ทั้งสองเดินเป็นวงกลมเพื่อหาจังหวะในการจู่โจม เจ้าของหอกกระโจนเข้าหาพร้อมกับทิ่มคมแหลมๆ เข้ามา ธามินเพียงเบี่ยงตัวหลบและใช้จังหวะนั้นเหวี่ยงกันจาร์ใส่คู่ต่อสู้ที่ไหล่ซ้าย เลือดของชายคนนั้นไหลออกมาจากบาดแผลที่เปิดอ้า
เกิดเสียงอื้ออึงทันทีหลังการฟาดฟันกันและเงียบลงเมื่อคู่ประลองเริ่มหาจังหวะใหม่ คราวนี้ธามินเลือกเข้าทำก่อนด้วยการพลิ้วกายไปหาชายร่างยักษ์ซึ่งเคลื่อนไหวช้ากว่าเขามาก ไหล่ขวาและแขนซ้ายของคู่ต่อสู้ได้แผลจากคมกันจาร์พอจะจ้วงหอกใส่ ธามินก็กลับทะยานร่างออกมาโดยเร็วเกินระยะที่อีกฝ่ายจะทำอะไรได้ทัน
มือทั้งสองข้างของซาเมราประสานกันแน่นอย่างลุ้นระทึกปนหวาดหวั่นด้วยความกลัวว่าครั้งต่อไปคมหอกจะได้ดื่มกินเลือดจากธามินบ้าง เจ้าของร่างยักษ์ใหญ่ยืนโงนเงนแต่ยังไม่ยอมแพ้รีบทิ่มหอกใส่ ธามินหลบแต่ไม่พ้นจึงเซถลาไป คู่ประลองเข้ามากะซ้ำแต่เขาไหวตัวทันกรีดกันจาร์เข้าที่สีข้างจนคู่ต่อสู้ชะงักค้างล้มลงหมดสภาพ เสียงปรบมือดังสนั่นและเชียร์ให้ทั้งสองสู้กันต่อไป ทว่าธามินกลับทิ้งกันจาร์ลงแล้วยื่นมือไปดึงร่างที่บาดเจ็บเลือดโทรมกายขึ้นมาเป็นอันจบการประลองเพียงเท่านี้
“อย่าออมมือสิหลานชาย ชนะแบบนี้ยังไม่เต็มอิ่มเท่าไหร่เลย” ทามาลหัวเราะไม่ได้ตำหนิจริงจังอะไร
“ประลองสนุกๆ แต่ไม่ถึงกับเสียชีวิตก็พอครับท่านทามาล” ธามินให้เหตุผลก่อนจะกลับมายังที่นั่งของเขา
ทหารในคราบคนเลี้ยงม้าพาแอลมาส่งคืน แต่เครื่องดื่มกลับล่วงลงพื้นต้องเก็บแก้ว ธามินก้มลงไปช่วยจึงได้ยินเสียงกระซิบแผ่วบอกข่าวจากคนของมาลิก
“คนพร้อมแล้วครับ เริ่มทำตามแผนได้”
แก้วถูกเก็บขึ้นไปพร้อมๆ กับคนเลี้ยงม้าทำทีเดินไปยังโรงครัวเพื่อล้างแก้ว แต่เพียงครู่เดียวก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ธามินส่งเครื่องดื่มหวานๆ มาให้ซาเมรา เธอรับมาแล้วดื่มอย่างรู้แผนจึงนั่งเฉยรอเวลาให้ยาออกฤทธิ์ ไม่เกินสามนาทีเท่านั้น ยาที่ธามินเป็นคนใส่ในเครื่องดื่มก็สำแดงออกมาทำให้ซาเมราถึงกับกุมท้องนั่งตัวงอ

หนังสือวางจำหน่ายแล้วที่งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ บูท กรีนมายด์ O38 โซน C1 ค่ะ
อัมราน_บรรพตี



บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 31 ต.ค. 2558, 10:11:19 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 31 ต.ค. 2558, 10:11:19 น.

จำนวนการเข้าชม : 870





<< ตอนที่ 11 ครึ่งแรก   ตอนที่ 12 ครึ่งแรก >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account