~ สายใย .. ไฟรัก ~
~ สายใย .. ไฟรัก ~


เส้นสายใย .. ใครกันหนอ .. ที่ทอถัก
เส้นสายรัก .. ใครจักสาน.. ขานคำขอ
เส้นทางเดิน .. ใครเหินห่าง .. ต่างเฝ้ารอ
ไฟรักพอ .. ต่อหัวใจ .. ให้อุ่นอิง




เธอ .. คือ เพื่อนสนิทของน้องสาวเพื่อนรัก

เขา .. คือ ผู้บริหารโรงแรมจอมเผด็จการ แต่กลับเป็นเพื่อนรักพี่ชายของเพื่อนสนิท

ทว่า ..

เธอ .. ในสายตาของเขา .. คือ คนอวดดี ยโส ที่ใช้เพื่อนเป็นทางผ่านไปสู่ความสำเร็จของตัวเอง

เขา .. ในสายตาของเธอ .. คือ ผู้ชายไร้เหตุผล เอาแต่ตนเองเป็นใหญ่

ที่สำคัญเหนืออื่นใด .. ทั้งเธอและเขา .. กำลังตกหลุมรักคนที่ไม่ควรจะรัก!




***************************
Tags: ความรัก ครอบครัว เพื่อน

ตอน: ใยเส้นที่ 30 .. ผิดที่ผิดทาง



เพลิงกัลป์ชำเลืองมองมัสลิน อึกอักอับจนถ้อยคำ จนชวนให้คิดว่าคงไม่อาจหาข้อแก้ตัวใดๆไ่ด้ มุมปากข้างหนึ่งยกขึ้นอย่างสาสมใจต่อปฏิกิริยาของ 'ยัยเด็กอวดดี' เท่านี้ก็เพียงพอที่จะสืบหาความจริงที่ต้องการ

ความจริง ? ... แล้วทำไมเขาต้องมีความคิดเช่นนั้นด้วย

"เอ่อ ... ก็คุณพูดนำ ฉันแค่ทวนชื่อตาม ผิดตรงไหน"

คราวนี้ชายหนุ่มยิ้มเต็มที่ กับคำเถียงข้างๆคูๆอย่างนึกขำ แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะตีความไปอีกทาง

"คุณไม่ต้องมายิ้มเยาะฉัน แล้วนี่จะเอายังไงคะ เขาไปทางไหนแล้วก็ไม่รู้"

"ทำไม กลัวเห็นความจริงว่า คนของเธอ กำลังทำผิดคิดร้ายหรือไง"

เพลิงกัลป์เรียนรู้จนพอเข้าใจนิสัยของมัสลิน คนแบบนี้เกลียดการยั่วยุท้าทาย และมันก็เป็นไปตามที่เขาคิด เมื่อเธอลืมตัวออกโรงกางปีกป้องบุคคลที่สามที่กำลังติดตามอยู่ในขณะนี้ เฉกเช่นคนสำคัญในชีวิต

"ไม่มีทาง ..."

ชายหนุ่มเหลือบเห็นเธอเม้มปากแน่น คงจะนึกได้ว่า 'หลวมตัว' อีกแล้ว

"มั่นใจจริงนะ ถามหน่อยเถอะ มันจะอะไรนักหนากับการที่เธอจะยอมรับ ว่า ... รู้จักสนิทสนมกับซายน์ ไม่มีใครไปว่าอะไรหรอก ถ้าบริสุทธิ์ใจน่ะ"

"ฉันว่า คุณควรพิจาณา จะให้ดีควรพัฒนาคำพูด ให้มันฟังดูเข้าท่ากว่านี้ก่อนนะคะ ว่าใครกันแน่ที่บริสุทธิ์ใจ หรือ ไม่บริสุทธิ์ใจ"

