บรรณาการรักซาตาน (ล่ามรัก CEO ร้าย) พลอยวรรณกรรม Inlove Book
เขาล่อลวงเธอด้วยมนตราแห่งปรารถนา แต่สุดท้ายก็ได้รู้
หาใช่เขาที่เป็นผู้คุมเกมเสน่หานี้ไม่

Tags: เฮคเตอร์,อันนา,ล่ามรัก CEO ร้าย,อีวอนน์,คลินตัน

ตอน: Chapter 3 งานเต้นรำในคืนพระจันทร์เต็มดวง 2/2

“สวีต...”

ชายหนุ่มหลุบตามองริมฝีปากอิ่มที่เคลือบไว้ด้วยลิปสติกสีสด เขามองอ้อยอิ่งอยู่นานพอที่อันนาจะหน้าร้อนวาบ เฮคเตอร์ค่อยเลื่อนสายตาขึ้นสบกับตาคู่งามอีกครั้งเมื่อเอ่ยต่อ

“สมกับเป็นเดี่ยวเซลโลที่เพราะมากสำหรับดนตรีแบบบาโรก คุณคิดว่างั้นไหม”

หญิงสาวกะพริบตาย้ำกับสมองว่า มีสติไว้! “ฉัน... ฉันไม่มีความรู้ด้านดนตรีคลาสสิคมากเท่าไหร่นักหรอกค่ะ แต่ถ้าเป็นแคทเธอรีน เธอคงจะตอบคำถามนี้กับคุณได้”

เขายิ้ม และหญิงสาวก็รู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้าช่างยิ้มได้สวยมาก

“งั้นเหรอ โอเค ทีนี้มาเรื่องที่คุณต้องรู้แน่ๆ ทำไมคุณถึงได้อยากสัมภาษณ์ผม อันนา”

นักข่าวสาวเพิ่งรู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าวมากแค่ไหน ร่างกายของเธอก็เช่นกัน ตอนนี้ราวกับว่าเธอกำลังจับไข้ หญิงสาวหลบตาเขา คำถามนี้ตอบยากมันอาจทำให้เธอได้สัมภาษณ์หรือชวดได้

“ฉัน... คือ”

อันนานิ่งคิด และ... เพิ่งนึกได้ว่าควรตอบเขาไปอย่างไร

ความจริงใจ ใช่... และเขาอาจจะตกใจกลัวความเถรตรงของเธอก็ได้ เธอคิดอย่างซุกซน

“มันเป็นความรู้สึกส่วนตัวค่ะมิสเตอร์เกลนนอน รู้ไหมคะฉันปลื้มคุณมากแค่ไหน ฉันเคยคิดตั้งแต่ที่ยังเรียนอยู่ ว่าสักวันถ้าได้เป็นนักข่าวจะขอให้ได้สัมภาษณ์คุณสักครั้ง แล้วความฝันฉันก็เพิ่งมีโอกาสได้ทำในตอนนี้”

คนถูกสารภาพซึ่งหน้าแม้คุ้นเคยดี แต่ครั้งนี้กลับรู้สึกว่าเขาเริ่มหน้าร้อนบ้างแล้ว

“ทั้งที่รู้ว่าผมไม่ให้สัมภาษณ์”

“ฉันมันหัวรั้นน่ะค่ะ คุณรู้ไหม นิโคลัส แวนดอร์ฟ คือบทสัมภาษณ์ครั้งล่าสุดที่ฉันภูมิใจมาก” อันนาเงยหน้าขึ้นเปิดยิ้มสดใส “เพราะอะไรที่ยากและท้าทายมันทำให้ฉันตื่นเต้นและสนุกที่จะทำให้มันสำเร็จ”

“แล้วถ้าผิดหวัง...”

