เล่ห์รักพรางแค้น วางแผงแล้ว สนพ ทัช
ใครจะไปคิดว่าการทำภารกิจให้ปู่ กลับกลายเป็นถูกโชคชะตากลั่นแกล้งให้เขาถูกสลัดลงจากคาน ยัยซื่อบื้อนั่นน่ะหรือคือไก่วัดที่ทำให้เขากลายเป็นสมภาร
Tags: ความรัก ความหลัง
ตอน: ตอนที่ 14 ครึ่งแรก
“คุณวัตครับ...คุณวัต”
เสียงเรียกตามมาด้วยเสียงปึงปัง ภาวัตยิ้มให้มาลินพร้อมกับรั้งร่างบางขึ้นก่อนจะทุบผนังให้คนข้างนอกได้ยิน “ผมอยู่ในนี้ครับ ช่วยพาเราสองคนออกไปที”
วิภาอยู่กับทีมช่างของโรงแรมถอนใจโล่งอกรีบโทรหาเจ้านายเพื่อบอกความคืบหน้า
“ช่างกำลังช่วยกันเปิดลิฟต์ค่ะ ไฟดับตลอดทั้งซอย เครื่องเจนทำงานแล้ว แต่ระบบลิฟต์ยังขัดข้องอยู่ รอสักครู่นะคะคุณวัต”
“ขอบใจมากครับ” เขาบอกรีบวางสายเพราะห่วงมาลินมากกว่า
ไฟกะพริบแต่ก็ดับลงไปอีก ช่างกำลังช่วยกันเปิดบานลิฟต์ มีเสียงตะโกนบอกให้ถอยหลังไปผนังด้านหลังก่อน มาลินจับมือภาวัตแน่นแต่ไม่กลัวแล้วเมื่อเรากำลังจะได้ออกไปด้วยกัน เขายังไม่ยอมให้เธอลืมตา เสียงเพลงคลอเบาๆ ข้างหู ก่อนจะแทนด้วยคำสั่งที่เธอเต็มใจทำมากที่สุด
“ลืมตาได้แล้ว ลิฟต์สว่างพอดี” เขายังกอดเอวบางไว้ “รออีกเดี๋ยว บานลิฟต์กำลังจะเปิด”
ยังไม่ทันขาดคำบานลิฟต์ก็เปิดออก ภาวัตประคองมาลินออกมาภายนอกที่สว่างไสว มีไทยมุงจำนวนไม่น้อย วิภาเข้ามาหาแล้วช่วยจับแขนอีกข้างของมาลินไว้
“คุณวัตปลอดภัยดีนะคะ”
ภาวัตพยักหน้า แสงแฟลชสาดเข้ามา ร่างสูงเบี่ยงตัวมากอดมาลิน ใบหน้าซีดเซียวถูกกดแนบกับอกหนาไม่ยอมให้นักข่าวถ่ายรูปของเธอได้
“กันนักข่าวให้ผมกับมาลินทีคุณวิภา”
เลขาผู้รู้งานเอาตัวบังเจ้านายไว้อีกชั้นพยักหน้าให้ รปภ เข้ามาช่วยระงับความกระหายอยากรู้ของนักข่าวที่เพิ่งถามภาวัตถึงผู้หญิงที่เขาบอกว่าเป็นตัวจริง
“เดี๋ยวครับ เราสองคนอยากสัมภาษณ์” นักข่าวป้องปากบอกเสียงไม่เบานัก แขกในงานพากันสนใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“ตอนนี้คุณวัตไม่สะดวกนะคะ อย่าตามไปเลยค่ะ เห็นไหมมีคนถ่ายรูปพวกคุณรอเอาไปลงเฟส ทวิตเตอร์เหมือนกัน” วิภาเตือน ถ้าหูไม่หนวกเมื่อตอนค่ำภาวัตบอกแล้วว่าจะฟ้องถ้าลงข่าวเท็จ
นักข่าวชักปอดๆ ลดกล้องลง ใบหน้ากระเหี้ยนกระหือรืออยากได้ข่าวเปลี่ยนเป็นยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะแยกย้ายกัน แต่ไม่ไกลนักหรอกแค่ตามไปที่ประตูทางออกโรงแรม อย่างไรเสียภาวัตก็ต้องขับรถออกมา ภาพไม่ชัด แต่รับประกันได้ว่าข่าวไปตีพิมพ์
เป็นเรื่องน่าสยองไม่น้อยเมื่อคนธรรมดาไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรถูกสาดด้วยแสงแฟลชแล้วยังเสียงเซ็งแซ่ที่ดังใส่เหมือนกับว่าเราสองคนทำอะไรผิด มาลินโล่งใจแทบแย่เมื่อภาวัตพาขึ้นรถแล้วออกมาจากโรงแรมแห่งนั้น เขาคงรับมือได้อยู่แล้ว ในฐานะนักแข่งมืออันดับต้นๆ ของเมืองไทย แต่เธอไม่ไหวแน่ถ้าต้องเจออีกรอบ
รถแล่นออกนอกเส้นทางไปเรื่อยๆ เหมือนจะตรงไปทางเส้นพระราม 8 ความเชื่อใจยังมีอยู่เต็มเปี่ยม ใครล่ะช่วยเธอมาหลายต่อหลายครั้ง รถจอดตรงบริเวณลานโล่งบริเวณทางลงแม่น้ำเจ้าพระยาที่ยามนี้เงียบสงบ แสงไฟนวลเห็นพรายน้ำกระเพื่อมสวย ภาวัตลงจากรถ มาลินตามมานั่งที่เก้าอี้อีกฝั่งที่เขานั่งก่อน
