เล่ห์รักพรางแค้น วางแผงแล้ว สนพ ทัช
ใครจะไปคิดว่าการทำภารกิจให้ปู่ กลับกลายเป็นถูกโชคชะตากลั่นแกล้งให้เขาถูกสลัดลงจากคาน ยัยซื่อบื้อนั่นน่ะหรือคือไก่วัดที่ทำให้เขากลายเป็นสมภาร
Tags: ความรัก ความหลัง

ตอน: ตอนที่ 18 ครึ่งหลัง

ภาวัตขับรถรวดเดียวไม่แวะระหว่างเพราะไม่อยากกลับบ้านค่ำ ไม่อย่างนั้นรหัทคงบ่นเขาว่าทำตัวล่อเป้าตลอด แค่ที่ขับรถตามมาแทนที่จะขับรถให้ก็ดีใจแทบแย่แล้ว คงรู้ว่าเขาอยากมีเวลากับมาลินบ้างก่อนต้องเก็บตัวแข่งรถ ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงก็มาถึงบ้านในไร่




“มากันแล้วหรือ แม่กำลังจะเข้าครัวพอดีเลย” พัชนีรับไหว้ค่อยยิ้มได้เมื่อสบายใจแล้วว่าพ่ออยู่กับคนที่ช่วยป้องกันจากคนร้ายได้




“ถ้างั้นผมช่วยเป็นลูกมือครับ”




มาลินยิ้มชอบใจไม่เคยเห็นภาวัตเข้าครัวสักที “คุยกับแม่ไปก่อนนะคะ เดี๋ยวลินไปเก็บของใช้ให้ตาก่อน”




ภายในห้องของร่มธรรมมีของที่ใช้ประจำอยู่ไม่มาก มาลินเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าและของใช้ต่างๆ อย่างพวกยาดมที่ตาใช้ประจำ ในตู้ไม่ค่อยมีของกระจุกกระจิกอะไร ยกเว้นกล่องไม้ขนาดไม่ใหญ่นัก เมื่อเปิดดูก็เห็นมีอัลบั้มรูปต่างๆ ของทุกคนที่จากไป เธอนั่งลงเปิดรูปด้วยความคิดถึง แต่แล้วรูปใบหนึ่งที่ไม่เคยเห็นกลับทำให้เธอชาวาบจากนิ้วมาถึงหัวใจ




“ทำไมคุณวัตถึงได้มาถ่ายรูปกับพี่บัวได้”




รูปวางลงข้างๆ มือบางตกลงด้วยความกลัวบางอย่าง อีกทั้งเมื่อได้อ่านจดหมายของพี่บัวที่เพิ่งเคยเห็น









...มีหลายอย่างในชีวิตทีบัวยังไม่ได้ทำและไม่มีโอกาสได้ทำอะไรอีกแล้ว ความสำเร็จที่คาดหวังพังทลาย ชีวิตไม่อาจก้าวต่อไปเมื่อหัวใจไม่พร้อมจะต่อสู้อะไรอีก ที่ผ่านมาบัวทำอะไรลงไป ถ้ารู้ว่าอนาคตจะหมดลงพร้อมๆ กับทำให้ทุกคนผิดหวัง บัวจะหยุดทุกอย่างไว้แล้วรักคนที่ดียิ่งกว่าใคร ขอโทษจากใจ ร้อยหมื่นหยดน้ำตาคงเรียกคืนความผิดหวังจากแม่ไม่ได้ ช่างโง่เขลาเหลือเกินที่มีทางเลือกมากมาย แต่บัวกลับเลือกหนทางนี้ การก้าวต่อไปมันยากเกินไปสำหรับคนแพ้และเหนื่อยที่ต้องสู้เสียแล้ว บัวอยู่ต่อไปอีกไม่ไหว มันทรมานเหลือเกิน หากจะตายก็ขอให้ได้ตายเพื่อคนที่บัวรัก









