ยักษา
ชีวิตไม่มีอะไรที่แน่นอน
"คนหนึ่ง"เกิดมาทำตามที่ฟ้าลิขิต
"อีกคน"เกิดมาโดยเลือกทางเดินของตัวเอง
พวกเขาถูกลิขิตให้เกิดมาเป็นศัตรูกันแต่สิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันคือปกป้อง"เธอ"ผู้หญิงที่เขารักให้พ้นจากอันตรายด้วยชีวิตของพวกเขากับสองสายเลือดที่ไม่อาจจะลงรอยกันได้ระหว่างคนกับ...ยักษ์
"พวกเราเลือกเกิดไม่ได้จึงต้องเกิดมาเป็นแบบนี้เมื่อถูกลิขิตให้เป็นแบบนี้เราก็ต้องเป็นแบบนี้...ตามที่ฟ้าลิขิต"
"คนหนึ่ง"เกิดมาทำตามที่ฟ้าลิขิต
"อีกคน"เกิดมาโดยเลือกทางเดินของตัวเอง
พวกเขาถูกลิขิตให้เกิดมาเป็นศัตรูกันแต่สิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันคือปกป้อง"เธอ"ผู้หญิงที่เขารักให้พ้นจากอันตรายด้วยชีวิตของพวกเขากับสองสายเลือดที่ไม่อาจจะลงรอยกันได้ระหว่างคนกับ...ยักษ์
"พวกเราเลือกเกิดไม่ได้จึงต้องเกิดมาเป็นแบบนี้เมื่อถูกลิขิตให้เป็นแบบนี้เราก็ต้องเป็นแบบนี้...ตามที่ฟ้าลิขิต"
Tags: ยักษ์ สยองขวัญ ช่วงชิง ความรัก
ตอน: เส้นขนาน
"ต้องทำถึงขนาดนั้นเชียวหรือ"
สริญดาครุ่นคิดอยู่ในใจถึงจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ราพณ์อธิบายแต่ก็ปฏิเสธความจริงไปไม่ได้สองมือยกขึ้นทาบตรงหัวใจของตัวเองจริงหรือที่หัวใจของเขาอยู่ในนี้....
"...พวกเราเลือกเกิดไม่ได้จึงต้องเกิดมาเป็นแบบนี้เมื่อถูกลิขิตให้เป็นแบบนี้ก็ต้องเป็นแบบนี้..ตามที่ฟ้าลิขิต.." คำพูดที่ตัดพ้อต่อพระเจ้าของทศคินทร์ยังดังก้องอยู่ในหัวใจของสริญดาและคิดว่าเขาคงรับรู้ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสนผู้ชายคนนั้นที่ราพณ์เรียกว่ายักษาคนที่ฆ่าพ่อแม่ของราพณ์และผู้ชายที่เคยช่วยชีวิตเธอเขากำลังทำอะไรทำไมต้องเอาใช้หัวใจของเธอห่อหุ้มหัวใจของเขาหรือเพื่อที่จะแก้แค้นราพณ์....
"คิดอะไรอยู่หรือ..."เสียงทุ้มดังขึ้นข้างๆสริญดาเธอเงยหน้ามองก็พบว่าราพณ์กำลังยืนอยู่เคียงข้างเธอซึ่งเธอไม่รู้เลยว่าเขามายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
"คุณกับเขาตกลงกันแล้วหรือคะ..."สริญดาเอ่ยถามก่อนจะมองเสี้ยวหน้าของราพณ์
"อืม....เขาทำให้คุณมีอันตรายถ้าเกิดยักษ์หรือนักล่ายักษ์แบบผมรู้ว่าคุณมีหัวใจของเจ้าแห่งยักษาอยู่ล่ะก็...."
