ยักษา
ชีวิตไม่มีอะไรที่แน่นอน
"คนหนึ่ง"เกิดมาทำตามที่ฟ้าลิขิต
"อีกคน"เกิดมาโดยเลือกทางเดินของตัวเอง
พวกเขาถูกลิขิตให้เกิดมาเป็นศัตรูกันแต่สิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันคือปกป้อง"เธอ"ผู้หญิงที่เขารักให้พ้นจากอันตรายด้วยชีวิตของพวกเขากับสองสายเลือดที่ไม่อาจจะลงรอยกันได้ระหว่างคนกับ...ยักษ์
"พวกเราเลือกเกิดไม่ได้จึงต้องเกิดมาเป็นแบบนี้เมื่อถูกลิขิตให้เป็นแบบนี้เราก็ต้องเป็นแบบนี้...ตามที่ฟ้าลิขิต"
"คนหนึ่ง"เกิดมาทำตามที่ฟ้าลิขิต
"อีกคน"เกิดมาโดยเลือกทางเดินของตัวเอง
พวกเขาถูกลิขิตให้เกิดมาเป็นศัตรูกันแต่สิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันคือปกป้อง"เธอ"ผู้หญิงที่เขารักให้พ้นจากอันตรายด้วยชีวิตของพวกเขากับสองสายเลือดที่ไม่อาจจะลงรอยกันได้ระหว่างคนกับ...ยักษ์
"พวกเราเลือกเกิดไม่ได้จึงต้องเกิดมาเป็นแบบนี้เมื่อถูกลิขิตให้เป็นแบบนี้เราก็ต้องเป็นแบบนี้...ตามที่ฟ้าลิขิต"
Tags: ยักษ์ สยองขวัญ ช่วงชิง ความรัก
ตอน: หัวใจยักษา
ท้องฟ้าเปลี่ยนสีเป็นสีดำสนิทจนไม่เห็นดวงดาวเลยสักดวงภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ถูกประดับตกแต่งอย่างหรูหราและของเก่าล้ำค่านับร้อยนับพันบรรยากาศเงียบสงบไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจของใครสักคนทั้งๆที่มีสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับมนุษย์นับร้อยคนนั่งเรียงรายกันอยู่
"ผมต้องการคำอธิบาย"เสียงที่เย็นเฉียบเปล่งออกมาจากริมฝีปากของยักษาผู้เป็นใหญ่เหนือยักษ์ทั้งปวงเหล่าบรรดายักษาและยักษิณีต่างนั่งตัวแข็งพร้อมมองหน้ากันอย่างอย่างละล่ำละลัก
"กฏพวกนั้นมันบ้าสิ้นดี!ให้อดทนต่อความหิวฆ่ามนุษย์หนึ่งคนต่ออาทิตย์ใครมันจะไปทนได้!"ยักษาตนหนึ่งสบถออกมาอย่างบ้าคลั่งพลันยักษาตนอื่นพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
"แต่นี่คือกฏ!ทุกคนต้องทำ..ถ้าผมยังคงตำแหน่งใหญ่เหนือยักษ์ทั้งปวง..อย่าลืมสิ!ว่าพวกเราไม่ได้เป็นฝ่ายล่าอย่างเดียวแต่พวกเราก็ถูกตามล่าด้วยเช่นกัน"
"เราก็ฆ่าพวกมันทิ้งซะก็สิ้นเรื่อง!"
