เล่ห์รักพรางแค้น วางแผงแล้ว สนพ ทัช
ใครจะไปคิดว่าการทำภารกิจให้ปู่ กลับกลายเป็นถูกโชคชะตากลั่นแกล้งให้เขาถูกสลัดลงจากคาน ยัยซื่อบื้อนั่นน่ะหรือคือไก่วัดที่ทำให้เขากลายเป็นสมภาร
Tags: ความรัก ความหลัง

ตอน: ตอนที่ 10 ครึ่งแรก

แสงดาวส่องประกายทักทายจากบนฟ้า เวลาได้ทำให้เกิดแรงดึงดูดบางอย่างที่มนุษย์ไม่อาจรู้ตัวจนกระทั่งถึงวินาทีหนึ่งที่ไม่อาจต้านแล้วพาตัวเองกลับไปยังจุดเดิมได้ ภาวัตยิ้มบางมองร่างเล็กกว่าเดินไปเกาะขอบกระจกหนาที่ปกป้องเธอไว้จากความสูงของชั้นดาดฟ้าในยามร้างลาผู้คน แสงไฟสีขาวสะท้อนนวลแก้มและริมฝีปาก...
ภาวัตสะบัดใบหน้าช่างน่ารำคาญความคิดเลือดเปื้อนตัวเอง เขาหาที่นั่งรออยู่ไม่นานมาลินก็ตามมาสมทบแต่นั่งเสียห่าง สายตามองไปไหนต่อไหนแทนที่จะมองมาทางเขาบ้าง
“ชอบไหมล่ะ ลมเย็นสบาย ไม่มีส่วนไหนน่ากลัวจนเธอคิดว่าจะถูกทำมิดีมิร้าย”
มาลินหันมายิ้มกว้างอย่างลืมตัว แต่พอถูกจ้องมองมาก็กลับไปเม้มปากดังเดิม “คุณวัตไม่ได้แย่ขนาดนั้นสักหน่อยนะคะ”
“แต่ก็ไม่ไว้ใจ” เขาเอ่ยไม่มีเสียงปฏิเสธเสียด้วย มันน่า... “เขยิบมานั่งใกล้ๆ สิฉันจะทำแผลให้”
มาลินยอมทำตามเป็นการแลกกัน เมื่อครู่ถ้าเขาดึงดันจะเข้าห้องให้ได้เธอคงผิดหวังที่มองผิดไป ที่จริงแล้วคนปากร้ายก็ใจดีในบางเวลา
แขนเสื้อถูกเม้นขึ้นให้อย่างเบามือ ภาวัตไม่เคยคิดจะออกถอดให้ แค่นี้ก็มองเขาอย่างกับจะทำอะไร เด็กน้อยเสียจริง ถ้าเขาจะทำอะไรขึ้นมาจริงๆ กวางตาแป๋วมีหรือจะเท่าทัน แผลถลอกเป็นปื้นยาว เลือดแห้งไปแล้วก็จริง แต่ผิวบางๆ ก็เป็นรอยไปแล้ว
“ทำไมตอนที่ฉันว่าถึงไม่เถียง ปล่อยให้ฉันเข้าใจผิดว่าเธอไม่รับผิดชอบ ทำให้ภาคเจ็บอยู่ได้ ถ้าฉันไม่ไปถามจากสาวใช้จะได้รู้ไหมว่าเธอทำอะไรเพื่อภาคบ้าง”
“ตอนนั้นถ้าลินพูดคุณวัตจะฟังไหมล่ะคะ หน้าตาเหมือนอยากบีบคอ” เธอเม้มปากก้มหน้าไม่อยากถูกมองมาอย่างไม่พอใจอีก
มือหนาชะงักค้างก่อนจะวางบนไหล่บาง เขาไม่เข้าใจผู้หญิงหรือไม่เข้าใจเธอแค่คนเดียวกันแน่
“ขอโทษ พอใจไหม...”
