เล่ห์ร้ายร้าง
...ในชีวิตหนึ่งของผู้หญิงสักคน จะต้องทำกรรมมามากเพียงไหน จึงสามารถมีคู่ครองเช่นนี้ได้!...
ผู้หญิงอย่างชาลิกา ไม่ใช่นางเอกในนิยายที่จะภักดี หลงใหลกับผู้ชายห่วยๆ อย่างหัวปักหัวปำ
ถ้าพี่ไม่ชอบนางฟ้า...ชาร์มก็ไม่รังเกียจที่จะเป็นนางมาร
ผู้หญิงอย่างชาลิกา ไม่ใช่นางเอกในนิยายที่จะภักดี หลงใหลกับผู้ชายห่วยๆ อย่างหัวปักหัวปำ
ถ้าพี่ไม่ชอบนางฟ้า...ชาร์มก็ไม่รังเกียจที่จะเป็นนางมาร
Tags: ร้าย นางมาร นักวิจัย ศัลยแพทย์ แค้นฝังหุ่น
ตอน: ไม่มีใครที่พอดี
บทที่ 2
กี่คืนแล้วที่เธอต้องตื่นมากลางดึกเพราะฝันร้าย เรื่องราวความรักที่อ่อนหวานยังอยู่ในความทรงจำทำให้ทรมานเมื่อตื่นมาพบความจริงที่ว่างเปล่า
หากเป็นวันนี้ของเมื่อสองปีก่อน ชาลิกาคงไม่เคยแม้แต่จะคิดถึงการอยู่ในอ้อมกอดของใครสักคน
แต่วันนี้ ของปีนี้ เธอยังไม่อยากเชื่อด้วยซ้ำว่าตนเองจะได้ชื่อว่าเป็นภรรยา
คงเพราะไม่เคยคิดถึงการครองคู่ เธอจึงไร้ความสามารถในการเลือกคู่ครอง...ต้องทำกรรมสักเท่าไร จึงสามารถมีคู่ครองที่ร้ายกาจเช่นนี้ได้...
ชาลิกายกมือลูบใบหน้าอย่างอ่อนล้า เธอหมุนตัวไปมองตุ๊กตาหมีขนนุ่มสีขาวนวลที่นอนนิ่งอยู่ที่หัวเตียง อดไม่ได้ที่จะถอนใจเบา ๆ แล้วลูบจมูกเจ้าหมีน้อยเบา ๆ
"เจ้านายแก...ใจร้ายมากเลยรู้ไหม"
และหากจะว่าเขาใจร้าย ก็คงต้องว่าเธอโง่เขลาเช่นกัน จะมีผู้หญิงโง่สักกี่คนที่สามารถแต่งงานกับผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันเพียงหนึ่งเดือน
ใครกันบอกว่าชาลิกาคือแม่มดคูรี เธออาจชื่มการวิจัย แต่โง่เขลาเรื่องความรักอย่างที่สุด ต่างกับมาดามคูรีที่มีความรักลึกซึ้ง ดีงามราวฟ้ากับเหว
หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ที่หัวเตียงมากดดูนาฬิกา แต่กลับพบข้อความแจ้งเตือนที่อยู่บนหน้าจอ ปลายนิ้วเรียวเลื่อนไปกดเปิดอ่านตามความคุ้นชินโดยที่เธอไม่ทันตั้งใจ
‘ต้องดีแค่ไหน พี่ถึงยอมรับว่าเหมาะสมและดีกว่าพี่คะ’ เธอโยนคำถามทิ้งไว้ แต่เขากลับไม่ให้คำตอบ
'ฝันดีนะ' ข้อความสั้น ๆ ราวส่งความปรารถนาดีที่เลือนหายไปนาน เมื่อเลื่อนลงมาจะพบอีกข้อความที่ส่งมาในเวลาห่างกันเกือบชั่วโมง ในเวลาดึกมากแล้ว
'คงนอนแล้วสินะ'
เขายังจำได้ไหม เธอเข้านอนเร็ว จมอยู่กับนิทราจนรุ่งสางจึงตื่นขึ้นมา
เขายังจำได้ไหมในวันที่ความรักยังงดงาม หญิงสาวเคยเงยหน้ามองสบนัยน์ตาอ่อนโยน เมื่อเขาเอ่ยคำถาม