"แต่พวกเขามีคาถาอาคมเก่งกล้าแค่ไหนพวกคุณก็รู้ดี..ไม่งั้นยักษาและยักษิณีจะล้มตายกันไปเป็นจำนวนมากหรือ"
"ก็ถ้าท่านยกเลิกกฏห้ามกินมนุษย์พร่ำเพรื่อนั่น..เราก็จะมีกำลังฆ่ามันได้ง่ายดาย"
"แต่นั่นเป็นกฏที่ผมตั้งเอง!หรือใครคิดจะขัดคำสั่ง!!"เสียงทุ้มต่ำดังไปทั่วห้องประชุมลับในคฤหาสน์หลังงามที่ด้านนอกท้องฟ้าออกเสียงคำรามลั่นทั่วผืนฟ้าราวกับว่ากำลังโมโหโกรธาสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่เหล่ายักษาและยักษิณีต่างต่างแสดงอาการหวาดกลัวมัศยาสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจใจในตัวของทศคินทร์ที่แผ่ซ่านออกมาทางดวงตาจนดวงตาเปลี่ยนเป็นสีเทาขุ่นมัวไม่มีแม้แต่ลูกตาดำที่เคยเปล่งปลั่งดังนิลอีกเลย
"หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์ขัดคำสั่งแล้วออกไปฆ่าคนเป็นว่าเล่นอีก..ทุกคนเข้าใจนะ"สายตาคมดุจเหยี่ยวกวาดตามองไปรอบๆห้องซึ่งยักษาและยักษิณีต่างก้มหน้าลงรับคำสั่ง
"กฏทุกอย่างที่ผมตั้งขึ้นมันอาจฟังดูไม่มีเหตุผล..แต่ผมสั่งต้องทำ!"ทศคินทร์พูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดพลันเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
"โธ่เอ๊ย!อย่าให้ข้าหาหัวใจที่ท่านซ่อนไว้เจอแล้วกัน"พิเชียรสบถก่อนจะเห็นอนุชิตพี่ชายของเขาทำหน้าเครียดเช่นเดียวกัน
"หัวใจทศคินทร์..เราต้องหามันให้เจอ"
……………………………………………………………
ภายในบ้านสองชั้นสีขาวชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิพร้อมกับพนมมือขึ้นริมฝีปากขยับไปมาเป็นคาถาอย่างแผ่วเบาพลันกลุ่มก้อนเมฆที่ปกปิดดวงดาวและเสียงคำรามของท้องฟ้าหายไปคิ้วคมขมวดเข้าหากันดวงจิตของเขาเพ่งเล็งไปยังภาพที่ผุดขึ้นในสมองภาพหญิงสาวผมยาวกำลังยืนหันหลังอยู่ก่อนที่กลุ่มควันจะค่อยลบภาพนั้นออกไปจากหัวสมองเขา
"ในที่สุดฉันก็เจอแล้ว..หัวใจของทศคินทร์อยู่ที่หญิงสาวคนนั้น...ฉันจะฆ่าแกให้ได้!..ทศคินทร์"ดวงตาเริ่มแสดงความโกรธเกรี้ยวเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาซึ่งเป็นฝันร้ายตลอด15ปีของชายหนุ่ม
"สุขสันต์วันเกิดนะลูกชายของแม่"รสรินทร์ก้มลงจูบหน้าผากของลูกชายด้วยความรักก่อนที่ผู้เป็นพ่อของเด็กชายจะเดินเข้ามานั่งใกล้ๆลูกชายของเขาพร้อมส่งแหวนทองรูปพญานาคประดับด้วยเพชรสีเขียวมรกตมาใส่ให้ลูกชายเขา
"แหวนวงนี้พ่อได้จากคุณตาของลูก..แหวนวงนี้จะปกป้องคนที่สวมใส่จากภูติผีปีศาจหรือพวกยักษาได้พ่อให้ลูกนะ...ราพณ์"ลักษณ์วงศ์ยิ้มก่อนจะลงมือสวมแหวนให้ลูกชายอย่างแผ่วเบา
"แหวนวงนี้เป็นของพระรามคุณทวดของทวดอีกทีใช่ไหมครับ"ราพณ์ เด็กชายเอ่ยถามผู้เป็นบิดาด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว
"ใช่ลูก..แล้วพ่อก็จะให้ธนูกับศรวิเศษของพระรามกับลูกด้วยนะ"
"จริงหรือครับผมไปเอาได้ในห้องทำงานพ่อได้เลยใช่ไหมฮะ"
"ได้สิลูก.."ลักษณ์วงศ์ยิ้มก่อนจะคว้าตัวลูกชายเข้ามากอด
"มากอดด้วยกันสิฮะแม่"เด็กชายราพณ์เอ่ยขึ้นก่อนจะดึงผู้เป็นแม่มากอดด้วย
"ตอนนี้พ่อก็ให้ทั้งแหวนธนูแล้วก็ศรวิเศษกับลูกแล้วพ่อกับแม่ขออะไรลูกอย่างนึงได้ไหมจ๊ะ"
"อะไรหรือครับ"เด็กชายมองหน้าผู้เป็นแม่ก่อนจะถูกผู้เป็นพ่อใช้มือสองข้างจับที่ไหล่
"คืนนี้ลูกต้องไปอยู่กับลุงประทิตน์ไปพร้อมกับธนูวิเศษและแหวนวงนี้"
"ทำไมล่ะครับพ่อ"
"สัญญาได้ไหมราพณ์"ลักษณ์วงศ์เอ่ยเสียงเข้มก่อนที่ศีรษะน้อยๆจะพยักหน้า
"ครับ"ราพณ์ตอบตกลงรสรินทร์เริ่มร้องไห้ออกมาก่อนที่ประทิตน์ผู้เป็นลุงของเด็กชายจะเดินเข้ามา
"เราไม่มีเวลาแล้วแน่ใจหรือรสรินทร์ว่าจะไม่ไปด้วยกัน"
"หากฉันไปด้วยพวกมันต้องตามราพณ์เจอแน่ฉันฝากลูกด้วยนะประทิตน์"รสรินทร์เอ่ยก่อนจะตรงมากอดลูกชาย
"แม่รักลูกนะราพณ์"สิ้นคำพูดของผู้เป็นมารดาประทิตน์ก็รับศรและธนูของลักษณ์วงศ์มาแล้วจึงอุ้มเด็กชายออกมาขึ้นรถ
"ล็อครถทำไมหรือครับลุงประทิตน์"
"ก็เพื่อความปลอดภัยไงราพณ์"ลุงประทิตน์ตอบก่อนจะมองไปบนท้องฟ้า
"คืนนี้จันทรุปราคาซะด้วยสิ!"น้ำเสียงของผู้เป็นลุงดูเป็นกังวลจนเด็กชายสงสัยก่อนที่ประทิตน์จะขับรถออกมาจากบ้านอย่างรวดเร็วเด็กชายราพณ์หันมองไปด้านหลังพลันเห็นเงาสีดำร่างใหญ่มหึมายืนคล่อมอยู่หน้าบ้านก่อนที่จะเจ้าของเงานั้นจะพุ่งตรงเข้าไปในบ้านตามด้วยเสียงกรีดร้องของเจ้าของบ้าน
"แม่!!!!!!!"เด็กชายอุทานน้ำตาเริ่มไหลออกมาด้วยความกลัวและภาพสุดท้ายที่เขาเห็นก็คือแสงสีแดงที่ทุกคนเรียกว่าไฟกำลังลุกโชนจนกลืนบ้านที่แสนอบอุ่นของราพณ์ไปจนหมด
เพล้ง!!เสียงแก้วกระทบกับพื้นดังขึ้นปลุกให้เด็กๆที่นอนหลับอยูสะดุ้งตื่นขึ้นมา
"พี่ริญเป็นอะไรหรือจ๊ะ"พิมพ์ดาวเด็กสาวหนึ่งในเด็กที่แม่ครูอุปถัมภ์เอ่ยถามพลางเอามือขยี้ตาไปมา
"ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะพี่ขอโทษนะที่ทำให้ตื่นนอนต่อเถอะนะพิม"สริญดาคลี่ย้ิมออกมาก่อนจะก้มลงเก็บเศษแก้วที่แตกกระจายอยู่ตามพื้น
"เป็นอะไรไปนะ"สริญดาพึมพำกับตัวเองที่จู่ๆเธอก็รู้สึกหนักอึ้งข้างในอกอย่างไม่รู้สาเหตุ
……………………………………………………………
เช้าวันรุ่งขึ้น
"ต้องไปส่งพวงมาลัยที่วัดอีกแล้วเหรอเนี่ย!"สลัยวรรณสบถอย่างหงุดหงิดมื้อไม้หยิบข้าวของใส่กระเป๋าอย่างลวกๆจนสริญดาอดที่จะอมยิ้มไม่ได้
"ไปวัดก็ดีนะเราจะได้ไปไหว้พระขอพรด้วยไงสลัยวรรณ"
"พูดไปเถอะสริญดา!แล้วแฟนสุดหล่อที่มาส่งเธอเมื่อวานก่อนนั่นล่ะเอาจักรยานมาคืนหรือยัง"