วันนั้นที่ตาเห็นภาวัตแล้วพูดชื่อพี่บัวขึ้นมา ตากำลังคิดอะไร มาลินหารูปใบอื่นๆ แต่มีเพียงรูปนี้เท่านั้นที่ทำให้เกิดความสงสัย เธอตัดสินใจเก็บรูปกับจดหมายไว้เสียเองกลัวตาจะมาเห็น ตาเคยพร่ำถามตัวเองว่าหลานสาวสุดที่รักฆ่าตัวตายเพราะใคร สิ่งที่เห็นคือคำตอบใช่ไหม




เรากินข้าวกับแม่ก่อนจะเดินทางกลับในเวลาเกือบ 5 โมงเย็น ภายในรถเงียบเมื่อมีหลายสิ่งที่มาลินกำลังคิด ใบหน้าเธอหมกมุ่นเหม่อลอย แค่เพียงภาวัตเรียกเบาๆ ยังสะดุ้งหันมามอง




“เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่สบาย ปวดหัว บอกฉันได้นะ”




“ลินไม่ได้เป็นอะไรค่ะ แค่อยากถามว่าคุณวัตรู้จัก...” มาลินถอนใจกัดริมฝีปากมองหน้าภาวัตแล้วเป็นฝ่ายไม่กล้าเสียเอง หากเขาเป็นคนที่... คำตอบของเขาน่ากลัวเกินกว่าที่เธอจะรับฟังในตอนนี้




“ช่างมันเถอะค่ะ ลินคงเหนื่อยเลยคิดอะไรฟุ้งซ่าน ขอหลับสักงีบนะคะ”




ภาวัตจอดรถแล้วปรับเบาะเอนลงให้แล้วค่อยขับรถต่อ มาลินหลับตาลงพยายามปิดกั้นทุกสิ่งออกไปจากความคิด ทว่าหัวใจกลับสะท้อนสะท้านราวกับเรื่องราวในวันนั้นเพิ่งเกิดเมื่อวาน กลัวเหลือเกินหากภาวัตเป็นผู้ชายที่ทำให้พี่บัวกินยาฆ่าตัวตายในคืนก่อนวันแต่งงาน เธอคงเป็นเพื่อนหรือสิ่งใดๆ ก็ตามที่เขาอยากให้เป็นไม่ได้อีก









สองข้างทางค่อยๆ เปลี่ยนฝั่งหนึ่งเป็นตึกราม ส่วนอีกฝั่งเป็นทะเลเลียบชายหาด ทีปต์ช่วยเปิดกระจกรถตู้ให้ลมเย็นๆ พัดเข้ามา ในอดีตเราสองคนแทบจะมีบ้านอยู่บนเรือเมื่อต้องออกหาปลากันเป็นแรมเดือนก่อนจะมาทำเรือขายจนกลายเป็นกิจการยิ่งใหญ่ของครอบครัว




รถจอดที่ท่าเรือด้านหลังของ Blue Sea ร่มธรรมถูกพาลงมาเดินช้าๆ ตามที่หมอสั่ง โดยมีทีปต์คอยดูแลอยู่ไม่ห่าง คลื่นทะเลพลิ้วสวยอยู่ใกล้ๆ ความทรงจำมากมายของเราสองคนอยู่ในท้องทะเล รวมทั้งวันที่เราตัดความเป็นเพื่อนแล้วเขาขับออกเรือไปด้วยความเสียใจ




“พามาที่นี่ทำไมหรือครับ”




“ตอนนี้แกยังจำอะไรไม่ได้นะธรรม แต่ฉันก็อยากขอโทษแกอยู่ดีล่ะว่ะ ขอโทษมาทุกปี จนกว่าจะยกโทษให้ อยากให้แกรู้ว่าฉันรู้สึกผิดต่อสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ ไม่ใช่แค่พูดคำขอโทษออกมา”




ชายชรามองท่าเรือแล้วได้แต่ยิ้ม ถ้าเขากับทีปต์เป็นเพื่อนกัน ทำไมถึงต้องมาขอโทษกันทุกปีด้วยล่ะ




“คุณทำอะไรเอาไว้งั้นรึ ถึงต้องมาขอโทษผม”




