ร่มไม้...สายน้ำ...ความรัก (หัวใจ...หวงรัก)
เมื่อหนุ่มนักรักโคจรมาเจอสาวบ้านิยายที่แอบซ่อนความสวย เปรียว และเปรี้ยวไว้ภายใต้หน้ากากของสาวสุดเชย อะไรจะเกิดขึ้น
หัวใจ...หวงรัก คือความรู้สึกที่อยากเป็นเจ้าของ ทั้งๆ ที่เคยบอกเสมอว่าเธอเชยไปและเขาไม่มีวันที่จะมองเธอ แต่ใครจะรู้ว่า...เธอคนนี้คือผู้หญิงที่เขาเฝ้าตามหามาตลอด
Tags: คุณแม่สุดฮากับคุณหมาสุดแสบ

ตอน: หัวใจ...หวงรัก ตอนที่ ๒

ตอนที่ ๒

“เป็นอะไรไปแอนทำหน้าเหมือนหมดประจำเดือน”
คำทักทายแรกของคุณจันทราทำให้พัชรพรรณวางมือจากงานตรงหน้าแล้วลุกขึ้นมาชะโงกมองการปะทะคารมประจำวัน เธอเห็นพี่บอมเดินเข้าไปสะกิดขาแล้วรอให้จีรายุย่อตัวลงถึงยกขาหน้าขึ้นแตะตรงหัวเข่าเพื่อยกตัวขึ้นเลียแก้ม
แต่วันนี้เหมือนมีอะไรพิเศษ เพราะนอกจากพี่บอมจะเลียตั้งแต่คางขึ้นไปยันหน้าผากแล้วพี่บันบันยังต้อนรับด้วยวิธีเดียวกันจนหน้าของน้าสาวเธอชุ่มไปด้วยน้ำลายหญิงสาวหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะหันกลับไปปิดสมุดเล่มเล็กๆ ที่เพิ่งจดเบอร์โทรศัพท์ของคู่นัดหมายของเมฆาเสร็จ
“พี่บอมเขารดน้ำมนต์ให้เผื่อแกจะมีผู้ชายดีๆ เดินมาตกหลุมที่ขุดไว้มั่ง”
เสียงคุณจันทราดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อจีรายุบ่นพี่บอมที่เลียหน้าเสียชุ่ม
“ค่ะ แต่อย่ารดบ่อยแล้วกันเพราะแทนที่หนูจะได้สามี หน้าจะขึ้นขี้กรากจนหาปั๋วไม่ได้”
จีรายุตอบแล้วลุกขึ้นยืน พอเห็นว่าพัชรพรรณยืนพิงประตูรอ จึงล้วงซองเอกสารในถุงผ้าส่งให้
“เอ้าของที่อยากได้ เดี๋ยวน้าไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวจะไปคุยด้วย”
“หนูว่าลงมาทานข้าวก่อนเถอะ เดี๋ยวแม่จะเทกับข้าวให้พี่บอมกินซะหมด หนูซื้อไก่ต้มน้ำปลามาด้วย”
“มิน่าล่ะพี่บอมถึงปาดหน้าน้าเสียเยิ้มเชียว”
จีรายุพูดยิ้มๆ ก่อนจะก้าวขึ้นบันได หลังจากนั้นไม่นานนักเสียงคุณจันทราก็ดังขึ้นด้วยอาการหงุดหงิดก่อนที่พี่บอมกับพี่บันบันจะซอยเท้าถี่ยิบกระโจนขึ้นบันไดไป พัชรพรรณเงยหน้ามองการวิ่งของพี่หมาแล้วแทบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่ เพราะทุกวันนี้พี่หมาออกจะตัวเล็กกว่าหมูนิดเดียวจริงๆ
“ขำอะไรยายพัชร ทำไมไม่ขึ้นไปตามน้าเรามากินข้าว ดูสิต้องลำบากพี่บอมอีกแล้ว ไม่รู้ว่าเนื้อที่มันเยอะขนาดไหนถึงอาบน้ำทีเป็นชั่วโมง”
หญิงสาวฟังคำบ่นแล้วหันหน้าไปอีกทาง พยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้เพราะไม่อยากโดนหางเลขไปด้วย
“ไม่ต้องแอบขำเลย แกเองก็อาบน้ำนานพอๆ กัน ว่างๆ จะขอวัดสักทีว่าเนื้อที่ส่วนไหนที่มันกว้าง...จนต้องเสียเวลาอาบน้ำนานขนาดนั้น”
คุณจันทราตวัดตาใส่หลานสาวแล้วหายเข้าไปในครัว พัชรพรรณกลั้นหัวเราะจนน้ำตาคลอแต่ก็ยังเดินตามเข้าไปช่วยจัดโต๊ะอาหารเหมือนเช่นทุกวัน
“ทำงานทางนี้แล้วงานที่คลับล่ะ แหม่มทำคนเดียวไหวเหรอ”