"แฟนหรือ....ไม่ใช่นะ!เขาแค่เป็นคนใจดีที่มาส่งริญก็เท่านั้นเอง"
"ให้มันจริงเถอะ!ผู้ชายหล่อหน้าขาวปากแดงคิ้วสีเข้มตรงตามตำราใครน๊า...อ๋อ!พระรามสุดที่รักในหนังสือที่เธอชอบอ่านไง"
"พูดไปนั่นนะวรรณ..ริญไม่ใช่นางสีดาซะหน่อย"
"ก็คอยดูเถอะ..เดี๋ยวพระรามรูปหล่อจะต้องมาเกี้ยวพาราสีนางสีดาในคราบมนุษย์ไปเป็นคู่ครองแน่ๆ"สลัยวรรญพูดล้อเลียนสริญดาก่อนจะถูกเพื่อนรักที่โตมาในบ้านอุปถัมภ์ด้วยกันค้อนใส่
"ตามใจเธอเถอะนะเดี๋ยวริญจะไปส่งพวงมาลัยที่ตลาดตรงข้ามกับห้างสรรพสินค้าวรรณจะไปด้วยกันไหม"
"ไม่อะ..ไปให้อยากหรือไงเดี๋ยววรรณจะไปรอที่วัดแล้วกัน"
"โอเคแล้วเจอกันนะ"สริญดายิ้มก่อนจะคว้าตะกร้าที่ใส่พวงมาลัยขึ้นมาถือและตรงไปยังตลาดที่มีผู้คนหนาแน่น
"สวัสดีค่ะป้าปั้น"สริญดายกมือขึ้นมาไหว้หญิงสูงอายุอย่างนอบน้อมก่อนจะได้รับรอยยิ้มกลับมา
"สวัสดีจ๊ะหนูริญเอ่อนี่!หนูริญช่วยเอาพวงมาลัยไปให้ตาสมที่ลานจอดรถหน่อยได้ไหมจ๊ะตาแก่ไปเอาของตั้งนานแล้วยังไม่มาเลย"
"ได้สิจ๊ะป้าปั้น"สริญดารับคำพลันรีบเดินมุ่งหน้าไปยังลานจอดรถข้างๆห้างสรรพสินค้าดัง
"วันนี้แล้วสินะ..ฉันอุตส่าห์ฝึกวิชานี้มาตลอด15ปีจนรู้แล้วว่าแกเอาหัวใจไปซ่อนไว้ที่ไหนฉันจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดมือไปแน่!"ราพณ์พูดด้วยเสียงมุ่งมั่นพลันหยิบศรที่ปลายยอดแหลมคมและมีอักขระคาถาไว้มากมายก่อนจะเห็นผู้หญิงที่มีหัวใจของยักษาอยู่ในตัวเดินมาหาชายสูงอายุที่กำลังเดินป้วนเปี้ยนไปมาอยู่แถวรถยนต์ของตัวเอง
"สวัสดีจ๊ะลุงสม"สริญดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานหูทำให้คนฟังอดที่จะยิ้มตอบไม่ได้
"อ้าวหนูริญดูสิอุตส่าห์ถือพวงมาลัยมาส่งถึงที่นี่มาๆๆขอบใจมากนะ"
"ไม่เป็นไรค่ะขอบคุณที่อุดหนุนเป็นประจำนะคะ"เสียงพูดคุยดังแว่วมาตามสายลมทำให้ชายหนุ่มผู้ง้างธนูอย่างมุ่งมั่นจับจ้องไปที่ร่างอ้อนแอ้นของหญิงสาวอย่างไม่วางตานิ้วเรียวค่อยเลื่อนออกหมายจะปล่อยศรให้ปักทะลุทรวงอกหญิงสาวที่อยู่เบื้องล่างแต่เสี้ยววินาทีเขาก็ต้องหยุดชะงักจนเผลอปล่อยลูกศรตกอยู่ตรงหน้าหญิงสาวห่างจากตัวแค่คืบเดียว
"อ๊ะ!"สริญดาอุทานก่อนจะมองซ้ายมองขวาแต่เมื่อไม่มีใครจึงค่อยๆก้มตัวลงหมายจะเก็บลูกศรด้ามสีทองอร่ามแต่ชวดกับเจ้าของที่พุ่งมาจากไหนไม่รู้คว้ามันไป
"คุณไข่ไก่เอ้ย!ไม่ใช่สิ..คุณราพณ์"
"สวัสดี.."เสียงที่ดูแข็งๆออกมาจากร่างบุรุษรูปงามหรือพระรามที่สลัยวรรญพึ่งพูดถึงไปเมื่อครู่
"คุณมาเที่ยวห้างหรือคะน่าแปลกนะคะที่ป่านนี้คนยังไม่ค่อยมาเที่ยวกันเลย"
"เอ่อ...อืม"
"ลูกศรนั่นของคุณเหรอคะสวยมากเลย..แล้วคุณเอามันมาทำไมเหรอคะ"
"เอิ่ม...ผม..ผมเอามายิงนกเล่นน่ะ"
