เล่ห์รักพรางแค้น วางแผงแล้ว สนพ ทัช
ใครจะไปคิดว่าการทำภารกิจให้ปู่ กลับกลายเป็นถูกโชคชะตากลั่นแกล้งให้เขาถูกสลัดลงจากคาน ยัยซื่อบื้อนั่นน่ะหรือคือไก่วัดที่ทำให้เขากลายเป็นสมภาร
Tags: ความรัก ความหลัง
ตอน: ตอนที่ 18 ครึ่งแรก
ภาวัตรู้ซึ้งแล้วว่ารอยยิ้มของมาลินมีคุณค่ามากพอที่เขาจะไปจัดการเรื่องกวนใจให้จบสิ้น เผื่อว่าดวงตาลังเลจะเปลี่ยนเป็นมั่นใจเพื่อเขาเสียที นั่นล่ะเหตุผลที่เขาไม่รอให้รัมภาเป็นฝ่ายไปเอง การพูดกันอย่างตรงไปตรงมาเป็นทางออกเดียว หากไม่มีความหวังเหลืออยู่อีกแล้ว ย่อมไม่มีเหตุผลอะไรที่อดีตคนรักจะมายื้อให้เกิดบาดแผลในใจต่อกันอีก
“หน้าตาวัตดูซีเรียสจังนะคะ” เสียงหัวเราะกำลังกลบเกลื่อนความกลัวภายในใจ
“ผมชัดเจนเสมอ ถ้าคุณรู้จักผมดี ใครที่เข้ามาแล้วเป็นเพื่อน ใครที่เข้ามาเพื่อมีอนาคตต่อไปด้วยกัน พูดมาถึงตรงนี้คุณคงพอรู้แล้วว่าผมจะพูดอะไรสำหรับเรื่องระหว่างเราใช่ไหม”
สีหน้าของภาวัตไม่ต่างจากตอนที่เราเลิกกัน เพียงแต่ตอนนั้นเธอเป็นฝ่ายเอ่ยคำลา แล้วเขาเป็นฝ่ายขอโอกาส ทว่าในตอนนี้ทุกอย่างสลับกันโชคชะตาช่างน่าขัน
“ภากำลังฟ้องหย่า วัตรอภาได้ไหมคะ”
ภาวัตมองเฉย ประเด็นไม่ได้อยู่ที่รอหรือไม่รอมาตั้งแต่แรกแล้ว เขาต้องเดินหน้าต่อไป ในขณะที่รัมภาต้องการย้อนเวลากลับไปในวันที่มันไม่มีอีกแล้วอย่างนั้นหรือ
“สิ่งที่พิเศษมักจะเกิดในช่วงเวลาหนึ่งและเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ผมเคยรักคุณ ผมใช้คำว่าเคย สถานะตอนนี้หากคุณไม่ยอมรับความเป็นเพื่อนไว้ เราจะไม่เหลือสถานะอะไรระหว่างกันอีก”
เงียบกริบ...นานเนิ่น รัมภานิ่งงันไม่แน่ใจว่าลมหายใจยังจำเป็นจนกระทั่งได้ยินเสียงถอนใจยาวของตัวเอง ความเย็นที่แก้มหมายถึงอะไร เธอไม่รู้คำตอบจนกระทั่งนิ้วได้สัมผัสน้ำซึ่งไหลออกมาจากดวงตาที่กำลังมองภาวัตความผิดหวัง เสียใจและกลายเป็นโกรธในนาทีต่อมา
“ทำไมภาไม่มีโอกาสบ้าง ตอนที่เราเลิกกันมันเป็นความผิดของคุณ”
ภาวัตคิดไว้อยู่แล้วหากพูดตรงไปตรงมา เรื่องในอดีตจะถูกขุดขึ้นมา รัมภาไม่ใช่หรือที่ทำให้เขาได้คำตอบว่าควรหยุดได้แล้วเพื่อผู้หญิงที่รักเพียงคนเดียว แต่เป็นเธอเช่นกันที่ทิ้งเขาไปโดยไม่ฟังคำอธิบายกล่าวหาว่าถูกนอกใจ ทั้งที่ในเวลานั้นเขาจะมีใครได้อย่างไรในเมื่อกำลังจะขอเธอแต่งงาน
ความผิดในใจข้อเดียวที่เขามีต่อเธอคือทำให้เกิดความเชื่อใจกันไม่ได้
“ผมขอโทษเหมือนกับที่เคยบอกคุณไป แต่ไม่มีใครบังคับให้คุณไปแต่งงานแล้วมาพบว่าชีวิตไม่สวยงามอย่างที่คิด กลับไปที่ของคุณเถอะ อย่าให้ผมต้องเป็นฝ่ายไปจากคุณแล้วกลายเป็นคนอื่นเลย”
“เพราะเด็กคนนั้นใช่ไหมคะ คุณถึงไม่ลังเลที่จะทิ้งภาอีกครั้ง” น้ำตาถูกเช็ดออกไป เธอมีค่าเกินกว่าที่จะถูกปฏิเสธ
