เล่ห์รักพรางแค้น วางแผงแล้ว สนพ ทัช
ใครจะไปคิดว่าการทำภารกิจให้ปู่ กลับกลายเป็นถูกโชคชะตากลั่นแกล้งให้เขาถูกสลัดลงจากคาน ยัยซื่อบื้อนั่นน่ะหรือคือไก่วัดที่ทำให้เขากลายเป็นสมภาร
Tags: ความรัก ความหลัง

ตอน: ตอนที่ 1 ครึ่งแรก

ตอนที่ 1

...มีหลายอย่างในชีวิตที่ฉันยังไม่ได้ทำและไม่มีโอกาสได้ทำอะไรอีกแล้ว ความสำเร็จที่คาดหวังพังทลาย ชีวิตไม่อาจก้าวต่อไปเมื่อหัวใจไม่พร้อมจะต่อสู้อะไรอีก ที่ผ่านมาฉันทำอะไรลงไป ถ้ารู้ว่าอนาคตจะหมดลงพร้อมๆ กับทำให้ทุกคนผิดหวัง ฉันจะหยุดทุกอย่างไว้แล้วรักคนที่ดียิ่งกว่าใคร ขอโทษจากใจ ร้อยหมื่นหยดน้ำตาคงเรียกคืนความผิดหวังจากแม่ไม่ได้ ช่างโง่เขลาเหลือเกินที่มีทางเลือกมากมาย แต่ฉันกลับเลือกหนทางนี้ การก้าวต่อไปมันยากเกินไปสำหรับคนแพ้และเหนื่อยที่ต้องสู้เสียแล้ว ฉันอยู่ต่อไปอีกไม่ไหว มันทรมานเหลือเกิน หากจะตายก็ขอให้ได้ตายเพื่อคนที่ฉันรัก
ของเหลวจากยาชนิดหนึ่งละลายไว้ถูกกลืนลงคอไป ร่างบอบบางใจแสนทรมานวางจดหมายฉบับสุดท้ายไว้บนโต๊ะข้างกล่องแห่งความทรงจำ แล้วเดินอ่อนแรงไปที่เตียงดึงผ้ามาห่ม ราตรีนี้ช่างยาวนาน แสงสุดท้ายในชีวิตจากไปแล้ว แทนที่ด้วยความมืดมน เรียวปากบางยิ้มละไม ไม่มีอะไรต้องห่วงอีกแล้ว เปลือกตาค่อยๆ ปิดลงเข้าสู่ความฝันที่จะพาเธอไปยังดินแดนแสนไกลที่ไม่อาจกลับมาสู่โลกใบนี้อีกเลย

