เล่ห์รักพรางแค้น วางแผงแล้ว สนพ ทัช
ใครจะไปคิดว่าการทำภารกิจให้ปู่ กลับกลายเป็นถูกโชคชะตากลั่นแกล้งให้เขาถูกสลัดลงจากคาน ยัยซื่อบื้อนั่นน่ะหรือคือไก่วัดที่ทำให้เขากลายเป็นสมภาร
Tags: ความรัก ความหลัง

ตอน: ตอนที่ 17 ครึ่งแรก

เกือบ 2 ทุ่มแล้ว แต่ยังไร้วี่แววว่าจะมีใครมาพบเราสองคน แต่มาลินกับภาวัตยังสลับกันตะโกนให้ใครได้ยินแล้วมาช่วย หญิงสาวไอแค๊กๆ ชายหนุ่มประทับใจในความพยายามของเด็กดื้อ เป็นชั่วโมงแล้วยังไม่ยอมแพ้ เขาตะโกนแทนเธอบ้างแล้วเงี่ยหูฟัง บรรยากาศโดยรอบเงียบกริบ

มาลินอยากจะร้องไห้ไม่ใช่เพราะสงสารตัวเอง แต่เป็นห่วงภาวัตต่างหาก แผลที่หัวของเขาร้ายแรงขาดไหนก็ไม่รู้ ถ้าช้าไปจะเป็นอะไรหรือเปล่า เธอป้องปากกำลังจะตะโกนต่อ แขนยาวพาดมาบนไหล่แล้วกลายเป็นกอดคอเธอไว้

“พอก่อนเถอะ ตะโกนมาตั้งนานแล้ว”

“คุณวัตพิงลินก็ได้นะคะ ถ้าเราออกไปจากตรงนี้ได้ ลินจะพาคุณวัตไปหาหมอ เจ็บหัวมากไหมคะ”

แขนยาวเลื่อนกลับมาแล้วพิงหลังกับผนังบ่อหลับตานิ่งๆ เวียนหัวมาสักพักแล้ว มาลินขยับมาใกล้แล้วยื่นสอดแขนมาบนไหล่หนารองคอของภาวัตไว้

“เธอนี่แมนจัง ตอนนี้ฉันแค่มึนๆ น่ะ แต่ทนได้ เราหายมาพร้อมกัน ยังไงก็ต้องมีคนออกมาตามหา มืดค่ำแล้วด้วย ที่ตรงนี้คนงานผ่านมาบ่อยไหม”

“ก็ผ่านบ้างค่ะ แต่ไม่บ่อยเพราะมันอยู่ตรงที่ดินที่แม่ขายให้คุณแล้ว คงไม่ค่อยมีใครมาเท่าไหร่” มาลินหลับตาลงรู้สึกเพลียจนอยากหลับ แต่ทำไม่ได้จนกว่าเราจะขึ้นไปจากบ่อเก่าได้ “คุณวัตคะ...คุณวัต อย่าเงียบสิ ลินใจหายนะ”

ภาวัตหัวเราะเบาๆ “ฉันแค่ฟังเสียงเธอ ยังไม่อาการหนักถึงขนาดตายหรอกนะ ยังกลัวที่มืดอยู่หรือเปล่า”

“กลัวค่ะ แต่กลัวคุณวัตเป็นอะไรไปมากกว่า วันนั้นก็แบบนี้ ดาวเต็มท้องฟ้า ดวงจันทร์เหลือแค่เสี้ยวเล็กๆ ทุกคนเอาแต่เงียบ”

สมองที่มึนช้าใช้เวลาอยู่หลายวินาทีว่าจะเข้าใจว่า ‘วันนั้น’ ของมาลินหมายถึงวันที่พ่อแม่ของเธอจากไปนั่นเอง มือหนาขยับขึ้นมาลูบแก้มเนียนไม่ได้มีเจตนาแอบแฝง

“แล้วทำยังไงดี อยากให้ฉันทำอะไรล่ะ สัญญาแล้วกันว่าฉันจะไม่ทิ้งเธอให้กลัวคนเดียวเด็ดขาด”

“ร้องเพลงให้ฟังหน่อยสิคะ แบบที่คุณวัตชอบเปิดในรถก็ได้ ถึงลินจะหูไม่อินเตอร์ แต่ฟังได้ค่ะ”

ภาวัตยิ้มให้ตัวเองมาลินคงไม่เห็นหรอก เขาไม่เคยร้องเพลงให้ใครฟังมาก่อน ถึงจะถนัดทำในหลายๆ เรื่อง แต่การร้องเพลงเป็นสิ่งที่ทำให้เขาอับอายได้ ทว่าสำหรับเธอแล้วให้ทำอะไรก็ยอมแล้วล่ะ มาลินได้ยินเสียงกระแอมอีกหลายครั้งกว่าเพลงที่รอฟังจะมา

One day it's here and then it's gone. How are you still holding on? How are you still holding on?