“ฐานะของเราสองคนตอนนี้คงใช้คำว่าทิ้งไม่ได้เพราะผมไม่ได้รักคุณมานานแล้ว ต่อให้ตอนนี้ผมไม่มีใคร ระหว่างเราก็กลับไปเหมือนเดิมไม่ได้อีก ก้องภพรักคุณมากนะ อย่าทำร้ายเขาแบบนี้เลย”
รัมภากำมือแน่นลุกขึ้นแล้วออกไปจากห้องเพื่อเก็บเสื้อผ้าเมื่อไม่เคยรู้สึกตัวเองไร้ค่าเท่านี้มาก่อน ไม่ได้รักยังพอทำใจ แต่บอกให้กลับไปหาก้องภพหรือ ถ้าเธอยังรักสามีอยู่จะฟ้องหย่าไปทำไมกันล่ะ แค่เธอชายตามองแล้วเลือกเขายังไม่สำเหนียก พอกันที! ชีวิตนี้ทำไมเธอต้องมาเสียใจและเสียหน้าเพราะภาวัตถึงสองครั้ง โทรศัพท์ถูกกดโทรออก เรียวปากสวยยิ้มร้าย ลัลนาจะช่วยบรรเทาพิษร้ายในอกของเธอได้
เอมิกาหน้าเสียวิ่งหาพิพัฒจนเกือบรอบคณะ พักนี้เพื่อนของเธอชักดัง แต่ข่าวล่าสุดที่เห็นในเฟสบุ๊กกับทวิตเตอร์ไม่น่าจะเรียกว่าข่าวดี งานนี้ได้มีคนเต้นแทนมาลินพร้อมๆ กัน 2 คนทีเดียวล่ะ พิพัฒเล่นบาสอยู่หันมาเห็นเธอกวักมือเรียกก็ยอมเดินมาหาดีๆ แต่พอให้ดูสิ่งที่ชาวเนตกำลังวิจารณ์กันมันหยดเท่านั้นแหละ องค์พระรองที่ลืมตัวว่าไม่ได้เป็นพระเอกก็ลงร่างแทบจะทันที
“พัฒไม่ยอม ลงข่าวแบบี้ลินเสียหายน่ะสิ” ป่านนี้เจ้าตัวคงยังไม่รู้แน่ๆ เขียนมาได้ยังไงว่าเขาเป็นแฟนของมาลิน หาว่าเธอคบซ้อน ทั้งที่เหมือนจะกำลังคบกับภาวัต “ห้ามบอกลินเด็ดขาดเลยนะ”
ลองไม่พยักหน้าสิ เอมิกาไม่อยากคิดว่าจะโดนอะไร อีตาพัฒมีความเป็นสุภาพบุรุษเสียที่ไหน ทั้งปากหมา ทั้งป่าเถื่อน ขี้โมโห ข้อดีอยู่ตรงไหนบ้างเนี่ย
“แล้วนายจะไปทำอะไรได้”
“ไม่เห็นยาก เธอน่ะมานี่”
โทรศัพท์ของเอมิกากลายเป็นกล้องเซลฟี่คู่รักเฉพาะกิจคู่ใหม่ เจ้าของกล้องถูกคว้าตัวมาเข้าเฟรมแบบไม่ถามความสมัครใจกันสักคำ
“นายจะทำอะไรอีตาบ้า”
พิพัฒโอบไหล่ โอบเอว เอียงหน้าซบ แนบแก้ม เอมิกาดันหน้าเขาออก แต่อีตานี่สนใจเสียที่ไหนยังจะถ่ายรูปให้ได้ พอจ้องอย่างไม่พอใจกลับถูกแยกเขี้ยวใส่ จนได้รูปที่น่าพอใจนั่นล่ะถึงได้ปล่อย อะไรของเขา(วะ)
“ขอบใจ ที่เหลือฉันจัดการเอง แต่เรื่องอื่น คงอยู่ที่อีตาขี้เก็กจะทำแล้วล่ะ”
“ทำอะไรหรือ”
มาลินแทรกมาตรงกลางถามอย่างอารมณ์ดี แต่เพื่อนสองคนพากันเหวอวงแตกโดยไม่มีเหตุผล แถมยังมองกันไปมา พิพัฒแจวไปก่อนคนแรก เอมิกาเลิกลั่กกลัวความแตกแล้วที่สำคัญที่อีตาเถื่อนถือไปน่ะมันโทรศัพท์ของเธอนะ
“แล้วนายจะไปไหน รอฉันด้วยสิ”
มาลินมองตามก็ยิ่งงงว่าทำไมเพื่อนๆ พากันหนี แล้วพิพัฒกับเอมิกาไปสนิทกันเมื่อไหร่ ดูทำเข้าแย่งโทรศัพท์กันน่ารักไปไหม สองคนนี้ทำอย่างกับเป็นแฟนกันเลยแฮะ