ใบหน้าจิ้มลิ้มเงยขึ้นมองภาวัตเหมือนเห็นอะไรงอกออกมา ปีกของเทพบุตรหรือว่าเขี้ยวของซาตานกันล่ะ
“ไม่เป็นไรค่ะ ลินก็ขอโทษที่ดูแลลูกชายของคุณวัตไม่ดี” ปุยหมอกหนาหนักในอกราวกับระเหิดหายไปในพริบตา คำขอโทษมาในเวลาที่อยากฟังมาพอดี “แต่...ช่างมันเถอะ ลินอาจจะคิดมากไปเองก็ได้”
“ต่อไปนี้ฉันจะรับฟังเธอ มีอะไรก็พูดมาได้เลย”
แผลทำให้เสร็จแล้ว แต่เรายังไม่ขยับไปไหน เอาเถอะน่า ลมกำลังเย็นสบาย ภาวัตเท้าคางรอฟัง
“รถที่เบียดจนเกือบชนมันคุ้นๆ มากค่ะ เหมือนรถโจทก์เก่าของเราสองคน”
ไม่ต้องเดาว่าใคร “ฉันจะตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าบ้านดู”
แล้วยังไงต่อล่ะ มาลินกลอกตาไปมานึกไม่ออกว่าจะพูดอะไร เธอไม่รู้ว่าพื้นเพของเขา ชอบหรือไม่ชอบอะไร ทำยังไงดี ขอกลับบ้านจะถูกว่าไหม
ความเงียบถูกแทนที่ด้วยเสียงเบาๆ แต่มันชัดเมื่อเรานั่งด้วยกันแค่สองคน มาลินอายก้มหน้างุดยกมือมากุมท้องไว้ ขายหน้าจนอยากมุดท่อน้ำหนี
“หิวแล้วล่ะสิ เรามาดินเนอร์ด้วยกันดีไหม วันนั้นที่ไปด้วยกัน เธอคงเกร็งจนกินอะไรไม่ลง วันนี้ฉันขอแก้ตัว” ไม่พูดเปล่าเขายังโทรหาร้านประจำที่อยู่ชั้นล่างให้นำอาหารขึ้นมาส่งถึงบนนี้
มาลินนั่งตัวลีบขยับตัวออกห่างไป ภาวัตวางสายมองแล้วยิ่งไม่เข้าใจ เขายังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ถ้าตะครุบตัวมากอดก็ว่าไปอย่าง
“เป็นอะไรอีก นั่งใกล้ฉันแล้วตะคริวจะขึ้นขาหรือไง”
สายตาไม่แน่ใจมองมาก่อนจะหลับหูหลับตากลั้นใจถาม “คุณวัตไม่ได้กำลังจีบลินอยู่ใช่ไหมคะ”
ภาวัตหัวเราะหนักมาก “เห็นฉันพยายามลากเธอขึ้นเตียงหรือยังล่ะ อยู่กับเธอทีไรรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นไอ้เฒ่าหัวงูทุกทีสิน่า”
มาลินถอนใจโล่งอกหัวเราะตาม คนหัวเราะก่อนชะงักมอง อย่างนี้สิค่อยอยู่ด้วยกันได้ยาวๆ การพูดตรงๆ ในเรื่องที่ควรซื่อตรงทำให้สบายใจ เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จ้องตะครุบเขาเหมือนกัน ไม่มีความหมายลึกซึ้งสื่อนัยในสายตาที่มองมา เธอบริสุทธิ์และสะอาดจนเขาไม่เอาตัวเองไปล้ำเส้นของความเป็นเจ้านายและลูกน้องในเวลานี้
แน่ล่ะสิ ใครจะไปคิดอะไรกับเด็กกะโปโล แค่เอ็นดูเท่านั้น ไม่มีอะไรแอบแฝง อาหารขึ้นมาส่งรอไม่นานจนทำให้คนหิวเป็นลม