ผู้บริหารสูงสุดแห่งรู้ครู้สึกได้ ถึงอาการเห่อชาแล่นริ้วแถวโหนกแก้ม กับการถูกยอกย้อนกระทบใจจังๆ หากยังเก็บอาการมิดชิด นี่ถ้าไม่ติดว่ามีสิ่งที่ต้องทำ เขาไม่ปล่อยให้เด็กปากดีลอยหน้าลอยตาเถียงฉอดๆแบบนี้

"มากไปแล้ว ... มัสลิน"

"อะไรมาก อะไรน้อยคะ ดิฉันเพียงแค่ไม่ชอบการถูกเอาเปรียบ และก็ไม่เคยเอาเปรียบใคร ... ใครมาเท่าไหร่ ฉันก็คืนให้เท่าเทียมกันค่ะ"

เพลิงกัลป์ขบกรามแน่นข่มโทสะชนิดที่ว่า คนไม่เคยต้องอดทนอดกลั้นต่ออะไรอย่างเขา กลับต้องใช้มันอย่างมากกับผู้หญิงปากกล้าตรงหน้า

ทว่า เวลาในการต่อปากต่อคำก็หมดลง เพราะเสียงเครื่องยนต์ของสปีดโบ้ทแว่วดังมาจากทางทะเล คลอมากับเกลียวคลื่นแรงที่ซัดสาดเข้าหาฝั่ง

"มานี่ ... เร็ว"

ชายหนุ่มคว้าข้อมือ 'แม่คนปากดี' ทันทีที่เขาจับที่มาของเสียงได้ มันไม่ใช่เรื่องปกติแน่ที่จะมีใครเข้าออกท้ายเกาะด้วยสปีดโบ้ท ในยามค่ำค่อนคืนกลางฤดูมรสุมเพราะมันอันตรายเกินไป

แรงขืนตัวและปฏิกิริยาดึงข้อมือกลับของมัสลิน ทำให้เพลิงกัลป์ชะงักเหลียวมอง แล้วได้เห็นกับตาว่า คนพยศสะดุ้งโหยงหน้าตาตื่น ซึ่งเขาพอจะรู้ตัวอยู่ว่า ความเครียดและโทสะเมื่อมันผสานกลืนเป็นความรู้สึกเดียวกัน สีหน้าที่แสดงออกมาจะเป็นอย่างไร

เพลิงกัลป์ไม่มีเวลาสะใจกับอาการจำนนของมัสลิน เขาต้องพาตัวเองและ 'ห่วง' มีชีวิตข้างกาย หลบให้พ้นรัศมีการรับรู้ของสปีดโบ้ทลำนั้น ที่ใกล้เข้ามาทุกขณะ

ร่างสูงใหญ่เคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วไม่น่าเชื่อ ตามติดด้วยเจ้าของเรือนร่างดูบอกบาง แต่ก็ทะมัดทแมงในทุกย่างก้าว ไม่มีใครต้องถ่วงรั้งใคร แข่งกับเวลากระชั้นไม่กี่นาทีที่สปีดโบ้ทกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้

ในที่สุดทั้งคู่ก็ปีนป่าย ก้าวข้ามแนวโขดหินเข้าไปถึงหลังต้นไม้ใหญ่ หวังอาศัยเงาทะมึนเป็นที่กำบัง ให้พ้นสายตาใครก็ตามที่ขับพาหนะทางน้ำ ทะยานข้ามคลื่นมาอย่างรวดเร็ว

ผู้บริหารสูงสุดของรู้คดึงมัคคุเทศก์สาวเข้ามาชิด ก่อนค่อยเบี่ยงตัวเองออกแล้วให้เธอมายืนในตำแหน่งที่มิดชิดกว่า โดยไม่มีการขัดขืนใดๆกับคำสั่งทางกายไร้สุ้มเสียง