ห้องทำงานเงียบกริบ ไม่ได้ยินเสียงเซ็นเอกสารตามคาด แพรมนเห็นภาวัตกำลังใช้นิ้วไถหน้าจอโทรศัพท์อยู่ดูหน้าก็รู้ว่าโกรธหนวด(ถ้ามี)คงกระดิก ไม่เสียแรงที่อุตส่าห์ไปสืบจนรู้ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าว งานนี้เลข IP จากโทรศัพท์อาจได้ใช้เป็นหลักฐานหากมาลินเอาเรื่อง ขอให้เอาเรื่องเถอะ เธอจะเป็นแม่ยกช่วยหอบหลักฐานไปให้ ที่รีบมาก็เพราะเรื่องนี้แหละ
“เห็นแล้วล่ะสิ เป็นไงล่ะ ยัยลัลนานี่ตัวจี๊ดเลย แม่ยอดขมองอิ่มของนายกลายเป็นตัวหลอก คบซ้อนอะไรไปแล้วก็ไม่รู้ แล้วทีนี้จะเอายังไง”
“เอาไว้วันแข่งรถฉันจะแก้ข่าวเองแบบไม่ต้องพูดอะไรสักคำ” ภาวัตมั่นใจยังไงมาลินก็ต้องไป ภาพจะเล่าเรื่องแทนคำพูดได้ ภาวัตเขายิ้มกริ่มเลื่อนโทรศัพท์ไปให้คนตกข่าวดูเสียหน่อย “อ้อ ตอนนี้ข้อหาคบซ้อนไม่มีแล้ว แหมนายพิพัฒคนนี้ก็แก้สถานการณ์เก่งเหมือนกัน”
ภาพสดๆ ร้อนๆ ของพิพัฒกับ ‘แฟน’ กำลังหราในโลกโซเชียล ประเด็นคบซ้อนจบลงไม่มีใครวิพากษ์วิจารณ์ทันที แพรมนหัวเราะลั่นห้องเมื่อคิดว่าคนกุข่าวคงผิดหวังอกแตกตายไปแล้วกระมัง
“แล้วจะไปไหน ฉันอุตส่าห์มาชวนไปกินข้าว”
ถ้าบอกว่าไปกับแม่รีแม่แรดที่ไหนจะว๊ากแทนมาลินให้ ถึงจะยังไม่เปิดตัว แต่ในบรรดาสาวๆ ที่เข้ามา คนนี้เข้าตาเธอสุดๆ แล้ว
“ไปรับแฟนในข่าวกับว่าที่ตาแบบอยากเกี่ยวดอง ขอโทษด้วย ไว้คราวหน้าแล้วกันนะ”
แพรมนยกนิ้วโป้งให้ต้องดีใจสิเพื่อนจะจริงจังกับผู้หญิงดีๆ หลังจากลุ่มๆ ดอนๆ มาหลายปี ภาวัตหัวเราะเขิน เหมือนเขาขี้ตู่อยู่คนเดียว มาลินเคยให้ความหวังเสียทีไหน ที่จูบกันคราวนั้นเขาก็ดันสลบไปก่อนจะถามย้อนก็ไม่สบโอกาสสักที
รหัทลงมารออยู่ที่รถแล้วและทำหน้าที่ขับระวังอันตรายเมื่อรู้แล้วว่าคนที่ทำร้ายพิพัฒอาจเป็นคนที่ตำรวจกำลังตามอย่างใกล้ชิด พอเห็นภาวัตมาก็เปิดประตูพร้อมกับยื่นเอกสารให้
“งานที่คุณสั่งให้สืบครับ”
ภาวัตเปิดซองจำได้ว่างานไหน รูปที่แคปจากกล้องวงจรปิดทำให้รู้ว่าผู้หญิงปริศนาไปหาใครหลังจากถ่ายรูปเขาไปในคืนนั้น ชายหนุ่มถอนใจยาวสายตามองออกไปนอกรถ รู้สึกเหมือนมีบางอย่างขว้างเข้ามาที่ใจ ไม่คิดว่าจะกลายเป็นแบบนี้
“ชีวิตผมนี่หาคนรักยากกว่าคนเกลียดจริงๆ”
รหัทฟังเฉยๆ ไม่ซ้ำเติมเพราะในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้นเลย ภาวัตเก็บภาพทั้งหมดใส่ซองเริ่มคิดหาเหตุผลที่ถูกคนใกล้ตัวแทงข้างหลัง มันเริ่มจากความเจ้าชู้ในวัยหนุ่มแล้วเรื่องอื่นๆ ก็ตามมา ตอนนี้เขาหยุดเสเพลแล้ว แต่อดีตก็ยังมาเล่นงานเขาอยู่ดี หวังเหลือเกินว่าจะไม่เกิดเหตุอะไรให้มาลินเป็นฝ่ายเดินจากเขาไปอย่างในอดีตที่รัมภาเคยทำไว้