"อ้อนอะไรครับ"
เธอคลี่ยิ้ม "ชาร์มอยากขอ...ให้พี่บอกราตรีสวัสดิ์ชาร์มทุกคืนได้ไหมคะ"
เขาเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ ขณะเธอมองหน้าเขานิ่ง สำหรับชาลิกา ความรักต้องการความใส่ใจ เธออยากให้เขาใส่ใจเธอทุกวัน เริ่มจากเรื่องเล็กๆน้อย ๆ อย่างคำกล่าวราตรีสวัสดิ์ทุกวัน
"เมื่อไร พี่จะได้ตื่นมาเจอชาร์มทุกเช้านะ" เขาพึมพำเบาๆ ยกมือแตะแก้มหญิงสาว "เมื่อไร...จะให้พี่ได้จูบราตรีสวัสดิ์ชาร์มทุกคืน"
หญิงสาวเบิกตากว้าง กระพริบตาปริบๆมองหน้าชายหนุ่มอย่างขัดเขิน
"แค่เซย์กู๊ดไนท์ทางโทรศัพท์ให้ได้โดยไม่เบื่อชาร์มเสียก่อนดีกว่านะคะ" เธอคลี่ยิ้มบางบอก
"กลัวพี่เบื่อชาร์มเหรอครับ"
เธอมองตาเขานิ่ง รอยยิ้มจางลงเมื่อเอ่ยอย่างจริงจัง "สัญญากับชาร์มได้ไหมคะ...วันไหนที่พี่เบื่อชาร์ม ขอให้บอกกับชาร์มตามตรง ได้ไหมคะ" เธอจ้องตาเขาอย่างเคร่งเครียด แต่คนตรงหน้ากลับหัวเราะราวเรื่องตลก ยกมือขึ้นแตะมือเธอ ลูบเบาๆคล้ายจะปลอบ
"ครับ...พี่จะบอก"
วูบหนึ่งในความรู้สึก ชาลิกาผิดหวังกับคำตอบของคนรัก คล้ายความชัดเจนของเขาได้ทำร้ายเธอ
แต่การได้ยินคำว่า 'พี่ไม่มีวันเบื่อชาร์ม' ก็เป็นคำหวานที่ออกจะไม่น่าเชื่อถือในความคิดเธอ
หญิงสาวไม่เคยเชื่อในความรัก แต่เธอเชื่อในความศรัทธาและผูกพัน เธอจึงพยายามที่จะสร้างความรู้สึกนั้นในหัวใจผู้ชายที่เธอเลือก
แต่ทุกอย่างก็พังทลาย ในวันครบรอบเดือนของการพบเจอ เมื่อเขาขับรถไปจอดหน้าสถานฑูต ถามคำถามง่ายๆ
"แต่งงานกับพี่นะครับ"
ชาลิกาเป็นผู้หญิงโง่ที่พร้อมจะคว้าโอกาส ความรัก ความฝัน และทุกอย่างที่เธอปรารถนาโดยไม่ลังเล ผู้ชายตรงหน้าเธอในวันนั้นก็เช่นกัน
ใบหน้าคมเข้มกับสันกรามได้รูปที่เธอชอบแตะเบา ๆ อย่างชื่นชม ดวงตาหวานที่บางคราวอมรอยโศกจางเหมือนสัตว์ถูกทิ้งที่ทำให้เธอเผลอจูบเบา ๆ ที่เปลือกตา สมองที่สามารถสรรหาเรื่องราวแปลก ๆ น่าสนใจมาล่อลวงให้เธอนิ่งฟัง ทุกอย่างที่รวมเป็นตัวเขาคือความลงตัวที่เธอพอใจ
วันนั้น ชาลิกาไม่มั่นใจกับคำตอบรับ แต่เธอมั่นใจในตัวเธอเองมากกว่า เมื่อตัดสินใจลงไปแล้วที่จะรักผู้ชายคนนี้ เธอก็ไม่จำเป็นต้องรอหรือตามหาใครอีก
ไม่ใช่ไม่มีใครที่ดีกว่า แต่ในวันนั้น ชาลิการู้...ไม่มีใครที่พอดีกว่า...
หญิงสาวยกตุ๊กตาตัวโตมากอดไว้ จนถึงวันนี้เธอก็ยังยืนยันคำเดิม...ไม่มีใครที่พอดีกว่า...