“ฉันก็จะพยายาม แต่จะว่าไปมันเป็นความคิดแบบเด็กๆน่ะค่ะ จะบอกว่าฉันเป็นพวกชอบเอาชนะก็ได้ แต่อะไรที่ยิ่งยากพอเราทำสำเร็จ มันจะให้ความรู้สึกที่ดีมากๆ แต่ถึงสุดท้ายจะต้องผิดหวังจริงๆนั่นก็ยังน่าภูมิใจอยู่ดี เพราะฉันได้พยายามทำมันจนเต็มที่แล้ว”

เฮคเตอร์มองคนตัวเล็กอย่างประหลาดใจแกมทึ่ง

“โอเค แล้วถ้าหากผมยอมให้สัมภาษณ์ คุณจะอยากสัมภาษณ์เรื่องอะไร”

เสียงพูดเขาเบาลงอีก และร่างกายเรายิ่งแนบชิดกัน การเต้นรำของเรานั้นตอนนี้เป็นไปในลักษณะสโลว์ซบ วงแขนของเฮคเตอร์โอบรอบตัวของเธอ ฝ่ามือของเขาแตะรัดอยู่บั้นเอวของเธอ ส่วนฝ่ามือของเธอวางแนบกับอกกว้างของเขาจนรู้สึกได้ถึงแรงเต้นสม่ำเสมอในหัวใจดวงนี้

“ฉัน...”

ชายหนุ่มโน้มตัวลงมาอีก “คุณพูดอะไรนะ”

ใบหน้าเขาใกล้เข้ามาเรื่อยๆ อันนาจึงยิ่งทำตัวไม่ถูก หัวใจเธอสะเทือนไหวและคนตัวเล็กในอ้อมแขนแกร่งก็เลือกที่จะก้มหน้าลง เฮคเตอร์เผลอโน้มตัวลงตามกลิ่นหอมอ่อนๆ ซึ่งโชยมาจากเรือนร่างบอบบาง อันนาที่กำลังขัดเขินหัวเราะเสียงแผ่วกับคำถามของเขา เธอตัดสินใจเงยหน้าขึ้นมองเพื่อจะตอบ และ... ทำให้ใบหน้าเราห่างกันเพียงคืบเดียว

เธอชะงัก ดวงตาฉายแววตื่นตกใจ เฮคเตอร์จ้องลึกเข้าไปในแก้วตานั่น

“อันนาว่าไง อยากสัมภาษณ์ผมเรื่องอะไร”

“ฉัน...” เธอกัดริมฝีปาก ใบหน้าแดงก่ำ “เอ่อ ขอเวลาฉันหน่อยได้ไหมคะ ตอนนี้ฉันนึกคำถามที่จะถามคุณไม่ออกเลยจริงๆ” หญิงสาวหลบตาอีกครั้งหัวใจในอกเต้นระทึก ความเก่งกล้ามันหล่นหายไปไหนเสียหมดแล้วก็ไม่รู้ อันนาคิดว่าเธออาจจะเหนื่อยกับหนึ่งชั่วโมงที่แล้วมากเกินไป และปลงเสียแล้วกับการที่จะได้สัมภาษณ์เขาจึงทำให้คิดไม่ออก

เฮคเตอร์มองหญิงสาวในอ้อมแขน ตอนนี้เธอกับเขาหยุดขยับแล้ว และเราเหมือนกำลังกอดกันอยู่

ตัวอันนาสะท้าน เธอคิดว่าเป็นเพราะอากาศเย็นยามค่ำคืนของช่วงฤดูที่กำลังจะเข้าสู่หน้าหนาว แม้ใจจะบอกว่านั่นเป็นเพราะอ้อมกอดของเฮคเตอร์ที่ยังโอบเธอไว้ไม่คลายต่างหาก

“อันนา ตั้งแต่อาทิตย์หน้าจนอีกสองอาทิตย์ถัดไปผมจะไปพักร้อนที่ไมแอมี่ และจะว่างมากจนน่ากลัวว่าจะเหงา เลยคิดว่าจะหาอะไรทำเล่นๆ อย่างเช่น...” เขาจงใจละข้อความไว้ และหญิงสาวก็เงยหน้าขึ้นมองทันควัน

