เล่ห์รักพรางแค้น วางแผงแล้ว สนพ ทัช
ใครจะไปคิดว่าการทำภารกิจให้ปู่ กลับกลายเป็นถูกโชคชะตากลั่นแกล้งให้เขาถูกสลัดลงจากคาน ยัยซื่อบื้อนั่นน่ะหรือคือไก่วัดที่ทำให้เขากลายเป็นสมภาร
Tags: ความรัก ความหลัง

ตอน: ตอนที่ 3 ครึ่งแรก

มาลินเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับมาชุดเดิม เพียงแต่ใส่เสื้อแขนยาวคลุมเสื้อนักศึกษาไว้ นั่งรอพิพัฒอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาก็ยังไม่มา อาจเป็นเพราะว่าที่ฝึกงานอยู่ไกลก็ได้ เธอเดินแกล่วออกมาถนนด้านหลังของผับเพื่อไปทางลัดแล้วออกไปรอรถเมล์ แต่ยังไม่ทันได้ไปไหนก็ถูกขวางทางไว้จากคนที่เคยช่วย แต่หนนี้กลับทำเฉย คงไม่อยากเดือดร้อนอีก
ภาวัตเห็นสายตาของมาลินก็พอเดาได้ โกรธล่ะสิที่เขาไม่ทำตัวเหมือนฮีไร่ทวงความยุติธรรมมาให้ โลกนี้มันไม่ได้ต้องถูกหรือต้องผิดเสมอไปหรอกเด็กน้อย
“ทำไมคราวนี้คุณไม่ช่วยฉันเหมือนคราวก่อนล่ะ ฉันเห็นนะว่าคุณมองอยู่”
ภาวัตแกล้งมองโลมเลียอย่างผู้ชายที่มองผู้หญิงสักคนแล้วอยากพาขึ้นเตียง มาลินถอยหลังกระชับเสื้อมองมาโกรธๆ เกือบจะเดินหนีอยู่แล้วถ้าเขาไม่พูดขึ้นเสียก่อนว่า
“ไปหางานอื่นทำดีกว่า ที่นี่ไม่เหมาะกับเธอหรอกนะ นี่แหละที่เหตุผลผลที่ฉันไม่ช่วยเธอ แค่ถูกมองแบบเมื่อกี้เธอยังไม่ชอบ แล้วจะมาทนให้ถูกแต๊ะอั๋งทุกวันทำไม”
มันก็จริงของเขา แต่ถ้ามีงานที่ดีกว่านี้และตรงกับเวลาที่ว่างมีหรือที่เธอจะไม่ทำ
“นอกจากผู้หญิงคนนั้นที่ทำให้ฉันตกงาน คุณก็มีส่วนด้วยเหมือนกันค่ะคุณภาวัต” หญิงสาวยกมือไหว้เข้าใจเจตนาของเขาแล้ว แม้ว่าจะไม่ชอบเท่าไหร่ ถูกไล่ออกกับลาออกเอง มีใครอยากโดนอย่างแรกบ้างล่ะ
“วันนี้ฉันเห็นคุณที่บริษัทค่ะ”
“ก็ต้องเห็นสิ เราทำงานที่เดียวกัน” เขาพูดให้ความต่างของเขากับเด็กนี่เบาลง “ตามฉันมา แล้วเธอจะเข้าใจว่าผู้หญิงคนนั้นร้ายใส่เพราะอะไร”
ไม่ต้องเรียกซ้ำมาลินรีบเดินตามไปติดๆ จึงทันเห็นหญิงแสบกำลังหัวเราะเริงร่ากับผู้ชายที่มีเรื่องกับเธอเมื่อวันก่อน เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว เธอถูกแก้แค้นทั้งๆ ที่ผู้ชายคนนั้นทำผิดจริงๆ ไม่ใช่หรือ
“สองคนนี้รู้จักกัน ถึงว่ามาแก้แค้นฉันนี่เอง ฉันจะเอาคืน”
ภาวัตคว้าข้อมือเล็กไว้ “สู้ไหวเหรอ ตัวเท่านี้ อยู่ข้างหลังฉันดีกว่า แล้วดูเงียบๆ”
ร่างสูงและใหญ่จนบังมาลินมิดเดินดุ่มๆ ไปหาสองคนนั้น มาลินลอบมองจากด้านหลัง เจ้าผู้ชายคนนั้นมองมาและรู้ตัวเสียด้วยว่าถูกจับได้แล้ว เขาเปิดประตูรถจะเข้าไปนั่งเช่นเดียวกับผู้หญิงที่วิ่งไปอีกด้าน แต่ขอโทษด้วย งานนี้ไม่จบง่ายๆ อย่างผู้ร้ายหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยแน่นอน