เพราะเขาพอดี เธอจึงตอบตกลง เดินลงจากรถเข้าไปในสถานฑูตและเซ็นชื่อลงในเอกสารที่เปลี่ยนเธอให้เป็นภรรยาของเขาตามกฎหมายทุกประการ
การแต่งงานที่ไร้สักขีพยาน มีเพียงเจ้าหน้าที่สถานฑูต เจ้าบ่าว และเจ้าสาวผู้โง่เขลา
ทะเบียนสมรสถูกยื่นให้แต่ละฝ่าย แรกทีเดียวเธอไม่กล้ารับ ไม่กล้าเก็บไว้ เพิ่งนึกเสียใจกับสิ่งที่ทำในวินาทีที่วางปากกา แต่เพียงเขาจับมือเธอไว้ความไม่มั่นใจก็บินหายไปจากใจ
"ชาร์มของพี่" เขากระชับมือเธอแน่น ยกขึ้นมาจูบเบา ๆ ที่ข้อนิ้ว แววตาที่มองเธอเปี่ยมด้วยความภาคภูมิใจ
ชาลิกากัดริมฝีปาก ห้ามน้ำตาที่กำลังจะไหล เมื่อคิดถึงแววตาเฉยชาว่างเปล่าที่เธอได้เห็นในวันที่เธอตัดสินใจเดินทางกลับเมืองไทย แม้คิดไว้แล้วว่าเขาคงไม่รั้ง แต่เธอก็ไม่ได้เตรียมใจกับความเย็นชาถึงเพียงนั้น
เธอจรดปลายนิ้วลงบนหน้าจอ เผลอพิมพ์คำถาม 'เพื่ออะไรคะ...ต้องการอะไร'
ต้องการอะไร...จึงกลับมาล่อลวงกันเช่นนี้ ใจคอเขาไม่คิดจะให้เธอได้เป็นอิสระเลยใช่ไหม
ชาลิกาถอนใจยาว ตัดสินใจลบข้อความที่เพิ่งพิมพ์ไป กดปิดโปรแกรมสนทนาแล้ววางโทรศัพท์ลงที่หัวเตียง นอนหลับตานิ่งอยู่เพียงครู่ก็ลุกขึ้นจัดการธุระส่วนตัว
ชาลิกาไม่เคยตั้งนาฬิกาปลุก เธอเลิกใช้ชีวิตอย่างเร่งร้อนมาตั้งแต่หลังเรียนจบ แต่หญิงสาวก็ไม่เคยตื่นสาย ทุกเช้าเธอมีเวลามากพอที่จะลงมาเดินเล่นที่ริมถนนเลียบอาคารที่พัก เลือกซื้อขนม และอาหารสำหรับใส่บาตร
หญิงสาวหยุดยืนหน้าร้านน้ำเต้าหู้เจ้าโปรด "น้ำเต้าหู้ไม่เครื่องสองค่ะ ซาลาเปา 5 ปาท่องโก๋สอง เปากินเลยลูกหนึ่งแล้วกันนะคะ" เธอหยิบซาลาเปาออกมาอย่างคุ้นเคย ก่อนหันไปคลี่ยิ้มทักทายเพื่อนร่วมคอนโดที่กำลังวิ่งตรงมา
"สวัสดีค่ะ พี่ณัฐ...วันนี้ตื่นเช้าจังนะคะ"
ชายหนุ่มในชุดเสื้อกล้าม กางเกงขาสั้นวิ่งเหยาะ ๆ มาหยุดตรงหน้าเธอ "มอร์นิ่งครับ ซาลาเปาอร่อยนะครับ" เขาอมยิ้มมองหญิงสาวที่กำลังอ้าปากงับซาลาเปาทอด
ชาลิกาหัวเราะ "แหม...ไม่ใช่แค่อร่อยแต่เป็นอร่อยมากต่างหากล่ะคะ เนอะคุณป้าเนอะ" เธอหันไปพยักเพยิดกับคนขายน้ำเต้าหู้
"หนูชาร์มพูดน่ารักอย่างนี้ เดี๋ยวป้าก็เผลอแถมให้อีกตัว"
"ไม่ต้องเผลอก็แถมได้ค่ะคุณป้า" เธอบอกกลั้วหัวเราะ ส่งยิ้มหวานให้หญิงสูงวัยที่ตักน้ำเต้าหู้ใส่ถ้วย
ณัฐพลชะโงกมองหม้อต้มน้ำเต้าหู้อย่างสนใจ ชาลิกาจึงหันมาถาม "สักถ้วยไหมคะพี่ณัฐ"
"พี่ไม่ได้เอาเงินมาครับ...กำลังคิดว่าจะติดป้าไว้ก่อน หรือหาคนใจดีมีเมตตาสักคน"
ชาลิกาหัวเราะคิก "ใส่เครื่องไหมคะ"
"ครับ..."