ท่าทางสีหน้ารอฟังและลุ้นเต็มแก่ ตาคู่สวยเบิกโต ริมฝีปากเผยอนิดๆนั่นดูคล้ายเชิญชวน

เฮคเตอร์รู้สึกทนไม่ไหว อยากลองลิ้มรสริมฝีปากอิ่มตรงหน้าขึ้นมาตงิดๆ

“ยอมให้คุณ...” ชายหนุ่มละคำไว้ เขาโน้มหน้าลงแนบชิดและก้มลงเผยอริมฝีปากขบกัดริมฝีปากอิ่มบนแช่มช้า ก่อนขบเม้มแผ่วเบา เลื่อนริมฝีปากลงทาบทับปิดสนิท และเริ่มต้นขบเรียวปากล่างแสนหวานของหญิงสาวในอ้อมแขน

หวาน... อย่างที่เขาคิดจริงๆ เฮคเตอร์ละริมฝีปากออกห่าง ตาเขายังมองสบกับดวงตาคู่โตที่เบิกกว้าง

“สัมภาษณ์”

สิ้นเสียง อันนาก็สะดุ้งเยือก ใบหน้าของเธอถูกเขาประคองไว้ และริมฝีปากบางก็ประทับลงมา ไม่ใช่จูบแผ่วผิวเหมือนเมื่อครู่ เพราะครั้งนี้เขาขบเม้มเรียวปากเธอแรงขึ้น เร้าให้เธอเปิดริมฝีปากรับเขา ร่างกายของเธอที่เย็นก่อนหน้าเริ่มอุ่นเมื่อได้อยู่ในอ้อมกอดเขา ตอนนี้กลายเป็นว่ามันแทบสุกแล้ว

ดวงตาคู่สวยค่อยหรี่ลง มนต์มายาแห่งความฝันล่อหลอกให้เธอหลงลืมตัว เมื่อเฮคเตอร์คือตัวตนของชายในฝันที่เธอถวิลหา และเหตุการณ์ทุกอย่างในวันนี้ก็คล้ายว่าไม่ใช่เรื่องจริง อันนาจึงเผลอตัวเผลอใจไปกับสัมผัสของเขา หญิงสาวไม่ประสากับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ แต่เธอเรียนรู้และหัวไว

ดังนั้นแม้จะเป็นจูบแรก แต่... เธอก็รู้จักที่จะตอบรับและโต้ตอบเขากลับไปบ้าง

หวาน... มาก เฮคเตอร์รำพึงกับตัวเองในอก เขาเริ่มคุมตัวเองไม่อยู่จนได้แต่นึกประหลาดใจ ที่ตะกละตะกลามดื่มกินลมหายใจของแม่นักข่าวสาวตัวเล็กนี้

ไม่นานฝ่ามือใหญ่จากที่ช้อนประคองวงหน้าอ่อนบางไว้ ก็เริ่มเคลื่อนลงไปตามลำคอขาวผ่อง มันไล้สัมผัสกับไหล่เปลือยก่อนเลื่อนผ่านเนื้อผ้าลงไปตามเอวคอด มหาเศรษฐีหนุ่มจับยึดสะโพกผายรั้งเธอเข้าหาตัวเขา บดเบียดร่างกายเข้าด้วยกันเพราะเพลิงปรารถนาที่เริ่มก่อตัวขึ้น

เนื้อทรวงนุ่มหยุ่นปะทะกับอกเขา จนเฮคเตอร์คำรามอย่างพึงใจ

และเขาต้องการจูบที่ลึกล้ำมากกว่านี้

ชายหนุ่มแทรกเรียวลิ้นผ่านเข้าไปเสาะหาความหวานจากโพรงปากอิ่ม แล้วแทบครางกับเจ้าบ้านที่ต้อนรับเป็นอย่างดี การต้อนรับนั้นช่างน่ารักและน่าหลงใหล เขาแทบลืมตัว และนึกอยากอุ้มเธอขึ้นมาแล้วพากลับไปเสียด้วยกัน

