เล่ห์รักพรางแค้น วางแผงแล้ว สนพ ทัช
ใครจะไปคิดว่าการทำภารกิจให้ปู่ กลับกลายเป็นถูกโชคชะตากลั่นแกล้งให้เขาถูกสลัดลงจากคาน ยัยซื่อบื้อนั่นน่ะหรือคือไก่วัดที่ทำให้เขากลายเป็นสมภาร
Tags: ความรัก ความหลัง

ตอน: ตอนที่ 3 ครึ่งหลัง

โต๊ะทำงานในห้องนอนของภาวัตมีซองสีน้ำตาลที่จ่าหน้าถึงเขา แต่ไม่มีชื่อผู้ส่งมาวางไว้ เกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วที่เขาได้ภาพของตัวเองในห้องไม่คุ้นตาในสภาพไม่ได้สติกอดผู้หญิงคนหนึ่งไว้ แต่ใบหน้าของเจ้าหล่อนกลับถูกผมบังจนเหลือแค่แก้มขาวๆ หากเป็นการแบล็คเมล์ก็น่าจะเสนอเงินมาแต่กลับเงียบจนน่าสงสัย รอไปก็โมโหเปล่า
“ปู่ครับ ผมมีเรื่องให้ช่วย ส่งมือดีๆ มาให้ผมสักคนสิครับ”
“งานยังไม่สำเร็จเลยมาขอให้ช่วยอะไรฮึเจ้าวัต”
นั่นไง นึกแล้วไม่มีผิด แต่ช่วยไม่ได้เขาหน้าด้าน งานไม่เสร็จก็จะขอให้ช่วย
“ให้หาคนครับ ส่วนงาน กำลังพยายามทำให้อยู่ ปู่ไม่ได้มาเอาอกรับกระสุนเหมือนผมสักหน่อย ใจเย็นๆ ไว้ 70 ขวบค่อยใจร้อน”
ทีปต์หัวเราะร่าทั้งชอบใจทั้งหมั่นไส้ “ไอ้นี่ เออ จะส่งคนไปให้”
หลานหัวเราะกลับ ปู่ใจดีจะตาย ถึงก่อนหน้านี้เขาจะเกเร เรียนจบแล้วแต่ดันไปดีทางด้านแข่งรถ มีใครห้ามเสียที่ไหน แค่ส่งคนไปคุมตลอด จนมาเห็นคิมหันต์เหนื่อยสายตัวแทบขาดนั่นล่ะ ความฝันถึงได้แบ่งให้ความเป็นจริง เข้ามาทำงานช่วยทางบ้าน ส่วนแข่งรถก็เหลือแค่รายการสำคัญเท่านั้น