"พวกเขาจะฆ่าฉัน..ใช่ไหมคะ"
"คุณไม่ต้องกลัวหรอกนะผมร่ายคาถาบังตาบ้านหลังนี้เอาไว้แล้วนอกจากอนุชิตก็จะไม่มียักษ์ตนไหนเห็นบ้านหลังนี้อีก"
"คุณราพณ์ไว้ใจคุณอนุชิตแล้วหรือคะ"
"ไม่หรอก..แต่เขาคือคนที่จะล่อทศคินทร์ออกมาได้...ผมต้องฆ่าเขาหวังว่าคุณจะเข้าใจผมนะสริญดา"
"ฉันเข้าใจค่ะ..ขอบคุณนะคะที่พวกคุณไม่ฆ่าฉัน"สริญดายิ้มบางๆราพณ์ยิ้มตอบเธอก่อนจะหันมามองเธอด้วยแววตาที่อ่อนโยนเส้นผมสีดำขลับของเขาปลิวตามลมเล็กน้อยก่อนที่ท่าทีของเขาจะแสดงทีท่าผ่อนคลายออกมา
"คุณเข้มแข็งกว่าที่ผมคิดไว้อีกนะสริญดา"พูดจบราพณ์ก็ได้รับรอยยิ้มจากสริญดาอีกครั้งเขาจึงดึงเธอมาในอ้อมกอดซึ่งเธอก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใดทั้งสองต่างครุ่นคิดเรื่องของตัวเองและคิดถึงอนาคตที่กำลังจะมาถึงในเร็วๆนี้
……………………………………………………………
วันต่อมา
ที่มหาวิทยาลัย
สริญดาเก็บกระเป๋าลุกขึ้นจากโต๊ะเรียนด้วยท่าทีราวกับซากศพวันนี้เธออยากจะอยู่ที่วัดทั้งวันแต่ราพณ์กลับขอร้องให้เธอมาเรียนและเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจซึ่งมันไม่ง่ายเอาเสียเลยในเวลาอย่างนี้
"นั้นมันนางสีดาในงานเลี้ยงเมื่อเดือนก่อนนี่"วิไลวรรณยักษิณีในร่างมนุษย์กล่าวพลางชี้ให้บุหงาและเปรมปรีกาดู
"จริงด้วยวันนั้นฉันเชื่อเลยว่านางนั่นต้องการอ่อยท่านทศคินทร์แน่ๆ"เปรมปรีกากล่าวก่อนจะเห็นรอยยิ้มของบุหงาปรากฏขึ้น
"พวกเธอ....มีใครอยากกินเนื้อนางสีดาไหม"บุหงาถามซึ่งยักษิณีทั้งสองตนพยักหน้าก่อนจะมองไปทางสริญดาพร้อมกับเลียปากไปมาด้วยความกระหาย
"ฉันกลับก่อนนะสริญดา"หญิงสาวคนหนึ่งกล่าวก่อนจะเดินควงแขนออกไปกับแฟนหนุ่มสริญดามองออกไปนอกหน้าต่างก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาเย็นจัดแล้วหญิงสาวรีบคว้าอุปกรณ์ทำรายงานลงกระเป๋าก่อนจะเดินออกมาจากห้องเรียนเมื่อมองลงไปข้างล่างเห็นว่ายังมีนักศึกษาเตะบอลกันอยู่เธอก็เบาใจไปได้เยอะแต่พอจะก้าวลงบันไดเธอก็ถอยเพราบุหงา เปรมปรีกา และวิไลวรรณเดินขึ้นมาพร้อมมองสริญดาด้วยแววตาเย้ยหยัน
"ขอทางหน่อยนะคะ"สริญดากล่าวพร้อมจะเดินผ่านทั้งสามแต่เธอถูกเปรมปรีกากระชากแขนแล้วผลักจนเธอล้มลงกับพื้น
"จะรีบไปไหนล่ะอยู่เป็นเพื่อนฉันก่อนสิ"เปรมปรีกาแสยะยิ้มออกมาพร้อมยื่นมาทางสริญดาหญิงสาวมองทั้งสามก็รู้ทันทีว่าพวกเธอมาแบบเป็นมิตรเธอจึงลุกขึ้นเองพร้อมกับกับก้มเก็บกระดาษรายงานท่ามกลางเสียงหัวเราะเยาะของยักษิณีสาวทั้งสามจนเหลือเพียงใบสุดท้ายบุหงาก็เอาเท้ามาเหยียบเอาไว้
"ฉันขอกระดาษคืนด้วยค่ะ"สริญดากล่าวแต่บุหงากับยิ้มก่อนจะพูดขึ้น
"กราบเท้าฉันสิพวกมนุษย์ชั้นต่ำ!"สิ้นคำพูดของบุหงาเปรมปรีกาและวิไลวรรณก็หัวเราะเยาะสริญดาอย่างมีความสุขสริญดามองบุหงาอย่างไม่พอใจก่อนจะลุกขึ้นลุกขึ้นเผชิญหน้ากับบุหงา
"ฉันว่าเราก็ยืนอยู่เท่ากันนะคะหรือว่าคุณอยู่ในชั้นเดียวกับฉัน"
"แกว่าพวกเราชั้นต่ำเหรอ!"วิไลวรรณเอ่ยอย่างโมโหเช่นเดียวกับบุหงา
"ปากดีนักนะสริญดา!"
