เล่ห์รักพรางแค้น วางแผงแล้ว สนพ ทัช
ใครจะไปคิดว่าการทำภารกิจให้ปู่ กลับกลายเป็นถูกโชคชะตากลั่นแกล้งให้เขาถูกสลัดลงจากคาน ยัยซื่อบื้อนั่นน่ะหรือคือไก่วัดที่ทำให้เขากลายเป็นสมภาร
Tags: ความรัก ความหลัง

ตอน: ตอนที่ 4 ครึ่งแรก

รถผ่านทางเข้าหอพักของมาลินไปเรื่อยๆ แต่ยังไม่มีทีท่าว่าภาวัตจะเลี้ยวไปที่ไหน เธอหันไปมองเขา แต่พอถูกมองกลับมาก็ชักปอดๆ ไม่กล้าถาม ถ้าเขาไม่ใช่ท่านประธานเธออาจะกล้าต่อปากก็คำก็ได้ ความเร็วของรถลดลง พวงมาลัยถูกหักเลี้ยวเข้าสู่ซอยไปเรื่อยๆ สองข้างทางไม่เปลี่ยวอะไร
รถขับมาจอดที่โรงจอด ภายในบริเวณบ้านสองชั้นสีขาวคาดชมพูอ่อน ถ้าดูจากความใหญ่โตแล้วเธอคิดว่ากำลังเข้ามาในโรงแรมสักแห่ง ภาวัตปลดสายเข็มขัดแล้วลงจากรถ มาลินมองตามอยากถามว่าจะให้เธอทำอะไรต่อ ประตูเปิดออก ใบหน้าคร้ามห่างก็จริง แต่เสียงเหมือนดังอยู่ใกล้ๆ
“ลงมาสิ ที่นี่บ้านฉันเอง”
ถึงจะสงสัยว่ามาบ้านของเขาแล้วมีงานอะไรก็ต้องลงละ สายตาของเขาบอกเธอว่าถ้าไม่ทำตามอาจมีเรื่อง คนเจ้าชู้ทำไมถึงดุ หรือว่าเป็นกับเธอคนเดียว
“มากันแล้วหรือ พาน้องมาทางนี้สิวัต แม่ทำขนมเสร็จพอดี ภาคกำลังช่วยชิม ได้คนชิมเพิ่มล่ะวันนี้” ผู้หญิงใบหน้าใจดีแต่ดูสูงวัยเอ่ย
มาลินหันไปมองแล้วยิ้มพลางยกมือไหว้ “สวัสดีค่ะ”
เด็กชายตัวน้อยที่มาลินจำได้มองมา สายตาคู่นั้นเหมือนจะจำได้ เธอยืนเยื้องหลังภาวัตอย่างไม่แน่ใจว่าควรทำตัวอย่างไร
“นั่งก่อนนะจ๊ะ” ภาณินบอก มาลินนั่งลงมองภาวัตสลับกับเด็กน้อย “ภาคสวัสดีพี่มาลินสิลูก”
มือเล็กๆ ยกขึ้นไหว้ “สวัสดีครับ”
มาลินยิ้มเอ็นดู คราวก่อนเธอไม่ทันสังเกตว่าฟันหน้าของภาคดูเหมือนจะผุแล้ว คนทำให้เป็นอย่างนี้คงไม่พ้นเจ้าของถุงลูกอมถุงบิ้กเบิ้มนั่นล่ะ ว่าแต่ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงรู้ชื่อของเธอล่ะ เขาเล่าเรื่องเด็กฝึกงานให้คนที่บ้านฟังด้วยงั้นหรือ
“ฉันจะจ้างเธอมาสอนภาค พวก ก ไก่ วาดรูป ว่ายน้ำ กิจกรรมที่เด็กทำได้และไม่อันตรายในตอนเย็น” ภาวัตนั่งลงอีกฝั่งข้างๆ ลูกชาย “ภาคเป็นลูกชายของฉันเอง จำลูกอมได้ไหม คนนี้ล่ะเจ้าของ”
“ลินไม่เคยสอนใครมาก่อน คงทำไม่ได้หรอกค่ะ ลินว่าให้คุณแม่ของเด็กดูแลน่าจะดีกว่านะคะ ถ้าไม่ว่างก็น่าจะหาเวลามาดูแล”
ภาณินยิ้มเหมือนมีเรื่องตลกบางอย่าง ในขณะที่คนปฏิเสธหน้าเสียเพราะถูกจ้องอีกแล้ว เธอมันแย่ที่ไม่รับงานที่เขาหาให้ใช่ไหม ภาวัตลุกขึ้นแล้วดึงแขนเล็กตามมาด้วยกัน เขาลืมไปว่ามาลินไม่ใช่ผู้ใหญ่ที่พูดไม่กี่คำก็น่าจะเข้าใจแล้ว
“ภาคเป็นลูกชายของฉันคนเดียว แกไม่มีแม่มาตั้งแต่แบเบาะแล้ว”
อ้าว! มาลินอุทานอยู่ในใจ ถ้าอย่างนั้นผู้หญิงที่มาด้วยกันก็ไม่ใช่ภรรยาของเขาน่ะสิ น่าอายชะมัดที่คิดอะไรเป็นตุเป็นตะ เรียวคิ้วหนาขมวด เขาไม่ได้พูดอะไรให้น่าขำสักหน่อย เด็กบ้ามายิ้มใส่
“วันนั้นที่ห้าง เธอก็ดูเข้ากับภาคได้ดีไม่ใช่หรือ”
“คุณรู้...หรือคะ” นึกว่าทันแล้วเชียว
แน่ล่ะสิ ถ้าเขาไม่เห็นว่าเป็นมาลินที่อยู่กับลูกชาย ป่านนี้พี่หมีคนนั้นคงได้ไปหาตำรวจแล้ว
“ใช่ ที่ชวนเธอมาก็เพราะฉันเลยอยากหาเพื่อนเล่นและเป็นครูของภาคได้ด้วย เธอก็ได้ทำงานพิเศษที่ปลอดภัยกว่าที่ผับนั่น เราก็ win-win กันทั้งคู่”
ความไม่มั่นใจปลิวหายกลายเป็นชื่นชม นักธุรกิจเป็นอย่างนี้ใช่ไหม ไม่เคยมองอะไรที่ให้ประโยชน์เพียงอย่างเดียว ช่างเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจไม่น้อย
“ว่าไง ทำไมเงียบ จะทำงานที่ฉันเสนอให้หรือเปล่า เรื่องค่าจ้างไม่ต้องห่วง ฉันไม่เอาเปรียบใคร”
ภาวัตชักหงุดหงิดตัวเองจะไปเซ้าซี้ให้ได้อะไรขึ้นมา แล้วดูเด็กบ้า แทนที่จะตอบเร็วๆ กลับทำหน้าคิด มันน่าสั่งเสียให้เสร็จเรื่องไป พอมาลินยกมือไหว้บอกขอบคุณรับทำงานนั่นล่ะ เขาถึงได้ถอนใจทั้งโล่งทั้งหมั่นไส้ ถ้าตอบเร็วกกว่านี้คงดีหรอก