นภดลชะงักนิดหนึ่งแต่ยังวางฟอร์มมองพวกชอบแส่ตั้งแต่หัวจรดเท้า คราวที่แล้วก็ว่าหน้าตาคุ้นๆ แต่นึกไม่ออกว่าเคยเห็นมาก่อนที่ไหน ในมือของภาวัตไม่มีอะไรนอกจากโทรศัพท์ที่เพิ่งอ่านข้อมูลสดร้อนๆ ก่อนที่จะพามาลินมาตรงนี้ด้วยกัน
“พรุ่งนี้จะไปเขียนใบลาออกเองหรือว่าจะยอมถูกไล่ออก”
“พูดอะไร เมาหรือไง” นภดลหัวเราะสงสัยกำลังคุยกับคนเมา
ภาวัตยิ้มหยันยังไม่ต่อปากคำมองปราดไปยังสาวสวยที่เล่นละคนเก่งสมกับตัวประกอบที่ไม่ค่อยมีใครจำได้นัก
“ส่วนคุณ งานที่รับไว้จะถูกยกเลิก”
สาวสวยหัวเราะคิกคัก คงไม่แคล้วแฟนของเด็กนั่น กลัวจะตายล่ะ
“รู้เหรอว่างานอะไร พูดอย่างกับทำได้”
นั่นสิ มาลินก็สงสัยเหมือนกัน ครั้นจะถามภาวัตก็ไม่ทันเพราะเขายกโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วคุยกับใครก็ไม่รู้ แต่ที่รู้แน่ๆ มีคนหน้าซีดพร้อมกันสองคนเชียวล่ะ
“คุณวิภาพรุ่งนี้ทำเรื่องไล่ออกนะครับ ไม่ใช่จ้างออกกับพนักงานชื่อ นภดล ข้อหาฉ้อโกงเงินบริษัทไปเป็นจำนวน 1 แสน 2 หมื่นเศษอีกกี่บาทไปตามที่เลขาของผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ อ้อ แล้วต่อสายคุณวิศนีให้ผมด้วย บอกว่าผมมีเรื่องสำคัญอยากคุย”
ใบหน้ามั่นใจถึงกับถอดสีมองภาวัตต่างไปจากเดิมเพียงคำพูดไม่กี่ประโยค สาวข้างกายก็ชักหวั่นเขย่าแขนคู่ควงยิกๆ เพราะวิศนีเป็นผู้จัดที่เธอกำลังจะมีละครด้วย
“แกเป็นใครกันแน่”
“น้องชายของเจ้านายคุณน่ะสิ ออกจากกะลาบ้างก็ดี หน้าผมออกข่าวก็บ่อย ไม่เคยเห็นบ้างหรือไง ถึงจะอยู่คนละบริษัท แต่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบใช้ด้วยกัน เอายังไง จะยอมทำตามที่ผมบอกหรือว่าจะโดนไล่ออกพร้อมกับถูกดำเนินคดี”