"ตามนั้นค่ะป้า เดี๋ยวชาร์มเลี้ยงเอง" แล้วเธอก็หันมาหาชายหนุ่ม "แต่ชาร์มอยากกินกุ้งเผาตัวโตๆ...นะคะพี่ณัฐ"
ณัฐพลหัวเราะอย่างรู้ทันเมื่อหญิงสาวหันมากระพริบตาปริบ ๆ กึ่งอ้อน ชาลิกาไม่เคยลืมว่าบิดาเขาเป็นเจ้าของเรือประมงขนาดใหญ่หลายลำในอ่าวไทย และเป็นผู้มีพระคุณต่อกระเพาะของเธอมาตั้งแต่หญิงสาวยังเป็นแค่นักศึกษาแพทย์
"แค่น้องชาร์มบอก ป๊าพี่คงรีบส่งมาให้ทั้งลำเรือ" เขาเดินคู่กับหญิงสาวกลับไปยังคอนโดฯที่พัก "แค่สองปีที่น้องชาร์มไปอเมริกา ป๊ายังบ่นหาทุกครั้งที่แวะมาจนพี่แทบจะซื้อตั๋วให้ป๊าบินไปหาชาร์มที่โน่นเสียเลย"
ชาลิกาหัวเราะเมื่อคิดถึงชายสูงวัยที่คุ้นเคยกับเธอมาตั้งแต่ยังเด็ก ก่อนจะเลิกคิ้วอย่างครุ่นคิด เมื่อชายหนุ่มข้างตัวเอ่ยถาม "พี่แวะไปนั่งกินน้ำเต้าหู้ด้วยได้ไหมครับ"
ชายหนุ่มตัวโตเอียงคอมองหญิงสาวกึ่งถาม กึ่งอ้อน ทำให้หญิงสาวหลุดหัวเราะเบา ๆ "ก็ได้ค่ะ...จะแย่งปาท่องโก๋ชาร์มด้วยใช่ไหมล่ะ รู้ทันหรอกนะคะ"
"ดีจัง ชาร์มรู้พี่ก็ไม่ต้องเหนียมแล้ว"
"เหนียมหน่อยก็ดีค่ะ ชาร์มซื้อมาแค่นิดเดียว" เธอบอกเมื่อไขกุญแจเข้าไปในห้องพัก "พี่ณัฐนั่งเล่นที่โซฟาก่อนก็ได้นะคะ ชาร์มขอจัดโต๊ะแปปเดียว"
ณัฐพลนั่งลงที่โซฟานุ่มกลางห้อง แม้จะคุ้นเคยกับชาลิกามานานแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เข้ามาถึงห้องพักของเธอ
ห้องนั่งเล่นขนาดกลางจัดแบ่งอย่างเป็นส่วนโดดเด่นด้วยโต๊ะกระจกกลมที่ซ่อนชั้นวางลายกราฟฟิกไว้ข้างใต้ เข้ากันกับชุดโซฟาบุนวมสีขาวลายดำ ส่วนชาลิกาเดินตรงเข้าไปเป็นฉากไม้เลื่อนเปิดสู่พื้นที่สำหรับรับประทานอาหาร เมื่อชะโงกมองผ่านบานไม้ถูกเปิดทิ้งไว้ ก็ยังเห็นร่างบอบบางของเจ้าของบ้านเอื้อมหยิบจานชามมาใส่อาหาร
ชายหนุ่มอมยิ้มกวาดตามองสภาพห้องที่จัดไว้อย่างเรียบง่าย ไม่นาน ชาลิกาก็เดินออกมา “ทานที่โต๊ะอาหารแล้วกันนะคะ”
“แล้วแต่เจ้าบ้านเลยครับ" เขาลุกขึ้นเดินตามหญิงสาวเข้าไปหลังฉากไม้ที่จัดเป็นส่วนของโต๊ะอาหาร
“พี่ณัฐรับเป็นน้ำเปล่า ชา นม หรือน้ำส้มดีคะ”
“พี่ขอน้ำเต้าหู้ครับ...” เขาแกล้งทำตาปรอยบอก
ชาลิกาหันมาหัวเราะ “โธ่...นั่นจัดไว้แล้วค่ะ หมายถึงน้ำที่จะกินล้างปากสิคะ กินน้ำเต้าหู้ไม่กินน้ำตามเดี๋ยวปากเหม็น ฟันผุนะครับ”
“ปกติชาร์มกินอะไรล่ะ"
“ชาร้อนค่ะ" เธอรินชาใส่ถ้วยสำหรับตนเอง
“พี่ขอชาด้วยแล้วกันครับ" เขานั่งลงหน้าชามน้ำเต้าหู้ที่หญิงสาวจัดวางไว้
“เจ้าค่ะ...คุณชาย” หญิงสาวคลี่ยิ้มหวาน แกล้งย่อตัวลงกึ่งล้อเลียนเมื่อวางถ้วยน้ำชาลงข้างชายหนุ่ม
---
คุณคิมหันตุ์ : ไอซ์ว่า หนูชาร์มก็อยากเลือกคนที่รอส่งเราเหมือนกันค่ะ
คุณ sunflower : หนูชาร์มบอกว่าสนุกแน่นอนค่ะ
คุณ SaranyaW : จริงค่ะ ถ้าเลือกได้ เราก็คงเลือกแบบนั้น
คุณ pandepam : มาส่งแล้วค่ะ
มาเอาใจช่วยหนูชาร์มด้วยกันนะคะ
ถ้าคุณไม่ชอบนางฟ้า...หนูชาร์มก็ไม่รังเกียจที่จะเป็นนางมาร
กี่คืนแล้วที่เธอต้องตื่นมากลางดึกเพราะฝันร้าย เรื่องราวความรักที่อ่อนหวานยังอยู่ในความทรงจำทำให้ทรมานเมื่อตื่นมาพบความจริงที่ว่างเปล่า
หากเป็นวันนี้ของเมื่อสองปีก่อน ชาลิกาคงไม่เคยแม้แต่จะคิดถึงการอยู่ในอ้อมกอดของใครสักคน
แต่วันนี้ ของปีนี้ เธอยังไม่อยากเชื่อด้วยซ้ำว่าตนเองจะได้ชื่อว่าเป็นภรรยา
คงเพราะไม่เคยคิดถึงการครองคู่ เธอจึงไร้ความสามารถในการเลือกคู่ครอง...ต้องทำกรรมสักเท่าไร จึงสามารถมีคู่ครองที่ร้ายกาจเช่นนี้ได้...