อันนาจากที่ขยุ้มกุมเสื้อเขาไว้ หญิงสาวเลื่อนลูบไปตามแผงอกกว้างแล้วค่อยๆโอบรอบลำคอแข็งแรง มือน้อยเลื่อนขึ้นไปถึงท้ายทอยและสัมผัสกับกลุ่มผมดกหนา ขยุ้มกำมันไว้ราวกับหลักยึด เธอตัวอ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงอยู่ในอ้อมกอดราวกับเบ้าหลอมเหล็กนี้ ส่วนเขาตอบแทนเธอด้วยจุมพิตที่ร้อนแรงยิ่งขึ้น เฮคเตอร์กลืนกินลมหายใจเธอ เขาสูดเอาไอชีวิตของเธอราวกับเป็นปีศาจร้ายในขุมนรก

และเธอ... ก็เหมือนตกเป็นทาสของซาตานอย่างเขาแล้วในตอนนี้

และแล้วจูบเดียวที่เริ่มต้นด้วยความใกล้ชิด มนต์มายาแห่งค่ำคืนและเสียงเพลงอ่อนหวาน ได้ก่อให้เกิดสายสัมพันธ์บางประการขึ้นในหัวใจของทั้งสอง มันคล้ายเมล็ดพันธ์ที่หว่านลงไป... แล้วรอการเติบโต

กระทั่งลมหายใจของอันนาใกล้หมดลง เฮคเตอร์จึงได้ยอมถอนจูบ ชายหนุ่มมองใบหน้าแดงก่ำของคนในอ้อมแขนอย่างพึงใจ ดวงตาคู่สวยปรือปรอย ริมฝีปากฉ่ำช้ำบวม มหาเศรษฐีหนุ่มไล้นิ้วชี้กับพวงแก้มอิ่ม กดจูบลงกับหน้าผากนวลหนักๆ แล้วคลอเคลียปลายจมูกของเขาเข้ากับเธอ

“ไว้เจอกันที่ไมแอมี่คนเก่ง วันอาทิตย์ผมจะส่งคนไปรับคุณ และ... สัมภาษณ์ครั้งนี้ ผมยอมให้มีแค่คุณกับผมเท่านั้นนะ ห้ามมีคนอื่นเด็ดขาด ตกลงไหมเด็กดี”

แทนคำตอบมือใหญ่ขยับประคองต้นคอขาวผ่อง บังคับให้เธอผงกศีรษะรับ

“งั้นโอเคตามนี้ ผมจะรอวันในไมแอมี่”

นั่นคือคำพูดทิ้งท้าย เฮคเตอร์ถอดสูทตัวนอกของเขาสวมให้กับเธอ จูบลาสุดท้ายประทับลงแรงๆหนึ่งครั้งแล้วถอยห่าง ก่อนร่างสูงใหญ่นั่นจะเดินหันหลังและก้าวจากไปไวเช่นเดียวกับเมื่อตอนที่เขาก้าวเข้ามา

อันนากะพริบตาปริบ เธอค่อยทรุดลงนั่งกับพื้น หัวเหอหูร้อนไปหมด

ตอนนั้นในสมองมีแค่ประโยคซ้ำๆ ประโยคเดียววนเวียนไปมาว่า

เธอกับเขา... เราจูบกัน เมื่อกี้ไม่ใช่ฝัน เธอจูบกับเฮคเตอร์ พี. เกลนนอน!



