ล่ารักแดนทะเลทราย สนพ กรีนมายด์
แหวนล้ำค่าสัญลักษณ์แห่งราชวงศ์สวมใส่อยู่บนนิ้วของ ‘แอล’ นักวาดภาพสมัครเล่น แต่องค์รักษ์ธามินยังไม่ทันสืบหาเรื่องราวที่แท้จริง ก็พบหญิงสาวลึกลับผู้นั้นอยู่กลางวงล้อมของกบฏที่แฝงตัวไปทั่วทะเลทราย เธออาจเป็นนางนกต่อหรือสายของกบฏก็ได้ ทว่าธามินต้องพาเธอไปด้วยจนกว่าจะพบองค์หญิงซาเมรา ซึ่งคนของเขาส่งข่าวว่าถูกลักพาไปเป็นตัวประกัน
ซาเมราต้องปลอมตัวเป็นหญิงสามัญชน เพราะไม่อาจวางใจชายแปลกหน้าที่เข้ามาช่วยเธอไว้กลางทะเลทราย แต่ด้วยความจำเป็นทำให้หญิงสาวต้องเดินทางไปกับเขา เพื่อสืบให้รู้ว่ากบฏแดนทรายอยู่ที่ใด จะได้กำจัดให้สิ้นซาก
แต่ความลับกลับถูกเปิดเผยเสียก่อน เมื่อหญิงสาวลึกลับกลายเป็นองค์หญิงซาเมรา และชายแปลกหน้ากลายเป็นราชองครักษ์ธามิน องค์ชายที่ถูกลดเกียรติให้เป็นเพียงสามัญชน และเขาอาจเป็นกบฏที่เธอตามหาอยู่ก็เป็นได้ ซาเมราจะทำอย่างไร ระหว่างมอบความตายให้ธามิน หรือหนีไปด้วยกันจนสุดหล้า เมื่อเธอรู้ตัวแล้วว่ารักเขาหมดหัวใจ
Tags: ทะเลทราย ความรัก องครักษ์ เจ้าหญิง