ทีปต์ไม่นึกเลยว่าต้องมาพูดเรื่องนี้ให้ร่มธรรมฟัง เราสองคนต่างจำเรื่องราวในตอนนั้นได้ดีไม่ต่างกัน เพียงแต่เขาเลือกจะเดินต่อไป ในขณะที่ร่มธรรมยังไม่ได้ก้าวไปไหนถึงยังเศร้าใจทุกครั้งในวันเกิดของเขาซึ่งมันควรจะเป็นวันแต่งงานของน้องสาวกับเพื่อนรัก แต่กลายเป็นงานร้าง




“ฉันผิดสัญญาทำให้น้องของแกหม้ายขันหมากเพราะไปทำผู้หญิงอีกคนท้องเลยต้องรับผิดชอบ ฉันเสียใจที่ทำให้น้องแกเสียใจ แต่ก็ดีใจที่ไม่ทำอะไรโง่ๆ จนทำร้ายเด็กที่กำลังจะเกิดขึ้นมา”




แววตาของร่มธรรมที่มองทีปต์ไม่ได้เปลี่ยนเป็นโกรธแค้น ทว่าเหมือนพยายามฟังให้เข้าใจประหนึ่งตอนนี้เขาเป็นเพียงคนนอกที่ได้ฟังเรื่องราวใหม่ๆ แล้วถามอย่างตรงไปตรงมาต่างจากร่มธรรมที่จำได้ทุกอย่างแล้วเอาแต่โกรธจนไม่ยอมฟังเหตุผลของใคร




“แล้วทำไมตอนนั้นไม่ซื่อสัตย์ล่ะ”




ทีปต์ถอนใจการเล่าความเลวในอดีตคงเหมือนได้ระบายออกมา แต่บาปยังอยู่เช่นเดิม




“ความเมานำมาสู่ความผิดพลาด ฉันเลวเองทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งเสียใจจนตรอมใจ ส่วนอีกคนถึงจะได้ชื่อว่าเมียแต่ง แต่ก็มีความสุขไม่เต็มที่เพราะเขารู้ว่าฉันรักใครจนวาระสุดท้ายของชีวิต”




ร่มธรรมพยักหน้าพลางยื่นมือมาวางบนไหล่ที่งองุ้มลงของทีปต์อย่างในอดีต ความทรงจำไม่สำคัญเท่าจิตใต้สำนึก ทีปต์เขม้นมองสิ่งนี้เคยเกิดขึ้นในวันที่เขาถูกหักหลังแล้วเหลือแต่ร่มธรรมที่คอยเคียงข้าง ฉับพลันนั้นดวงตาเป็นมิตรกลับมีแววโกรธเคียงแต่พอกะพริบก็ว่างเปล่า ใบหน้าเหยแกราวกับเจ็บปวดเมื่อสมองเหมือนถูกสาดด้วยน้ำร้อนภาพต่างๆ คล้ายทีวีที่ไม่สมประกอบ




“เป็นอะไรหรือเปล่า ปวดหัวใช่ไหม ฉันผิดเองไม่ต้องคิดอะไรแล้ว เรากลับกันดีกว่า”




ทีปต์บอกซ้ำๆ จากที่ปรารถนาดีอยากช่วยฟื้นความจำตามที่หมอบอกจะกลายเป็นทำให้แย่ลงหรือเปล่า ร่มธรรมถูกพากลับไปที่รถ ระหว่างกลับบ้านได้แวะหาหมอตรวจอาการ พอผลออกมาว่าไม่มีอะไรผิดปกติแล้วค่อยเบาใจ ดวงตาของร่มธรรมที่มองกลับมาเป็นมิตรดังเดิม ทีปต์ทั้งดีใจและผิดหวังคิดว่าเรื่องเขาผิดพลาดจะกระตุ้นความทรงจำได้เสียอีก









ภาวัตเริ่มทึ่งกับทีมบอดี้การ์ดของคิมหันต์เมื่อได้ข่าวในเวลาใกล้ๆ กับตำรวจว่าภายใน 2 ชั่วโมงจะมีการแลกเปลี่ยนสินค้าที่คาดว่าจะเป็นยาเสพติดที่โรงแรมเล็กๆ นอกเมือง ยังไม่ชัดเจนว่านอกจากเป้าหมายที่ตำรวจหมายหัวไว้จะมี ‘นายใหญ่’ โผล่มาหรือเปล่า