“ว้าว นี่หนูพูดจริงใช่ไหมอัน ลุงฟังไม่ผิดใช่ไหม เฮคเตอร์ พี. เกลนนอน เขา... คนนั้นน่ะ ยอมให้หนูสัมภาษณ์เขาจริงๆ!” อีเดนเอ่ยอย่างประหลาดใจจนแทบเป็นตะโกน หลังเช้าของวันใหม่อันนาเข้ามาหาเขาในห้องทำงานและรายงานความเป็นไปในโปรเจ็คท์สุดพิเศษนี้

“คือมันเหลือเชื่อมาก หนูไปทำยังไงน่ะอันเขาถึงได้ยอม แล้วก็วิลล่าที่ไมแอมี่ลุงไม่อยากคิดเลย หนังสือพิมพ์ฉบับนั้นของเราจะต้องขายดีเป็นเทน้ำเทท่าแน่ๆ”

จากคำถาม อันนาพลันหน้าแดง เสียงหัวเราะเก้อๆดังขึ้นแทนและเธอเลือกจะก้มหน้าหลบสายตาพ่อบุญธรรม เมื่อจูบสะเทือนดาวเมื่อคืนนี้วูบเข้ามาในความคิด เมื่อคืนวานอันนากว่าจะได้สติกลับคืนมา ก็ต่อเมื่อแคทเธอรีนกับเซบาสเตียนเดินมาถึงตัวแล้ว เพื่อนทั้งสองคนของเธอเอ่ยถามถึงสาเหตุที่เธอนั่งแปะกับพื้น แต่อันนาไม่ตอบ

เธอเลือกเบี่ยงประเด็นด้วยการบอกว่า เฮคเตอร์ยอมให้เธอสัมภาษณ์แล้ว พร้อมกับข้อแม้ที่เขามอบให้

ทั้งคู่ตื่นเต้น แต่เสื้อสูทที่เธอสวมทับชุดราตรีนั่นต่างหากที่ทำให้เป็นปริศนา และทั้งสองก็เฝ้าคาดคั้นเอาคำตอบจากเธอ ทว่าอันนาไม่ยอมแม้แต่จะเปิดปากบอก กระนั้นก็คงเดาได้ไม่ยากว่ามันเป็นสูทของใคร

“แต่... อันนา ลุงก็ยังเห็นว่าข้อเสนอของเขามันแปลกๆ ในไมแอมี่... แค่หนูคนเดียวนี่นะ... เดี๋ยวๆ เมื่อคืนนี้พ่อมหาเศรษฐีนั่นมีท่าทีอะไรเกินเลยกับหนูหรือเปล่า” อีเดนทำหน้าที่พ่ออย่างสมบูรณ์แบบ อันนารีบเงยหน้าแดงน้อยๆนั้นขึ้นมองและหัวเราะดังๆกลบเกลื่อน เธอยกมือขึ้นโบกไหวๆ

“ต้องหนูมากกว่าค่ะที่มีท่าทีเกินเลยกับเขา มิสเตอร์เกลนนอนหล่อมากจริงๆ เขาเหมาะกับฉายาเพอร์เฟ็กต์สุดๆ และหนูก็ตกหลุมเสน่ห์เขาเข้าเต็มเปาเลยค่ะ”

อีเดนกลอกตาไปมา หัวเราะกับท่าทางอายๆ แต่ยังกล้าพูดของอันนา

“โอเค งั้นลุงให้สิทธิ์หนูเต็มที่ สามอาทิตย์ใช่ไหมไว้ลุงจะติดต่อเพื่อนที่อยู่ที่นั่น เขามีที่พักดีพอที่ลุงจะไว้ใจได้ว่าหนูจะปลอดภัยหายห่วง”

“ขอบคุณค่ะเอ๊ด หนูรับรองนะคะบทสัมภาษณ์นี้จะไม่มีข้อผิดพลาด ลุงไม่ต้องห่วง เราจะก้าวขึ้นเป็นหนังสือพิมพ์อันดับหนึ่งในนิวยอร์กไปด้วยกัน!”