ตอน: ตอนที่ 13 ครึ่งแรก

ตอนที่ 13

ทิชาไม่เสียเวลาเก็บของเพราะสิ่งที่ต้องใช้สำหรับเดินทางเตรียมไว้พร้อมเสมออยู่แล้ว พ่อเคยบอกเธอว่าต้องไม่ประมาทหากวันหนึ่งตัวตนที่แท้จริงถูกเปิดเผยจนต้องหนีไปตั้งหลักก็ต้องไม่ซวนเซ เมื่อเดินทางออกไปจากหมู่บ้านได้ เครื่องบินเล็กที่ซ่อนไว้จะได้ใช้งานตามแผนหลบฉาก หลังจากนั้นเธอกับพ่อจะหนีไปกบดานที่ทะเลทรายฝั่งลิเบียก่อน หลังจากนั้นค่อยไปรวมตัวกับผู้นำอีกคนแล้วกลับนัวเรด์ดีนในเวลาที่เหมาะสม
คำปฏิเสธของท่านดิฮ์ยาทำให้พ่อมีคำสั่งให้ระเบิดห้องลับทิ้งก่อนที่คนของชีคชามีลจะมาพบทางลับที่กบฏใช้ติดต่อกันมานาน ทิชาสะพายกระเป๋าเป้ที่มีของใช้ส่วนตัวมาหาพ่อ ทามาลกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวโปรด ในมือของเขามีปืนคู่ใจที่ไม่เคยยอมให้ห่างกาย
“ต้องไปกันแล้วค่ะพ่อ ทหารคงใกล้มาถึงที่นี่แล้ว ทิชาจะไปเปิดทางลับในห้องครัวไว้รอนะคะ”
“พ่อจะรับหน้าทหารไว้ แล้วทิชาหนีไปก่อน ไม่ว่ายังไงก็ต้องหนีรอดให้ได้ ตั๋วเครื่องบินและเงินจำนวนไม่น้อยที่พ่อโอนไปไว้ที่บัญชีของลูกจะมากพอให้ลูกอยู่ได้ไม่ลำบาก” เมื่อถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจ อดีตนายพลอย่างทามาลก็เฉียบขาดและกล้าจบเกมอย่างไว้ลาย
ทิชานั่งลงแล้วกอดขาของทามาลไว้เมื่อคาดการณ์ออกว่าพ่อจะทำอะไรในสถานการณ์ที่บานปลายเกินการควบคุมไปแล้ว พ่อจะให้เธอเดินทางต่อไปฝรั่งเศสตามแผนเพียงลำพังแล้วหลังจากนั้นล่ะที่นี่จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
“ทิชาไม่ไปค่ะพ่อ ถ้าจะไปก็ต้องไปด้วยกัน”
“พ่อต้องชดใช้ในความประมาทและผิดพลาด ทางเดียวที่เหลือคือลูกต้องรอดเท่านั้น ถ้าพ่อยังไม่ตายคงได้พบกัน” มือหนาของทามาลลูบหัวลูกสาวด้วยความรัก ถ้าหนีไปด้วยกันทิชาจะถูกตามล่า แต่ถ้าเขาอยู่ที่นี่เพื่อรับโทษ ลูกสาวจะปลอดภัยไปอีกนานจนกว่าเป้าหมายจะบรรลุผล
น้ำตาแห่งความกลัวที่ไม่ใช่กลัวตายไหลรินเมื่อมันอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ทิชาจะได้กอดพ่อไว้ “ไม่ค่ะพ่อ จะให้ทิชาทิ้งพ่อได้ยังไง”
ทามาลสะบัดใบหน้าของทิชาออกไปพร้อมกับขาขยับห่างอย่างไม่พอใจ แม้จะแสร้งทำแต่ต้องสมจริงสมจัง เขาเลือกทางรอดให้ลูกสาวแล้ว
“ไปเดี๋ยวนี้นังลูกโง่ ในนามแห่งคูเซย์ผู้นำที่เหลืออยู่ของตระกูลอันเก่าในทะเลทรายแห่งนี้ ฉันขอสั่งให้แกไป สายเลือดแสนสกปรกจากแม่ของแกกำลังสร้างความวิบัติให้กับทุกคนที่นี่ ไปเสียก่อนที่จะมีคนตายมากกว่านี้”
ทิชาผงะไม่คิดว่าพ่อจะนำเรื่องนี้มาพูดให้เธอเสียใจอีก วินาทีแรกที่เธอเกิดทำให้ปู่หัวใจวายเพราะพ่อเลือกผู้หญิงต่างชาติมาร่วมตระกูล อีกทั้งการพูดในฐานะคูเซย์ซึ่งเป็นเผ่าเบดูอินโบราณที่ถูกทางการกดขี่มานานในอดีตทำให้เธอไม่อาจดื้อรั้นได้อีกต่อไป ทิชาลุกขึ้นมองทามาลด้วยหัวใจแหลกลาญ ถ้าพ่ออยากให้เธอไปไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลย
“พ่อ...อย่าตายนะ ทิชาจะกลับมาช่วย”
ทามาลพยักหน้าได้แต่มองตาม ถึงเขาอยากจะเป็นชีคมาก แต่ก็รักลูกมากกว่า ต่อให้ผู้นำอีกคนที่เป็นเพื่อนรักส่งคนมาช่วยในเวลานี้คงไม่ทันแล้ว มันคงเป็นสิ่งเดียวที่เขาจะทำให้ลูกสาวในฐานะพ่อที่รักลูกได้