คุณจันทราถามทั้งๆ ที่ยังหันหลังหันแตงกวาที่แช่น้ำเย็นไว้อยู่ แม้จะดูเป็นคนปากร้ายแต่ทุกคนรู้ดีว่าคุณจันทรามีวิธีแสดงความห่วงใยต่างจากคนอื่น
“พัชรไปคืนวันศุกร์กับเสาร์ค่ะ วันธรรมดาคนไม่เยอะแหม่มเขาทำคนเดียวได้ ลูกน้องก็ออกจะหลายคนอยู่”
“ก็ดี ให้พี่บอมรอทุกคืนมันไม่ดี”
หญิงสาวอมยิ้มเพราะรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร คุณจันทราย้ายลงมานอนห้องรับแขกนานแล้ว ใช้ที่นอนยัดนุ่นแบบพับได้ปูนอนโดยมีพี่หมานอนเฝ้าอยู่ใกล้ๆ เวลาใครกลับบ้านดึกก็ต้องเจอพี่หมานั่งอยู่หน้าประตู
“ค่ะพัชรทราบว่าพี่ๆ เขาห่วง ถ้าทำได้พัชรคงพาพี่ๆ เขาไปด้วยแล้วล่ะค่ะ จะได้ช่วยต้อนรับแขก”
“อุ้ย...ไม่ต้องหรอกย่ะ เดี๋ยวลูกชายฉันเสียเด็ก”
คุณจันทราหันมาค้อนควับแล้วส่งชามใส่ผักแช่เย็นให้หญิงสาววางบนโต๊ะอาหาร
“น้งเนื้อน่ะกินกันน้อยๆ หน่อย กินผักเยอะๆ ผิวพรรณจะได้ดี”
“แหมแม่ แล้วทำไมไม่ให้พี่บอมกินผักบ้างล่ะค่ะ ไม่กลัวพี่บอมผิวไม่สวยเหรอ”
จีรายุโผล่มาได้ยินพอดีจึงแกล้งหยิบเนื้อไก่ต้มน้ำปลามาใส่ปาก พลางหันไปยักคิ้วใส่พี่บอมที่เดินไปนั่งข้างๆ คุณจันทราแล้วก้มลงมองชามข้าวที่ว่างเปล่าด้วยอาการหงุดหงิด
“พี่บอมต้องบำรุง แอนน่ะกินผักเยอะๆ แก่แล้วเดี๋ยวอาหารไม่ย่อยจะลำบากนะ”
พัชรพรรณมองน้าสาวค้อนแม่ตัวเองแล้วก็นึกขำ ไก่ต้มทั้งตัวกินกันสามคนยังไงก็ไม่หมด แต่ที่น่าตลกคือพี่บอมได้กินส่วนอกของไก่ที่เป็นเนื้อล้วน ส่วนเธอกับน้าสาวกำลังแกะเนื้อส่วนซี่โครงไก่กินกัน
คุณจันทราฉีกเนื้อไก่วางใส่จานพี่บอมกับพี่บันบัน แล้วหักส่วนที่เป็นกระดูกอ่อนใส่จานลูกสาว พลางทำหน้าเสมือนว่าปรารถนาดีสุดๆ
“กินสิแอนเสริมแคลเซียม”
เล่นเอาสองสาวหันมามองหน้ากัน ก่อนจะหันไปมองพี่หมาเลยได้เห็นรอยยิ้มแยกเขี้ยวแบบเยาะเย้ยที่มอบจากดวงใจของพี่บอมพอดี
“กินเยอะๆ อ้วนมากจะเป็นไขมันอุดตัน แอนไม่ออกค่ารักษาให้นะ”
“พัชรด้วยไม่ควักให้สักบาท พี่บอมกินมากๆ ระวังเถอะจะเป็นหมาหันสักวัน”
พัชรพรรณแยกเขี้ยวใส่ แต่ก็ต้องทำหน้าเจื่อนเมื่อเงยหน้าขึ้นแล้วเห็นสายตาพิฆาตจากคุณจันทราเข้าพอดี
“พี่บอมอุตส่าห์ช่วยไม่ให้แกสองคนอ้วนยังไม่รู้จักบุญคุณอีก”
นั่น...พัชรพรรณนึกในใจ นอกจากไม่ได้ดีกลับต้องกลายเป็นหนี้บุญคุณเสียอีก หญิงสาวหยิบหมูแดดเดียวทอดมากัด จ้องหน้าพี่หมาเป็นทำนองว่าถึงเป็นของหมาเธอก็จะกินแต่ก็ต้องวางหมูลงเมื่อได้ยินคำถามที่ชวนปวดตับจากคุณจันทรา
“ขอพี่บอมหรือยัง”
หญิงสาวทำหน้าย่น ขนาดจะกินยังต้องขอพี่หมาเลย
“ถ้ามีคนมาขอน้าแอนคงต้องขอกับพี่บอม”
“ใช่ ถ้าพี่เขาไม่อนุญาตก็อด...”
คุณจันทราตอบแล้วหัวเราะสะใจเมื่อเห็นหน้าของคนทั้งคู่
“พี่บอมคงเรียกค่าสินสอดเป็นอาหารหมาหรือไม่ก็ไส้กรอกของโปรด น้าแอนคงต้องหาสามีรวยๆ ไม่งั้นพี่บอมคงไม่ยกให้หรอกค่ะ”
หญิงสาวแกล้งพูดประชดโดยไม่รู้เลยว่าหลังจากนั้นอีกไม่นานสิ่งที่เธอพูดจะเป็นความจริง