สองพ่อลูกบุญธรรมตีมือร้องเยส มีความสุขกับช่วงเวลาสั้นๆนั้น

อันนาเปิดประตูห้องออกมาอีกในราวครึ่งชั่วโมง ทั่วโถงมีเสียงพูดคุยเกี่ยวกับการสัมภาษณ์เฮคเตอร์ หลายคนเข้ามาชื่นชมและฝากอันนาแอบเก็บภาพสุดเซ็กซี่ของพ่อมหาจำเริญกันยกใหญ่

เพราะไมแอมี่คือแดนสวรรค์แห่งบิกินี่และกล้ามล่ำๆของหนุ่มหนุ่ม

อันนายังคงถูกรุมล้อมจากเพื่อนร่วมงานราวสิบชีวิตที่อยู่ในออฟฟิศ

เซบาสเตียนนั่งพิงสะโพกกับโต๊ะทำงานของแคทเธอรีน เขายกมือกอดอกและมองไปยังคนที่ถูกล้อมด้วยใบหน้ากังวล หญิงสาวเจ้าของโต๊ะเงยหน้าขึ้นมองเขา เธอยกมือเท้าคางและทอดถอนใจ

“ถ้าเป็นห่วง ก็ทำไมไม่ขอตามไปล่ะแซม ถึงเกลนนอนจะให้อันสัมภาษณ์เขาคนเดียว แต่นายก็ไปกับอันได้ อีเดนคงหายห่วงถ้ารู้ว่าจะมีคนคอยดูแลอันให้เขาในไมแอมี่ตลอดสามอาทิตย์ ที่นั่น... มีบ้านพ่อแม่นาย และมันเป็นบ้านเกิดของนายไม่ใช่เหรอ”

แม้จะเจ็บปวดที่ให้คำแนะนำไปเช่นนั้น แต่แคทเธอรีนก็อดจะช่วยเขาไม่ได้

“ผมติดงาน” เซบาสเตียนเลื่อนสายตากลับมามองเธอและยักไหล่

“อาจจะไปได้ในอาทิตย์สุดท้าย แต่จะลองขออีเดนดู ขอบใจนะแคท”

แคทเธอรีนยิ้ม เธอใช้มือรุนแผ่นหลังกว้าง พลางหยิบดินสอขึ้นมาเลื่อนบรู๊ฟงานในคอลัมน์ของตัวมาไว้ตรงหน้า

“ไป๊ งั้นก็รีบไปขออีเดนตอนที่กำลังอารมณ์ดี ไม่งั้นนายอาจชวดได้ เพราะอีเดนหวงอันนามากแค่ไหนนายก็รู้ ก็นั่นลูกสาวคนเดียวของอีเดนเลยนะ”

ช่างภาพหนุ่มหัวเราะและลุกขึ้นเดินก้าวตรงไปยังกลุ่มคนซึ่งรุมล้อมอันนา พูดคุยด้วยนิดหน่อยก่อนเดินตรงไปยังห้องทำงานของเจ้าของสำนักพิมพ์ แคทเธอรีนซึ่งมองตามถอนใจก้มลงสนใจงานตรงหน้า

เธอเริ่มคิดว่า สถานะระหว่างเธอกับเซบาสเตียน บางทีเป็นเพื่อนอาจดีกว่าเป็นอย่างอื่นก็ได้




เขาบอกว่าจะให้คนมารับและ... อันนาคิดไม่ถึงว่าเธอจะได้รับเกียรติมากขนาดนี้!

ก็... นั่นเขา เฮคเตอร์ พี. เกลนนอน กับเมอเซเดสเบนซ์ที่เห็นได้ทั่วไปบนท้องถนน แต่แบบ... เอ่อ แบบว่า ข้างถนน หน้าอพาร์ตเม้นต์ธรรมดา คนเดินผ่านไปผ่านมาต้องหันมองคอแทบเคล็ดเพราะ

พ่อหนุ่มเมโทรเซ็กซ์ชวลนี่แหละ!

