มาตามี
ซวย T T เขาบอกว่าตอนเบญจเพสระวังดวงซวย
มันคือเรื่องจริง แถมเจอคนบ้าอำนาจอย่างเฟรากัส
โอ๊ยปวดกบาล
มันคือเรื่องจริง แถมเจอคนบ้าอำนาจอย่างเฟรากัส
โอ๊ยปวดกบาล
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: เบญจเพส
ค่ำคืนที่มืดมิดไม่มีแม้แต่แสงดาว
อากาศเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ
ฝนนั่งอยู่นานแล้วพร้อมกับรอยกังวลในแววตา
เสียงโทรทัศน์ที่เปิดทิ้งรายงานสภาพอากาศของวันพรุ่งนี้ซึ่งจะมีฝนตกหนักแต่นั่นไม่ใช่ปัญหา
ฝนเป็นคนมีสัมผัสพิเศษทำให้รู้สึกได้ถึงบางสิ่ง บางสิ่งที่จะกำลังจะเกิดขึ้นในชีวิตของเพื่อนรัก!!!
ครั้งนี้กรรมเก่ากลับมาหาเพื่อนรักอีกครั้งเป็นบ่วงกรรมผูกพันที่ไม่มีใครสามารถแก้ได้
นอกจากตัวของจาเอง
"ฝนทำไมไม่นอน"
"ยังไม่ง่วง จานอนก่อนเถอะ"
"มานอนเร็วพรุ่งนี้ต้องไปแต่เช้า"
เสียงเพื่อนร่วมห้องร้องเตือนพลางปิดไฟไล่เป็นการชวนพักผ่อน
ไม่ช้านานสรรพสิ่งต่างได้เริ่มทำหน้าที่ของตนเอง
แสงแดดสาดส่องทั่วพื้นพิภพ
ปลุกให้ทุกชีวิตเริ่มต้นเดินหน้าเหมือนเช่นทุกวัน
"จาตื่นๆๆ"
"อืม ขออีกห้านาที"
"เร็วลุกจะเจ็ดโมงแล้วนะ"
"หา ตายล่ะยายโบว์ต้องสวดฉันยับแน่" จาบ่นแล้วจึงรีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัว
"สายน่ะย่ะหล่อน อายุ 25 วันแรกผิดนัดเลยนะย่ะ" โบว์เริ่มก่อหวอด แกล้งเพื่อน
"ขอโทษ" จายกมือขึ้นท่วมหัวทำให้เพื่อนๆพากันหัวเราะ
"ไปเถอะ เขาว่าเบญจเพสให้ระวังนะจา ถ้าดีก็ดีสุดๆแต่ถ้าร้ายก็ร้ายสุดๆ"
โบว์ยังคงเย้าแหย่เพื่อนพอหอมปากหอมคอ
“ฉันไม่ขออะไรมา ขอผู้ชายดีๆสักคนก็พอ” เจ้าตัวหาสลดไม่ตอกกลับอย่างก๋ากั่น
“โอเค โชคดีขอให้ได้สามีนะเพื่อนรัก”
………………………………………………………………………………………………………..
เส้นทางขับรถค่อนข้างลำบากเพราะฝนตกหนักนักเวลาในการเดินทางจึงมากตามไป
คณะเที่ยงจึงมาถึงที่พักเมื่อประมาณบ่ายเศษๆ
"เฮอถึงซักทีเมื่อยไปหมดเลย" โบว์โอดครวญ
"เก็บของเข้าที่พักกันเถอะเพื่อนๆ"นิ่มเสนอและไม่มีใครคัดค้าน
ทุกคนพักผ่อนและหลับสนิทกันหมดแล้วเว้นสาวเจ้าเนื้อที่ยังไม่อาจข่มตาหลับลงได้
………………………………………………………………………………………………………..
กริ๊งๆๆๆ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในความมืด
"เพ็ญไม่ต้อง ฉันรับเองไปนอนเถอะ"
โทรศัพท์ด่วนแจ้งข่าวเครื่องบินตกพ่อและแม่ของจาเสียชีวิตทั้งคู่
จาร้องไห้ทั้งคืน
การสูญเสียมาเร็วอย่างไม่ทันตั้งตัว
จากเหตุการณ์นั้นทำให้จาไร้ที่พึ่งจนต้องออกจากบ้านไปอยู่กับฝน
โชคชะตาทำให้จารู้จักกับฝนตั้งแต่ตอนเข้ามหาวิทยาลัยและได้ช่วยหลือเกื้อกูลกันมาโดยตลอด ความสัมพันธ์จึงแทบผูกพันราวคลานตามกันมา
แปะๆ
เสียงหยดละอองไหลตกกระทบพื้นฝนทำให้จาหลุดออกจากภวังค์ก่อนหลับไปพร้อมกับความคิดที่ยังวนเวียน
………………………………………………………………………………………………………..