เสียงปืนนัดสุดท้ายสำหรับการแข่งขัน SCR 2015 รายการใหญ่ของปีดังขึ้น ณ สนามพีระเซอร์กิต รถยนต์หมายเลข 013 จากทีม Blue Racing กำลังแล่นสู่เส้นชัยด้วยความเร็วสูงโดยมีรถหมายเลข 007 จาก Win Racing ขับขนาบข้างมาห่างกันเพียงครึ่งชั่วคันรถเท่านั้น เสียงเชียร์ดังสนั่นไปทั่วสนาม ธงหมากรุกยกมาเตรียมรออีกไม่กี่วินาทีเท่านั้นจะรู้ว่าใครเป็นผู้ชนะ
ภาวัตหันไปมองคู่แข่งที่เร่งความเร็วจนมาเทียบเสมอกันได้ กำปั้นยกขึ้นปูนิ้วโป้งยิ้มสะใจที่วันนี้คู่แข่งไล่บี้มาจนทัน แต่มันไม่ง่ายถ้าจะแซงเขา ปุ่มเร่งเครื่องตัวสุดท้ายถูกกดรถทะยานพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วเกิน 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพียงพริบตาเดียวเส้นชัยก็อยู่ตรงหน้า ล้อหลังทั้งคู่ผ่านไปพร้อมๆ กับธงตราหมากรุกสะบัด วินาทีต่อมาก้องภพก็ตามเข้าสู่เส้นชัยเป็นที่สอง เหมือนกับ 3 สนามที่ผ่านมา
“เป็นไปตามคาด คุณภาวัต เข้าเส้นชัยเก็บแต้มนำโด่งไปแล้วครับท่านผู้ชม”
พิธีกรสนามประกาศพร้อมๆ กับเสียงเฮของผู้ชมในสนามแข่ง ผู้ชนะก้าวลงมาจากรถเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยถอดหมวกและอุปกรณ์ต่างๆ ออกให้ เวทีเล็กๆ สำหรับพิธีมอบรางวัลพร้อมแล้ว
ร่างสูงใบหน้ากระชากใจสาวที่มาเชียร์กันกำลังโบกมือในฐานะผู้ชนะอีกครั้ง ก้องภพเดินมาหาคู่แข่งที่เป็นเพื่อนในชีวิตจริง ผู้แพ้ยื่นมือมารอให้ผู้ชนะจับ ภาวัตยิ้มกว้างจับมือตบไหล่เพื่อน
“รถนายนี่มันเจ๋งจริงๆ มีเคล็ดลับอะไรวะ บอกกันบ้างสิ”
“ก็เหมือนรถของนายนั่นแหละ ไปที่โพรเดียมกัน เดี๋ยวฉันกับพวกๆ ในค่ายจะไปฉลอง ไปด้วยกันไหมล่ะ ขับรถตามกันไปที่ร้านประจำก็แล้วกัน” ภาวัตชวนไม่ได้คิดอะไรมาก
ก้องภพลังเลแต่เพียงเสี้ยววินาที “ก็ดีเหมือนกัน ขอบใจที่ไม่ถือว่าเราเป็นคู่แข่งกัน เมื่อก่อนก็เกมรัก ตอนนี้เป็นเกมในสนามแล้ว”
“เพื่อนกันน่า”
นักข่าวสายกีฬาถ่ายภาพเพื่อนรักที่กลายเป็นคู่แข่งไว้พอดี พิธีมอบโล่งรางวัลให้ผู้ชนะจัดง่ายๆ แต่น่าภาคภูมิใจเมื่อภาวัตชนะติดต่อกันเป็นครั้งที่ 5 ของปีนี้ สาวๆพากันเข้ามารุมล้อมผู้ชนะ ดอกไม้ช่อโตเข้ามากลางวงผู้ส่งใส่ชุดพนักงาน แต่การ์ดที่มาพร้อมดอกไม้ต่างหากคนส่งตัวจริง
ภาวัตส่งดอกกุหลาบช่อโตให้ผู้ช่วยพลางยิ้มไม่พูดถึงที่มาของดอกไม้ โทรศัพท์สั่นระรัวเมื่อลัลนาสาวเซเลบไฮโซที่กำลังดิวงานกับ Blue Furniture ที่เขาดูแลอยู่โทรมา ถึงจะชอบล่าเหมือนผู้ชายทั่วๆ ไป แต่ถ้าเอาเรื่องธุรกิจมาขึ้นเตียงด้วยคงไม่ใช่แนวทางของเขา เพียงไม่นานคนโทรก็หมดความพยายามไปเอง