"ฉันทางพวกเธอดีๆแต่พวกเธอยังเข้ามาหาเรื่องฉัน...การศึกษาไม่ได้ช่วยอะไรเธอจริงๆ"พูดจบบุหงาก็ผลักไหล่สริญดาอย่างแรงจนเธอกระแทกเข้ากับกำแพงไปเต็มๆพลันเปรมปรีกาเดินเข้ามาจิกผมสริญดาพร้อมจับหัวของสริญดากระแทกเข้ากับกำแพงจนเลือดไหลออกมาและทรุดลงกับพื้น
"กลิ่นเลือดมันหอมจริงๆนะบุหงา"วิไลวรรณทำท่าทีสูดดมสริญดาค่อยๆเขยิบหนีพร้อมใช้มือจับไปที่ศีรษะที่มีเลือดไหลออกมาบุหงามองภาพนั้นอย่างมีความสุขพร้อมกับยกมือขึ้นเตรียมจะขย้ำสริญดาแต่ว่า......
"คุณ....."สริญดาเบิกตาโพล่งเช่นเดียวกับยักษิณีทั้งสามข้อมือของบุหงาถูกมือของชายหนุ่มที่ทุกคนต่างหวาดกลัวกำเอาไว้แน่นดวงตาสีเปลี่ยนเป็นสีเทาทั้งดวงพร้อมกับจ้องมองบุหงาด้วยท่าทีไม่พอใจเป็นอย่างมาก!
"ท่าน..ท่านยักษาผู้เป็นใหญ่"วิไลวรรณกล่าวอย่างกล้าๆกลัวๆก่อนที่ทศคินทร์จะปล่อยมือของบุหงาออกยักษิณีสาวทั้งสามแสดงสีหน้าหวาดกลัวก่อนจะพากันออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็วดวงตาของทศคินทร์ค่อยๆกลับมาเป็นปรกติก่อนจะมองมาทางสริญดาและยื่นมือมาให้เธอโดยไม่พูดอะไรเช่นเดียวกับสริญดาเธอลุกขึ้นโดยไม่สัมผัสมือเขาพร้อมกับหนีเขาโดยไม่พูดอะไรหรือแม้แต่สบตาเขาอีกเลยทศคินทร์มองตามหลังสริญดาก่อนจะหลับตาลงอย่างแผ่วเบาเธอคงรู้แล้วว่าเขาทำอะไรกับเธอไว้บ้าง....
……………………………………………………………
ราพณ์รีบจอดรถอย่างรวดเร็วพร้อมกับวิ่งเข้ามาในมหาวิทยาลัยอย่างรวดเร็วก่อนจะสบถด่าตัวเองที่มาช้าแต่นั่นก็เพราะเขามีเหตุผลบางอย่างซึ่งเขาเลือกที่จะไม่บอกสริญดาเพราะถ้าบอกไปแล้วเธออาจจะไม่สบายใจจนเมื่อมาถึงบริเวณโต๊ะไม้หินอ่อนเขาก็รู้สึกโล่งใจที่สริญดายังปลอดภัยอยู่
"คุณรอผมนานไหมสริญดา..ผมขอโทษนะที่มาช้า.."