"นกหรือคะ?..อย่าไปยิงมันเลยนะคะสงสารมันเถอะนะคะ"
"อืม...วันนี้คงไม่ยิงแล้ว"
"ถึงจะฟังดูแปลกๆแต่ก็ขอบคุณแทนนกตัวนั้นนะคะ"
"แล้วลุง...อ้าว!หายไปไหนแล้วนะ"สริญดากวาดสายตามองหน้าชายสูงวัยที่พึ่งคุยด้วยเมื่อครู่แต่ก็ไร้วี่แววของเขาเลย
"เขาไปแล้วล่ะคุณมีธุระไม่ใช่เหรอ"
"จริงด้วยสิ!ตายแน่เลย..ขอบคุณนะคะ"สริญดาก้มหัวลงเล็กน้อยก่อนจะรีบวิ่งออกไปแต่ก็ไม่วายส่งรอยยิ้มมาให้ราพณ์แทนคำขอบคุณจนทำให้ชายหนุ่มแทบยืนไม่อยู่
"เกิดอะไรขึ้น"ราพณ์พึมพำกับตัวเองเบาๆหญิงสาวคนนั้นมีหัวใจของเจ้าแห่งยักษาอยู่ในตัวของตัวเองเธอจะรู้ไหมนะว่ามีคนคิดจะฆ่าเธอเยอะขนาดไหนรวมถึงเขาด้วยถึงจะรู้สึกผิดหวังที่แผนการล้มเหลวแต่ก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจากถอนหายใจและคลายคาถาบังตาที่เขาร่ายไปเมื่อสักครู่
"ผมต้องการคำอธิบาย"เสียงที่เย็นเฉียบเปล่งออกมาจากริมฝีปากของยักษาผู้เป็นใหญ่เหนือยักษ์ทั้งปวงเหล่าบรรดายักษาและยักษิณีต่างนั่งตัวแข็งพร้อมมองหน้ากันอย่างอย่างละล่ำละลัก
"กฏพวกนั้นมันบ้าสิ้นดี!ให้อดทนต่อความหิวฆ่ามนุษย์หนึ่งคนต่ออาทิตย์ใครมันจะไปทนได้!"ยักษาตนหนึ่งสบถออกมาอย่างบ้าคลั่งพลันยักษาตนอื่นพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
"แต่นี่คือกฏ!ทุกคนต้องทำ..ถ้าผมยังคงตำแหน่งใหญ่เหนือยักษ์ทั้งปวง..อย่าลืมสิ!ว่าพวกเราไม่ได้เป็นฝ่ายล่าอย่างเดียวแต่พวกเราก็ถูกตามล่าด้วยเช่นกัน"
"เราก็ฆ่าพวกมันทิ้งซะก็สิ้นเรื่อง!"
"แต่พวกเขามีคาถาอาคมเก่งกล้าแค่ไหนพวกคุณก็รู้ดี..ไม่งั้นยักษาและยักษิณีจะล้มตายกันไปเป็นจำนวนมากหรือ"
"ก็ถ้าท่านยกเลิกกฏห้ามกินมนุษย์พร่ำเพรื่อนั่น..เราก็จะมีกำลังฆ่ามันได้ง่ายดาย"
"แต่นั่นเป็นกฏที่ผมตั้งเอง!หรือใครคิดจะขัดคำสั่ง!!"เสียงทุ้มต่ำดังไปทั่วห้องประชุมลับในคฤหาสน์หลังงามที่ด้านนอกท้องฟ้าออกเสียงคำรามลั่นทั่วผืนฟ้าราวกับว่ากำลังโมโหโกรธาสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่เหล่ายักษาและยักษิณีต่างต่างแสดงอาการหวาดกลัวมัศยาสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจใจในตัวของทศคินทร์ที่แผ่ซ่านออกมาทางดวงตาจนดวงตาเปลี่ยนเป็นสีเทาขุ่นมัวไม่มีแม้แต่ลูกตาดำที่เคยเปล่งปลั่งดังนิลอีกเลย
"หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์ขัดคำสั่งแล้วออกไปฆ่าคนเป็นว่าเล่นอีก..ทุกคนเข้าใจนะ"สายตาคมดุจเหยี่ยวกวาดตามองไปรอบๆห้องซึ่งยักษาและยักษิณีต่างก้มหน้าลงรับคำสั่ง
"กฏทุกอย่างที่ผมตั้งขึ้นมันอาจฟังดูไม่มีเหตุผล..แต่ผมสั่งต้องทำ!"ทศคินทร์พูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดพลันเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