“สวัสดีค่ะคุณเมฆา”
เมฆามองหญิงสาวที่ยืนรออยู่หน้าห้องทำงานแล้วส่งยิ้มให้เมื่อจำได้ว่าเธอคือหนึ่งในผู้ช่วยเลขาฝ่ายบุคคล
“คุณดิเรกมีธุระกับผม หรือว่า...”
“กรุณาอย่าเข้าใจผิด”
จีรายุจ้องหน้ารองประธานบริหารด้วยอาการไม่พอใจ เธอยกมือขึ้นกอดอกแล้วยิ้มหยันเพราะรอยยิ้มชวนเพ้อนั้นไม่ได้ระคายโสตประสาทเธอเลย มันอาจใช้ได้ผลกับผู้หญิงอื่นแต่ไม่ใช่เธอ
“เมื่อวานหลานสาวของดิฉันผ่านการทดสอบและได้เป็นเลขาฯคนใหม่ของท่านรอง”
“อ๋อ...ยายจืด”
จีรายุทำหน้าเคร่ง แล้วมองหน้าเมฆาด้วยสายตาไม่พอใจเมื่อได้ยินแบบนั้น
“ใช่ค่ะ ดิฉันแค่จะมาบอกท่านว่าหลานของดิฉันสมัครและสอบสัมภาษณ์ผ่านมาได้ด้วยความยากลำบาก ถ้าท่านต้องการเลขาสวยๆ แต่แรกทำไมไม่บอกว่าไม่ต้องสอบจะขอคัดเอง คนอื่นๆ จะได้ไม่ต้องเหนื่อย ฝ่ายบุคคลก็ไม่ต้องเสียเวลาทำงานมานั่งสัมภาษณ์ มันเสียทั้งเวลาและทรัพยากรบุคคลที่ควรจะใช้เวลามาทำอย่างอื่น”
“ผมแค่...”
เมฆากำลังจะอธิบายว่าเขาต้องการแค่ให้หญิงสาวแต่งตัวดีขึ้นไม่ใช่มาแต่งตัวราวกับคุณครูสอนมารยาท แว่นตาหนาเตอะ ทรงผมรัดตึง แต่งตัวเชยๆ แต่จีรายุไม่ปล่อยให้ชายหนุ่มได้อธิบายสักคำ เธอยกมือขึ้นกอดอกแล้วพูดต่อทันที
“ถ้าท่านอยากได้เลขาฯแต่งตัวเป็นนางแบบ แต่งหน้าทาปากแล้วพอกงานแบบพอกหางหมูล่ะก็ ควรจะรู้ไว้ว่างานที่เลขาคนเก่าของท่านทิ้งไว้มันพอกจนหมูขาดอากาศหายใจตายไปแล้วทั้งคอก แต่ถ้าท่านยังต้องการเลขาชนิดนั้น คืนนี้ลองไปหาตามผับตามบาร์ดูสิคะน่าจะหาได้สักสามสี่คน”
พอพูดจบก็ไม่คิดที่จะอยู่รอดูผลงาน จีรายุเดินจากไปทันทีทิ้งไว้เพียงคำพูดที่ทำให้เมฆาได้แต่สงสัยและไม่คิดจะเก็บมันไว้ให้นานเกิน เขาก้าวเข้าไปในห้องแล้วพุ่งตรงไปที่โต๊ะทำงานของพัชรพรรณทันที
แม้จะเห็นว่าหญิงสาวไม่ได้มีการแต่งตัวที่ดีขึ้น แต่เวลานี้งานสำคัญกว่าและเขาจะต้องได้คำตอบในสิ่งที่คาใจ
“คุณตอบผมทีสิว่า งานเก่ามีค้างมากแต่ไหน”
พัชรพรรณเงยหน้าขึ้นมองเมฆาด้วยความแปลกใจ ใจอยากถามว่าเขารู้มาจากไหนแต่ก็ไม่ได้ถามออกมา เธอลุกขึ้นยืนยิ้มก่อนจะผายมือไปที่ตู้เอกสารด้านหลังซึ่งเป็นของเมื่อสามถึงสี่เดือนที่ผ่านมา
“ทั้งตู้นี้ค่ะ กับรายงานการประชุมอีกสามร้อยกว่าหน้า”
“ล้อเล่นใช่ไหม...”
เมฆาเดินไปหยิบแฟ้มในตู้มาเปิดสายตาคมไล่กวาดไปมาตามหน้าต่างๆ ก่อนจะคว้าแฟ้มที่อยู่ในชั้นเดินกันเดินไปที่โต๊ะของตน ห้องเข้าสู่ภาวะเงียบงัน มีแต่เสียงเปิดกระดาษสลับกับเคาะปากกาไปเรื่อยจนกระทั่งเที่ยง
“คุณเลขา ช่วยสั่งอาหารขึ้นมาสองชุด ของผมขอที่กินง่ายๆ ก็แล้วกันส่วนของคุณจะทานอะไรก็สั่งเอง อ้อ...โทรบอกให้ฝ่ายบุคคลส่งคนมาช่วยงานคุณด้วย บอกว่าผมยืมตัวจนกว่างานที่ค้างไว้จะเสร็จ”