“เรายังไม่กลับกันหรือคะ”
“ตอนนี้มีคงมีนักข่าวตามไปที่บ้านแล้ว บอกตรงๆ ชื่อเสียงของฉันเรื่องผู้หญิงในหน้าสื่อไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เธอกำลังเป็นรายต่อไปที่นักข่าวตามหาตัว” ภาวัตบอกตามตรง ปิดไปก็เท่านั้น ทุกวันนี้มาลินคงได้รู้จักมากกว่าเขารู้จักตัวเองเสียอีกจากพนักงาน
“มัน...ไม่จริงนี่ค่ะ ใครจะเขียนหรือพูดยังไง ลินไม่สนใจหรอกค่ะ”
ดวงดาวกะพริบไหวแต่ไม่เท่าหัวใจที่เต้นเร่า ความสัมพันธ์ใดๆ หากเริ่มต้นด้วยสิ่งดีๆ ก็จะดำเนินไปอย่างสวยงาม สิ่งที่มาลินไม่เหมือนใครคือการเชื่อตัวเองมากกว่าคนอื่น
“แต่ฉันสนใจ ตาของเธอบอกให้ฉันดูแลเธอกับแม่ให้ดี”
“แล้วตาบอกอะไรคุณวัตอีกคะ” มาลินถามเสียงตื่นเต้นจำได้ว่าเขาเคยจะบอก
“แค่นี้แหละ น่าแปลกใจไหมล่ะ เกลียดฉันจะตาย แต่ทำไมถึงบอกแบบนี้ ก่อนมาหาฉัน ตาของเธอไปทำอะไรหรือหาใครมาก่อนหรือเปล่า”
วันนั้นตาบอกอะไรแล้วเธอลืมไปบ้างหรือเปล่านะ มาลินพยายามนึก แต่เท่าที่จำได้ไม่มีอะไรมากกว่าที่ใครๆ รู้
“ตาบอกว่าเสร็จธุระแล้วจะมาเอาเลือดหัวคุณออกค่ะ แต่ไม่ได้บอกว่าจะไปไหนก่อน”
ถ้าเรื่องราวมันมีแค่นั้นทำไมสายน้ำมันเบรกถึงถูกเจาะ มาลินหรี่ตามองมาเหมือนสงสัยอะไร ภาวัตยิ้มพลางลุกขึ้นแถมยังคว้ามือ ‘ลูกสาว’ ให้เดินเล่นไปด้วยกัน มือบางดึงเบาๆ แต่กลับถูกกุมไว้แน่น ใบหน้าหล่อเหลาหันมายิ้มแล้วชี้ให้มองไปบนท้องฟ้า ดาวกำลังตกลง
มาลินยกมือขึ้นมาแต่ประสานกันไม่ได้เพราะมือเขาติดมาด้วย มือหนายื่นมาประสานให้อุ่นซ่านไปถึงใจ เธอหลับตาลงอธิษฐานก่อนที่จะหมดเวลา ดวงตาคมมองมาหลับตาลงขอพรต่อดวงดาว หากทุกอย่างเป็นจริงได้คงจะดี
ไม้และทีมออกแบบไม่มีปัญหาให้สะดุดแล้ว ส่วนแบ่งการตลาดในวงการเฟอร์นิเจอร์ก็เพิ่มขึ้น ภาวัตเดินไปทางไปประเทศเพื่อนบ้านสองวันก็กลับมาพร้อมสัญญาลูกค้ารายใหม่ นับเป็นก้าวต่อไปที่มั่นคงขึ้น เหนื่อยแต่น่าภูมิใจ อยากพักสายตา แต่รหัทดันเข้ามาในห้องพอดี ยังไม่ทันได้ถามรายนี้ก็รู้งานรีบตอบเสียไวทั้งๆ ที่เพิ่งสั่งงานไป อย่าให้รู้ว่าเลี้ยงพวกลูกกรอกไว้เชียว
“นักสืบกำลังตามอยู่ครับว่าคุณร่มธรรมไปไหนก่อนมาหาคุณ ตำรวจก็สงสัยประเด็นนี้เหมือนกัน”
“ได้เรื่องยังไงรีบรายงานมาทันที อ้อ ระหว่างนี้ส่งคนของปู่ไปดูแลที่ไร่เพิ่มด้วยนะ ก็ไม่อยากปรักปรำใคร แต่ผมสงสัยหนุ่มไร่ข้างๆ เสียจริง แต่ยังคิดไม่ออกว่าเกี่ยวข้องกันยังไง”
เห็นตามมาลินแจ คราวนี้กลับหายเงียบไป ซึ่งก็ดีแล้ว แต่มันยิ่งน่าสงสัย ถึงจะหาความเชื่อมโยงของเหตุร้ายยังไม่ออกก็เถอะ
รหัทพยักหน้าแต่ยังไม่ไปไหน “ตอนนี้คุณวัตน่าจะสนใจรูปพวกนี้ก่อนนะครับ”
ซองเอกสารยื่นมาวางให้บนโต๊ะ ภาวัตเปิดดูถอนใจเซ็งๆ นักข่าวสมัยนี้ยิ่งกว่านักสืบ รูปที่เขาจับมือพามาลินเดินชมดาวหราในหน้าหนังสือพิมพ์บันเทิง มันใช่เรื่องไหม แค่เคยควงนางเอกละครไม่กี่เดือน เขาเลยถูกตามข่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ภาวัตถอนใจไม่ได้ห่วงตัวเอง แต่คนในข่าวต่างหาก ป่านนี้รู้เรื่องหรือยังก็ไม่รู้ “ถ้าคุณร่มธรรมยังดีๆ อยู่มีหวังยิงผมกลางอก ทำยังไงดีล่ะทีนี้ เฮ้อ...”
