ยักษา
ชีวิตไม่มีอะไรที่แน่นอน
"คนหนึ่ง"เกิดมาทำตามที่ฟ้าลิขิต
"อีกคน"เกิดมาโดยเลือกทางเดินของตัวเอง
พวกเขาถูกลิขิตให้เกิดมาเป็นศัตรูกันแต่สิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันคือปกป้อง"เธอ"ผู้หญิงที่เขารักให้พ้นจากอันตรายด้วยชีวิตของพวกเขากับสองสายเลือดที่ไม่อาจจะลงรอยกันได้ระหว่างคนกับ...ยักษ์
"พวกเราเลือกเกิดไม่ได้จึงต้องเกิดมาเป็นแบบนี้เมื่อถูกลิขิตให้เป็นแบบนี้เราก็ต้องเป็นแบบนี้...ตามที่ฟ้าลิขิต"
"คนหนึ่ง"เกิดมาทำตามที่ฟ้าลิขิต
"อีกคน"เกิดมาโดยเลือกทางเดินของตัวเอง
พวกเขาถูกลิขิตให้เกิดมาเป็นศัตรูกันแต่สิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันคือปกป้อง"เธอ"ผู้หญิงที่เขารักให้พ้นจากอันตรายด้วยชีวิตของพวกเขากับสองสายเลือดที่ไม่อาจจะลงรอยกันได้ระหว่างคนกับ...ยักษ์
"พวกเราเลือกเกิดไม่ได้จึงต้องเกิดมาเป็นแบบนี้เมื่อถูกลิขิตให้เป็นแบบนี้เราก็ต้องเป็นแบบนี้...ตามที่ฟ้าลิขิต"
Tags: ยักษ์ สยองขวัญ ช่วงชิง ความรัก
ตอน: ไล่ล่า
ชายหนุ่มร่างกายกำยำค่อยๆยืนขึ้นอย่างช้าๆที่มุมปากมีรอยเปื้อนเลือดรวมไปถึงเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เขาสวมใส่อยู่สายตาเริ่มเปลี่ยนเป้าหมายมาที่หญิงสาวที่สลบอยู่ข้างต้นไม้สองเท้าของเขาค่อยๆก้าวมาหาเธออย่างช้าๆสองแขนเคลื่อนไปช้อนร่างบางเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน
"ยัยบื้อ"ทศคินทร์พูดก่อนจะยิ้มบางๆแล้วจึงพาหญิงสาวกลับไปส่งที่บ้านต้นไม้
………………………………………………………………
ณ ลานจอดรถเก่า
ยักษาสองตนกำลังนั่งจับกลุ่มก่อนที่ผู้เป็นพี่จะเลียปากเพื่อลบคราบเลือดของหญิงสาวที่เขาพึ่งซื้อบริการหล่อนมาเพื่อเป็นอาหารของเขา
"เนื้อเด็กสาวนี่มันอร่อยจริงๆนะอนุชิต"พิเชียรพูดก่อนที่ผู้เป็นน้องจะลุกขึ้นยืน
"ข้าว่าเนื้ออะไรก็ไม่อร่อยเท่ากับหัวใจของทศคินทร์อีกแล้วหรือเจ้าว่ายังไง"
"ใช่!ข้าเห็นด้วย"พิเชียรและอนุชิตต่างหัวเราะในลำคอพลันศรวิเศษพุ่งมาอย่างไร้ทิศทางและปักเข้าที่ท่อนแขนของพิเชียรเข้าอย่างจัง
"ศรอาคม!นั่นใครน่ะ!"พิเชียรและอนุชิตต่างมองหาผู้เป็นเจ้าของศรอาคมก่อนจะเห็นชายหนุ่มที่ในมือถือศรอีกดอกอยู่ตรงข้ามกับพวกเขา
"นักล่ายักษ์!"
"พวกแกมันฆาตกร!ฉันจะฆ่าพวกแกให้หมด!"ราพณ์กล่าวอย่างมุ่งมั่นก่อนจะตรงเข้าหาพิเชียรและอนุชิตอย่างไม่เกรงกลัวการต่อสู้ดูจะสูสีเพราะต่อให้มียักษาถึงสองตนแต่ก็ไม่เป็นที่ลำบากของราพณ์เท่าไหร่นักจนเมื่ออนุชิตเห็นท่าไม่ดีจึงหาจังหวะแล้วต่อยเข้าที่หน้าของราพณ์จนเขาเซไปเล็กน้อย
"ไปก่อนเถอะพิเชียร!"อนุชิตมองดูผู้เป็นพี่ก่อนจะดึงพิเชียรหนีออกมา
"หยุดนะ!"ราพณ์ตะโกนพลันวิ่งตามแต่ก็ไม่ทันการเพราะพิเชียรและอนุชิตหายไปแล้ว
"โธ่เว้ย!!"ราพณ์สบถก่อนจะหันกลับไปมองศพหญิงสาวที่เหลือแต่กระดูกด้วยความรู้สึกผิดนี่ถ้าเขามาเร็วกว่านี้อาจพอที่จะช่วยเธอได้
"ผมขอโทษนะ"
………………………………………………………………
รุ่งเช้า
"สริญดา!สริญดา!!"พาติมาเขย่าตัวเพื่อนอย่างตื่นเต้นก่อนที่สริญดาจะเริ่มรู้สึกตัวสายตามองที่เพื่อนอย่างงงๆก่อนจะดีดตัวขึ้นมา
"นี่ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงแล้ว..."