"โธ่เอ๊ย!อย่าให้ข้าหาหัวใจที่ท่านซ่อนไว้เจอแล้วกัน"พิเชียรสบถก่อนจะเห็นอนุชิตพี่ชายของเขาทำหน้าเครียดเช่นเดียวกัน
"หัวใจทศคินทร์..เราต้องหามันให้เจอ"
……………………………………………………………
ภายในบ้านสองชั้นสีขาวชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิพร้อมกับพนมมือขึ้นริมฝีปากขยับไปมาเป็นคาถาอย่างแผ่วเบาพลันกลุ่มก้อนเมฆที่ปกปิดดวงดาวและเสียงคำรามของท้องฟ้าหายไปคิ้วคมขมวดเข้าหากันดวงจิตของเขาเพ่งเล็งไปยังภาพที่ผุดขึ้นในสมองภาพหญิงสาวผมยาวกำลังยืนหันหลังอยู่ก่อนที่กลุ่มควันจะค่อยลบภาพนั้นออกไปจากหัวสมองเขา
"ในที่สุดฉันก็เจอแล้ว..หัวใจของทศคินทร์อยู่ที่หญิงสาวคนนั้น...ฉันจะฆ่าแกให้ได้!..ทศคินทร์"ดวงตาเริ่มแสดงความโกรธเกรี้ยวเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาซึ่งเป็นฝันร้ายตลอด15ปีของชายหนุ่ม
"สุขสันต์วันเกิดนะลูกชายของแม่"รสรินทร์ก้มลงจูบหน้าผากของลูกชายด้วยความรักก่อนที่ผู้เป็นพ่อของเด็กชายจะเดินเข้ามานั่งใกล้ๆลูกชายของเขาพร้อมส่งแหวนทองรูปพญานาคประดับด้วยเพชรสีเขียวมรกตมาใส่ให้ลูกชายเขา
"แหวนวงนี้พ่อได้จากคุณตาของลูก..แหวนวงนี้จะปกป้องคนที่สวมใส่จากภูติผีปีศาจหรือพวกยักษาได้พ่อให้ลูกนะ...ราพณ์"ลักษณ์วงศ์ยิ้มก่อนจะลงมือสวมแหวนให้ลูกชายอย่างแผ่วเบา
"แหวนวงนี้เป็นของพระรามคุณทวดของทวดอีกทีใช่ไหมครับ"ราพณ์ เด็กชายเอ่ยถามผู้เป็นบิดาด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว
"ใช่ลูก..แล้วพ่อก็จะให้ธนูกับศรวิเศษของพระรามกับลูกด้วยนะ"
"จริงหรือครับผมไปเอาได้ในห้องทำงานพ่อได้เลยใช่ไหมฮะ"
"ได้สิลูก.."ลักษณ์วงศ์ยิ้มก่อนจะคว้าตัวลูกชายเข้ามากอด
"มากอดด้วยกันสิฮะแม่"เด็กชายราพณ์เอ่ยขึ้นก่อนจะดึงผู้เป็นแม่มากอดด้วย
"ตอนนี้พ่อก็ให้ทั้งแหวนธนูแล้วก็ศรวิเศษกับลูกแล้วพ่อกับแม่ขออะไรลูกอย่างนึงได้ไหมจ๊ะ"
"อะไรหรือครับ"เด็กชายมองหน้าผู้เป็นแม่ก่อนจะถูกผู้เป็นพ่อใช้มือสองข้างจับที่ไหล่
"คืนนี้ลูกต้องไปอยู่กับลุงประทิตน์ไปพร้อมกับธนูวิเศษและแหวนวงนี้"
"ทำไมล่ะครับพ่อ"
"สัญญาได้ไหมราพณ์"ลักษณ์วงศ์เอ่ยเสียงเข้มก่อนที่ศีรษะน้อยๆจะพยักหน้า
"ครับ"ราพณ์ตอบตกลงรสรินทร์เริ่มร้องไห้ออกมาก่อนที่ประทิตน์ผู้เป็นลุงของเด็กชายจะเดินเข้ามา
"เราไม่มีเวลาแล้วแน่ใจหรือรสรินทร์ว่าจะไม่ไปด้วยกัน"
"หากฉันไปด้วยพวกมันต้องตามราพณ์เจอแน่ฉันฝากลูกด้วยนะประทิตน์"รสรินทร์เอ่ยก่อนจะตรงมากอดลูกชาย
"แม่รักลูกนะราพณ์"สิ้นคำพูดของผู้เป็นมารดาประทิตน์ก็รับศรและธนูของลักษณ์วงศ์มาแล้วจึงอุ้มเด็กชายออกมาขึ้นรถ
"ล็อครถทำไมหรือครับลุงประทิตน์"