พ่อเจ้าประคุณหล่อลากแปลงร่างเป็นหนุ่มเนิร์ด ผมเซ็ตมาแบบที่ถึงโดนลมแรงๆพัดก็ไม่กระดิก และในตัวเขาก็ยังคงสภาพแบรนด์เนมเดินได้ แว่นสายตาของเรย์แบน เสื้อคอเต่าสีดำแขนยาวของหลุยส์วิตตอง กางเกงยีนส์ฟอกของกุชชี่ รองเท้าของปราดา และนาฬิกาจากโรเล็กซ์

เออหนอ... บางทีเขาก็สำอางเกินไป จนเหลือเชื่อว่าผู้ชายคนนี้คือคาสโนว่าฆ่าไม่ตาย

เฮคเตอร์เพิ่งมาถึงหน้าที่พักของอันนาเมื่อห้านาทีที่แล้ว ชายหนุ่มออกจากตัวรถมายืนพิงสะโพกเท่ๆกับหน้ากระโปรงรถยนต์เมอเซเดส เมเบส เอสคลาส สองเท้าเขาไขว้กัน สองมือสอดลงในกระเป๋ากางเกง ดวงตามองพื้นด้วยอากัปกิริยาเหม่อๆ

แต่ถ้ามองดีๆ ...จะเห็นรอยยิ้มแต้มนิดๆที่มุมปาก ก็แหม... คนเรามันต้องเรียกเรตติ้งกันหน่อย!

“เอ่อ อะแฮ่ม!”

อันนาให้เสียงเป็นการบอกเขาว่าเธอมาถึงแล้ว วันนี้เธอราวกับลูกแฝดของมหาเศรษฐีหนุ่ม เพราะเสื้อคอเต่าสีขาวกับกางเกงยีนส์สีน้ำทะเล ผิดกันก็แค่มันไม่ใช่ของแบรนด์ดัง

“ไฮ”

หนุ่มเนิร์ดที่เงยหน้าขึ้นมองเธอทันทีเปิดยิ้มละลายส่งมาให้ อันนามองสบและได้แต่สะบัดหัว เมื่อเธอเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังระทวยไปกับยิ้มนั่น เฮคเตอร์ขยับยืนยืดตัวตรง หญิงสาวยิ้มเขินๆส่งให้เขา เธอลากกระเป๋าเดินทางออกมาด้วย แต่กระนั้นมือไม้ก็ยังรู้สึกว่าเกะกะ

“เป็นไงบ้างอันนา วันนี้อากาศดีว่าไหม” เฮคเตอร์ชวนคุย เขาเข้ามารับเอากระเป๋าใบใหญ่ของเธอไปใส่ไว้ที่ท้ายรถ หญิงสาวพลอยเดินตามเขาไปด้วยอย่างเกรงใจ ชายหนุ่มหันมามองเมื่อยกกระเป๋าเก็บเรียบร้อยแล้วพลางเลิกคิ้วขึ้นนิดๆ “รับรองผมไม่ทำกระเป๋าคุณเสียหายหรอก”

“โถ” อันนาหลุดขำ “ฉันเกรงใจคุณต่างหากล่ะคะ”

“อ๋อ” เขาลากเสียงยาวปิดท้ายรถดังปัง และโดยไม่ทันตั้งตัวมือใหญ่สอดเข้าท้ายทอยของเธอและเขาก็โน้มหน้าลงมา รอยจุมพิตแผ่วผิวประทับลงกับเรียวปากอิ่มสีพีช “แค่นี้ก็พอ”

นักข่าวสาวอึ้ง แต่คนทำกลับเดินผิวปากไปเปิดประตูรถรอเธอแล้ว

“อันนา” เขาเอ่ยเรียกและใช้สีหน้าเป็นเชิงบอกให้เธอขึ้นรถได้แล้ว “แค่จูบ... ขอบคุณ”

คนพูดยิ้มพราย และคนเพิ่งหายอึ้งหน้าแดงจัด

“มิสเตอร์เกลนนอน!” เสียงหวานแหวเบา เธอรีบเดินเข้าไปประจันหน้ากับเขา แม้แก้มจะยังแดงเพราะขัดเขิน แต่คราวนี้เธอจะไม่ยอมเสียจูบให้เขาไปฟรีๆแน่ “คุณ! จะ...”