ร่มธรรมมาที่บ้านของชานนท์เพื่อนำเงินมาใช้หนี้...บางส่วน แม้จะจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับเงินต้นที่ไม่เคยคิดดอกเบี้ยเพิ่ม แต่ถึงกระนั้นการที่สองบ้านเกือบได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน ทว่ากลับมีอันผิดพลาด จนชานนท์กลายเป็นหม้ายขันหมาก ทำให้เขารู้สึกผิดมาถึงตอนนี้
ซองใส่เงินวางให้ ชานนท์ยกมือไหว้ เรียวปากหนายิ้มบางยังไม่เลื่อนเงินเข้ามา เงินไม่สำคัญสำหรับเขาเท่าสิ่งที่เกือบได้มาแต่กลับไม่เคยได้
“พ่อของผมนับถือคุณลุงธรรมมานาน ตอนนี้ผมคิดว่าน่าจะถึงเวลาที่แล้วนะที่ผมควรทำอะไรให้เพื่อนของพ่อบ้าง” หนี้สินของร่มธรรมไม่ใช่แค่กับเขา แต่ยังมีที่ธนาคารด้วย ในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ธุรกิจคงไปได้อีกไม่นาน หากไม่ทำอะไรสักอย่าง
“เรื่องที่ดิน ผมเต็มใจช่วยนะครับ”
ร่มธรรมถอนใจยื่นมือไปลูบไหล่หนา “ลุงเกรงใจนะนนท์ เรื่องในอดีต...นนท์ยังเสียใจไม่หายเลย หนี้ก้อนเดิมก็ยังใช้ให้ไม่หมด อย่ามาจมลงไปกับลุงดีกว่า”
“มันผ่านไป 5 ปีแล้วนะครับ ผมลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ามีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นบ้าง” เขาโกหก แต่จะพูดให้ได้อะไรขึ้นมา ในเมื่อผู้หญิงคนนั้นทิ้งทุกคนไปอย่างเลือดเย็น
“แต่ลุงยังจำได้ ให้ลุงจัดการปัญหาตรงนี้เองดีกว่า ขอบใจมากนะ”
เกิดความเงียบอยู่ชั่วอึดใจ ชานนท์มองแหวนที่นิ้วนางข้างขวาซึ่งในอดีตมันเคยอยู่ข้างซ้ายอย่างชั่งใจก่อนเป็นฝ่ายพูดขึ้นมา
“ถ้าผมจะพูดเรื่องของลินล่ะครับ”
ร่มธรรมถอนใจเบาๆ อีกครั้ง “เอาไว้ให้ลินเรียนจบก่อนดีกว่า ลุงยังไม่อยากให้หลานสนใจเรื่องอื่น นอกจากเรียนหนังสือให้จบ”
ชานนท์พยักหน้าเมื่อไม่ได้เร่งรัดอะไร มันเป็นข้อตกลงของผู้ใหญ่สองคน คนหนึ่งนั่งอยู่ตรงนี้ ส่วนอีกคนคือพ่อของเขาที่จากไปพร้อมกับขอคำสัญญา หากเขาเจ็บปวดเพราะผู้หญิงที่ร่มธรรมรัก ฉะนั้นผู้หญิงที่รักอีกคนก็ควรมาลบล้างความผิดพลาดทั้งหมดไม่ใช่หรือ