มาลิคยกนิ้วโป้งให้ภาวัต ไม่ต้องลงมือให้เจ็บ สมองล้วนๆ อีตานภพดลก็ชั่วเองด้วย ไม่งั้นจะถูกต้อนจนหน้าหดแบบนั้นหรือ แต่ท่าถกแขนเสื้อขึ้นแล้วกระโจนเข้ามาใกล้นี่ชักยังไง
“มันจะมากไปแล้วนะโว้ย” นภดลแผดเสียงลั่นเหวี่ยงหมัดใส่น้องชายเจ้านายไหนๆ ก็จะตกงานอยู่แล้วนี่
ภาวัตคว้ามาลินหลบแล้วตวัดขาใส่ข้อพับของภพดลจนล้ม สาวสวยร้องวี๊ด คนผิดยังไม่วายลุกขึ้นมาเลยถูกหมัดสวนจนล้มลงก้นกระแทก แถมยังปากแตกได้เลือด หมดท่าเสียฟอร์มเมื่อเริ่มมีคนเข้ามุงกันใหญ่
“พี่ดล! นี่คุณจะมากไปแล้วนะ ฉันจะแจ้งตำรวจ” ปรียาตะโกนแถมยังร้องไห้เสียอย่างกับนภดลใกล้ตาย
ภาวัตส่ายหน้าหันมามองมาลิน เธอมองเขาแล้วพยักหน้า เอาสิ มีเรื่องก็ยอมล่ะ คนแบบนี้สมควรถูกสั่งสอน แล้วยังโกงยิ่งสมควรให้กฎหมายลงโทษ
“ก็ดี ไปด้วยกันตอนนี้แหละ ผมจะได้แจ้งความคุณข้อหาใส่ร้ายทำให้พนักงานคนนี้เสียหายพร้อมกับเจ้านั่นข้อหาฉ้อโกงเสียเลย”
“อย่านะ ผมเชื่อแล้ว” นภดลรีบยกมือไหว้ปลกๆ ตกงานยังไม่น่ากลัวเท่าติดคุก
“เอายังไงดีคะคุณ” มาลินอนาถอยู่ในใจ ไม่ใช่สงสาร
“ขอโทษผู้หญิงคนนี้ แล้วพรุ่งนี้ไปลาออก แต่เรื่องฉ้อโกง ไปคุยกับพี่คิมเองก็แล้วกัน” ภาวัตเอ่ยพลางตวัดสายตาไปมองปรียา “ส่วนเธอ ถ้าก่อเรื่องอีกงานนักแสดงจะคงไม่มีใครจ้าง”
ปรียาเบ้ปากมองนภพดลเผื่อว่าจะมีอะไรมาช่วยให้เราสองคนไม่เสียหน้าและเสียงานได้บ้าง แต่เปล่าเลย ไร้หวังเขาอ้าปากเอ่ยคำที่แสดงให้รู้ว่าที่ผู้ชายคนนั้นพูดมาเป็นเรื่องจริง
“ขอโทษ”
มาลินเกือบหัวเราะถ้าไม่ได้ตั้งใจฟังคงไม่ได้ยินแน่ๆ ทีเมื่อครู่ล่ะเถียงเสียงดัง ต่างจากตอนนี้ลิบลับ ภาวัตกอดอกถอนใจยาว ส่ายหน้ามองนภดลหัวจรดเท้าเหมือนกัน ไทยมุงพากันมองคนก่อเรื่องก่อน ปรียาเอียงหน้าหลบเมื่อผิดแผน
“พูดดังๆ สิ ขอโทษส่งๆ แบบนี้เรียกว่าไม่จริงใจ ผู้ชายอะไรทำร้ายผู้หญิง”