เขายกเลิกประชุมช่วงบ่ายไปก่อน บอกเลขาสั้นๆว่ามีธุระสำคัญ รหัทไม่ห้ามเหมือนอย่างเคยแต่เตรียมรถกันกระสุนมาเลยทีเดียว พวกเราเดินทางไปกับตำรวจทีมสอง ในขณะที่ทีมหนึ่งทำตามแผนอยู่ที่โรงแรม




แผนเริ่มจากมือขาวของนายใหญ่ที่ตำรวจจับได้แล้วคุมตัวไว้ในเซฟเฮาส์ถูกสั่งให้โทรไปบอกนายของมันว่ามีลูกค้ารายใหญ่ให้เตรียมของไว้ การส่งของจึงเกิดขึ้นในบ่ายวันนี้




“ใกล้ถึงเวลาที่สายตำรวจบอกมาแล้วครับ แต่นายใหญ่ยังเงียบๆ อยู่เลย ทางโน้นก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหว ถ้าพลาดคราวนี้มันคงหนีแน่ๆ” รหัทรายงานสถานการณ์




“ถ้าผมบอกว่าอยากไปใกล้กว่านี้คุณคงไม่ยอมใช่ไหม” ภาวัตแกล้งถาม ใจจริงอยากทำตามที่พูดนั่นแหละ ไกลขนาดนี้ถ้านายใหญ่หนีจะไปทันอะไร




“ผมยังไม่อยากตกงานครับ”




ภาวัตเบ้ปากใส่ หน้าอย่างนี้น่ะหรือกลัวตกงาน ลองเขาทำตามที่บอกจริงๆ มีหวังถูกจับมัดยัดใส่รถแล้วรอจนบุกเสร็จแล้วน่ะสิ คิดว่าเขารู้ไม่ทันเรอะ









สถานการณ์ตรงหน้ายังเงียบ นายใหญ่ออกมาเดินเล่นหน้าบ้าน ภาพออนไลน์จากโทรศัพท์บอกได้ชัดว่าอีกฝั่งเริ่มงานแล้ว ตำรวจนอกเครื่องแบบขับรถเข้าไปในโรงแรมซึ่งมีกล้องวงจรปิดแอบนำเข้าไปติดไว้ตั้งแต่ 3 วันก่อน แน่ล่ะเรื่องแค่นี้มือแฮกของรหัทของจัดการได้ ภาวัตเลยเหมือนเกาะขอบดูอยู่ข้างเสาแม้จะอยู่คนละที่กัน




รถอีกคันกำลังขับเข้าไป ชายสองคนลงมาแล้วมุ่งหน้ามายังห้องตามนัดหมาย กระเป๋าสีดำที่ถือว่าเดาไม่ยากว่าเป็นอะไร เงินสดถูกเปิดเพื่อยืนยันตามมาด้วยยาเสพติดที่เปิดให้ดูเช่นกัน สองฝ่ายต่างยิ้ม ทว่าเสียงคำรามลั่นก็ดังขึ้นพร้อมๆ กับประตูห้องเปิดออก




“เข้าชาร์ต!”




คนร้ายหันไปก็หนีไม่ทันแล้ว แต่ยังอุตส่าห์ชักปืนออกมาจะยิงสู้ แต่ถูกกระแทกจนล้ม มือทั้งข้างถูกใส่กุญแจมือ ทว่ารถของคนร้ายได้ถูกขับออกไปเมื่อตำรวจไม่ทันสังเกตว่าพวกมันมากัน 3 คนไม่ใช่แค่ 2 คนอย่างที่เห็น




“คนร้ายหนีไปได้คนหนึ่ง ของกลางอยู่ครบ” ตำรวจที่โรงแรมโทรบอกหัวหน้าทีมสอง “นายใหญ่ล่ะยังอยู่ที่บ้านหรือเปล่า