รถเข้ามาจอดหน้าบ้าน พยาบาลกางเก้าอี้ออก ภาวัตกับมาลินช่วยกันประคองร่มธรรมลงมานั่งแล้วเข็นรถเข้าไปในบ้านพาขึ้นลิฟต์ที่มีแต่ไม่ค่อยได้ใช้ หลานให้ช่างมาทำเพิ่มนานแล้วเผื่อว่าทีปต์แก่มากกว่านี้แล้วเดินขึ้นบันไดไม่ไหว ตอนนี้เลยได้ใช้เสียที ภาวัตนำทางไปยังห้องที่เตรียมไว้ ชายชรามองไปรอบตัวรู้สึกตื่นกลัวจับมือของเด็กสาวที่บอกว่าเป็นหลานของเขาไว้แน่
“บ้านเพื่อนของตานะคะ ตอนนี้เราจะมาอยู่ที่นี่ด้วยกันก่อน พอหลายๆ อย่างเรียบร้อยเราจะกลับบ้านกันค่ะ ไม่ต้องกังวลนะคะ” มาลินคอยบอกตามที่หมอกำชับว่าตาอาจจะตกใจเพราะมาในที่ที่ไม่รู้จักหรือจำไม่ได้
“เพื่อนสนิทหรือเปล่า”
มาลินมองภาวัตแบบหาคนช่วย เรียวปากหนายิ้มกว้างระหว่างคิดหาคำตอบ เคยสนิท ตอนนี้เกลียดอยู่ฝ่ายเดียวจะเลือกตอบแบบไหนดี
“ก็...น่าจะสนิทนะครับ” บอกไม่หมด ไม่น่าจะเรียกว่าโกหกกระมัง “ที่นี่ปลอดภัยและมีแต่คนหวังดีต่อคุณร่มธรรมนะครับ”
ชายชราพยักหน้ายิ้มให้มาลิน แม้จะยังจำไม่ได้ว่าเป็นหลาน แต่การที่มาดูแลตลอดหลังจากฟื้นย่อมเบาใจได้ว่าหวังดี ถ้าไม่ใช่ญาติกันคงไม่ทำให้แบบนี้
“ขอบใจ ถ้าฉันจำอะไรได้ทั้งหมดคงจะดี”
ทีปต์มาทันได้ยินที่ร่มธรรมบอกหลานๆ พอดีเลยยิ้มเกือบหัวเราะ ลองถ้าความจำกลับมาคงไม่ยอมอยู่ที่นี่หรอก อาจเม้งแตกตั้งแต่รู้ว่าเขาไปเยี่ยมแล้ว
ภาวัตช่วยพยาบาลประคองร่มธรรมมาที่เตียง สิ่งต่างๆ ภายในห้องกลายเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับชายชรา ถึงความทรงจำยังไม่กลับมา ทว่าเขารู้สึกได้ว่าไม่ชินห้องทึบๆ มีหน้าต่างกับประตูที่พาออกไปสู่ระเบียงเลย ภาพห้องที่เป็นไม้กระดานสีซีดมีหน้าต่างรอบห้อง ลมพัดเข้ามาทำให้เย็นสบายวาบเข้ามาในสมอง แต่กลับหยุดลงแค่เท่านั้น
“นอนพักซะจะได้แข็งแรง” มือเหี่ยวย่นวางลงไหล่ของเพื่อนที่มองมาแล้วยิ้มให้ บางทีเขาก็คิดอยากให้ร่มธรรมจำอะไรไปไม่ได้สักพักจะได้ชดเชยเรื่องราวในอดีตด้วยการดูแลกัน “ฝากด้วยนะครับคุณพยาบาล”
“เดี๋ยวลินกลับบ้านไปเอาเสื้อผ้ากับของที่ตาใช้ประจำก่อนนะคะ”
“เดี๋ยว” ภาวัตคว้าแขนเรียวไว้ เผลอไม่ได้หนีเขาอยู่เรื่อย “แค่บอกว่าไปส่งหน่อย ฉันก็ยอมไปด้วยง่ายๆ แล้ว ทำไมต้องให้สอนบ่อยๆ”
มาลินยกมือไหว้ปู่และตา แล้วเป็นฝ่ายเร่งภาวัตเสียเอง
“ไปกันเถอะค่ะ”
ทีปต์ยกนิ้วโป้งให้ ดูรึแค่บอกว่าไปกัน เจ้าหลานของเขาก็แทบจะลอยตามไปอยู่แล้ว เนี่ยนะเสือผู้หญิง ลูกแมวชัดๆ ภาวัตน่ะแสดงออกชัดเชน แต่มาลินต่างหากที่ดูยากว่าคิดยังไง ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงที่มาทำให้หลานของเขารู้จักคำว่า ‘หยุด’ และ ‘ยอม’ จะกลายเป็นหลานของร่มธรรม
หนังสือวางแผงแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นจะลงนิยายให้อ่านถึงตอนที่ 19 นะคะ สามารถซื้อได้จากร้านหนังสือทั่วประเทศเช่น se-ed นายอินทร์ หรืออ่านต่อใน E-BOOK เว็บ MEB ค่ะ ฝากภาวัตกับมาลินด้วยจ้า