เพลิงกัลป์หรี่ตาจ้องเขม็งสังเกตการณ์ภายนอก มองฝ่าความมืดมิดด้วยสมาธิจดจ่อต่อสถานการณ์ ท่ามกลางความเงียบระหว่างกัน เขารู้สึกได้ถึงจังหวะระทึกในอก มันเต้นเร่าแทบจะทะลุออกมา

ถ้าตรงนี้ มีแค่เขาคนเดียว ... ชายหนุ่มคิดพลางปรายสายตาไปด้านหลัง แต่มันเปล่าประโยชน์หากมัวเสียเวลาคิดต่อไป ในเมื่อเขาก็พบคำตอบแล้วว่า จะผลีผลามหรือหุนหันพลันแล่นไม่ได้

วินาทีต่อวินาที ... ความปลอดภัยของมัสลิน สำคัญที่สุด





ศรตฤณเริ่มอยู่ไม่สุข เมื่อเป้าหมายเคลื่อนไหวก่อนเวลาที่ประมาณการณ์ไว้ แล้วสาเหตุที่ทำให้นักสอดแนมหวั่นวิตกก็อยู่ไม่ห่างจากเขานี่เอง

"ให้มันได้อย่างนี้สิ"

ความฉุนเฉียวเกือบแปรเป็นคำสบถ จึงมีแค่การงึมงำหลุดจากปากที่สุดจะระงับได้ มันมากพอๆจนใกล้เคียงความโกรธจัดซึ่งคุกรุ่นรอว่าเมื่อไรจะปะทุ

ทุกอย่างที่วางแผนไว้อาจต้องยกเลิกทันที เพียงเพราะไม่สามารถเมินเฉยให้อันตรายเกิดแก่หลานสาวได้

ทั้งนี้และทั้งนั้น หากผ่านคืนนี้ไปได้ นอกจากมัสลินที่ถูกคาดโทษแล้ว ยังหมายรวมเพลิงกัลป์ไว้ด้วยอีกคน

สายลับจำเป็นเพราะรายการเพื่อนขอมา ใช้อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง ส่องเป้าหมายพร้อมกับตั้งระบบบันทึกภาพอัตโนมัติ อย่างน้อยก็เก็บเป็นหลักฐานเผื่อไว้ก่อน หากเกิดอะไรเหนือความคาดหมายขึ้นมาอีก

พิกัดที่เป็นจุดนัดหมายเทียบท่าของเรือขนาดสองเครื่องยนต์ ค่อยๆปรากฏให้ศรตฤณเห็น เมื่อสปีดโบ้ทเคลื่อนใกล้เข้ามา มันใกล้เสียจนทำราวกับจะจอดหน้าหาดของอุทยาน หลังเพลิงกัลป์กับมัสลินเพิ่งหลบออกจากตรงนั้นไปได้ไม่กี่นาที

นี่ถ้าไม่มีท่าเทียบเรือยื่นออกมาจากทางฟากคิง เซอร์เพนท์ เขาก็อาจคิดว่า 'ข้อมูล' ที่เชดส์ส่งต่อมานั้น เชื่อถือไม่ได้

การมีท่าเทียบเรือแยกตัวต่างหาก ยิ่งทำให้ศรตฤณอยากรู้เหลือเกินว่า สินค้าใดกันที่รับอภิสิทธิ์พิเศษในการขนส่ง นอกเวลาทำการปกติ

แต่แล้วสปีดโบ้ทลำนั้นก็ตีวงโค้งกว้าง หักเลี้ยวเปลี่ยนทิศทางกลับตัว ๑๘๐ องศา ทั้งที่อีกไม่กี่เมตรก็ถึงท่าเทียบที่รออยู่นั่น
เกิดอะไรขึ้น !