ชีคชามีลเข้ามาถึงห้องรับแขกที่แสนหรูหราของทามาลได้ในที่สุด แต่กลับตะลึงอึ้งเมื่อเห็นเก้าอี้ที่อดีตนายพลนั่งนั้นออกแบบมาได้เหมือนกับบัลลังก์ที่เขาได้รับสิทธิ์แห่งความเป็นชีคโดยชอบธรรม ที่ทามาลทำมาทั้งหมดก็เพื่อครองอำนาจเท่านั้นเอง ไม่ใช่เรื่องของประชาชนเลยสักนิด ความโลภช่างทำให้คนที่เขาเคยนับถือเมื่อยังวัยรุ่นกลายเป็นคนหลงในอำนาจจนหน้ามืดตามัว
ในมือของทามาลมีปืนที่นิ้วเข้าไปอยู่ในไกพร้อมยิง ทหารพากันเข้ามาล้อมชีคชามีลเพื่อปกป้องด้วยความเต็มใจ ชามีลมองทามาลแล้วรู้สึกสังเวชใจ ถึงทามาลจะเป็นกบฏแต่เป็นถึงอดีตนายพลที่ทำประโยชน์ให้ประเทศนัวเรด์ดีนมาไม่น้อยก่อนจะหลงผิดเมามัวในอำนาจ
“อย่าขัดขืนเลยท่านทามาล การทำในสิ่งที่ไม่ใช่สิทธิ์โดยชอบธรรม ผลที่ตามมามักไม่สวยงามเสมอ”
“ใครว่าล่ะ” ทามาลยิ้มเหี้ยมก่อนจะยกปืนขึ้นมา
เกิดความตึงเครียดเมื่อทามาลอาจลอบปลงประชนม์ชีคชามีล ปืนในมือของอดีตนายพลเงื้อขึ้นแล้วแทนที่จะหันมาทางชามีล ทามาลกลับหันปากกระบอกปืนใส่ขมับตัวเอง
“ปัง!?!”
ปืนในมือของทหารชะงักค้างห้ามไม่ให้ลูกกระสุนพุ่งออกได้ทันเวลา ทามาลยังคงนั่งอยู่ที่บัลลังก์ปลอมๆ แสนสง่างามนั้น เพียงแต่หัวเอนพับมาพิงไหล่ของตัวเองอย่างหมดท่า มีเลือดกำลังไหลจากขมับจนเปื้อนเก้าอี้ที่ทามาลอยากได้มาครอบครองนักหนา ดวงตาของคนทะยานอยากเบิกกว้างราวกับรอจะเห็นบางอย่างที่วาดฝันไว้ให้เป็นจริง
ชีคชามีลก้าวออกมาเมื่อรู้สึกว่าบ่าทั้งสองข้างหนักกว่าเดิม เขารู้คิดแล้วว่าจะไม่ยอมให้ความโลภอยากมีอำนาจมาทำให้พบจุดจบแบบทามาลเด็ดขาด