อัมราน_บรรพตี
“หน้าตาวัตดูซีเรียสจังนะคะ” เสียงหัวเราะกำลังกลบเกลื่อนความกลัวภายในใจ
“ผมชัดเจนเสมอ ถ้าคุณรู้จักผมดี ใครที่เข้ามาแล้วเป็นเพื่อน ใครที่เข้ามาเพื่อมีอนาคตต่อไปด้วยกัน พูดมาถึงตรงนี้คุณคงพอรู้แล้วว่าผมจะพูดอะไรสำหรับเรื่องระหว่างเราใช่ไหม”
สีหน้าของภาวัตไม่ต่างจากตอนที่เราเลิกกัน เพียงแต่ตอนนั้นเธอเป็นฝ่ายเอ่ยคำลา แล้วเขาเป็นฝ่ายขอโอกาส ทว่าในตอนนี้ทุกอย่างสลับกันโชคชะตาช่างน่าขัน
“ภากำลังฟ้องหย่า วัตรอภาได้ไหมคะ”
ภาวัตมองเฉย ประเด็นไม่ได้อยู่ที่รอหรือไม่รอมาตั้งแต่แรกแล้ว เขาต้องเดินหน้าต่อไป ในขณะที่รัมภาต้องการย้อนเวลากลับไปในวันที่มันไม่มีอีกแล้วอย่างนั้นหรือ
“สิ่งที่พิเศษมักจะเกิดในช่วงเวลาหนึ่งและเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ผมเคยรักคุณ ผมใช้คำว่าเคย สถานะตอนนี้หากคุณไม่ยอมรับความเป็นเพื่อนไว้ เราจะไม่เหลือสถานะอะไรระหว่างกันอีก”
เงียบกริบ...นานเนิ่น รัมภานิ่งงันไม่แน่ใจว่าลมหายใจยังจำเป็นจนกระทั่งได้ยินเสียงถอนใจยาวของตัวเอง ความเย็นที่แก้มหมายถึงอะไร เธอไม่รู้คำตอบจนกระทั่งนิ้วได้สัมผัสน้ำซึ่งไหลออกมาจากดวงตาที่กำลังมองภาวัตความผิดหวัง เสียใจและกลายเป็นโกรธในนาทีต่อมา
“ทำไมภาไม่มีโอกาสบ้าง ตอนที่เราเลิกกันมันเป็นความผิดของคุณ”
ภาวัตคิดไว้อยู่แล้วหากพูดตรงไปตรงมา เรื่องในอดีตจะถูกขุดขึ้นมา รัมภาไม่ใช่หรือที่ทำให้เขาได้คำตอบว่าควรหยุดได้แล้วเพื่อผู้หญิงที่รักเพียงคนเดียว แต่เป็นเธอเช่นกันที่ทิ้งเขาไปโดยไม่ฟังคำอธิบายกล่าวหาว่าถูกนอกใจ ทั้งที่ในเวลานั้นเขาจะมีใครได้อย่างไรในเมื่อกำลังจะขอเธอแต่งงาน
ความผิดในใจข้อเดียวที่เขามีต่อเธอคือทำให้เกิดความเชื่อใจกันไม่ได้
“ผมขอโทษเหมือนกับที่เคยบอกคุณไป แต่ไม่มีใครบังคับให้คุณไปแต่งงานแล้วมาพบว่าชีวิตไม่สวยงามอย่างที่คิด กลับไปที่ของคุณเถอะ อย่าให้ผมต้องเป็นฝ่ายไปจากคุณแล้วกลายเป็นคนอื่นเลย”
“เพราะเด็กคนนั้นใช่ไหมคะ คุณถึงไม่ลังเลที่จะทิ้งภาอีกครั้ง” น้ำตาถูกเช็ดออกไป เธอมีค่าเกินกว่าที่จะถูกปฏิเสธ
“ฐานะของเราสองคนตอนนี้คงใช้คำว่าทิ้งไม่ได้เพราะผมไม่ได้รักคุณมานานแล้ว ต่อให้ตอนนี้ผมไม่มีใคร ระหว่างเราก็กลับไปเหมือนเดิมไม่ได้อีก ก้องภพรักคุณมากนะ อย่าทำร้ายเขาแบบนี้เลย”
รัมภากำมือแน่นลุกขึ้นแล้วออกไปจากห้องเพื่อเก็บเสื้อผ้าเมื่อไม่เคยรู้สึกตัวเองไร้ค่าเท่านี้มาก่อน ไม่ได้รักยังพอทำใจ แต่บอกให้กลับไปหาก้องภพหรือ ถ้าเธอยังรักสามีอยู่จะฟ้องหย่าไปทำไมกันล่ะ แค่เธอชายตามองแล้วเลือกเขายังไม่สำเหนียก พอกันที! ชีวิตนี้ทำไมเธอต้องมาเสียใจและเสียหน้าเพราะภาวัตถึงสองครั้ง โทรศัพท์ถูกกดโทรออก เรียวปากสวยยิ้มร้าย ลัลนาจะช่วยบรรเทาพิษร้ายในอกของเธอได้