พัชรพรรณละสายตาจากหน้าจอคอมฯ หันมาโทรสั่งอาหารแล้วหันกลับไปทำงานต่อ โดยไม่ได้โทรไปที่ฝ่ายบุคคลตามที่เจ้านายสั่ง
“ทำไมถึงไม่ทำตามที่ผมบอก ให้...”
เมฆาเงยหน้าขึ้นมาถามเมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ได้โทรไปที่ฝ่ายบุคคลตามที่เขาสั่ง แต่ยังพูดไม่ทันจบหญิงสาวก็สวนกลับมาทั้งๆ ที่ยังก้มหน้าจดอะไรบางอย่างใส่กระดาษอยู่
“ดิฉันต้องการทำเองเพราะจะต้องเรียบเรียงทุกอย่างให้ถูกต้อง หากมีคนมาช่วยไหนจะต้องคอยดูคอยกำกับให้ทำตามที่บอก ดิฉันก็จะต้องเสียเวลามากยิ่งขึ้น”
“ตามใจ”
เมฆาตอบสั้นๆ เขากำลังปวดหัวกับงานตรงหน้าจนไม่อยากจะสนใจอะไรแล้ว หนุ่มๆ ตระกูลอัครมนตรีจะมีนิสัยเหมือนกันอยู่หลายอย่าง แต่ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือเมื่อเข้าสู่โหมดทำงานแล้วจะไม่สนใจสิ่งที่อยู่รอบตัว
หลายครั้งที่พัชรพรรณหันไปมองนาฬิกาสลับกับอาหารเที่ยงชุดใหญ่และลอบชำเลืองไปยังเจ้านายหนุ่มที่ยังคงก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารโดยไม่สนใจถาดอาหารที่วางอยู่ตรงหน้า
“ถ้าคุณหิวก็กินไปก่อนเถอะ”
เมฆาพูดทั้งๆ ที่ยังก้มหน้าอยู่ หญิงสาวจึงตัดสินใจลุกขึ้นยืนแล้วยกถาดอาหารออกมาตั้งใจจะออกไปทานที่ห้องเตรียมเครื่องดื่ม แต่ยังไม่ทันจะเดินใบหน้าเข้มก็เงยขึ้นแล้วใช้ปากกาในมือชี้มาที่โต๊ะรับแขกตรงกลางห้อง
“กินตรงโต๊ะเล็กนั่นล่ะ ยกของผมไปด้วยเดี๋ยวเอกสารชุดนี้เสร็จก็จะกินเหมือนกัน อ้อ...ช่วยสั่งกาแฟเข้มๆ ให้สักเหยือกนะ”
พอได้ยินพัชรพรรณก็แทบจะอิ่มโดยไม่ต้องกินข้าว มาทำงานวันแรกจะได้ร่วมโต๊ะกับเจ้านายเสียแล้ว แต่เหมือนโชคช่วยเพราะท่านประธานใหญ่โทรมาเรียกให้ไปหา เมหาเลยรีบออกจากห้องไปโดยที่ยังไม่ได้แตะอาหารเที่ยงแม้แต่คำเดียว
“คุณจัดการของผมด้วยแล้วกัน ผมต้องออกไปทานข้าวกับลูกค้า”
คำสั่งสุดท้ายก่อนที่ร่างสูงจะก้าวออกจากห้องโดยมีสายตาพิฆาตมองตามหลังไป เลขามือใหม่ออกจะมีอาการเคืองเมื่อมองอาหารในถาดของตนกับของเจ้านายเปรียบเทียบปริมาณและคุณภาพกัน ตัดสินใจเลือกไม่ถูกว่าจะกินอะไรระหว่างข้าวผัดกุ้งของเธอกับข้าวผัดปูที่ดูแล้วเนื้อปูจะมากกว่าข้าว
หลังตัดสินอยู่ครู่หนึ่งหญิงสาวก็ล้วงหยิบของสิ่งหนึ่งที่ใส่ติดกระเป๋าไว้เป็นประจำออกมา ถุงร้อนสำหรับใส่อาหารมักจะติดอยู่ในกระเป๋าของพัชรพรรณเสมอเพราะบางครั้งอาหารประเภทกับแกล้มที่คลับเหลือเธอก็จะเอากลับมาแช่ตู้เย็นเพื่ออุ่นให้พี่หมากินเล่นแต่ส่วนใหญ่แล้วคุณจันทรามักจะเอาไปให้หมาที่ท้ายหมู่บ้านมากกว่า
“ขอโทษนะพี่บอมแต่วันนี้พัชรขอหม่ำปูแล้วกัน”