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะดีซะอีกฉันได้นั่งเล่นนานๆไม่ต้องอุดอู้อยู่ที่บ้านถ้างั้นเรากลับกันเถอะนะคะ"พูดจบสริญดาก็ลุกขึ้นพร้อมกับเอามือกุมศีรษะเอาไว้เพราะกลัวว่าราพณ์จะสังเกตเห็นพร้อมกับเดินนำหน้าราพณ์ซึ่งเขาไม่ขยับร่างกายของตัวเองเลยแม้แต่น้อยก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวจนสริญดาหยุดชะงักไปในทันที
"ศีรษะคุณไปโดนอะไรมาสริญดา!"
……………………………………………………………
ตอนต่อไป>>
ราพณ์ใช้มือลูบแก้มของสริญดาอย่างแผ่วเบาก่อนจะถอดแหวนทองรูปพญานาคที่ฝั่งเพชรสีเขียวมรกตออกแล้วใส่ที่นิ้วนางข้างซ้ายของสริญดาอย่างเบามือ
"ตอนที่พ่อแม่ผมตาย...ผมสาบานกับตัวเองไว้ว่าครึ่งชีวิตที่เหลือผมจะตามฆ่าคนที่พรากคนที่ผมรักที่สุดในชีวิตแต่วันนี้ผมจะขอสาบานผมอีกหนึ่งข้อ...ลมหายใจที่เหลืออยู่ในชีวิตของผู้ชายคนนี้ผมขอใช้มันปกป้องคนที่ผมรักด้วยชีวิตดูแลและอยู่เคียงข้างเธอโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน..ผมขอแค่ได้รักและปกป้องเธอจนกว่าลมหายใจที่มีจะสิ้นสุดลง...."
สริญดาครุ่นคิดอยู่ในใจถึงจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ราพณ์อธิบายแต่ก็ปฏิเสธความจริงไปไม่ได้สองมือยกขึ้นทาบตรงหัวใจของตัวเองจริงหรือที่หัวใจของเขาอยู่ในนี้....
"...พวกเราเลือกเกิดไม่ได้จึงต้องเกิดมาเป็นแบบนี้เมื่อถูกลิขิตให้เป็นแบบนี้ก็ต้องเป็นแบบนี้..ตามที่ฟ้าลิขิต.." คำพูดที่ตัดพ้อต่อพระเจ้าของทศคินทร์ยังดังก้องอยู่ในหัวใจของสริญดาและคิดว่าเขาคงรับรู้ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสนผู้ชายคนนั้นที่ราพณ์เรียกว่ายักษาคนที่ฆ่าพ่อแม่ของราพณ์และผู้ชายที่เคยช่วยชีวิตเธอเขากำลังทำอะไรทำไมต้องเอาใช้หัวใจของเธอห่อหุ้มหัวใจของเขาหรือเพื่อที่จะแก้แค้นราพณ์....
"คิดอะไรอยู่หรือ..."เสียงทุ้มดังขึ้นข้างๆสริญดาเธอเงยหน้ามองก็พบว่าราพณ์กำลังยืนอยู่เคียงข้างเธอซึ่งเธอไม่รู้เลยว่าเขามายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
"คุณกับเขาตกลงกันแล้วหรือคะ..."สริญดาเอ่ยถามก่อนจะมองเสี้ยวหน้าของราพณ์
"อืม....เขาทำให้คุณมีอันตรายถ้าเกิดยักษ์หรือนักล่ายักษ์แบบผมรู้ว่าคุณมีหัวใจของเจ้าแห่งยักษาอยู่ล่ะก็...."