เอมิกาหน้าเสียวิ่งหาพิพัฒจนเกือบรอบคณะ พักนี้เพื่อนของเธอชักดัง แต่ข่าวล่าสุดที่เห็นในเฟสบุ๊กกับทวิตเตอร์ไม่น่าจะเรียกว่าข่าวดี งานนี้ได้มีคนเต้นแทนมาลินพร้อมๆ กัน 2 คนทีเดียวล่ะ พิพัฒเล่นบาสอยู่หันมาเห็นเธอกวักมือเรียกก็ยอมเดินมาหาดีๆ แต่พอให้ดูสิ่งที่ชาวเนตกำลังวิจารณ์กันมันหยดเท่านั้นแหละ องค์พระรองที่ลืมตัวว่าไม่ได้เป็นพระเอกก็ลงร่างแทบจะทันที
“พัฒไม่ยอม ลงข่าวแบบี้ลินเสียหายน่ะสิ” ป่านนี้เจ้าตัวคงยังไม่รู้แน่ๆ เขียนมาได้ยังไงว่าเขาเป็นแฟนของมาลิน หาว่าเธอคบซ้อน ทั้งที่เหมือนจะกำลังคบกับภาวัต “ห้ามบอกลินเด็ดขาดเลยนะ”
ลองไม่พยักหน้าสิ เอมิกาไม่อยากคิดว่าจะโดนอะไร อีตาพัฒมีความเป็นสุภาพบุรุษเสียที่ไหน ทั้งปากหมา ทั้งป่าเถื่อน ขี้โมโห ข้อดีอยู่ตรงไหนบ้างเนี่ย
“แล้วนายจะไปทำอะไรได้”
“ไม่เห็นยาก เธอน่ะมานี่”
โทรศัพท์ของเอมิกากลายเป็นกล้องเซลฟี่คู่รักเฉพาะกิจคู่ใหม่ เจ้าของกล้องถูกคว้าตัวมาเข้าเฟรมแบบไม่ถามความสมัครใจกันสักคำ
“นายจะทำอะไรอีตาบ้า”
พิพัฒโอบไหล่ โอบเอว เอียงหน้าซบ แนบแก้ม เอมิกาดันหน้าเขาออก แต่อีตานี่สนใจเสียที่ไหนยังจะถ่ายรูปให้ได้ พอจ้องอย่างไม่พอใจกลับถูกแยกเขี้ยวใส่ จนได้รูปที่น่าพอใจนั่นล่ะถึงได้ปล่อย อะไรของเขา(วะ)
“ขอบใจ ที่เหลือฉันจัดการเอง แต่เรื่องอื่น คงอยู่ที่อีตาขี้เก็กจะทำแล้วล่ะ”
“ทำอะไรหรือ”
มาลินแทรกมาตรงกลางถามอย่างอารมณ์ดี แต่เพื่อนสองคนพากันเหวอวงแตกโดยไม่มีเหตุผล แถมยังมองกันไปมา พิพัฒแจวไปก่อนคนแรก เอมิกาเลิกลั่กกลัวความแตกแล้วที่สำคัญที่อีตาเถื่อนถือไปน่ะมันโทรศัพท์ของเธอนะ
“แล้วนายจะไปไหน รอฉันด้วยสิ”
มาลินมองตามก็ยิ่งงงว่าทำไมเพื่อนๆ พากันหนี แล้วพิพัฒกับเอมิกาไปสนิทกันเมื่อไหร่ ดูทำเข้าแย่งโทรศัพท์กันน่ารักไปไหม สองคนนี้ทำอย่างกับเป็นแฟนกันเลยแฮะ
ห้องทำงานเงียบกริบ ไม่ได้ยินเสียงเซ็นเอกสารตามคาด แพรมนเห็นภาวัตกำลังใช้นิ้วไถหน้าจอโทรศัพท์อยู่ดูหน้าก็รู้ว่าโกรธหนวด(ถ้ามี)คงกระดิก ไม่เสียแรงที่อุตส่าห์ไปสืบจนรู้ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าว งานนี้เลข IP จากโทรศัพท์อาจได้ใช้เป็นหลักฐานหากมาลินเอาเรื่อง ขอให้เอาเรื่องเถอะ เธอจะเป็นแม่ยกช่วยหอบหลักฐานไปให้ ที่รีบมาก็เพราะเรื่องนี้แหละ
“เห็นแล้วล่ะสิ เป็นไงล่ะ ยัยลัลนานี่ตัวจี๊ดเลย แม่ยอดขมองอิ่มของนายกลายเป็นตัวหลอก คบซ้อนอะไรไปแล้วก็ไม่รู้ แล้วทีนี้จะเอายังไง”