"อย่าพึ่งพูดอะไรเลยนะนี่เธอรู้ไหมว่ามีคนพบซากเสือนอนตายอยู่หลังต้นไม้ใหญ่โน่นแหนะฉันขอตัวไปดูก่อนนะ"พูดจบพาติมาก็รีบบึ่งออกไปทิ้งให้สริญดานั่งงงๆอยู่คนเดียว
"นี่มันเกิดอะไรขึ้น...เสือเหรอ"สริญดาพึมพำกับตัวเองก่อนจะนึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่เธอเจอเสือสมิงเมื่อนึกได้เช่นนั้นสริญดาก็รีบวิ่งลงมาจากบ้านต้นไม้มายังกลุ่มนักศึกษาที่ยืนมุงดูซากเสือที่โดนกัดกินจนแห้งตายอย่างให้ความสนใจ
"ทศคินทร์..."มัศยาพึมพำหากแต่หูของสริญดาได้ยินเข้าพอดีเธอมองไปที่ซากเสือสลับกับมัศยาอย่างแปลกใจ
"เห็นทีคงต้องยกเลิกการรับน้องแล้วล่ะครับเพราะถ้าเจ้าสัตว์ร้ายนั่นถึงขนาดกินเสือได้ล่ะก็มันคงดุร้ายกว่าหลายเท่า"นายพรานน้อยพูดก่อนที่พวกรุ่นพี่จะเห็นด้วย
"งั้นเราจะยกเลิกการรับน้องนะ...ทุกคนไปเก็บของกันเถอะ"รุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งพูดก่อนจะเดินนำหน้าไปตามด้วยนักศึกษาคนอื่นๆ
"สริญดา..แขนเสื้อเธอไปโดนอะไรมา"พาติมาพูดก่อนจะมองคราบสีน้ำตาลคล้ำๆอย่างสนใจผิดกับสริญดาที่ดูแปลกใจไม่น้อย
"เอ่อ..ฉัน...ฉันเคยทำสีตกน่ะพาติมา...ฉันไปเก็บของก่อนนะ"สริญดาพูดพลันเดินลิ่วเข้าบ้านต้นไม้ไปก่อนที่พาติมาจะเดินตามไปยกเว้นมัศยา
"..นี่มันอะไรกัน.."
………………………………………………………………
ที่บริเวณมหาวิทยาลัย
สริญดานั่งก้มหน้าก้มตากอดกระเป๋าของเธอในใจเอาแต่คิดเรื่องซากเสือและรอยคราบที่แขนเสื้อของเธอยิ่งพยายามคิดมันก็ยิ่งงงกับตัวเองความรู้สึกสับสนแล่นไปมาทั่วสมองของสริญดาก่อนที่ชายหนุ่มในชุดนักศึกษาคนหนึ่งจะมาหยุดตรงหน้าสริญดา
"มีอะไรหรือเปล่าคะ"สริญดามองหน้าชายหนุ่มที่ใส่แว่นด้วยความเป็นมิตรก่อนจะเห็นรอยยิ้มของเขาที่ส่งมาให้เธอ
"ก็...หาคนเลี้ยงข้าวน่ะครับ"ราพณ์ตอบก่อนจะเห็นสีหน้าแสดงความตกใจปนดีใจของสริญดา
"คุณราพณ์!"สริญดาอุทานก่อนจะลุกขึ้นมองราพณ์ด้วยรอยยิ้ม
"คุณแต่งตัวอย่างนี้จะไปไหนเหรอคะ"
"ผมก็แค่อยากรับน้องกับเขาบ้างน่ะแต่น่าเสียดายที่ทริปทุกยกเลิกไปแล้วผมก็เลย...แห้ว"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะปีหน้าก็ยังมีอีกนี่คะ"สริญดาพูดปลอบใจราพณ์ก่อนจะมองหน้าเขาพลันสีหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นทันที
"คุณมองผมแบบนี้หมายความว่ายังไง"
"คะ!"
"ก็ผมถามว่ามองผมแบบนี้หมายความว่ายังไง!"ราพณ์ทำเสียงดุก่อนจะค่อยๆเดินเข้ามาหาสริญดาที่ถอยหลังหนีเขาจนหลังชิดกับเสาปูน
"คือฉัน..."
"อะไร!"
"คิดว่าคุณเหมือน.."