พิพัฒมาหามาลินในเวลาเช้า ตั้งแต่เด็กจนโต ไม่มีอะไรที่เราสองคนมีความลับต่อกัน รวมทั้งเรื่องที่เธอจะไปทำงานเป็นพี่เลี้ยงกึ่งครูที่บ้านของภาวัต ถึงไม่เคยเจอตัวมาก่อน แต่ชื่อเสียงของผู้ชายคนนั้นที่เขาได้จากอ่านอินเตอร์เนตก็นับว่าไม่เบา กลัวมีอะไรแอบแฝงมากกว่าปรารถนาดีอย่างที่มาลินเข้าใจ
“อย่าไปทำงานพิเศษที่นั่นเลยนะลิน เดี๋ยวพัฒหางานให้ใหม่ดีกว่านะ เสือผู้หญิงชัดๆ พวกเจ้าชู้ คว้าไม่เลือกจนหนังสือพิมพ์ยังเขียนแซ็วบ่อยๆ”
มาลินหัวเราะ ถ้าพิพัฒได้เห็นผู้หญิงรอบตัวภาวัตคงไม่คิดแบบนี้ออกมาแน่ๆ
“ดูลินสิพัฒ มีอะไรที่เรียกว่าสวย หมวย อึ๋ม ตรงไหนไหม ลินไม่ใช่เป้าหมายของเขาหรอก”
เชื่อได้หรือ พวกผู้ชายเจ้าชู้รายไหนรายนั้น พอเห็นผู้หญิงน่ารักน่าทะนุถนอมเป็นอันวอกแวกไขว้เขว ผู้ชายที่อยู่กับผู้หญิงฉูดฉาด พอมาเจอกับผู้หญิงสีขาวปนฟ้าอ่อนๆ มองแล้วสบายตาทำไมจะไม่ชอบ
“แต่...พัฒไม่ไว้ใจ”
มือบางยกมือห้าม ถ้าเถียงกันเรื่องนี้ทั้งวันคงไม่จบ
“ลินโตแล้วนะ อย่าห่วงเลย ไปฝึกงานได้แล้ว เดี๋ยวก็สายอีกหรอก”
พิพัฒขัดใจ แต่พูดอะไรมากไปกว่านี้เดี๋ยวจะกลายเป็นทะเลาะกันเพราะคนอื่นเปล่าๆ บอกลุงธรรมเสียดีไหม ไม่ได้อีกจะกลายเป็นมาลินโดนดุ เมื่อห้ามไม่ได้ก็ต้องยอม แต่วันไหนเลิกงานเร็วเขาจะไปตามรอรับกลับบ้าน คอยดูสิ