“รับทราบ กำลังจะเข้าเคลียร์ คาดว่าอยู่ในบ้าน”




ตำรวจนอกเครื่องแบบกรูกันเข้าไปในบ้านของนายใหญ่ทันที ภาวัตไม่รอช้า รหัทวิ่งตามมาดูแลความปลอดภัยและช่วยจับคนร้ายไปด้วย




คนงานพากันตื่นตกใจ ถามแล้วก็ไม่รู้อะไรมากนอกจากบอกว่าเจ้านายไปต่างจังหวัดหลายวันแล้ว เชื่อก็โง่น่ะสิ ที่เขาเห็นเมื่อชั่วโมงก่อนเป็นผีหรือไง ค้นภายในบ้านและบริเวณรอบๆ ก็ไม่เจอ คนทั้งคนจะหายไปได้ยังไง




“นายใหญ่หายตัวไปแล้ว ขอหมายศาลตามจับได้ทันที”




ภาวัตไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นไปได้ นายใหญ่ตามโค๊ตลับของตำรวจหายไปจริงๆ เขาและคนอื่นๆ เฝ้าอยู่ตลอด นกบินเข้ามาสักตัวยังเห็น ไม่มีรถเข้าหรือออกจากไร่ด้วยซ้ำ




สุนัขตำรวจมาถึงในครึ่งชั่วโมงต่อมาพวกมันดมกลิ่นหาจนกระทั่งพาทุกคนไปยังห้องเก็บของซึ่งเต็มไปด้วยเครื่องมือในไร่ที่พังเสียหาย ทว่ามันเห่าเสียงดังใส่รถยนต์ที่ผุพังเก็บมานานจนฝุ่นจับ ตำรวจลองเลื่อนรถออกไป ความลับกลายเป็นความตะลึงเมื่อเห็นอุโมงค์ว่างโล่งและใหญ่พอที่ผู้ชายตัวโตๆ จะลงไปได้




“ทางลับงั้นเรอะ เจ้านี่เตรียมการหนีเป็นอย่างดี ถึงว่าหายไปอย่างกับล่องหน”




ภาวัตหัวเราะเสียงหยัน ถ้าทำถึงขนาดนี้ไม่ใช่ค้ายาแบบสมัครเล่นแล้ว แต่เป็นมืออาชีพเลยต่างหาก!




เขากับรหัทกลับไปที่รถแล้วขับตามตำรวจไปจนถึงปลายทาง หากวันนั้นพิพัฒพาพวกเขาเดินลึกขึ้นมาอีกหน่อยก็จะพบทางลับแห่งนี้ซึ่งห่างจากจุดที่เป็นไปได้ว่ายาเสพถูกนำมาฝังไว้ไม่ถึงร้อยเมตร ภาพที่กระจัดกระจายเริ่มเป็นเรื่องราวที่เข้าใจขึ้น




คุณร่มธรรมมาเห็นชานนท์ขนยาเสพติดถึงได้ถูกลอบฆ่าในเวลาต่อมาใช่ไหม แล้วตอนนี้ชานนท์หนีไปไหนและจะทำอะไร...หนีต่อหรือเอาคืนให้หายแค้น









ภาวัตขอให้พัชนีมาพักที่บ้านของปู่ด้วยกันจนกว่าจะหาตัวคนร้ายได้พบ มาลินรู้สึกดีใจนิดๆ ที่ตายังจำอะไรไม่ได้ ถ้าจำได้คงเสียใจไม่น้อยเพราะเกือบเกี่ยวดองกับพ่อค้ายามาดนักบุญ ชานนท์บริจาคเงินให้โรงเรียนต่างๆ เพื่ออำพรางอาชีพดำมืดของตัวเอง




แม่ดูตกใจไม่น้อยเพราะเห็นชานนท์มาตั้งแต่ไม่กี่ขวบ ไม่อยากคิดเลยหากวันหนึ่งตำรวจตามสืบจนพบที่ซ่อนยาเสพติด ตาของเธอลำบากแน่ๆ เพราะจุดที่ฝังยาไว้นั้นอยู่ในไร่ของเรา