"ที่ไหน"ปลายเท้าเปือยเปล่ายืนอยู่บนปุยเมฆหลากสี
แสงขาวกระจ่างสว่างจ้าตรงหน้าขึ้นวูบหนึ่งก่อนปรากฏร่างสูงในเมฆหมอกขมุกขมัว
"หมอก หมอกของพี่"
เสียงที่เคยคุ้นเป็นของใครกันนะ เสียงนั่น ทำให้รู้สึกอบอุ่นผสานกับความทรมาน
"ไปให้พ้น หมอกเกลียดพี่ชาย" คำพูดที่พูดออกไปนั่นเป็นเสียงของเรารึเปล่านะ หมอกเป็นใคร เราชื่อจาไม่ใช่หมอก
"โถ น้องน้อย ข้า"
"อย่ามายุ่งกับหมอก"
"ไม่ ข้าจักไม่ยอมให้เจ้าตัดเป็นตัดตายกับข้าเฉกเช่นอดีตหรอก เจ้าเป็นของข้าและจักเป็นเช่นนั้นตลอดไป"
"ไม่ ไปให้พ้น ข้าเกลียดท่าน"
"ไม่ เจ้าเป็นของข้า"
เฮือก!!! หญิงสาวสะดุ้งตื่นขึ้นจากความฝันที่แสนประหลาด
"กินมากนอนมากจนฝันเพ้อเจ้อเลยเรา"
ตบหมอนให้ฟูขึ้นสองสามทีก่อนล้มตัวนอนลงอีกครั้ง ครานี้สาวเจ้าหลับสนิทไม่ฝันอะไรเลยทีเดียวแต่ทว่านั่นทำให้ไม่อาจรับรู่ได้ถึงไออุ่นของมือหนาที่คอยลูบหัวอยู่ตลอดทั้งคืน!!!
(หมอกของพี่)
รุ่งเช้าการเดินป่าตามกำหนดการเที่ยวจึงเริ่มต้นขึ้น พรรณไม้หลากหลายชนิดล่อตาล่อใจให้สาวๆกดถ่ายรูปกันอย่างไม่กลัวเปลืองเมมโมรี่และเมื่อเดินกันมาได้พักใหญ่จึงเริ่มมองหา
ที่ปิกนิค
"กลับกันเถอะ" อยู่ดีๆ ฝน เพื่อนคนที่เงียบที่สุดกลับชวนกลับอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
ซู่ ซ่า!!!ฝนสาดเทอย่างไม่มีสัญญาณเตือนสักนิด หยาดพิรุณโหมลงมาอย่างหนักทำให้ทุกคนต้องรีบวิ่งหาที่หลบฝน
"ตกหนักแน่เลยจา" ไม่มีเสียงตอบรับ
"โบว์ จาหล่ะ"
"เฮ้ย เมื่อกี้ยังอยู่ตรงนี้เลยนะ" สมาชิกหายไปหนึ่งคนทำให้ทุกคนเริ่มเป็นกังวัล
ไม่มีใครสังเกตแววตาของฝนที่นิ่งไปครู่หนึ่ง
เริ่มแล้วสินะ จา หนีไม่พ้นจริงๆ !!!
………………………………………………………………………………………………………..
คนที่เพื่อนเป็นห่วงกำลังวิ่งไปหลบฝนที่ใต้ต้นไม้ใหญ่
มองเหลียวรอบกายไม่มีเพื่อนตามมาซักคนจึงหยุดพักและเดินไปนั่งพิงต้นไม้เอาแรงก่อนแล้วจึงค่อยเดินตามหาเพื่อนๆต่อ
"หมอก" เสียงนั่น เสียงเดียวกับในความฝัน
"ง่วงจัง ง่วงจัง ทำไมง่วงจัง" ร่างบางค่อยๆพล่อยหลับอยู่ข้างโคนต้นไม้ใหญ่
"กลับบ้านเรานะน้องน้อย พี่จักพาเจ้ากลับบ้าน" ร่างน้อยถูกอุ้มหายวับไปพร้อมร่างสูงใหญ่
…………………………………………………………………………………………………..