เอกสารต่างๆ อยู่ในซองที่ถูกพิจารณาแล้วว่าไม่อนุมัติ หนี้ก้อนเดิมดอกเบี้ยมีแต่จะพอกพูน การจะเพิ่มวงเงินกู้เข้าไปจึงยาก หนทางเดียวคือขายที่ให้ได้แล้วนำเงินมาใช้หนี้ ส่วนต่างของเงินที่เหลือค่อยนำมาประคับประคองไร่ต่อ แต่มันยังทำอะไรไม่ได้เมื่อที่ยังขายไม่ออก ร่มธรรมปวดหัวเครียด แต่ยามลงมาจากรถสีหน้าที่จะบอกคนทั้งโลกว่ายังสู้ไหวก็กลับมา
พัชนีออกมารอรับช่วยถือกระเป๋าเอกสารแล้วเดินตามพ่อเข้าบ้านมาด้วยกัน ลุงหมายที่ทำงานอยู่ไม่ไกลมองมาอย่างมีความหวังด้วยรู้สถานการณ์ของไร่ดี
“เป็นยังไงบ้างคะพ่อ ทางธนาคารว่ายังไงบ้าง ยอมให้กู้เพิ่มหรือเปล่า แล้วหนี้ก้อนเดิม...”
ร่มธรรมฝืนยิ้ม “ขอพ่อไปพักก่อนนะ หายเหนื่อยแล้วจะเล่าให้ฟังนะยัยพัช”
“ถ้างั้นเดี๋ยวพัชชงโอวันตินไปให้นะคะ”
ผู้เป็นพ่อพยักหน้าแล้วพิงพนักเก้าอี้ในห้องทำงาน หลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า ถามว่ามีทางออกไหม มีสิ แต่เขายังไม่เลือกเดินไป หากขายที่ให้ชานนท์หรือไอ้เพื่อนชั่ว เขาจะผ่านอุปสรรคนี้ไปได้ มือหนายกขึ้นมาทาบอกเมื่อรู้สึกหายใจติดขัด จนกลายเป็นหอบ พอลืมตาก็พร่าเลือน สมองมึนชา เจ็บร้าวไปทั้งอก
พัชนีถือถ้วยโอวันตินเข้ามาในห้องพอดี ทว่าเมื่อเห็นพ่อกำลังยกมือให้ช่วยก็ทิ้งทุกสิ่งวิ่งเข้าหา
“พ่อคะ...พ่อ”
ไม่มีเสียงตอบ ความกลัวกระโจนเข้าสู่ใจ พัชนีวิ่งไปที่หน้าต่างตะโกนลั่น
“ใครอยู่ข้างนอกเข้ามาช่วยกันหน่อยเร็ว”
ร่างอ่อนปวกเปียกถูกประคองขึ้นมาจากเก้าอี้ ลุงหมายเข้ามาช่วยพาร่มธรรมไปที่รถแล้วควบตะบึงพาคนป่วยไปโรงพยาบาล พัชนีร้องไห้ปานจะขาดใจพร่ำเรียกพ่อนวดมือจับชีพจร กลัวเหลือเกินกว่าจะไม่ทัน พ่อไม่เคยมีโรคประจำตัว แล้วทำถึงเป็นแบบนี้