"เหมือนอะไร!"ราพณ์ใช้ท่อนแขนกักตัวของหญิงสาวเอาไว้ก่อนจะค่อยๆยื่นหน้าเข้ามาหาสริญดาจนเธอต้องหลับตาพร้อมกับพูดความจริงออกมา
"เหมือนหนอนที่บ้านแม่ครูน่ะค่ะ"
"หนอนหรือ!"
"ค่ะก็เจ้าหนอนตัวนั่นมันมีแว่นรอบตาด้วยแต่ฉันไม่ได้ว่าคุณนะคะเพราะหนอนตัวนั้นมันน่ารัก"สริญดาตอบอย่างไร้เดียงสาราพณ์กัดฟันแน่นไม่ใช่เพราะโกรธแต่เพราะกลัวจะหลุดขำออกมา
"ใครบอกคุณว่าผมเหมือนหนอน"
"เปล่าค่ะ...ฉันคิดเอง..ขอโทษนะคะคุณราพณ์"สริญดาพูดด้วยน้ำเสียงสำนึกผิดก่อนจะสัมผัสในถึงลมหายใจของราพณ์ที่ใบหูของเธอ
"ผมไม่หนอนหรอกนะ..มังกรตั้งหากสาวๆเขาบอกผมอย่างนั้น"ราพณ์พูดก่อนจะผละออกจากสริญดาที่ยืนทำหน้างงๆอยู่
"สาวๆเหรอคะ......คุณราพณ์!"เมื่อถึงบางอ้อสริญดาก็ใช้มือตีเข้าไปที่แขนของเขาก่อนที่ใบหน้าจะแสดงอาการเขินอายออกมา
"55555คุณมาตีผมทำไมล่ะครับเนี่ย"
"คนโรคจิต!ฉันไม่คุยกับคุณแล้วนะคะ"พูดจบสริญดาก็คว้ากระเป๋าเดินหนีชายหนุ่มไปราพณ์มองภาพนั้นก่อนจะยิ้มออกมาแล้วจึงรีบเดินตามไปง้อหญิงสาว
"รอผมด้วยสิครับ..สริญดา"
………………………………………………………………
บริเวณสวนหลังมหาวิทยาลัย
"มาแล้วหรือ"ทศคินทร์ยิ้มก่อนจะเดินมาเปิดประตูให้มัศยาแต่ถูกเธอทำหน้าบึ้งตึงใส่
"หยุดเลยนะ!ฉันนึกไว้แล้วเชียวว่าทำไมเมื่อคืนฉันถึงไม่รู้สึกตัวเลยฝีมือคุณใช่ไหม"มัศยาถามเสียงดุแต่ดูเหมือนคนที่เธอถามจะไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
"ผมจะไปร่ายมนต์ใส่คุณทำไมล่ะมัศยา"
"ก็เพื่อช่วยผู้หญิงที่ชื่อสริญดาไง..ใช่ไหมทศคินทร์"
"ผมไม่มีอะไรจะอธิบาย"ทศคินทร์ยักไหล่ขึ้นก่อนจะยิ้มให้มัศยา
"โกรธผมหรือมัศยา"
"สมควรโกรธไหมล่ะ...ยักษ์เอาแต่ใจ"มัศยาพูดก่อนจะหันหน้าหนีแต่ทันใดนั้นเธอก็ถูกทศคินทร์ดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
"โกรธที่ผมสนใจคนอื่นหรือ..มัศยา"
"ปล่อยนะ!..ฉันไม่มีสิทธิ์ไปโกรธคุณหรอกนะเพราะคุณคือยักษาผู้เป็นใหญ่ผิดกับฉัน"พูดจบมัศยาก็ผละออกจากทศคินทร์ก่อนจะมองหน้าเขาด้วยแววตาที่อ่อนลง
"คุณรู้ไหมว่ามีคนอยากกำจัดคุณมากมายถ้าคุณก้าวพลาดก็มีคนจ้องจะเหยียบคุณ..เลิกทำเพื่อคนอื่นสักทีเถอะนะทศคินทร์ฉันเป็นห่วงคุณ"มัศยาเผยความในใจออกมาทศคินทร์นิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะมองมัศยา
"ผมจะดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้..มัศยา"ทศคินทร์พูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มมัศยายิ้มออกมาก่อนจะพยักหน้าแล้วเดินขึ้นรถไปมีเพียงทศคินทร์ที่ความเศร้าเริ่มแสดงออกมาทางแววตาอีกครั้งเหมือนที่เป็นมาตลอด
"ผมจะพยายาม"
………………………………………………………………
"หายโกรธผมนะสริญดา"ราพณ์พูดก่อนจะตรงมาดักหน้าสริญดา
"ฉันไม่ได้โกรธคุณนี่คะ"สริญดาพูดก่อนจะยิ้มออกมา
"จริงนะครับ"
"ค่ะ"
"งั้นให้ผมไปส่งที่บ้านนะและห้ามเกรงใจด้วย!"พูดจบราพณ์ก็เดินที่รถทันทีสริญดาได้แต่มองตามก่อนจะเดินตามเขามาพร้อมขึ้นไปนั่งบนรถมอเตอร์ไซด์ของเขา
"กอดผมไว้นะ"
"ค่ะ..ฉันไม่ตกแน่นอน"