“ทำไมเธอถึงเรียกคุณพัชนีว่าแม่ แทนที่จะเรียกว่าป้า”
มาลินมองภาวัต บางเรื่องคงเล่าให้เขาฟังได้ละมั้ง มันไม่ใช่ความลับอะไรนานจนเธอทำใจได้แล้ว
“เมื่อก่อนแม่พัชเคยมีลูกสาว แต่คิดสั้นฆ่าตัวตาย ประจวบกับพ่อแม่ของลินประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ตาก็เลยพาลินมาอยู่กับแม่ เราสองคนจะได้เป็นที่พึ่งทางใจของกันและกัน มาถึงตอนนี้ลินรักแม่พัชเหมือนแม่แท้ๆ อยากดูแลไปจนแก่เฒ่าด้วยกัน”
ถึงว่าหน้าตาของคุณพัชนีกับมาลินไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไหร่ คุณร่มธรรมก็อาภัพไม่น้อย คนใกล้ตัวตายกันอย่างกับใบไม้ร่วงทั้งน้องสาว ลูกสาว ลูกเขยจนมาหลานสาวอีกคน
“เสียใจเรื่องพ่อกับแม่ของเธออีกครั้งนะ”
เกือบ 5 ปีแล้ว เวลาเป็นผู้รักษาที่ดีงาม เธอยังรักพ่อกับแม่ แต่เวลาที่คิดถึงไม่จมไปด้วยน้ำตาอีกแล้ว ความทรงจำคงเหลือแต่ช่วงที่มีความสุข
“วันหลังลินจะพาคุณวัตไปรู้จักพ่อกับแม่ของลินนะคะ สำหรับเด็กอื่นๆ อาจคิดว่าใครก็ตามที่จากไปคงอยู่บนดวงดาว แต่สำหรับลิน พ่อกับแม่ยังอยู่ในใจและไม่เคยไปไหน ทุกครั้งที่ลินท้อแท้ ความรักที่ลินยังรับรู้ได้จะเป็นกำลังใจให้เสมอ”
ภาวัตมองมือที่ทาบอกไว้อย่างกับคนเข้มแข็ง ทั้งที่อ่อนแอเปราะบางเมื่ออยู่ในที่แคบและมืด เขาก็เคยสูญเสีย แต่โชคดีตรงที่เราได้บอกรักตอนจากลาแม้ว่าจะเด็กเพียงไม่กี่ขวบในตอนนั้น
“เรียนจบแล้วเธอจะทำอะไรต่อ”
“ช่วยตาทำโรงงานองุ่นเล็กๆ ให้มั่นคงพอจะดูแลทุกคนในบ้าน แล้วก็คนงานค่ะ มันคงยากมาก แต่ลินก็จะพยายามให้เก่งเหมือนคุณวัต”
สายตาสุกสกาวมองมาราวกับเขาเป็นฮีโร่ ภาวัตส่ายหน้า “ฉันไม่เก่งหรอก ทุกวันนี้ที่ทำได้ก็เพราะมีพี่ชายกับปู่คอยช่วย ไม่ได้บุกเบิกทุกอย่างมาด้วยตัวเองเลย”
“ไม่จริงหรอกค่ะ คุณวัตเก่ง แต่ไม่รู้ตัวต่างหาก ทั้งขับรถแข่ง ทำงานบริษัท ดูแลลูกชาย ลินคงทำไม่ได้อย่างคุณวัตหรอกค่ะ แค่ได้สักครึ่งก็ดีใจแล้ว”
เสียงหัวเราะเบาๆ ลอยตามลม ใครจะคิดว่ามาลินยังหาข้อดีอันน้อยนิดของเขามาได้
“ขอให้ทำจนสำเร็จนะ อยากให้ช่วยอะไรก็บอกฉันแล้วกัน ถ้าช่วยได้ ฉันเต็มใจ”
อาหารยังไม่หมด แต่ไม่มีใครแตะเพราะอิ่มแล้ว นาฬิกาบอกเวลาว่าเกือบ 5 ทุ่ม ทำไมถึงเร็วจนไม่ทันรู้ตัว ร่างสูงลุกขึ้น จากที่อยากขอโทษกลายเป็นนั่งคุยเล่นกับเด็ก เขาคงเปลี่ยนไปเพราะมีภาคเข้ามาในชีวิตแน่ๆ