ข่าวการตายของทามาลถูกประกาศให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องทราบโดยทั่วกัน ชีคชามีลส่งทหารจำนวนหนึ่งไปเคลียร์กบฏในคราบชาวบ้านและตามหาลูกสาวคนเดียวของทามาลที่หายตัวไปอย่างลึกลับ รวมทั้งยังต้องหารายชื่อคนของทามาลที่แทรกซึมเป็นสายอยู่ในวังหลวงอีกด้วย ถึงจะไม่หมดลงไปง่ายๆ แต่ยังดีกว่าปล่อยให้ศัตรูร้ายอยู่ใกล้ตัวในจำนวนเท่าเดิม
ไฟตรงโกดังถูกดับลงจนหมดแล้ว แต่ปัญหาก็คือมีทรายและสิ่งปรักหักพังทับถมทำให้ต้องใช้แรงงานคนในการรื้อนำสิ่งเหล่านั้นออกไป ซาเมราไม่มีวันเชื่อว่าธามินจะยอมตายอยู่ใต้กองปรักหักพัง เขามีสัญชาตญาณของการเอาตัวรอดจากอันตรายได้มากกว่านั้น แต่มีจะทางรอดได้อย่างไรหากว่าระเบิดยังทำลายโกดังทั้งหลังให้พังลงมา
ใช่แล้ว!
ซาเมราเดิมแกมวิ่งมาหาชามีลที่กลับมาสมทบพอดี แม้ความหวังของเธอจะลิบหรี่แต่ใช่ว่าจะไม่มี หากห้องลับแข็งแรงพอย่อมทนระเบิดได้ แล้วถ้ามีทางลับจริงๆ ก็หมายความว่าตอนนี้ธามินอาจอยู่ที่ไหนสักแห่งในทะเลทราย
“นอกจากห้องลับแล้ว ทางลับที่ว่าเมราแน่ใจหรือเปล่า” ชามีลถามซาเมราเพราะมันเป็นเพียงการเดาเท่านั้น เมื่อถึงเวลาหนึ่งหากความสูญเสียได้เกิดขึ้นแล้ว การยอมรับความจริงย่อมดีที่สุด
“ธามบอกเมราว่าใต้โกดังเป็นห้องลับอาจมีทางลับ บางทีเขาอาจหนีแรงระเบิดไปโดยใช้ทางทางลับก็ได้นะคะพี่ชา” เธออาจจะหาความหวังให้ตัวเองอยู่ก็ได้ แต่ถ้ายังไม่ศพย่อมมีความหวังไม่ใช่หรือ
ชามีลฟังแล้วติดตาม คนอย่างธามินถ้าไม่แน่ใจมีหรือจะบอกซาเมราไว้แบบนี้ “พี่จะลองดู ตอนนี้ต้องรอให้ทหารหาห้องลับให้พบก่อน ทางลับคงอยู่ที่เดียวกัน แต่คงต้องใช้เวลาหาสักพัก”
ซาเมรารอนานถึงขนาดนั้นไม่ได้ ถ้าธามินบาดเจ็บเสียเลือดอาจไม่รอดก็ได้ แล้วเธอจะแน่ใจได้อย่างไรว่าพวกกบฏไม่วางกำลังคนเพื่อฆ่าเขาหากมีทางลับไปยังที่ต่างๆ ซาเมราวิ่งกลับไปที่เครื่องบิน ชามีลวิ่งตามมาพร้อมทหารคุ้มกันโดยมียาซินรั้งท้าย
“เมราจะไปไหนบอกพี่ก่อน”
“ปลายทางของทางลับค่ะพี่ชา เมราก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันอยู่ตรงไหน แต่จะลองหาดูจากความทรงจำที่ธามเคยบอกไว้ค่ะ”
ชามีลสั่งให้นักบินนำเครื่องบินขึ้นเวลานี้ทำอะไรได้ก็ควรทำก่อนที่จะไม่ทันเวลา เครื่องบินสามลำมุ่งหน้าไปตามเส้นทางที่ได้รับพิกัดซึ่งมาจากการจดจำได้ของซาเมราเท่านั้น ไม่มีใครรับประกันได้ว่าการตามหาในครั้งนี้จะพบธามินหรือเสียเวลาเปล่า ซาเมราหลับตาลงภาวนาต่อแสงจันทร์ที่ใกล้ลาลับเพื่อให้พระอาทิตย์เข้ามาแทนที่ เธอขอให้ธามรอดชีวิตกลับมาไม่ว่าสภาพไหน เขาจะไม่ตาย...เขาต้องไม่ตาย