ชาลิกายกมือลูบใบหน้าอย่างอ่อนล้า เธอหมุนตัวไปมองตุ๊กตาหมีขนนุ่มสีขาวนวลที่นอนนิ่งอยู่ที่หัวเตียง อดไม่ได้ที่จะถอนใจเบา ๆ แล้วลูบจมูกเจ้าหมีน้อยเบา ๆ
"เจ้านายแก...ใจร้ายมากเลยรู้ไหม"
และหากจะว่าเขาใจร้าย ก็คงต้องว่าเธอโง่เขลาเช่นกัน จะมีผู้หญิงโง่สักกี่คนที่สามารถแต่งงานกับผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันเพียงหนึ่งเดือน
ใครกันบอกว่าชาลิกาคือแม่มดคูรี เธออาจชื่มการวิจัย แต่โง่เขลาเรื่องความรักอย่างที่สุด ต่างกับมาดามคูรีที่มีความรักลึกซึ้ง ดีงามราวฟ้ากับเหว
หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ที่หัวเตียงมากดดูนาฬิกา แต่กลับพบข้อความแจ้งเตือนที่อยู่บนหน้าจอ ปลายนิ้วเรียวเลื่อนไปกดเปิดอ่านตามความคุ้นชินโดยที่เธอไม่ทันตั้งใจ
‘ต้องดีแค่ไหน พี่ถึงยอมรับว่าเหมาะสมและดีกว่าพี่คะ’ เธอโยนคำถามทิ้งไว้ แต่เขากลับไม่ให้คำตอบ
'ฝันดีนะ' ข้อความสั้น ๆ ราวส่งความปรารถนาดีที่เลือนหายไปนาน เมื่อเลื่อนลงมาจะพบอีกข้อความที่ส่งมาในเวลาห่างกันเกือบชั่วโมง ในเวลาดึกมากแล้ว
'คงนอนแล้วสินะ'
เขายังจำได้ไหม เธอเข้านอนเร็ว จมอยู่กับนิทราจนรุ่งสางจึงตื่นขึ้นมา
เขายังจำได้ไหมในวันที่ความรักยังงดงาม หญิงสาวเคยเงยหน้ามองสบนัยน์ตาอ่อนโยน เมื่อเขาเอ่ยคำถาม
"อ้อนอะไรครับ"
เธอคลี่ยิ้ม "ชาร์มอยากขอ...ให้พี่บอกราตรีสวัสดิ์ชาร์มทุกคืนได้ไหมคะ"
เขาเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ ขณะเธอมองหน้าเขานิ่ง สำหรับชาลิกา ความรักต้องการความใส่ใจ เธออยากให้เขาใส่ใจเธอทุกวัน เริ่มจากเรื่องเล็กๆน้อย ๆ อย่างคำกล่าวราตรีสวัสดิ์ทุกวัน
"เมื่อไร พี่จะได้ตื่นมาเจอชาร์มทุกเช้านะ" เขาพึมพำเบาๆ ยกมือแตะแก้มหญิงสาว "เมื่อไร...จะให้พี่ได้จูบราตรีสวัสดิ์ชาร์มทุกคืน"
หญิงสาวเบิกตากว้าง กระพริบตาปริบๆมองหน้าชายหนุ่มอย่างขัดเขิน
"แค่เซย์กู๊ดไนท์ทางโทรศัพท์ให้ได้โดยไม่เบื่อชาร์มเสียก่อนดีกว่านะคะ" เธอคลี่ยิ้มบางบอก
"กลัวพี่เบื่อชาร์มเหรอครับ"
เธอมองตาเขานิ่ง รอยยิ้มจางลงเมื่อเอ่ยอย่างจริงจัง "สัญญากับชาร์มได้ไหมคะ...วันไหนที่พี่เบื่อชาร์ม ขอให้บอกกับชาร์มตามตรง ได้ไหมคะ" เธอจ้องตาเขาอย่างเคร่งเครียด แต่คนตรงหน้ากลับหัวเราะราวเรื่องตลก ยกมือขึ้นแตะมือเธอ ลูบเบาๆคล้ายจะปลอบ
"ครับ...พี่จะบอก"
วูบหนึ่งในความรู้สึก ชาลิกาผิดหวังกับคำตอบของคนรัก คล้ายความชัดเจนของเขาได้ทำร้ายเธอ
แต่การได้ยินคำว่า 'พี่ไม่มีวันเบื่อชาร์ม' ก็เป็นคำหวานที่ออกจะไม่น่าเชื่อถือในความคิดเธอ
หญิงสาวไม่เคยเชื่อในความรัก แต่เธอเชื่อในความศรัทธาและผูกพัน เธอจึงพยายามที่จะสร้างความรู้สึกนั้นในหัวใจผู้ชายที่เธอเลือก