"ไม่ใช่!ผมหมายถึง...กอดผมเอาไว้นะ"ราพณ์พูดก่อนที่ทั้งสองคนจะสบตากันราพณ์มองสริญดาก่อนจะเรียกสติและหลบตาของเธอทันที
"เอ่อ...ผม...ผมจะไปแล้วนะ"
"ค่ะ...."สริญดาตอบกลับก่อนจะใช้มือโอบเขาจากด้านหลังพลันรถเคลื่อนตัวออกโดยไม่มีคำพูดอะไรของทั้งสองคนจนเมื่อมาถึงบริเวณที่สองข้างทางเป็นป่า
"คุณราพณ์คะ!!"สริญดาอุทานเพราะมีชายหนุ่มร่างกายกำยำสองคนยืนขวางถนนพร้อมดาบคนละเล่มราพณ์มองอย่างหาหนทางก่อนจะตัดสินใจหักรถลงข้างทางเป็นเหตุให้เขาและสริญดาตกลงข้างทางพร้อมกัน
"กริ๊ด!!!!"สริญดากริ๊ดร้องก่อนที่เสียงจะเงียบไปพิเชียรและอนุชิตยืนมองผลงานตัวเองก่อนจะส่งกระแสจิตบอกพวกของตนว่าราพณ์และสริญดาถูกกำจัด
"ทศคินทร์"มัศยามองมาทางทศคินทร์ที่จู่ๆก็จอดรถอย่างกระทันหันพร้อมด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก
"คุณเป็นอะไรทศคินทร์"มัศยาถามขึ้นอีกครั้งก่อนจะรับรู้ถึงกระแสจิตของพิเชียรและอนุชิตซึ่งเธอคิดว่าคงเป็นเรื่องนี้ที่ทำให้ทศคินทร์จอดรถกระทันหันแต่ว่าการที่ผู้ล่ายักษ์ตายทำไมทศคินทร์ผู้แสนเย็นชาถึงดูตกใจอย่างนั้น
"เราจะไปที่ที่พิเชียรและอนุชิตอยู่ตอนนี้"พูดจบทศคินทร์ก็เหยียบคันเร่งออกรถอย่างแรงจนมัศยาตั้งตัวไม่ทันแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมากมาย
………………………………………………………………
ที่เกิดเหตุ
ราพณ์ค่อยๆขยับตัวหลังจากที่เขาหักรถจนตกเนินก่อนจะมองหาสริญดา
"สริญดา!"ราพณ์รีบตรงมาที่หญิงสาวก่อนจะพยุงตัวเธอขึ้นพร้อมมองด้วยเธอความเป็นห่วง
"คุณเป็นอะไรมากไหมสริญดาเจ็บตรงไหนหรือเปล่า"
"ไม่หรอกค่ะคุณล่ะคะ"สริญดาถามก่อนที่จะมองตามเนื้อตัวของราพณ์
"ผมไม่เป็นอะไรคุณไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว"ราพณ์พูดก่อนจะดึงมือสริญดาให้เดินไปอีกทาง
"คุณจะพาฉันไปไหนคะ"
"ตามผมมาเถอะนะ"ราพณ์ตอบก่อนจะดึงมือหญิงสาวให้ตามมาในขณะเดียวกันรถของทศคินทร์ก็มาถึงพอดี
"เป็นไงทศคินทร์ฉันฆ่าไอ้ผู้ฆ่ายักษ์ได้แล้ว"พิเชียรพูดอย่างโอ้อวดก่อนจะเห็นสีหน้าของทศคินทร์ดูมีทีท่าไม่พอใจ
"ไม่ใช่แค่ผู้ฆ่ายักษ์แต่มีคนอื่นด้วย!"น้ำเสียงที่ดุดันเปล่งออกมาจากริมฝีปากของทศคินทร์เขามองมาที่พิเชียรอย่างต้องการคำอธิบาย
"ก็แค่คนๆเดียว"พิเชียรตอบอย่างไม่ใส่ใจ
"คุณลืมกฏของผมแล้วหรือ!"ทศคินทร์พูดก่อนที่พิเชียรและอนุชิตจะเงียบลงทศคินทร์มองอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะหลับตาสัมผัสถึงสริญดาเสียงหัวใจของเขายังดังอยู่แปลว่าสริญดายังไม่ตาย
………………………………………………………………
ตัวอย่างตอนต่อไป>>
ราพณ์ก้มหน้าลงแววตาแสดงความเสียใจออกมาสริญดามองเขาอย่างเห็นใจก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือของเขาเอาไว้ทั้งสองสบตากันก่อนจะราพณ์จะดึงสริญดาเข้ามากอดพร้อมกับหลั่งน้ำตาที่เขาอัดอั้นตันใจมานานออกมา
"ผมไม่เหลืออะไรเลยสริญดา"
"ใครบอกล่ะคะถ้าไม่มีใครฉันก็จะอยู่เคียงข้างคุณเอง"สริญดาพูดก่อนจะกอดปลอบใจราพณ์เขารู้สึกอบอุ่นที่ได้อยู่กับเธอความรู้สึกอยากปกป้องอยากดูแลมันคืออะไรกันนะ!