งานฉลองจัดขึ้นที่ผับประจำ ภาวัตแทบไม่มีเวลาได้ว่างเมื่อเพื่อนในวงการเข้ามาคุยไม่ขาดสาย ตามมาด้วยแฟนคลับสาวๆ ที่ขอถ่ายรูปและลายเซ็น บางคนมีข้อเสนอที่น่าสนใจไม่น้อย แต่จำต้องปฏิเสธเมื่อนักข่าวคงตามอย่างเคย ในฐานะนักแข่งมีข่าวก็แค่เรื่องขำๆ แต่ในฐานะนักธุรกิจคงไม่ดีต่อภาพลักษณ์นัก
ภาวัตขอตัวกลับก่อน รถจอดอยู่ค่อนข้างไกลเมื่อเข้ามานั่งในรถเขาเช็คโทรศัพท์ตัวเองอยู่ครู่หนึ่งพลันกลิ่นหอมเย็นๆ โชยมา ยังไม่ทันได้มองหาเปลือกตาทั้งสองข้างก็ปิดลง ทั้งที่มือยังถือโทรศัพท์ค้างตก เวลาได้ผ่านล่วงไป รถที่ลานจอดขับออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งก้องภพออกมาจากผับพร้อมผู้หญิงคนหนึ่ง เสียงเคาะกระจกเสียงดังพอให้คนข้างในตื่นขึ้น
กระจกรถเลื่อนลง ภาวัตมองไปรอบตัวอย่างไม่เข้าใจนักว่าทำไมยังอยู่ตรงนี้ ไม่รู้สึกง่วง แต่ทำไมเหมือนหลับไป
“ทำไมมาหลับอยู่ตรงนี้ นึกว่ากลับไปตั้งนานแล้วนะไอ้วัต” ก้องภพพลางมองเข้าไปเผื่อว่าจะมาขัดจังหวะอะไร
“นั่นสิ งงเหมือนกัน”
ภาวัตมองมือของตัวก็เห็นยังถือโทรศัพท์ค้างไว้ อีกทั้งเวลาที่เห็นก็ผ่านไปเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ
“ตายๆ เกือบตี 1 ไปแล้วหรือวะนี่ ขอบใจที่มาปลุกนะไอ้ก้อง”
กระจกเลื่อนปิดพร้อมๆ รถที่สตาร์ตเครื่องแล้วขับออกไป น่าแปลกเขาหลับไม่รู้ตัวไปได้อย่างไรตั้งเกือบ 2 ชั่วโมง คงเพลียจากการแข่งขันกระมัง รถคันหนึ่งขับตามมาห่างๆ เมื่อถึงทางด่วนก็ขับแยกไป เรียวปากสวยยิ้มกว้าง สิ่งที่ต้องการได้มาอยู่ในมือแล้ว เหลือแค่รอว่าจะปล่อยออกไปเมื่อไหร่เท่านั้น

แขนยาวยกขึ้นมากอดอกแต่พอทนความหนาวไม่ไหวก็ควานหาผ้าห่ม แต่กลับได้หมอนข้างฟาดใส่ตัว ไม่เจ็บแต่ตกใจจนลืมตามองเลยได้เห็นคนแก่หัวเราะชอบใจ เมื่อคืนภาวัตมาถึงบ้านเกือบตี 3 หลังจากอาบน้ำก็หลับแทบจะทันทีที่หัวถึงหมอน เรียวปากหนายิ้มหน้ายังเหมือนนอนไม่พอ
“เดี๋ยวนี้พัฒนามาปลุกถึงเตียงเลยหรือปู่ วันหยุดนี่นา แรงงานทาสชัดๆ”
ทีปต์ส่ายหน้าอีกไม่กี่วันก็ครบ 34 แล้ว ดูรึเจ้าคิมลูกสองคนไปแล้ว แต่รายนี้มีลูกแล้วหนึ่งคน แต่ยังหาแม่ให้ลูกไม่ได้เลย
“ใครว่าล่ะ เจ้าภาคทอดไส้กรอกกับหมูแฮมให้พ่อมันตั้งแต่เช้า รอจนหงอยต่างหากล่ะเว้ย ไปกินฝีมือลูกชายหน่อยสิ”
ความง่วงหายกลายเป็นสุขใจมีแรงอย่างประหลาด ร่างสูงขยับลุกขึ้นมานั่งรอยยิ้มประดับที่ริมฝีปาก จากคนแปลกหน้ากลายเป็นความผูกผัน มีเมียแล้วเป็นยังไงไม่รู้เพราะยังไม่มีแบบที่เป็นแม่ของลูก แต่พ่อรักลูกยังไง เขารู้สึกได้เหมือนกับพี่ชายทุกอย่าง ยกเว้นตอนเจ้าภาคเด็กๆ ไม่มีใครมาช่วยป้อนนมเท่านั้นแหละ
“5 นาทีจะลงไปครับ”
ทีปต์พยักหน้าพลางเดินออกไปจากห้องก็เจอเจ้าตัวแสบยิ้มอยู่ตรงบันได ชายชรายิ้มให้ทั้งรักและสงสาร เด็กน้อยเข้ามากอดเอวผู้เป็นปู่แล้วเดินลงไปข้างล่างด้วยกัน
ภาวัตออกมาจากห้องน้ำพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ มีข้อความมากมายที่โทรศัพท์ เขาไม่เปิดอ่านด้วยซ้ำ หลายครั้งแล้วที่เบอร์ของเขาหลุดออกไปจนแฟนคลับที่ชอบความเร็วได้ไป แล้วก็คงไม่พ้นที่ต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์อีกรอบ เรื่องผู้หญิงเขาเพลาๆ ลงมาตั้งแต่มีภาคเข้ามาในชีวิต แต่ก็ยังมีบ้างตามประสาผู้ชาย