แต่ทุกอย่างก็พังทลาย ในวันครบรอบเดือนของการพบเจอ เมื่อเขาขับรถไปจอดหน้าสถานฑูต ถามคำถามง่ายๆ
"แต่งงานกับพี่นะครับ"
ชาลิกาเป็นผู้หญิงโง่ที่พร้อมจะคว้าโอกาส ความรัก ความฝัน และทุกอย่างที่เธอปรารถนาโดยไม่ลังเล ผู้ชายตรงหน้าเธอในวันนั้นก็เช่นกัน
ใบหน้าคมเข้มกับสันกรามได้รูปที่เธอชอบแตะเบา ๆ อย่างชื่นชม ดวงตาหวานที่บางคราวอมรอยโศกจางเหมือนสัตว์ถูกทิ้งที่ทำให้เธอเผลอจูบเบา ๆ ที่เปลือกตา สมองที่สามารถสรรหาเรื่องราวแปลก ๆ น่าสนใจมาล่อลวงให้เธอนิ่งฟัง ทุกอย่างที่รวมเป็นตัวเขาคือความลงตัวที่เธอพอใจ
วันนั้น ชาลิกาไม่มั่นใจกับคำตอบรับ แต่เธอมั่นใจในตัวเธอเองมากกว่า เมื่อตัดสินใจลงไปแล้วที่จะรักผู้ชายคนนี้ เธอก็ไม่จำเป็นต้องรอหรือตามหาใครอีก
ไม่ใช่ไม่มีใครที่ดีกว่า แต่ในวันนั้น ชาลิการู้...ไม่มีใครที่พอดีกว่า...
หญิงสาวยกตุ๊กตาตัวโตมากอดไว้ จนถึงวันนี้เธอก็ยังยืนยันคำเดิม...ไม่มีใครที่พอดีกว่า...
เพราะเขาพอดี เธอจึงตอบตกลง เดินลงจากรถเข้าไปในสถานฑูตและเซ็นชื่อลงในเอกสารที่เปลี่ยนเธอให้เป็นภรรยาของเขาตามกฎหมายทุกประการ
การแต่งงานที่ไร้สักขีพยาน มีเพียงเจ้าหน้าที่สถานฑูต เจ้าบ่าว และเจ้าสาวผู้โง่เขลา
ทะเบียนสมรสถูกยื่นให้แต่ละฝ่าย แรกทีเดียวเธอไม่กล้ารับ ไม่กล้าเก็บไว้ เพิ่งนึกเสียใจกับสิ่งที่ทำในวินาทีที่วางปากกา แต่เพียงเขาจับมือเธอไว้ความไม่มั่นใจก็บินหายไปจากใจ
"ชาร์มของพี่" เขากระชับมือเธอแน่น ยกขึ้นมาจูบเบา ๆ ที่ข้อนิ้ว แววตาที่มองเธอเปี่ยมด้วยความภาคภูมิใจ
ชาลิกากัดริมฝีปาก ห้ามน้ำตาที่กำลังจะไหล เมื่อคิดถึงแววตาเฉยชาว่างเปล่าที่เธอได้เห็นในวันที่เธอตัดสินใจเดินทางกลับเมืองไทย แม้คิดไว้แล้วว่าเขาคงไม่รั้ง แต่เธอก็ไม่ได้เตรียมใจกับความเย็นชาถึงเพียงนั้น
เธอจรดปลายนิ้วลงบนหน้าจอ เผลอพิมพ์คำถาม 'เพื่ออะไรคะ...ต้องการอะไร'
ต้องการอะไร...จึงกลับมาล่อลวงกันเช่นนี้ ใจคอเขาไม่คิดจะให้เธอได้เป็นอิสระเลยใช่ไหม
ชาลิกาถอนใจยาว ตัดสินใจลบข้อความที่เพิ่งพิมพ์ไป กดปิดโปรแกรมสนทนาแล้ววางโทรศัพท์ลงที่หัวเตียง นอนหลับตานิ่งอยู่เพียงครู่ก็ลุกขึ้นจัดการธุระส่วนตัว
ชาลิกาไม่เคยตั้งนาฬิกาปลุก เธอเลิกใช้ชีวิตอย่างเร่งร้อนมาตั้งแต่หลังเรียนจบ แต่หญิงสาวก็ไม่เคยตื่นสาย ทุกเช้าเธอมีเวลามากพอที่จะลงมาเดินเล่นที่ริมถนนเลียบอาคารที่พัก เลือกซื้อขนม และอาหารสำหรับใส่บาตร
หญิงสาวหยุดยืนหน้าร้านน้ำเต้าหู้เจ้าโปรด "น้ำเต้าหู้ไม่เครื่องสองค่ะ ซาลาเปา 5 ปาท่องโก๋สอง เปากินเลยลูกหนึ่งแล้วกันนะคะ" เธอหยิบซาลาเปาออกมาอย่างคุ้นเคย ก่อนหันไปคลี่ยิ้มทักทายเพื่อนร่วมคอนโดที่กำลังวิ่งตรงมา