“สัปดาห์หน้าเปิดตัวศูนย์เฟอร์นิเจอร์ไม่ใช่หรือครับ เป็นผมจะดีใจได้เป็นข่าวกับคนที่อยากเป็นด้วยพอดี” รหัทเปรยเหมือนคิดอะไรอยู่
“นั่นสินะ...” ภาวัตขมวดคิ้วใส่บอดี้การ์ดของพี่ชาย เขาก็ดันลืมตัว “อยากได้ข่าวนัก ถ้างั้นก็มารับข่าว ฝากบอกพี่คิมด้วยว่าน้องชายกำลังจะก่อเรื่องอีกแล้ว แต่หุ้นคงไม่ตกเหมือนคราวก่อน”
รหัทหัวเราะไม่อยากรื้อฟื้นหรอก แต่ลืมไม่ลงจริงๆ จากการสะบั้นรักกับนางเอกสาวเบอร์หนึ่งซึ่งวงในนั้นภาวัตเป็นฝ่ายถูกบอกเลิกเพราะไม่มีเวลาให้ แต่คุณนางเอกดันไปดราม่าน้ำตานองว่าถูกบอกเลิก หุ้น Blue Enterprise ตกทันที แต่แค่วันเดียวเท่านั้น
“ยังมีอีกข่าว เรื่องนี้น่าจะมีผลให้หุ้นตกแน่ๆ ถ้าโยงมาถึงคุณ บางทีอาจจะคุณก้องภพ”
ข่าวรัมภาฟ้องหย่าสามีที่อยู่กินกันมา 5 ปี แถมนักข่าวยังใจดีอย่างสุดซึ้งมีภาพของเขาที่ประคองกอดว่าที่แม่หม้ายไว้ข้างๆ เขากลายเป็นว่าที่ชู้อย่างไม่ต้องใส่คำบรรยาย
“ก้องภพไม่ใช่คนที่จะมาทำอะไรแบบนี้ นักข่าวเล่นข่าวโยงผมอีกหลายวันแน่ แต่หุ้นไม่น่าตก บอกพี่คิมสบายใจได้”
เที่ยงพอดี ภาวัตกดโทรศัพท์สั่งงานเลขาไว้ถ้าจะลงมือทำอะไรก็ต้องทันที อย่างได้รั้งรอ
“บ่ายนี้ผมไปทำธุระนะครับคุณวิภา ยกเลิกทุกนัด อ้อ ถ้าใครโทรหรือมาหา บอกว่าผมไม่ว่างแล้ว”
“จะไปไหนครับ” รหัทถาม ภาวัตคงลืมไปแน่ๆ ว่ายังตกอยู่ในอันตราย
ภาวัตเลิกคิ้วยิ้มแทนคำตอบ ถึงไม่บอกอย่างไรเสียรหัทก็ต้องตามอยู่ดี ทุกวันนี้เขาอุ่นใจจะแย่ ไปไหนมาไหนมีรถติดตามอย่างกับบุคคลสำคัญ พี่คิมไม่เบื่อบ้างหรือไง
การฝึกงานจบลงและเปิดเทอมพอดี นักศึกษามามหา’ลัยกันในวันแรก มาลินมีนัดกับเอมิกาตอนเที่ยงหลังจากจบชั่วโมงเรียนในช่วงเช้าแล้ว เอกสารต่างๆ ที่เตรียมไว้พร้อมขาดแต่โน้ตบุ๊กที่เอมิกาจะเอามา เรื่องโจรขึ้นหอพักตำรวจยังจับตัวไม่ได้ มีแต่ภาพวงจรปิดแต่ไม่ได้มีประโยชน์เท่าไหร่เพราะไม่เห็นหน้าคนร้าย สองสาวเดินตามกันมาที่ซุ้มประจำ ใครบางคนมาถึงก่อนแล้ว
“เป็นอะไรยะ ทำหน้าอย่างกับปวดประจำเดือน” เอมิกาส่งเสียงมาก่อนตัว
พิพัฒเกือบสะดุ้งพอหันไปมองเห็นมาลินมาด้วยก็รีบเก็บหนังสือที่เพิ่งซื้อมาอ่านเพราะมีหน้าของเพื่อนสนิทกับภาวัตอยู่
“ทำไมมาด้วยกันได้”
“ช่วยพิมพ์งานให้อาจารย์น่ะสิ แล้วพัฒน่ะเป็นอะไร ใครทำให้ไม่พอใจหรือไง แล้วซ่อนอะไรไว้ข้างหลัง เอามาดูด้วยกันเลยนะ” มาลินเอ่ยพลางนั่งลงอีกฝั่ง เอมิกานั่งลงข้างๆ พิพัฒ แปลกแฮะ สองคนนี้เคยยอมอยู่ใกล้กันด้วยหรือ
เสียงถอนใจนำมาก่อนถึงปิดไปอย่างไรก็ต้องเห็นเข้าจนได้อยู่ดี หนังสือพิมพ์บันเทิง 2 ฉบับวางให้เห็น มาลินก้มลงมองร้องเฮ้อตาม
“ยังไม่รู้เรื่องกันเลยใช่ไหม ก็ดี เดี๋ยวพัฒจะไปจัดการไอ้พวกให้ข่าวแย่ๆ เอง”
เอมิกาคว้าแขนของพิพัฒไว้ “หยุดเลยนะ ฉันเห็นแล้ว แต่ที่ยังไม่บอกยัยลินก็เพราะอยากทำรายงานให้เสร็จก่อน นายก็รีบอะไรนักไม่รู้ รู้เร็วรู้ช้าไม่เห็นต่างกันตรงไหนเลย”
“ลินไม่เป็นไรหรอกน่า ไหนข่าวเขียนว่าอะไร ขออ่านก่อนนะ”
“ฉันว่าเธอน่าจะมองไปทางนั้นหน่อยนะ คู่จิ้นในข่าวของเธอมาแล้วนั่นน่ะ เปิดตัวได้อลังการแบบนี้ไม่รอดแน่ๆ พ่อคุณเอ้ย รถเด่นน้อยกว่านี้ไม่มีแล้วหรือไง”