“ขอบคุณนะคะที่ส่งคนไปรับแม่มาที่นี่” มาลินยกมือไหว้ทุกคนที่ช่วยไม่ว่าจะเป็นปู่ ภาวัตและรหัท




“ไม่นึกเลยนะว่าชานนท์จะเป็นพวกค้ายา เห็นกันมานานไม่น่าเลย เสียดายอนาคต”




ไม่ว่าใครหากเลือกเส้นทางสายยาเสพติด ผลรับที่ได้ในท้ายที่สุดมักไม่สวยงามทั้งนั้น เสียไปหมดชื่อเสียงและอนาคต สุดท้ายอาจเสียชีวิต




“แล้วทางตำรวจว่ายังไงบ้างล่ะวัต”




“กำลังเร่งจับตัวอยู่เพราะค้นบ้านแล้วเจอทางลับครับปู่ แล้วยังห้องเก็บยาเสพติดที่ทำไว้ใต้ดินด้วย รวมทั้งเรื่องที่คุณร่มธรรมถูกเจาะสายเบรก อาจจะเกี่ยวกับข้องกัน” เขาใช้คำว่า ‘อาจจะ’ แต่มั่นใจเชียวล่ะว่าไม่ผิดไปจากนี้หรอก นี่ยังไม่รวมที่เขาถูกขว้างหินใส่รถ ข่มขู่ ส่งรถมาตบจนตกถนน ทำร้ายพิพัฒ วางยาคุณร่มธรรม บัญชีหางว่าวชัดๆ




“เกี่ยวกันยังไงหรือพ่อวัต” พ่อรักชานนท์อย่างกับหลานชายอีกคนก็ว่าได้ ยังทำกันลงคอ




“มีคนงานเห็นคุณร่มธรรมขับรถไปท้ายไร่ครับ ตรงบริเวณนั้นใกล้กับทางเข้าทางลับของชานนท์ คงไปเห็นอะไรเข้าเลยส่งคนมาฆ่าปิดปาก อาจเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้ รอให้ตำรวจตรวจสอบครับ ตอนนี้ทุกคนต้องระวังตัวเพราะชานนท์อาจจะสืบจนรู้ว่าใครที่อยู่เบื้องหลังการสืบในครั้งนี้”




มาลินมองมาทางภาวัต...ห่วง สายตาบอกแทนคำพูดที่เธอไม่เอ่ย




“คุณวัตก็ต้องระวังตัวด้วยนะคะ ถ้าลินเป็นพี่นนท์คงมาเช็คบิลคุณคนแรก”




ทีปต์เห็นด้วยแต่ที่ผ่านมาเขาไม่เคยประมาทถึงได้ส่งรหัทมาดูแลความปลอดภัยให้หลานชาย ถ้าจะเกิดเรื่องก็เพราะมันแรดไปเสี่ยงเดี่ยวเท่านั้นแหละ ภาวัตมองตาแล้วยิ้มหมั่นไส้ ใครจะรู้ทันเท่าปู่ไม่มีเสียล่ะ แต่ว่าถ้าเขาเสี่ยงแล้วเห็นสายตาห่วงใยจากมาลินอย่างในตอนนี้ก็ใช่ว่าจะไม่คุ้มนี่นา






หนังสือวางแผงแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นจะลงนิยายให้อ่านถึงตอนที่ 19 นะคะ สามารถซื้อได้จากร้านหนังสือทั่วประเทศเช่น se-ed นายอินทร์ หรืออ่านต่อใน E-BOOK เว็บ MEB ค่ะ ฝากภาวัตกับมาลินด้วยจ้า




อัมราน_บรรพตี



บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ม.ค. 2559, 09:41:57 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ม.ค. 2559, 09:41:57 น.

จำนวนการเข้าชม : 1060





<< ตอนที่ 18 ครึ่งแรก   ตอนที่ 19 ครึ่งแรก >>
konhin 6 ม.ค. 2559, 12:30:04 น.
โหยย รอดไปได้ไง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account