"สวัสดีค่ะ พี่ณัฐ...วันนี้ตื่นเช้าจังนะคะ"
ชายหนุ่มในชุดเสื้อกล้าม กางเกงขาสั้นวิ่งเหยาะ ๆ มาหยุดตรงหน้าเธอ "มอร์นิ่งครับ ซาลาเปาอร่อยนะครับ" เขาอมยิ้มมองหญิงสาวที่กำลังอ้าปากงับซาลาเปาทอด
ชาลิกาหัวเราะ "แหม...ไม่ใช่แค่อร่อยแต่เป็นอร่อยมากต่างหากล่ะคะ เนอะคุณป้าเนอะ" เธอหันไปพยักเพยิดกับคนขายน้ำเต้าหู้
"หนูชาร์มพูดน่ารักอย่างนี้ เดี๋ยวป้าก็เผลอแถมให้อีกตัว"
"ไม่ต้องเผลอก็แถมได้ค่ะคุณป้า" เธอบอกกลั้วหัวเราะ ส่งยิ้มหวานให้หญิงสูงวัยที่ตักน้ำเต้าหู้ใส่ถ้วย
ณัฐพลชะโงกมองหม้อต้มน้ำเต้าหู้อย่างสนใจ ชาลิกาจึงหันมาถาม "สักถ้วยไหมคะพี่ณัฐ"
"พี่ไม่ได้เอาเงินมาครับ...กำลังคิดว่าจะติดป้าไว้ก่อน หรือหาคนใจดีมีเมตตาสักคน"
ชาลิกาหัวเราะคิก "ใส่เครื่องไหมคะ"
"ครับ..."
"ตามนั้นค่ะป้า เดี๋ยวชาร์มเลี้ยงเอง" แล้วเธอก็หันมาหาชายหนุ่ม "แต่ชาร์มอยากกินกุ้งเผาตัวโตๆ...นะคะพี่ณัฐ"
ณัฐพลหัวเราะอย่างรู้ทันเมื่อหญิงสาวหันมากระพริบตาปริบ ๆ กึ่งอ้อน ชาลิกาไม่เคยลืมว่าบิดาเขาเป็นเจ้าของเรือประมงขนาดใหญ่หลายลำในอ่าวไทย และเป็นผู้มีพระคุณต่อกระเพาะของเธอมาตั้งแต่หญิงสาวยังเป็นแค่นักศึกษาแพทย์
"แค่น้องชาร์มบอก ป๊าพี่คงรีบส่งมาให้ทั้งลำเรือ" เขาเดินคู่กับหญิงสาวกลับไปยังคอนโดฯที่พัก "แค่สองปีที่น้องชาร์มไปอเมริกา ป๊ายังบ่นหาทุกครั้งที่แวะมาจนพี่แทบจะซื้อตั๋วให้ป๊าบินไปหาชาร์มที่โน่นเสียเลย"
ชาลิกาหัวเราะเมื่อคิดถึงชายสูงวัยที่คุ้นเคยกับเธอมาตั้งแต่ยังเด็ก ก่อนจะเลิกคิ้วอย่างครุ่นคิด เมื่อชายหนุ่มข้างตัวเอ่ยถาม "พี่แวะไปนั่งกินน้ำเต้าหู้ด้วยได้ไหมครับ"
ชายหนุ่มตัวโตเอียงคอมองหญิงสาวกึ่งถาม กึ่งอ้อน ทำให้หญิงสาวหลุดหัวเราะเบา ๆ "ก็ได้ค่ะ...จะแย่งปาท่องโก๋ชาร์มด้วยใช่ไหมล่ะ รู้ทันหรอกนะคะ"
"ดีจัง ชาร์มรู้พี่ก็ไม่ต้องเหนียมแล้ว"
"เหนียมหน่อยก็ดีค่ะ ชาร์มซื้อมาแค่นิดเดียว" เธอบอกเมื่อไขกุญแจเข้าไปในห้องพัก "พี่ณัฐนั่งเล่นที่โซฟาก่อนก็ได้นะคะ ชาร์มขอจัดโต๊ะแปปเดียว"
ณัฐพลนั่งลงที่โซฟานุ่มกลางห้อง แม้จะคุ้นเคยกับชาลิกามานานแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เข้ามาถึงห้องพักของเธอ
ห้องนั่งเล่นขนาดกลางจัดแบ่งอย่างเป็นส่วนโดดเด่นด้วยโต๊ะกระจกกลมที่ซ่อนชั้นวางลายกราฟฟิกไว้ข้างใต้ เข้ากันกับชุดโซฟาบุนวมสีขาวลายดำ ส่วนชาลิกาเดินตรงเข้าไปเป็นฉากไม้เลื่อนเปิดสู่พื้นที่สำหรับรับประทานอาหาร เมื่อชะโงกมองผ่านบานไม้ถูกเปิดทิ้งไว้ ก็ยังเห็นร่างบอบบางของเจ้าของบ้านเอื้อมหยิบจานชามมาใส่อาหาร
ชายหนุ่มอมยิ้มกวาดตามองสภาพห้องที่จัดไว้อย่างเรียบง่าย ไม่นาน ชาลิกาก็เดินออกมา “ทานที่โต๊ะอาหารแล้วกันนะคะ”