มาลินพยักหน้าเห็นด้วย รถสปอร์ตสีแดงมันเด่นไปไหม ใครต่อใครพากันมอง บางคนยกโทรศัพท์มาถ่ายรูปอาจจำได้ว่าภาวัตเป็นนักแข่งออกข่าวบ่อยๆ แต่ลูกโป่งสีชมพูที่เขาถือมาด้วยมันเข้ากันตรงไหน สายตาคู่นั้นมองมาอย่างกับจ้อง คนอื่นๆ พากันมองตาม เธออยากหายตัวได้
“พัฒจะไปคุยกับเขาเอง”
พิพัฒเดินไม่กี่ก้าวก็เจอตัวเพราะภาวัตตั้งใจมาหาอยู่แล้ว สีหน้าของเพื่อนชายมาลินบอกชัดอยากชกหน้าเขาใจจะขาด แต่ยั้งอารมณ์ไว้อย่างน้อยก็อยู่ในชุดนักศึกษา
“มาทำไมอีก หมดช่วงฝึกงานแล้ว ตอนนี้ลินไม่อยากเป็นข่าวกับใคร ถ้าว่างนักก็ไปหาผู้หญิงในสต็อกของคุณสิ”
“ใจเย็นๆ พัฒ คุณวัตมีธุระอะไรหรือคะ”
มาลินรีบเข้ามาขวางทั้งสองคนไว้ไม่อยากให้มีเรื่อง ทีนี้ล่ะข่าวใหญ่กว่าเดิม เอมิกาช่วยดึงพิพัฒอีกแรง แต่มาทำสะบัดสะบิ้งใส่เลยถูกตีแขนไปฉาดใหญ่ได้สติแล้วสิท่า
“อีกไม่เกินครึ่งชั่วโมงนักข่าวจะมาที่นี่ ฉันเลยมารับเธอไปก่อนที่จะต้องเจอนักข่าวแบบไม่ทันได้เตรียมคำตอบ”
“ก็ถ้าคุณไม่มาที่นี่ นักข่าวจะตามมาไหมล่ะ ลูกไม้ตื้นๆ” พิพัฒแขวะลอยลมมาเลยถูกเอมิกาตีอีกเฟี๊ยะ อยากเอาคืน แต่ผู้หญิงเขาทำไม่ลง
ภาวัตพยักหน้าหัวเราะรีบคว้ามือมาลินหมับ “ก็จริง ไปกันเถอะ เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“ไม่ได้ ลินห้ามไปนะ ตอนนี้มันแย่อยู่แล้ว อย่าให้แย่ไปมากกว่านี้เลย”
มาลินขืนตัวไว้ไม่ยอมเดินตาม หน้าพยายามฝืนยิ้มไม่งั้นได้กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตอีก ไม่ใช่ระแวงเขาแต่ไม่อยากเป็นข่าวอีกต่างหาก ภาวัตเป็นคนเข้าใจยากไปตั้งแต่เมื่อไหร่
“เธอรู้จักฉันดีไม่ใช่หรือมาลิน เรื่องอะไรที่ฉันเป็นต้นเหตุ ไม่เคยเลยที่จะไม่รับผิดชอบ ในฐานะที่เราเป็นเพื่อนกัน เธอควรไว้ใจฉันไม่ใช่หรือ”
“พาตัวไปเลยค่ะ” เอมิกาตะโกนบอกเลยถูกพิพัฒตะปบปิดปาก
“ยัยบ้า ใครสั่งเธอให้พูดแบบนั้น”
“นายไม่ใช่แฟนยัยลิน เพราะฉะนั้นอย่ามาทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ” เขี้ยวคมๆ กัดฝ่ามือหนาเข้าเต็มรัก เป็นไง ยอมปล่อยเลยไหมล่ะ “คุณวัตรีบพาตัวไปเลยค่ะ ตอนนี้หน้าคุณกับยัยลินคงหราในเฟสบุ๊กกับทวิตเตอร์แล้ว นักข่าวไม่มา ก็เป็นข่าวอยู่ดี จะแก้ปัญหายังไงก็ไปคุยกันเองนะคะ”
“ฉันไม่ไป...” มาลินหันมาตอบเอมิกาก่อนบอกคนมามองนิ่งๆ ไม่รู้จะทำอะไรอีก “ลินไม่ไปนะคะ”
“ขอโทษทีนะ” เรียวปากหายิ้มคว้ามือบางมาแล้วพันเส้นด้ายจากลูกโป่งไว้ที่ข้อมือเล็กก่อนรั้งให้เดินมาด้วยกัน ใจจริงอยากอุ้มถ้าเธอไม่ได้ใส่ชุดนักศึกษาอยู่ หากเป็นข่าวคงดูไม่ดีเท่าไหร่
“คุณวัต ลินยังไม่ได้บอกว่าจะไปด้วยเสียหน่อย”
“ยิ้มสวยๆ วันนี้เราจะได้เป็นข่าวด้วยกันอีกรอบ”
มาลินมองหานักข่าวเริ่มผวาหน่อยๆ แต่ไม่เห็นใครอื่นนอกจากเพื่อนนักศึกษาร่วมมหา’ลัยที่ส่องกล้องโทรศัพท์มาทางนี้ อยากกรี้ดใส่คนก่อเรื่อง แต่ภาวัตกลับยิ้มหน้าบานเปิดประตูรถให้เธอเข้าไปนั่งแล้วขับรถออกไปจากที่นั่นอย่างสง่างามแทบจะสวนกับรถของนักข่าวด้วยซ้ำ
อีกไม่นานหรอกภาพต่างๆ จากโทรศัพท์จะเข้าไปอยู่โลกโซเชียล มาลินหันมาทำหน้าบึ้งใส่ เขาก่อเรื่อง แต่เธอเดือดร้อนด้วยทำไมยังมาระรื่นอยู่ได้อีก
หนังสือวางแผงแล้วนะคะ สามารถซื้อได้จากร้านหนังสือทั่วประเทศเช่น se-ed นายอินทร์ หรืออ่านต่อใน E-BOOK เว็บ MEB ค่ะ ฝากภาวัตกับมาลินด้วยจ้า