"พวกเขาจะฆ่าฉัน..ใช่ไหมคะ"
"คุณไม่ต้องกลัวหรอกนะผมร่ายคาถาบังตาบ้านหลังนี้เอาไว้แล้วนอกจากอนุชิตก็จะไม่มียักษ์ตนไหนเห็นบ้านหลังนี้อีก"
"คุณราพณ์ไว้ใจคุณอนุชิตแล้วหรือคะ"
"ไม่หรอก..แต่เขาคือคนที่จะล่อทศคินทร์ออกมาได้...ผมต้องฆ่าเขาหวังว่าคุณจะเข้าใจผมนะสริญดา"
"ฉันเข้าใจค่ะ..ขอบคุณนะคะที่พวกคุณไม่ฆ่าฉัน"สริญดายิ้มบางๆราพณ์ยิ้มตอบเธอก่อนจะหันมามองเธอด้วยแววตาที่อ่อนโยนเส้นผมสีดำขลับของเขาปลิวตามลมเล็กน้อยก่อนที่ท่าทีของเขาจะแสดงทีท่าผ่อนคลายออกมา
"คุณเข้มแข็งกว่าที่ผมคิดไว้อีกนะสริญดา"พูดจบราพณ์ก็ได้รับรอยยิ้มจากสริญดาอีกครั้งเขาจึงดึงเธอมาในอ้อมกอดซึ่งเธอก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใดทั้งสองต่างครุ่นคิดเรื่องของตัวเองและคิดถึงอนาคตที่กำลังจะมาถึงในเร็วๆนี้
……………………………………………………………
วันต่อมา
ที่มหาวิทยาลัย
สริญดาเก็บกระเป๋าลุกขึ้นจากโต๊ะเรียนด้วยท่าทีราวกับซากศพวันนี้เธออยากจะอยู่ที่วัดทั้งวันแต่ราพณ์กลับขอร้องให้เธอมาเรียนและเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจซึ่งมันไม่ง่ายเอาเสียเลยในเวลาอย่างนี้
"นั้นมันนางสีดาในงานเลี้ยงเมื่อเดือนก่อนนี่"วิไลวรรณยักษิณีในร่างมนุษย์กล่าวพลางชี้ให้บุหงาและเปรมปรีกาดู
"จริงด้วยวันนั้นฉันเชื่อเลยว่านางนั่นต้องการอ่อยท่านทศคินทร์แน่ๆ"เปรมปรีกากล่าวก่อนจะเห็นรอยยิ้มของบุหงาปรากฏขึ้น
"พวกเธอ....มีใครอยากกินเนื้อนางสีดาไหม"บุหงาถามซึ่งยักษิณีทั้งสองตนพยักหน้าก่อนจะมองไปทางสริญดาพร้อมกับเลียปากไปมาด้วยความกระหาย
"ฉันกลับก่อนนะสริญดา"หญิงสาวคนหนึ่งกล่าวก่อนจะเดินควงแขนออกไปกับแฟนหนุ่มสริญดามองออกไปนอกหน้าต่างก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาเย็นจัดแล้วหญิงสาวรีบคว้าอุปกรณ์ทำรายงานลงกระเป๋าก่อนจะเดินออกมาจากห้องเรียนเมื่อมองลงไปข้างล่างเห็นว่ายังมีนักศึกษาเตะบอลกันอยู่เธอก็เบาใจไปได้เยอะแต่พอจะก้าวลงบันไดเธอก็ถอยเพราบุหงา เปรมปรีกา และวิไลวรรณเดินขึ้นมาพร้อมมองสริญดาด้วยแววตาเย้ยหยัน
"ขอทางหน่อยนะคะ"สริญดากล่าวพร้อมจะเดินผ่านทั้งสามแต่เธอถูกเปรมปรีกากระชากแขนแล้วผลักจนเธอล้มลงกับพื้น
"จะรีบไปไหนล่ะอยู่เป็นเพื่อนฉันก่อนสิ"เปรมปรีกาแสยะยิ้มออกมาพร้อมยื่นมาทางสริญดาหญิงสาวมองทั้งสามก็รู้ทันทีว่าพวกเธอมาแบบเป็นมิตรเธอจึงลุกขึ้นเองพร้อมกับกับก้มเก็บกระดาษรายงานท่ามกลางเสียงหัวเราะเยาะของยักษิณีสาวทั้งสามจนเหลือเพียงใบสุดท้ายบุหงาก็เอาเท้ามาเหยียบเอาไว้
"ฉันขอกระดาษคืนด้วยค่ะ"สริญดากล่าวแต่บุหงากับยิ้มก่อนจะพูดขึ้น
"กราบเท้าฉันสิพวกมนุษย์ชั้นต่ำ!"สิ้นคำพูดของบุหงาเปรมปรีกาและวิไลวรรณก็หัวเราะเยาะสริญดาอย่างมีความสุขสริญดามองบุหงาอย่างไม่พอใจก่อนจะลุกขึ้นลุกขึ้นเผชิญหน้ากับบุหงา
"ฉันว่าเราก็ยืนอยู่เท่ากันนะคะหรือว่าคุณอยู่ในชั้นเดียวกับฉัน"
"แกว่าพวกเราชั้นต่ำเหรอ!"วิไลวรรณเอ่ยอย่างโมโหเช่นเดียวกับบุหงา
"ปากดีนักนะสริญดา!"