“เอาไว้วันแข่งรถฉันจะแก้ข่าวเองแบบไม่ต้องพูดอะไรสักคำ” ภาวัตมั่นใจยังไงมาลินก็ต้องไป ภาพจะเล่าเรื่องแทนคำพูดได้ ภาวัตเขายิ้มกริ่มเลื่อนโทรศัพท์ไปให้คนตกข่าวดูเสียหน่อย “อ้อ ตอนนี้ข้อหาคบซ้อนไม่มีแล้ว แหมนายพิพัฒคนนี้ก็แก้สถานการณ์เก่งเหมือนกัน”
ภาพสดๆ ร้อนๆ ของพิพัฒกับ ‘แฟน’ กำลังหราในโลกโซเชียล ประเด็นคบซ้อนจบลงไม่มีใครวิพากษ์วิจารณ์ทันที แพรมนหัวเราะลั่นห้องเมื่อคิดว่าคนกุข่าวคงผิดหวังอกแตกตายไปแล้วกระมัง
“แล้วจะไปไหน ฉันอุตส่าห์มาชวนไปกินข้าว”
ถ้าบอกว่าไปกับแม่รีแม่แรดที่ไหนจะว๊ากแทนมาลินให้ ถึงจะยังไม่เปิดตัว แต่ในบรรดาสาวๆ ที่เข้ามา คนนี้เข้าตาเธอสุดๆ แล้ว
“ไปรับแฟนในข่าวกับว่าที่ตาแบบอยากเกี่ยวดอง ขอโทษด้วย ไว้คราวหน้าแล้วกันนะ”
แพรมนยกนิ้วโป้งให้ต้องดีใจสิเพื่อนจะจริงจังกับผู้หญิงดีๆ หลังจากลุ่มๆ ดอนๆ มาหลายปี ภาวัตหัวเราะเขิน เหมือนเขาขี้ตู่อยู่คนเดียว มาลินเคยให้ความหวังเสียทีไหน ที่จูบกันคราวนั้นเขาก็ดันสลบไปก่อนจะถามย้อนก็ไม่สบโอกาสสักที
รหัทลงมารออยู่ที่รถแล้วและทำหน้าที่ขับระวังอันตรายเมื่อรู้แล้วว่าคนที่ทำร้ายพิพัฒอาจเป็นคนที่ตำรวจกำลังตามอย่างใกล้ชิด พอเห็นภาวัตมาก็เปิดประตูพร้อมกับยื่นเอกสารให้
“งานที่คุณสั่งให้สืบครับ”
ภาวัตเปิดซองจำได้ว่างานไหน รูปที่แคปจากกล้องวงจรปิดทำให้รู้ว่าผู้หญิงปริศนาไปหาใครหลังจากถ่ายรูปเขาไปในคืนนั้น ชายหนุ่มถอนใจยาวสายตามองออกไปนอกรถ รู้สึกเหมือนมีบางอย่างขว้างเข้ามาที่ใจ ไม่คิดว่าจะกลายเป็นแบบนี้
“ชีวิตผมนี่หาคนรักยากกว่าคนเกลียดจริงๆ”
รหัทฟังเฉยๆ ไม่ซ้ำเติมเพราะในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้นเลย ภาวัตเก็บภาพทั้งหมดใส่ซองเริ่มคิดหาเหตุผลที่ถูกคนใกล้ตัวแทงข้างหลัง มันเริ่มจากความเจ้าชู้ในวัยหนุ่มแล้วเรื่องอื่นๆ ก็ตามมา ตอนนี้เขาหยุดเสเพลแล้ว แต่อดีตก็ยังมาเล่นงานเขาอยู่ดี หวังเหลือเกินว่าจะไม่เกิดเหตุอะไรให้มาลินเป็นฝ่ายเดินจากเขาไปอย่างในอดีตที่รัมภาเคยทำไว้
รถเข้ามาจอดหน้าบ้าน พยาบาลกางเก้าอี้ออก ภาวัตกับมาลินช่วยกันประคองร่มธรรมลงมานั่งแล้วเข็นรถเข้าไปในบ้านพาขึ้นลิฟต์ที่มีแต่ไม่ค่อยได้ใช้ หลานให้ช่างมาทำเพิ่มนานแล้วเผื่อว่าทีปต์แก่มากกว่านี้แล้วเดินขึ้นบันไดไม่ไหว ตอนนี้เลยได้ใช้เสียที ภาวัตนำทางไปยังห้องที่เตรียมไว้ ชายชรามองไปรอบตัวรู้สึกตื่นกลัวจับมือของเด็กสาวที่บอกว่าเป็นหลานของเขาไว้แน่
“บ้านเพื่อนของตานะคะ ตอนนี้เราจะมาอยู่ที่นี่ด้วยกันก่อน พอหลายๆ อย่างเรียบร้อยเราจะกลับบ้านกันค่ะ ไม่ต้องกังวลนะคะ” มาลินคอยบอกตามที่หมอกำชับว่าตาอาจจะตกใจเพราะมาในที่ที่ไม่รู้จักหรือจำไม่ได้
“เพื่อนสนิทหรือเปล่า”