http://http://www.naiin.com/product/detail/182800/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%99
https://www.se-ed.com/product/เล่ห์รักพรางแค้น.aspx?no=9786163651853
http://www.welovenovel.com/PD1144924-สินค้า-%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b9%88%e0%b8%ab%e0%b9%8c%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%81%e0%b8%84%e0%b9%89%e0%b8%99_%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%88%e0%b8%b3%e0%b8%ab.html
อัมราน_บรรพตี
เสียงเรียกตามมาด้วยเสียงปึงปัง ภาวัตยิ้มให้มาลินพร้อมกับรั้งร่างบางขึ้นก่อนจะทุบผนังให้คนข้างนอกได้ยิน “ผมอยู่ในนี้ครับ ช่วยพาเราสองคนออกไปที”
วิภาอยู่กับทีมช่างของโรงแรมถอนใจโล่งอกรีบโทรหาเจ้านายเพื่อบอกความคืบหน้า
“ช่างกำลังช่วยกันเปิดลิฟต์ค่ะ ไฟดับตลอดทั้งซอย เครื่องเจนทำงานแล้ว แต่ระบบลิฟต์ยังขัดข้องอยู่ รอสักครู่นะคะคุณวัต”
“ขอบใจมากครับ” เขาบอกรีบวางสายเพราะห่วงมาลินมากกว่า
ไฟกะพริบแต่ก็ดับลงไปอีก ช่างกำลังช่วยกันเปิดบานลิฟต์ มีเสียงตะโกนบอกให้ถอยหลังไปผนังด้านหลังก่อน มาลินจับมือภาวัตแน่นแต่ไม่กลัวแล้วเมื่อเรากำลังจะได้ออกไปด้วยกัน เขายังไม่ยอมให้เธอลืมตา เสียงเพลงคลอเบาๆ ข้างหู ก่อนจะแทนด้วยคำสั่งที่เธอเต็มใจทำมากที่สุด
“ลืมตาได้แล้ว ลิฟต์สว่างพอดี” เขายังกอดเอวบางไว้ “รออีกเดี๋ยว บานลิฟต์กำลังจะเปิด”
ยังไม่ทันขาดคำบานลิฟต์ก็เปิดออก ภาวัตประคองมาลินออกมาภายนอกที่สว่างไสว มีไทยมุงจำนวนไม่น้อย วิภาเข้ามาหาแล้วช่วยจับแขนอีกข้างของมาลินไว้
“คุณวัตปลอดภัยดีนะคะ”
ภาวัตพยักหน้า แสงแฟลชสาดเข้ามา ร่างสูงเบี่ยงตัวมากอดมาลิน ใบหน้าซีดเซียวถูกกดแนบกับอกหนาไม่ยอมให้นักข่าวถ่ายรูปของเธอได้
“กันนักข่าวให้ผมกับมาลินทีคุณวิภา”
เลขาผู้รู้งานเอาตัวบังเจ้านายไว้อีกชั้นพยักหน้าให้ รปภ เข้ามาช่วยระงับความกระหายอยากรู้ของนักข่าวที่เพิ่งถามภาวัตถึงผู้หญิงที่เขาบอกว่าเป็นตัวจริง
“เดี๋ยวครับ เราสองคนอยากสัมภาษณ์” นักข่าวป้องปากบอกเสียงไม่เบานัก แขกในงานพากันสนใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“ตอนนี้คุณวัตไม่สะดวกนะคะ อย่าตามไปเลยค่ะ เห็นไหมมีคนถ่ายรูปพวกคุณรอเอาไปลงเฟส ทวิตเตอร์เหมือนกัน” วิภาเตือน ถ้าหูไม่หนวกเมื่อตอนค่ำภาวัตบอกแล้วว่าจะฟ้องถ้าลงข่าวเท็จ
นักข่าวชักปอดๆ ลดกล้องลง ใบหน้ากระเหี้ยนกระหือรืออยากได้ข่าวเปลี่ยนเป็นยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะแยกย้ายกัน แต่ไม่ไกลนักหรอกแค่ตามไปที่ประตูทางออกโรงแรม อย่างไรเสียภาวัตก็ต้องขับรถออกมา ภาพไม่ชัด แต่รับประกันได้ว่าข่าวไปตีพิมพ์
เป็นเรื่องน่าสยองไม่น้อยเมื่อคนธรรมดาไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรถูกสาดด้วยแสงแฟลชแล้วยังเสียงเซ็งแซ่ที่ดังใส่เหมือนกับว่าเราสองคนทำอะไรผิด มาลินโล่งใจแทบแย่เมื่อภาวัตพาขึ้นรถแล้วออกมาจากโรงแรมแห่งนั้น เขาคงรับมือได้อยู่แล้ว ในฐานะนักแข่งมืออันดับต้นๆ ของเมืองไทย แต่เธอไม่ไหวแน่ถ้าต้องเจออีกรอบ
รถแล่นออกนอกเส้นทางไปเรื่อยๆ เหมือนจะตรงไปทางเส้นพระราม 8 ความเชื่อใจยังมีอยู่เต็มเปี่ยม ใครล่ะช่วยเธอมาหลายต่อหลายครั้ง รถจอดตรงบริเวณลานโล่งบริเวณทางลงแม่น้ำเจ้าพระยาที่ยามนี้เงียบสงบ แสงไฟนวลเห็นพรายน้ำกระเพื่อมสวย ภาวัตลงจากรถ มาลินตามมานั่งที่เก้าอี้อีกฝั่งที่เขานั่งก่อน