เด็กน้อยแต่งตัวหล่อตั้งแต่เช้ารอพ่อพาไปเที่ยว ภาวัตแต่งชุดสีเดียวกัน แบบเดียวกัน ไม่ต้องถามว่าใครหาซื้อเสื้อผ้าแบบนี้มาให้ถ้าไม่ใช่แม่ของเขา ภาคหัวเราะมีความสุขเพราะนานๆ พ่อจะไปพาไปเที่ยว
ภาวัตนัดแพรมนไว้ที่ห้างแล้วตรงลานน้ำพุ สาวมั่นมาดทอมมายืนคอย ใครต่อใครพากันมองด้วยความสูงที่โดดเด่น แล้วยังใส่ชุดมาแมนๆ ผมที่ตัดสั้นทำให้ดูเท่และสวยในเวลาเดียวกัน
“ขอบใจที่อุตส่าห์มาด้วย นึกว่าจะบอกว่ายุ่ง ไม่ว่าง” ภาวัตไม่ได้พูดเกินจริงเลย บ่อยครั้งที่นัดกันดิบดี แต่เป็นอันล่มเพราะแพรมนมีงานด่วนเข้ามา งานออร์แกไนซ์ดูยุ่งกว่าผู้บริหารอย่างเขาเสียอีก
แพรมนแยกเขี้ยวใส่ เพื่อนสมัยมัธยมที่คบกันยืดยาวก็มีแต่ภาวัตเสียด้วย แล้วเราดันมีคำพูดร้ายๆ เป็นอาวุธกันทั้งคู่เลยไม่มีใครคบ ต้องมาคบกันเอง
“ฉันมาเพราะภาค ไม่ใช่เพราะนายหรอกย่ะ ปล่อยให้มาสองหนุ่มเดี๋ยวก็ได้เรื่องอีก อย่างคราวก่อนไงล่ะ”
“สวัสดีครับอาแพร” ภาคยกมือไหว้ แพรมนย่อตวักอดร่างเล็กหลวมๆ มารยาทงามแบบนี้ต่างจากพ่อโดยสิ้นเชิง
เด็กน้อยเอามือเล่นน้ำพุพลางโบกมือให้หมีตัวใหญ่ที่กำลังแจกลูกโป่งให้เด็กๆ ที่เข้ามาในห้าง ภาวัตมองตามสายตาของลูกชาย แต่แพรมนไวกว่าอุ้มร่างเด็กน้อยขึ้นมา
“ภาคจะเอาลูกโป่งหรือคะ เดี๋ยวพี่แพรไปขอพี่หมีให้นะคะ”
เด็กน้อยพยักหน้า ภาวัตเดินตามไปเหมือนครอบครัวเล็กๆ พ่อ แม่และลูกชายตัวน้อย แพรมนปล่อยภาคลง พี่หมีย่อตัวแล้วเปิดแขนรอรับมีลูกโป่งในอุ้งมือใหญ่ มือเล็กรับลูกโป่งมาแล้วกอดพี่หมีไว้ แขนอุยๆ ของชุดกอดตอบ
“ขอบคุณพี่หมีก่อนสิครับลูก”
“ขอบคุณครับ” ภาคคลายกอดจากพี่หมียกมือไหว้สวยๆ แล้วเข้ามากอดร่างสูงเอาไว้แทนอย่างเขินๆ
“ไหว้สวยมากเลยค่ะลูก เห็นไหมคุณพ่อ” แพรมนแกล้งแซ็ว
ภาวัตค้อนใส่ดูเหมือนสามีภรรยากำลังหยอกล้อกันในสายตาของพี่หมี
“ไปกันเถอะ วันนี้พ่อพาไปกินอาหารญี่ปุ่นดีไหม หรือว่าภาคอยากกินอะไรเดี๋ยวบอกพ่อเลยนะ”
ภาคถูกอุ้มขึ้นมาขี่คอผู้เป็นพ่อไว้ ส่วนสาวสวยเฉี่ยวแกล้งจี๋เอว เสียงหัวเราะลอยลมสนุกสนาน มาลินมองเห็นผ่านดวงตาที่เป็นแก้วใส ก่อนจะหันมาสนใจเด็กที่มากับพ่อแม่รายต่อไป เวลาภาวัตอยู่กับลูกชายและภรรยาก็ดูเป็นผู้ชายอบอุ่นและใจดี แต่ทำไมถึงยังเที่ยวกลางคืน ไม่สงสารคนรักบ้างหรือไง

