เล่ห์รักพรางแค้น วางแผงแล้ว สนพ ทัช
ใครจะไปคิดว่าการทำภารกิจให้ปู่ กลับกลายเป็นถูกโชคชะตากลั่นแกล้งให้เขาถูกสลัดลงจากคาน ยัยซื่อบื้อนั่นน่ะหรือคือไก่วัดที่ทำให้เขากลายเป็นสมภาร
Tags: ความรัก ความหลัง

ตอน: ตอนที่ 13 ครึ่งแรก


ใช้เวลาเพียงไม่นานรถก็เลี้ยวเข้าสู่ซอยที่ปลายทางกลายเป็นบ้านของภาวัต มาลินมองคนบอกจะช่วยแล้วทำไมพามาที่นี่ แล้วดูเขาทำ พอจอดรถก็ลงไปก่อนแล้วยังมาเปิดประตูให้เธอตามลงมา ด้วยความไม่แน่ใจก็เลยต้องถามเสียก่อนว่า




“คุณวัตกลับบ้านมา...อาบน้ำหรือกินข้าวที่บ้านก่อนใช่ไหมคะ น่าจะบอกก่อน ลินจะได้ไม่รบกวนค่ะ นี่ก็ดึกมากแล้ว”




“ใช่เสียที่ไหนน่ะ ลงมาด้วยกันสิ กระเป๋าเดินทางของเธอด้วย ไม่ต้องเอาไว้ในรถหรอก จะใช้ทีคงไม่สะดวก” เขาบอกแต่กลับถูกมองกลับมา แสดงว่ายังไม่เข้าใจละสิท่า “คืนนี้พักเสียที่นี่แหละ ฉันเหนื่อย เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยคุยกันเรื่องของเธอแล้วกันนะ”




มาลินไม่ได้คว้ากระเป๋าแล้วลุกขึ้นตามมา แต่มองเขาเหมือนให้ทำข้อสอบยากๆ แทน




“แต่ว่า...มันจะดีหรือคะ ลินไปนอนหอเพื่อนก็ได้นะคะ”




ใบหน้าคร้ามยิ้มพราวก้มลงขยับเข้ามา สายตาของกวางน้อยตื่นกลัวนายพรานช่างน่ามองจนอยากเห็นใกล้ๆ ถ้าย้อนไปสัก 5 ปี เขาคงไม่เพียงแค่มอง




“กลัวฉันก็บอกมาตรงๆ คิดว่าฉันจะทำอะไรหรือไง บอกเลยนะ ถ้าจะทำจริงๆ ฉันไม่พามาที่บ้าน ที่นี่มีแต่คนที่ฉันรัก อะไรที่ไม่ดี ฉันจะไม่พาเข้ามาเด็ดขาด”




...อะไรที่ไม่ดี ฉันจะไม่พาเข้ามาเด็ดขาด คำพูดนี้กระมังที่ทำให้มาลินยิ้มให้ภาวัตได้อย่างวางใจไม่ระแวง ถ้าเขาคิดไม่ดีจะพามาที่นี่บ้านทำไม หญิงสาวลงจากรถพร้อมกระเป๋าเดินทาง คนตัวโตช่วยถือให้ ภาณินออกรอพอดี รอยยิ้มเป็นสิ่งแรกที่ทำให้อุ่นใจสำหรับแขกยามวิกาล




“มากันแล้วหรือจ๊ะ แม่ให้เด็กๆ เปิดห้องไว้รอแล้ว” มืออุ่นคว้าแขนมาลินมาแล้วพาเดินเข้าบ้านด้วยกัน “มากับป้านะหนูลิน ตกใจล่ะสิ โจรขโมยเดี๋ยวนี้ชุกชุมจริงๆ ถ้าตาวัตไม่ชวนหนูมาค้าง ป้านี่แหละจะไปรับที่หอ ผู้หญิงคนเดียวจะไปอยู่ได้ยังไง”