“เรายังไม่กลับกันหรือคะ”
“ตอนนี้มีคงมีนักข่าวตามไปที่บ้านแล้ว บอกตรงๆ ชื่อเสียงของฉันเรื่องผู้หญิงในหน้าสื่อไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เธอกำลังเป็นรายต่อไปที่นักข่าวตามหาตัว” ภาวัตบอกตามตรง ปิดไปก็เท่านั้น ทุกวันนี้มาลินคงได้รู้จักมากกว่าเขารู้จักตัวเองเสียอีกจากพนักงาน
“มัน...ไม่จริงนี่ค่ะ ใครจะเขียนหรือพูดยังไง ลินไม่สนใจหรอกค่ะ”
ดวงดาวกะพริบไหวแต่ไม่เท่าหัวใจที่เต้นเร่า ความสัมพันธ์ใดๆ หากเริ่มต้นด้วยสิ่งดีๆ ก็จะดำเนินไปอย่างสวยงาม สิ่งที่มาลินไม่เหมือนใครคือการเชื่อตัวเองมากกว่าคนอื่น
“แต่ฉันสนใจ ตาของเธอบอกให้ฉันดูแลเธอกับแม่ให้ดี”
“แล้วตาบอกอะไรคุณวัตอีกคะ” มาลินถามเสียงตื่นเต้นจำได้ว่าเขาเคยจะบอก
“แค่นี้แหละ น่าแปลกใจไหมล่ะ เกลียดฉันจะตาย แต่ทำไมถึงบอกแบบนี้ ก่อนมาหาฉัน ตาของเธอไปทำอะไรหรือหาใครมาก่อนหรือเปล่า”
วันนั้นตาบอกอะไรแล้วเธอลืมไปบ้างหรือเปล่านะ มาลินพยายามนึก แต่เท่าที่จำได้ไม่มีอะไรมากกว่าที่ใครๆ รู้
“ตาบอกว่าเสร็จธุระแล้วจะมาเอาเลือดหัวคุณออกค่ะ แต่ไม่ได้บอกว่าจะไปไหนก่อน”
ถ้าเรื่องราวมันมีแค่นั้นทำไมสายน้ำมันเบรกถึงถูกเจาะ มาลินหรี่ตามองมาเหมือนสงสัยอะไร ภาวัตยิ้มพลางลุกขึ้นแถมยังคว้ามือ ‘ลูกสาว’ ให้เดินเล่นไปด้วยกัน มือบางดึงเบาๆ แต่กลับถูกกุมไว้แน่น ใบหน้าหล่อเหลาหันมายิ้มแล้วชี้ให้มองไปบนท้องฟ้า ดาวกำลังตกลง
มาลินยกมือขึ้นมาแต่ประสานกันไม่ได้เพราะมือเขาติดมาด้วย มือหนายื่นมาประสานให้อุ่นซ่านไปถึงใจ เธอหลับตาลงอธิษฐานก่อนที่จะหมดเวลา ดวงตาคมมองมาหลับตาลงขอพรต่อดวงดาว หากทุกอย่างเป็นจริงได้คงจะดี
ไม้และทีมออกแบบไม่มีปัญหาให้สะดุดแล้ว ส่วนแบ่งการตลาดในวงการเฟอร์นิเจอร์ก็เพิ่มขึ้น ภาวัตเดินไปทางไปประเทศเพื่อนบ้านสองวันก็กลับมาพร้อมสัญญาลูกค้ารายใหม่ นับเป็นก้าวต่อไปที่มั่นคงขึ้น เหนื่อยแต่น่าภูมิใจ อยากพักสายตา แต่รหัทดันเข้ามาในห้องพอดี ยังไม่ทันได้ถามรายนี้ก็รู้งานรีบตอบเสียไวทั้งๆ ที่เพิ่งสั่งงานไป อย่าให้รู้ว่าเลี้ยงพวกลูกกรอกไว้เชียว
“นักสืบกำลังตามอยู่ครับว่าคุณร่มธรรมไปไหนก่อนมาหาคุณ ตำรวจก็สงสัยประเด็นนี้เหมือนกัน”
“ได้เรื่องยังไงรีบรายงานมาทันที อ้อ ระหว่างนี้ส่งคนของปู่ไปดูแลที่ไร่เพิ่มด้วยนะ ก็ไม่อยากปรักปรำใคร แต่ผมสงสัยหนุ่มไร่ข้างๆ เสียจริง แต่ยังคิดไม่ออกว่าเกี่ยวข้องกันยังไง”
เห็นตามมาลินแจ คราวนี้กลับหายเงียบไป ซึ่งก็ดีแล้ว แต่มันยิ่งน่าสงสัย ถึงจะหาความเชื่อมโยงของเหตุร้ายยังไม่ออกก็เถอะ
รหัทพยักหน้าแต่ยังไม่ไปไหน “ตอนนี้คุณวัตน่าจะสนใจรูปพวกนี้ก่อนนะครับ”
ซองเอกสารยื่นมาวางให้บนโต๊ะ ภาวัตเปิดดูถอนใจเซ็งๆ นักข่าวสมัยนี้ยิ่งกว่านักสืบ รูปที่เขาจับมือพามาลินเดินชมดาวหราในหน้าหนังสือพิมพ์บันเทิง มันใช่เรื่องไหม แค่เคยควงนางเอกละครไม่กี่เดือน เขาเลยถูกตามข่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ภาวัตถอนใจไม่ได้ห่วงตัวเอง แต่คนในข่าวต่างหาก ป่านนี้รู้เรื่องหรือยังก็ไม่รู้ “ถ้าคุณร่มธรรมยังดีๆ อยู่มีหวังยิงผมกลางอก ทำยังไงดีล่ะทีนี้ เฮ้อ...”