You've felt this way for far too long. Waiting for a change to come.

You know you're not the only one And life passes you by. Don’t be wasting your time. On your own.

เพลง One Day ของ Kodaline



เสียงร้องหยุดลงภาวัตรู้เสมอว่าเพลงที่ดีต้องมีจังหวะ ถึงจะไม่มีดนตรีคลอก็เถอะ แต่ที่ทำไปเมื่อครู่มาลินอาจเข้าใจว่าเขากำลังท่องอาขยานให้ฟังอยู่ก็ได้ ถึงจะขายหน้าคงต้องยอมแล้ว

“ถึงจะมองไม่ค่อยเห็น แต่ฉันรู้นะว่าเธอยิ้ม เสียงฉันแย่มากหรือไง”

เรียวปากบางยิ่งเผยอกว้าง “คุณวัตเอาดีทางร้องเพลงได้นะคะ ถึงว่า...”

“ถึงว่าอะไร ถึงว่ามีแต่ผู้หญิงเข้ามาเต็มไปหมดใช่ไหม” ภาวัตค่อยยิ้มออก พอได้ฟังคำชมค่อยมั่นใจขึ้นมาหน่อย ถ้าชัดเจนอีกสักนิด เธอจะเข้ามาในชีวิตของเขาใกล้กว่าเดิมได้หรือเปล่า

“บางอย่างในชีวิตเราก็ไม่ได้เรียกร้องให้เข้ามา ฉันไม่ได้อยากใช้ชีวิตลอยชายไร้ศาลไปตลอดหรอกนะ สักวันก็ต้องหยุดเพื่อผู้หญิงเพียงคนเดียวที่รักและเป็นทุกอย่างในชีวิตของฉันได้”

ลมหายใจของมาลินสะดุดราวกับหลุดสู่ห้วงของความริษยา ผู้หญิงคนนั้นคงโชคดีมาก เขากำลังอยากมีครอบครัวกระมัง

“ลินขออวยพรต่อดวงดาวให้คุณวัตได้พบผู้หญิงคนนั้นเร็วๆ นะคะ”

ภาวัตมองเพียงจุดเดียวจากดวงตาที่สะท้องแสงจันทร์เสี้ยวบนท้องฟ้า มืออุ่นประคองใบหน้าของผู้หญิงที่ทำให้เขาหลับตาลงแล้วยังเห็นรอยยิ้มของเธอราวภาพฝัน หากความรู้สึกของเขายังจดจำความหวานของบางสิ่งที่ทำให้มนุษย์มีชีวิตอย่างเป็นสุขได้ สิ่งที่เกิดขึ้นในใจของเขาคงมีคำตอบชัดเจนพอๆ กับการกระทำ

“บางทีฉันอาจจะเจอผู้หญิงคนนั้นแล้ว”

มือของภาวัตอ้อมมารั้งท้ายทอยของมาลินไว้พร้อมๆ กับริมฝีปากของเขาที่ทาบทับมาบนเรียวปากของเธออย่างหนักหน่วงทว่าเต็มไปด้วยความอ่อนโยน อ้อยอิ่งเนิ่นนานบดเบียดเสมือนอยากยืนยันคำพูดที่เพิ่งเอ่ยออกไป หญิงสาวรู้สึกอุ่นซ่านที่เรียวปากราวกับเขาอยากกลืนกินเธอด้วยจูบนี้ มือบางเลื่อนมากอดเขาไว้แน่นด้วยเกรงว่าอาการหวิวๆ ลอยๆ จะทำให้เธอนั่งอยู่ต่อไปไม่ได้ ควรทำหรือไม่ทำอะไร สติของเธอไปไหนแล้ว เรียวปากบางขยับสอดรับเรียวปากหนา ภาวัตปริติอยู่ในใจ จูบกลายเป็นนานเนินกว่าที่ตั้งใจไว้

จนกระทั่งเรียวปากของเขาถอนออกไปบางอย่างเกิดขึ้นเมื่อดวงตาของเขาพร่า มาลินก้มหน้าลงเพิ่งรู้ตัวว่าเธอจูบตอบเขาและยังไม่ได้ลอยไปไหนนอกจากอ้อมแขนอบอุ่น ฉับพลันนั้นใบหน้าคร้ามเลื่อนซบลงกับลาดไหล่บาง ดวงตาค่อยๆ ปิดลงแม้พยายามฝืนก็ไม่อาจต้านทานได้และเงียบกริบไป