คนป่วยถูกพาตัวเข้าห้องฉุกเฉิน พัชนีมองตามได้แต่นั่งรออยู่ข้างนอกกับสมหมาย เท่าที่คิดออกและทำได้มีเพียงโทรหาลูกสาวที่ทำให้เธอมีชีวิตอยู่มาได้ถึงวันนี้ มาลินกดรับสายและฟัง หัวใจกระตุกวาบด้วยความห่วง น้ำตาเอ่อ แต่ยังควบคุมเสียงตัวเองให้เข้มแข็งประหนึ่งว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
“แม่ใจเย็นๆ นะคะ เดี๋ยวลินจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย ตาจะไม่เป็นอะไรนะแม่ ยังไงหมอก็ต้องไม่ยอมให้ตาเป็นอะไร” เธอปลอบแม่ ทั้งที่ตัวเองก็กลัวเหมือนกัน
มาลินขอลางานและบอกเหตุผลไป เมื่อได้รับอนุญาตก็รีบวิ่งลงมาชั้นล่างกำลังจะออกไปอยู่แล้วถ้าไม่นึกขึ้นได้ว่าต้องบอกใครบางคนก่อน แต่พอโทรไปเขากลับไม่รับสาย ทำยังไงดี ทำงานวันแรกก็หายตัวไปแบบนี้คงไม่ดีเท่าไหร่
‘วันนี้ลินคงไปทำงานให้คุณไม่ได้ค่ะ มีธุระสำคัญมากต้องไปเดี๋ยวนี้ ขอโทษด้วยนะคะ’
ข้อความถูกส่งไป เท่านี้ก็เรียบร้อย มาลินแลกบัตรที่ป้อมยามแล้ววิ่งไปต้นซอยเพื่อรอรถในเวลา 4 โมงเย็น ผ่านไปเกือบ 10 นาทีแล้ว รถแท็กซี่ยังไม่ผ่านมาสักคัน เธอใจร้อนจนนั่งไม่ติด สายตามองหาสลับกับดูเวลา ถ้าไปขึ้นรถตู้ตอน 5 โมงก็น่าจะถึงโรงพยาบาลไม่เกิน 2 ทุ่ม
มาลินกดมือตัวเองเดินไปเดินมา ตาก็มองหารถแท็กซี่ไปด้วย รถคันหนึ่งขับมาแล้วชะลอจอดกระจกเลื่อนลง คนในรถมองมา
“ขึ้นรถมาสิ เร็วๆ เข้า”
มาลินมองไปรอบตัวไม่แน่ใจว่าภาวัตบอกเธอหรือว่าใครแถวๆ นี้ พอถูกจ้องก็เลยชี้มาที่ตัวเองอย่างไม่แน่ใจ
“บอกให้ขึ้นมาไงล่ะ จะไปโรงพยาบาลไม่ใช่หรือไงเธอน่ะ
ขาที่กำลังจะก้าวชะงักกึกมองภาวัตอย่างไม่แน่ใจ “คุณวัตรู้ได้ยังไงค่ะลินจะไปโรงพยาบาล”
“เอาเป็นว่าฉันรู้แล้วกัน ขึ้นมาเสียทีสิ เห็นไหมถูกบีบแตรใส่ แถมคนอื่นก็มองมากันใหญ่แล้ว”
รถแท็กซี่ยังไม่มาเช่นเดิม มาลินเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ มองภาวัตอย่างสงสัย ทำไมเขาถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ มันบังเอิญไปหรือเปล่า
“ขอบคุณนะคะ”