“กลับกันดีกว่า เดี๋ยวนอกจากแขนกับมือที่ช้ำ เธอจะไม่สบายเพราะฉันไปอีกอย่าง”
ร่างสูงเดินลงบันไดมาชะลอฝีเท้าให้เสมอกันมาก่อนจะผ่านลิฟต์แล้วลงบันไดต่อ มาลินคว้าแขนเสื้อเขาไว้ แล้วรีบปล่อยด้วยความเกรงใจ
“ไม่ลงลิฟต์หรือคะ”
“ก็เธอกลัว แล้วตั้ง 18 ชั้น ถ้าช็อกขึ้นมาจะทำยังไง เดินลงไปด้วยกันนั่นแหละดีแล้ว หรือเธอเหนื่อยจะใช้ลิฟต์แทนก็ได้นะ ฉันก็แค่เป็นห่วง”
“ลินเป็นห่วงว่าคุณวัตจะเมื่อยมากกว่าต่างหากล่ะคะ”
เรียวปากหนาเผยอเปิด...ยิ้ม เดินตั้ง 18 ชั้นไม่สงสัยก็แปลกล่ะ สองหนุ่มสาวเดินเคียงกันไปเงียบๆ มาลินหันมามองเขาบ่อยครั้ง พอถูกจับได้ก็มองพื้นชวนให้ขบขัน จนอยากแกล้ง แต่เพื่ออะไรล่ะ เขาโตแล้ว 18 ชั้นผ่านไปอย่างเชื่องช้า ทว่าเร็วกว่าที่คิด ลอบบี้ด้านล่างเงียบ แต่ยังมีคนอยู่ แถมยังเป็นคนที่เขาอุตส่าห์ขับรถหนีมาถึงที่นี่ แต่ยังตามมาอีก
“หลบ...”
มือหนาคว้าแขนเรียวให้เลี้ยวแทนที่จะออกทางประตูหน้าที่ลัลนานั่งรออยู่ โชคดีที่สองสาวไม่ทันเห็นกัน มาลินเงยหน้ามองสงสัย
“เจอคนที่ไม่อยากเจอน่ะ เดินกันต่อเถอะ เดี๋ยวฉันพาเธอไปส่งที่หอพัก”
จบแค่นั้นไม่มีคำถามต่อว่าใคร ผู้หญิงหรือเปล่า อย่างที่ภาวัตเบื่อไม่อยากตอบ รถขับออกไปโดยที่ลัลนาไม่ทันเห็น ท้องอิ่ม ตาก็เริ่มปรือ แต่ยังฝืนไว้ มาลินหยิกแขนตัวเอง แต่ก็หลับไปอยู่ดี จนภาวัตจับไหล่เขย่าเบาๆ นั่นล่ะ สายตาคมมองมา เธอยิ้มเจื่อนยกมือไหว้รีบลงจากรถ ไม่วายที่คนมาส่งจะตามมาด้วย
“ส่งแค่ตรงนี้ก็ได้ค่ะ มันดึกแล้ว” เธอบอกตรงประตูทางเข้า
มือหนาคว้าข้อมือเล็กรั้งให้ไปที่ลิฟต์ด้วยกัน “แค่ขึ้นลิฟต์ ลงลิฟต์มันไม่ได้เปลืองพลังงานของฉันนักหรอกน่า เผื่อลิฟต์ค้างไฟตก แล้วเธอติดอยู่ข้างในคนเดียวจะไม่แย่กว่าหรือไง”
“ทำไมต้องดุด้วย” มาลินก้มหน้าบ่น
“ฉันได้ยินนะ”
“ขอโทษค่ะ”
ภาวัตหัวเราะเหมือนมีลูกสาวเพิ่มมาอีกคน คนเรียบร้อยเวลาไม่พอใจจะโมโหบ้านแตกหรือว่าหลบไปร้องไห้เงียบๆ จะว่าไปแล้วครอบครัวของเขาเต็มไปด้วยผู้หญิงเข้มแข็งอย่างแม่กับมัทนา มาลินช่างแตกต่างออกไปจนเขาหาคำตอบไม่พบว่ามาทำอะไรอยู่กับเธอเป็นนานสองนาน
เขามาส่งมาลินแค่เพียงยืนมองเธอออกไปจากลิฟต์ ต่อไปนี้คงต้องหาวิธีทำให้เธอเลิกกลัวที่แคบและมืดได้แล้ว ไม่อย่างนั้นได้น่องปูดพอดี
“ลิน...”