อาหารที่สั่งกำลังทยอยมา ภาคนั่งเล่นตัวการ์ตูนที่พนักงานเอามาให้เด็กๆ ภาวัตมองลูกแล้วยิ้มเป็นสุขจนกระทั่งโทรศัพท์สายสำคัญเข้ามาจึงต้องเลี่ยงออกไปรับเพราะคงคุยกันนาน พอกลับมาที่โต๊ะอีกครั้งก็เห็นแพรมนกำลังจดงานลงสมุดนัดอย่างเอาเป็นเอาตาย ทว่าเก้าอี้ข้างกายกลับไม่มีเด็กน้อยที่เป็นดวงใจของเขานั่งอยู่
“อ้าว! ภาคหายไปไหนแล้ว”
งานเข้าแพรมนเต็มๆ เธอมองไปทั่วไม่สนใจนัดที่พันตูมาเป็นหลายนาที ความซวยมาเยือนแล้วเพราะก่อนที่ภาคจะหายไปนั้นอยู่กับเธอ ภาวัตไม่กล่าวโทษอะไรบอกให้แยกกันเดินตามหา เขาเคยพาลูกชายมาที่นี่ หากไม่ได้หาของเล่นก็น่าจะเดินไปได้ไม่ไกล แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ
ได้เวลาพักเที่ยงพอดี มาลินและเพื่อนที่ใส่ชุดสัตว์ต่างๆ หาที่นั่งพักกินอาหารกลางวันบริเวณส่วนหย่อมข้างห้าง มีคนไม่มากนักเพราะหนีความร้อนไปหาแอร์กันเสียส่วนใหญ่ เธอถอดหัวปุยๆ ออก เหงื่อชุ่มใบหน้าถือกล่องข้าวเดินมาหาที่นั่งถ้าสายตาไม่ไปสะดุดเห็นเด็กน้อยที่มากับเจ้านาย แต่ยามนี้ไม่เห็นทั้งพ่อและแม่ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า พี่หมีที่หัวเป็นคนนั่งลงข้างๆ ดวงตาใสซื่อมองมา พอเห็นหัวปุกปุยข้างๆ ก็จำได้
“ทำไมมานั่งตรงนี้ล่ะครับ แล้วมายังไงนะน้องแล้วพ่อกับแม่ไปไหน”
ภาคถอนใจก้มหน้าไม่ตอบ มาลินเขยิบเข้าไปใกล้แล้วส่งลูกอมที่พักนี้เธอมักพกติดตัวให้ เด็กน้อยยกมือไหว้รับลูกอมไปกำไว้ เงียบ...แล้วยังไงต่อดี เธอเอียงหน้าไปใกล้ๆ
“ยิ้มหน่อยได้ไหมเอ่ย”
เหมือนคุยกับฝากระดาน ไม่มีปฏิกิริยาอะไรนอกจากมองมาเฉยๆ แต่ทำไมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ คิดถึงพ่อกับแม่กระมัง
“พี่หมีพาไปหาพ่อกับแม่ดีไหม มามะ ลุกขึ้นก่อนแล้วเดินไปด้วยกัน”
มือใหญ่ของชุดยื่นมารอ เด็กน้อยจับไว้แล้วยิ้มออกก่อนจะกอดชุดนุ่มๆ ที่มาลินใส่
“อุ่นดีจัง”
มาลินยิ้มเอ็นดู คงจะชอบชุดหมีของเธอมากจริงๆ “อยากกอดพี่หมีหรือครับ ดีไหมนุ่มหรือเปล่า”
ภาคพยักหน้า มาลินลูบหัวเด็กน้อยเบาๆ โชคดีที่ฝ่ามือของหมีเป็นขนนุ่มทำให้เพลินได้
“ภาค...”
มาลินคว้าหัวของชุดหมีมาใส่ดังเดิม ภาคคลายกอดแล้ววิ่งไปหาพ่อซึ่งก็ไม่กี่ก้าวเท่านั้น ภาวัตย่อตัวลงกอดลูกชาย สีหน้าคลายความเครียดลง
“มาอยู่กับพี่หมีนี่เอง พ่อหาเสียทั่วเลย”
‘หมี’ หันหลังกลับ แต่มือหนาคว้าไหล่ไว้ มาลินสะดุ้ง เขาคงไม่คิดว่าเธอลักพาตัวลูกชายมาหรอกนะ ร่างในชุดหลวมๆ หันมามองภาวัตผ่านดวงตาแก้วใส เตรียมตัวโดนด่า
“ขอบใจมากนะหมีน้อย” มือหนาคว้ามือใหญ่ของหมีขึ้นมาแล้ววางเงินให้ “เอาตังไปกินขนมนะ”
มาลินส่ายหน้า ยกมืออีกข้างโบกไปมาแทนคำว่า...ไม่รับ แต่มือของภาวัตยังยัดเยียดเงินให้ในมืออีกข้างที่ถูกพับกำเงินไว้
“รับไปเถอะ เป็นน้ำใจที่ดูแลลูกชายให้”
เมื่อปฏิเสธไม่ได้ก็ต้องรับไว้ มือใหญ่ยักษ์ยกมือไหว้เก้ๆ กังๆ แพรมนตามมาสมทบอีกคน รายนี้กอดภาคเหมือนกลัวหาย ครอบครัวเล็กๆ เดินกลับเข้าไปในห้าง เป็นอีกครั้งที่มาลินมองตาม รู้สึกอบอุ่นอยู่ในใจ ถ้าพ่อแม่ยังอยู่เธอยังไม่ต่างจากความสุขที่มีประกายดวงตาของภาวัต