"ฉันทางพวกเธอดีๆแต่พวกเธอยังเข้ามาหาเรื่องฉัน...การศึกษาไม่ได้ช่วยอะไรเธอจริงๆ"พูดจบบุหงาก็ผลักไหล่สริญดาอย่างแรงจนเธอกระแทกเข้ากับกำแพงไปเต็มๆพลันเปรมปรีกาเดินเข้ามาจิกผมสริญดาพร้อมจับหัวของสริญดากระแทกเข้ากับกำแพงจนเลือดไหลออกมาและทรุดลงกับพื้น
"กลิ่นเลือดมันหอมจริงๆนะบุหงา"วิไลวรรณทำท่าทีสูดดมสริญดาค่อยๆเขยิบหนีพร้อมใช้มือจับไปที่ศีรษะที่มีเลือดไหลออกมาบุหงามองภาพนั้นอย่างมีความสุขพร้อมกับยกมือขึ้นเตรียมจะขย้ำสริญดาแต่ว่า......
"คุณ....."สริญดาเบิกตาโพล่งเช่นเดียวกับยักษิณีทั้งสามข้อมือของบุหงาถูกมือของชายหนุ่มที่ทุกคนต่างหวาดกลัวกำเอาไว้แน่นดวงตาสีเปลี่ยนเป็นสีเทาทั้งดวงพร้อมกับจ้องมองบุหงาด้วยท่าทีไม่พอใจเป็นอย่างมาก!
"ท่าน..ท่านยักษาผู้เป็นใหญ่"วิไลวรรณกล่าวอย่างกล้าๆกลัวๆก่อนที่ทศคินทร์จะปล่อยมือของบุหงาออกยักษิณีสาวทั้งสามแสดงสีหน้าหวาดกลัวก่อนจะพากันออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็วดวงตาของทศคินทร์ค่อยๆกลับมาเป็นปรกติก่อนจะมองมาทางสริญดาและยื่นมือมาให้เธอโดยไม่พูดอะไรเช่นเดียวกับสริญดาเธอลุกขึ้นโดยไม่สัมผัสมือเขาพร้อมกับหนีเขาโดยไม่พูดอะไรหรือแม้แต่สบตาเขาอีกเลยทศคินทร์มองตามหลังสริญดาก่อนจะหลับตาลงอย่างแผ่วเบาเธอคงรู้แล้วว่าเขาทำอะไรกับเธอไว้บ้าง....
……………………………………………………………
ราพณ์รีบจอดรถอย่างรวดเร็วพร้อมกับวิ่งเข้ามาในมหาวิทยาลัยอย่างรวดเร็วก่อนจะสบถด่าตัวเองที่มาช้าแต่นั่นก็เพราะเขามีเหตุผลบางอย่างซึ่งเขาเลือกที่จะไม่บอกสริญดาเพราะถ้าบอกไปแล้วเธออาจจะไม่สบายใจจนเมื่อมาถึงบริเวณโต๊ะไม้หินอ่อนเขาก็รู้สึกโล่งใจที่สริญดายังปลอดภัยอยู่
"คุณรอผมนานไหมสริญดา..ผมขอโทษนะที่มาช้า.."