ศรตฤณเบิกตากว้าง เมื่อเห็นถนัดชัดเจนผ่านกล้องอินฟาเรดติดตามว่า ผู้โดยสารหุ่นสัดทัดที่มากับเรือเร็ว ออกมายืนตรงกราบเรือด้านชายหาด มือข้างซ้ายเหนี่ยวกับที่จับหันหน้ามาทางท่าเทียบเรือ สวนทางกับหัวเรือที่ขับเชิดหน้ากลับไปทางที่มา

ชายหนุ่มสองเชื้อชาติจะไม่รู้สึกผิดปกติมากนัก หากว่าพวกมันเปลี่ยนใจเปลี่ยนแผน และมือขวาของคนที่ห้อยโหนเรือ จะไม่ชักวัตถุบางอย่างจากเอว ลักษณะด้ามสีดำมีปากกระบอกสีเงินวาว รูปทรงของมันบอกได้รวมๆว่านั่นคือ ปืน แถมมีอุปกรณ์เสริมครบครันอย่างที่เก็บเสียงติดเข้าไปอีก

สัญชาตญาณผู้พิทักษ์ตื่นตัว เพราะคนครอบครองมัจจุราช คะเนคร่าวๆน่าจะเป็นขนาด ๙ มม. กำลังวาดแขนยกขึ้นขนานยอดคลื่นที่โอบโยกเรือจนโคลงเคลง หลังจากชะลอความเร็วเครื่องยนต์แถวๆหน้าหาดของอุทยาน

อากัปกิริยาเช่นนั้น แปลได้อย่างเดียวว่า พร้อมแล้วสำหรับการเล็งยิงอย่างมีเป้าหมาย

ศรตฤณแทบหยุดหายใจ ครั้นนึกได้ว่า ‘เป้าหมาย’ ของผู้โดยสารโหนตัวขนาบสปีดโบ้ทลำนั้น อยู่บริเวณใด และ เป็นใคร

"ลินิน !"






เพลิงกัลป์กัดฟันกรอดโมโหตัวเองครามครัน หน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้แทนที่จะพก 'ตัวช่วย' คู่กายมาด้วย กลับลืมทิ้งมันไว้ในรถเสียอย่างนั้น เท่ากับว่า นับจากนี้ 'สติ' และ 'ความไม่ประมาท' คือสิ่งที่จะประคับประคองให้หลุดพ้นจากสภาวการณ์เบื้องหน้า

สภาวการณ์ที่ว่าคือ หลังจากสายตาปรับจนชินกับความมืด เขาก็เห็นเค้าคนรางๆ ถืออะไรบางอย่าง ที่เจ้าตัวมั่นใจว่า เป็นปืน และยังเล็งเป้ามาตรงที่เขายืนอยู่ ... พอดิบพอดี

"ลินิน ... นั่งลง ก้มตัวให้ต่ำที่สุด และ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าไปไหนจนกว่าฉันจะบอก"

เป็นครั้งแรกก็ว่าได้ที่มัสลิน ถูกเพลิงกัลป์เรียกด้วยชื่อเล่นของเธอ หากแต่น้ำเสียงเข้มงวดจริงจังกว่าครั้งใด

หญิงสาวเงยหน้าแหงนมองได้แค่บ่าด้านหลังของคนออกคำสั่ง ... คำสั่งที่รู้ดีว่า ท่าทางที่เขาให้ทำนั้น ทั้งหมดก็เพื่อความปลอดภัยของเธอ

การอยู่ด้านในของเงามืดหลังต้นไม้ ทำให้เธอไม่ทราบว่า เพลิงกัลป์เห็นหรือมีอะไรเกิดขึ้น แต่มันต้องไม่ปกติจนถึงขั้น 'อันตราย' ไม่อย่างนั้นคงไม่รู้สึกได้ถึงความตึงเครียด ที่แผ่ออกมาจากร่างสูงใหญ่มากมายแบบนี้

ภาวะและสถานการณ์ส่อเค้ายุ่งยากที่ไม่ยากจะเข้าใจ ทำให้มัสลินเชื่อฟังคำพูดและปฏิบัติทันทีอย่างว่าง่าย แต่ก็อดอยากรู้ไม่ได้ว่า ที่ข้างออกไปนั้น มีอะไรกันแน่