ใกล้บ่ายโมงแล้วมาลินเดินเข้าซอยมายังบริษัทตามปกติ เพียงแต่ว่าวันนี้ในช่วงเที่ยงเธอออกไปส่งของที่ไปรษณีย์ ทำให้กลับมาในเวลาฉิวเฉียด ความรีบทำให้ไม่ทันเห็นรถที่กำลังขับออกไป จนกลายเป็นว่าเธอมายืนขวางทั้งๆ อยู่แทบจะริมทางอยู่แล้ว แต่รถยังไม่หยุดจนเธอล้มลงไปนั่นล่ะ รถอีกคันเข้ามา แต่หยุดชะงักเพราะไปไม่ได้
“เดินเหม่อไม่ดูทางหรือไง” เจ้าของรถคันที่จะออกเปิดกระจกมาต่อมา
“เธอต่างหากที่ไม่ดูคน แล้วจะรีบไปไหน กะชนรถฉันหรือไงคุณเซเลบ”
มาลินตกใจในวูบหนึ่งและแปลกใจวูบต่อมาเมื่อเห็นเจ้าของรถที่จอดค้างว่าเป็นภรรยาของภาวัต แถมยังเปิดประตูเดินมาจะช่วยประคองเธอลุกขึ้นอีกด้วย
“น้องเจ็บตรงไหนไหมคะ มาพี่ช่วย”
“ขอบคุณค่ะ” มาลินยกมือไหว้ เจ็บเข่าเป็นแวบแรกที่รู้สึก
เสียงบีบแตรดังลั่นเมื่อรถที่จะออกกลายเป็นถูกขวาง มาลินมองสองสาวแล้วเริ่มหน้าเสียเอง
“จะมากไปแล้วนะยัยแพร เธอก็มาหาวัตเหมือนกันล่ะสิท่า”
“ใช่ แต่คนละเหตุผลกับเธอแน่ๆ ยัยลัล” แพรมนแหวกลับ
เสียงแตรดังลั่นอีกรอบ ก่อนที่ลัลนาจะเป็นฝ่ายถอยรถแล้วเบี่ยงเลนขับออกไปจากบริษัท แพรมนหันมามองเหยื่อความโมโหของคนผิดหวังรายล่าสุด มาหาผู้ชายถึงที่ ถ้าภาวัตเล่นด้วยคงไม่เหมือนคนบ้าแบบนี้หรอก
“น้องนั่งรถเข้าบริษัทด้วยกันไหมคะ ขาน่าจะเจ็บ”
“เอ่อ...ก็ดีเหมือนกันค่ะ คุณมีน้ำใจจัง”
แพรมนช่วยเปิดประตูแถมยังประคองส่งถึงเบาะ ถ้าอุ้มได้คงทำไปแล้ว มาลินยกมือไหว้อีกรอบ ไม่คิดว่าภรรยาของเจ้านายจะใจดีขนาดนี้
“ขอบคุณมากนะคะ”
“ไม่เป็นไรจ้า พี่ชื่อแพรมนนะ น้องคงเป็นนักศึกษาฝึกงานใช่ไหม”
“ค่ะ เพิ่งมาฝึกงานอาทิตย์ที่สองเอง ลินชื่อมาลินค่ะ เรียกลินสั้นๆ ก็ได้”
แพรมนพยักหน้า “มาไม่กี่วันก็เจ็บตัวเสียแล้วนะน้องลิน ให้พี่พาไปห้องพยาบาลไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวลินไปเองดีกว่า ขอบคุณอีกครั้งค่ะ”เสียงออดหมดเวลาพักดังขึ้นพอดี
รถจอดในช่อง VIP มาลินยกมือไหว้ยิ้มให้แล้วลงจากรถ แพรมนมองตามรู้สึกถูกใจเด็กดูซื่อๆ บริษัทของภาวัตเริ่มน่ามาบ่อยๆ เสียแล้วสิ