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะดีซะอีกฉันได้นั่งเล่นนานๆไม่ต้องอุดอู้อยู่ที่บ้านถ้างั้นเรากลับกันเถอะนะคะ"พูดจบสริญดาก็ลุกขึ้นพร้อมกับเอามือกุมศีรษะเอาไว้เพราะกลัวว่าราพณ์จะสังเกตเห็นพร้อมกับเดินนำหน้าราพณ์ซึ่งเขาไม่ขยับร่างกายของตัวเองเลยแม้แต่น้อยก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวจนสริญดาหยุดชะงักไปในทันที
"ศีรษะคุณไปโดนอะไรมาสริญดา!"
……………………………………………………………
ตอนต่อไป>>
ราพณ์ใช้มือลูบแก้มของสริญดาอย่างแผ่วเบาก่อนจะถอดแหวนทองรูปพญานาคที่ฝั่งเพชรสีเขียวมรกตออกแล้วใส่ที่นิ้วนางข้างซ้ายของสริญดาอย่างเบามือ
"ตอนที่พ่อแม่ผมตาย...ผมสาบานกับตัวเองไว้ว่าครึ่งชีวิตที่เหลือผมจะตามฆ่าคนที่พรากคนที่ผมรักที่สุดในชีวิตแต่วันนี้ผมจะขอสาบานผมอีกหนึ่งข้อ...ลมหายใจที่เหลืออยู่ในชีวิตของผู้ชายคนนี้ผมขอใช้มันปกป้องคนที่ผมรักด้วยชีวิตดูแลและอยู่เคียงข้างเธอโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน..ผมขอแค่ได้รักและปกป้องเธอจนกว่าลมหายใจที่มีจะสิ้นสุดลง...."
AThousandYears
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ธ.ค. 2558, 16:12:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ธ.ค. 2558, 16:12:13 น.
จำนวนการเข้าชม : 1286
<< คนที่เคียงข้างกัน | คำสารภาพที่ออกมาไม่หมด >> |
AThousandYears 11 ธ.ค. 2558, 16:16:34 น.
วันนี้มาเร็วกว่าที่คิดอิอิยังไงก็เม้นคุยกันนะคะ
วันนี้มาเร็วกว่าที่คิดอิอิยังไงก็เม้นคุยกันนะคะ
คิมหันตุ์ 11 ธ.ค. 2558, 17:05:04 น.
งงเลย ไม่รุ้จะเชียร์ราพณ์หรือทศคินทร์ดี
งงเลย ไม่รุ้จะเชียร์ราพณ์หรือทศคินทร์ดี
Kim 11 ธ.ค. 2558, 22:18:04 น.
ไม่รู้จะเชียร์ใครดี แบบรักพี่เสียดายน้อง ราพณ์แสดงออกชัดเจนดีแต่ทศคินทร์พยายามซ่อนความรู้สึกที่มีต่อสริญดา
ไม่รู้จะเชียร์ใครดี แบบรักพี่เสียดายน้อง ราพณ์แสดงออกชัดเจนดีแต่ทศคินทร์พยายามซ่อนความรู้สึกที่มีต่อสริญดา
AThousandYears 11 ธ.ค. 2558, 23:04:33 น.
เพื่อนของไรเตอร์ที่มาอ่านยังบอกว่าไรเตอร์ใจร้ายเขียนซะเลือกไม่ถูกเลยว่าจะรักใครอิอิยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามอ่านอยู่นะคะ
คืนนี้ฝันดีค่ะ
เพื่อนของไรเตอร์ที่มาอ่านยังบอกว่าไรเตอร์ใจร้ายเขียนซะเลือกไม่ถูกเลยว่าจะรักใครอิอิยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามอ่านอยู่นะคะ
คืนนี้ฝันดีค่ะ