"มีอะไรหรือคะ คุณไฟ"

คำย้อนถามราวคนที่พร้อมทำตัวมีปัญหาตลอดเวลา อาจทำให้เพลิงกัลป์ 'น็อตหลุด' แต่จากน้ำเสียงแผ่วเบาที่เขาได้ยิน กอปรกับอิริยาบถตามคำสั่งที่เขาเห็นมัสลินทำจากหางตา ก็ช่วยคลายความหนักใจวิตกกังวลได้อย่างเหลือเชื่อ

แต่พริบตาเดียวที่เผลอละสายตาจากเบื้องหน้า เสียงวัตถุแหวกอากาศด้วยความเร็วสูง แว่วให้ได้ยินครู่เดียวก่อนมันจะพุ่งมากระทบเปลือกไม้ รอบที่หมุนถี่บวกกับความร้อนจากแรงส่งตัวก็เจาะเข้าเนื้อไม้เป็นรูโหว่จะจะตา

เพลิงกัลป์ทรุดตัวลงหลบตามสัญชาตญาณ รู้ได้ทันทีว่า คนที่ปล่อยมันออกมานั้น มีฝีมือแค่ไหน ที่พลาดไปแค่คืบคงเพราะสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย

"คุณไฟ! ..."

มัสลินเรียกเพลิงกัลป์เสียงหลงดีที่ไม่พลั้งปากหวีดร้องไปด้วย เนื่องจากจู่ๆเขาก็ทิ้งตัวลงมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วใช้มือข้างหนึ่งตะปบปากเธอไว้อย่างทุลักทุเล

"มันมีปืน"

ถ้อยคำกระซิบบอกสั้นๆ แต่น้ำหนักใจความมากพอจะก่อปฏิกิริยาหวาดหวั่น ให้แสดงอาการสั่นสะท้านออกมาทางกาย แม้มัสลินไม่ปรารถนาให้เป็นเช่นนั้น

"ก้มให้ต่ำ อยู่ให้เงียบที่สุด ... ฉัน ... จะหาทางเบนความสนใจมันไปที่อื่นเอง"

เพลิงกัลป์รวบรวมสติย้ำสั่งมัสลิน ช่องว่างที่เว้นก่อนพูดต่อ คือ การตัดสินใจอย่างแน่วแน่

เขาต้องรับผิดชอบ และดูแลตัวเอง รวมถึง ‘คนของเขา’ ให้ปลอดภัย จากคมกระสุนของใครก็ตามที่หวังปลิดชีพพวกเขาอยู่ตอนนี้





เรือเร็วขนาดสองเครื่องยนต์ลอยลำเท้งเต้งใกล้หาด จนคนบนเรือสามารถกระโดดลงมา แล้วย่างสามขุมลุยน้ำขึ้นฝั่ง พร้อมกับเล็งอาวุธในมือไปยังจุดเดิม ราวกับรู้แน่นอนว่า ‘เหยื่อ’ จะต้องโผล่ออกมาในไม่ช้า

ชายร่างสันทัดแสยะยิ้มสาแก่ใจได้ไม่ถึงนาที คนขับเรือก็ตะโกนโหวกเหวกเรียกให้กลับขึ้นเรือ แต่เพราะ ‘ของเล่น’ ในมือยังอัดแน่นด้วยกระสุนเต็มแม็กกาซีน การซ้อมมือในคืนเดือนมืดจึงน่าสนุกขึ้นอีกเท่าตัว

จากคนส่งของที่จู่ๆก็สวมวิญญาณมือสังหารตามสายงานโดยอาชีพ จึงยังไม่ลดละไปจากจุดเล็งที่ยิงไปครั้งแรก

จากย่างสามขุม จังหวะก้าวยาวค่อยเปลี่ยนเป็นสืบเท้าระมัดระวัง ... ไม่เกิน ๕ นาที เกมไล่ล่าก็จะจบลง

เสี้ยววินาทีหนึ่ง มือปืนที่กำลังมุ่งจับเหยื่อรู้สึกได้ถึงอันตราย แต่กว่าจะเบนทิศทางอาวุธสังหารป้องกันตัว ก็ช้าเกินการไปแล้ว

ฉึก!