“ขอโทษ...ครับ” หน้านภดลเหมือนอยากชกแต่ทำไม่ได้
ภาวัตหันมามองมาลิน พอเธอพยักหน้ายิ้มว่าพอใจแล้วก็ยกมือสะบัดใส่คู่กรณีให้ไปพ้นสายตา นภดลกำมือแน่นข่มความโกรธไว้แล้วคว้ามือแฟนให้ตามมา ปรียาเปิดประตูเข้าไปนั่งก้มหน้าหลบๆ ด้วยความอับอาย แต่ยังแค้นใจไม่หาย
“พี่จะยอมมันจริงๆ เหรอ”
“ยอมตอนนี้ แต่ตอนหน้าพี่เอาคืนมันแน่”
เหล่าไทยมุงสลายตัวบ้างก็กลับเข้าไปในผับ บ้างก็กลับไปที่รถตัวเอง เหลือแต่สองหนุ่มสาวที่ยังมองรถซึ่งเพิ่งขับออกไป สายตาแบบนั้นบอกได้เลยว่าเราสองคนได้มีศัตรูเพิ่มขึ้นอย่างไม่ตั้งใจเข้าแล้ว มาลินหันมามองเจ้านายแม้จะเพียงช่วงระยะฝึกงานของตัวเองแล้วยกมือไหว้ ภาวัตยกมือรับไหว้แทบไม่ทัน รอยแดงที่หลังมือเห็นชัดจนเธอชักห่วง
“มือคุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
“เจ็บ แต่พอทนได้” คุ้มจะตายได้สั่งสอนคนปากชั่วๆ แบบนั้น “เธอพักที่ไหนล่ะ ฉันจะไปส่ง อ้อ ไม่ต้องบอกว่าเกรงใจ ฉันช่วยเธอก็เพราะเป็นพนักงานคนหนึ่งที่บริษัท ไม่ได้คิดอย่างอื่น”
มาลินมองกลับไปที่ผับเผื่อว่าพิพัฒจะกลับมาจากซื้อเครื่องดื่มเพิ่มกับหัวหน้าแล้ว แต่ยังไร้วี่แวว พอหันกลับมาก็เห็นว่าภาวัตมองอยู่ ถึงตอนนี้จะไม่ดึก แต่คนมีครอบครัวควรกลับไปทานข้าวกันคนที่รอมากกว่า
“กลับบ้านดึกๆ ภรรยาของคุณไม่ว่าเอาหรือคะ”
ภาวัตหัวเราะ “ไม่รู้สิ คงไม่ว่าละมั้ง ไปขึ้นรถ แล้วคอยบอกทางแล้วกัน”
ถ้าปฏิเสธคงเสียมารยาท เขาอุตส่าห์ช่วย มาลินเดินตามภาวัตไปที่รถอย่างเกรงใจระคนประหม่าเพราะกิตติศัพท์ความเจ้าชู้ของเขาสมัยหนุ่มกว่านี้เธอได้ยินมาจากพนักงานที่บริษัท ถึงตอนนี้จะเพลาลงแล้ว อาจเพราะมีครอบครัว แต่คราวก่อนเธอยังเห็นเขาพาผู้หญิงขึ้นรถไปจากผับ ปลายทางอยู่ที่ไหนคงไม่ต้องเดา