พัชรพรรณพูดไปพลางตักข้าวผัดกุ้งใส่ถุงพลาสติกใสแล้วมัดปากถุงให้เหมือนกับที่ซื้อมาจากร้านอาหาร หญิงสาวเลือกซุปใสใส่ไก่ชิ้นใหญ่ไว้กินเองแล้วเอาซุปซี่โครงหมูใส่ถุง
หลังจากจัดการกับอาหารจนอิ่มหญิงสาวก็เริ่มรู้สึกว่าอาการง่วงยามบ่ายกำลังจู่โจมเธออีกเหมือนเช่นทุกวัน เหมือนฟ้าส่งผู้ช่วยมาให้ แม้จะไม่ใช่ในลักษณะที่ต้องการก็ตามแต่ก็ทำให้หายง่วงไปได้
กลิ่นน้ำหอมฉุนแทบทำให้เกิดภาวะโพรงจมูกอักเสบมาถึงก่อนที่ร่างในชุดสีส้มสดจะเดินเข้ามา มาดดั่งนางพญาดูน่าหมั่นไส้จนพัชรพรรณนึกถึงภาพนางแบบตกเวทีพลางคิดในใจว่าน่าจะพาส่งประกวดนางงามไร่ส้มดู อาจจะได้สักตำแหน่ง
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่ามาติดต่อเรื่องงานหรือ...”
“ฉันมาหาคุณเมฆ”
“ท่านไม่อยู่ค่ะ”
พัชรพรรณตอบทั้งๆ ที่ใจอยากจะเอานิ้วทิ่มตาของผู้หญิงตรงหน้าเต็มแก่ เธอเกลียดท่าทางการกวาดตามองคนชนิดหัวจรดเท้าอย่างนี้ ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในเวลางานคงสนุกแน่
เปรมจิตมองเลขาท่าทางราวแม่แก่เหมือนเห็นสิ่งประหลาดนอกโลก เธอเคยเห็นว่าเมฆามีแต่เลขาสวยๆ แต่งตัวทันสมัย ทุกครั้งที่มามักจะต้องได้มีการงัดข้อกันสักยกสองยก แต่ดูแล้วแม่เลขาคนใหม่น่าจะอยู่นอกเขตอันตรายดังนั้นก็น่าจะผูกมิตรไว้เผื่อได้คนไว้เป็นสายโดยไม่รู้เลยว่าเธอกำลังคิดผิด
“เธอเพิ่งมาทำงานล่ะสิ ไม่เคยเห็นหน้าเลย”
“ค่ะ”
พัชรพรรณตอบสั้นๆ แต่แล้วก็ต้องเม้มปากแน่นอย่างไม่พอใจเมื่อเปรมจิตหย่อนสะโพกลงนั่งบนโต๊ะทำงานของเธอ
“ชื่ออะไรน่ะเรา”
“พัชพรรณค่ะ”
“อืม ฉันชื่อเปรมจิต เป็นแฟนคุณเมฆ”
หญิงสาวอยากจะหัวเราะ ผู้หญิงสมัยนี้กล้าเรียกตัวเองว่าแฟนทั้งๆ ที่ผู้ชายยังไม่ได้บอกสักคำว่าจะเป็นแฟนด้วยไหม สายตาคมเฉี่ยวกลับมาสนใจงานของตนต่อไปทำเหมือนอยู่เพียงคนเดียวในห้อง ตั้งใจจะทำงานชุดนี้ให้เสร็จเพราะตอนเย็นจะรีบกลับไปอ่านนิยายที่อ่านค้างไว้ต่อ นึกเจ็บใจที่เผลอหลับซึ่งจะว่าไปตอนนี้อยากรู้ว่าตอนต่อไปจะเป็นยังไงเสียจนทำงานแทบไม่รู้เรื่องแล้ว
“...สนใจอยากได้เงินใช้ไหม”
คำถามนี้ทำให้สายตาที่จับจ้องจอคอมเลื่อนมามองหน้าแขกของเจ้านายด้วยอาการสงสัย
“ถ้าเธอคอยขัดไม่ให้ผู้หญิงคนอื่นเข้าหาเจ้านายเธอได้ ฉันจะให้เงินเธอเป็นรางวัล”
คิ้วเรียวเลิกขึ้นก่อนจะยิ้มหยัน คำสั่งของพงศธรคือไม่ต้องเกรงใจใครหน้าไหนถ้ามารบกวนในเวลางาน นอกจากที่หลานชายเป็นคนพาเข้ามาเอง
“ไม่ล่ะค่ะขอบคุณ”
หญิงสาวตอบยิ้มๆ แล้วก้มหน้าทำงานต่อ
“โง่”