"ก็เพื่อความปลอดภัยไงราพณ์"ลุงประทิตน์ตอบก่อนจะมองไปบนท้องฟ้า
"คืนนี้จันทรุปราคาซะด้วยสิ!"น้ำเสียงของผู้เป็นลุงดูเป็นกังวลจนเด็กชายสงสัยก่อนที่ประทิตน์จะขับรถออกมาจากบ้านอย่างรวดเร็วเด็กชายราพณ์หันมองไปด้านหลังพลันเห็นเงาสีดำร่างใหญ่มหึมายืนคล่อมอยู่หน้าบ้านก่อนที่จะเจ้าของเงานั้นจะพุ่งตรงเข้าไปในบ้านตามด้วยเสียงกรีดร้องของเจ้าของบ้าน
"แม่!!!!!!!"เด็กชายอุทานน้ำตาเริ่มไหลออกมาด้วยความกลัวและภาพสุดท้ายที่เขาเห็นก็คือแสงสีแดงที่ทุกคนเรียกว่าไฟกำลังลุกโชนจนกลืนบ้านที่แสนอบอุ่นของราพณ์ไปจนหมด
เพล้ง!!เสียงแก้วกระทบกับพื้นดังขึ้นปลุกให้เด็กๆที่นอนหลับอยูสะดุ้งตื่นขึ้นมา
"พี่ริญเป็นอะไรหรือจ๊ะ"พิมพ์ดาวเด็กสาวหนึ่งในเด็กที่แม่ครูอุปถัมภ์เอ่ยถามพลางเอามือขยี้ตาไปมา
"ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะพี่ขอโทษนะที่ทำให้ตื่นนอนต่อเถอะนะพิม"สริญดาคลี่ย้ิมออกมาก่อนจะก้มลงเก็บเศษแก้วที่แตกกระจายอยู่ตามพื้น
"เป็นอะไรไปนะ"สริญดาพึมพำกับตัวเองที่จู่ๆเธอก็รู้สึกหนักอึ้งข้างในอกอย่างไม่รู้สาเหตุ
……………………………………………………………
เช้าวันรุ่งขึ้น
"ต้องไปส่งพวงมาลัยที่วัดอีกแล้วเหรอเนี่ย!"สลัยวรรณสบถอย่างหงุดหงิดมื้อไม้หยิบข้าวของใส่กระเป๋าอย่างลวกๆจนสริญดาอดที่จะอมยิ้มไม่ได้
"ไปวัดก็ดีนะเราจะได้ไปไหว้พระขอพรด้วยไงสลัยวรรณ"
"พูดไปเถอะสริญดา!แล้วแฟนสุดหล่อที่มาส่งเธอเมื่อวานก่อนนั่นล่ะเอาจักรยานมาคืนหรือยัง"
"แฟนหรือ....ไม่ใช่นะ!เขาแค่เป็นคนใจดีที่มาส่งริญก็เท่านั้นเอง"
"ให้มันจริงเถอะ!ผู้ชายหล่อหน้าขาวปากแดงคิ้วสีเข้มตรงตามตำราใครน๊า...อ๋อ!พระรามสุดที่รักในหนังสือที่เธอชอบอ่านไง"
"พูดไปนั่นนะวรรณ..ริญไม่ใช่นางสีดาซะหน่อย"
"ก็คอยดูเถอะ..เดี๋ยวพระรามรูปหล่อจะต้องมาเกี้ยวพาราสีนางสีดาในคราบมนุษย์ไปเป็นคู่ครองแน่ๆ"สลัยวรรญพูดล้อเลียนสริญดาก่อนจะถูกเพื่อนรักที่โตมาในบ้านอุปถัมภ์ด้วยกันค้อนใส่
"ตามใจเธอเถอะนะเดี๋ยวริญจะไปส่งพวงมาลัยที่ตลาดตรงข้ามกับห้างสรรพสินค้าวรรณจะไปด้วยกันไหม"
"ไม่อะ..ไปให้อยากหรือไงเดี๋ยววรรณจะไปรอที่วัดแล้วกัน"
"โอเคแล้วเจอกันนะ"สริญดายิ้มก่อนจะคว้าตะกร้าที่ใส่พวงมาลัยขึ้นมาถือและตรงไปยังตลาดที่มีผู้คนหนาแน่น
"สวัสดีค่ะป้าปั้น"สริญดายกมือขึ้นมาไหว้หญิงสูงอายุอย่างนอบน้อมก่อนจะได้รับรอยยิ้มกลับมา
"สวัสดีจ๊ะหนูริญเอ่อนี่!หนูริญช่วยเอาพวงมาลัยไปให้ตาสมที่ลานจอดรถหน่อยได้ไหมจ๊ะตาแก่ไปเอาของตั้งนานแล้วยังไม่มาเลย"
"ได้สิจ๊ะป้าปั้น"สริญดารับคำพลันรีบเดินมุ่งหน้าไปยังลานจอดรถข้างๆห้างสรรพสินค้าดัง