ภาณินกำลังยกจานแพนเค้กมาวางที่โต๊ะอีกอย่างตอนที่ลูกชายคนเดียวลงมาสมทบ เด็กน้อยเข้ามากอดเอวพ่อแล้วกลับไปนั่งที่ประจำของตัวเอง 5 ปีแล้วที่ภาคเป็นขวัญใจของทุกคนในบ้าน ถ้าวันไหนลูกสาวและลูกชายของคิมหันต์กับมัทนามาที่นี่ล่ะก็ ยิ่งกว่าจับปูใส่กระด้ง
“เดี๋ยวผมทำต่อเอง แม่ไปนั่งดีกว่า”
“สงสัยวันนี้ฝนคงตกใหญ่แล้วล่ะ ลูกชายกับพี่ชายมาอยู่ทานข้าวเช้าด้วย”
เด็กน้อยหัวเราะยิ้มกว้าง ภาวัตหันไปเห็นพอดี มือหนายื่นไปลูบหัวลูกชายเบาๆ ทีปต์เลยหัวเราะนำ
“วันนี้ภาคอยากไปเที่ยวไหนครับ เดี๋ยวพ่อพาไป”
“อยากอยู่กับพ่อครับ” ภาคเลื่อนจานไส้กรอกกับหมูแฮมมาตรงหน้าของภาวัตพร้อมกับช้อนส้อม
“ก็ได้ งั้นอยู่บ้านกัน เดี๋ยวกลางวันนี้พ่อหัดว่ายน้ำให้ดีไหมครับ”
คราวนี้เด็กน้อยพยักหน้ายิ้ม ทว่าดวงตาแฝงความเศร้าที่ผู้ใหญ่ยังหาคำตอบไม่พบว่ามีสาเหตุมาจากอะไร ทีปต์มองหลานด้วยสายตาอ่อนโยน ถึงจะเกเร แต่ก็เรียนจบ ไม่อยากทำงานเอาแต่ขับรถแข่ง สุดท้ายก็ยอมมานั่งเก้าอี้ผู้ ไม่ใช่แบบขอไปทีอย่างที่นึกกังวลในตอนแรก ภาวัตมองกลับสายตาบอกชัด...สงสัย
“ไม่ต้องมามองแบบนั้นเลยเจ้าวัต”
“ปู่มาหาแต่เช้า ไม่ให้มองได้ยังไงล่ะครับ” ปกติเรียกเขาไปหา หรือไม่ก็มาค้างคืนเล่นกับหลานมากกว่า “เชิญด่ามาได้เลยครับ ถ้าผมบริหารงานไม่ดี ด่าเสร็จแล้วค่อยอธิบายทีเดียว เดี๋ยวจะหาว่าถูกขัดคอ อ่ะๆ จัดมา”
“ไอ้นี่ ฉันจะมาด่าแกทำไม แค่แก่อย่างเดียว ยังไม่ได้บ้า”
“อ้าว เตรียมหูชามาอย่างดี แล้วถ้าไม่ด่ามีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ” ภาวัตยังแหย่ไม่เลิก
ทีปต์เบ้ปากใส่ “มันน่า...สักที กินไปก่อน เดี๋ยวค่อยไปคุยกันที่ห้องทำงาน”
หลานชายหัวเราะชอบใจ เขามันจอมโยกโย้มาแต่ไหนแต่ไร เหมือนกับที่ปู่ชอบบงการวางแผน ภาคมองคนโน้นคนนี้แล้วยิ้ม ทว่าดวงตายังคงเศร้าไม่สร่างซา ภาณินยื่นมือไปวางบนไหล่เล็ก เด็กน้อยหันมามองแล้วก้มมองนิ้วตัวเอง มีอะไรในใจอยู่หนอ