ความเขินอายระคนโกรธหายสิ้น แทนที่ด้วยความห่วงเคล้าความกลัวมากมาย มือบางประคองใบหน้าของภาวัตไว้ แต่ให้พยายามเรียกเท่าไหร่เขาก็ไม่ฟื้นขึ้นมา เธอกอดเขาแน่นไม่อยากร้องไห้เพราะมันจะกลายเป็นลางร้าย ทว่าความกลัวก็ทำให้น้ำตาไหลรินออกมาอยู่ดี

“คุณวัต...คุณวัต อย่าเงียบแบบนี้สิ อย่าเป็นอะไรนะ...อย่าตายนะ”

มาลินตะโกนร้องขอให้ช่วยอย่างบ้าคลั่ง สลับเรียกภาวัตอย่างไม่ย่อท้อ หากไม่ยอมแพ้โอกาสจะเข้ามา แต่เมื่อไหร่ล่ะ ความเงียบช่างกรีดแทงจนเจ็บปวด เวลาแต่ละวินาทีผ่านไปอย่างช้าๆ เธอยังตะโกน...และตะโกนสลับกับไอ ผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วหนอ เธอรอ...รอจนกระทั่งได้ยินเสียงกลับมา

“หนูลิน คุณวัต อยู่ที่ไหนกันครับ วู้ๆๆ”

“ลุงหมาย...ลินอยู่ที่นี่ค่ะ”

มาลินตะโกนสุดเสียงสั่นสะท้านกอดภาวัตไว้ด้วยความกลัวเอ่อท้นออกมาเป็นน้ำตาที่ไหลไม่หยุด ได้โปรดอย่าเป็นอะไรได้ไหม เธอทนไม่ได้อีกแล้ว

แสงไฟส่องลงมาข้างล่าง มาลินหน้าเงยขึ้นไปมองทั้งน้ำตา สมหมายกับรหัทอยู่ข้างบนนั้น เธอก้มลงกอดร่างหนาไว้แน่นบอกเขาเผื่อว่าข่าวดีนี้จะทำให้ลืมตาขึ้นมา

“คุณรหัทกับลุงหมายมาช่วยเราแล้วค่ะคุณวัต”

เปลือกตาของภาวัตไม่ขยับ หญิงสาวก้มหน้าลงต่ำพยายามฟังเสียงลมหายใจ โล่งอกเป็นล้นพ้นที่เขายังไม่จากไปไหน อาจเพราะเพลียจนสลบไป อย่าเป็นอะไรที่ยากเกินการรักษา เชือกเส้นยาวถูกทิ้งลงมา รหัทไต่ลงช้าๆ เห็นไหมคุณวัตเรากำลังจะไปโรงพยาบาลด้วยกันแล้ว อย่าเป็นอะไรไปเชียวนะ สัญญาแล้วจำได้ไหม...เราจะไม่ทิ้งกัน



แสงสีขาวทำให้สติที่เลือนรางเริ่มกลับมาอย่างช้าๆ ภาวัตยกมือขึ้นมาบังแสงไว้ ดวงตายังคงปิดสนิท รู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปยาวนานจนนึกไม่ออกว่าตอนนี้หลับหรือกำลังฝันอยู่กันแน่ เขาได้ยินเหมือนเสียงหยดน้ำจากที่ไกลแสนไกล ร่างกายเบาสบาย ทว่าเจ็บแต่ยังบอกไม่ได้ว่าตรงไหน ภายในหัวเหมือนมีเตาร้อนๆ มาอังอยู่ใกล้ๆ ใครบางคนยืนอยู่ไม่ไกล มือหนาคว้าจับแล้วถามเสียงเบาเพิ่งรู้ตัวว่าคอแห้งเหลือเกิน

“ที่นี่ที่ไหน ปวดหัวชะมัด”

“โรงพยาบาลน่ะสิวะ”

ภาวิตลืมตามองชัดๆ ความง่วงหายไปเมื่อเห็นหน้าเหี่ยวๆ ของทีปต์ “โหยปู่ ตอบเสียงหวานๆ คะๆ ขาๆ ไม่ได้หรือครับ ปวดหัวจี๊ดเลยเนี่ย”

ทีปต์ส่ายหน้า “เยอะไปแล้วเอ็ง กะโหลกไม่แตก สมองยังดีอยู่ หมอให้นอนพักพรุ่งนี้ค่อยกลับเพราะฉะนั้นทำตัวให้เหมือนคนป่วย ไม่ต้องแรดไปไหนล่ะ ตอนนี้ย้ายมาโรงพยาบาลใกล้บ้านเราแล้ว”

เสียงหัวเราะนำมาก่อนคำตอบ ดีนะที่เขาอาการไม่หนักไม่อย่างนั้นอาจช็อคเข้าห้องไอซียูเพราะคนเยี่ยมใส่ใจคนป่วยเหลือเกิน