คนเดินตามยิ้มกว้าง นานๆ ทีหรอกที่แม่จะชอบผู้หญิงที่เขาพาเข้าบ้าน แถมยังใจดีพาไปถึงห้องที่อยู่ข้างๆ ห้องของเจ้าตัวเล็กที่ป่านนี้คงหลับไปแล้ว กระเป๋าวางให้หน้าประตูไม่ล่วงล้ำความเป็นส่วนตัว




“ฝากด้วยนะครับแม่ ผมจะไปหาภาคก่อน”




เขาช่วยปิดประตูให้เสียงแม่แว่วออกมา แม่เคยบ่นอยากมีลูกสาว แต่พอมีเขาแล้วเกิดปัญหาสุขภาพประกอบกับพ่อตายเราก็เลยอยู่กันสองคนแม่ลูก วันนี้มาลินมาค้างด้วยคงถูกใจคุณภาณินเข้าล่ะ




ประตูห้องข้างๆ เปิดออกเสียงเบา แต่เด็กน้อยหันมายิ้มให้คงรอให้พ่อมาบอกฝันดีอยู่ ร่างสูงนั่งลงข้างเตียง อ้อมแขนเล็กๆ กอดคอพ่อไว้ ภาษากายบอกแทนคำพูดว่ารักมากมาย




“คิดถึงพ่อหรือครับ พ่อก็คิดถึงแล้วก็รักภาคเหมือนกัน”




ภาคคลายกอดแล้วกลับมานอน ภาวัตช่วยห่มผ้าให้นั่งมองลูกชาย หลายวันมานี้เขามีเรื่องยุ่งๆ กว่าจะกลับถึงบ้านก็ดึกแล้ว ยังดีที่ภาคยังมีแม่ของเขาคอยดูแล




“ดึกแล้วนอนได้แล้วนะ เดี๋ยวอาบน้ำแล้วพ่อมานอนด้วยคนได้ไหมครับ”




“ดีครับ” เด็กน้อยพยักหน้ายิ้มหลับตาลง




ภาวัตลุกขึ้นแล้วออกไปจากห้อง เสียงสองสาวต่างวัยลอดผ่านประตูออกมาล้วนแล้วแต่เรื่องนินทาเขาทั้งนั้น









อาบน้ำเสร็จแล้วภาวัตเลยเดินลงมาหาหมาตัวโปรดที่เลี้ยงตั้งเล็กๆ จนตอนนี้แก่มากแล้ว ถ้าเทียบอายุคนคงกลายเป็นลุงของเขาได้ บีเกิ้ลผงกหัวมองนายร้องเสียงงี๊ดอย่างกับจะทักทาย พอลูกหัวมันเงียบเสียงแต่เอาหัวมาพาดไว้บนขาแทน ตัวมันใหญ่จนนั่งตักไม่ได้แล้ว สายตาของใครบางคนมองมาจากระเบียงชั้นสอง ภาวัตหันไปมองโบกมือให้พลางส่งเสียงถามไม่ดังนัก




“ทำอะไรอยู่ทำไมยังไม่นอนอีก”




“แล้วคุณวัตทำไมยังไม่นอนล่ะคะ” มาลิถามกลับแล้วเพิ่งนึกได้ “ขอโทษค่ะ ผู้ใหญ่ถามไม่ควรถามกลับ ลินแปลกที่นอนไม่หลับเลยมานั่งเล่นที่ระเบียงค่ะ แล้วคุณวัตล่ะคะ”




มาลินมองตามสายตาของภาวัตที่ก้มมองหมาตัวใหญ่อย่างกับยักษ์ เธอเห็นมันบ่อยๆ แต่ไม่กล้ามาเล่นด้วยเพราะความที่มันตัวใหญ่ยักษ์นั่นแหละ