"ยัยบื้อ"ทศคินทร์พูดก่อนจะยิ้มบางๆแล้วจึงพาหญิงสาวกลับไปส่งที่บ้านต้นไม้
………………………………………………………………
ณ ลานจอดรถเก่า
ยักษาสองตนกำลังนั่งจับกลุ่มก่อนที่ผู้เป็นพี่จะเลียปากเพื่อลบคราบเลือดของหญิงสาวที่เขาพึ่งซื้อบริการหล่อนมาเพื่อเป็นอาหารของเขา
"เนื้อเด็กสาวนี่มันอร่อยจริงๆนะอนุชิต"พิเชียรพูดก่อนที่ผู้เป็นน้องจะลุกขึ้นยืน
"ข้าว่าเนื้ออะไรก็ไม่อร่อยเท่ากับหัวใจของทศคินทร์อีกแล้วหรือเจ้าว่ายังไง"
"ใช่!ข้าเห็นด้วย"พิเชียรและอนุชิตต่างหัวเราะในลำคอพลันศรวิเศษพุ่งมาอย่างไร้ทิศทางและปักเข้าที่ท่อนแขนของพิเชียรเข้าอย่างจัง
"ศรอาคม!นั่นใครน่ะ!"พิเชียรและอนุชิตต่างมองหาผู้เป็นเจ้าของศรอาคมก่อนจะเห็นชายหนุ่มที่ในมือถือศรอีกดอกอยู่ตรงข้ามกับพวกเขา
"นักล่ายักษ์!"
"พวกแกมันฆาตกร!ฉันจะฆ่าพวกแกให้หมด!"ราพณ์กล่าวอย่างมุ่งมั่นก่อนจะตรงเข้าหาพิเชียรและอนุชิตอย่างไม่เกรงกลัวการต่อสู้ดูจะสูสีเพราะต่อให้มียักษาถึงสองตนแต่ก็ไม่เป็นที่ลำบากของราพณ์เท่าไหร่นักจนเมื่ออนุชิตเห็นท่าไม่ดีจึงหาจังหวะแล้วต่อยเข้าที่หน้าของราพณ์จนเขาเซไปเล็กน้อย
"ไปก่อนเถอะพิเชียร!"อนุชิตมองดูผู้เป็นพี่ก่อนจะดึงพิเชียรหนีออกมา
"หยุดนะ!"ราพณ์ตะโกนพลันวิ่งตามแต่ก็ไม่ทันการเพราะพิเชียรและอนุชิตหายไปแล้ว
"โธ่เว้ย!!"ราพณ์สบถก่อนจะหันกลับไปมองศพหญิงสาวที่เหลือแต่กระดูกด้วยความรู้สึกผิดนี่ถ้าเขามาเร็วกว่านี้อาจพอที่จะช่วยเธอได้
"ผมขอโทษนะ"
………………………………………………………………
รุ่งเช้า
"สริญดา!สริญดา!!"พาติมาเขย่าตัวเพื่อนอย่างตื่นเต้นก่อนที่สริญดาจะเริ่มรู้สึกตัวสายตามองที่เพื่อนอย่างงงๆก่อนจะดีดตัวขึ้นมา
"นี่ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงแล้ว..."
"อย่าพึ่งพูดอะไรเลยนะนี่เธอรู้ไหมว่ามีคนพบซากเสือนอนตายอยู่หลังต้นไม้ใหญ่โน่นแหนะฉันขอตัวไปดูก่อนนะ"พูดจบพาติมาก็รีบบึ่งออกไปทิ้งให้สริญดานั่งงงๆอยู่คนเดียว
"นี่มันเกิดอะไรขึ้น...เสือเหรอ"สริญดาพึมพำกับตัวเองก่อนจะนึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่เธอเจอเสือสมิงเมื่อนึกได้เช่นนั้นสริญดาก็รีบวิ่งลงมาจากบ้านต้นไม้มายังกลุ่มนักศึกษาที่ยืนมุงดูซากเสือที่โดนกัดกินจนแห้งตายอย่างให้ความสนใจ
"ทศคินทร์..."มัศยาพึมพำหากแต่หูของสริญดาได้ยินเข้าพอดีเธอมองไปที่ซากเสือสลับกับมัศยาอย่างแปลกใจ
"เห็นทีคงต้องยกเลิกการรับน้องแล้วล่ะครับเพราะถ้าเจ้าสัตว์ร้ายนั่นถึงขนาดกินเสือได้ล่ะก็มันคงดุร้ายกว่าหลายเท่า"นายพรานน้อยพูดก่อนที่พวกรุ่นพี่จะเห็นด้วย
"งั้นเราจะยกเลิกการรับน้องนะ...ทุกคนไปเก็บของกันเถอะ"รุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งพูดก่อนจะเดินนำหน้าไปตามด้วยนักศึกษาคนอื่นๆ
"สริญดา..แขนเสื้อเธอไปโดนอะไรมา"พาติมาพูดก่อนจะมองคราบสีน้ำตาลคล้ำๆอย่างสนใจผิดกับสริญดาที่ดูแปลกใจไม่น้อย
"เอ่อ..ฉัน...ฉันเคยทำสีตกน่ะพาติมา...ฉันไปเก็บของก่อนนะ"สริญดาพูดพลันเดินลิ่วเข้าบ้านต้นไม้ไปก่อนที่พาติมาจะเดินตามไปยกเว้นมัศยา
"..นี่มันอะไรกัน.."