มาลินมองภาวัตแบบหาคนช่วย เรียวปากหนายิ้มกว้างระหว่างคิดหาคำตอบ เคยสนิท ตอนนี้เกลียดอยู่ฝ่ายเดียวจะเลือกตอบแบบไหนดี
“ก็...น่าจะสนิทนะครับ” บอกไม่หมด ไม่น่าจะเรียกว่าโกหกกระมัง “ที่นี่ปลอดภัยและมีแต่คนหวังดีต่อคุณร่มธรรมนะครับ”
ชายชราพยักหน้ายิ้มให้มาลิน แม้จะยังจำไม่ได้ว่าเป็นหลาน แต่การที่มาดูแลตลอดหลังจากฟื้นย่อมเบาใจได้ว่าหวังดี ถ้าไม่ใช่ญาติกันคงไม่ทำให้แบบนี้
“ขอบใจ ถ้าฉันจำอะไรได้ทั้งหมดคงจะดี”
ทีปต์มาทันได้ยินที่ร่มธรรมบอกหลานๆ พอดีเลยยิ้มเกือบหัวเราะ ลองถ้าความจำกลับมาคงไม่ยอมอยู่ที่นี่หรอก อาจเม้งแตกตั้งแต่รู้ว่าเขาไปเยี่ยมแล้ว
ภาวัตช่วยพยาบาลประคองร่มธรรมมาที่เตียง สิ่งต่างๆ ภายในห้องกลายเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับชายชรา ถึงความทรงจำยังไม่กลับมา ทว่าเขารู้สึกได้ว่าไม่ชินห้องทึบๆ มีหน้าต่างกับประตูที่พาออกไปสู่ระเบียงเลย ภาพห้องที่เป็นไม้กระดานสีซีดมีหน้าต่างรอบห้อง ลมพัดเข้ามาทำให้เย็นสบายวาบเข้ามาในสมอง แต่กลับหยุดลงแค่เท่านั้น
“นอนพักซะจะได้แข็งแรง” มือเหี่ยวย่นวางลงไหล่ของเพื่อนที่มองมาแล้วยิ้มให้ บางทีเขาก็คิดอยากให้ร่มธรรมจำอะไรไปไม่ได้สักพักจะได้ชดเชยเรื่องราวในอดีตด้วยการดูแลกัน “ฝากด้วยนะครับคุณพยาบาล”
“เดี๋ยวลินกลับบ้านไปเอาเสื้อผ้ากับของที่ตาใช้ประจำก่อนนะคะ”
“เดี๋ยว” ภาวัตคว้าแขนเรียวไว้ เผลอไม่ได้หนีเขาอยู่เรื่อย “แค่บอกว่าไปส่งหน่อย ฉันก็ยอมไปด้วยง่ายๆ แล้ว ทำไมต้องให้สอนบ่อยๆ”
มาลินยกมือไหว้ปู่และตา แล้วเป็นฝ่ายเร่งภาวัตเสียเอง
“ไปกันเถอะค่ะ”
ทีปต์ยกนิ้วโป้งให้ ดูรึแค่บอกว่าไปกัน เจ้าหลานของเขาก็แทบจะลอยตามไปอยู่แล้ว เนี่ยนะเสือผู้หญิง ลูกแมวชัดๆ ภาวัตน่ะแสดงออกชัดเชน แต่มาลินต่างหากที่ดูยากว่าคิดยังไง ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงที่มาทำให้หลานของเขารู้จักคำว่า ‘หยุด’ และ ‘ยอม’ จะกลายเป็นหลานของร่มธรรม
หนังสือวางแผงแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นจะลงนิยายให้อ่านถึงตอนที่ 19 นะคะ สามารถซื้อได้จากร้านหนังสือทั่วประเทศเช่น se-ed นายอินทร์ หรืออ่านต่อใน E-BOOK เว็บ MEB ค่ะ ฝากภาวัตกับมาลินด้วยจ้า
อัมราน_บรรพตี
บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ม.ค. 2559, 10:36:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ม.ค. 2559, 10:36:24 น.
จำนวนการเข้าชม : 1178
<< ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง | ตอนที่ 18 ครึ่งหลัง >> |
konhin 6 ม.ค. 2559, 07:13:34 น.
ตาความจำเสื่อมจริงๆหรือ หรือแอบจำได้แล้ว
ตาความจำเสื่อมจริงๆหรือ หรือแอบจำได้แล้ว