“อ๊าก ...”

ความย่ามใจที่คิดว่ามีแค่เหยื่อตรงหน้า ทำให้ความผิดพลาดกำลังเล่นงานชายผู้มุ่งร้าย ปลายแหลมจากมีดฟิกซ์เบลดหรือมีดใบตายปักที่ข้อมือขวาอย่างแม่นยำ ด้วยความเร็วและรุนแรง

ผลก็คือ ปืนในมือหลุดกระเด็น ความเจ็บปวดเข้ามาแทนที่จนมันต้องส่งเสียงร้อง ... แต่ก็แค่นั้น

ทิศทางการตามล่าเปลี่ยนไป มือปืนในคราบคนส่งของรู้แล้วว่า มันเองก็กำลังตกเป็นเป้านิ่ง เช่นกัน





เพลิงกัลป์จับตาดูความเคลื่อนไหวของคนที่กระโดดลงจากเรือ การเล็งปืนตรงมาอย่างถูกที่ถูกทางของมัน ทำให้เขาไม่มีโอกาสหรือจังหวะเบี่ยงเบนความสนใจได้เลย

แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้หมดหวังที่จะชิงความได้เปรียบ ... เขาจึงรอ พยายามรออย่างใจเย็นที่สุด

และแล้วโอกาสก็หล่นลงตรงหน้า ขณะที่มันใกล้เดินใกล้เข้ามาจนอยู่ในระยะตัดสินใจ ...

เพลิงกัลป์เตรียมพร้อมอยู่แล้ว ทันทีที่เขาได้ยินเสียงร้องบอกให้รู้ว่า มันกำลังบาดเจ็บ ไม่ว่าจากอะไรก็ตาม เขาต้องคว้าโอกาสเดียวนี้เอาไว้ให้ได้

ท่านประธานรู้คค่อยเผยกายจากความมืด สายตาไม่คลาดจากชายร่างสันทัดที่ก้มหน้ามองแขนตัวเอง เขาจึงอาศัยจังหวะนั้นพุ่งสุดตัวไปข้างหน้า

ในมือมันไม่มีปืน ... นี่ค่อยพอลุ้นหน่อย

การทุ่มโถมเข้าใส่เป็นไปตามที่คำนวณระยะไว้ แรงกระแทกเหนือการคาดเดา ทำให้มือปืนที่กำลังบาดเจ็บหงายหลังไปทั้งมีดฟิกซ์เบลด ที่มันยังไม่สามารถดึงออกได้

เพลิงกัลป์เองก็จุกไม่น้อยจากการปะทะเต็มแรง แล้วร่วงลงมาคลุกทราย แต่ว่าเขาจะมามัวโอดโอยไม่ได้ เพราะการชนเมื่อครู่เป็นแค่การถ่วงเวลา ของจริงคือหลังจากนี้ต่างหาก

ชายหนุ่มผู้มุทะลุเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อให้รอด ไม่ทันได้ระวังตัวเพราะมัวแต่จับจ้องกับคนที่บาดเจ็บตรงหน้า พอรู้ตัวอีกทีก็เหมือนมีอะไร โถมเข้าใส่เขาให้ล้มกลิ้งไปอีกทาง

ท่ามกลางความมืดบนหาดทรายแห่งนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ติด

ไม่ถึงนาที เพลิงกัลป์เหมือนได้ยินเสียงสปีดโบ้ทลำนั้นติดเครื่องยนต์ ก่อนจะเร่งความเร็วบ่ายหน้าฝ่าเกลียวคลื่นออกสู่ทะเลจนลับตา