เปลือกตาของร่างท้วมค่อยๆขยุกขยิก ดวงตากลมโตค่อยๆเปิดออก
"ที่ไหนกัน"
สถานที่โดนรอบพบต้นไม้แปลกตาที่ไม่เคยเห็น ทุ่งหญ้าเรียบกริบราวกับมีคนนั่งเล็มตกแต่ง
กุบๆๆๆ กับๆๆๆ
เสียงควบม้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆทำให้ร่างท้วมรีบหลบหลังต้นไม้ใหญ่
"ใครอยู่ตรงนั้น แสดงตัวมา" เสียงทรงอำนาจดังขึ้นข่มขู่
สาวเจ้าเนื้อพยายามเบียดตัวแนบชิดกับต้นไม้มากที่สุด กลัวก็กลัว ที่ไหนก็ไม่รู้แล้วคนเสียงโหดตรงหน้านี่ใครกัน
“ใช่ ความฝันเมื่อคืนนี้”
ใจย้อนคิดถีงความฝันเมื่อคืนที่ตนคิดว่าเป็นเรื่องตลกแต่ความจริงตรงหน้าทำให้ตลกไม่ออกเสียแล้ว เบญจเพศของเขาแรงจริง
"ข้าบอกให้ออกมา" เงียบไม่มีแม้แต่เสียงใบไม้ไหว
"ฟิ้ว…."เสียงแช่ม้าฟาดเข้าเป้าที่ต้นไม้ใหญ่
โครม!!! พลังของมันมากพอจนทำให้ต้นไม้ล้มโค่น
ร่างเจ้าเนื้อกระโดดออกมาด้วยความตกใจและเมื่อได้สติก็รีบวิ่งหนีทันที แต่ช้าไปเสียแล้วคนบนหลังม้ากระตุ้นม้าควบไล่ตามจับตัวหญิงสาวด้วยสีหน้าสนุกสนานเสียเต็มประดา
ความรู้สึกกลัวสั่นสะท้านเมื่อสบตากับดวงตาสีดำนิลคู่นั้น
ไม่ช้านักผู้ล่าจึงควบม้าไล้ทันเหยื่อตัวน้อย
มือที่กระชากแขนไม่เบาแรงเลย หญิงสาวพยายามสะบั้ดหลบหนีแต่ก็ไร้ผล
"ปล่อยฉัน" การขัดขืนสุดท้ายและทุกอย่างก็ดับวูบเมื่อโดนฟาดอย่างแรงบนต้นคอ
"ฮึ ไว้เหมือนม้า ยายหมูตอน" ชายหมุ่นพ่นคำเหยียดหยามก่อนลากหญิงสาวขึ้นม้า
พาหายไปกับไอแดด
…………………………………………………………………………………………………..
อากาศเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ
ฝนนั่งอยู่นานแล้วพร้อมกับรอยกังวลในแววตา
เสียงโทรทัศน์ที่เปิดทิ้งรายงานสภาพอากาศของวันพรุ่งนี้ซึ่งจะมีฝนตกหนักแต่นั่นไม่ใช่ปัญหา
ฝนเป็นคนมีสัมผัสพิเศษทำให้รู้สึกได้ถึงบางสิ่ง บางสิ่งที่จะกำลังจะเกิดขึ้นในชีวิตของเพื่อนรัก!!!
ครั้งนี้กรรมเก่ากลับมาหาเพื่อนรักอีกครั้งเป็นบ่วงกรรมผูกพันที่ไม่มีใครสามารถแก้ได้
นอกจากตัวของจาเอง
"ฝนทำไมไม่นอน"
"ยังไม่ง่วง จานอนก่อนเถอะ"
"มานอนเร็วพรุ่งนี้ต้องไปแต่เช้า"
เสียงเพื่อนร่วมห้องร้องเตือนพลางปิดไฟไล่เป็นการชวนพักผ่อน
ไม่ช้านานสรรพสิ่งต่างได้เริ่มทำหน้าที่ของตนเอง
แสงแดดสาดส่องทั่วพื้นพิภพ
ปลุกให้ทุกชีวิตเริ่มต้นเดินหน้าเหมือนเช่นทุกวัน
"จาตื่นๆๆ"
"อืม ขออีกห้านาที"
"เร็วลุกจะเจ็ดโมงแล้วนะ"
"หา ตายล่ะยายโบว์ต้องสวดฉันยับแน่" จาบ่นแล้วจึงรีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัว
"สายน่ะย่ะหล่อน อายุ 25 วันแรกผิดนัดเลยนะย่ะ" โบว์เริ่มก่อหวอด แกล้งเพื่อน
"ขอโทษ" จายกมือขึ้นท่วมหัวทำให้เพื่อนๆพากันหัวเราะ
"ไปเถอะ เขาว่าเบญจเพสให้ระวังนะจา ถ้าดีก็ดีสุดๆแต่ถ้าร้ายก็ร้ายสุดๆ"
โบว์ยังคงเย้าแหย่เพื่อนพอหอมปากหอมคอ
“ฉันไม่ขออะไรมา ขอผู้ชายดีๆสักคนก็พอ” เจ้าตัวหาสลดไม่ตอกกลับอย่างก๋ากั่น
“โอเค โชคดีขอให้ได้สามีนะเพื่อนรัก”
………………………………………………………………………………………………………..