“สัปดาห์หน้าเปิดตัวศูนย์เฟอร์นิเจอร์ไม่ใช่หรือครับ เป็นผมจะดีใจได้เป็นข่าวกับคนที่อยากเป็นด้วยพอดี” รหัทเปรยเหมือนคิดอะไรอยู่
“นั่นสินะ...” ภาวัตขมวดคิ้วใส่บอดี้การ์ดของพี่ชาย เขาก็ดันลืมตัว “อยากได้ข่าวนัก ถ้างั้นก็มารับข่าว ฝากบอกพี่คิมด้วยว่าน้องชายกำลังจะก่อเรื่องอีกแล้ว แต่หุ้นคงไม่ตกเหมือนคราวก่อน”
รหัทหัวเราะไม่อยากรื้อฟื้นหรอก แต่ลืมไม่ลงจริงๆ จากการสะบั้นรักกับนางเอกสาวเบอร์หนึ่งซึ่งวงในนั้นภาวัตเป็นฝ่ายถูกบอกเลิกเพราะไม่มีเวลาให้ แต่คุณนางเอกดันไปดราม่าน้ำตานองว่าถูกบอกเลิก หุ้น Blue Enterprise ตกทันที แต่แค่วันเดียวเท่านั้น
“ยังมีอีกข่าว เรื่องนี้น่าจะมีผลให้หุ้นตกแน่ๆ ถ้าโยงมาถึงคุณ บางทีอาจจะคุณก้องภพ”
ข่าวรัมภาฟ้องหย่าสามีที่อยู่กินกันมา 5 ปี แถมนักข่าวยังใจดีอย่างสุดซึ้งมีภาพของเขาที่ประคองกอดว่าที่แม่หม้ายไว้ข้างๆ เขากลายเป็นว่าที่ชู้อย่างไม่ต้องใส่คำบรรยาย
“ก้องภพไม่ใช่คนที่จะมาทำอะไรแบบนี้ นักข่าวเล่นข่าวโยงผมอีกหลายวันแน่ แต่หุ้นไม่น่าตก บอกพี่คิมสบายใจได้”
เที่ยงพอดี ภาวัตกดโทรศัพท์สั่งงานเลขาไว้ถ้าจะลงมือทำอะไรก็ต้องทันที อย่างได้รั้งรอ
“บ่ายนี้ผมไปทำธุระนะครับคุณวิภา ยกเลิกทุกนัด อ้อ ถ้าใครโทรหรือมาหา บอกว่าผมไม่ว่างแล้ว”
“จะไปไหนครับ” รหัทถาม ภาวัตคงลืมไปแน่ๆ ว่ายังตกอยู่ในอันตราย
ภาวัตเลิกคิ้วยิ้มแทนคำตอบ ถึงไม่บอกอย่างไรเสียรหัทก็ต้องตามอยู่ดี ทุกวันนี้เขาอุ่นใจจะแย่ ไปไหนมาไหนมีรถติดตามอย่างกับบุคคลสำคัญ พี่คิมไม่เบื่อบ้างหรือไง
การฝึกงานจบลงและเปิดเทอมพอดี นักศึกษามามหา’ลัยกันในวันแรก มาลินมีนัดกับเอมิกาตอนเที่ยงหลังจากจบชั่วโมงเรียนในช่วงเช้าแล้ว เอกสารต่างๆ ที่เตรียมไว้พร้อมขาดแต่โน้ตบุ๊กที่เอมิกาจะเอามา เรื่องโจรขึ้นหอพักตำรวจยังจับตัวไม่ได้ มีแต่ภาพวงจรปิดแต่ไม่ได้มีประโยชน์เท่าไหร่เพราะไม่เห็นหน้าคนร้าย สองสาวเดินตามกันมาที่ซุ้มประจำ ใครบางคนมาถึงก่อนแล้ว
“เป็นอะไรยะ ทำหน้าอย่างกับปวดประจำเดือน” เอมิกาส่งเสียงมาก่อนตัว
พิพัฒเกือบสะดุ้งพอหันไปมองเห็นมาลินมาด้วยก็รีบเก็บหนังสือที่เพิ่งซื้อมาอ่านเพราะมีหน้าของเพื่อนสนิทกับภาวัตอยู่
“ทำไมมาด้วยกันได้”
“ช่วยพิมพ์งานให้อาจารย์น่ะสิ แล้วพัฒน่ะเป็นอะไร ใครทำให้ไม่พอใจหรือไง แล้วซ่อนอะไรไว้ข้างหลัง เอามาดูด้วยกันเลยนะ” มาลินเอ่ยพลางนั่งลงอีกฝั่ง เอมิกานั่งลงข้างๆ พิพัฒ แปลกแฮะ สองคนนี้เคยยอมอยู่ใกล้กันด้วยหรือ
เสียงถอนใจนำมาก่อนถึงปิดไปอย่างไรก็ต้องเห็นเข้าจนได้อยู่ดี หนังสือพิมพ์บันเทิง 2 ฉบับวางให้เห็น มาลินก้มลงมองร้องเฮ้อตาม
“ยังไม่รู้เรื่องกันเลยใช่ไหม ก็ดี เดี๋ยวพัฒจะไปจัดการไอ้พวกให้ข่าวแย่ๆ เอง”
เอมิกาคว้าแขนของพิพัฒไว้ “หยุดเลยนะ ฉันเห็นแล้ว แต่ที่ยังไม่บอกยัยลินก็เพราะอยากทำรายงานให้เสร็จก่อน นายก็รีบอะไรนักไม่รู้ รู้เร็วรู้ช้าไม่เห็นต่างกันตรงไหนเลย”
“ลินไม่เป็นไรหรอกน่า ไหนข่าวเขียนว่าอะไร ขออ่านก่อนนะ”
“ฉันว่าเธอน่าจะมองไปทางนั้นหน่อยนะ คู่จิ้นในข่าวของเธอมาแล้วนั่นน่ะ เปิดตัวได้อลังการแบบนี้ไม่รอดแน่ๆ พ่อคุณเอ้ย รถเด่นน้อยกว่านี้ไม่มีแล้วหรือไง”
มาลินพยักหน้าเห็นด้วย รถสปอร์ตสีแดงมันเด่นไปไหม ใครต่อใครพากันมอง บางคนยกโทรศัพท์มาถ่ายรูปอาจจำได้ว่าภาวัตเป็นนักแข่งออกข่าวบ่อยๆ แต่ลูกโป่งสีชมพูที่เขาถือมาด้วยมันเข้ากันตรงไหน สายตาคู่นั้นมองมาอย่างกับจ้อง คนอื่นๆ พากันมองตาม เธออยากหายตัวได้
“พัฒจะไปคุยกับเขาเอง”
พิพัฒเดินไม่กี่ก้าวก็เจอตัวเพราะภาวัตตั้งใจมาหาอยู่แล้ว สีหน้าของเพื่อนชายมาลินบอกชัดอยากชกหน้าเขาใจจะขาด แต่ยั้งอารมณ์ไว้อย่างน้อยก็อยู่ในชุดนักศึกษา