เธอกะพริบตากัดริมฝีปากความร้อนในหัวพุ่งวาบ และสุดท้ายหญิงสาวก็กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่

“ขอบคุณค่ะ”

ร่างเล็กรีบมุดเข้าไปในรถยนต์คันหรู เฮคเตอร์ปิดประตูตาม เขาหัวเราะเสียงดังเสียจนหญิงสาวที่อยู่ในรถได้ยิน อันนายกมือขึ้นปิดหน้า เธอพูดไม่ออก

นี่จูบที่สองของเธอที่เขาขโมยไป!

เธออยากโกรธ อยากโมโห แต่ให้ตาย คิดอย่างนี้ทีไร หน้าหล่อๆ กับเสียงทุ้มๆ ของเขามันชอบเข้ามาในหัวและทำให้เธอลืมโกรธลืมโมโหเขาไปได้ในทันที

ผู้ชายในฝัน เธอชอบเขานะ และมันเหมือนกับ... แฟนคลับที่หลงรักศิลปินของตัวเองนั่นแหละ!

อันนาถ่างนิ่วแอบมองคนขับรถกิตติมศักดิ์ที่กำลังเคลื่อนเจ้ารถหรูออกสู่ท้องถนน ความอบอุ่นกึ่งซาบซ่านในหัวอกเริ่มแผ่กระจายไปทั่วทั้งตัว นักข่าวสาวยิ้มกับตัวเอง

จะเคยมีใครคิดบ้างไหม ว่าอาจจะมีมิสเตอร์ฟิฟตี้ของแอนนาตัวจริง

เธอเผลอคิดเข้าข้างตัวเอง เฮคเตอร์ใส่ใจสนใจเธอจนถึงขนาดเมื่อหลายวันก่อนเขาตามหาเธอ แล้วมีจูบร้อนแรงนั่นด้วยกัน และ...พอมาถึงวันนี้จากที่จะให้คนอื่นมารับ เขากลับมารับเธอด้วยตัวเอง

หัวใจอันนาพองโต แม้ปรามแล้วแต่มันไม่ค่อยฟัง

เป็นไปได้ไหม... ที่เราจะมีรักแรกพบ

จะเพ้อฝันมากไหม... กับคนที่ต่างกันกับเราอย่างที่สุด

และ... อันนาอยากมีความสามารถพิเศษอ่านใจคนได้ เธออยากรู้ว่าตอนนี้เฮคเตอร์รู้สึกเช่นไรกับเธอ



============================================================>>>>>

ดีค้า พาเฮคเตอร์กับอันนามาส่งค่ะ ^^

คุณคนเหงา มาทุกวันฮับผม ^^
คุณแว่นใส เพลงค่ะ ดนตรีคลาสสิคแบบบาโรกค่ะ แต่ความหมายเฮียคือปากยัยอัน 5555

และคุณๆรีดเดอร์นะคะ ขอบคุณที่แวะมาอ่าน มาคุย มากดคะแนนให้ ขอบคุณมากๆ จริงๆค่ะ

และสำหรับคืนนี้ หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์นะคะ ^^



ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 ก.พ. 2559, 19:50:17 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ก.พ. 2559, 19:50:17 น.

จำนวนการเข้าชม : 1564





<< Chapter 3 งานเต้นรำในคืนพระจันทร์เต็มดวง 1/2   Chapter 4 บทสัมภาษณ์ 1.2 >>
แว่นใส 7 ก.พ. 2559, 22:46:15 น.
วางแผนงาบสาวเหรอ


นักอ่านเหนียวหนึบ 7 ก.พ. 2559, 23:02:57 น.
สงสารยัยอัน!!!!!! นึกย้อนไปถึงตอนบทนำ ม่ายยยย


Zephyr 8 ก.พ. 2559, 00:00:06 น.
อ้ายๆๆๆๆๆๆ เค้าเข้าใจอารมณ์แฟนคลับพบศิลปิน
มันจะโหวงๆว่างๆเบลอๆ
กรร่ดๆๆๆๆๆ แง้ๆๆๆ เย้ๆๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account