ริมฝีปากอิ่มกดลึกเป็นรอยหยัน พัชรพรรณเงยหน้าขึ้นแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เปรมจิตเองแม้จะใส่ส้นสูงแล้วเมื่อลุกขึ้นยืนยังเตี้ยกว่าหญิงสาวอีกหลายเซนติเมตร
เลขาสาวยิ้มเย็นมองกว่าไปทั่วร่างของเปรมจิตเมื่อแน่ใจว่าหญิงสาวไม่ได้เกี่ยวข้องเป็นลูกค้าของโรงแรม ไม่เคยมาใช้บริการใดๆ นอกจากมาไล่จับเจ้านายของเธอเท่านั้นจึงไม่คิดจะเกรงใจอีกต่อไป
“ดิฉันไม่ได้โง่ แต่ดิฉันมีงานมากกว่าจะมานั่งเฝ้าผู้ชายให้ใคร ถ้าคุณอยากจับจองคุณเมฆ ทำไมไม่ยกขาขึ้นแล้วฉี่รดขาเขาไว้ล่ะคะ กลิ่นของคุณจะได้ติดไปตลอด”
“แก...”
เปรมจิตอ้าปากค้างก่อนจะกระทืบเท้าถี่ยิบแล้วส่งเสียงกรี้ดๆ
“แกว่าฉันเป็นหมา”
“อุ้ยขอโทษค่ะ ดิฉันพูดผิด”
พัชรพรรณยกมือขึ้นปิดปากทำตาโตเหมือนตกใจ
“ดิฉันพูดผิดไป เพราะที่ยกขาฉี่จับจองเป็นเจ้าของมันหมาตัวผู้ เอ...แล้วทำยังไงดีคะ ขอเวลาคิดหน่อยนะคะ สกั้ง...หรือ...”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ แก...แก...”
เปรมจิตชี้หน้าหญิงสาวพลางกระทืบเท้าด้วยความโกรธ พัชรพรรณมองกิริยาของคนตรงหน้าอย่างขำๆ
“คุณคะ ระวังนะคะซิลิโคนที่หน้าอกจะคล้อยลงตามแรงโน้มถ่วงของโลก”
“ของจริงย่ะ”
เปรมจิตตอบเสียงเขียวแต่ก็หยุดกระทืบเท้าทันที แล้วยกมือช้อนใต้ราวนมดันขึ้นขยับจนเข้าที่
“ถ้าอย่างนั้นก็ควรระวังนะคะ ทำแบบนี้นมจะยาน...”
พัชรพรรณลากเสียงตรงคำว่ายานแล้วนั่งลงทำงานต่อไม่คิดจะสนใจแขกของเจ้านาย ทำราวกับว่าอยู่เพียงคนเดียวในห้อง นอกนั้นถือว่าเป็นสัมภเวสีที่รอรับส่วนบุญ
เปรมจิตเองก็ไม่สนใจหญิงสาวเช่นกัน ในเมื่อไม่ให้ความร่วมมือก็ไม่เป็นไร แต่อย่ามาจับเมฆาก็แล้วกันเธอไม่ยอมแน่ สองสาวต่างนั่งเงียบจนกระทั่งเวลาผ่านไปเกี่ยวชั่วโมงเปรมจิตถึงยอมแพ้ลุกขึ้นคว้ากระเป๋าแล้วเดินออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
พัชรพรรณถอนหายใจเบาๆ ดึงแว่นออกแล้วยกมือขึ้นขยี้หัวคิ้ว มีอย่างที่ไหนมาทำงานวันแรกก็เจอแบบนี้ แล้วเธอจะมีชีวิตรอดจนถึงวันลาออกไหมเนี่ย...กำลังคิดเพลินๆ อยู่ๆ ประตูก็ถูกผลักเข้ามาชนิดที่ว่าแทบจะใส่แว่นไม่ทัน ดีหน่อยตรงที่เจ้านายรูปหล่อไม่คิดที่จะหันมองหน้าเธอ เพราะพอเข้ามาแล้วเขาก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ พอจะบอกว่ามีคนมาหาอีกฝ่ายก็ยกมือขึ้นห้ามแล้วบอกสั้นๆ ว่า...
“ผมรู้แล้ว”
‘อ๋อ...ดีนะ นี่แสดงว่าตั้งใจให้เธอรับหน้าล่ะสิ’
พัชรพรรณคิดในใจ มือเรียวหยิบสมุดบันทึกขึ้นมากาเครื่องหมายกากบาทเพิ่มอีก 1 อัน รวมกับที่ถูกเขาว่าแต่งตัวดูไม่ได้กับที่บังอาจจูบเธอในคืนนั้น เท่ากับตอนนี้เจ้านายหนุ่มมีกากบาท 3 อันแล้ว
‘ฝากไว้ก่อนมีโอกาสเมื่อไหร่...จะเอาคืนให้สาสมเลย’