เลขาหน้าห้องบอกว่าใครมาหา แต่ภาวัตไม่คิดว่าประตูจะปิดเสียงดังแบบนั้น ปกติแล้วแพรมนใจเย็น ถึงจะปากไวก็เถอะ แล้วดูทำเข้า มองเขาเหมือนกับไปทำอะไรให้ไม่พอใจ บางทีเขาก็รู้สึกเหมือนมีเพื่อนผู้ชายมากกว่าเพื่อนผู้หญิง นอกจากคำนำหน้าชื่อว่านางสาวแล้ว นอกนั้นแมนๆ คุยกัน
“โมโหใครมา หน้าตาเหมือนอยากหักคอคน”
“ก็ยัยลัลนายอดยาหยีของนายไง ทำให้ฉันโมโห” แต่รายนั้นน่าจะโมโหกว่าฮ่าๆ
นั่นไง! ลัลนาเพิ่งกลับไป แล้วแพรมนก็มา สองคนนี้เจอกับแบบเฉียดๆ ก็มีเรื่องได้แล้ว ครั้งแรกที่เจอกันแบบจังๆ ยังเป็นข่าวเพราะลัลนาดันไปพังงานอีเว้นท์ที่แพรมนจัด เหตุเพราะนายแบบของงานคั่วสาวใหม่ แล้วสลัดทิ้งสาวเก่าซึ่งก็เธอนั่นล่ะ เลยเป็นเรื่อง
“นั่นลูกค้าฉันนะยัยแพร”
“นายอยากเป็นลูกค้า แต่รายนั้นอยากได้เป็นผ... อย่าให้พูดเลย เมื่อกี้ก็เกือบขับรถชนเด็กฝึกงานของนายน่ะ น่ารักเสียด้วย เสียดาย...” แพรมนทำหน้าพริ้ม
ภาวัตรู้ทันหรี่ตาใส่ “เสียดายอะไร แล้วนักศึกษาฝึกงานคนไหน”
“เสียดายต้องมาคุยธุระกับนายน่ะสิ” ไม่งั้นได้ส่งถึงห้องพยาบาลแล้ว “ชื่อมาลิน...น่ารักดี”
“คนนี้ห้าม ไม่ได้เด็ดขาด”
“สมการจะกินไก่วัดหรือไง” ไม่เคยมีประวัติเสียหน่อย
“ไม่ใช่ เด็กกว่าเป็นรอบจะไปคิดอะไรได้ แล้วที่สำคัญฉันไมใช่สมภาร เป็นเสือ”
“เสือที่กำลังจะกลายเป็นแมวน่ะสิ” แพรมนหัวเราะลั่นห้อง “พอๆ ไม่ต้องจ้อง มาคุยธุระก่อน รูปแบบงานล่าสุด ตอนนี้เสร็จแล้วเลยเอามาให้ดูด้วยตัวเอง ถ้าตกลงก็สั่งทำได้เลย ถ้าไม่ ก็บอกมาว่าให้แก้ตรงไหน”
ภาวัตรับสตอรี่บอร์ดไปดู งานโฆษณากำลังดำเนินไป เพราะฉะนั้นงานเปิดตัวศูนย์เฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่ที่สุดกลางใจเมืองก็ต้องตามมาด้วย แล้วเขาจะไว้ใจออแกไนซ์ที่ไหนนอกจากของเพื่อนแพรมน
“แก้ทั้งบนและล่าง”
“ไอ้บ้า แก้รูปแบบงาน ไม่ใช่ แก้ผ้า”
สองเพื่อนสนิทหัวเราะชอบใจเพราะทันกันแม้กระทั่งเรื่องที่โยงไปใต้สะดือ ปัญหาอยู่ที่ไม้สำหรับผลิตเฟอร์นิเจอร์ซึ่งจะมีออเดอร์เข้ามาหลังงานเปิดตัว ตอนนี้ภาวัตกำลังเล่นเกมวัดใจกับรัมภา หากเขาไม่ติดต่อ อีกไม่นานเธอคนนั้นจะติดต่อมาเอง นั่นล่ะเขาจะเป็นต่อทันที