ภาวัตเปิดห้องทำงานที่จริงๆ ก็ไม่เคยมาทำงานในนี้สักที ของประดามีในห้องเลยมีแต่พวกโมเดลรถที่เจ้าตัวชอบ แต่ทีปต์เห็นทีไรถอนใจยาวทุกที แต่เมื่อมันไม่ได้กระทบกับงาน เขาก็ปล่อยๆ ไป ที่ไม่ชอบให้หลานแข่งรถไม่ใช่เพราะมองว่าเป็นเรื่องเหลวไหล แต่มันอันตราย
“จ้องหน้าผมอย่างนี้สงสัยจะถูกด่าจริงๆ” ภาวัตเท้าคางแกล้งทำตั้งใจฟัง
ทีปต์ไม่หัวเราะแต่กอดอกใส่ “ไปซื้อที่ดินให้ที”
“โหยลุ้นแทบแย่ ถ้าเรื่องแค่นี้ เลขาผมหรือเลขาพี่คิมก็ทำได้ครับ มันง่ายไปไหมปู่”
“เดี๋ยวก็รู้ เอ้า...นี่แผนที่ พรุ่งนี้ว่างๆ ก็ไปถามหาเจ้าของที่ดูนะ ชื่อว่า ร่มธรรม คนแถวๆ นั้นรู้จักทั้งนั้นแหละ เพื่อนเก่าของปู่เอง”
ชักคุ้นๆ คราวก่อนปู่สั่งให้พี่คิมไปหามัทนาจนตอนนี้กลายเป็นสามีภรรยามีลูกสองคน มาคราวนี้ให้เขาไปซื้อที่ดินมันน่าจะมีอะไรแอบแฝงละมั้ง
“มีแผนอะไรหรือเปล่าน่ะปู่ ผมมีลูกแล้วนะ”
“มีแต่ลูก แต่ไม่มีเมีย ไอ้บ้า ไม่มีแผนอะไรทั้งนั้นแหละ ถ้าซื้อเองได้ปู่ไปซื้อเองแล้ว” ประโยคสุดท้ายอ้อมแอ้มเสียงเบาผิดปกติ
หลานหรี่ตามองขยับมาใกล้เผื่อจะเห็นพิรุธชัดๆ “ไหนว่าเพื่อนเก่า น่าจะพูดกันง่ายจะตาย”
“เออ ตาย เจอลูกปืนก่อน ไปเจอกับตัวแล้วจะมาเล่าให้ฟังทีหลังว่าทำไมไปเองไม่ได้” ทีปต์เม้มปาก ตอนแรกก็ว่าจะให้คิมหันต์จัดการ แต่รายนั้นเลี้ยงดูแลบริษัทเวลาแทบไม่เหลือ “ไปแล้ว คิดถึงหลานบ้านโน้น”
ภาวัตไม่เซ้าซี้ถึงจะสงสัยมากก็เถอะ งานนี้มีลูกปืนสงสัยเพื่อนแค้นละมั้ง โจทก์เก่าอีกล่ะสิท่า
“บอกพี่คิมอย่าเพิ่งรีบมีลูกคนที่สามนะปู่ ผมตามไม่ทัน”
“หาเมียให้ได้ก่อนเถอะวะไอ้วัต พวกแม่รีแม่แรดปู่ไม่เอานะ หาหลานสะใภ้ดีๆ มาเจ้าภาคจะได้มีแม่คอยดูแล”
แล้วตอนนี้แม่กับเขาดูแลภาคไม่ดีตรงไหน แต่ขืนเถียงได้ถูกย้อน
“ผู้หญิงดีๆ หาไม่ง่ายเหมือนเข่งปลาทู ผมยังมีเวลาเลือกนะปู่”
“ระวังเถอะ ผู้หญิงที่แกเลือกเค้า แต่เค้าไม่เลือกแกล่ะน่าดูชม ซดน้ำใบบัวบก” ทีปต์หัวเราะลั่นอยากเห็นวันนั้นใจจะขาด
ภาวัตหัวเราะกลับทุกวันนี้ที่อยู่บ้านมากกว่าแต่ก่อนนอกจากที่มีภาคแล้วก็เพราะเบื่อ ถ้าวันหนึ่งจะมีเมียคงไม่ยากเท่าไหร่หรอก มีให้เลือกเต็มไปหมด แต่ที่เหมาะมาเป็นแม่ของลูกต่างหากที่หายากไม่เจอสักที

แล้วจะมา up ต่อนะคะ
อัมราน_บรรพตี



บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 พ.ย. 2558, 09:37:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 พ.ย. 2558, 09:37:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 1223





<< บทนำ   ตอที่ 1 ครึ่งหลัง >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account