………………………………………………………………
ที่บริเวณมหาวิทยาลัย
สริญดานั่งก้มหน้าก้มตากอดกระเป๋าของเธอในใจเอาแต่คิดเรื่องซากเสือและรอยคราบที่แขนเสื้อของเธอยิ่งพยายามคิดมันก็ยิ่งงงกับตัวเองความรู้สึกสับสนแล่นไปมาทั่วสมองของสริญดาก่อนที่ชายหนุ่มในชุดนักศึกษาคนหนึ่งจะมาหยุดตรงหน้าสริญดา
"มีอะไรหรือเปล่าคะ"สริญดามองหน้าชายหนุ่มที่ใส่แว่นด้วยความเป็นมิตรก่อนจะเห็นรอยยิ้มของเขาที่ส่งมาให้เธอ
"ก็...หาคนเลี้ยงข้าวน่ะครับ"ราพณ์ตอบก่อนจะเห็นสีหน้าแสดงความตกใจปนดีใจของสริญดา
"คุณราพณ์!"สริญดาอุทานก่อนจะลุกขึ้นมองราพณ์ด้วยรอยยิ้ม
"คุณแต่งตัวอย่างนี้จะไปไหนเหรอคะ"
"ผมก็แค่อยากรับน้องกับเขาบ้างน่ะแต่น่าเสียดายที่ทริปทุกยกเลิกไปแล้วผมก็เลย...แห้ว"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะปีหน้าก็ยังมีอีกนี่คะ"สริญดาพูดปลอบใจราพณ์ก่อนจะมองหน้าเขาพลันสีหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นทันที
"คุณมองผมแบบนี้หมายความว่ายังไง"
"คะ!"
"ก็ผมถามว่ามองผมแบบนี้หมายความว่ายังไง!"ราพณ์ทำเสียงดุก่อนจะค่อยๆเดินเข้ามาหาสริญดาที่ถอยหลังหนีเขาจนหลังชิดกับเสาปูน
"คือฉัน..."
"อะไร!"
"คิดว่าคุณเหมือน.."
"เหมือนอะไร!"ราพณ์ใช้ท่อนแขนกักตัวของหญิงสาวเอาไว้ก่อนจะค่อยๆยื่นหน้าเข้ามาหาสริญดาจนเธอต้องหลับตาพร้อมกับพูดความจริงออกมา
"เหมือนหนอนที่บ้านแม่ครูน่ะค่ะ"
"หนอนหรือ!"
"ค่ะก็เจ้าหนอนตัวนั่นมันมีแว่นรอบตาด้วยแต่ฉันไม่ได้ว่าคุณนะคะเพราะหนอนตัวนั้นมันน่ารัก"สริญดาตอบอย่างไร้เดียงสาราพณ์กัดฟันแน่นไม่ใช่เพราะโกรธแต่เพราะกลัวจะหลุดขำออกมา
"ใครบอกคุณว่าผมเหมือนหนอน"
"เปล่าค่ะ...ฉันคิดเอง..ขอโทษนะคะคุณราพณ์"สริญดาพูดด้วยน้ำเสียงสำนึกผิดก่อนจะสัมผัสในถึงลมหายใจของราพณ์ที่ใบหูของเธอ
"ผมไม่หนอนหรอกนะ..มังกรตั้งหากสาวๆเขาบอกผมอย่างนั้น"ราพณ์พูดก่อนจะผละออกจากสริญดาที่ยืนทำหน้างงๆอยู่
"สาวๆเหรอคะ......คุณราพณ์!"เมื่อถึงบางอ้อสริญดาก็ใช้มือตีเข้าไปที่แขนของเขาก่อนที่ใบหน้าจะแสดงอาการเขินอายออกมา
"55555คุณมาตีผมทำไมล่ะครับเนี่ย"
"คนโรคจิต!ฉันไม่คุยกับคุณแล้วนะคะ"พูดจบสริญดาก็คว้ากระเป๋าเดินหนีชายหนุ่มไปราพณ์มองภาพนั้นก่อนจะยิ้มออกมาแล้วจึงรีบเดินตามไปง้อหญิงสาว
"รอผมด้วยสิครับ..สริญดา"
………………………………………………………………
บริเวณสวนหลังมหาวิทยาลัย
"มาแล้วหรือ"ทศคินทร์ยิ้มก่อนจะเดินมาเปิดประตูให้มัศยาแต่ถูกเธอทำหน้าบึ้งตึงใส่
"หยุดเลยนะ!ฉันนึกไว้แล้วเชียวว่าทำไมเมื่อคืนฉันถึงไม่รู้สึกตัวเลยฝีมือคุณใช่ไหม"มัศยาถามเสียงดุแต่ดูเหมือนคนที่เธอถามจะไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
"ผมจะไปร่ายมนต์ใส่คุณทำไมล่ะมัศยา"
"ก็เพื่อช่วยผู้หญิงที่ชื่อสริญดาไง..ใช่ไหมทศคินทร์"