หลังจากทำงานร่วมกันมาเกือบ 3 เดือนจากไม่คุ้นกับการกระทำของเมฆา กลับกลายเป็นความเคยชินไปเสียแล้ว ที่เธอจะได้เห็นเขาควงผู้หญิงเดินโฉบไปโฉบมาในโรงแรม บางครั้งมีงานด่วนที่ต้องให้เซ็นชื่อ เธอทำเพียงแค่เดินไปหาตามสระว่ายน้ำ ในคลับชั้นใต้ดิน หรือบนห้องส่วนตัวก็เจอเขาแล้ว
หลายครั้งที่หญิงสาวต้องทำหน้าที่สลับรางให้ โดยเฉพาะสิตาหรือหวาน นางแบบสาวที่มักจะไปไหนมาไหนกับเจ้านายเธอบ่อยๆ กับมาดามเหลียนลูกค้ารายใหญ่ของโรงแรมเพียงฟ้าซึ่งเป็นโรงแรมหลักในเครืออัครมนตรีกรุ๊ป
เสียงถอนหายใจดังเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ แต่วันนี้พัชรพรรณอยากไปให้หมอฉีดยาแก้บ้าให้สักเข็ม เมื่อเธอต้องต้อนรับสองสาวพร้อมๆ กัน ใจอยากโทรไปหาน้าแอนซึ่งตอนนี้เลื่อนขึ้นเป็นเลขาส่วนตัวของท่านประธานใหญ่ไปแล้ว แต่...
“ฉันขอน้ำส้มเย็นๆ สักแก้วสิ”
“ขอชาจีนหน่อยสิ ขอเป็นชาร้อนนะ”
สิตากับมาดามเหลียนเอ่ยขึ้นพร้อมกัน แรงกดดันทำให้พัชรพรรณอยากจะเดินออกไปสั่งเครื่องดื่มเองแต่ทำได้แค่เพียงยกหูโทรศัพท์แล้วสั่งให้ห้องอาหารจัดการส่งมาให้ ก่อนจะก้มหน้าลงทำเหมือนว่ากำลังยุ่งกับงานทั้งๆ ที่กำลังคุยกับปวีณาผ่านทางกรอบเล็กๆ ที่ถูกย่อเอาไว้พออ่านข้อความออกเท่านั้น
หญิงสาวไม่เข้าใจว่าทำไมเมฆาถึงขัดคำสั่งของท่านประธาน มาดามเหลียนไม่ใช่ผู้หญิงที่จะทำเป็นเล่นด้วยได้ แต่เมฆาก็ยังริอาจเล่นกับไฟซึ่งเธอกำลังรอดูว่าเมื่อไหร่ที่ไฟมันจะลวกมือเขาสักที
เสียงประตูถูกผลักเข้ามาพร้อมกับร่างสูงที่ยืนชะงักค้างอยู่หน้าห้อง ใบหน้าของเมฆาดูเหมือนเพิ่งกินยาขมมา แต่เพียงครู่เดียวรอยยิ้มก็ปรากฏที่ริมฝีปากได้รูปอย่างน่าดู
“คุณหวานมารอผมนานแล้วหรือครับ”
ชายหนุ่มเลือกที่จะทักสิตาก่อน แล้วหันมาจับมือมาดามเหลียนขึ้นมาจูบ
“สวัสดีครับมาดาม วันนี้คุณสวยมาก”
สายตาคมมองชุดกี่เพ้าปักลวดลายสวยงามด้วยดิ้นทอง เนื้อผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินช่วยขับผิวขาวอย่างน่ามอง
“คุณหวานผมขอแนะนำมาดามเหลียน ลูกค้าคนสำคัญของโรงแรมเพียงฟ้า มาดามเหลียนครับนี่คุณสิตาเป็นนางแบบชื่อดังและเป็นนางแบบที่เราจะใช้ในการทำโบร์ชัวร์ของมาดามครับ”
พัชรพรรณเบ้หน้าเมื่อได้ยินเจ้านายพูดภาษาอังกฤษเป็นทำนองแนะนำความสำคัญของแต่ละฝ่ายอย่างเจ้าเล่ห์ หญิงสาวรีบกดปิดการสนทนากับปวีณาและหน้านิยายที่อ่านค้าง โชคดีที่งานถูกจัดการให้เข้ารูปเข้ารอยในระยะเวลาเพียงเดือนเดียว หลังจากนั้นทุกอย่างก็ง่ายขึ้นหากทำให้เป็นระบบ
แต่ปัญหาใหญ่กลับเป็นเจ้านายของเธอเองที่ขยันสร้างเรื่อง และถ้าคาดไม่ผิด...
“คุณพัชรช่วยเตรียมเอกสารด้วย เราจะต้องเข้าประชุมแล้ว”
‘นั่นไง’
พัชรพรรณเบ้หน้า เมื่อเจอมุกหนีสาวของเจ้านาย แต่ก็หยิบเอกสารมาถือไว้แล้วก้าวออกมายืนรอที่หน้าประตูโดยไม่ลืมเหน็บนิยายเล่มหนาใส่แฟ้มมาด้วย
“คืนนี้ หวานจะบินไปอเมริกา เมฆไปส่งหวานหน่อยนะคะ”
อาการฉอเลาะช่างขัดหูขัดตาเหลือทน แต่ก็สนุกไม่ใช่หรือ พัชรพรรณยกแฟ้มขึ้นมากอด ใช้แฟ้มบังรอยยิ้มของตนไว้ วันนี้ได้มีโอกาสดูละครนอกจอแถมเป็นบทแย่งพระเอกเสียด้วย จะไปหาดูได้ที่ไหนอีก
“ผมมีนัดกับอาพงศ์ คงไปส่งหวานไม่ได้ยังไงถ้าหวานไม่สะดวกผมจะให้คนขับรถอาพงศ์ไปส่งหวานนะครับ”
น้ำเสียงนุ่มนวลยังคงใช้ได้เสมอ แม้สิตาจะแสดงสีหน้าไม่พอใจแต่ก็จำใจต้องพยักหน้าเพราะอยู่ต่อหน้าคนอื่นจะแสดงอะไรออกมามากก็ไม่ดี หญิงสาวเขย่งขึ้นจูบแก้มเมฆาแล้วสบตามาดามเหลียนเหมือนต้องการประกาศให้รู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นของเธอ
แต่คนอย่างมาดามเหลียนไม่เคยสนใจว่าผู้ชายคนนี้จะมีเจ้าของหรือไม่ เธอต้องการเพียงความสุขบนเตียงในช่วงที่อยู่ในเมืองไทย เมื่อกลับไปฮ่องกงแล้วก็ถือว่าจบเกม
“งั้นวันกลับเมฆต้องไปรับหวานนะคะ”
“ได้ครับ”
เมฆาตอบเสียงนุ่ม เขารอจนสิตาเดินออกจากห้องไปถึงพยักหน้าเป็นเชิงไล่พัชรพรรณออกจากห้อง หญิงสาวเดินลิ่วไปยังห้องพักผ่อนที่ทางโรงแรมมีไว้ให้สำหรับพนักงาน แล้วนั่งรอเวลาพักเที่ยง ระหว่างนั้นอดนึกสิ่งที่จะเกิดขึ้นภายในห้องทำงานไม่ได้ คิดไปคิดมาเธอคิดถึงขั้นสามีของมาดามเหลียนมาเจอภาพนัวเนียระหว่างคนทั้งคู่ เลยควักปืนออกมายิงเสียจนเจ้านายของเธอนอนจมกองเลือด
พัชรพรรณสะบัดหน้าแล้วยกมือขึ้นตบแก้ม บอกตัวเองว่าอย่าคิดเพ้อเจ้อให้มากนักก่อนจะกางหนังสือนิยายอ่านฆ่าเวลาจนกระทั่งเผลอหลับไป