เส้นทางขับรถค่อนข้างลำบากเพราะฝนตกหนักนักเวลาในการเดินทางจึงมากตามไป
คณะเที่ยงจึงมาถึงที่พักเมื่อประมาณบ่ายเศษๆ
"เฮอถึงซักทีเมื่อยไปหมดเลย" โบว์โอดครวญ
"เก็บของเข้าที่พักกันเถอะเพื่อนๆ"นิ่มเสนอและไม่มีใครคัดค้าน
ทุกคนพักผ่อนและหลับสนิทกันหมดแล้วเว้นสาวเจ้าเนื้อที่ยังไม่อาจข่มตาหลับลงได้
………………………………………………………………………………………………………..
กริ๊งๆๆๆ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในความมืด
"เพ็ญไม่ต้อง ฉันรับเองไปนอนเถอะ"
โทรศัพท์ด่วนแจ้งข่าวเครื่องบินตกพ่อและแม่ของจาเสียชีวิตทั้งคู่
จาร้องไห้ทั้งคืน
การสูญเสียมาเร็วอย่างไม่ทันตั้งตัว
จากเหตุการณ์นั้นทำให้จาไร้ที่พึ่งจนต้องออกจากบ้านไปอยู่กับฝน
โชคชะตาทำให้จารู้จักกับฝนตั้งแต่ตอนเข้ามหาวิทยาลัยและได้ช่วยหลือเกื้อกูลกันมาโดยตลอด ความสัมพันธ์จึงแทบผูกพันราวคลานตามกันมา
แปะๆ
เสียงหยดละอองไหลตกกระทบพื้นฝนทำให้จาหลุดออกจากภวังค์ก่อนหลับไปพร้อมกับความคิดที่ยังวนเวียน
………………………………………………………………………………………………………..
"ที่ไหน"ปลายเท้าเปือยเปล่ายืนอยู่บนปุยเมฆหลากสี
แสงขาวกระจ่างสว่างจ้าตรงหน้าขึ้นวูบหนึ่งก่อนปรากฏร่างสูงในเมฆหมอกขมุกขมัว
"หมอก หมอกของพี่"
เสียงที่เคยคุ้นเป็นของใครกันนะ เสียงนั่น ทำให้รู้สึกอบอุ่นผสานกับความทรมาน
"ไปให้พ้น หมอกเกลียดพี่ชาย" คำพูดที่พูดออกไปนั่นเป็นเสียงของเรารึเปล่านะ หมอกเป็นใคร เราชื่อจาไม่ใช่หมอก
"โถ น้องน้อย ข้า"
"อย่ามายุ่งกับหมอก"
"ไม่ ข้าจักไม่ยอมให้เจ้าตัดเป็นตัดตายกับข้าเฉกเช่นอดีตหรอก เจ้าเป็นของข้าและจักเป็นเช่นนั้นตลอดไป"
"ไม่ ไปให้พ้น ข้าเกลียดท่าน"
"ไม่ เจ้าเป็นของข้า"
เฮือก!!! หญิงสาวสะดุ้งตื่นขึ้นจากความฝันที่แสนประหลาด
"กินมากนอนมากจนฝันเพ้อเจ้อเลยเรา"
ตบหมอนให้ฟูขึ้นสองสามทีก่อนล้มตัวนอนลงอีกครั้ง ครานี้สาวเจ้าหลับสนิทไม่ฝันอะไรเลยทีเดียวแต่ทว่านั่นทำให้ไม่อาจรับรู่ได้ถึงไออุ่นของมือหนาที่คอยลูบหัวอยู่ตลอดทั้งคืน!!!