“แล้วแต่เจ้าบ้านเลยครับ" เขาลุกขึ้นเดินตามหญิงสาวเข้าไปหลังฉากไม้ที่จัดเป็นส่วนของโต๊ะอาหาร
“พี่ณัฐรับเป็นน้ำเปล่า ชา นม หรือน้ำส้มดีคะ”
“พี่ขอน้ำเต้าหู้ครับ...” เขาแกล้งทำตาปรอยบอก
ชาลิกาหันมาหัวเราะ “โธ่...นั่นจัดไว้แล้วค่ะ หมายถึงน้ำที่จะกินล้างปากสิคะ กินน้ำเต้าหู้ไม่กินน้ำตามเดี๋ยวปากเหม็น ฟันผุนะครับ”
“ปกติชาร์มกินอะไรล่ะ"
“ชาร้อนค่ะ" เธอรินชาใส่ถ้วยสำหรับตนเอง
“พี่ขอชาด้วยแล้วกันครับ" เขานั่งลงหน้าชามน้ำเต้าหู้ที่หญิงสาวจัดวางไว้
“เจ้าค่ะ...คุณชาย” หญิงสาวคลี่ยิ้มหวาน แกล้งย่อตัวลงกึ่งล้อเลียนเมื่อวางถ้วยน้ำชาลงข้างชายหนุ่ม
---
คุณคิมหันตุ์ : ไอซ์ว่า หนูชาร์มก็อยากเลือกคนที่รอส่งเราเหมือนกันค่ะ
คุณ sunflower : หนูชาร์มบอกว่าสนุกแน่นอนค่ะ
คุณ SaranyaW : จริงค่ะ ถ้าเลือกได้ เราก็คงเลือกแบบนั้น
คุณ pandepam : มาส่งแล้วค่ะ
มาเอาใจช่วยหนูชาร์มด้วยกันนะคะ
ถ้าคุณไม่ชอบนางฟ้า...หนูชาร์มก็ไม่รังเกียจที่จะเป็นนางมาร
ลิขิตรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 ม.ค. 2559, 20:24:32 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ม.ค. 2559, 20:24:32 น.
จำนวนการเข้าชม : 1378
<< 1 อยู่กับพี่ก่อนนะ | รักใต้ปีก >> |
sunflower 10 ม.ค. 2559, 22:36:02 น.
รอติดตามค่ะ อยากรู้ว่าชาร์มจะเป็นนางมาร ยังไง
รอติดตามค่ะ อยากรู้ว่าชาร์มจะเป็นนางมาร ยังไง
pizzicato 10 ม.ค. 2559, 23:13:18 น.
มาเอาใจช่วยหนูชาร์มค่ะ
มาเอาใจช่วยหนูชาร์มค่ะ
SaranyaW 11 ม.ค. 2559, 08:23:07 น.
อ่านแล้วหน่วงมาก สงสารชาร์ม ขอภาคนางมารค่ะ ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องรอผู้ชาย ผู้ชายดีๆที่รักเราไม่ได้มีคนเดียว
อ่านแล้วหน่วงมาก สงสารชาร์ม ขอภาคนางมารค่ะ ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องรอผู้ชาย ผู้ชายดีๆที่รักเราไม่ได้มีคนเดียว
pandepam 11 ม.ค. 2559, 09:10:43 น.
มาเอาใจช่วยหนูชาร์ม อยากเหนภาคนางมารค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณลิขิตราด้วย เย้เย ^^
มาเอาใจช่วยหนูชาร์ม อยากเหนภาคนางมารค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณลิขิตราด้วย เย้เย ^^
คิมหันตุ์ 11 ม.ค. 2559, 12:57:57 น.
ชอบ "คุณชาย" นะเนี่ย ออกตัวแรงดี อิอิ
ชอบ "คุณชาย" นะเนี่ย ออกตัวแรงดี อิอิ
konhin 12 ม.ค. 2559, 08:32:19 น.
ไม่ต้องเป็นนางมารหรอก แค่เป็นนางเอกที่ไม่โง่รอผู้ชายก็ดีแล้ว
ไม่ต้องเป็นนางมารหรอก แค่เป็นนางเอกที่ไม่โง่รอผู้ชายก็ดีแล้ว
grazioso 19 ก.พ. 2559, 03:29:05 น.
มาตามลุุ้น เชียร์นางมารค่ะ :)
มาตามลุุ้น เชียร์นางมารค่ะ :)