หอพักของมาลินอยู่ทางเดียวกับบ้านของภาวัต เธอยกมือไหว้ขอบคุณความประหม่าเริ่มหายไปแทนที่ด้วยแง่มุมใหม่ๆ ที่เขาทำให้เห็น ตลอดขากลับเธอลุ้นและกลัวแทบแย่ว่ารถจะเลี้ยวออกนอกเส้นทาง พอลงจากรถสายตาของหญิงสาวมองหาเก้าอี้หินอ่อนที่กำลังว่างพอดี
“ไปนั่งรอตรงนั้นก่อนนะคะคุณวัต เดี๋ยวลินลงมาทำแผลให้”
ภาวัตมองตามนิ้วเล็กๆ ที่ชี้ไป นึกแล้วเชียวว่ายังไม่ไว้ใจ เขามันพวกยิ่งกลัวยิ่งชอบทำให้กลัวเสียด้วยสิ
“ขึ้นไปทำ...แผลบนห้องไม่ได้หรือไง กลัว ไม่ไว้ใจหรือทั้งสองอย่าง”
มาลินยกมือไหว้เริ่มยิ้มไม่ออก จะโกหกก็คงไม่เนียนเท่าไหร่ ทำยังไงดี หวังดีแท้ๆ แต่จะซวยเสียเอง
“ทั้งสองอย่างค่ะ คุณจะเซ็นไม่ให้ลินผ่านการฝึกงานหรือเปล่าคะ”
ภาวัตหัวเราะเด็กบ้าที่คิดไปถึงไหนแล้ว แค่ไม่ยอมให้ขึ้นห้องไปทำแผลแล้วเซ็นไม่ให้ผ่านการฝึกงานเนี่ยนะ ภาพพจน์ของเขาดูแย่ขนาดนี้เชียว
“ฉันจะรอตรงนั้นก็แล้วกัน เป็นเด็กเป็นเล็กหัดคิดมาก ถ้าฉันทำแบบนั้นก็กลายเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็กน่ะสิ”
มาลินค่อยยิ้มออกรีบเดินเข้าหอพักไป ภาวัตลงจากรถมานั่งรอตามสัญญา หลังมือมีรอยช้ำก็จริง แต่ไม่ได้เจ็บนักหนา เสียงเดินใกล้เข้ามา พอหันมองแก้วน้ำหวานก็ยื่นมา ก่อนที่ ‘เด็กบ้า’ จะนั่งลงอีกฝั่ง
ภาวัตวางหลังมือให้พยาบาลจำเป็นใช้สำลีซับแอลกอฮอล์แล้วเช็ดรอยถลอกเล็กๆ ที่เพิ่งสังเกตว่ามีเลือดออกมาเล็กน้อย ตามด้วยพาสเตอร์ปิดแผล ดีที่มือคนทำไม่สั่น
“ขอบใจ”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณวัตมาช่วยไว้ต่างหาก ถึงได้เจ็บตัว ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” มาลินยกมือไหว้อีกรอบ
คนถูกไว้ยกมือรับแทบไม่ทัน แค่ไม่ถึงชั่วโมงเขารู้สึกเหมือนแก่ลงไปอีก 10 ปี เด็กนี่น่าจะ 22 ส่วนเขาก็... ห่างกันแค่ 12 ปียังเป็นพี่ชายได้ แต่เธอทำเหมือนเขากำลังจะเป็นลุงที่น่าเคารพอย่างไรอย่างนั้น...มันใช่ไหม!
“คุณร่มธรรมเป็นอะไรกับเธอ”
“เป็นคุณตาค่ะ คุณรู้จักตาหรือคะ”
เรียกว่ารู้จักดีไหม เจอกันครั้งแรกก็แจกกระสุนใส่ ถึงจะยิงงูก็เถอะ มาหาเขาแต่พกปืนมาด้วยมันน่าคิดไหมล่ะ
“วันนี้ถามเท่านี้แหละ วันหลังฉันจะไปเยี่ยมที่บ้านของเธออีก”
ภาวัตเดินกลับไปที่รถ มาลินตามมาส่งอยากตามต่อว่าเขาไปบ้านเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่เห็นแม่เล่าให้ฟัง แต่ก็นั่นล่ะ มีลูกน้องที่ไหนกล้าเซ้าซี้เจ้านาย แล้วยิ่งเป็นเด็กฝึกงานด้วย ฟังอย่างเดียวดีที่สุด

แล้วจะมา up ต่อนะคะ
อัมราน_บรรพตี



บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 พ.ย. 2558, 10:02:58 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 พ.ย. 2558, 10:02:58 น.

จำนวนการเข้าชม : 1131





<< ตอนที่ 2 ครึ่งหลัง   ตอนที่ 3 ครึ่งหลัง >>
konhin 14 พ.ย. 2558, 13:38:45 น.
ปล่อยงูเข้ารก เดี๋ยวก็กลับมาเล่นงานอีก


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account