(หมอกของพี่)
รุ่งเช้าการเดินป่าตามกำหนดการเที่ยวจึงเริ่มต้นขึ้น พรรณไม้หลากหลายชนิดล่อตาล่อใจให้สาวๆกดถ่ายรูปกันอย่างไม่กลัวเปลืองเมมโมรี่และเมื่อเดินกันมาได้พักใหญ่จึงเริ่มมองหา
ที่ปิกนิค
"กลับกันเถอะ" อยู่ดีๆ ฝน เพื่อนคนที่เงียบที่สุดกลับชวนกลับอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
ซู่ ซ่า!!!ฝนสาดเทอย่างไม่มีสัญญาณเตือนสักนิด หยาดพิรุณโหมลงมาอย่างหนักทำให้ทุกคนต้องรีบวิ่งหาที่หลบฝน
"ตกหนักแน่เลยจา" ไม่มีเสียงตอบรับ
"โบว์ จาหล่ะ"
"เฮ้ย เมื่อกี้ยังอยู่ตรงนี้เลยนะ" สมาชิกหายไปหนึ่งคนทำให้ทุกคนเริ่มเป็นกังวัล
ไม่มีใครสังเกตแววตาของฝนที่นิ่งไปครู่หนึ่ง
เริ่มแล้วสินะ จา หนีไม่พ้นจริงๆ !!!
………………………………………………………………………………………………………..
คนที่เพื่อนเป็นห่วงกำลังวิ่งไปหลบฝนที่ใต้ต้นไม้ใหญ่
มองเหลียวรอบกายไม่มีเพื่อนตามมาซักคนจึงหยุดพักและเดินไปนั่งพิงต้นไม้เอาแรงก่อนแล้วจึงค่อยเดินตามหาเพื่อนๆต่อ
"หมอก" เสียงนั่น เสียงเดียวกับในความฝัน
"ง่วงจัง ง่วงจัง ทำไมง่วงจัง" ร่างบางค่อยๆพล่อยหลับอยู่ข้างโคนต้นไม้ใหญ่
"กลับบ้านเรานะน้องน้อย พี่จักพาเจ้ากลับบ้าน" ร่างน้อยถูกอุ้มหายวับไปพร้อมร่างสูงใหญ่
…………………………………………………………………………………………………..
เปลือกตาของร่างท้วมค่อยๆขยุกขยิก ดวงตากลมโตค่อยๆเปิดออก
"ที่ไหนกัน"
สถานที่โดนรอบพบต้นไม้แปลกตาที่ไม่เคยเห็น ทุ่งหญ้าเรียบกริบราวกับมีคนนั่งเล็มตกแต่ง
กุบๆๆๆ กับๆๆๆ
เสียงควบม้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆทำให้ร่างท้วมรีบหลบหลังต้นไม้ใหญ่
"ใครอยู่ตรงนั้น แสดงตัวมา" เสียงทรงอำนาจดังขึ้นข่มขู่
สาวเจ้าเนื้อพยายามเบียดตัวแนบชิดกับต้นไม้มากที่สุด กลัวก็กลัว ที่ไหนก็ไม่รู้แล้วคนเสียงโหดตรงหน้านี่ใครกัน
“ใช่ ความฝันเมื่อคืนนี้”
ใจย้อนคิดถีงความฝันเมื่อคืนที่ตนคิดว่าเป็นเรื่องตลกแต่ความจริงตรงหน้าทำให้ตลกไม่ออกเสียแล้ว เบญจเพศของเขาแรงจริง
"ข้าบอกให้ออกมา" เงียบไม่มีแม้แต่เสียงใบไม้ไหว
"ฟิ้ว…."เสียงแช่ม้าฟาดเข้าเป้าที่ต้นไม้ใหญ่
โครม!!! พลังของมันมากพอจนทำให้ต้นไม้ล้มโค่น
ร่างเจ้าเนื้อกระโดดออกมาด้วยความตกใจและเมื่อได้สติก็รีบวิ่งหนีทันที แต่ช้าไปเสียแล้วคนบนหลังม้ากระตุ้นม้าควบไล่ตามจับตัวหญิงสาวด้วยสีหน้าสนุกสนานเสียเต็มประดา
ความรู้สึกกลัวสั่นสะท้านเมื่อสบตากับดวงตาสีดำนิลคู่นั้น
ไม่ช้านักผู้ล่าจึงควบม้าไล้ทันเหยื่อตัวน้อย
มือที่กระชากแขนไม่เบาแรงเลย หญิงสาวพยายามสะบั้ดหลบหนีแต่ก็ไร้ผล
"ปล่อยฉัน" การขัดขืนสุดท้ายและทุกอย่างก็ดับวูบเมื่อโดนฟาดอย่างแรงบนต้นคอ
"ฮึ ไว้เหมือนม้า ยายหมูตอน" ชายหมุ่นพ่นคำเหยียดหยามก่อนลากหญิงสาวขึ้นม้า
พาหายไปกับไอแดด
…………………………………………………………………………………………………..

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ม.ค. 2559, 00:43:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ม.ค. 2559, 00:43:49 น.
จำนวนการเข้าชม : 678
<< บทนำ | อวาหะ >> |