tonpalm
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ก.ค. 2554, 13:03:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 ก.ค. 2554, 13:03:46 น.

จำนวนการเข้าชม : 7252





<< หัวใจ...หวงรัก ตอนที่๑   หัวใจ...หวงรัก ตอนที่ ๓ >>
rath 25 ก.ค. 2554, 13:28:10 น.
ติดตามคะ


Zephyr 25 ก.ค. 2554, 13:35:52 น.
อืม เรื่องนี้เวลาใกล้ๆกับเรื่องอาพงศ์เลยนี่คะ เหตุการณ์คู่ขนาน แต่เป็นในมุมมองของเมฆและพัชรแทน จะมีไรต่อเนี่ย


boonja 25 ก.ค. 2554, 14:02:26 น.
ฮ่าๆๆ พัชเก่งจริงๆๆ ชอบค่ะ รอตอนต่อไปค่ะ


kwantawank 25 ก.ค. 2554, 14:35:30 น.
ตามมาอ่านและให้กำลังใจค่ะ คราวนี้เรื่องของพัชร และคุณเมฆ


panon 25 ก.ค. 2554, 14:40:07 น.
สวัสดีค่ะแม่ปูขอตามมาอ่านที่สิรินดานี่อีกทีแล้วกันเนอะ


pretty 25 ก.ค. 2554, 14:59:31 น.
รอตอนต่อไปนะค๊า


Setia 25 ก.ค. 2554, 16:06:17 น.
สุดยอด จินตนาการดีจริงๆเลย ยัยพัชร


nako 25 ก.ค. 2554, 16:33:10 น.
รอตอนต่อไปค่ะแม่ปู


แว่นใส 25 ก.ค. 2554, 16:43:12 น.
จินตนาการได้ถึงใจมาก อยากให้เกิดจริงใช่ไหมล่ะ


ป้าภา 25 ก.ค. 2554, 16:55:03 น.
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนป้าก็จะตามไป(ถ้ารู้)อิอิ


ladyrabbit 25 ก.ค. 2554, 17:03:17 น.
อ่านตอนนี้เเล้วคันไม้คันมือ อยากตีหัวนายเมฆเเทนหนูพัชรจริง ๆ


ใบบัวน่ารัก 25 ก.ค. 2554, 17:10:03 น.
ยังไม่ถึงปัจจุบันอีกหรือ
ที่รู้ความจริงแล้ว อยากอ่านเร็วววววววววว


ann 25 ก.ค. 2554, 17:56:31 น.
อยากให้รู้ความจริงเร็วๆจัง


หนอนฮับ 25 ก.ค. 2554, 18:17:29 น.
กรีีดดดดดดดดดดดดดด


PiNVE 25 ก.ค. 2554, 19:02:12 น.
สนุกทุกครั้งที่อ่านเลยค่ะ


raindeer 25 ก.ค. 2554, 19:16:01 น.
หรือจินตนาการจะเป็นจริง


นมเย็นน้ำเขียว 25 ก.ค. 2554, 19:20:48 น.
ชอบหนูพัชร :))


nutcha 25 ก.ค. 2554, 19:59:23 น.
มาเร็วทันใจดีจัง รอตอนต่อไปด้วยใจจดจ่อ


nutcha 25 ก.ค. 2554, 19:59:26 น.
มาเร็วทันใจดีจัง รอตอนต่อไปด้วยใจจดจ่อ


รัชต์ 25 ก.ค. 2554, 20:08:30 น.
เหมือนหมาเน่ากับโลงผุเลยนายเมฆกับผู้หญิงก้นไว


yamong 25 ก.ค. 2554, 21:44:43 น.
ฮ่า ๆๆๆ พัชร น่ารักมาก ๆๆ ค่ะ พี่เมฆก็สุดดยอดเลยยยยย


อ้น 25 ก.ค. 2554, 23:15:53 น.
อาฮะ


หมูอ้วน 25 ก.ค. 2554, 23:46:12 น.
รออ่านตอนต่อไปค่ะ


ปูสีน้ำเงิน 26 ก.ค. 2554, 01:02:28 น.
น่าติดตามอีกแล้วล่ะ หวังว่าจะสนุกเท่ากับคู่ของน้าสาวนะ


omelate 26 ก.ค. 2554, 10:33:10 น.
นายเมฆหาเรื่องชัดๆๆ


siwa 26 ก.ค. 2554, 20:50:27 น.
รออยู่เสมอ


ameerah 26 ก.ค. 2554, 22:57:48 น.
ดีใจจัง แม่ปูกลับมาอัพนิยายต่อแล้ว พึ่งอ่านคุนพงศ์กะแอน จบไปเอง(รอบที่3) มาอัพตอนต่อไปเร็วน๊าค๊า แล้วก้อรักษาสุขภาพด้วยน๊า^_^


ปอกะเจา 27 ก.ค. 2554, 15:39:31 น.
พระเอกนี่ปลาไหลมาก


anOO 27 ก.ค. 2554, 18:23:23 น.
ไม่รูั้้ว่าพัชรจะร้ายเหมือนแอนรึป่าว


XaWarZd 27 ก.ค. 2554, 23:43:06 น.
ฮาแน่ๆ


สวาปาม 8 ก.ย. 2554, 17:02:07 น.
เมื่อไร่จะได้อ่านต่อน้า เริ่มมันคะ ชอบคุณแม่จันทรา ม้ากมาก อ่านที่ไร อารมณ์ดีทุกที


grazioso 14 ก.ย. 2554, 21:29:51 น.
๕๕๕๕ แอบฮามุกที่ให้ฉี่รดขา ๕๕๕


littlerabbit 28 ก.ย. 2554, 09:55:30 น.
ู^_________^ ตามไปอ่านตอน 3 ต่อ


LAM 28 พ.ค. 2555, 16:23:41 น.
สนุกมาก ๆ เลยค่ะ เป้นกำลัใจให้คนแต่งนะคะ


ผักหวาน 5 ต.ค. 2555, 11:48:40 น.
แล้วเจ้านายหนูพัชรกับมาดามเหลียนจะเล่นซ่อนแอบกันรึไงเนี่ย ถึงกับไล่เลขาออกจากห้องอ่ะค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account