ทางเดินที่อับทึบยังพอมีอากาศให้หายใจ แต่มืดมากจนธามินต้องคลำทางเอาแทนการใช้ไฟฉายที่ยังถือติดมือมา แม้ว่าการระเบิดจะทำให้ร่างของเขากับทหารอีกคนกระเด้งกระดอนไปกระแทกสิ่งต่างๆ ในห้องลับจนสร้างรอยช้ำและบาดแผลหัวแตกให้ทหารไปบ้าง แต่มันช่วยให้ประตูทางลับเปิดอ้าบานหนึ่งการออกมาจากห้องลับจึงง่ายขึ้น
ธามินกับทหารวิ่งตามกันมาเพื่อหาทางออก แต่มันไม่พบได้ง่ายๆ เพราะจากแผนที่ที่เขาได้จากอดีตทหารคนนั้นมีมาร์คจุดไว้ไกลออกไปคำนวณคร่าวๆ ประมาณสองไมล์เป็นอย่างน้อย ทั้งสองเดินกันไปอย่างระมัดระวังเพราะอาจมีคนของกบฏใช้เส้นทางนี้ อากาศเย็นในยามค่ำคืนทำให้ความอบอ้าวภายในอุโมงค์ไม่เกินที่จะทนไหว แต่หากเดินทางตอนกลางวันอาจตายเพราะความร้อน
จากก้าวแรกที่เดินมาจนถึงเวลานี้ผ่านไปสองชั่วโมงกว่าๆ แล้ว แต่ธามินยังไม่เห็นปลายทางหรือความผิดปกติอื่นใดจนกระทั่งมีเสียงตึงๆ เหมือนใครกำลังวิ่งมาทางนี้
ธามินหยุดเดินรีบหลบเงียบๆ พร้อมทหารติดตาม ถ้ามีคนมาทางนี้ย่อมเป็นไปได้ว่าอาจใกล้ถึงปลายทางแล้ว เสียงสนทนาแว่วมาจนได้ยินชัดขึ้น ธามินเงียบกริบและตั้งใจฟัง
“ถ้ามีใครแปลกหน้าและน่าสงสัยก็ฆ่าได้เลยนะ”
“แล้วที่หมู่บ้านเกิดอะไรขึ้น ทำไมทหารมากันเต็มไปหมด” เสียงนั้นคล้ายกำลังหาว
“ถ้าคูเซย์ไม่ถูกจับก็คงตายแล้ว ตอนนี้มีเสียงตามสายบอกว่าให้รอจนแน่ใจ อย่าเพิ่งผลีผลาม”
ชายที่มาด้วยกันถอนใจ “แต่ก็น่าจะหนีก่อนไม่ดีกว่าหรือวะ”
ธามินได้ยินเสียงร่างคนกระแทกผนังเหล็ก ชายคนที่พูดคงถูกลงโทษที่คิดจะหลบหนีแทนการสู้
“ถ้าพูดแบบนี้อีกคำเดียว แกจะตายแทนทหารทางการ”
จากเสียงสนทนากลายเป็นเงียบกริบ ธามินและทหารที่รอดชีวิตมาด้วยกันเตรียมพร้อมเมื่ออีกไม่ก้าวเท่านั้นพวกมันจะมาถึงตัว แล้วเพียงเห็นเงารางๆ การสู้เพื่อเอาชีวิตรอดก็เกิดขึ้น
ตึกๆ...ตึ๊กๆ...โครม...อั๊ก!?!