“วันนี้ปู่มาเต็มมาก สังขารแบบนี้ผมคงกระดิกไปไหนไม่ไหวหรอกครับ แล้วมาลินเป็นยังไงบ้าง”

ไม่ถามเฉยๆ สายตาของเขาสอดส่ายมองหา สมองอันเลืองรางจำเรื่องราวต่างๆ ได้แล้ว ตายละวาเขาดันสลบไปหลังจูบมาลิน ป่านนี้จะเข้าใจไปยังบ้างก็ไม่รู้ เดี๋ยวได้ร้องไห้ขี้มูกโป่ง

“ปกติดี พาแกมาส่งให้หมอ พอแกปลอดภัยดีหันมาอีกทีก็ไม่อยู่แล้วว่ะ แต่ก่อนไปบอกว่าขอย้ายกลับไปอยู่ที่หอพักตามเดิม”

“แล้วปู่ก็ยอมให้ไปหรือครับ” ภาวัตเหวี่ยงขาลงจากเตียงจะดึงสายน้ำเกลือออก ทีปต์จับมือหลานไว้ไม่นึกว่าจะห่วงออกหน้าออกตามาเต็มสงสัยเร็วๆ นี้จะได้แห่ขันหมาก

“แล้วปู่จะเอาเหตุผลอะไรมาบอกว่าไม่ยอมล่ะวะ ตอนนี้ก็ส่งคนไปดูแลห่างๆ แล้ว อย่าออกนอกหน้านักสิ แกไม่ใช่ผู้ปกครองหนูลินสักหน่อย”

คนฟอร์มจัดชะงักกึกเมื่อไม่มีอะไรให้ปิดบังแล้ว ต้องโทษปู่นั่นแหละทำไมไม่พูดให้หมด ดูสิ ทำอะไรออกไปแต่ละอย่างถูกมองแบบรู้ทันใส่ทั้งนั้น ภาวัตยอมนอนลงดีๆ ร้องหาโทรศัพท์ เดือดร้อนคนเฝ้าต้องหาให้ พอโทรหารหัทได้แต่ละอย่างที่คุยก็เรื่องของมาลินกับคนที่ไร่ทั้งนั้น

ทีปต์นั่งฟังอยู่เงียบๆ เพราะรหัทรายงานทุกอย่างให้เขารู้หมดแล้ว มันอาจเป็นโชตชะตา เขาทำให้เกิดโศกนาฏกรรม รุ่นหลานมาชดใช้ให้ ไม่นึกว่าจะเป็นภาวัต เจ้าตัวจะรู้ตัวไหมว่านิสัยหลายๆ อย่างกำลังเปลี่ยนไปในทางที่แปลกไปทว่าถูกที่ถูกทาง

“ทำอะไรก็ระวังตัว แต่อย่าไปกลัวคนทำผิด”

นี่เองเหตุผลที่ภาวัตไม่เคยกลัวในสิ่งที่ทำหากคิดว่ามันถูกต้องแล้ว มือของหลานจับมือปู่ไว้ ไม่มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด แต่เขากับแม่มีชีวิตที่ดีงามมาได้ก็เพราะผู้ชายคนนี้ทั้งนั้น ทีปต์ยิ้มอย่างภูมิใจ ภาวัตไม่ใช่หลานที่ดำเนินชีวิตตามแบบฉบับที่เขาวางไว้ เกเรและชอบออกนอกเส้นทาง ทว่าพื้นฐานเป็นคนดีจึงได้ดีในที่สุด

พอสายหน่อยภาณินก็มาโรงพยาบาลพร้อมกับภาค ภาวัตอุ้มลูกชายมั่งเล่นอยู่บนเตียง สองพ่อลูกนั่งเล่นเกมเศรษฐีสนุกจนหลับไปด้วยกัน ภาณินหันมาเห็นก็ได้แต่ยิ้มเหมือนมีลูกชายคนโตกับคนเล็ก ราวกับมาหาที่นอนใหม่อย่างกับไม่ใช่คนป่วยเลยสักนิดซึ่งก็น่าเบาใจที่ภาวัตไม่ได้เป็นอะไรมาก




หนังสือวางแผงแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นจะลงนิยายให้อ่านถึงตอนที่ 19 นะคะ สามารถซื้อได้จากร้านหนังสือทั่วประเทศเช่น se-ed นายอินทร์ หรืออ่านต่อใน E-BOOK เว็บ MEB ค่ะ ฝากภาวัตกับมาลินด้วยจ้า



อัมราน_บรรพตี



บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 ม.ค. 2559, 17:00:19 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 ม.ค. 2559, 17:00:19 น.

จำนวนการเข้าชม : 1156





<< ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง   ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account