เสียงทุ้มของใครสักคนทำให้บานลิฟต์ที่กำลังปิดถูกกดให้เปิดออกอีกครั้ง ใบหน้าคร้ามเยี่ยมหน้าออกไป ชายหนุ่มในชุดนักศึกษาหน้าตาจัดหว่าหล่อพอได้มองมาที่มาลิน แล้วดูรึเด็กบ้ารีบเดินเร็วไปหาทักทายเสียสนิทสนม
“อ้าว! พัฒ มารอนานแล้วหรือยัง หน้าตาแบบนั้นสงสัยมีเรื่องมาอีกแล้วแน่ๆ เลยใช่ไหมล่ะ”
ไม่ถามเปล่ามือบางยังวางบนไหล่ของเจ้านั่นก่อนจะเปิดประตูแล้วเข้าไปในห้องด้วยกัน ภาวัตมองตามถอนนิ้วมือจากปุ่ม บานลิฟต์ปิดแล้วเลื่อนลงมาชั้นล่าง ความถามหนึ่งเกิดขึ้นกลางใจที่หงุดหงิดหน่อยๆ เด็กสมัยนี้ ยอมให้ผู้ชายเข้าห้องได้ยังไง หรือว่าจะเป็นแฟน
ถุงยายังอยู่ที่เบาะหลัง ภาวัตชั่งใจก่อนจะเป็นฝ่ายโทรหามาลิน ก็แค่อยากให้มียาไว้เกิดแผลอักเสบขึ้นมาจะทำยังไง แต่รอนานชะมัดว่าแม่เจ้าประคุณจะกดรับ
“มีอะไรหรือคะคุณวัต”
“เธอลืมยาไว้ที่รถ จะให้ฉันเอาขึ้นไปให้ หรือจะลงมาเอาเอง”
ภาวัตพยายามแนบหูฟัง ทำไมเงียบ ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ผู้ชายคนนั้นไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วหรือ
“รบกวนคุณวัตเก็บไว้ก่อนได้ไหมคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ลินจะไปเอาค่ะ ตอนนี้ดึกมากแล้ว คุณวัตจะได้กลับบ้านเร็วๆ ไม่เหนื่อยมาก”
มาลินสายกดวางสาย ภาวัตฮึ่มฮั่มอยู่ในใจกำลังจะเอายาไปให้รู้แล้วรู้รอดอยู่แล้วหากไม่เห็นผู้ชายที่ชื่อพัฒออกมาจากหอพัก หน้าตาไม่ได้ฟินจุกอก แต่ขมวดคิ้วอย่างกับถูกด่ามา ไอ้หมอนั่นเป็นใคร แบบนี้คุณร่มธรรมไม่ว่าเอาหรือไง

แล้วจะมา up ต่อนะคะ ตอนนี้สามารถอ่านในรูปแบบ E-BOOK ใน MEB ได้แล้วค่ะส่วนวางแผงจะมาแจ้งอีกทีนะคะ
อัมราน_บรรพตี



บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ธ.ค. 2558, 09:34:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ธ.ค. 2558, 09:34:29 น.

จำนวนการเข้าชม : 1048





<< ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง   ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง >>
konhin 18 ธ.ค. 2558, 10:33:47 น.
ยังไม่รักกัน แหมมมมม เอาแค่ให้ความสนใจก่อน ไว้จบก่อนใช่ป่ะเนี่ยยยยย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account