“หยิบโทรศัพท์มา” เขาสั่ง พอเห็นมาลินทำตามก็พอใจ “เบอร์ของฉัน 089……. เก็บเบอร์นี้ไว้ เป็นเบอร์ส่วนตัว ไม่ใช่เบอร์เมื่อวานที่เอาไว้ติดต่องานบริษัท มีเรื่องเดือดร้อนอะไรก็โทรได้ ไหนๆ ตาของเธอ กับปู่ของฉันก็เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน”
“คุณทีปต์น่ะหรือคะ” เพราะเหตุผลนี้กระมังเขาถึงช่วยหางานให้ “แต่แปลกจัง ไม่เคยได้ยินตาพูดถึงปู่ของคุณวัตเลยค่ะ”
ถ้ามาลินรู้เหตุผลคงไม่แปลกใจเหมือนเขานั่นแหละ
“เรื่องมันยาว วันนี้ฉันเหนื่อยนะ ถ้าเธอไม่ง่วงก็ช่วยดูทางกับฉันหน่อยแล้วกัน”
คำขอหรือคำสั่ง คงยังแยกไม่ออกถึงได้ตั้งใจมองทาง ภาวัตหันไปเห็นได้แต่ส่ายหน้า แต่จู่ๆ เรียวปากบางที่เม้มปิดก็แยกออกแล้วยิ้มกว้างออกมา
“ยิ้มอะไร”
“ถ้าขับรถเป็นคงดี พอดีลินขับเป็นแต่รถไถเลยไม่รู้จะช่วยยังไง”
พอนึกภาพตามแล้วก็ชักยิ้มขำ ผู้หญิงตัวเล็กๆ ขับรถไถงั้นรึ ท่าทางอ้อนแอนบอบบาง แต่ทำอะไรที่ผู้ชายบางคนยังทำไม่เป็น
“วันหลังก็สอนฉันขับรถไถ ฉันสอนถือขับรถยนต์ ดีไหม เราจะได้ขับเป็นทั้งสองอย่าง”
มาลินหัวเราะเบาๆ รู้สึกผ่อนคลายไม่เกร็งประหม่าอย่างที่ผ่านมา การที่เขามีอายุมากกว่าแล้วยังเป็นเจ้านายทำให้ทำตัวลำบากไม่น้อย ของในกระเป๋าถูกหยิบออกมาแล้วยื่นให้ ถึงขับรถให้ไม่ได้ แต่ก็ยังมีประโยชน์
“ยังเก็บไว้อีกหรือ” ภาวัตหยิบลูกอมบนฝ่ามือเล็กมา
“ก็คุณวัตให้มาตั้งถุงใหญ่ขนาดนั้น ใครจะไปกินหมดล่ะคะ”
วินาทีแรกที่ปู่โทรมาบอกว่าเพื่อนเข้าโรงพยาบาลให้รีบไปดูแทนที เขากลับคิดถึงมาลินว่าคงรู้ข่าวแล้ว ไม่พลาดอย่างที่คิดแล้วเกือบคลาดกัน ถ้าหนทางมันลำบากขนาดนั้นทำไมร่มธรรมถึงไม่วางความทิฐิไว้แล้วทำเพื่ออนาคต แต่เมื่อมาคิดดูอีกครั้ง หากเขาถูกทำแบบนั้น อาจจะทำแบบนี้เหมือนกัน ให้ตายก็ไม่รับความช่วยเหลือจากคนที่เกลียด

แล้วจะมา up ต่อนะคะ
อัมราน_บรรพตี



บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 พ.ย. 2558, 09:43:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 พ.ย. 2558, 09:43:51 น.

จำนวนการเข้าชม : 1186





<< ตอนที่ 3 ครึ่งหลัง   ตอนที่ 4 ครึ่งหลัง >>
konhin 20 พ.ย. 2558, 14:37:28 น.
คุณปู่จะยอมขายหรือยังหว่า


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account