ชายหนุ่มทะลึ่งตัวลุกยืน หันไปมองจุดที่มือปืนบาดเจ็บ พื้นทรายตรงนั้นว่างเปล่า ราวกับไม่เคยมีใครอยู่ นอกจากหลักฐานยืนยันเหตุการณ์ว่ามันเกิดขึ้นจริง คือรอยเลือดหยดตามทาง รอคลื่นซัดสาดมาชะล้างให้ขาวสะอาดดังเดิม

“อยากตายหรือไง คุณเพลิงกัลป์”

เสียงตวาดลั่นหาดของใครบางคน เรียกสติชายหนุ่มเจ้าของชื่อให้คืนมา จนต้องหันขวับไปยังต้นเสียงนั้น

แม้คืนนี้จะมืดพอสมควร แต่เพลิงกัลป์รู้เลยว่า ผู้ชายที่อาจหาญเสียงดังใส่เขา กำลังโกรธจัดและสามารถทำอะไรก็ได้ เพื่อบรรเทาความพิโรธให้เบาบาง

“มัสลิน ... อยู่ที่ไหน คุณเพลิงกัลป์”

‘ซายน์’ หรือ ศรตฤณที่เพลิงกัลป์เพิ่งรู้จักในชื่อไทย เค้นถามไม่ลดละ แต่ละคำถ่ายทอดทั้งความห่วง และหวง ‘มัสลิน’ ชนิดที่ใครมาฟังก็รับรู้ได้

แต่ก่อนที่การเผชิญหน้าจะเปลี่ยนเป็นการห้ำหั่น คนที่ถูกถามหารีบส่งเสียง แล้ววิ่งเข้ามาหาศรตฤณทันที

“อา ... เอ่อ ซายน์ ลินินอยู่นี่ค่ะ”

“เรามีเรื่องต้องคุยกัน ... ยาวเลยล่ะ มัสลิน”

ท่าทางจ๋อยๆ เหมือนยำเกรงของมัสลินต่อศรตฤณ ช่างดูขัดอกขัดใจเพลิงกัลป์เหลือประมาณ แต่ก็ยังถือว่าน้อยกว่าการที่หญิงสาวถูกคว้าแขน บังคับให้เดินตามเมื่อสิ้นสุดคำสั่งของศรตฤณซึ่งมัสลินไม่ขัดขืนเลยสักนิดเดียว

เพลิงกัลป์ได้แต่มองตามโดยไม่อาจขยับเขยื้อนไปไหนได้ เหตุมาจาก อวัยวะเบื้องล่างยืนติดพื้นแน่นราวกับทากาว ... ก้าวไม่ออกกะทันหัน ส่วนในความคิดก็มีแต่เรื่อง ...

เสียหลักเจ็บตัวตอนปะทะคนร้าย ... ยังไม่เสียความรู้สึกเท่านี้

เท่ากับผู้หญิงที่เขาพยายามปกป้อง ถูกช่วงชิงไปต่อหน้าต่อตา

มันเจ็บใจ !















**********************************************










โปรดติดตามตอนต่อไป ...


ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม และขอขอบคุณทุกไลค์กำลังใจฮะ


คุณkaelek : คราวนี้ไม่แอบแล้วฮะ 5555 ... ขอบคุณมากฮะ



แรมรติ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ม.ค. 2559, 11:29:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ม.ค. 2559, 13:04:29 น.

จำนวนการเข้าชม : 1193





<< ใยเส้นที่ 29 .. คาหนังคาเขา   ใยเส้นที่ 31 .. หายหน้า >>
kaelek 4 ม.ค. 2559, 16:16:42 น.
เอาแห้วสักกระป๋องหรือน้ำใบบัวบกสักแก้วมัั้ย แก้ช้ำใจ เอ้ย!! ช้ำใน


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account