ชายสามคนด้านบนกำลังส่องปืนมายังชายสองคนที่เพิ่งขึ้นมาจากทางลับ หากมองไกลๆ ก็จะเห็นว่าเป็นพวกเดียวกันเพราะเพิ่งลงไปสองคนขึ้นมาสองคนย่อมถูกแล้ว ปืนถูกลดลงมาห้อยแขนไว้ตามเดิมแล้วยกน้ำชาที่กำลังอุ่นได้ที่ขึ้นมาดื่ม โดยไม่ทันสังเกตว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“ทำไมกลับมาช้าจังวะ เฝ้าต่อที เดี๋ยวฉันมาจะไปงีบสักชั่วโมง ผลัดกันแล้วกันนะ”
สองคนที่นั่งด้วยกันมาก่อนพยักหน้า แต่สองคนที่เพิ่งขึ้นกลับมายืนเฉยไม่มีเสียงตอบ พอจะถามก็ถูกยันโครมก่อนพานท้ายปืนจะฟาดใส่คนที่เหลือจากปืนสองกระบอกจนกลิ้งโค่โล่ไปไกล กว่าจะตั้งหลักได้ก็ถูกธามินจ่อปืนใส่ เมื่อพวกมันจวนตัวจึงกำทรายสะบัดซัด ธามินหลบได้ทันต่างจากทหารที่มาด้วยกันทรายเข้าตาไปเต็มรักเลยถูกอัดจนเซถลา เขาไม่มีโอกาสไปช่วยเมื่อกำลังถูกสองรุมหนึ่ง ทั้งหมัดทั้งศอกแลกกันจนต่างได้เลือดได้แผลพอๆ กัน กบฏในกระโจมเข้ามาสมทบอีกสอง สถานการณ์ของธามินเสียเปรียบกลายเป็นสองต่อห้า
ทหารติดตามมองธามินว่าต้องทำอย่าไรต่อไป ธามินถอนใจไม่อยากฆ่า แค่ต้องการทำให้บาดเจ็บอย่างเจ้าสองคนที่สลบเหมือดอยู่ที่ทางลับเพราะอย่างไรก็คนนัวเรด์ดีนด้วยกัน
“ฆ่าสถานเดียวเท่านั้น แล้วแยกย้ายกันไปซ่อนจนกว่าจะมีคำสั่งเรียกให้กลับมา” หนึ่งในพวกกบฏสั่งพวกเดียวกัน
“ถ้าไม่อยากตายก็วางอาวุธเสียเถอะ อีกไม่นานคนของทางการจะมาที่นี่” ธามินเตือนถึงจะไม่อยากฆ่า แต่ถ้าต้องฆ่าจริงๆ ก็ต้องทำ
“ก่อนถึงเวลานั้น ฉันคงฆ่าแกไปเรียบร้อยแล้วล่ะว่ะ”
กบฏตามมาสมทบอีกสิบกว่าคนและทั้งหมดล้อมธามิมกับทหารติดตามไว้ เขาคิดว่าการรอดไปทั้งที่มีลมหายใจคงยากเสียแล้วเมื่อปืนทุกกระบอกของกบฏเล็งมา ธามินใช้โอกาสอันน้อยนิดยิงปืนสั้นไปยังระเบิดที่ห้อยเอวกบฏจนร่วงลงพื้นพร้อมกับมีประกายไฟส่งผลให้ระเบิดทำงาน พลันเกิดเสียงกัมปนาทที่มาพร้อมสว่างราวกับใครมาจุดดอกไม้ไฟหลายร้อยดวง ทุกคนต่างกระเด็นกระดอนไปคนละทิศละทาง พอตั้งหลักได้ทั้งสองฝั่งต่างยิงใส่กันเพื่อรักษาชีวิตของตัวเองไว้
เสียงเครื่องบินดังเข้ามาใกล้ ธามินใช้กระสุนสามนัดสุดท้ายยิงกบฏสามคนที่กำลังเล็งไปยังเครื่องบินลำนั้น ก่อนที่จะถูกยิงกลับมาเหมือนกัน เสียงปืนพุ่งลงมาจากฟ้าทว่ารอบตัวของเขากลายเป็นฝุ่นฟุ้งของทรายและร่างของคนเจ็บนอนระเนระนาดเพราะหมดทางหนี มีเพียงชีวิตที่ยังต้องรักษาให้รอด หากตายกบฏพวกนี้คงยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสู้เพื่อใครและตายเพื่อใคร
ธามินมองสิ่งต่างๆ ด้วยภาพที่ช้าและพร่ามัว เขารู้สึกได้ว่าเลือดอุ่นๆ กำลังไหลออกมาจากบาดแผลหลายแห่งในร่างกาย บางทีที่แห่งนี้อาจจะเป็นจุดสุดท้ายในชีวิตของเขาก็ได้
ไม่!

แล้วจะมา up ต่อให้ถึงตอนที่ 16 นะคะ ตอนนี้หนังสือล่ารักแดนทะเลทราย สามารถหาซื้อได้ที่ซีเอ็ดและนายอินทร์แล้วนะคะ ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านค่ะ
อัมราน_บรรพตี



บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 พ.ย. 2558, 09:22:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 พ.ย. 2558, 09:22:02 น.

จำนวนการเข้าชม : 881





<< ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง   ตอนที่ 13 ครึงหลัง >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account