"วันนี้แล้วสินะ..ฉันอุตส่าห์ฝึกวิชานี้มาตลอด15ปีจนรู้แล้วว่าแกเอาหัวใจไปซ่อนไว้ที่ไหนฉันจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดมือไปแน่!"ราพณ์พูดด้วยเสียงมุ่งมั่นพลันหยิบศรที่ปลายยอดแหลมคมและมีอักขระคาถาไว้มากมายก่อนจะเห็นผู้หญิงที่มีหัวใจของยักษาอยู่ในตัวเดินมาหาชายสูงอายุที่กำลังเดินป้วนเปี้ยนไปมาอยู่แถวรถยนต์ของตัวเอง
"สวัสดีจ๊ะลุงสม"สริญดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานหูทำให้คนฟังอดที่จะยิ้มตอบไม่ได้
"อ้าวหนูริญดูสิอุตส่าห์ถือพวงมาลัยมาส่งถึงที่นี่มาๆๆขอบใจมากนะ"
"ไม่เป็นไรค่ะขอบคุณที่อุดหนุนเป็นประจำนะคะ"เสียงพูดคุยดังแว่วมาตามสายลมทำให้ชายหนุ่มผู้ง้างธนูอย่างมุ่งมั่นจับจ้องไปที่ร่างอ้อนแอ้นของหญิงสาวอย่างไม่วางตานิ้วเรียวค่อยเลื่อนออกหมายจะปล่อยศรให้ปักทะลุทรวงอกหญิงสาวที่อยู่เบื้องล่างแต่เสี้ยววินาทีเขาก็ต้องหยุดชะงักจนเผลอปล่อยลูกศรตกอยู่ตรงหน้าหญิงสาวห่างจากตัวแค่คืบเดียว
"อ๊ะ!"สริญดาอุทานก่อนจะมองซ้ายมองขวาแต่เมื่อไม่มีใครจึงค่อยๆก้มตัวลงหมายจะเก็บลูกศรด้ามสีทองอร่ามแต่ชวดกับเจ้าของที่พุ่งมาจากไหนไม่รู้คว้ามันไป
"คุณไข่ไก่เอ้ย!ไม่ใช่สิ..คุณราพณ์"
"สวัสดี.."เสียงที่ดูแข็งๆออกมาจากร่างบุรุษรูปงามหรือพระรามที่สลัยวรรญพึ่งพูดถึงไปเมื่อครู่
"คุณมาเที่ยวห้างหรือคะน่าแปลกนะคะที่ป่านนี้คนยังไม่ค่อยมาเที่ยวกันเลย"
"เอ่อ...อืม"
"ลูกศรนั่นของคุณเหรอคะสวยมากเลย..แล้วคุณเอามันมาทำไมเหรอคะ"
"เอิ่ม...ผม..ผมเอามายิงนกเล่นน่ะ"
"นกหรือคะ?..อย่าไปยิงมันเลยนะคะสงสารมันเถอะนะคะ"
"อืม...วันนี้คงไม่ยิงแล้ว"
"ถึงจะฟังดูแปลกๆแต่ก็ขอบคุณแทนนกตัวนั้นนะคะ"
"แล้วลุง...อ้าว!หายไปไหนแล้วนะ"สริญดากวาดสายตามองหน้าชายสูงวัยที่พึ่งคุยด้วยเมื่อครู่แต่ก็ไร้วี่แววของเขาเลย
"เขาไปแล้วล่ะคุณมีธุระไม่ใช่เหรอ"
"จริงด้วยสิ!ตายแน่เลย..ขอบคุณนะคะ"สริญดาก้มหัวลงเล็กน้อยก่อนจะรีบวิ่งออกไปแต่ก็ไม่วายส่งรอยยิ้มมาให้ราพณ์แทนคำขอบคุณจนทำให้ชายหนุ่มแทบยืนไม่อยู่
"เกิดอะไรขึ้น"ราพณ์พึมพำกับตัวเองเบาๆหญิงสาวคนนั้นมีหัวใจของเจ้าแห่งยักษาอยู่ในตัวของตัวเองเธอจะรู้ไหมนะว่ามีคนคิดจะฆ่าเธอเยอะขนาดไหนรวมถึงเขาด้วยถึงจะรู้สึกผิดหวังที่แผนการล้มเหลวแต่ก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจากถอนหายใจและคลายคาถาบังตาที่เขาร่ายไปเมื่อสักครู่

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 พ.ย. 2558, 15:09:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 พ.ย. 2558, 15:19:53 น.
จำนวนการเข้าชม : 1285
<< เมื่อแรกพบ | รอยยิ้มนางสีดา >> |

คิมหันตุ์ 13 พ.ย. 2558, 17:20:34 น.
ผูกเรื่องได้เก๋ดีค่ะรอติดตามนะคะ
ผูกเรื่องได้เก๋ดีค่ะรอติดตามนะคะ