“มันชื่อบีเกิ้ล ถ้าเทียบอายุคงเป็นลุงฉันกับเธอละมั้ง แก่มากแล้วน่ะ แต่ยังกระดิกหางได้แข็งแรงชอบวิ่งคึกเป็นหมาหนุ่ม พรุ่งนี้มาทักทายมันสิ มันคงชอบให้คนมาสนใจมันบ่อยๆ” ถึงจะไม่ใกล้นัก แต่เขาเห็นนะ “ยิ้มอะไร”




“คุณวัตใจดี ตาบอกว่าคนที่รักสัตว์ย่อมมีหัวใจที่อ่อนโยน”




ช่างเป็นคำชมที่แปลกเขาไม่เคยได้รับ ถ้ามาลินมาชมว่าหล่อหรือแนวๆ ปลื้มจัดคงไม่ใช่เธอแน่ๆ




“ฉันอ่อนโยนกับไม่กี่คนในชีวิตหรอก เธอนี่ยังเด็กอยู่มาก คนที่อ่อนโยน ไม่ได้หมายความว่าเป็นใจดีเสมอไปสักหน่อย”




มาลินพยักหน้านิ่งคิด “ไม่รู้สิคะ ลินบอกจากสิ่งที่เห็นเท่านั้นเอง ขอโทษค่ะที่วิจารณ์ ลินไปนอนแล้วนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง”




รอยยิ้มแทนคำตอบของความยินดี สายตาคมประกายมองตามจนแผ่นหลังบอบบางหายลับไปหลังม่านพลิ้วไหว ร่างสูงลุกขึ้นบ้างแล้วเข้าห้องลูกชายนอนลงข้างๆ เด็กน้อยขยับเข้ามากอดทั้งที่หลับ เขาเต็มตื้นอยู่ในใจเมื่อรักเป็นจะเห็นคุณค่าของคนดีๆ ที่เข้ามาในชีวิต









ภาวัตเซ็นเอกสารจนหมดต่อด้วยประชุมในช่วงเช้า จนกระทั่งใกล้เที่ยงก็นึกขึ้นได้ว่าแม่ฝากกล่องข้าวมาให้มาลิน ถ้าออกมาพร้อมกันคงไม่ต้องฝากกันหลายทอดแบบนี้หรอก เด็กบ้า! มาทำงานที่เดียวกันแท้ๆ แต่ออกมาจากบ้านตั้งแต่เช้า เขาโทรหาก็ไม่รับ จนต้องให้เลขาโทรไปตามนั่นล่ะ มาลินถึงได้มายืนทำหน้าตาไม่รู้เรื่องราวอยู่ตรงหน้า




“คุณวัตเรียกลินมาพบมีอะไรหรือเปล่าคะ”




“แม่ฉันฝากมาให้เธอ รับไปสิ”




กล่องข้าวยื่นให้กับมือ มาลินยกมือไหว้รับมาเปิดดู คุณป้าทำให้จริงๆ เสียด้วย นึกว่าพูดเล่นเสียอีก




“ฝากขอบคุณคุณป้าด้วยนะคะ เอ...ไม่สิ เดี๋ยวลินโทรไปขอบคุณเองดีกว่า”




ร่างบางหันหลังกลับ ภาวัตเหวอเขามีประโยชน์แค่คนส่งข้าวหรือไง




“เดี๋ยวสิ...” เขาเรียกไว้ “วันนี้จะไปสอนภาคเหมือนเดิมใช่ไหม”




“ค่ะ แต่คงจะแวะไปเยี่ยมตาก่อนค่ะ คุณวัตจะให้ลินทำอะไรเพิ่มหรือเปล่าคะ”




นั่นสิ มีอะไรให้ทำเสียที่ไหน “เปล่า วันนี้ฉันคงกลับช้า อยู่เป็นเพื่อนภาคก่อนแล้วกัน”




“ได้ค่ะ ลินไปแล้วนะคะ”




“เดี๋ยวก่อน...”