“มาทำไมอีก หมดช่วงฝึกงานแล้ว ตอนนี้ลินไม่อยากเป็นข่าวกับใคร ถ้าว่างนักก็ไปหาผู้หญิงในสต็อกของคุณสิ”
“ใจเย็นๆ พัฒ คุณวัตมีธุระอะไรหรือคะ”
มาลินรีบเข้ามาขวางทั้งสองคนไว้ไม่อยากให้มีเรื่อง ทีนี้ล่ะข่าวใหญ่กว่าเดิม เอมิกาช่วยดึงพิพัฒอีกแรง แต่มาทำสะบัดสะบิ้งใส่เลยถูกตีแขนไปฉาดใหญ่ได้สติแล้วสิท่า
“อีกไม่เกินครึ่งชั่วโมงนักข่าวจะมาที่นี่ ฉันเลยมารับเธอไปก่อนที่จะต้องเจอนักข่าวแบบไม่ทันได้เตรียมคำตอบ”
“ก็ถ้าคุณไม่มาที่นี่ นักข่าวจะตามมาไหมล่ะ ลูกไม้ตื้นๆ” พิพัฒแขวะลอยลมมาเลยถูกเอมิกาตีอีกเฟี๊ยะ อยากเอาคืน แต่ผู้หญิงเขาทำไม่ลง
ภาวัตพยักหน้าหัวเราะรีบคว้ามือมาลินหมับ “ก็จริง ไปกันเถอะ เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“ไม่ได้ ลินห้ามไปนะ ตอนนี้มันแย่อยู่แล้ว อย่าให้แย่ไปมากกว่านี้เลย”
มาลินขืนตัวไว้ไม่ยอมเดินตาม หน้าพยายามฝืนยิ้มไม่งั้นได้กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตอีก ไม่ใช่ระแวงเขาแต่ไม่อยากเป็นข่าวอีกต่างหาก ภาวัตเป็นคนเข้าใจยากไปตั้งแต่เมื่อไหร่
“เธอรู้จักฉันดีไม่ใช่หรือมาลิน เรื่องอะไรที่ฉันเป็นต้นเหตุ ไม่เคยเลยที่จะไม่รับผิดชอบ ในฐานะที่เราเป็นเพื่อนกัน เธอควรไว้ใจฉันไม่ใช่หรือ”
“พาตัวไปเลยค่ะ” เอมิกาตะโกนบอกเลยถูกพิพัฒตะปบปิดปาก
“ยัยบ้า ใครสั่งเธอให้พูดแบบนั้น”
“นายไม่ใช่แฟนยัยลิน เพราะฉะนั้นอย่ามาทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ” เขี้ยวคมๆ กัดฝ่ามือหนาเข้าเต็มรัก เป็นไง ยอมปล่อยเลยไหมล่ะ “คุณวัตรีบพาตัวไปเลยค่ะ ตอนนี้หน้าคุณกับยัยลินคงหราในเฟสบุ๊กกับทวิตเตอร์แล้ว นักข่าวไม่มา ก็เป็นข่าวอยู่ดี จะแก้ปัญหายังไงก็ไปคุยกันเองนะคะ”
“ฉันไม่ไป...” มาลินหันมาตอบเอมิกาก่อนบอกคนมามองนิ่งๆ ไม่รู้จะทำอะไรอีก “ลินไม่ไปนะคะ”
“ขอโทษทีนะ” เรียวปากหายิ้มคว้ามือบางมาแล้วพันเส้นด้ายจากลูกโป่งไว้ที่ข้อมือเล็กก่อนรั้งให้เดินมาด้วยกัน ใจจริงอยากอุ้มถ้าเธอไม่ได้ใส่ชุดนักศึกษาอยู่ หากเป็นข่าวคงดูไม่ดีเท่าไหร่
“คุณวัต ลินยังไม่ได้บอกว่าจะไปด้วยเสียหน่อย”
“ยิ้มสวยๆ วันนี้เราจะได้เป็นข่าวด้วยกันอีกรอบ”
มาลินมองหานักข่าวเริ่มผวาหน่อยๆ แต่ไม่เห็นใครอื่นนอกจากเพื่อนนักศึกษาร่วมมหา’ลัยที่ส่องกล้องโทรศัพท์มาทางนี้ อยากกรี้ดใส่คนก่อเรื่อง แต่ภาวัตกลับยิ้มหน้าบานเปิดประตูรถให้เธอเข้าไปนั่งแล้วขับรถออกไปจากที่นั่นอย่างสง่างามแทบจะสวนกับรถของนักข่าวด้วยซ้ำ
อีกไม่นานหรอกภาพต่างๆ จากโทรศัพท์จะเข้าไปอยู่โลกโซเชียล มาลินหันมาทำหน้าบึ้งใส่ เขาก่อเรื่อง แต่เธอเดือดร้อนด้วยทำไมยังมาระรื่นอยู่ได้อีก
หนังสือวางแผงแล้วนะคะ สามารถซื้อได้จากร้านหนังสือทั่วประเทศเช่น se-ed นายอินทร์ หรืออ่านต่อใน E-BOOK เว็บ MEB ค่ะ ฝากภาวัตกับมาลินด้วยจ้า
http://http://www.naiin.com/product/detail/182800/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%99
https://www.se-ed.com/product/เล่ห์รักพรางแค้น.aspx?no=9786163651853
http://www.welovenovel.com/PD1144924-สินค้า-%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b9%88%e0%b8%ab%e0%b9%8c%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%81%e0%b8%84%e0%b9%89%e0%b8%99_%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%88%e0%b8%b3%e0%b8%ab.html
อัมราน_บรรพตี

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ธ.ค. 2558, 09:59:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ธ.ค. 2558, 09:59:18 น.
จำนวนการเข้าชม : 1125
<< ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง | ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง >> |