"ผมไม่มีอะไรจะอธิบาย"ทศคินทร์ยักไหล่ขึ้นก่อนจะยิ้มให้มัศยา
"โกรธผมหรือมัศยา"
"สมควรโกรธไหมล่ะ...ยักษ์เอาแต่ใจ"มัศยาพูดก่อนจะหันหน้าหนีแต่ทันใดนั้นเธอก็ถูกทศคินทร์ดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
"โกรธที่ผมสนใจคนอื่นหรือ..มัศยา"
"ปล่อยนะ!..ฉันไม่มีสิทธิ์ไปโกรธคุณหรอกนะเพราะคุณคือยักษาผู้เป็นใหญ่ผิดกับฉัน"พูดจบมัศยาก็ผละออกจากทศคินทร์ก่อนจะมองหน้าเขาด้วยแววตาที่อ่อนลง
"คุณรู้ไหมว่ามีคนอยากกำจัดคุณมากมายถ้าคุณก้าวพลาดก็มีคนจ้องจะเหยียบคุณ..เลิกทำเพื่อคนอื่นสักทีเถอะนะทศคินทร์ฉันเป็นห่วงคุณ"มัศยาเผยความในใจออกมาทศคินทร์นิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะมองมัศยา
"ผมจะดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้..มัศยา"ทศคินทร์พูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มมัศยายิ้มออกมาก่อนจะพยักหน้าแล้วเดินขึ้นรถไปมีเพียงทศคินทร์ที่ความเศร้าเริ่มแสดงออกมาทางแววตาอีกครั้งเหมือนที่เป็นมาตลอด
"ผมจะพยายาม"
………………………………………………………………
"หายโกรธผมนะสริญดา"ราพณ์พูดก่อนจะตรงมาดักหน้าสริญดา
"ฉันไม่ได้โกรธคุณนี่คะ"สริญดาพูดก่อนจะยิ้มออกมา
"จริงนะครับ"
"ค่ะ"
"งั้นให้ผมไปส่งที่บ้านนะและห้ามเกรงใจด้วย!"พูดจบราพณ์ก็เดินที่รถทันทีสริญดาได้แต่มองตามก่อนจะเดินตามเขามาพร้อมขึ้นไปนั่งบนรถมอเตอร์ไซด์ของเขา
"กอดผมไว้นะ"
"ค่ะ..ฉันไม่ตกแน่นอน"
"ไม่ใช่!ผมหมายถึง...กอดผมเอาไว้นะ"ราพณ์พูดก่อนที่ทั้งสองคนจะสบตากันราพณ์มองสริญดาก่อนจะเรียกสติและหลบตาของเธอทันที
"เอ่อ...ผม...ผมจะไปแล้วนะ"
"ค่ะ...."สริญดาตอบกลับก่อนจะใช้มือโอบเขาจากด้านหลังพลันรถเคลื่อนตัวออกโดยไม่มีคำพูดอะไรของทั้งสองคนจนเมื่อมาถึงบริเวณที่สองข้างทางเป็นป่า
"คุณราพณ์คะ!!"สริญดาอุทานเพราะมีชายหนุ่มร่างกายกำยำสองคนยืนขวางถนนพร้อมดาบคนละเล่มราพณ์มองอย่างหาหนทางก่อนจะตัดสินใจหักรถลงข้างทางเป็นเหตุให้เขาและสริญดาตกลงข้างทางพร้อมกัน
"กริ๊ด!!!!"สริญดากริ๊ดร้องก่อนที่เสียงจะเงียบไปพิเชียรและอนุชิตยืนมองผลงานตัวเองก่อนจะส่งกระแสจิตบอกพวกของตนว่าราพณ์และสริญดาถูกกำจัด
"ทศคินทร์"มัศยามองมาทางทศคินทร์ที่จู่ๆก็จอดรถอย่างกระทันหันพร้อมด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก
"คุณเป็นอะไรทศคินทร์"มัศยาถามขึ้นอีกครั้งก่อนจะรับรู้ถึงกระแสจิตของพิเชียรและอนุชิตซึ่งเธอคิดว่าคงเป็นเรื่องนี้ที่ทำให้ทศคินทร์จอดรถกระทันหันแต่ว่าการที่ผู้ล่ายักษ์ตายทำไมทศคินทร์ผู้แสนเย็นชาถึงดูตกใจอย่างนั้น
"เราจะไปที่ที่พิเชียรและอนุชิตอยู่ตอนนี้"พูดจบทศคินทร์ก็เหยียบคันเร่งออกรถอย่างแรงจนมัศยาตั้งตัวไม่ทันแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมากมาย
………………………………………………………………
ที่เกิดเหตุ
ราพณ์ค่อยๆขยับตัวหลังจากที่เขาหักรถจนตกเนินก่อนจะมองหาสริญดา
"สริญดา!"ราพณ์รีบตรงมาที่หญิงสาวก่อนจะพยุงตัวเธอขึ้นพร้อมมองด้วยเธอความเป็นห่วง
"คุณเป็นอะไรมากไหมสริญดาเจ็บตรงไหนหรือเปล่า"
"ไม่หรอกค่ะคุณล่ะคะ"สริญดาถามก่อนที่จะมองตามเนื้อตัวของราพณ์
"ผมไม่เป็นอะไรคุณไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว"ราพณ์พูดก่อนจะดึงมือสริญดาให้เดินไปอีกทาง
"คุณจะพาฉันไปไหนคะ"
"ตามผมมาเถอะนะ"ราพณ์ตอบก่อนจะดึงมือหญิงสาวให้ตามมาในขณะเดียวกันรถของทศคินทร์ก็มาถึงพอดี
"เป็นไงทศคินทร์ฉันฆ่าไอ้ผู้ฆ่ายักษ์ได้แล้ว"พิเชียรพูดอย่างโอ้อวดก่อนจะเห็นสีหน้าของทศคินทร์ดูมีทีท่าไม่พอใจ
"ไม่ใช่แค่ผู้ฆ่ายักษ์แต่มีคนอื่นด้วย!"น้ำเสียงที่ดุดันเปล่งออกมาจากริมฝีปากของทศคินทร์เขามองมาที่พิเชียรอย่างต้องการคำอธิบาย
"ก็แค่คนๆเดียว"พิเชียรตอบอย่างไม่ใส่ใจ
"คุณลืมกฏของผมแล้วหรือ!"ทศคินทร์พูดก่อนที่พิเชียรและอนุชิตจะเงียบลงทศคินทร์มองอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะหลับตาสัมผัสถึงสริญดาเสียงหัวใจของเขายังดังอยู่แปลว่าสริญดายังไม่ตาย
………………………………………………………………
ตัวอย่างตอนต่อไป>>
ราพณ์ก้มหน้าลงแววตาแสดงความเสียใจออกมาสริญดามองเขาอย่างเห็นใจก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือของเขาเอาไว้ทั้งสองสบตากันก่อนจะราพณ์จะดึงสริญดาเข้ามากอดพร้อมกับหลั่งน้ำตาที่เขาอัดอั้นตันใจมานานออกมา
"ผมไม่เหลืออะไรเลยสริญดา"
"ใครบอกล่ะคะถ้าไม่มีใครฉันก็จะอยู่เคียงข้างคุณเอง"สริญดาพูดก่อนจะกอดปลอบใจราพณ์เขารู้สึกอบอุ่นที่ได้อยู่กับเธอความรู้สึกอยากปกป้องอยากดูแลมันคืออะไรกันนะ!
AThousandYears
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 พ.ย. 2558, 22:50:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 พ.ย. 2558, 23:06:32 น.
จำนวนการเข้าชม : 1225
<< เสือสมิง | แผนการร้าย >> |
AThousandYears 23 พ.ย. 2558, 23:18:50 น.
สวัสดีนักอ่านที่น่ารักทุกคนนะคะอีกไม่กี่วันจะลอยกระทงแล้วเนอะขอให้สนุกกันนะคะ
สวัสดีนักอ่านที่น่ารักทุกคนนะคะอีกไม่กี่วันจะลอยกระทงแล้วเนอะขอให้สนุกกันนะคะ
สายลมที่พัดวน 23 พ.ย. 2558, 23:23:23 น.
ทำไมยิ่งเราอ่านยิ่งรู้สึกรักพี่เสียดายน้องจังอ่า
ทำไมยิ่งเราอ่านยิ่งรู้สึกรักพี่เสียดายน้องจังอ่า
konhin 24 พ.ย. 2558, 08:29:40 น.
เหมือนกันเลย รักพี่เสียดายน้องงงงงงง
เหมือนกันเลย รักพี่เสียดายน้องงงงงงง
AThousandYears 24 พ.ย. 2558, 23:24:00 น.
ตอนต่อไปลงวันพุธนะคะขอบคุณที่ติดตามค่ะ
ตอนต่อไปลงวันพุธนะคะขอบคุณที่ติดตามค่ะ