มาลินมองมายิ้มๆ เห็นภาวัตยกมือขึ้นมาลูบหลังคอตัวเอง วันนี้เขาไม่สบายหรือเปล่า ครั้นจะถามก็ถูกชิงถามมาเสียก่อน




“เมื่อคืนหลับสบายดีไหม”




“ดีค่ะ วันนี้ลินคงกลับหอแล้วนะคะ เดี๋ยวเพื่อนจะมาอยู่เป็นเพื่อนค่ะ ขอบคุณที่คุณวัตให้ที่พักนะคะ” เธอยกมือไหว้ อีกฝ่ายรับไหว้แทบไม่ทัน




ภาวัตมองมาลินออกไปจากห้องเพราะไม่รู้จะรั้งไว้ด้วยเรื่องอะไรแล้ว ว่าแต่เพื่อนที่ว่าคนไหน ผู้หญิงหรือผู้ชาย คนที่ชื่อพัฒหรือเปล่า เมื่อกี้น่าจะถาม เฮ้อ ประตูเปิดออกอีกครั้ง แต่เป็นเลขาที่เข้ามา




“มีเอกสารจากคุณรหัทค่ะ ฝากบอกว่าจะรอที่รถ พบตัวคุณปรียาแล้วค่ะ”




เขารับเอกสารมานั่งอ่าน วันนี้ไม่ต้องออกไปไหน อาหารกลางวันมีแล้วเหมือนมาลินทุกอย่าง แค่มากกว่าให้สมตัวเท่านั้น เอกสารของรหัทเป็นภาพที่แคปจากกล้องวงจรปิดจากร้านที่เขาไปหลับยาวในรถรวดเดียวถึงตี 2 มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาไขรถแล้วพาตัวเขาไป




“โรงแรมใกล้ๆ งั้นเรอะ กล้องก็ดันมาหายไปตอนนั้นเสียด้วย ใครวะผู้หญิงผมยาวตัวสูง ใส่แว่นเสียครึ่งหน้า ใครจะไปรู้”




มันน่าหงุดหงิดที่เห็นตัวคนทำแล้วแต่บอกไม่ได้ว่าใคร ถ้าเอารูปให้ทีมงานรถแข่งดูอาจจะมีคนพอนึกอะไรออกบ้างก็ได้ เป็นแฟนคลับสาวๆ หรือมีใครจ้างมาเขาอยากรู้เสียจริง หากรูปหลุดออกไปคงเป็นข่าวหรือว่าจะเกี่ยวกับการแข่งขันที่ใกล้เข้ามา แต่ก่อนถึงเวลานั้นเขาคงต้องเดินทางไปสะสางแค้นก่อน ถึงจะนานจนเกือบลืม แต่เขายังจำได้









ปรียาไม่คิดว่าคนที่ขอนัดจะกลายเป็นภาวัตไปได้ คลิปที่เขาเอามาด้วยทำให้จำยอมสารภาพหาไม่แล้วจะกลายเป็นเธอเองที่เข้าคุก แต่เพื่อความอยู่รอดจึงจำเป็นต้องขับรถนำทางให้ภาวัตมาหาแฟนถึงระยอง แน่ล่ะเขาถูกดำเนินคดีอยู่ แต่ก็ยังต้องกินให้อิ่มท้องจึงต้องมาทำงานในไร่ไปก่อน แต่เขาดันไปก่อเรื่องจนถูกจับได้แล้วเดือดร้อนมาถึงเธอ




นภดลกำลังนับจำนวนกิโลของเงาะที่คนงานนำมาใส่กระบะท้ายรถ เขาเริ่มเบื่องานขับรถ แต่ไม่รู้จะหางานที่ไหนได้อีกจึงต้องทนทำไปก่อน รอให้พวกๆ กันช่วยเรื่องคดี อย่างน้อยก็ได้ประกันออกมาแล้วอาจจะหาทางออกได้บ้าง “พี่ดล...”