เลิกงานแล้วพนักงานกำลังทยอยกลับบ้าน เอมิกามองมาทางเพื่อนแต่ไม่ถามแล้วเดินตามพี่พนักงานคนอื่นๆ ไป มาลินกำลังเก็บของใส่กระเป๋า แม่บ้านมารอปิดประตูแล้ว เธอออกมาจากฝ่ายบัญชีเกือบคนสุดท้าย โทรศัพท์เจ้ากรรมก็ดังขึ้นเสียก่อน แถมเบอร์ไม่คุ้น จึงถามไปอย่างไม่แน่ใจ
“ใครคะ”
“ฉันเอง อีก 10 นาทีลงมาข้างล่าง เรื่องที่เธอต่อว่าไว้ ฉันจะทดแทนให้ ถ้ามาช้า ฉันจะไปตามถึงฝ่ายบัญชี” ภาวัตแกล้งขู่แล้ววางสายไป
มาลินรีบวิ่งมาที่ลิฟต์แต่ก็ลังเลเปลี่ยนใจลงบันไดแทน เธอตามหารถของภาวัตเจอไม่ยากเพราะมันเด่นหราในช่องจอดของท่านประธาน กระจกเลื่อนลงพอดี มาลินยกมือไหว้ คนถูกไหว้ชะงักกึก รับไหว้แทบไม่ทัน
“โทรเรียกมามีอะไรหรือคะท่านประธาน”
“ขึ้นรถ แล้วไม่ต้องถามว่าไม่ไปได้ไหม ฉันมีงานให้เธอทำ แทนงานเดิม ไหนๆ เธอก็บอกว่าฉันมีส่วนทำให้ตกงานแล้วนี่ ตอนนี้ก็เลยจะรับผิดชอบ”
คนฟังยืนเฉยจนประตูผลักออกมา สายตาคมๆ มองแกมบังคับ เธอเข้ามานั่งอย่างไม่เข้าใจนัก รีบรัดเข็มขัดเมื่อรถออกตัวมากจากเลนจอดแล้วมุ่งหน้าไปที่ไหนสักแห่ง
“งานอะไรหรือคะ” เธอถามเสียงเบา แต่กลับถูกจ้องกลับไม่มีคำตอบ “ก็ได้ค่ะ ไม่ถามเพราะไม่ตอบ”
ภาวัตเม้มปากอารมณ์กรุ่นหน่อยๆ อย่างกับผู้หญิงใกล้มีประจำเดือน คนอื่นยกมือไหว้เขาไม่รู้สึกอะไร แต่พอเด็กนี่ไหว้เข้าบ่อยๆ ทำไมรู้สึกแก่และหัวงูก็ไม่รู้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้คิดอะไรนอกจากอยากช่วย ต้องโทษแพรมนมาพูดอะไรให้ประดักประเดิด สมภารอะไร เขาเป็นประธานบริษัทผลิตเฟอร์นิเจอร์ ไม่ใช่วัดสักหน่อย

แล้วจะมา up ต่อนะคะ
อัมราน_บรรพตี



บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 พ.ย. 2558, 09:40:54 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 พ.ย. 2558, 09:46:20 น.

จำนวนการเข้าชม : 1146





<< ตอนที่ 3 ครึ่งแรก   ตอนที่ 4 ครึ่งแรก >>
konhin 18 พ.ย. 2558, 14:10:41 น.
แน่ะๆๆ ไม่อยากให้บริษัทเป็นวัดเพราะไม่อยากเป็นสมภารกินไก่หล่ะซิ หึๆๆ


kaelek 18 พ.ย. 2558, 19:09:33 น.
มี "มาลิค" มาแจมในเรื่องด้วยอ่ะ พิมพ์ผิดอ่ะป่าวววค๊าา


บรรพตี 20 พ.ย. 2558, 09:46:52 น.
แก้ไขแล้วนะคะ ขอบคุณค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account