“อ้าว! มาทำไมล่ะยา วันนี้เราไม่ได้นัดกันสักหน่อยหรือว่ามาเพราะคิดถึง” นภดลเดินเร็วๆ มาหา แต่ร่างสูงเบื้องหลังแฟนกลับเป็นคนที่เขาเกลียดชังขี้หน้า




“ใช่ คิดถึง แต่ไม่ใช่แบบที่คนเลวๆ แบบแกจะรู้สึกได้หรอก”




ภาวัตยิ้มเหี้ยมกระโจนเข้าใส่ส่งหมัดกระแทกครึ่งปากครึ่งจมูกด้วยความแค้นเต็มเปี่ยมในหัวใจ อีกฝ่ายเจ็บจนไม่ทันได้ออกอาวุธสู้กลับ เซล้มลงไปทั้งคู่จนรหัทต้องเข้ามาจับแยก




“อะไรกันวะ มาถึงก็ใส่เอาๆ”




“นี่สำหรับที่แกจงใจขับรถชนลูกชายของฉัน”




นภดลเพิ่งตั้งหลักได้กระชากตัวลุกกะเอาคืน แต่ถูกปรียาดึงไว้ ความเจ็บทำให้ยิ่งโมโหผลักแฟนจนถลาล้ม ไหนๆ นังนี่ก็ตีตัวออกห่างเขาแล้ว ที่ยื้อไว้ก็เพราะยังมีประโยชน์




“เธอพามันมาทำไม หักหลังกันใช่ไหม นึกแล้วว่าเธอมันไว้ใจไม่ได้”




“ก็ถ้าพี่ไม่ก่อเรื่อง เขาจะมาเอาเรื่องไหม ถ้าไม่ไว้ใจก็เลิกกันตอนนี้เลย” ปรียาได้โอกาสรีบขอเลิกลุกขึ้นวิ่งไปจากตรงนั้น เรื่องอะไรจะยอมลงหลุมซวยไปด้วย




นภดลเพิ่งรู้ตัวว่าพลาดไปแล้ว ตะโกนเรียกแฟนเท่าไหร่ก็ไม่ยอมกลับมา ความเกลียดยิ่งปะทุระเบิดเข้าใส่ภาวัต แต่ตำรวจกลับเข้าล็อคแขนไว้จนทำอะไรนอกจากมองอย่างอาฆาตแค้นไม่ได้




“ยังไม่หมดหรอก หมัดนี้สำหรับที่แกทำร้ายผู้หญิง แกมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย สารเลว”




หมัดตรงเสยปากนภดลจนได้เลือด คนเจ็บสะบัดตัวจะเอาคืนบ้าง แต่ยังถูกจับแขนไว้แน่น




“ผมจะแจ้งความคดีทำร้ายร่างกาย”




“ก็เอาสิ ฉันทำอะไรก็ยอมรับไม่เคยลอบกัดใคร ให้คุณตำรวจเป็นพยานก็ได้ แต่ที่แน่ๆ โดนจับคราวนี้อย่าหวังว่าจะได้ประกันตัวอีก”




นภดลหน้าซีดเผือดเถียงไม่ออก แต่ยังไงก็ไม่ยอมรับ ถึงจะมีคลิปมายืนยันก็เถอะ รถของเขาแต่คนอื่นอาจจะขับก็ได้นี่ ตำรวจพาตัวผู้ต้องหาไปขึ้นรถ ภาวัตยังกำหมัดแน่นเพิ่งรู้ตัวว่าโมโหจนฆ่าคนได้ คำถามหนึ่งเกิดขึ้นกลางใจ เขารักลูกชายมากจนทนไม่ได้นั้นถูกต้องแล้ว แต่มาลินล่ะเขาห่วงจนโมโหนภดลในฐานะอะไร







หนังสือวางแผงแล้วนะคะ สามารถซื้อได้จากร้านหนังสือทั่วประเทศหรืออ่านต่อใน E-BOOK เว็บ MEB ค่ะ ฝากภาวัตกับมาลินด้วยจ้า


อัมราน_บรรพตี



บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 ธ.ค. 2558, 09:56:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 ธ.ค. 2558, 09:56:46 น.

จำนวนการเข้าชม : 1022





<< ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง   ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account